เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 8 เด็กหนุ่มผู้อ่อนแอที่สุดในปฐพี (7)

เพราะไม่มีสเตตัสให้โดนลดต่ำลงไปยิ่งกว่านี้ได้แล้ว ตอนที่ถูกอัดด้วยสกิลลดค่าสเตตัสระดับกว้างไกลสุดขีดนั่นก็เลยไม่ได้เป็นอะไร

ทว่า ตั้งแต่ฉับพลันที่ <<ฮาวล์>> ถูกปลดปล่อยออกมา เด็กหนุ่มผู้อ่อนแอที่สุดในปฐพี ครอส อาราเกาท์ ก็ได้ตกลงสู่สภาวะหวาดหวั่นขวัญผวาโดยสมบูรณ์

 

“ ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก!? ”

(——–แย่แล้ว ตายแน่ ตายแน่ตายแน่ตายแน่ตายแน่! ต้องหนี! ไม่เอา! ใครก็ได้ช่วยที! ไม่ไหวแล้ว! ไม่เอานะไม่เอานะไม่เอานะ! กลัวกลัวกลัว! ตายแน่! ถูกฆ่าแน่ๆ!)

 

สิ่งที่เอ้อล้นขึ้นมาอยู่ภายในอกของครอสที่แหกปากแผดเสียงกรีดร้องลั่นจนคอแทบฉีก—–ก็คือคำวิงวอนร้องขอชีวิตที่ถูกย้อมไปด้วยความหวาดกลัวจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์

พลันมีความคิดว่า “ ต้องมีใครซักคนไปทำลายคอร์นั่นทิ้ง…… ” แล่นปรากฎเข้ามาภายในหัวที่ปั่นป่วนไปหมดนั่นชั่วขณะ

แต่

 

(มะ ไม่ไหว! ไม่ไหวไม่ไหวไม่ไหวไม่ไหว! <<ไร้อาชีพ>> ที่ค่าสเตตัสทุกช่องเป็น 0 หมดจะไปมีทางทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง! ดูนั่นสิเจ้าหนวดรยางค์นั่นน่ะ! เพราะโดนแช่แข็งนิดๆก็เลยเห็นเหมือนว่าเคลื่อนไหวช้าลงก็จริง แต่กระจอกงอกง่อยอย่างผมเนี่ยแค่โดนแตะเข้าทีเดียวก็ตายแล้ว! แถมมันยังมีตั้งหลายเส้น! มะ ไม่เป็นไรหรอก ที่นี่คือแดนศักดิ์สิทธิ์ของนักผจญภัยนะ อีกเดี๋ยวก็คงจะมีใครคนอื่นโผล่มาจัดการเองนั่นแหละ! อย่างผมวิ่งออกไปก็มีแต่จะตายเปล่าเอาเฉยๆ! ที่สำคัญกว่านั้นต้องหนีสิ! ต้องหาทางหนี!)

 

ความคิดนั่นก็พลันถูกข้ออ้างที่บังเกิดขึ้นจากความกลัว ถาโถมเข้ากลบมิดเลือนหายไปในบัดดล

ยิ่งเป้าหมายมีค่าสเตตัสห่างชั้นกับมอนสเตอร์ที่ปลดปล่อย <<ฮาวล์>> ออกมามากเท่าไหร่ เอฟเฟคของ <<ฮาวล์>> ก็จะยิงรุนแรงทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น

ฉะนั้นครอสที่ต่อให้ไม่โดนสกิลลดค่าสเตตัสก็อ่อนแอมากที่สุดในกลุ่มอยู่แล้ว จึงเป็นคนที่ได้รับผลกระทบของ <<ฮาวล์>> รุนแรงมากที่สุดภายในบริเวณนี้แล้วอย่างแน่นอน ความกลัวระดับที่เกินทานทนเข้ารุมเร้าบดทำลายสภาพจิตของเด็กหนุ่ม

ครอสที่ยืนไม่ขึ้นมาตั้งแต่ก่อนโดน <<ฮาวล์>> ด้วยซ้ำนั้นไม่มีทางจะลุกขึ้นวิ่งหนีไปไหนได้ เด็กหนุ่มผู้ถูกความกลัวกลืนกินเอาแต่กลิ้งเกลือกหมอบเอามือกุมหัวอยู่กับพื้นอย่างน่าทุเรศ ทำได้แค่รอคอยความช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว

แต่แล้วหัวใจอันถูกห้อมล้อมปกคลุมไปด้วยความหวาดกลัว ก็พลันทวงคืนเอาสติกลับมาได้เล็กน้อย——เพราะได้ยินเสียงอันแสนงดงามที่ดังก้องขึ้นมาในพริบตานั้น

 

“ ทราบสถานการณ์ปัจจุบันแล้วค่ะ! ฉันจะเป็นคนปิดฉากเอง! ”

 

สิ่งที่ฉายเข้ามาภายในวิสัยทัศน์ของครอสที่แหงนหน้าขึ้นมองพลางฟุบตัวหมอบอยู่กับพื้น ก็คือสาวงามผู้ส่องประกายแสงสีเงินบริสุทธิ์เจิดจ้า

ร่างของวีรสตรีตัวน้อยที่แม้จะโดนผลลัพธ์ของ <<ฮาวล์>> อันแสนทรงพลังขนาดนั้นเข้าไป ก็ยังคงวิ่งทะยานมุ่งหน้าตรงต่อได้อย่างไม่มีหวาดหวั่น

ความช่วยเหลือมาถึงแล้ว

ความจริงนั่นช่วยทำให้รู้สึกโล่งอกขึ้นมาได้นิดหน่อย ความกลัวที่สั่งสมเกาะตัวอยู่ภายในใจของครอสถูกกำจัดเลือนหายไปเล็กน้อย

………และเมื่อสติหวนกลับมาแทนความกลัวที่หายไป เด็กหนุ่มก็เพิ่งจะมีปัญญามาเฝ้ามองพิจารณาตัวเองที่ได้แต่หมอบราบคาบแก้วอยู่กับพื้นอย่างน่าทุเรศในที่สุด

 

“ …………..ขึก ”

 

อีกแล้วเหรอ ต้องให้คนอื่นมาช่วยอีกแล้วเหรอ

ภาพของตัวเองที่นอนฟุบอยู่กับพื้นอย่างน่าทุเรศ อนาถา และน่าสมเพช มันปลุกทำให้เกิดความรู้สึกเกลียดชังและสังเวชตัวเองขึ้นมามากกว่าใดๆ

แต่นี่แหละคงจะเป็น ความเป็นจริงของผม

จริงอย่างที่จิเซลกับคุณเอลิเซียพูดนั่นแหละ นี่คือขีดจำกัดของผมที่ไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจหักล้างทำลายฝ่าไปได้

ถูกตัดสินตั้งแต่นาทีที่เกิดมาแล้ว ว่าเป็นแค่ไอ้คนไร้ประโยชน์ที่ได้แต่ต้องร้องขอให้คนอื่นช่วย

นั่นแหละคือความเป็นจริงของ <<ไร้อาชีพ>> อย่างครอส อาราเกาท์

สิ่งที่อาชีพสุดกากเลเวล 0 จะทำได้นั้น มันไม่มีบ้าบออะไรเลยแม้ซักอย่างเดียวเลย

 

(…….แต่เท่านี้ เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นก็จะถูกปราบลงโดยไม่มีคนต้องตายแล้ว)

 

คิดเช่นนั้นภายในมุมหนึ่งของหัวที่ยังคงถูกรุมเร้าอยู่ด้วยความกลัว ก่อนจะถอนหายใจที่ราวกับเป็นกึ่งๆข้ออ้างเพื่อทำให้ตนเองสบายใจออกมา——มันเป็นในฉับพลันนั้นแหละ

ที่ภาพอันสุดจะเชื่อ พลันบังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาครอส

หนวดรยางค์ปรากฎขึ้นมาทำลายอาคารหินอ่อนจากเบื้องล่าง เหล่าผู้คนที่จวนเจียนจะถูกตึกที่ถล่มลงมาบดทับ ประกายดาบที่แล่นทะยาน ผู้กล้าที่เสียหลักถูกรวบตัว และเสียงแผดร้องราวกับจะขาดใจของสาวน้อยที่ดังสนั่นลั่นก้องไปทั่วบริเวณ

——-นั่นคือ ภาพที่ราวกับว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

ดวงตาสองข้างของครอสพลันเบิกโพลง

 

“ คุณเอลิเซีย!! ”

 

ปากของครอสที่ตลอดจนถึงเมื่อครู่ได้แต่แผดเสียงกรีดร้องออกมาเพียงอย่างเดียว พลันตะโกนขานนามนั้นออกมาอย่างชัดเจน

สิ่งที่ระเบิดขึ้นภายในอกของครอส ณ ฉับพลันนั้น—-ก็คือภาพความทรงจำในวัยเด็ก

ภาพที่จนถึงตอนนี้ก็ยังคงฝังลึกแล่นอยู่ภายในหัวไม่เคยห่าง

เหตุการณ์ในวันนั้นที่หมู่บ้านถูกฝูงมอนสเตอร์เข้าคุกคาม…..ก่อนหน้า ที่แก๊งผู้สืบสายเลือดของผู้กล้าจะปรากฎตัวเข้ามาช่วย

พวกผู้ใหญ่ที่เค้นกำลังสุดใจขาดดิ้นพยายามขับไล่มอนสเตอร์ เหล่าชาวบ้านที่ต่อสู้ทุ่มเต็มแรงเพื่อปกป้องครอสซึ่งไม่ได้เป็นลูกแท้ๆของพวกตนด้วยซ้ำ

 

และในระหว่างที่พวกเขาเหล่านั้นถูกพวกมอนสเตอร์เล่นงานจนค่อยๆพ่ายแพ้แน่นิ่งกันไปทีละคนๆ…….ตัวเขากลับได้แต่นั่งร้องไห้น้ำตานอง ไม่อาจจะทำอะไรเพื่อช่วยเหลือได้เลยแม้ซักนิดเดียว

 

ความทรงจำแสนเลวร้าย ที่ยังคงฝังใจมาจนถึงตอนนี้ แค่นึกถึง ความเศร้าโศกเสียใจดำมืดก็เอ่อล้นขึ้นมาจนแน่นอกไปหมดแล้ว

 

(เออใช่สิ……เพราะแบบนั้นแหละผมถึงได้ หลงใหลชื่นชมในตัวคุณเอลิเซียมากซะขนาดนั้น)

 

หวังอยากจะเป็นแบบเดียวกับคนคนนั้นให้ได้

แต่เป้าหมายที่ผมใฝ่ฝันอยากจะเป็นนั่น มันไม่ใช่นักผจญภัยที่แค่แข็งแกร่งแล้วก็หล่อเท่อะไรพรรค์นั้นเลยซักนิด

ในยามที่คนซึ่งคอยต่อสู้ปกป้องผู้อื่นอยู่เสมอๆกำลังตกที่นั่งลำบาก ก็อยากจะเป็นคนที่เข้าไปช่วยเหลือเกื้อหนุนและปกป้องเค้าคนนั้นได้อีกที อยากจะเป็นนักผจญภัยที่แข็งแกร่งมากพอจะทำเช่นนั้นได้….นั่นแหละคือสิ่งที่ผมคิดขึ้นมาอย่างแรงกล้าในตอนนั้น

เพราะไม่อยากจะเจอแบบเดียวกับตอนที่หมู่บ้านถูกโจมตีนั่นอีกแล้ว—-ตอนที่ทำได้แค่ยอมทนดูผู้คนที่ต่อสู้เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องตนเอาไว้ค่อยๆล้มลงไปทีละคนโดยไม่อาจทำอะไรได้นั่น ไม่อยากจะต้องรู้สึกแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สองแล้ว

ไม่อยากจะเป็นคนที่ได้แต่หมอบราบคาบแก้วอยู่กับพื้นอย่างน่าสมเพช เหมือนตัวเองในตอนนี้ อีกต่อไปแล้ว  

———-ฉะนั้น

 

“ …………ลุกสิ……….ขยับสิ……….! ”

 

ถ้าไม่ขยับตอนนี้ ผมคงยกโทษให้ตัวเองไม่ได้ไปตลอดชีวิตเป็นแน่ ระดับที่อยากจะฆ่าตัวเอง ระดับที่อยากจะไปตายให้พ้นๆ ฉะนั้นถ้ามันจะเป็นแบบนั้นแล้ว สู้ขอตายที่นี่ตรงนี้เพื่อคนคนนั้นแทนซะยังจะดีกว่าหลายเท่า … <<ไร้อาชีพ>> ที่ไม่มีประโยชน์ส้นตีนอะไรเลยอย่างผม ยึดติดกับชีวิตโง่ๆพรรค์นี้ไปแล้วมันจะได้อะไรขึ้นมา!

เพราะงั้นแหละ…..ขยับเซ่———————–!

 

“ อุ…….อ๊าาาา……….! ”

 

คว้าหยิบดาบที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมา เค้นแรงยกขาที่สั่นเทิ้มหงึกๆไปหมดลุกขึ้น

 

 

 

ที่หลุดออกมาจากปาก คือเสียงคำรามอันเปี่ยมไปด้วยความหวาดหวั่นฟังดูน่าสมเพชเสียจนอดหัวร่อไม่ไหว

ก้าวแรกที่ย่ำออกไปนั้นโซซัดโซเซพึ่งพาไม่ได้เสียเหลือเกิน

ถึงแม้จะอย่างนั้น

แต่ ณ ที่นี้ ณ ตอนนี้ ก็มีเพียงเด็กหนุ่มผู้อ่อนแอที่สุดในปฐพีคนนี้เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

ที่ใช้แรงใจเพียวๆปัดเป่าความกลัวระดับที่คนอย่างเขาไม่น่าจะทานทนได้ให้ปลิวกระเด็นไป ก่อนจะวิ่งตรงดิ่งอัดเข้าใส่สีข้างของสัตว์ประหลาด

 

 

“ …………! ยังมีไอ้คนที่ใจกล้าบ้าพออยู่เหมือนกันนี่หว่า! ”

 

เป็นคนคุ้มกันของผู้กล้าหรืออะไรทำนองนั้นที่มาถึงล่าช้ากว่านิดหน่อยรึไงนะ

ท่ามกลางกลุ่มฝูงชนที่คลั่งสติแตกวิ่งหนีฮีโดร่ากันอลหม่านไปหมด มีเพียงชายคนหนึ่งเท่านั้นที่ปัดเป่า <<ฮาวล์>> นั่นได้และกำลังพุ่งทะยานตัวตรงออกมา—-พอเห็นเช่นนั้นแล้วลีโอเน่ก็ปั้นรอยยิ้มอย่างดุดันออกมาโดยทันที

กังวลว่าจะเอายังไงดีอยู่ช่วงหนึ่งก็จริง แต่ถ้าเป็นตอนนี้ที่หนวดรยางค์มันไปกระจุกรวมตัวกันอยู่ตรงผู้กล้าแล้ว หากมีคนคุ้มกันของผู้กล้าวิ่งตามมาเสริมเป็นกองหนุนอีกละก็ชัยชนะย่อมไม่หนีหายไปไหนแน่ ความร้อนรนที่คุกรุ่นอยู่ในใจของลีโอเน่ตลอดจนถึงเมื่อครู่ค่อยๆดับมอด หายใจได้โล่งคอซะทีนึง

…………แต่ พอทำใจให้เย็นแล้วมองกลับไปยังผู้ชายคนนั้นดีๆอีกครั้ง ลีโอเน่ก็สังเกตได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งว่ามันชักจะแหม่งๆแล้ว

ต่อให้อยู่ภายใต้อิทธิพลของสกิลลดค่าสเตตัสก็เถอะ แต่การเคลื่อนไหวของชายคนนั้นมันก็เชื่องช้าอืดอาดมากเกินไป แถมท่าทางยังดูน่าสมเพชสุดๆไปเลยอีกต่างหาก เอวบิดไปหมดเนื้อตัวก็ขยับไม่เป็นธรรมชาติ หนำซ้ำยังส่งเสียงร้องออกมาหยั่งกะเด็กๆอีก…….อ้าวเฮ้ย มันเป็นเด็กจริงๆนี่หว่า

อายุดูน้อยมาก หยั่งกับว่าเป็นเด็กที่เพิ่งจะได้รับ <<คลาส>> จากงานเทศกาลเก็บเกี่ยวในวันนี้มาหมาดๆเลยงั้นแหละ

ไอ้เจ้านั่นมันอะไรกันน่ะ……ลีโอเน่ที่ฉุกคิดเช่นนั้นพลันเปิดใช้ <<ประเมินค่าระดับต่ำ>> อันถือเป็นสกิลสามัญของเหล่านักผจญภัยระดับสูงขึ้นมาโดยอัตโนมัติ……..และแล้วเธอก็ได้ประจักษ์สิ่งที่สุดจะเชื่ออยู่ตรงนั้น

 

เผ่าพันธุ์ : ฮิวแมน  อายุ : 14

คลาส : ไร้อาชีพ

เลเวล : 0

สเตตัส : 0 หมดทุกช่อง

 

“ ………!? ห๊าาา!? ไอ้เจ้าเด็กนั่นมันอะไรกันน่ะ!? <<ไร้อาชีพ>>!? ”

 

แม้จะ <<ประเมินค่า>> ซ้ำใหม่ซักกี่รอบ ตัวเลขที่ลอยขึ้นมาอยู่ภายในดวงตามันก็ไม่เปลี่ยน แถมรายละเอียดตรงช่อง <<คลาส>> ยังทำให้ลีโอเน่ถึงกับดวงตาเบิกโพลงอย่างตกตะลึงเลยอีกต่างหาก ทว่าในพริบตาถัดมาเธอก็พลันจูนหัวใหม่ ก่อนจะแผดเสียงร้องออกมาเต็มกำลัง

 

“ ลูด์มิร่า! เทโลเมียร์! ช่วยหนุนมันหน่อย! ปกป้องไอ้เด็กนั่นเอาไว้สุดกำลัง! ”

“ ไม่อยากจะเชื่อเลย เด็กคนนั้นมันอะไรกันน่ะ…….!? ”

“ อุแหงะ!? เดี๋ยวก็ตายหรอกสภาพแบบนั้นอ่าา ”

 

ไม่จำเป็นต้องให้ลีโอเน่บอกด้วยซ้ำ พวกเธอสองคนที่ใช้สกิลประเมินค่าตรวจพบความอ่อนแอระดับไม่อยากจะเชื่อของเด็กหนุ่มแล้วเหมือนกัน พลันตอบสนองลงมือทันที

คาดว่านี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะปราบฮีโดร่าลงได้โดยไม่ต้องสังเวยชีวิตใครแล้ว

ลูด์มิร่าและเทโลเมียร์ที่เชื่อมั่นเช่นนั้น พากันปลดปล่อยสกิลของพวกตนออกมา

 

 

“ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา! ”

 

เอาแต่มุ่งหน้าทะยานตรงไปอย่างมุ่งมั่น ก้าวขาเบิกทางตรงไปอย่างบ้าระห่ำ

ร่างกายหนักอึ้ง ดาบก็หนักอึ้ง ยังอีกไกลกว่าจะไปถึงคอร์ของฮีโดร่า….ร่างกายที่มีสเตตัสทั้งหมดเป็น 0 นั้นไม่อาจย่นระยะห่างระหว่างตนและเป้าหมายได้เลย

หนำซ้ำ สิ่งที่พลันปรากฎขึ้นมาอยู่เบื้องหน้าของครอส ก็ยังเป็นหนวดรยางค์ที่ประกอบสร้างขึ้นด้วยพิษหลากหลายเส้นที่แค่แตะต้องโดนตัวนิดๆก็ทำให้เขาตายได้แล้วอีก

 

“ ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก! ”

 

ถูกความกลัวรุมเร้าจนเกือบจะร้องไห้ไปพลาง ฝืนเอี้ยวตัวหลบการโจมตีของหนวดรยางค์ที่เคลื่อนไหวช้าลงเพราะเอฟเฟคของสกิลน้ำแข็งและสกิลสายมารไปด้วย

ครั้งที่หนึ่ง ครั้งที่สอง…..กลิ้งไปตามพื้นจนเกิดเป็นแผลถลอกขึ้นเต็มตัว ต้องทำขนาดนั้นแหละจึงจะพอมีชีวิตรอดอยู่ได้แบบหวุดหวิดหวาดเสียว

แต่โชคดีมันก็ดำเนินต่อไปได้ไม่นานนักหรอก ครอสที่ยกตัวลุกขึ้นยืนและก้าวข้าวิ่งออกไปอีกครั้งนั้น พลันถูกถาโถมด้วยการโจมตีที่ไร้ซึ่งทางหนีโดยสิ้นเชิง ทว่า พริบตาถัดมา

เปรี๊ยะ!

 

“ …………ฮึก!? ”

 

หนวดรยางค์ที่ลอยตรงเข้าใส่ครอส พลันถูกไอเย็นที่พุ่งพวยลงมาจากเบื้องบนแช่จนแข็งในชั่วอึดใจ

หนวดรยางค์อีกเส้นที่แตะต้องสัมผัสเข้ากับห้วงอากาศที่ดูน่าสะอิดสะเอียน ก็แน่นิ่งไม่ไหวติงไปราวกับเป็นอมพาตด้านชา

นั่นคือการโจมตีหนุนของเหล่าสุดแกร่งที่หนึ่งในโลก ซึ่งกำลังต้านฮีโดร่าอยู่จากฟากฟ้า

แต่ตัวครอสในตอนนี้ไม่มีปัญญามากพอที่จะแสดงความขอบคุณต่อการสนับสนุน ให้ว่าแล้วคือมองไม่ทันรับรู้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่านั่นคือการสนับสนุน—-เอาแต่หลบหนวดรยางค์ให้เต็มที่ แล้วเข้าไปทุบทำลายคอร์ซะให้ได้….คิดเพียงแค่นั้นอยู่ภายในอก พยายามซ่อมแซมประคองหัวใจที่ใกล้จะแตกสลายพังทลายเพราะความกลัวเต็มกำลัง แล้ววิ่งบ้าเข้าไปอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังอย่างเดียว

การโจมตีหนุนจากฟากฟ้าช่วยป้องกันหนวดรยางค์จำนวนมากเอาไว้ให้ ส่วนในจุดที่การโจมตีหนุนเข้ามาไม่ถึงนั่น ครอสก็คอยแอบหลบตามซอกเงาตึกเบิกทางวิ่งต่อไปได้ด้วยตนเอง

ทว่า เป็นในฉับพลันที่ครอสย่นระยะห่างเข้าใกล้คอร์ได้อย่างชัดเจนแล้วนั่นเอง ที่หนวดรยางค์จำนวนหนึ่งทำการเคลื่อนไหวที่เห็นแล้วรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา

ปลายของหนวดรยางค์ที่ถูกไอเย็นแช่จนอยู่ในสภาวะกึ่งๆแข็งมันพลันเปลี่ยนแปลงรูปโฉม สร้างขึ้นมาเป็นสิ่งที่ดูคล้ายๆกับช่องปาก และแล้ว

 

 

 

<<ฮาวล์>> จำนวนมากล้นพลันถูกยิงปลดปล่อยอัดเข้าใส่ครอสในระยะประชิด

ความหวาดกลัวที่สูงล้นทะลุขีดที่ตนจะรองรับได้มันบ่อนทำลายสติสตางค์ของครอสจนแหลกเหลวเละเทะ ของที่อยู่ในกระเพาะมันดีดตัวทะลักออกมาจากปาก อาจจะถึงกับฉี่ราดเลยด้วย แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ

 

“ ขุ่ก…อุ้กกกกกกกกกกกกกกกก! ”

 

ไม่หยุด ร่างกายนั้นมันจะไม่มีวันยอมสยบจำนนให้แก่ความกลัวชั่วคราวที่ถูกกลั่นสร้างรังสรรค์ขึ้นด้วยพลังเวทอีกแล้ว

เพราะเขารู้ว่ามีสิ่งอื่นที่น่ากลัวมากยิ่งกว่า….เพราะความกลัวที่ต้องเห็นคนสำคัญถูกย่ำยีบีฑาโดยมอนสเตอร์ ความน่าอนาถของตัวเองที่ไม่อาจทำอะไรได้ ความโศกเศร้าเสียใจต่อตนเองที่สุดจะห่วยแตก….ทั้งหมดพวกนี้ มันถูกสลักอยู่ในส่วนที่อยู่ลึกมากยิ่งกว่าสติสัมปชัญญะซะอีก

แม้จะอยู่ในสภาวะกึ่งๆหลับใน แต่ถึงอย่างนั้นร่างกายที่มีสเตตัสเป็น 0 หมดทุกช่องก็ยังเอาแต่ดึงดันมุ่งไปข้างหน้าข้างหน้าและข้างหน้า——และแล้วเท้าข้างนั้นก็เหยียบย่ำเข้ามาในถ้ำซึ่งเปิดเป็นช่องอยู่บนกำแพงพิษ สบตาเข้ากับร่างจริงของไอ้สัตว์ประหลาดที่ส่องประกายแวววาวอยู่ ณ ใจกลาง

 

“ นั่น…สินะ…..! ”

 

ครอสทะยานตรงดิ่งอัดเข้าไปตามปากถ้ำโดยไม่มีหยุดคิดลังเลใดๆ

ครอสที่รุกล้ำเข้ามาภายในถ้ำซึ่งไม่อาจคาดหวังการโจมตีหนุนจากฟากฟ้าได้อีกแล้ว พลันเค้นกำลังเฮือกสุดท้าย ยกดาบขึ้นสูงเล็งเตรียมจะฟาดดิ่งลงมาอัดเข้าใส่เป้าหมาย——เป็นในฉับพลันนั้นเอง

ฟู่ม!

ภายในถ้ำอันคับแคบ พลันมีหนวดรยางค์เส้นหนึ่งแล่นทะยานผ่านนภาเข้ามา ราวกับเป็นการขัดขืนเฮือกสุดท้าย

การโจมตีหนุนจากฟากฟ้าไม่อาจเข้ามาถึงภายในนี้ได้ ความตายกระชั้นชิดใกล้เข้ามาหาร่างของครอส และทุกสรรพสิ่งภายในวิสัยทิศน์ของครอสที่ทราบเช่นนั้นมันก็พลันดูเชื่องช้าขึ้นมาในบัดดล หนวดรยางค์นั่นมันจะต้องสร้างแผลฉกรรจ์ให้กับครอสเป็นแน่ แต่ว่า

 

“ มาจนป่านนี้แล้ว……. ”

 

ครอสกลับไม่หลบหลีกหนวดรยางค์ ไม่แม้แต่คิดพยายามจะหลบเลยด้วยซ้ำ

 

 

คำรามลั่น ครอสสละละทิ้งความคิดที่จะป้องกันหรือหลบหลีกทุกรูปแบบ เพราะรู้ว่าหากตัวเองที่มีสเตตัสเป็น 0 ทั้งหมดทำอะไรครึ่งๆกลางๆขึ้นมา ก็มีโอกาสที่จะทำลายคอร์ไม่สำเร็จนั่นเอง และแล้วเด็กหนุ่มก็เหวี่ยงดาบไปโดยทุ่มแรงทั้งหมดเอาไว้กับการโจมตี——–ก่อนจะถูกเป่ากระเด็น

สัมผัสตั้งแต่เอวลงไปหายวับไปโดยสมบูรณ์ ร่างของครอสที่รับการโจมตีเข้าไปจังๆโดยไม่ได้ตั้งท่าป้องกันใดๆเลยถูกส่งลอยปลิว กระแทกกลิ้งเกลือกไปตามพื้นดินไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง อย่าว่าแต่ครึ่งท่อนล่างเลย สัมผัสทั่วร่างของเด็กหนุ่มเลือนหายไปหมดแล้วตอนนี้

และในช่วงที่แม้แต่สติเองก็ชักจะพร่าเลือนตามไปด้วยนั่น

 

[โอ้วววววววววว—–……]

 

การโจมตีสุดกากที่ปลดปล่อยออกไปโดยไม่คิดคำนึงห่วงถึงชีวิตตัวเองนั่น มันได้ผลิดอกออกผล

ร่างของสัตว์ประหลาดพลันแข็งทื่อ ตั้งแต่หัวอันมีนับไม่ถ้วนไปยันหนวดรยางค์ทุกเส้นต่างหยุดแน่นิ่งไม่ไหวติง

และแล้วฮีโดร่าที่สูญเสียคอร์ไป ก็ไม่อาจทานทนไอเย็นที่ถูกปล่อยออกมาด้วยน้ำมือของจอมขมังเวทระดับสุดแกร่งที่หนึ่งของโลกไหว ร่างพิษเหลวพลันเหือดหายไปโดยไม่มีกระเซ็นลงมาเลยแม้ซักหยดเดียว

อิทธิพลของ <<ฮาวล์>> ก็หายไปตาม เหล่าประชาชนของเมืองที่ถูกปลดปล่อยเป็นอิสระจากความกลัวต่างก็พากันเป็นลมล้มพับหมดสติลงกับพื้น

ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนั้น

 

“ เฮ้ยเป็นอะไรรึเปล่า!? …….ชิ! ครึ่งท่อนล่างกระจุยหายไปหมดเลย เฮ้ยเทโลเมียร์! รีบรักษาเจ้านี่เดี๋ยวนี้เลย! ”

 

สาวงามทั้ง 3 ที่ต่อสู้อยู่เหนือฟากฟ้าตลอดจนถึงเมื่อครู่ต่างก็รีบบึ่งตรงลงมา ณ จุดที่ครอสอยู่

 

“ เฮ้ยทำใจดีๆเอาไว้นะ! เพราะหนวดรยางค์มันแข็งอยู่นิดนึง กับร่างของแกมันอ่อนแอจัดจนกระจุยง่าย พิษเลยไม่ได้ไหลเข้ามาในร่าง! ต่อให้แผลจะฉกรรจ์แค่ไหนแต่ตราบเท่าที่ยังไม่ตาย ยัยเทโลเมียร์ก็จะรักษาให้ได้อย่างแน่นอนเลย ฉะนั้นประคองสติเอา—– ”

 

ในระหว่างที่เทโลเมียร์กำลังเปิดใช้งานเวทฟื้นฟูที่อัดแน่นไว้ด้วยพลังเวทมากล้นระดับผิดปกติ ลีโอเน่ที่นั่งคุกเข่าลงข้างๆครอสก็พลันเร่งเสียงขึ้นพูดยื้อสติของเด็กหนุ่มเอาไว้ ทว่า

 

“ คุณ…….เซีย……. ”

“ อ๊า……? ”

“ คุณเอลิเซีย…….ปลอดภัยรึเปล่าครับ……!? ”

“ ………..!? ”

 

คำพูดที่ครอสซึ่งอยู่ในสภาพเจียนตายกล่าวออกมาคำแรก ทำให้ลีโอเน่ถึงกับจ้องเขม็งตรงมาอย่างตกตะลึง

และแล้วเธอก็ชี้นิ้วไปข้างหลังอย่างสับสน ผู้ที่อยู่ ณ ตรงนั้นก็คือ

 

“ นั่นเธอ…เด็กคนเมื่อกี้…..!? ”

 

เอลิเซียที่พบเห็นสภาพของครอสซึ่งนอนแผ่หราอยู่โดยมีบาดแผลท่วมไปหมดทั้งตัว กำลังวิ่งตรงเข้ามาด้วยใบหน้าที่เหมือนกับจะร้องไห้อยู่พอดีเลย เอลิเซียโดนหนวดรยางค์พิษมันเล่นงานจนมีบาดแผลอยู่ทั่วกายก็จริง แต่น่าจะไม่สาหัสถึงชีวิตหรอก แผลแค่นี้ให้ฮีลเลอร์ฝีมือดีนิดหน่อยรักษาให้เดี๋ยวเดียวก็คงหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว

 

(โชคดีจริงๆที่ทันเวลา…..อ๊ะ แต่ก็นั่นแหละนะ…..ผมอยากจะมีพลังมากพอ…….ที่จะทำให้ไม่ต้องเห็นบาดแผลนั่น ไม่ให้เค้าต้องทำหน้าเจ็บปวดแบบนั้น……จริงๆนั่นแหละ……)

 

นอกจากจะได้รับแผลโคตรฉกรรจ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิตอย่างแน่นอนแล้ว การได้เห็นว่าเอลิเซียยังปลอดภัยอยู่ดี คงจะทำให้โล่งใจขึ้นมากระมัง

พอครอสหายใจออกมาราวกับโล่งอก เขาก็ปล่อยสติให้หลุดลอยไป พร้อมๆกับคำปราถนาเล็กๆเพียงหนึ่งประการ

 

 

“ ขอโทษนะ…….! ฉันพาลพูดจาไม่ดีดูหมิ่นว่าร้ายใส่เธอถึงขนาดนั้นแท้ๆ แต่เธอกลับ…..! ”

 

เอลิเซียที่ทนพิษบาดแผลวิ่งตรงเข้ามาหาครอสด้วยดวงตาที่มีน้ำตาคลอเบ้า พลันคุกเข่าลงเคียงข้างครอสที่หมดสติเนื่องจากครึ่งท่อนล่างขาดกระจุย ก่อนจะเอ่ยคำขอโทษเช่นนั้นออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ใกล้ๆนั้นมีเทโลเมียร์ซึ่งกำลังใช้เวทฟื้นฟูอันมีอานุภาพรุนแรงเกินขีดสามัญสำนึกซ่อมแซมรักษาร่างกายของครอสอยู่ และลูด์มิร่าก็กำลังโปรยโพชั่นระดับสูงที่พกติดตัวมาเพื่อช่วยในการรักษาด้วยอีกแรง

ระหว่างที่จ้องมองลงมายังครอสซึ่งต่อชีวิตรอดมาได้ด้วยความพยายามของทั้งคู่ ลีโอเน่ก็พึมพำเช่นนี้ออกมาด้วยเสียงค่อย

 

“ เป็น <<ไร้อาชีพ>> ที่ไม่ใช่คนติดตามของผู้กล้าด้วยซ้ำ แต่กลับกล้าพอที่จะพุ่งออกมาอย่างไม่คิดชีวิตในสถานการณ์แบบนั้นเรอะ…… ฮะฮะ มันบ้าชัดๆ ”

 

แล้วจากนั้นลีโอเน่ก็เอามือเกาแก้มของตนราวกับทึ่งในตัวเอง

 

“ ให้ตาย ฉันนี่ก็ชักจะยังไงใหญ่แล้วแฮะ ………อยู่ดีไม่ว่าดี ดันอยากจะเลี้ยงไอ้เด็กที่ไร้พรสวรรค์สิ้นดีพรรค์นี้ขึ้นมาซะได้ ”

 

แม้จะพึมพำเบาๆราวกับกำลังบ่นอย่างเพลียๆ แต่ทว่ามุมปากนั้นกลับแสยะขึ้นมาเป็นรอยยิ้ม

 

“““ เจอตัวซะที ”””

 

ไม่ใช่แค่ลีโอเน่คนเดียว

เสียงของเหล่าผู้ที่สามารถเล่นสนุกกับฉายาตำแหน่งผู้แกร่งสุดในโลกทั้งสามคน พลันดังขึ้นทับซ้อนกันในจังหวะคราเดียวกันเป๊ะ  

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset