เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 11 เริ่มต้นการฝึก! (2)

มีเวลาให้อึ้งตะลึงงันอยู่กับคฤหาสน์สุดหรูเพียงชั่วครู่เท่านั้น

ผมมุ่งหน้าเข้าไปภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ถูกสร้างเอาไว้อยู่ภายในห้องแช่น้ำ ก่อนจะทำการเปลี่ยนชุดมาเป็นเครื่องสวมใส่สำหรับใช้ในการฝึกซ้อม ตามคำสั่งของคุณลีโอเน่  

แค่เห็นว่ามีห้องที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ใช้เปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเฉพาะนี่ก็น่าทึ่งมากแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากที่สุดก็คือ ภายในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านั่น ที่อุปกรณ์เครื่องสวมใส่ซึ่งได้รับมาจากโรงเรียนนักผจญภัยที่ผมใช้งานจนชินมือ ถูกขนเข้ามาอยู่ด้วยนี่แหละ

เห็นว่าถ้าใช้ของที่ถนัดมือมันจะดีต่อการฝึกมากกว่า คุณลีโอเน่เลยเหมือนว่าจะเอาเรื่องไปบอกให้ผู้อำนวยการซาริเอร่าขนเอามาส่งให้หรือไงนี่แหละ (ให้ขนเอามาส่งนี่…อย่าบอกนะว่าไปข่มขู่ใช้งานผู้อำนวยการเยี่ยงขี้ข้าน่ะ…..?)

และแล้วผมก็สวมใส่เลสเซอร์อาร์มเมอร์ กับดาบสั้นสำหรับใช้ในการฝึกเรียบร้อย สองอย่างนี้ต่างก็เป็นสิ่งที่ผมใช้จนชินมือแล้วทั้งคู่

พอเปลี่ยนชุดเสร็จปุ๊บตัวมันก็เกร็งขึ้นมาโดยพลัน ราวกับธรรมชาติมันกำหนดมาให้เป็นแบบนั้น

พอกวาดตามองไปทั่วสภาพภายในของห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หรูหราระดับไม่เคยพบเห็นมาก่อน ก็รู้สึกขึ้นมาได้อีกครั้งว่าผมเข้ามาเป็นศิษย์ของกลุ่มคนที่สุดยอดมากๆเข้าแล้วจริงๆนั่นแหละ

 

“ การฝึกที่ได้นักผจญภัยระดับ S มาช่วยฝึกให้โดยตรง……ต้องยากลำบากสุดๆไปเลยแน่ๆ แต่ต่อให้เป็นการฝึกที่โหดหินมากขนาดไหนผมก็จะฝ่าไปให้จงได้เลย! เพื่อที่จะเป็นนักผจญภัยแบบเดียวกับคุณเอลิเซีย……! ”

 

หัวใจมันเต้นตึ๊กตั๊กด้วยอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งต่างกับตอนที่ถูกรายล้อมด้วยสัมผัสอันหอมหวนและนุ่มนิ่มเมื่อกี้

แม้จะประหม่า แต่ผมก็วิ่งตรงมุ่งหน้าไปยังสวนที่มีเหล่านักผจญภัยผู้แกร่งสุดในโลกรอคอยอยู่

 

 

“ โอ๊ะ มาแล้วเรอะ ”

 

พอดิ่งตรงมาถึงสวน คุณลีโอเน่ที่ยืนกอดอกอยู่ก็พลันเข้ามาต้อนรับด้วยรอยยิ้มอันดุดัน

แต่ในพริบตาที่เห็นบุคคลซึ่งเดินตามหลังผมมาแล้วปุ๊บ รอยยิ้มนั่นก็พลันแปรเปลี่ยนกลายเป็นโฉมหน้าที่แสดงจิตมุ่งร้ายในทันใด

 

“ ……..หล่อนสะเออะตามมาด้วยทำไมกันน่ะ? เทโลเมียร์ ”

“ เอ๋~ ก็คนมันว่างนี่นาา ”

 

คุณเทโลเมียร์ที่ดักรอผมอยู่กลางทางเดิน พลันยกเอามือขึ้นมาวางแปะอยู่เหนือไหล่ผมทั้งสองข้าง ก่อนจะพูดออกมาว่า

 

“ ลูด์มิร่าจังต้องไปตระเตรียมอะไรต่อมิอะไรมากมายเลยก็จริงน้าา แต่ฉันเนี่ยไม่มีอะไรอื่นให้ทำเลยน่ะซี้~ เลยว่าจะมาคอยเฝ้าสังเกตการณ์ไม่ให้ลีโอเน่จังแอบผสมโรงทำอะไรไม่เหมาะไม่ควรโดยอ้างว่าเป็นการฝึกได้น่ะน้าา อะไรหยั่งเงี้ยย ”

“ ฉะ ฉันไม่ทำอะไรแบบนั้นหรอกเฟ้ยยัยเพิ้ง!! ”

 

ใบหน้าของคุณลีโอเน่ถูกย้อมกลายเป็นสีแดงแจ๋เหมือนเส้นผมตัวเองไปชั่วครู่นึงเลย

ผะ ผิดคาดเหมือนกันนะเนี่ย

 

“ ชิ เอ้อเอาเหอะ ถึงยังไงก็ต้องอาศัยสกิลของหล่อนในการฝึกอยู่แล้วนี่นะ ”

 

คุณลีโอเน่เบือนหน้าหนีไปจากผมกับคุณเทโลเมียร์ หยิบเอาดาบสั้นสำหรับใช้ในการฝึกมาสะบัดๆเหวี่ยงไปทางนู้นทีทางนี้ที แล้วพอรอซักพักจนหน้าหายแดงแล้วปุ๊บก็

 

“ เค เมินยัยง่าวเทโลเมียร์ไปแล้วเริ่มกันเลยดีกว่า เอาเป็นว่า ขั้นแรกลองฟาดดาบเข้ามาดูหน่อยซิ ”

“ ขะ ครับ! ”

 

พอคุณลีโอเน่ที่ถือดาบสั้นสำหรับใช้ในการฝึกแบบเดียวกันพูดออกมาเช่นนั้น ผมก็จับดาบแน่นด้วยสองมือ

ผมแผดเสียงร้องไปพลางฟาดดาบไปด้วย โดยมีคุณเทโลเมียร์คอยเฝ้ามองดูท่าทางอยู่จากจุดที่ห่างออกไปนิดๆ

 

“ นะ นี่แน่ะ! ย่ะ! ”

 

กริ๊ง! แกร๊ง! มันก็แน่อยู่แล้ว คุณลีโอเน่รับดาบของผมเอาไว้ได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นอะไรเลย

และเมื่อเสียงปะทะกันของดาบดังขึ้นกลางสวนไปได้ซัก 4-5 ครั้ง

 

“ อือ พอจะเข้าใจโดยรวมละ ”

 

เพิ่งจะเริ่มต้นไปได้ไม่ทันไรเองแท้ๆ แต่จู่ๆคุณลีโอเน่ก็บอกให้ผมหยุดฟาดดาบ ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจว่าอย่างนี้

 

 

“ แกน่ะ ตอนอยู่โรงเรียนนักผจญภัยคงถูกแกล้งหนักพอตัวเลยสินะ ”

“ เอ๊ะ……!? ”

“ เอ้อ ก็เป็นโรงเรียนสำหรับคนที่อยากเป็นนักผจญภัยนี่นะ ถ้ามีพวกที่อ่อนแอหลงเข้ามา ก็คงโดนแกล้งไม่มากก็น้อยแหละเป็นธรรมดา ”

“ ทะ ทำไมถึงรู้ได้ล่ะครับ!? ”

“ เพราะดาบที่ฟันเข้ามานั่นมันเกร็งทื่อไปหมดเลยไง ”

 

พอผมถามไปอย่างตกใจแล้ว คุณลีโอเน่ก็ตอบรับกลับมาอย่างเฉยเมยว่าเช่นนั้น

 

“ สาเหตุที่เกร็ง ส่วนนึงมันคงมาจากนิสัยคนดีที่หนึ่งของแกที่ลังเลไม่อยากจะโจมตีใส่ผู้คน กับความประหม่าเพราะนี่เป็นการฝึกวันแรกสุดด้วยแหละ แต่แก่นของต้นเหตุจริงๆเลยมันอยู่ตรงที่แกตีตราว่า [ตัวเองมันอ่อนแอ] ฝังลึกลงไปในใจนั่นเลยต่างหาก —–คนที่หลงคิดว่าตัวเองอ่อนแอนั่นน่ะนะ คนที่ถูกพร่ำบอกดูถูกว่าอ่อนแออยู่เสมอเรื่อยมานั่นน่ะ มันจะกลัวการถูกโจมตีสวนกลับ จนเกิดเป็นความลังเลที่จะโจมตีใส่ผู้อื่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แล้วดาบของแกมันก็มีความหวาดหวั่นแบบนั้นอาบอยู่ทั่วเต็มไปหมดเลยด้วย ”

“ ……….ฮึก! ”

 

คำชี้แจงของคุณลีโอเน่มันเสียดแทงเข้าไปในใจเต็มๆ ทำเอาผมถึงกับหมดคำพูด

แค่เห็นผมฟาดดาบนิดๆหน่อยๆแค่นี้ก็ดูรู้ไปถึงขนาดนั้นแล้วเหรอ…..!?

 

“ แล้วทีนี้ ไอ้อาการเกร็งเนี่ยมันไม่ดีตรงไหนรู้มะ ก็ตรงที่มันจะทำให้แกสำแดงพลังเต็มที่ออกมาในศึกจริงไม่ได้ยังไงล่ะ ถ้าขนาดตอนซ้อมยังเกร็งนี่ ตอนเจอศึกจริงยิ่งไม่ต้องพูดถึง สมมติว่าตอนฝึกสู้ได้เต็ม 100% ตอนลุยจริงๆคงกลัวจนใช้พลังได้ไม่ถึง 30% เลยด้วยซ้ำ……สรุปก็คือสร้างผลลัพธ์ในศึกจริงไม่ได้ ถ้าสร้างผลลัพธ์ไม่ได้หัวมันก็จะพาลคิดว่าที่ฝึกๆมามันเปล่าประโยชน์แล้วปิดใจไม่ยอมรับสิ่งใหม่ๆ  แถมถ้าจะว่าแล้ว หากมามัวเกร็งแข็งทื่ออยู่ในศึกระยะประชิดกับคนอื่นนี่ ก็คงจะฝึกวิชากับฉันที่เพ่งเน้นไปยังการฝึกแบบประลองฝีมือไม่ได้ดีมากนักหรอก ฉะนั้นแล้วนะ ”

 

พอคุณลีโอเน่ระบุปัญหาของผมในตอนนี้ให้ฟังเช่นนั้นแล้ว เค้าก็หยุดช่วงแล้วฉีกยิ้มขึ้นมาอย่างดุร้าย พลางพูดต่อ

 

“ ขอกำหนดเป้าหมายแรกสุดหน่อยละกัน ขั้นแรกเลยคือต้องเริ่มต้นจากฝึกเอาให้รู้สึกสนุกกับการต่อยตีวิวาทก่อนละนะ ”

“ ระ เริ่มต้นจากฝึกเอาให้รู้สึกสนุกกับการต่อยตีวิวาท……? ”

“ เอ้อ แกน่ะมันกล้าพอที่จะพุ่งอัดเข้าใส่เจ้าฮีโดร่านั่นเลยนะ แค่สภาพแวดล้อมตลอดมาจนถึงตอนนี้มันไม่ค่อยดีเฉยๆ ถ้าค่อยฝึกจนชินไปเรื่อยๆแล้วละก็ ฉันรับรองเลยว่าต่อให้เจอกับศัตรูแบบไหน แต่แกก็จะหันหน้าเข้าเผชิญได้อย่างเต็มกำลังแน่ๆ ”

 

พอคุณลีโอเน่กำหนดเป้าหมายที่ดูสมกับเป็นพวกป่าเถื่อนสุดๆแบบนั้นแล้ว เค้าก็เอาดาบสั้นสำหรับใช้ในการฝึกที่ผมกำไว้อยู่ภายในมือไป สลับเอาดาบของจริงที่ไม่ได้ถูกลับคมมาให้ถือแทน

 

“ เอ้าถ้างั้นก็ ขั้นแรกของการฝึกเพื่อทำให้รู้สึกสนุกกับการต่อยตีวิวาทนะ —–เอาดาบเล่มนั้นฟาดเข้ามาใส่ตัวฉันนี่ซะ แน่นอนว่าใส่มาให้เต็มกำลังเลย ”

 

แล้วจากนั้นเค้าก็โยนดาบของตัวเองทิ้งลงกับพื้น ยุในสภาพตัวเปล่าให้ผมโจมตีอัดเข้าไปใส่

 

“ เอ๊ะ………? มะ ไม่สิครับไม่ได้ ถึงจะยังไงก็เถอะแต่เล่นแบบนั้น เดี๋ยวก็บาดเจ็บหรอกครับ! ”

 

ผมรีบพูดให้คุณลีโอเน่ฟังอย่างแตกตื่น

คุณลีโอเน่นั้นนอกจากจะไม่ได้ถือดาบแล้ว ยังไม่ได้สวมใส่เครื่องป้องกันใดๆเลยซักนิดอีกตะหาก ต่อให้เป็นดราโกเนียที่ชำนาญด้านศึกระยะประชิดก็เถอะ แต่ถ้าโดนแบบนั้นเข้ามันก็ต้องเจ็บแหงอยู่แล้ว ให้ว่าแล้วจะให้ฟันดาบเต็มแรงเข้าใส่ผู้หญิงที่ตัวเปล่าได้ยังไงกัน…..

ถึงแม้ว่าแผลเล็กๆน้อยๆจะสามารถรักษาได้ด้วยโพชั่นก็เถอะ แต่แบบนั้นมันก็ยังอันตรายมากเกินไปอยู่ดี ผมจึงกล่าวความเห็นให้คุณลีโอเน่เค้าฟัง

 

“ อื๋อ? อ๋อ ก็จริงอย่างที่ว่านะ ”

 

เท่านั้นแหละ คุณลีโอเน่ยอมรับความเห็นของผมอย่างง่ายๆเลย ก่อนจะ

 

“ ดูจากพลังของแกตอนนี้แล้ว มีหวังถูกแรงกระแทกในตอนที่ฟันใส่ฉันเล่นงานจนมือระบมไปหมดแน่ เฮ้ยเทโลเมียร์ ใช้สกิลของหล่อนลดพลังป้องกันของฉันลงหน่อยดิ้ ”

“ ได้จ้~า ”

“ เอ้ยไม่ใช่แบบนั้นสิครับ! ”

 

ทำอะไรของเค้าน่ะ!? อยู่ในสภาพไม่ได้สวมใส่เครื่องป้องกันใดๆเลยแท้ๆ แต่ไหงถึงทิ้งดาบแถมยังจะลดพลังป้องกันของตัวเองลงมาอีกล่ะ!?

 

“ ……….อื๋อ? อะไรกันครอส นี่หรือว่าแก…กังวลกลัวว่าฉันจะได้รับบาดเจ็บอยู่เรอะ? ”

 

พอเห็นผมที่ตะลึงปากอ้าพะงาบๆเข้า ในที่สุดคุณลีโอเน่ก็เข้าใจในสิ่งที่ผมอยากจะสื่อซะที แต่ว่า

 

“ ฮะฮะ แกนี่มันเป็นคนดีที่หนึ่งเลยจริงๆนะ แต่อีแบบเนี้ย มันเกินเลยคำว่าใจดีไปถึงขั้นไม่รู้ประสีประสาแล้วนา เฮ้ยลูด์มิร่า! ”

 

คุณลีโอเน่ส่งเสียงไปทางคฤหาสน์—-ส่งเสียงเรียกคุณลูด์มิร่าที่เก็บตัวอยู่ภายในบ้านเนื่องจากบอกว่ามีงานหลายอย่างที่ต้องทำ ……รอไปซักพัก คุณลูด์มิร่าก็พลันชะโงกหัวออกมาจากหน้าต่างของชั้นที่หนึ่ง

 

“ ………..มีอะไรไม่ทราบ ”

“ ยิงเวทอัดใส่ฉันซักเปรี้ยงนึงดิ้! ”

“ เวทศิลาระดับสูง <<เอดจ์สโตน>> ”

 

นั่นเค้าเล่นยิงเวทศิลาที่มีอานุภาพสูงลิ่วสุดกู่อัดเข้าใส่คุณลีโอเน่โดยไม่มีท่าทีลังเลแม้แต่น้อยนิดเลยเหรอ!?

การโจมตีที่แฝงล้นไปด้วยอานุภาพมหาศาล ระดับที่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าใช้ออกมาได้โดยไม่ต้องกล่าวคำร่าย

ตู้มมมมมมมมมมมมมม!!

 

“ ขะ คุณลีโอเน่คร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ!? ”

 

การหมุนและความเร็วขั้นสุดยอด เสาหินอันคมกริบที่น่าจะทะลวงเป่าอาคารหินอ่อนให้แหลกกระจุยได้เป็นสิบกว่าหลัง มันพุ่งทะยานขุดผืนดินกลางสวนจนเกิดเป็นฝุ่นควันลอยคละคลุ้งขึ้นมา ก่อนจะอัดกระแทกเข้ากลางเบ้าหน้าของคุณลีโอเน่จังๆเลย

สภาพของคุณลีโอเน่ที่โดนอัดด้วยเวทมนตร์อานุภาพมหาศาลระดับไม่ควรยิงใส่คนอื่นเด็ดขาดนั้น ถูกฝุ่นควันที่ลอยโขมงปกปิดมิดจนมองไม่เห็นเลย เฮ้ยยยยยยยยย!?

 

“ เดี๋ยวนะ นั่นจะไม่เป็นไรจริงๆเหรอครับ!? เป็นแน่ๆเลยใช่มั้ยครับเนี่ย!? ”

 

ก็คุณลีโอเน่เค้า นอกจากจะไม่หลบแล้ว ยังไม่แม้แต่จะป้องกันตัวเลยด้วยซ้ำนะน่ะ!

 

“ ไม่เป็นไรหรอกจ้าา~ บ้านหลังนี้น่ะเราไปขอร้องคนที่มีคลาส <<นักบวชระดับสูง>> ให้ช่วยร่ายคำอวยพรเพื่อเก็บเสียงเอาไว้แล้ว ก่อเหตุอึกทึกครึกโครมกันนิดๆหน่อยๆรอบข้างเขาก็ไม่รู้เรื่องกันหรอกน้าาา ”

“ ใช่ที่ไหนละครับผมไม่ได้หมายถึงแบบนั้น! ”

 

คำตอบที่ผิดเพี้ยนไปไกลของคุณเทโลเมียร์ทำเอาผมถึงกับต้องตะคอกกลับเลย แต่เป็นพริบตาให้หลังนั่นเอง

เปรี๊ยะ ครี๊ดครี๊ดครี๊ด!!

 

“ …………เอ๊ะ? ”

 

เสาหินที่อัดเข้ากลางใบหน้าของคุณลีโอเน่พลันเกิดรอยร้าวขนาดใหญ่ ราวกับว่ากระแทกชนโดนสิ่งที่แข็งมากยิ่งกว่าตนเองซะอีก

และในฉับพลันเดียวกับที่เสาหินซึ่งถล่มพังทลายลงมาด้วยเสียงกระหึ่มดังลั่นพลันแปรสภาพกลับเป็นพลังเวทแล้วสลายไป ฝุ่นควันที่คละคลุ้งอยู่รอบบริเวณก็จางลง——-เผยให้เห็นคุณลีโอเน่ที่ไม่ได้ขยับไปจากตำแหน่งที่โดนเสาหินชนใส่เลยแม้แต่นิด ท่วงท่าก็คงเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลง ซ้ำยังไร้ซึ่งบาดแผลใดๆโดยสิ้นเชิง….ยืนอย่างผ่าเผยอยู่ตรงนั้น

 

“ …………เอ๊ะ? ”

“ อ่ะ เท่านี้ก็ไม่ต้องกังวลว่าฉันจะบาดเจ็บแล้วใช่มะ ”

 

แม้จะโดนอัดด้วยเวทศิลาระดับสูงเข้าไปเต็มๆกลางหน้า แต่คุณลีโอเน่กลับไม่มีรอยขีดข่วนใดๆเลยแม้แต่นิดเดียวก็ไม่มี แถมแค่นั้นยังไม่พอ เค้ายังเอาดาบเฉือนคอกับแขนตัวเองเพื่อทำให้ผมโล่งอกได้มากยิ่งขึ้นอีกต่างหาก

ไม่มีเลือดไหลออกมาซักหยดเดียว เห็นร่างกายที่แข็งแรงทนทานอย่างประหลาดเช่นนั้นแล้ว ผมก็ถึงกับหมดคำพูดไปโดยสมบูรณ์เลย

แบบนี้นี่เอง ไม่แปลกเลยที่เค้าจะกังวลว่าผมเองเนี่ยแหละที่จะบาดเจ็บ

ถ้าเป็นชุดเกราะบางๆก็ว่าไปอย่าง แต่หากฟันดาบเข้าใส่หินหรือแท่งโลหะ มันก็แน่นอนเป็นสามัญสำนึกอยู่แล้วเนอะว่ามือของเราที่จับดาบเอาไว้นี่แหละจะเป็นฝ่ายพังก่อนซะเอง ………สามัญสำนึกมันคืออะไรหว่า

 

“ [ฟาดดาบรัวๆไม่ยั้ง] อย่าง [จริงจัง] ใส่ [ผู้หญิงตัวเปล่าที่แข็งแกร่งกว่าตนเองไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า] —–หากชินกับการฝึกนี้ซะ ก็จะไม่มีศัตรูหน้าไหนบนโลกนี้ทำให้แกลังเลไม่กล้าลงมือได้อีกต่อไปแล้ว เอ้างั้นก็ เข้ามาเลยเป็นไง! ”

 

ระหว่างที่ผมกำลังทึ่งกับพลังป้องกันของนักผจญภัยระดับ S ที่ก้าวล้ำเหนือไปกว่าสามัญสำนึกหลายเท่าตัว คุณลีโอเน่เค้าก็หัวเราะอย่างดุดัน พลางป่าวประกาศสัญญาณเริ่มต้นการฝึก

 

 

พลังป้องกันของคุณลีโอเน่ที่เป็นนักผจญภัยระดับ S เผ่าดราโกเนียนั้น มันประหลาดผ่าเหล่าสุดๆไปเลย

ต่อให้ฟาดฟันเข้าใส่อย่างจริงจัง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าตัวผมที่เป็นเลเวล 0 จะทำให้เค้าบาดเจ็บได้เลยซักนิดเดียว

แม้หัวจะรู้เช่นนั้น แต่ต้องมาโจมตีใส่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตัวเปล่าๆแบบเต็มแรงนี่มันทำใจลำบาก……อืม แรกๆก็คิดแบบนั้นอยู่หรอกนะ

 

“ เออดีเลย! เอาแบบนั้นแหละแรงๆอีก! เอ้อแบบนั้น! ไม่เป็นไร! การซัดกันเนี่ยมันก็คล้ายๆกับการทักทายนั่นแหละนะ! ต้องฟาดเข้ามาแบบกะจะฆ่ากันเลยนั่นแหละถึงจะถือว่าทำถูกมารยาท! เอ้ามาอีกเปรี้ยงนึง! ดีมากฝีมือดีขึ้นกว่าเดิมอีกแล้ว! ต่อไปลองเล็งมาที่คอดู! โอ๊ะ ฟาดมาโดยไม่มีปรานีเลยนี่นาเยี่ยมมาก! ขอแบบนั้นอีกรอบนึงดิ้! ”

“ ย่าาาาาาาาาาาาาาา! ”

 

รู้ตัวอีกที ผมก็ปล่อยตัวเองให้ติดลมไปกับการฟาดดาบโจมตีอัดใส่คุณลีโอเน่ไปซะแล้ว

คำชื่นชม คำแนะนำ คำชี้แจง ที่คุณลีโอเน่พูดออกมาทุกครั้งที่ผมสะบัดมือเหวี่ยงดาบ

เสียงอันเสนาะหูที่ถูกปลดปล่อยออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าพร้อมรอยยิ้มอันดุดันนั่น มันช่วยให้ร่างกายกับจิตใจของผมเบาหวิว นอกจากจะไม่รู้สึกลังเลเลยแม้แต่นิดแล้ว ยังทำให้ผมเหวี่ยงดาบได้อย่างรู้สึกดีแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจนถึงตอนนี้เลยอีกต่างหาก

 

“ อุหวาย~ ตีแรงๆอีกบ้างล่ะอะไรบ้างล่ะ ลีโอเน่จังสภาพหยั่งกะคนโรคจิตเลยอ่าาา~ ”

“ เงียบไปเลยยัยเพิ้ง! ”

 

แม้ระหว่างนั้น คุณเทโลเมียร์จะหยอดมุกหยอกล้อเข้ามาจนคุณลีโอเน่แย้งกลับไปด้วยสีหน้าแดงแจ๋บ้าง แต่การกระหน่ำฟาดดาบของผมก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆไม่มีขาดช่วง หัวมันตื๊อชา พอเหวี่ยงดาบไปตามเสียงชื่นชมและยั่วยุของคุณลีโอเน่ที่ฟังดูโหดแล้วก็ใจดีในคราเดียวกันแล้ว ร่างกายมันก็ยิ่งร้อนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเลย

นี่ผมเพิ่งจะเคยเหวี่ยงดาบด้วยความรู้สึกสนุกแบบนี้เป็นครั้งแรกรึเปล่าเนี่ย……!?

เอาแต่เหวี่ยงดาบไปเรื่อยๆด้วยจิตใจอันเบิกบานเช่นนั้น ทว่า สภาพแบบนั้นมันก็ดำเนินต่อไปได้ไม่นานนักหรอก

 

“ แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…….คึ่ก ย่าาาาาาาา! ”

 

เรี่ยวแรงถึงขีดจำกัดแล้ว สภาวะเพ่งสมาธิที่เหมือนกับว่าหัวมันตื๊อชาพลันจบสิ้นลง ความเหน็ดเหนื่อยเข้ากัดกินอยู่ภายในร่าง

 

(ชักจะรู้สึกทรมานขึ้นมาแล้ว……แต่นี่มันคือการฝึกวิชา การฝึกของแท้มันจะเริ่มหลังจากที่รู้สึกทรมานขึ้นมานี่แหละ……….!)

 

คิดในใจเพื่อปัดเป่าความรวดร้าวให้หายไป ก่อนจะเหวี่ยงดาบขึ้นมาเป็นวงกว้าง เป็นฉับพลันนั้นเอง

 

“ เค คงต้องหยุดพักกันก่อนแปปนึงแล้วสินะ ”

“ เอ๊ะ? ”

 

ที่คุณลีโอเน่ใช้ปลายนิ้วหยุดดาบของผมเอาไว้ ก่อนจะประกาศหยุดพักกันก่อนออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย

แค่นั้นไม่พอ ยังสั่งให้ผมกินอาหารเบาๆ (วัตถุลึกลับเหลวๆที่ดูท่าแล้วน่าจะย่อยง่าย) กับน้ำปริมาณมหาศาลที่ตระเตรียมเอาไว้แล้วล่วงหน้าให้หมดอีก แม้จะสับสนแต่พอทำตามที่เค้าสั่งมาเช่นนั้นเสร็จปุ๊บ

 

“ เอะเฮะเฮ้~ ถึงคราวออกโรงของฉันซะทีสิน้าา <<สตามิน่าบาซ่าร์>> (โอนถ่ายพลังกาย) ♥ <<ไมนด์บาซ่าร์>> (โอนถ่ายกำลังใจ) ♥ ”

“ เอ๊ะ ขะ คุณเทโลเมียร์!? ”

 

จู่ๆคุณเทโลเมียร์เค้าก็โผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง แล้วใช้มือสองข้างของตนประกบรอบมือของผมเอาไว้ พอผมหน้าแดงแล้วแข็งทื่อไป——ความเหนื่อยล้าทั้งทางกายและใจมันก็ค่อยๆถอนตัวหายไปเรื่อยๆ!?

ร่างกายเบาหวิวซะหยั่งกับถูกย้อนเวลากลับไปเป็นตอนก่อนจะเริ่มต้นฝึกเลยงั้นแหละ

 

“ โอเชมีเรี่ยวมีแรงกลับมาแล้วสินะ งั้นก็มาฝึกต่อกันเลยมะ ”

“ เอ๊ะ? จะ จะดีเหรอครับ…..? เล่นฟื้นฟูให้ผมเต็มที่สมบูรณ์เลยแบบนี้น่ะ…… ”

 

พอคุณลีโอเน่พูดแบบนั้นพลางกระชากตัวผมออกห่างจากคุณเทโลเมียร์แล้ว ผมก็เปล่งเสียงกล่าวข้อสงสัยออกมา

 

“ อื๋อ? อ่อก็นั่นไง ถ้าให้ฝึกในสภาพเหนื่อยล้า อะไรที่มันน่าจะเก่งขึ้นมันก็จะไม่เก่งขึ้นเอานา แถมนี่มันยังเป็นการฝึกเพื่อ [ทำให้รู้สึกสนุกกับการต่อยตีวิวาท] ด้วยไง ถ้าฝึกแล้วทรมานก็จบเห่กันใช่มั้ยล่ะ ”

“ อะ อ่าครับ ”

 

เชื่อฟังทำตามคุณลีโอเน่ที่พูดออกมาด้วยท่าทางเหมือนกับว่าแบบนี้แหละสมควรแล้ว ผมกลับมาเหวี่ยงดาบเต็มที่เต็มกำลังด้วยความรู้สึกร่าเริงสนุกสนานอีกครา

แล้วเวลาก็ล่วงเลยผ่านมาจนถึงยามเย็น

 

“ โอเช พยายามได้ดีมาก วันนี้เอาแค่นี้ก่อนก็พอมั้ง ”

 

การฝึกฟาดดาบที่ต้องให้คุณเทโลเมียร์ช่วยทำการฟื้นฟูกำลังใจและพลังกายให้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง พลันถูกยุติลงด้วยคำพูดของคุณลีโอเน่ ที่ราวกับดูรู้ว่าตัวผมนั้นกำลังเหนื่อยล้าในระดับกำลังดี

เพราะอยากให้ตอนกลางคืนนอนหลับได้สบายๆ จึงไม่ทำการฟื้นฟูพลังกาย….คุณลีโอเน่สลับเข้ามาอยู่แทนที่คุณเทโลเมียร์ ก่อนจะเอามืออันนุ่มนิ่มและอบอุ่นวางทับลงเหนือหัวของผม

 

“ อืม ฝีมือดาบก็ดีขึ้นด้วย ถ้าฝึกไปแบบนี้เรื่อยๆจะต้องเก่งขึ้นมากกว่านี้ได้แน่ๆเลยล่ะ ”

 

ลูบลูบลูบลูบ….ขยับมืออย่างรุนแรง แต่ก็ใส่ความอ่อนโยนแฝงไว้อยู่ภายในลูบหัวผมให้

 

“ ขะ ขอบคุณครับ……… ”

 

 

ผมที่ไม่ชินกับการถูกชมถึงกับหน้าแดงขึ้นมาใหญ่เลย

แต่แล้วก็มีความรู้สึกพร่ามัวอย่างนึง พลันก่อตัวขึ้นมาอยู่ภายในอกผม…….ระหว่างที่ช่วยเหลือคุณลีโอเน่ซึ่งเริ่มต้นเก็บกวาดสนามฝึกซ้อม ผมก็เผลอตัวหลุดปากพูดออกมาว่าเช่นนี้

 

“ ขะ คือว่า คุณลีโอเน่ครับ ”

“ อื๋อ? ”

“ จะว่ายังไงดี คือ…..การฝึกวิชาเนี่ย เป็นแบบนี้มันจะดีจริงๆเหรอครับ? ฝึกด้วย….ความสนุกขนาดนี้น่ะ….. ”

 

เป็นคำถามที่เหมือนกับว่า—-ไม่สิ เป็นคำถามที่กล่าวออกมาเพราะสงสัยฉงนใจในแนวทางการฝึกของคุณลีโอเน่อย่างแน่นอนเลยต่างหาก

แต่อดรนทนเก็บเงียบไม่พูดออกมาไม่ได้ เพราะการฝึกในวันนี้…..มันสนุกสนานมากถึงขั้นนั้นเลยทีเดียวเชียวล่ะ

พอเหนื่อยก็ช่วยฟื้นฟูให้ในทันที นอกจากจะถูกชื่นชมตลอดเวลาแล้วยังจดจ่อเพ่งเน้นอยู่กับอะไรที่ทำให้ใจโลดโผนสนุกตื่นเต้นเพียงอย่างเดียวตลอดการฝึกฟาดดาบเลย ถ้าให้พูดแล้วก็คือ การฝึกในวันนี้มันสนุกสนานมากยิ่งกว่าในสมัยที่ผมยังเป็นเด็กเล็กๆ ที่สามารถออกไปเล่นสนุกได้เรื่อยๆไม่ต้องคิดอะไรให้หนักหัว นั่นซะอีก

การฝึกที่ตั้งอยู่ขั้วตรงข้ามกับแนวคิดตามสามัญสำนึกที่ว่าความแข็งแกร่งนั้นอยู่ ณ จุดปลายสุดของการฝึกฝนอย่างทุกข์ทรมานและยากลำบากเช่นนี้ มันทำให้ผมสับสนขึ้นมาน่ะ ว่าตัวผมที่แต่เดิมก็ไร้พรสวรรค์โดยสิ้นเชิงอยู่แล้ว มามัวทำอะไรแบบนี้อยู่มันจะดีจริงๆเหรอ….แน่ะ

 

“ ทำไมเรอะ? เห็นว่าเป็นการฝึกที่นักผจญภัยระดับ S ลงมาสอนตัวๆโดยตรง เลยคิดว่ามันจะต้องโคตรโหดสุดๆไปเลยเหรอไง? ”

“ เอ่อ ก็ ใช่ครับ ”

 

ผมตอบรับตามตรงต่อคุณลีโอเน่ที่ถามกลับมา แล้วหลังจากนั้นคุณลีโอเน่ก็

 

“ ฮะฮะ ถ้าเฮี๊ยบให้ฝึกโหดๆแล้วมันเก่งขึ้นมาได้ก็คงให้ทำแบบนั้นหรอกนะ ”

 

หัวเราะออกมาอย่างดุดัน ก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อ

 

“ แต่ถ้าแค่เจออะไรโหดๆแล้วเก่งขึ้นมาได้จริง ป่านนี้เผ่ามนุษย์ก็คงจะฆ่าล้างบางพวกมอนสเตอร์ไปหมดโลกแล้วล่ะ ก็ไม่มีอะไรในโลกนี้จะโหดร้ายต่อเผ่ามนุษย์มากไปกว่าพวกมอนสเตอร์แล้วนี่นะ ”

“ เอ๊ะ…….. ”

“ ถ้าฝึกโหดแล้วจะเก่งขึ้นอะไรเนี่ย เป็นแค่ความเข้าใจผิดที่คนมักจะหลงเชื่อกันเท่านั้นแหละ อาจารย์ที่เรื่องแค่นั้นก็ยังไม่รู้ แต่ดึงดันจะจับศิษย์เจออะไรโหดๆโดยไม่หยุดคิดคำนึงถึงความสามารถหรือความถนัดเฉพาะทางของศิษย์คนนั้นเลยด้วยซ้ำเนี่ย ไม่ต้องพูดถึงในฐานะครูบาอาจารย์เลย แค่ในฐานะคนคนนึงก็ถือว่าสอบตกแล้ว เนาะ? ”

 

พอคุณลีโอเน่หันหน้าไปหาคุณเทโลเมียร์ราวกับขอความเห็นรองรับสนับสนุน คุณเทโลเมียร์ก็พูดขึ้นว่า “ ก็จริงแหละเน้ออ ” พลางแย้มยิ้ม

 

“ เอ้อ แต่ก็ยอมรับโดยสมบูรณ์เลยเหมือนกันนะ ว่าในบางกรณี ถ้าอยากเก่งขึ้นเราก็จำเป็นต้องฝ่าสถานการณ์คับขันเพื่อทลายกำแพงขีดกำจัดของตนให้ได้อยู่เหมือนกัน แต่อะไรแบบนั้นอะ มันควรทำหลังจากที่มีเรี่ยวแรงความสามารถเพียงพอที่จะข้ามฝ่าอุปสรรคในการฝึกประจำวันไปให้ได้ก่อนใช่มะ? ตัวแกในตอนนี้ เพิ่งจะเริ่มต้นฝึกสั่งสมเรี่ยวแรงความสามารถที่ว่านั่นเอง ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนไปหรอกน่า ”

 

และแล้วคุณลีโอเน่ก็วางมือลงเหนือหัวของผมอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาอย่างอ่อนโยน

 

“ พวกเราเห็นแววในตัวแกที่เป็น <<ไร้อาชีพ>> แล้วจึงคิดอยากจะฝึกวิชาให้นะ จะใช้แนวทางการฝึกที่เหมาะสมกับตัวแกมันก็สมควรแล้วนี่? ไม่ต้องกังวลไปหรอก ถ้าได้พวกเราช่วยฝึกให้แล้วละก็รับประกันเลยว่าแกต้องเก่งขึ้นได้แน่ๆ ”

“ ………ขะ ครับ! ”

 

คำพูดอันแสนอ่อนโยนแล้วก็ซื่อตรง ของคุณลีโอเน่ที่อุตส่าห์ตอบรับต่อความฉงนสงสัยของผมอย่างประณีต

ความน่าเชื่อถือนั่น ทำให้ผมเปิดใจยอมรับแนวทางการฝึกที่ดูมีแนวโน้มเหมือนกับว่าคอยตามสปอยล์เอาอกเอาใจนั่นได้เต็มที่ ……….ทว่า

การฝึกแบบพิลึกพิลั่นอันสุดแสนจะโคตรสปอยล์ดูแลประดุจดั่งไข่ในหินของเหล่านักผจญภัยระดับ S นั้น มันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเองต่างหาก  

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset