เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 34 วันธรรมดาๆแบบใหม่ (3)

หลังจากที่พวกคุณลูด์มิร่าพุ่งกระโจนออกไปจากคฤหาสน์

ผมที่วิตกกังวลว่าจะเป็นเรื่องใหญ่รึเปล่า ทำการรับประทานอาหารเย็นอย่างที่เค้าบอกมา แล้วจากนั้นพอกำลังเก็บจานชามรอไปซักระยะ ไม่นานนักพวกอาจารย์เค้าก็กลับมาในสภาพน่วมโทรมไปทั้งตัว เสื้อผ้านี่คือขาดวิ่นระดับที่ทำเอาผมไม่กล้ามองเลยทีเดียว

 

“ ชิ เสมอกันอีกแล้วเรอะ ”

“ น่าหงุดหงิดเสียจริง……คราวหน้าจะใช้เวททำลายล้างขั้นสูงสุดกู่ที่มีอานุภาพรุนแรงมากยิ่งขึ้นเป่าพวกแกให้แหลกเป็นจุณมหาจุณเลย ”

“ เฮ้อ~ ถ้ามีเวลามากกว่านี้ก็หลอมให้ทั้งสองคนเละเหนียวหนืดได้แล้วแท้ๆน้าา….. ”

 

พวกอาจารย์เอ่ยคำพูดที่ชวนให้รู้สึกหวาดหวั่นเช่นนั้นไปพลาง รวมหัวกันทำฉลากแบบง่ายๆขึ้นมาตรงนั้น

พอจ้องตาราวกับจะสื่อว่า “ผลจะออกยังไงก็อย่าได้พาลเชียวล่ะ” แล้วปุ๊บ ทั้งสามก็ทำการดึงฉลากในฉับพลันเดียวกัน

 

“ เอาเฟ้ยเสร็จโก๋! สร้างบุญงามความดีเอาไว้เยอะฟ้าก็พลอยเป็นใจให้อย่างงี้แหละนะ! ”

““ …………….. ””

 

และผลจากการจับสลาก ก็ทำให้ผมได้ไปใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจด้วยกันกับคุณลีโอเน่แหละ

 

 

(มะ เหมือนว่าพวกคุณลีโอเน่เค้าจะไปตบตีวิวาทกันมาแบบจริงๆจังๆเลยนะนั่น แต่ทำไมถึงต้องทำขนาดนั้น……หรือว่านักผจญภัยระดับ S เค้าจะต้องคอยสู้ประมือกันแบบนั้นอยู่เป็นช่วงๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝีมือตกงั้นเหรอ…..?)

 

วาจาคำพูดก็ฟังดูเหมือนกับว่าตลอดจนตอนนี้เคยทะเลาะวิวาทกันมาหลายครั้งแล้วด้วยนี่นะ…..

ผมเนี่ยแปลกใจจับจิตเลยว่าทำไมพวกอาจารย์เค้าถึงต้องโมโหโทโสขนาดนั้นกับเรื่องเล็กๆแค่ว่าจะใช้เวลาวันหยุดแบบไหนยังไง……แต่ในวันรุ่งขึ้น

พอได้เห็นภาพที่ปรากฎอยู่ ณ สถานที่ซึ่งคุณลีโอเน่พามาเพื่อให้พักผ่อนหย่อนใจเข้าแล้ว ข้อสงสัยยิบย่อยพวกนั้นมันก็พลันปลิวหายไปจากหัวผมในทันใดเลย

 

“ ว้าว! คนเยอะแยะเลยนะครับ! คุณลีโอเน่! ”

“ โอ้ว แถมยังได้ที่นั่งวิวดีๆอีกด้วยนะ วันนี้มาสนุกให้ถึงใจกันไปเลยเหอะ ”

 

ที่แห่งนี้คือหนึ่งในลานประลองทรงกลมซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ ใจกลางของเมืองป้อมปราการบัสเคิลเบียร์

ในวันนี้ ลานประลองแห่งนี้จะถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งดวลดาบที่เปิดให้เหล่านักผจญภัยระดับกลางเข้ามาลงประกวดกัน และผมกับลีโอเน่ก็มุ่งหน้ามาเพื่อชมการแข่งขันด้วยกันเพียงแค่สองคนแหละ

เพื่อจะมุ่งเน้นให้เหล่านักผจญภัยช่วยขัดเกลาพัฒนาความสามารถของกันและกันให้สูงมากยิ่งขึ้น ทางบัสเคิลเบียร์ก็เลยได้มีการจัดการแข่งขันประเภทนี้ขึ้นบ่อยๆมาตั้งแต่อดีตแล้ว

แต่เพราะอิทธิพลการมาพักอาศัยอยู่ภายในเมืองของคุณเอลิเซียที่เป็นผู้สืบสายเลือดของผู้กล้า ทำให้สเกลของงานนั้นยิ่งใหญ่มากขึ้นระดับที่งานในปีก่อนเทียบชั้นไม่ติดเลยทีเดียว ที่นั่งคนดูนี่คือแน่นเอี๊ยดเต็มหมดเลยเชียว

แถมยังเห็นว่าเหล่านักผจญภัยที่ลงประกวดในการแข่งนั้นจะมีจำนวนมากถึงหลักร้อยเลยด้วย จึงคาดหวังได้เลยว่าการแข่งรอบจริงในวันนี้ที่ผู้แข่งขันแต่ละคนต่างก็เอาชนะผ่านรอบคัดเลือกมาได้กันทั้งหมดนั้นจะต้องเป็นเวทีการต่อสู้ที่ดุเดือดเลเวลสูงกว่ามาตรฐานพอตัวเลยแน่ๆ

ตัวผมที่สนใจในการประลองจำพวกนี้มาตั้งแต่เด็กๆแล้วจึงใจเต้นตึ๊กตั๊กตูมตามมันซะตั้งแต่ที่การแข่งยังไม่ทันจะเริ่มเลยเนี่ย

แม้จะปวดใจกับสถานะของตัวเองในปัจจุบันที่ต้องให้คุณลีโอเน่ช่วยจ่ายค่าเข้าชมแทนให้ แต่ในเมื่อเค้าบอกมาเองว่าถือเป็นการฉลองที่เอาชนะริสก์ 4 ได้แบบนั้นผมก็ต้องปล่อยตัวให้สนุกไปอย่างจริงใจอย่างเดียวเท่านั้นแหละ

 

“ อ๊ะ เหมือนว่านัดแรกกำลังจะเริ่มแล้วแหละครับ! ว้าว เครื่องแต่งกายหนาเตอะกันหมดจะฝั่งไหนก็ดูเก่งกันทั้งนั้นเลยครับ! ”

 

เบื้องล่าง

เหล่าผู้เข้าแข่งขันพลันก้าวเท้าเข้ามาภายในเวทีแบบง่ายๆที่แค่เอาดินมาถมเกลี่ยๆ

ถ้าเป็นการแข่งสำหรับระดับสูง หรือการท้าดวลของพวกคุณขุนนางละก็เห็นว่าจะมีการใช้เวทมนตร์แบบพิเศษเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุถึงตายขึ้นด้วย แต่การแข่งนี้ไม่มีมาตรการอะไรแบบนั้น ให้ว่าแล้วก็เหมือนกับการสอบชิงสิทธิเลย

เป็นในระหว่างที่ผมสอดส่ายสายตามองดูสภาพท่าทางของการแข่งโดยมีเหล่าผู้เข้าแข่งขันเป็นจุดศูนย์กลางอยู่นั่นเอง

 

“ หื~ม <<นักรบหนัก>> เลเวล 23 กับ <<อัศวินประกายแสง>> เลเวล 24 เรอะ ดูเด็กๆไปหน่อยนึงแฮะ แต่เอ้อก็เพิ่งจะแข่งนัดแรกนี่นะ มันก็คงประมาณนี้แหละมั้ง ”

“ เอ๊ะ อ้าว? นี่คุณลีโอเน่ รู้ <<คลาส>> กับเลเวลของผู้เข้าแข่งขันด้วยเหรอครับ? ”

 

ผมตกกะใจหันขวับไปหาคุณลีโอเน่ที่นั่งอยู่เคียงข้างทันที

สำหรับนักผจญภัยแล้ว พวกข้อมูลจำพวกเลเวลและสเตตัสเนี่ยเปรียบเสมือนเป็นเส้นชีวิตเลย

หากรั่วไหลไปก็อาจจะมีผลให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้ ฉะนั้นแม้จะเข้าลงประกวดในการแข่งแบบนี้แต่ทางทีมงานก็จะไม่มีการป่าวประกาศรายละเอียดข้อมูลให้ผู้ชมทราบแต่อย่างใด ถึงกับมีบางคนที่ไม่กล้าลงประกวดในการแข่งเพราะกลัวว่าข้อมูลจะรั่วไปผ่านสกิลที่ใช้ในการต่อสู้เลยเชียวล่ะ

เป็นแบบนั้นแท้ๆ แต่ทำไมถึงรู้ได้กันล่ะ…….พอผมสงสัยแบบนั้นอยู่ คุณลีโอเน่เค้าก็เอานิ้วชี้ไปยังดวงตาของตนเองก่อนจะแย้มยิ้มอย่างดุดัน

 

“ อื๋อ? อ๋อ ก็ไม่ได้ใช้อะไรอลังการมากนักหรอกน่า เป็นผลของสกิลสามัญ <<ประเมินค่าระดับต่ำ>> น่ะ ”

 

สกิลสามัญ

ภายในโลกใบนี้ที่สกิลซึ่งสามารถเรียนได้นั้นจะถูกกำหนดมาให้แต่แรกแล้วโดย <<คลาส>> ….ก็ยังมีสกิลที่ก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าวและสามารถเข้าถึงใช้ได้โดยผู้คนหลากหลาย—-นั่นแหละคือสกิลสามัญ

 

“ ถ้าเอาไปเปรียบกับสกิลประเมินค่าของแท้ที่พวก <<พ่อค้า/แม่ค้า>> ใช้กันแล้วก็จะเห็นเลยว่าประสิทธิภาพห่วยกว่าพอควร แถมถ้าอีกฝั่งแข็งแกร่งทรงพลังมากยิ่งกว่าเราเกินไปสกิลมันก็จะไม่ทำงานด้วย เอ้อแต่ก็ถือว่าสะดวกดีไม่หยอกแหละ เพราะใช้สืบรู้ <<คลาส>> เลเวล แล้วก็สกิลของอีกฝั่งได้หมดในเปรี้ยงเดียวเลยไง สิ่งสำคัญในการต่อสู้มันก็อยู่ที่ว่าเราจะสามารถสืบรู้ข้อมูลของอีกฝั่งได้เร็วมากแค่ไหนด้วยละนะ ”

“ ก็เคยได้ยินอยู่บ้างเหมือนกันครับ…….เป็นอะไรที่ฟังดูสะดวกจริงๆนั่นแหละครับ ”

 

เหมือนจะเคยได้ยินว่าคนที่ถูกประเมินก็จะรู้สึกตัวในทันทีเลยเหมือนกันฉะนั้นจึงใช้พร่ำเพรื่อไม่ได้ แต่ถึงไม่นับจุดนั้นมันก็ยังเป็นสกิลที่สะดวกพอสมควรเลยอยู่ดีนั่นแหละ

 

“ โอ๊ะ สนใจเรอะ? กว่าจะเรียนได้นี่ต้องใช้เวลาพอตัวเลยเหมือนกันนะ แต่ถ้าผ่านสนามรบมากๆเข้า หรือมาดูการแข่งแบบนี้บ่อยๆเยอะๆเดี๋ยวซักวันแกก็จะเรียนได้เองนั่นแหละ …….โอ๊ะ จริงด้วยสินะ ไหนๆแล้วก็ลองปรับแต่งซักหน่อยดีกว่ามั้ง จะได้ใช้เป็นตัวหว่านทางต่อการเรียน <<ประเมินค่า>> และดูการแข่งอย่างจริงจังแถมยังสนุกได้ไปพร้อมๆกันเลย ถ้าทำงี้ซะก็จะได้ศึกษาเกี่ยวกับศึกระหว่างคนด้วยกันด้วย ”

 

คุณลีโอเน่เอามือกอดอกทำท่าทางเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะ

 

“ โอเชครอส การแข่งหลังจากเนี้ย มาเดิมพันกับฉันดีกว่ามะดูว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ”

“ ดะ เดิมพันเหรอครับ? ”

“ โอ้ว มาลองคาดเดาผลแพ้ชนะของศึกแต่ละนัดโดยเดิมพันด้วยพวกเครื่องดื่มหรือของกินเล่นที่ขายอยู่ตรงแถวๆโน้นไง ถ้าอีแค่นี้ละก็ยังถือว่าเข้าข่ายอยู่ในระดับของการละเล่น แถมแค่นี้แกก็คงขนหน้าแข้งไม่ร่วงด้วยใช่มั้ยล่ะ? ”

 

รู้สึกเหมือนเป็นการละเล่นที่ไม่ดียังไงชอบกลอยู่เหมือนกัน แต่สีหน้าของคุณลีโอเน่เค้ากลับดูสนุกสนานตั้งตารอจากใจเลยนี่สิ

ผสานเข้ากับความตื่นเต้นลิงโลดที่ได้มาชมการแข่งดวลดาบเป็นครั้งแรกด้วย รู้ตัวอีกทีผมก็พยักหน้าหงึกๆไปแล้ว

 

“ งั้นก็เอ่อ…ขอผมเป็นฝ่ายลองเดาดูก่อนได้ไหมครับ…..? ”

“ เยี่ยมมาก มันต้องหยั่งงี้ดิ! แล้วก็แน่นอนเลยครอส แกเลือกก่อนได้เล้ยๆ ก็ทางฉันเนี่ยมี <<ประเมินค่าระดับต่ำ>> อยู่ด้วยนี่นะ ถ้าไม่ให้แกเป็นฝ่ายแทงก่อนแบบนั้นมันก็ไม่แฟร์กันพอดี ”

“ ถ้างั้นก็…..ผมคิดว่าคุณ <<นักรบหนัก>> เค้าน่าจะชนะครับ ”

“ โอ๊ะ แปลกแฮะทำไมถึงแทงเจ้านั่นล่ะ? เจ้านั่นเลเวลต่ำกว่านะ? ”

“ อ่า…. <<อัศวินประกายแสง>> เนี่ยเท่าที่เคยได้ยินมา เหมือนว่าจะเป็นคลาสที่มีค่าป้องกันและความเร็วสูงพอตัวน่ะครับ แต่ถ้าแค่นั้นก็ไม่น่าจะสร้างความเสียหายเน้นๆเข้าเนื้อให้กับ <<นักรบหนัก>> ที่เป็นเลิศในด้านป้องกันและโจมตีได้เลยน่ะฮะ ผมคิดแบบนั้น ”

“ งี้นี่เองนะ งั้นก็มาดูกันเหอะว่าการคาดเดานั่นของแกมันจะถูกต้องจริงมั้ย ”

 

ในฉับพลันเดียวกับที่คุณลีโอเน่พูดแบบนั้น สัญญาณที่บ่งชี้ว่าการแข่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้วก็พลันดังก้อง ส่งให้ทั้งลานประลองถึงกับเดือดไปด้วยความตื่นเต้นลุ้นระทึกในคราเดียว

เป็นระหว่างที่ผมเฝ้าจับตามองกระแสของการแข่งไปด้วยกันกับผู้ชมคนอื่นๆนั่นเอง

 

“ จำเอาไว้นะครอส เจ้าพวก <<นักรบหนัก>> เนี่ยตามหลักแล้ว มันมักจะเน้นฝึกสกิลสายป้องกันเป็นส่วนใหญ่แหละ แต่พวกมันก็ไม่ลืมที่จะขัดเกลาสกิลโจมตีเพื่อใช้ต่อยกลางหน้าศัตรูแบบจังๆเพียงทีเดียวเอาไว้ด้วยเหมือนกัน….อดทนทานทนรับการโจมตี แล้วพอเกิดช่องโหว่ก็จะทุ่มไม้ตายเผด็จศึกอัดเปรี้ยงเข้าใส่เต็มๆ….เนี่ยมักจะเน้นสร้างสกิลสูตรสำเร็จเพื่อเล่นเกมรับรอจังหวะสวนกันแบบนี้ ”

 

คุณลีโอเน่ทำการบรรยายรายละเอียดตามสถานการณ์แข่ง โดยพูดแบบง่ายๆเพื่อให้ผมที่เป็นมือใหม่หัดดูฟังเข้าใจไปด้วย

 

“ นั่นไง เห็นมะไอ้เจ้า <<นักรบหนัก>> นั่นมันก็ตั้งหน้าตั้งตารอจังหวะสวนท่าเดียวเลย ถ้าลงอีหรอบนี้แล้ว ฝั่ง <<อัศวินประกายแสง>> ที่ไม่มีช่องทางใช้สร้างความเสียหายเน้นๆได้แต่ต้องหันไปหวังชนะด้วยคะแนนกรรมการแทนก็จะรับแรงกดดันหนักกว่ากันเอาเรื่องเลย แต่ถึงว่างั้นก็มีจุดที่ต้องระวังอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือในกรณีที่นักรบตัวเบาแบบนั้นแอบซ่อนสกิลสายเคาน์เตอร์เอาไว้—— ”

 

การแข่งที่ดูซับซ้อนระดับที่มือใหม่หัดดูมองไม่ออกว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พลันกลายเป็นสิ่งที่เข้าใจได้อย่างง่ายดายผ่านการบรรยายอันละเอียดและประณีต

นอกจากจะเป็นความรู้แล้ว ยังช่วยฉุดให้ความสนุกของการแข่งมันพุ่งสูงขึ้นมาได้หลายเท่าตัวเลยเชียวล่ะ

การบรรยายรายละเอียดการแข่งโดยคุณลีโอเน่ซึ่งเป็นอาชีพระยะประชิดระดับสุดแกร่งของโลก—–ผมได้ดื่มด่ำกับการชมการประลองเป็นครั้งแรก ภายในสภาพแวดล้อมที่สุดจะฟุ่มเฟือยเป็นที่หนึ่งของโลกแบบนั้นแหละ

 

 

“ ~~~~~~~ การแข่งดวลดาบนี่ สนุกสุดๆไปเลยเนอะครับ! ”

 

ยามเย็น

ตัวผมที่ยังไม่สร่างจากความตื่นเต้นลุ้นระทึก ได้ก้าวเดินออกมานอกลานประลองทรงกลมด้วยกันกับคุณลีโอเน่

วันนี้สนุกมากเลย

ได้ชมการประลองเป็นครั้งแรกในชีวิต การแข่งที่ยิ่งเข้าครึ่งหลังก็ยิ่งมีระดับสูงตื่นตามากขึ้นเรื่อยๆ

และที่สำคัญที่สุด ก็คือคำบรรยายของคุณลีโอเน่ที่ช่วยอธิบายรายละเอียดของการแข่งระดับสูงพวกนั้นให้ผมฟังเข้าใจ แล้วก็การเดิมพันเล็กๆน้อยๆของพวกเรานั่น

ทุกการแข่งทุกนัดทำเอาถึงกับเหงื่อซ่กเต็มมือไปหมด สกิลที่พวกคุณนักผจญภัยระดับกลางขัดเกลาฝึกปรือมาและกลยุทธ์ที่ใช้งานสกิลพวกนั้นก็ทำเอาผมถึงกับทึ่งตะลึงงัน พอมีคนที่เราคอยเฝ้าเชียร์เอาใจช่วยแล้วสมาธิในตอนที่ชมการแข่งมันก็พุ่งสูงเทียบกับตอนปกติไม่ได้เลย ด้วยเหตุผลพวกนี้แหละทำให้ผมติดลมไปกับการชมการประลองด้วยกันสองต่อสองกับคุณลีโอเน่สนิทเลย

ฉะนั้นผมจึงหันขวับกลับไปหาคุณลีโอเน่ พร้อมกับ

 

“ วันนี้ต้องขอขอบคุณมากจริงๆนะครับ! อยากจะมาดูด้วยกันอีกจังเลยครับ! ”

 

พูดอะไรแบบนั้นออกไปด้วยท่าทางเหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังตื่นเต้นดีมีความสุขไม่ผิดเพี้ยน

 

“ …………ขึ่ก โคตรจะน่ารักเลยฟ่ะเฮ้ยพับผ่า…..ถ้าไม่ติดว่ามีอีนังพวกบ้าสองตัวนั่นคอยเฝ้าจับตามองดูอยู่จากที่ไหนซักแห่งละก็ คงจะพาตัวไปยังพื้นที่ทำศึกเพื่อให้ครอสได้ [ชมการประลอง] มากยิ่งกว่านี้ได้แล้วแท้ๆ …..! ”

 

ไม่รู้ทำไมคุณลีโอเน่เค้าถึงเอาฝ่ามือโอบหน้าแล้วพึมพำด้วยท่าทางเหมือนเจ็บปวดรวดร้าวเฉยเลยนั่น

นะ นั่นเค้าเป็นอะไรน่ะ……เป็นในฉับพลัน ที่ผมกำลังมึนอยู่แบบนั้นนั่นเอง

 

“ แม่งเอ้ยคิดว่าฉันแทงไปเท่าไหร่เลยเชียววะ! ไอ้เวรอาชีพระดับกลางนั่น ดันมาแพ้ในตอนสุดท้ายของท้ายสุดเข้าซะได้! ”

 

จากข้างหลังผมเป๊ะๆเลย

พลันมีเสียงที่ฟังดูป่าเถื่อนดุร้ายดังก้องออกมาจากปากทางเข้าออกของลานประลองทรงกลม

พอหันกลับไปดู ก็พบกลุ่มนักผจญภัยที่มีรูปโฉมท่าทางบ่งชี้ว่าเป็นนักเลงหัวไม้ของแท้แน่นอนยืนเด่นอยู่ตรงนั้น

ไม่รู้ว่าเพราะดื่มเหล้าเข้าไปหรือไง ทุกคนจึงหน้าแดงแจ๋เหมือนๆกันหมด

หนำซ้ำยังเหมือนกับว่าเพิ่งจะแพ้พนันมาหมาดๆเลยอีกด้วย ทุกคนจึงมีอากัปกิริยาที่ดูดุร้ายน่ากลัวเหลือเกิน

และพวกเขาเหล่านั้นก็กำลังก้าวเท้าดังตึงตังตรงดิ่งมาทางนี้พร้อมออร่าที่ทำเอารอบข้างถึงกับเงียบกริบ

 

“ ขะ คุณลีโอเน่ เราไปกันเถอะครับ ”

 

ถ้าไม่รีบไปจากที่นี่ละก็ได้เป็นเรื่องยุ่งแน่

ประสบการณ์ที่ได้อาศัยอยู่ภายในบัสเคิลเบียร์อันเป็นแหล่งรวมตัวของนักผจญภัยมาเป็นเวลายาวนาน มันบีบบังคับให้ผมพยายามจะเคลื่อนตัวออกห่างไปจากที่แห่งนั้นในทันที

ทว่า

 

“ เฮ้ยไอ้เด็กเปรตตรงนั้นน่ะ ”

“ ขึก ”

 

เสียงอันแสนน่าเกรงขามพลันถูกยิงตรงเข้ามาใส่ผม

 

“ เอ็งกล้าดียังไงถึงมายืนเอ๋อขวางทางพวกเราวะ? แถมดูจากที่พาตัวสาวสวยหยาดเยิ้มของโคตรดีขนาดนี้มาดูการประลองด้วยแล้วเนี่ย แสดงว่าบ้านรวยใช่ป่ะวะ? อ๊าา? ”

“ พวกฉันเพิ่งจะโดนแดกขาดทุนย่อยยับมาอยู่เนี่ยเว้ยย ช่วยแบ่งบุญให้กันหน่อยดิได้ป้ะ? ”

 

ดะ โดนหาเรื่องซะแล้ว!

ให้ว่าแล้ว นี่เขาคิดจ้องจะเล่นงานพวกผมเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่มแล้วรึเปล่าเนี่ย…..!?

เรื่องมันไปไวจัดจนผมลุกลี้ลุกลนขึ้นมาโดยพลัน และในระหว่างนั้นเหล่านักผจญภัยก็แตกตัวมาล้อมสร้างเป็นวงรอบตัวผมกับคุณลีโอเน่เอาไว้ภายในชั่วอึดใจ

แม้ผู้คนรอบข้างจะรีบเร่งทำการแจ้งความให้ทางกิลด์ทราบ แต่พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะสนใจ ตรงดิ่งเข้ามาจะรีดไถเอาเงินไปจากพวกผมท่าเดียว

 

“ ……..ฮึก ”

 

ผมก้าวออกไปอยู่เบื้องหน้าคุณลีโอเน่โดยอัตโนมัติ พลางเอื้อมมือตรงไปยังด้ามดาบสั้น

 

“ โอ๊ะๆไอ้เด็กเปรต ถ้าไม่อยากเจ็บตัวก็อย่าคิดทำเท่ไม่เข้าท่าเลยจะดีกว่านะเว้ย? ”

 

เหล่านักผจญภัยหัวเราะเยาะดูถูกดูแคลน ก่อนที่จะยกเอาสเตตัสเพลทขึ้นมาชูให้เห็นพร้อมๆกันในคราเดียว

และสิ่งที่ลอยปรากฎขึ้นมาอยู่ตรงนั้น ก็ทำให้ผมถึงกับต้องเบิกตาโพลง

 

“ ขึก!? อาชีพระดับสูง!? ”

 

<<นักรบหนักระดับสูง>> <<นักหมัดประกายแสงระดับสูง>> …… <<คลาส>> ของพวกเขาทุกคนต่างก็เป็นอะไรที่แสนทรงพลังซึ่งถูกเรียกขานว่าเป็นอาชีพระดับสูงหมดเลย

 

(พูดสั้นๆว่าอาชีพระดับสูง สเกลความแข็งแกร่งมันก็ค่อนข้างกว้างพอตัวอยู่หรอก……แต่ถ้าคิดจากเงื่อนไขของการคลาสอัพแล้ว ก็จะได้ออกมาเป็นกลุ่มมือฉมังที่อย่างน้อยที่สุดก็มีเลเวลปาเข้าไปถึง 50 เลยเชียวนะคนพวกนี้…..!)

“ เข้าใจแล้วสินะ? ถ้างั้นก็จงเจียมเนื้อเจียมตัวยอมฟังที่พวกฉันพูดโดย…….?  เฮ้ย ”

 

เป็นตรงนี้เอง ที่สีหน้าของเหล่านักผจญภัยพลันบิดเบี้ยวไปด้วยความหงุดหงิด

 

“ เฮ้ยอีหนู นั่นเอ็งกล้าดียังไงถึงทำเมินไม่สนใจคำพูดฉันวะ? ”

 

ที่อยู่ปลายสายตาของพวกเขา—-ก็คือคุณลีโอเน่นั่นเอง

เห็นคุณลีโอเน่ที่แม้จะถูกล้อมรอบทิศแต่ก็ยังเอามือโอบหน้าตัวเองดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงเข้า เหล่านักผจญภัยก็ทำการบอกกล่าวชี้แจงความไม่พึงพอใจอันแสนพาลของพวกตนออกมา

 

“ มีพวกขยะโผล่หัวออกมาถูกจังหวะพอดีเลยนี่นา คนดูอยู่รอบๆเยอะก็จริง……แต่ก็ไม่น่าใช่ปัญหาหรอกมั้งนะ ”

 

แต่คุณลีโอเน่ก็ยังคงไร้กิริยาตอบสนองเช่นเดิม—–ไม่สิแม้จะอยู่กลางสถานการณ์แบบนี้ แต่ก็ดูเค้ามีท่าทางเหมือนกับกำลังคิดถึงเรื่องอื่นอยู่ด้วยซ้ำ เมินไม่เห็นหัวกันโดยสมบูรณ์เลยนี่นานั่น

เหล่านักผจญภัยที่เห็นเช่นนั้นแล้วก็พลันโกรธเส้นเลือดปูด ด่ากราดออกมาพร้อมๆกับพ่นลมหายใจที่คละคลุ้งเหม็นไปด้วยกลิ่นเหล้า

 

“ ดูถูกกันเหรอวะอีนังสารเลว! ดูจากหน้าตาแล้วเป็นดราโกนิวท์สินะ ต่อให้เป็นเผ่าพันธ์ที่มีอายุยืนยาวก็เหอะนะเว้ย แต่หุ่นอีหนูอย่างเอ็งน่ะ อย่างมากสุดก็เป็นได้แค่อาชีพระดับกลางที่เก่งๆหน่อยเท่านั้นสิท่า! ”

 

ผู้ชายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นตัวหัวหน้าอัดพลังใส่เข้าไปในดวงตาพร้อมจ้องเขม็งตรงดิ่งไปยังคุณลีโอเน่

พริบตาถัดมา

 

“ หะ…….อะ……..!? ”

 

ใบหน้าที่แดงแจ๋ไปด้วยโทสะและฤทธิ์เหล้านั่น พลันเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสีซีดในบัดดล

 

“ ปะ เป็นไปไม่ได้…… <<ประเมินค่าระดับต่ำ>> ของฉันที่เป็นถึงอาชีพระดับสูงมันไม่ยอมทำงาน…..!? บ้าน่า…….พวกที่มีระดับพลังต่างชั้นขนาดที่ทำให้สกิลฉันใช้การด้วยไม่ได้นี่ มีได้แค่ระดับอาชีพสูงสุด หรือไม่ก็ที่เหนือล้ำไปมากยิ่งกว่านั้น……!? ”

“ หะ เฮ้ยเป็นอะไรไปน่ะลีดเดอร์!? ทำไมถึงได้ตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าแบบ—— ”

 

เหล่านักผจญภัยเริ่มที่จะแตกตื่นลนลาน ในฉับพลันให้หลังนั่นเอง

 

ตู้มชิ๊งงง! เอี๊ยดดโบ๊ะบ๊ะ!

 

“““ ………..เอ๊ะ? ”””

 

สายลมโหมถล่มเข้ามาปกคลุมไปทั่วบริเวณ เสียงประหลาดที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตและแรงสั่นสะเทือนพลันดังสนั่นลึกเข้าไปถึงในหู

ในพริบตาผมที่คิดเช่นนั้น——ผู้ชายอาชีพระดับสูงที่ถูกเรียกว่าลีดเดอร์คนนั้น ก็ร่างบุบบี้ถูกฝังลึกจมลงไปในผืนดินโดยไม่มีโอกาสได้แผดเสียงกรีดร้องเลยด้วยซ้ำ

 

“““ ………..ห้ะ? ”””

 

คุณลีโอเน่เค้าเอามือตบไหล่เบาๆจนเขาจมดิ่งฝังเข้าไปในผืนดิน

——-ฉับพลันให้หลังจากที่สมองผมประมวลภาพปรากฎการณ์ตรงหน้าได้ ภาพทิวทัศน์ที่แผ่กระจายอยู่รอบตัวก็พลันสลับเปลี่ยนจากถนนหลักกลายมาเป็นตรอกถนน

ไม่สิ……ทิวทัศน์ไม่ได้สลับเปลี่ยน

คุณลีโอเน่ที่ถือครองพลังกายระดับไม่ปกติ เค้าใช้มือลากตัวพวกผมเข้ามาภายในตรอกถนนในรวดเดียวเลยต่างหาก

 

“ พะ พอรู้สึกว่าโดนกระชากคอเสื้อปุ๊บก็…..!? มะ มันอะไรกันวะเนี่ย แม่งบ้าอะไรกันวะเนี่ย!? ”

“ อาชีพระดับสูงอย่างพวกเราตอบสนองไม่ทันเลยซักนิดเนี่ยนะ มันยังไงกัน…..!? มันทำบ้าอะไร…..!? ”

“ ลิ ลีดเดอร์? เฮ้ย อำกันใช่มั้ยเนี่ย ซ้อมอาชีพระดับสูงหมดสภาพได้ในพริบตาเดียวเนี่ยนะ อะไรบ้าบอแบบนั้นเป็นไปได้ไงวะ…..! ”

 

เหล่านักผจญภัยที่ถูกเหวี่ยงลงมากองเหนือพื้นตรอกถนนพร้อมกับลีดเดอร์ที่ยังคงมีลมหายใจอยู่แบบอ่อนๆ พากันแหกปากร้องแรกแหกกระเชอราวกับขาดสติ

 

“ พวกแกนี่มันดวงดีจริงๆเลยนะเนี่ยเฮ้ย ”

 

คุณลีโอเน่ที่อุ้มตัวผม—ซึ่งทึ่งจนพูดอะไรไม่ออก—แนบติดไว้ใต้แขน พลันปั้นรอยยิ้มหน้าบานขึ้นมาโดยพลัน ส่วนเหล่านักผจญภัยที่ถูกมองต่ำลงมาโดยรอยยิ้มแสนดุดันนั่นก็ถึงกับลั่นเสียงดัง “““ ฮิ๊!? ””” อย่างพร้อมเพรียง

 

“ เอาดินโคลนมาพอกทำให้วันหยุดแสนสนุกของฉันกับครอสมีตำหนิเนี่ยเฮ้ย ตามปกติแล้วต้องโดนฆ่าทิ้งตายห่าไปตั้งแต่ตอนแรกสุดแล้วนะ…….แต่ถ้าสงบเสงี่ยมเจียมตัวยอมเชื่อฟังคำพูดของฉันดีๆจะยอมปล่อยให้มีชีวิตรอดกลับไปให้ก็แล้วกัน ”

 

และแล้วคุณลีโอเน่ ก็สั่งการพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่ยอมรับคำคัดค้าน

 

 

“ พวกแก ลุกขึ้นมาฆ่ากันให้ดูหน่อยดิ้ ”

 

 

“““ ………..ห้ะ? ”””

“ กำลังคิดอยากจะให้ศิษย์รักของฉันคนนี้ได้ดูการประลองต่ออีกนิดหน่อยอยู่พอดีเลยไง ฉะนั้นแหละ ถ้าพวกแกทำ การเข่นฆ่า ที่ทำให้พวกฉันสองคนอิ่มเอมรู้สึกพึงพอใจได้ และสัญญาให้คำขาดว่าจะไม่แพร่งพรายเอาเรื่องของฉันไปบอกใครเข้าละก็ จะยอมยกเว้นไว้ชีวิตให้ แต่ว่านะ ”

 

ออร่าอันแสนจะประหลาดพลันพุ่งพวยออกมาจากร่างกายของคุณลีโอเน่

 

“ ถ้าทำการเข่นฆ่าแสนหน่อมแน้มแบบจงใจเลี่ยงจุดตายของกันและกันแล้วละก็…….จะเกิดอะไรขึ้นนี่พวกแกคงรู้ดีใช่มะ? ”

 

เท่าที่ได้ฟังมาในภายหลัง ดูเหมือนว่าในตอนนี้ คุณลีโอเน่เค้าจะใช้สกิลที่ชื่อ <<กดดัน>> เพื่อบดขยี้ทำลายใจคิดหาญต่อกรของคู่มือที่อ่อนแอกว่าด้วยแหละ

 

 

เสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวดรวดร้าวพลันดังสนั่นก้องไปทั่วทั้งตรอกถนน

และที่ปะทะกันจนเกิดเป็นประกายไฟแล่นเปรี๊ยงปร้างต่อมา ก็คือคมดาบอันถูกกวัดแกว่งอย่างดุเดือดโดยมือของเหล่านักผจญภัยที่ใบหน้าเบี้ยวผิดรูปไปด้วยความหวาดผวา

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลือดสดๆและน้ำตาใสๆซึ่งเกิดจากการตีกันเองลอยกระเด็นปลิวว่อนไปทั่ว คุณลีโอเน่ที่มองดูสภาพของ การแข่งขัน แล้วก็พลันพยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะส่งรอยยิ้มอันแสนอบอุ่นและสนุกสนานตรงมาให้ผมนี่

 

“ โอเช้ งั้นเพื่อเป็นการทบทวนสิ่งที่ได้เรียนไปในวันนี้ เรามาลองคาดเดาผลแพ้ชนะกันดูดีกว่ามะ เอ้อแล้วก็นะพอเป็นอาชีพระดับสูงแล้วจำนวนของสกิลมันก็จะเพิ่มขึ้นมาพอตัวเลยเชียวล่ะ ถ้านับรวมพวกลูกไม้เล็กๆเข้าไปด้วย สเกลของกลยุทธ์มันก็จะยิ่งแผ่ขยาย—– ”

“ เอ้ย เดี๋ยวก่อนสิคุณลีโอเน่ครับ!? ทำเกินไป! ทำเกินไปแล้วครับ! ”

 

ผมเพิ่งจะหลุดจากภวังค์กลับมาได้สติเอาในตอนนี้เอง

ผมเอามือดึงเสื้อของคุณลีโอเน่ที่เริ่มต้นทำการ [บรรยายการแข่ง] อย่างหน้าตาเฉย ก่อนจะอ้อนวอนกับเค้าอย่างสุดชีวิต

 

“ ช่วยหยุดเร็วเข้าเถอะครับ! ไม่อย่างงั้นละก็คนพวกนี้ได้บาดเจ็บหนักกันแน่ๆเลยนะครับ!? ต่อให้คิดยังไงแต่นี่ก็ทำเกินไปแล้วชัดๆเนี่ย! ”

“ เอ๊ะ? งั้นเรอะ? แต่ฉันว่าไอ้พวกนิสัยหยั่งเงี้ยต้องโดนสั่งสอนหนักๆซักทีแบบนี้แหละนะมันถึงจะหลาบจำกัน ”

 

คุณลีโอเน่เอียงหัวด้วยใบหน้างงๆ

กิริยาของเค้า ผนวกเข้ากับความงดงามนั่นแล้ว เล่นทำเอาผมถึงกับใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างไม่ถูกที่ถูกเวลาเลยเนี่ย แต่นี่ไม่ใช่เวลามามัวมองหลงเสน่ห์คุณลีโอเน่อยู่ซะหน่อย ถ้าไม่รีบเข้าละก็ได้มีคนตายแน่!?

 

“ สั่งสอนอะไรนี่มันก็อาจจริงตามนั้นเลยหรอกนะครับ! แต่ผมว่าโดนแค่นี้เข้าไปเขาก็หลาบจำกันจนไม่รู้จะหลาบยังไงได้แล้วละฮะ! ”

“ เป็นงั้นหรอกเหรอ? เอ้อถ้าครอสพูดอย่างนั้น…… ”

 

และแล้วผมก็หาทางพูดโน้มน้าวคุณลีโอเน่ที่ทำหน้าเหมือนยังไม่สาแก่ใจ บอกให้เค้าทำการหยุดการเข่นฆ่าที่มีนามว่าการแข่งขันลงได้ในที่สุด

ขะ ค่อยยังชั่ว……ดีจริงๆที่ไม่ได้บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โต…….

แต่ว่าก็ว่าเถอะ ซ้อมปาร์ตี้นักผจญภัยระดับสูงให้หมดสภาพได้ในพริบตาเดียวแถมยังกลางเมืองแต่ไม่มีใครมองทันเลยซักคนเนี่ยนะ……ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของนักผจญภัยระดับ S จะเป็นสิ่งที่สุดจะหยั่งถึงระดับที่กระจอกอย่างผมไม่อาจเข้าใจได้เลยทีเดียวแฮะ

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset