เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 41 การแข่งปราบปราม (5)

คืนวันนั้น

ถึงแม้คุณลีโอเน่ซึ่งตระเตรียมข้าวเย็นที่เปี่ยมล้นไปด้วยเนื้อมาให้จริงๆดังที่ประกาศ เค้าจะทะเลาะตบตีกันกับคุณลูด์มิร่าอยู่พักนึง แต่สุดท้ายผมก็เข้ารับการนวดยามค่ำที่ต่อให้ผ่านไปเท่าไหร่ก็ไม่ชินซักที พร้อมกับดื่มยาสูตรลับแล้วเสร็จ

เป็นในจังหวะตอนที่คุณเทโลเมียร์เค้ามาทำการใช้ <<เมจิคเดรน>> ให้ในช่วงก่อนนอน (ภายใต้การเฝ้าจับตามองทุกวี่วันของคุณลีโอเน่) เพื่อยกระดับปริมาณพลังเวทสูงสุดให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

 

(……..อ้าว? ปกติแล้วจะต้องโดนดูดไประดับที่สงสัยว่าจะแห้งหมดตัวเลยรึเปล่าแท้ๆ แต่วันนี้กลับไม่ล้าซักนิด…….)

“ ชู่ว~ ครอสคุง ตอนนี้แกล้งทำเป็นหลับไปก่อนนะ วันนี้ช่วยตื่นอยู่ซักพักทีได้มั้ยเอ่ยยย? ”

 

พอสัมผัสได้ถึงความประหลาดแล้วจะขยับตัวลุกขึ้นมา คุณเทโลเมียร์เค้าก็ใช้นิ้วชี้กดริมฝีปากของผมเอาไว้ พร้อมกับพูดซุบซิบๆออกมาว่าแบบนั้น

ในระหว่างที่ผมใจเต้นตึ๊กตั๊กกับสัมผัสอันแสนอ่อนนุ่มนั่นอยู่ คุณเทโลเมียร์เค้าก็ถูกคุณลีโอเน่กระชากลากตัวออกไป ทิ้งให้ผมอยู่บนเตียงนอนเพียงคนเดียว

คุณเทโลเมียร์เค้าเป็นอะไรของเค้ากันละนั่น

ตลอดจนถึงตอนนี้ไม่เคยมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเลยนะ

แม้จะรู้สึกฉงนแปลกใจ แต่พอรอคอยอยู่ในห้องส่วนตัวที่มีเพียงแสงจากดวงดาวสาดส่องเข้ามาไปซักพัก ก็มีอะไรบางอย่างลอยมาชนบานหน้าต่างดังตึง

มองออกไปแล้วก็พบคุณเทโลเมียร์อยู่ข้างนอก กำลังกวักมือพลางขยับปากว่า “ลงมานี่ซี่~” เรียกตัวผมอยู่

แม้จะเอียงหัวสงสัยว่าเป็นอะไรของเค้า แต่ผมก็ชะเง้อตัวออกมานอกหน้าต่างอย่างเงียบๆ

เพราะมีอำนาจของสกิลเสริมสเตตัส ต่อให้กระโดดลงจากที่สูงแต่ก็สบายๆไม่มีปัญหา

และแล้วผมจึงได้กระโดดลงไปข้างนอกตามที่ถูกเค้ายุ——–แต่สิ่งที่รองรับร่างผมเอาไว้กลับไม่ใช่สัมผัสอันแข็งเป้กของผืนดิน แต่ดันเป็นร่างกายแสนอ่อนนุ่มของคุณเทโลเมียร์ที่อ้าแขนสองข้างออกกว้างแทนซะอย่างนั้น

 

“ เหวอ!? คุณเทโลเมี—-มุ่ฟฟ!? ”

“ ชู่ว~ ที่มารับตัวเอาไว้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเสียงดังไงล่าา ฉะนั้นห้ามส่งเสียงเด็ดขาดเลยเชียวน้าา ”

 

โดนเค้ากอดแน่นดังกึ๊ด ซ้ำยังถูกดันหน้าให้ฝังลึกเข้าไปเนินอกอันอวบอิ่มนิ๊มนิ่มเป็นการปิดปากอีก  

สะ สัมผัสนี้มันจะย่ำแย่เกินไปแล้วรึเปล่า!? …..ผมคิดเช่นนั้นพลางพยายามเบือนหน้าหนี ก่อนจะเอ่ยถามกับคุณเทโลเมียร์ด้วยเสียงค่อย  

 

“ อะ เอ่อ นี่มันหมายความว่ายังไงกันครับ…… ”

“ เอะเฮะเฮ้~ ครอสคุง ทำแต่การฝึกวิชาเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่ทุกวันแล้ว คงจะเบื่ออยากได้อะไรใหม่ๆบ้างใช่มั้ยล่าา? ”

 

คุณเทโลเมียร์ลดระดับเสียงลง ก่อนจะกล่าวอธิบายถึงเหตุผลที่พาผมออกมาข้างนอก

 

“ ที่ได้ฝึกวิชาตีสนิทกับครอสคุงก็มีแต่ลีโอเน่จังไม่ก็ลูด์มิร่าจังอยู่เรื่อยด้วย เล่นไม่แฟร์ชัดๆ……ฉะนั้นวันนี้ มาอยู่ดึกทำเรื่องไม่ดีแค่นี๊~ดส์หน่อยกับฉันไหมจ๊ะ? ”

 

ว่าแล้ว คุณเทโลเมียร์ก็ปลดปล่อยผมจากเนินอก

พอแย้มยิ้มหน้าบานแล้วจูงมือผมเข้า คุณเทโลเมียร์ก็นำพาผมออกไปยังภายนอกคฤหาสน์——สู่บัสเคิลเบียร์ในยามค่ำคืน

สถานการณ์นี้มันช่าง เปี่ยมไปด้วยความผิดทำนองคลองธรรมที่ชวนให้ใจเต้นยังไงชอบกล เปรียบเสมือนกับถูกเพื่อนชวนให้ไปเล่นไฟนิดๆหน่อยๆอะไรทำนองนั้น

อยากจะรู้ว่าการเที่ยวเล่นยามค่ำคืนที่คุณเทโลเมียร์ซึ่งเป็นโนไลฟ์คิงว่าเอาไว้นั่นจะเป็นอย่างไร ผมก็เลยเผลอตัวก้าวเดินตามไปราวกับว่าไหลไปตามบรรยากาศ——แต่แล้วผมก็จะได้รู้ ว่านั่นน่ะคือการเชิญชวนที่ไม่ดี ไม่สู้ดีของแท้เลยทีเดียวเชียวล่ะ

 

 

ที่ที่ผมถูกคุณเทโลเมียร์พามา ก็คือร้านเหล้าแปลกๆซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณที่เส้นทางซับซ้อน

ไม่เห็นมีป้ายร้านเลย แถมยังไม่ได้ยินเสียงโหวกเหวกดังเซ็งแซ่ของเหล่านักผจญภัยเลยซักนิด

สภาพนี่คือหากไม่มีคนบอกว่าเป็นร้านเหล้าก็คงคิดไม่ถึงอย่างแน่นอน บริเวณภายในร้านที่ถูกจงใจทำให้มีแสงไฟน้อยๆก็มืดสลัวพอตัวเลยอีกด้วย

เป็นร้านชื่อดังแบบลับๆที่มีเพียงคนที่รู้จริงเท่านั้นจึงจะรู้กันรึเปล่านะ…..ความแปลกหูแปลกตานั่นทำให้ผมสอดส่ายสายตามองไปรอบๆอย่างตื่นเต้นเลยในช่วงแรกๆ…….แต่ผ่านไปไม่กี่วินาทีหลังจากเข้ามาในร้าน ความสนุกสนานตื่นตาตื่นใจนั่นของผมมันก็พลันดับมอด

 

(มะ มันอะไรกันน่ะร้านนี้……!?)

 

แค่ในระยะเวลาสั้นๆที่เดินมานั่งลงเหนือที่นั่งเท่านั้น ก็ทำเอาผมสูญเสียความสงบนิ่งไปเกลี้ยงเลย

เพราะอะไรน่ะเหรอ……เป็นเพราะร้านเหล้าที่ถูกคุณเทโลเมียร์พาเข้ามาแห่งนี้ มันมีบรรยากาศภายในร้านที่ดูอนาจารมากพอตัวเลยน่ะสิ

ก่อนอื่นก็ชุดเครื่องแบบของคุณพนักงานหญิง มันประหลาดชัดๆแล้วแบบนั้น

ลายลักษณ์มันดูเย้ายวนเร้าอารมณ์ซะเหลือเกิน แถมยังเปิดเผยเนื้อหนังผิวกายมากไปแล้ว

เปิดมากระดับที่หากพลาดนิดๆหน่อยๆก็อาจจะเห็นไปถึงจุดที่ไม่สมควรเปิดให้ใครเห็นเด็ดขาดได้เลยทีเดียว ผมก็เลยเอาแต่แตกตื่นหันหนีไปทางโน้นทีทางนี้ทีมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว

มีร้านเหล้าที่ให้บริการด้วยชุดเครื่องแบบน่ารักๆเพื่อเรียกแขกอยู่หลายที่เลยเหมือนกันแหละ แต่เล่นถึงขนาดนี้มันก็เห็นได้ชัดเจนแล้วนะว่าเลยเถิดเกินไป……เข้าขั้นผิดปกติเลยเชียว

แถมไม่รู้ทำไมกระทั่งลูกค้าผู้หญิงก็ยังสวมเสื้อผ้าที่ดูยั่วยุเร้าอารมณ์กันซะเยอะเลยอีกต่างหาก ผมที่ชักจะไม่เหลือที่ให้มองเลี่ยงไปไหนได้ สุดท้ายก็หมดทางเลือกอื่นต้องก้มหน้างุดมองพื้นอย่างเดียว

ผนวกเข้ากับกลิ่นแสนหอมหวนยวนใจที่ไม่รู้ลอยโชยมาจากไหน ทำให้หัวผมมันชักจะเริ่มมึนงงหน้ามืดขึ้นมาแล้ว สุดจะกระวนกระวายเหลือเกิน

แต่ในขณะที่ผมโดนบรรยากาศของร้านกลืนกินเข้าไปจนตัวหด คุณเทโลเมียร์เค้ากลับพูดออกมาได้อย่างเฉยเมยไม่มีทุกข์ร้อน

 

“ เน่~มาสเตอร์~ เอาเป็นว่าขอเหล้าอะไรก็ได้กับพวกกับแกล้มประเภทเนื้อมาทีน้าา~ อ๊ะ ครอสคุงจะเอาอะไรเหรอ~ ไหนๆก็อุตส่าห์ได้มาทั้งทีนี่เน้อ ครอสคุงจะดื่มเหล้าด้วยกันเลยมั้ยย~? ”

“ มะ ไม่ครับ! ไม่เอาดีกว่าครับ! ”

 

รู้สึกว่าถ้าดื่มเหล้าเข้าไปที่นี่มีหวังได้เกิดเรื่องไม่สู้ดีขึ้นแหงๆ

ผมบอกปัดปฎิเสธไม่เอาเหล้าตามสัญชาติญาณที่ตัวเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจ จากนั้นจึงเอ่ยถามกับคุณเทโลเมียร์อย่างกล้าๆกลัวๆ

 

“ ให้ว่าแล้วอย่าว่าแต่สั่งเหล้าเลย…….ร้านนี้มันคือที่ที่เด็กซึ่งเพิ่งจะได้รับ <<คลาส>> มาหมาดๆอย่างผมไม่ควรจะมาเด็ดขาดเลยรึเปล่า…….? ”

“ อื๋อ~? ”

 

พอถามไปอย่างนั้น คุณเทโลเมียร์ก็พลันตอบกลับมาพลางจิบไวน์ที่ถูกนำออกมาเสิร์ฟอย่างรวดเร็ว

 

“ ก็ใช่น่ะสิจ๊าา? ที่นี่เป็นที่ที่ไม่เหมาะไม่ควรมากๆเลยล่าา ”

“ เอ๊ะ ”

 

 

ถูกเค้ายืนยันอย่างตรงแหน่วมาจะๆกว่าที่คาดคิด ทำเอาผมถึงกับเงิบไปเลย

ก็เหมือนว่าจะเป็นร้านอนาจารไม่ผิดแน่แหละ แต่มันถึงกับขนาดที่นักผจญภัยระดับ S  ออกปากพูดเองว่า [ไม่เหมาะไม่ควรมากๆ] เลยเชียวเหรอ……..

เท่านั้นแหละ คุณเทโลเมียร์ที่มองดูผมอยู่ก็พลันเอียงหัวอย่างแปลกใจไปด้วย

 

“ ……..อ๋า~ ปฎิกิริยาแบบนี้นี่ แสดงว่าครอสคุงยังไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้สินะว่าที่นี่เป็นสถานที่แบบไหนอ่าา ”

 

พอพึมพำพลางอมไวน์เล่นไว้อยู่ในปาก เค้าก็พลันหรี่ตาลงราวกับว่าเห็นปฎิกิริยาของผมแล้วสนุก

 

“ นี่ๆครอสคุง ได้สังเกตรึเปล่า? ว่าพวกผู้คนในร้านนี้ พอจับคู่ชายหญิงได้แล้วเค้าจะเดินหายลับเข้าไปข้างในร้านด้วยกันเลยน่ะ ”

“ ………? ”

 

จะว่าไปแล้ว เมื่อกี้ก็เห็นคุณพี่สาวพนักงานเดินพาลูกค้าผู้ชายเข้าไปในห้องข้างในอยู่จริงๆนั่นแหละ

แล้วพอผมลองเพ่งสมาธิจดจ่อไปยังห้องข้างในดู ก็เหมือนจะได้ยินเสียงแปลกๆดังออกมาด้วย

เช่นเสียงเตียงลั่นดังเอี๊ยดๆบ้างล่ะ เสียงครางอุดอู้ของผู้หญิงบ้างล่ะ

เค้าทำอะไรกันอยู่หว่า

ผมเอียงหัวอย่างงุนงงอยู่แบบนั้นซักพัก……..แต่แล้วคำตอบก็พลันถูกเปิดเผยออกมาในทันที

คงจะเพราะฤทธิ์เหล้าทำพิษละมั้ง คุณเทโลเมียร์ที่หน้าแดงก่ำไปหมดเค้าจึงเอาใบหน้าเขยิบเข้ามาอยู่ข้างหูผม ก่อนที่จะ

 

“ ที่นี่น่ะน้าา……จริงๆแล้วเป็นร้านที่ลามกม๊า~กมากกว่าที่เธอคิดภาพเอาไว้เยอะเลยแหละน้าา? ”

“ ……..เอ๊ะ!? ”

“ ถ้าจ่ายเงินให้กับพนักงานคนที่ถูกใจ ก็จะเล่นสนุกด้วยกันในห้องข้างในได้ยันเช้าเลยเชียวล่าา แถมถ้าลูกค้าภายในร้านเกิดชอบใจกันเข้าแล้ว ก็เหมือนว่าจะสามารถใช้งานห้องข้างในได้สมใจสุดเหวี่ยงไปเลยด้วยน้าา ”

“ หะ…….อ๊ะ………!? ”

 

พอเข้าใจความหมายคำพูดของคุณเทโลเมียร์ปุ๊บ ผมก็ถึงกับผงะพูดอะไรไม่ออก

และในพริบตาถัดมา ผมก็พลันลุกพรวดขึ้นจากที่นั่งด้วยใบหน้าที่แดงก่ำซะเหมือนกับจะเป็นลมให้ได้

 

“ ถะ ถ้าอย่างงั้น……!? ก็เป็นสถานที่ที่เด็กไม่ควรมาเด็ดขาดเลยนี่ครับ!? ผะ ผมกลับแล้วครับ! พวกคุณลูด์มิร่าเค้าก็พูดอยู่บ่อยๆด้วยว่าอยู่จนดึกมันไม่ดีน่ะ! ”

 

ร้องเสียงหลงพร้อมพุ่งทะยานไปสุดแรง

มุ่งเป็นแนวตรงดิ่งไปยังทางเข้าออกของร้าน——แต่ผมกลับไม่อาจก้าวเท้าออกไปจากจุดที่ยืนขึ้นมาได้เลยแม้แต่ก้าวเดียว

 

“ เอะเฮะเฮ้~ ครอสคุงนี่น่ารักจริงๆเลยน้าา ”

 

เพราะคุณเทโลเมียร์คว้าแขนของผมเอาไว้ด้วยความเร็วและพลังระดับที่ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นอาชีพนักบวชนั่นเอง

ทั้งที่ผมใช้ <<หลบหลีกฉุกเฉิน>> และ <<บัฟสมรรถภาพร่างกาย>> เสริมทับตั้งหลายชั้นแล้วนะ!?

 

“ ไม่ต้องกลัวหรอกน้าา ครอสคุง ที่พูดไปทั้งหมดนั่นฉันล้อเล่นจ้าา~ เพราะตอบสนองน่ารักดีก็เลยเผลอตัวแกล้งเล่นไปน่ะ ที่นี่เป็นแค่ร้านนวดธรรมดาๆที่เปิดให้คนแสดงออกทางความรักได้โดยอิสระเท่านั้นแหละน้าา ”

 

ว่าแล้วคุณเทโลเมียร์ก็ทำการจับผมให้กลับลงมานั่งดังเดิมได้อย่างง่ายดาย

ถะ ถึงจะบอกว่าล้อเล่นก็เถอะ แต่มีคนที่เริ่มจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่ในเงามืดสลัวนั่นด้วยนะครับน่ะ…..!?

 

“ ตะ ต่อให้สมมติว่าพูดล้อเล่นจริงๆ แต่ก็ยังเป็นร้านที่เด็กอย่างผมไม่ควรเข้ามาเป็นอันขาดอยู่ดีสินะครับ……!? อะ เอ่อคือว่าคือผม ขอตัวกลับก่อนเลยน่าจะดีกว่า……แบบนี้มันเหมือนกับว่าผมโกหกพวกคุณลูด์มิร่าอยู่ ปวดใจสุดๆไปเลยครับ…..! ”

 

พอผมพูดแบบนั้น แล้วกำลังจะลุกขึ้นจากที่นั่งอีกครั้งนั่นเอง

 

“ นี่ครอสคุง ถ้าให้พูดแบบจริงๆจังๆแล้วก็น้าา เธอน่ะควรจะเริ่มชินกับ [เรื่องไม่ควร] ให้ได้ซักหน่อยจะดีกว่าน้าา? ”

 

ที่จู่ๆคุณเทโลเมียร์ซึ่งกำลังเอียงแก้วไวน์ดื่มอยู่ ก็พลันเริ่มต้นพูดขึ้นแบบไม่ทันให้โอกาสได้ตั้งตัว  

 

“ ผู้ที่จะได้เปรียบในการต่อสู้น่ะ ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็คือคนที่ไม่เลือกวิธีการ หรือก็คือคนที่เลือกทำ [เรื่องไม่ควร] ได้อย่างไม่มีลังเลยังไงล่าา ตัวการที่จะตัดสินแพ้ชนะเนี่ยไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าจะดีหรือเลวหรอกนะ แต่อยู่ตรงที่จะสามารถทำในสิ่งที่ได้ประสิทธิภาพดีที่สุดได้แน่รึเปล่าต่างหากเน้อ~  การฝึกให้สามารถเลือกลงมือทำ [เรื่องไม่ดี] ได้อย่างไม่ต้องพะวงคิดมากในคราวจำเป็นเนี่ยก็ถือเป็นการฝึกวิชาอันสำคัญยิ่งเลยนะเอ้ออ ”

 

ว่าแล้ว คุณเทโลเมียร์ก็เอานิ้วเข้ามาคล้องประสานกับมือของผมราวกับว่าจะไม่ยอมให้หนีไปไหนได้

 

“ เพราะฉะนั้นแหละ ถ้าค่อยๆชินกับเรื่องไม่ดีโดยเริ่มต้นจากการเข้าออกร้านแบบนี้ซะ แบบนั้นมันจะเป็นผลดีต่อตัวครอสคุงมากกว่าน้าา? ”

 

เอะ……..เอ๋……..?

แม้จะมีใจเต้นไปกับสัมผัสอันอ่อนนุ่มของมือคุณเทโลเมียร์บ้าง แต่ผมที่สับสนงงงวยก็ก้าวขาไปจากตรงนั้นไม่ได้เลย

จริงของเค้า ที่คุณเทโลเมียร์พูดนั่นมันก็ฟังขึ้น ถ้าเป็นในระดับที่ไม่ก่อความเดือดร้อนให้ใครแล้วละก็ ลองฝึกให้ชินกับสิ่งที่ไม่ควรแบบนิดๆหน่อยๆดูก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อตนเองได้อยู่

……..ถึงจะคิดแบบนั้นก็เถอะ แต่ให้เข้าออกในร้านแบบนี้นี่จะดีจริงๆน่ะเหรอ……..

 

“ ………พอโดนบอกว่าต้องฝึกให้ชินกับเรื่องไม่ดีปุ๊บก็ไร้เดียงสาพิจารณาคิดจะลองทำเรื่องไม่ดีเข้าจริงๆเลยเหรอ แหม่นิสัยตรงนี้ของครอสคุงมันช่างใสซื่อน่ารักดีจริงๆเลยน้าา เพราะแบบนี้ไงล่ะถึงห้ามใจให้หยุดฝึกครอสคุงไม่ได้ซ๊า~กที ”

 

พอเห็นผมที่เครียดคิดหนักแล้ว ก็เหมือนคุณเทโลเมียร์เค้าจะยิ้มใสขึ้นมาเต็มใบหน้าไปเลยยังไงชอบกล แต่เป็นในฉับพลันนั้นเอง

 

“ เฮ้ยนี่เธอ ถึงจะบอกให้ชินกับเรื่องไม่ดีก็เถอะ แต่มันก็ยังมีวิธีแบบอื่นอยู่เยอะแยะไม่ใช่เรอะ ”

 

ที่คนคนหนึ่งพลันแหวกเข้ามาแทรกในบทสนทนาของพวกผม

คุณมาสเตอร์เพศหญิงที่เอาแต่สะกดเค้าลางทำตัวเป็นแบ็คกราวด์อยู่หลังเคาน์เตอร์มาตลอดจนถึงเมื่อกี้นั่นเอง

 

“ ที่เธอพูดนั่นมันก็มีส่วนถูกจริงอยู่เหมือนกันนั่นแหละนะ แต่อย่าเอามาใช้อ้างพาเด็กน้อยใสซื่อขนาดนี้เข้ามาในร้านฉันทีจะได้มั้ย เล่นซะขนาดนี้เดี๋ยวร้านฉันก็ได้โดนกิลด์เปิดโปงหมดกันพอดีน่ะสิ ”

 

นั่นตะกี้เค้าพูดว่าเปิดโปงรึเปล่าน่ะ?

แต่เพราะคำพูดโอดครวญของคุณมาสเตอร์เพศหญิงที่ถูกยิงตรงไปใส่คุณเทโลเมียร์นั่นเอง ที่ทำให้ผมได้สติกลับคืน

 

(วะ ว่าแล้วเชียว ที่นี่เป็นร้านที่ผมไม่สมควรมาสุดๆไปเลยจริงๆนั่นแหละเนอะ…..ถ้าลำพังแค่ผมคนเดียวคงไม่อาจโน้มน้าวใจคุณเทโลเมียร์ได้ แต่ถ้าเอาคนของร้านเป็นพวกขอให้เค้าช่วยพูดเปิดทางหนีทีไล่ออกไปจากร้านให้ทีแล้วละก็…….!)

 

ผมทำการส่งสายตาอย่างคาดหวังตรงดิ่งไปให้คุณมาสเตอร์เพศหญิงที่ยอมเข้ามายื่นมือช่วยเหลือในทันที ทว่า

 

“ อ้าวว~ มาสเตอร์มีอะไรข้องใจกับฉันเหรออ~? ”

“ ไม่มีค่ะไม่มีเลยค่ะ ”

“ ฮึก!? ”

 

คุณมาสเตอร์ครับ!?

ไม่ยอมแพ้ไวไปหน่อยเหรอครับคุณครับ!?

 

“ โทษนะเจ้าหนุ่ม ร้านเราเป็นร้านสีเทาที่จะให้บริการพิเศษเฉพาะสมาชิกก็จริงหรอก……แต่เพราะนังสัตว์ประหลาดที่จู่ๆก็โผล่หัวมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนั่น ทำให้ทั้งบอดี้การ์ดทั้งอะไรต่อมิอะไรต่างก็โดนสั่งสอนให้รู้ว่าใครอยู่ต่ำใครอยู่สูงฝังลึกเข้าสมองกันหมดทุกคน จนปัญญาไม่อาจต่อต้านได้จริงๆน่ะ……. ”

 

ทำอะไรกันครับเนี่ยคุณเทโลเมียร์…….!?

จะว่าไปตอนที่มาถึงร้าน คุณนักดาบดูแกร่งๆที่เฝ้าอยู่ตรงทางเข้าร้านเขาก็ทำการเคารพคุณเทโลเมียร์ซะหยั่งกับเป็นเจ้านายด้วยนี่นะ นึกว่าร้านนี้ทำการต้อนรับแบบนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วซะอีก…..ที่ไหนได้เหมือนจะไม่ใช่สินะนั่น

เพราะแบบนี้เองผมจึงได้รู้ว่าภายในร้านก็ไม่มีคนจะมาเป็นพวกด้วยเลยซักคนเดียว โอกาสที่จะหลบหนีออกจากร้านนี่คือหายมลายสิ้น

สุดท้ายแล้วผมก็ต้องนั่งประหม่ากับบรรยากาศของร้านไปยาวๆอย่างต่อเนื่อง ใช้เวลา [แบบไม่ควร] ร่วมกันแค่สองคนกับคุณเทโลเมียร์ไปจนกว่าจะถึงเวลาปิดร้านโน่นเลย  

 

 

“ เอะเฮะเฮ้~ การเที่ยวเล่นยามค่ำคืนครั้งแรกสุดเป็นยังไงบ้างจ๊าา ครอสคุง? ”

“ อะ เอิ่ม…..อิมแพคท์มันแรงเกินไปหน่อยครับสำหรับผมน่ะนะ….. ”

 

คุณเทโลเมียร์เดินไปตามถนนยามค่ำพลางเอ่ยถามมาด้วยรอยยิ้มร่าเริงอารมณ์ดี ส่วนทางฝั่งผมนี้แค่ฝืนตอบกลับไปได้แบบนั้นก็แทบเต็มกลืนแล้ว

ก็ไม่ใช่ว่าเกิดอะไรขึ้นหรอกนะ แต่ร้านสำหรับผู้ใหญ่นั่นน่ะแค่นั่งกับที่เฉยๆแค่นั้นก็ผลาญสภาพจิตใจอย่างมหาศาลแล้ว…… อูวว วันนี้ผมตื่นเต้นจัดๆเลย ต่อให้ถูก <<เมจิคเดรน>> ดูดจนเหือดแห้งแต่ก็ไม่น่าจะหลับลงได้นะเนี่ย

ผมแหงนหน้าขึ้นมามองท้องฟ้าเพื่อให้หัวที่ร้อนผ่าวเย็นลงซะหน่อย แต่แล้วก็พบกับท้องฟ้าซึ่งมีดวงดาวมากมายแผ่กระจายกว้างขวางอยู่ตรงนั้น

 

“ ว้าว…….. ”

 

ยามดึกขนาดที่ร้านสำหรับผู้ใหญ่ยังทยอยกันปิด

ทั้งเมืองต่างก็กำลังหลับใหล บรรยากาศอันเงียบเชียบและความงดงามของท้องฟ้าหมู่ดาวพลันถาโถมเข้ามาในใจของผม

ได้รับรู้ถึงความรู้สึกดีที่ได้เดินแบบไร้คนขวางทางกลางถนนหลักที่ไม่มีใครเลยเป็นครั้งแรก

ผนวกกับผลตอบกลับจากการที่นั่งกระวนกระวายเต็มเหนี่ยวอยู่ในร้านที่ไม่เหมาะไม่ควรมาตลอดจนถึงเมื่อกี้ด้วยละมั้ง ทำให้ผมรู้สึกเบิกบานกับความกว้างขวางอิสระของวันๆที่ไม่ธรรมดานี่สุดๆไปเลย

และแล้ว คุณเทโลเมียร์ที่สังเกตเห็นท่าทางนั่นของผมก็

 

“ เห็นม้าา~?  นานๆลองทำเรื่องไม่ดีดูบ้างก็ไม่เลวเลยใช่มั้ยล่าา? ”

“ ……..นั่นสินะครับ ”

 

พอได้เห็นคุณเทโลเมียร์ที่ยิ้มร่าเหมือนเด็กขี้แกล้งแล้ว ผมก็ได้แต่ยิ้มเจื่อน

 

“ ร้านนั่นมันแรงเกินกว่าที่ผมจะรับไหวก็จริง……แต่ได้มาเดินไปตามเมืองยามค่ำด้วยกันกับคุณเทโลเมียร์แบบนี้แล้ว ก็ทำให้รู้สึกดีสุดๆไปเลยครับ ”

 

แม้จะอายอยู่นิดๆ แต่คราวนี้ผมก็สลัดรอยยิ้มเจื่อน หันมาปั้นรอยยิ้มจากใจจริงได้สำเร็จ

 

“ ……..อ๊าาโธ่เอ๊ย น่ารักจริงๆเลยน้าา ”

 

คุณเทโลเมียร์สั่นไหวร่างกายพลางเอ่ยเสียงออกมาว่าอย่างนั้น

เท่านั้นแหละ——หนุบ

 

“ เอ๊ะ!? ”

 

ผมก็โดนคุณเทโลเมียร์พุ่งเข้ามากอดไว้จากทางด้านหลังในทันที

แถมแค่นั้นไม่พอ มือของคุณเทโลเมียร์เค้ายังสาวลงไปยังบริเวณต้นขาผม——ลูบไล้ลูบไล้

 

“ เอ๋!? ”

 

สัมผัสที่เพิ่งจะเคยได้ลิ้มรสนั่นทำเอาร่างกายถึงกับสะดุ้งตัวลอย

เสียงร้องแปลกๆมันหลุดออกมา ทำเอาผมต้องรีบปิดปากตัวเองไว้อย่างเร่งด่วน

แม้จะสับสนงงงวยขั้นหนัก แต่คุณเทโลเมียร์ก็ไม่ยอมปล่อยให้ผมหลบหนีไปไหนได้

เผลอๆแล้ว

 

“ อ้าว…….ชักจะแหม่งๆแล้วแฮะ ไม่ได้คิดจะทำถึงขนาดนี้ซะหน่อยนี่นาา…….ใช้สกิลฟื้นฟูสถานะผิดปกติจนหายเมาเป็นปลิดทิ้งแล้วแท้ๆแต่ไหงใจถึงเต้นถี่ระรัวซะจนเหมือนจะเป็นลมแบบนี้เฉยเลยล่ะ……..โดนผลตกค้างจากบรรยากาศของร้านเล่นงานเข้ารึยังไงน้าา อะ อ้าว……? ยังอยู่ระหว่างฝึกฝนอยู่เลยแท้ๆ……แต่เหมือนว่าจะห้ามใจอดทนเอาไว้ไม่ไหวซะแล้ว…….จุ๊บแรก ถ้าแค่บนแก้มละก็น่าจะได้อยู่……. ”

 

ไม่รู้ทำไมใบหน้าของคุณเทโลเมียร์ที่หายใจหอบอย่างรุนแรงถึงพุ่งตรงเข้ามาใกล้ และในฉับพลันที่ผมเกือบๆจะสลบทั้งยืนพลางร่ำร้องว่า “เอ๊ะ? เอ๊ะ?” อยู่นั่นเอง  

 

 

 

 

“ ขึก!? แย่แล้ว ในหัวมีแค่ครอสคุงก็เลยลืมตรวจจับบริเวณโดยรอบ——บุมิ้ววว!? ”

 

จู่ๆคุณเทโลเมียร์ที่ถูกกระชากตัวออกห่างไปจากผมก็พลันแผดเสียงร้องออกมา

พอหันไปมองก็ถึงกับสับสน ไม่รู้เลยว่ามาจากไหนกัน

คุณลีโอเน่กับคุณลูด์มิร่าที่เส้นเลือดปูดขึ้นมาเหนือศีรษะพลันโผล่ขึ้นมายืนขวางกั้นกลางอยู่ระหว่างผมกับคุณเทโลเมียร์ ก่อนที่จะ

 

“ ประมาทซักหน่อยปล่อยการ์ดนิดหน่อยเป็นไม่ได้เลยเฮ้ย! ………เอ๊ะ เฮ้ยเทโลเมียร์นี่หล่อน ไม่ได้มีแค่เหล้าอย่างเดียวนี่หว่า อย่าบอกนะว่านี่ กลิ่นของซ่องขายบริการอะไรนั่นไม่ใช่เรอะ!? นี่หล่อนเอาตัวครอสไปทำอะไรอยู่ที่ไหนมาน่ะนังตัวดี!? ”

“ อือ~ ไปทำ [เรื่องไม่ควร] นิดหน่อยละมั้งน้าา ”

“ ห๊าา!? ”

 

คุณลีโอเน่ที่หน้าแดงก่ำพุ่งเข้าคว้าคอเสื้อคุณเทโลเมียร์แล้วเขย่าหงึกๆทันควัน

 

“ เกิดอะไรขึ้นนี่จะขอรับฟังอย่างละเอียดทีหลัง ”

 

ตามด้วยคุณลูด์มิร่าที่เอามือวางลงเหนือไหล่ของผมพร้อมแย้มยิ้มเบิกบาน

 

“ น่าสงสารเสียจริง เธอถูกเทโลเมียร์มันหลอกพาตัวออกไปใช่ไหม? อื้มแต่ถึงไม่ใช่ ถ้านานๆครั้งจะแหกกฎข้อบังคับของอาจารย์ ออกไปเที่ยวเล่นปลดปล่อยตนเองบ้างก็นับว่าไม่เลวเลยอยู่หรอก……แต่คราวหน้าหากจะไปก็ช่วยมาชี้แจงรายงานให้ฉันทราบที่หมายเสียก่อนล่ะ ”

“ ขะ ครับ….. ”

 

ดูเหมือนจะทำให้คุณลูด์มิร่ากับคุณลีโอเน่เป็นห่วงพอสมควรเลยแฮะ

เจอะกับคุณลูด์มิร่าที่ยิ้มแบบไม่ยอมรับคำคัดค้านเข้าไป ผมก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆให้ท่าเดียว

ทว่า——

 

“ เฮ้อ~ โดนโกรธเข้าจนได้เน้ออ ครอสคุง ”

 

เพราะได้คุณเทโลเมียร์ช่วยยิ้มให้แบบนั้นแม้จะโดนมะเหงกเข้าไปอย่างจังละมั้งนะ

เลยรู้สึกเหมือนทั้งหมดรวมทั้งสถานการณ์ที่เราโดนเอ็ดอยู่ด้วยกันแบบในตอนนี้มันคือส่วนหนึ่งของการฝึกเพื่อให้ [ชินชากับเรื่องไม่ดี]………แล้วก็น่าแปลกใจที่ผมกลับรู้สึกสนุกไม่เลวเลยซะนี่

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset