เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 54 หลักฐานของการเติบโต แล้วก็… (จบเล่ม 2)

 

หลายวันให้หลังจากการประลองกับพวกคุณแคทลียา

พวกผมที่ทำการฝึกประสานงานกันอย่างซ้ำแล้วซ้ำอีกภายในสนามฝึกซ้อมที่ปกป้องเอาไว้ได้จนที่สุดของที่สุด ได้ลงประกวดในการแข่งปราบปรามสไลม์ปุกปุยเป็นครั้งที่สอง

 

 

“ ———วอเตอร์แคนน่อน! ”  

“ ———ไฟร์ชู๊ต! ”

““““ กี๊—————! ””””

 

เนื่องจากอาชีพเวทมนตร์ทั้งสองคนของปาร์ตี้ทำการเปิดฉากเข้าโจมตี ฝูงสไลม์ปุกปุยก็เลยพุ่งทะยานตรงดิ่งมาทางนี้

 

“ เอาเว้ย ตอนนี้แหละครอส! ”

“ อือ! ”

 

ผมตอบรับต่อคำสั่งการของจิเซล โดยการหันฝ่ามือเข้าหาฝูงมอนสเตอร์  

 

 

“ จักกุมบังเหียนเหนืออำนาจอันท่วมท้นให้กลายมาเป็นกระสุนปืนใหญ่แห่งเราแล้วปัดเป่ามารศัตรูให้หมดไป—— <<ทริปเปิลวินด์แลนซ์>> ! ”

 

““““ ปิกี๊—————–!? ””””

 

หอกวายุแสนทรงพลังที่ประกอบสร้างขึ้นจากทอร์นาโดสามลูกที่รัดพันกัน ได้ถาโถมกลืนกินฝูงมอนสเตอร์เข้าไป

 

“ เยี่ยม! ”

 

พอเห็นอานุภาพของเวทลมระดับกลางที่ Lv สูงขึ้นมากยิ่งกว่าในตอนที่สู้กับพวกคุณแคทลียาแล้ว ผมก็กำหมัดพลางส่งเสียงร้องอย่างยินดีออกมา

 

““““ ……กี๊—————! ””””

 

แม้เหล่าสไลม์ที่หลบเวทมนตร์ได้จะพุ่งอัดเข้ามาโดยไม่มีตื่นกลัวเลย แต่จำนวนนั่นหากเทียบกับก่อนหน้านี้แล้วก็ถือว่าลดหลั่นลงไปมาก

ถึงอย่างนั้นก็ยังมีปริมาณเยอะพอสมควรอยู่หรอก แต่ก็ลดลงมาเป็นจำนวนระดับที่พวกผมสามารถรับมือได้อย่างสบายแล้ว

 

“ …….ขึก! เฮ้ยครอสนี่แก ไหงถึงยกระดับ Lv ของสกิลระดับกลางได้ภายในระยะเวลาสั้นๆแค่นี้เฉยเลยละนั่น……เอ้อเอาเหอะ ล่ามันไปเรื่อยๆแบบนี้เลยนะเว้ย! <<บัฟสมรรถภาพร่างกาย>> ! ”

 

อาชีพระยะประชิดของปาร์ตี้ที่มีจิเซลซึ่งเป็น <<นักรบทำลายล้าง>> อยู่เป็นศูนย์กลาง คอยทำหน้าที่ปกป้องอาชีพเวทมนตร์ไปพลาง ฟาดฟันสะบั้นเหล่าสไลม์ทิ้งไปด้วย

แน่นอนว่าผมเองก็ร่วมวงช่วยอีกแรง โดยทำการตระเตรียมกระสุนปืนใหญ่นัดถัดไปควบคู่ไปด้วย

 

“ หมู่มวลอากาศที่ห่อหุ้มปกคลุมอยู่ทั่วเอ๋ยเชื่อฟังเราเสีย จงก่อตัวสร้างเป็นหอกพิฆาตอยู่ในมือข้างนี้ นามนั้นก็คือวายุคลั่ง วาโยหนึ่งดอกเอยเจ้าจงปรากฎ วาโยหนึ่งดอกเอยเจ้าจงปรากฎ วาโยหนึ่งดอกเอยเจ้าจงปรากฎ ห้วงแห่งพายุหมุนเอ๋ยจงรวมตัวอย่างคลุ้มคลั่ง ภายใต้ท้องนภาที่มังกรสามหัวผงาดอาละวาด จักกุมบังเหียนเหนืออำนาจอันท่วมท้นให้กลายมาเป็นกระสุนปืนใหญ่แห่งเราแล้วปัดเป่ามารศัตรูให้หมดไป—–<<ทริปเปิลวินด์แลนซ์>> ! ”

 

เหล่าสไลม์ที่ดันตัวบีบอัดเข้ามาเพิ่มถูกกลืนหายเข้าไปในสายลมอีกครา ก่อนจะหายวับแหว่งไปทันตา

 

(เยี่ยมเลย ผลลัพธ์จากการฝึกออกมาแล้ว! สู้ง่ายผิดกับก่อนหน้านี้ลิบลับเลย!)

 

ยิงเหล่าสไลม์ที่บีบเข้ามาให้ร่วง ฟาดฟันกำจัดตัวที่เหลือ แล้วจากนั้นก็ทำการยิงเหล่าสไลม์ที่บีบเข้ามามากขึ้นอีกให้ร่วงหงายเก๋งอีกรอบ

พวกผมสำแดงผลลัพธ์จากการฝึกซ้อมออกมาอย่างเต็มที่ แล้วจึงมุ่งเน้นทำตามขั้นตอนดังกล่าวซ้ำไปซ้ำมาอยู่เรื่อยๆ

และแล้วในยามเย็นหลังจากที่การแข่งปราบปรามจบสิ้นลงไปได้ด้วยดีนั้น

 

“ วะ ว้าว……ไม่เคยถูกผู้คนสนใจมากขนาดนี้มาก่อนเลย ประหม่าจังเลยแฮะ ”

“ อย่าหวั่นให้มากนักสิวะไอ้เบื๊อก เดี๋ยวก็โดนคนมันดูถูกเอาอีกหรอกเอ้อ ”

 

จิเซลว่าพลางเอาศอกกระทุ้งใส่ผม…….แต่ทำยังไงก็สงบใจให้นิ่งไม่ได้เลยแฮะ

 

 

“ ถ้าอย่างนั้นแล้ว ต่อเนื่องจากปาร์ตี้ที่ปราบปรามได้จำนวนมากที่สุดในการแข่งนี้—-ขอเชิญปาร์ตี้ที่สร้างผลงานได้ยอดเยี่ยมทั้งสามออกมาข้างหน้าค่ะ! ”

 

 

ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะตอนนี้ผมได้ถูกคุณเจ้าหน้าที่ของกิลด์เรียกให้ขึ้นมาอยู่บนแท่น และกำลังจะได้รับมอบรางวัลร่วมกับจิเซลในฐานะตัวแทนของปาร์ตี้ยังไงล่ะ

เพราะผลลัพธ์จากการฝึกซ้อม และอำนาจของสกิลที่ได้รับมาจากพวกอาจารย์ ก็เลยดูเหมือนว่าจะสามารถปราบสไลม์ได้เป็นจำนวนมหาศาลกว่าที่คิดไว้เยอะเลยน่ะนะ

ต่างกับศึกคราวก่อนที่หืดขึ้นคอสุดๆ ถือเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดระดับที่ทำใจให้เชื่อไม่ลงเลยล่ะ

ถ้าเอาไปเทียบกับสถิติที่พวกคุณแคทลียาซึ่งมีจอมขมังเวทระดับกลางอยู่ถึง 3 คนทำเอาไว้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนแล้วก็น่าจะถือว่าน้อยกว่าอยู่มากหรอก……..แต่เพราะปาร์ตี้ของพวกคุณแคทลียาไม่ได้มาลงประกวดในการแข่งรอบนี้ ตำแหน่งของพวกผมมันก็เลยสูงขึ้นมาอยู่ในระดับที่มีสิทธิรับรางวัลได้พอดิบพอดีเลยแน่ะ

 

(จะว่าไปแล้ว ถึงกับไม่มาลงประกวดในการแข่งเลยนี่…..พวกคุณแคทลียาเค้าออกมาข้างนอกลำบากเพราะแพ้ให้กับพวกผมรึเปล่านะ……)

 

ถึงจะรู้สึกเป็นห่วงพวกคุณแคทลียาอยู่นิดๆก็เถอะ……..แต่ก็ได้จิเซลพูดเตือนว่า “ถ้าฝั่งที่ชนะมามัวพะวงแบบนั้นอยู่มันก็จะถือว่าเสียมารยาทนะเว้ย” ผมจึงตัดสินใจว่าจะปล่อยตัวยินดีกับ “ผลลัพธ์” ที่อยู่ตรงหน้านี้ไปก่อน

กล่าวคือ เงินค่าตอบแทนที่ปราบสไลม์ได้เยอะขนาดที่ได้รางวัลเลยไงล่ะ

เพราะสามารถปราบสไลม์อย่างเสถียรมั่นคงได้ต่อเนื่อง เพื่อนๆกลุ่มเด็กกำพร้าและจิเซลก็เลยได้รับเงินค่าตอบแทนอื้อซ่า

แต่ภายในหมู่นั้น ก็มีเงินส่วนของผมที่ได้รับเวทลมระดับกลางมานี่แหละที่เยอะกว่าใครๆ ถือเป็นจำนวนเงินที่มากในระดับที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยทีเดียว

นอกจากจะจัดซื้อเครื่องสวมใส่ใหม่ได้แล้ว ก็น่าจะสามารถไปเที่ยวอย่างลับๆด้วยกันกับคุณเอลิเซียได้อย่างไม่มีปัญหาเลย

บะ แบบว่า….เป็นจำนวนที่เยอะจัดจนชวนให้กลุ้มขึ้นมาเลยนะเนี่ย ให้ผมเยอะมากขนาดนี้มันจะดีจริงๆน่ะเหรอ…….

พอผมกำลังหวาดหวั่นกับถุงหนังที่พองโตสุดๆอยู่

 

“ เฮ้ยครอส! ไอ้เงินรางวัลที่โคตรจะเยอะนั่นมันอะไรกันน่ะ! ”

“ อุตส่าห์ได้มาเยอะทั้งที วันนี้มาใช้ให้เต็มเหนี่ยวกันไปเลยเหอะเพื่อน! ”

“ อ่า งั้นก็เอางี้เป็นไงพวกแก ก่อนหน้านี้ฉันเผอิญไปเจอร้านอาหารที่ถึงจะแพงหน่อยแต่ก็โคตรอร่อยอยู่อะนะ วันนี้มาเปิดงานฉลองชัยชนะกันที่นั่นมั้ยล่ะ? ทั้งในส่วนของวันนี้ แล้วก็ในส่วนที่กระทืบไอ้พวกขุนนางงี่เง่านั่นจนน่วมได้ไง ”

 

กลุ่มเพื่อนๆเด็กกำพร้าที่กำลังตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่งใหญ่เนื่องจากได้รับรายได้ชั่วคราวพลันเข้ามาโอบไหล่อย่างรุนแรง ส่วนจิเซลก็เบือนหน้าหนีไปนิดๆพลางกล่าวข้อเสนออันดูน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งนั่นมาให้

ผมก็เกือบๆจะพยักหน้าเอาด้วยกับข้อเสนอนั่นอยู่แล้วหรอกนะ แต่…….

 

“ อ่า ขอโทษนะ แต่ผมคิดสิ่งแรกสุดที่จะทำด้วยเงินค่าตอบแทนนี้เอาไว้แล้วน่ะ ”

 

พอปฎิเสธอย่างห้วนๆปุ๊บ ผมก็วิ่งออกห่างไปจากที่แห่งนั้นเลย

เพราะถ้ามัวโอ้เอ้อยู่ ร้านอาจจะปิดไปก่อนก็ได้ยังไงล่ะ

 

“ เอ๊ะ เฮ้ยครอส!? ”

“ ขอโทษจริงๆ งานฉลองชัยชนะนี่ไว้วันหลังนะ! ”

 

พอก้มหัวให้กับพวกจิเซลที่อุตส่าห์ชวนอีกครั้งแล้ว ผมก็แล่นทะยานไปตามถนนหลักยามเย็น

 

 

 

“ โอ๊ะ กลับมาได้ซะทีเรอะครอส การแข่งปราบปรามเป็นยังไงบ้างล่ะ จำนวนที่ปราบได้เพิ่มมากขึ้นกว่าคราวก่อนแยะเลยใช่มะ? ”

“ ไม่จำเป็นต้องถามเลยเสียด้วยซ้ำ ครอสได้รับเวทมนตร์ไปจากฉันผู้นี้โดยตรงเชียวนะ ”

“ เทียบกับครั้งก่อนแล้วบาดแผลก็น้อยลงพอสมควรเลยด้วยอ่าา~ แสดงว่าไปได้สวยแน่นอนเลยงั้นสิเน้ออ อ๊ะ แต่จะฟื้นฟูให้อย่างดีเหมือนเคยเลยนั่นแหละนะ มาทางนี้ซี่~ ”

 

พอกลับมาถึงคฤหาสน์ ผมก็ถูกเหล่าอาจารย์ออกมาต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนเช่นเคย

ได้เห็นรอยยิ้มของคุณลีโอเน่ คุณลูด์มิร่า คุณเทโลเมียร์แล้ว ผมก็รู้สึกจักจี้ไปพลางสัมผัสได้ว่าในใจมันอุ่นไปถึงทรวงเลย

แต่ในฉับพลันเดียวกันนั้น พอมาอยู่ต่อหน้าพวกอาจารย์แล้ว ตัวผมในวันนี้ก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน

 

(อุก พอถึงคราวแล้วมันก็น่าอายสุดๆไปเลยนั่นแหละ แถมยังใจเต้นผ่าวแรงสุดๆเลยด้วย ไม่มั่นใจด้วยเนี่ยว่าเลือกชิ้นที่ดีจริงมาได้แน่รึเปล่า…….)

 

พอผมมัวกระสับกระส่ายอยู่แบบนั้นเข้า

 

“ อื๋อ~? ครอสคุง แอบถืออะไรซ่อนไว้อยู่ข้างหลังเหรอจ๊าา? ”

“ เอ๊ะ!? ”

 

เห็นผมที่ไม่ยอมเข้ามารับสกิลฟื้นฟูซักทีแล้วคงสงสัยขึ้นมาละมั้ง คุณเทโลเมียร์เค้าก็เลยสังเกตเห็นว่าผมแอบซ่อนอะไรอยู่ ก่อนจะพยายามส่องเข้ามาดู

แล้วจากนั้นคุณลีโอเน่กับคุณลูด์มิร่าก็พูด “อะไรน่ะมีอะไร” พร้อมสังเกตว่าผมซ่อนอะไรบางอย่างอยู่ด้วยเช่นกัน…….โอ้ยโธ่เอ้ย ในเมื่อความแตกแล้วก็ช่วยไม่ได้!

 

“ คือว่า……ไม่รู้หรอกนะครับว่าจะถูกปากทุกคนที่เป็นนักผจญภัยระดับ S รึเปล่า…….. ”

 

ว่าแล้ว ผมก็ยื่นเจ้าสิ่งนั้นที่ถือซ่อนไว้อยู่ข้างหลังออกไปให้อย่างหวั่นๆ

คือกล่องรวมขนมที่พอจบการแข่งปราบปรามแล้ว ผมก็รีบวิ่งไปซื้อมาในทันทีเลยนั่นเอง

 

“ การแข่งปราบปรามในวันนี้ เป็นเพราะได้ทุกคนช่วยฝึกฝนให้ ผมก็เลยปราบสไลม์ได้เยอะแยะมากระดับที่ได้รับรางวัลเลยครับ การประลองก่อนหน้านี้ก็เหมือนกัน ชนะมาได้เพราะพวกอาจารย์ช่วยสอนมาตรการรับมือแบบพิเศษให้แท้ๆเลย…..พวกอาจารย์มักจะพูดว่าไม่จำเป็นต้องตอบแทนอยู่เสมอๆเลยก็จริงหรอก…..แต่ไม่ว่ายังไงผมก็ อยากจะบ่งบอกถึงความรู้สึกขอบคุณ ให้พวกอาจารย์ได้รับรู้จริงๆนั่นแหละครับ ”

 

ผมยื่นขนมแนะนำประจำร้านที่ถูกคัดเลือกอย่างพิถีพิถันมาจากร้านที่เจอเข้าตอนไปตระเวนกินกับคุณเอลิเซียให้ไปพลาง กล่าวความรู้สึกของตนออกมา

ยังไม่มีอะไรที่ผมจะสามารถตอบแทนคืนให้กับพวกอาจารย์ที่อุตส่าห์เก็บเอา <<ไร้อาชีพ>> สุดกระจอกอย่างผมมาเลี้ยงดูได้เลย

แต่อย่างน้อย ก็อยากจะบ่งบอกให้พวกเค้าได้ทราบถึงความรู้สึกนี้อย่างชัดเจนน่ะ

 

(แต่พวกอาจารย์ก็เป็นคนระดับที่ซื้อคฤหาสน์ที่หรูหรามากที่สุดภายในเมืองได้อย่างง่ายๆเลยนี่นะ กะอีแค่ขนมจะพอใช้ขอบคุณได้รึเปล่าก็ไม่รู้…….)

 

ผมเงยหน้าขึ้นด้วยใจที่เต้นระรัว

เท่านั้นแหละ

 

“ ครอสคู~~~ง! ”

“ เหวอ!? ”

 

จู่ๆก็โดนคุณเทโลเมียร์โผเข้ากอด ผมนี่คือตกใจขนาดที่เผลอตัวร้องเสียงหลงเลย

 

“ โธ่~❤ ก็พูดอยู่ตลอดนี่นาว่าไม่ต้องใส่ใจมากถึงขนาดนั้นก็ได้น่าา อ๊าา แต่จะทำยังไงดีล่ะ ดีใจสุดๆไปเลยอ้าา…….❤ โอ้ยยโธ่เอ้ยทำไมถึงได้น่ารักม๊ากถึงขนาดนี้น้า——เมี๊ยก!? ”

 

พอเห็นว่าคุณเทโลเมียร์ที่เอาหน้าเข้ามาไซ้ๆถูไถผมถูกกระชากลากตัวห่างออกไปปุ๊บ

 

“ โอ้ ขนมนี่ดูน่าอร่อยสุดๆไปเลยนะ จะขอรับไว้อย่างยินดีเลยละกัน……..ฉิบ หยุดอมยิ้มไม่ได้……นี่มันอะไรกันน่ะ…..เป็นฝ่ายฉันเองนี่ต่างหากที่เขินจัดจนมองหน้าครอสตรงๆไม่ได้เลย…….! ”

 

คุณลีโอเน่ที่เข้ามากระชากตัวคุณเทโลเมียร์ไป ก็กล่าวออกมาว่าเช่นนั้นพลางเบือนหน้าห่างไปจากผมทำไมก็ไม่รู้

แล้วจากนั้นคุณลูด์มิร่าที่ยังมีสีหน้าสงบเยือกเย็นอยู่ดังเช่นเดิมเค้าก็

 

“ ดีล่ะ การฝึกวิชาวันนี้ถือเป็นอันยกเลิก ก็เจอการประลองบ้างการแข่งปราบปรามบ้างมีแต่ต่อสู้จริงต่อเนื่องเลยนี่นะ วันนี้มากินขนมที่ครอสซื้อมาให้ร่วมไปด้วยกับดื่มน้ำชาพักผ่อนสบายๆกันจะดีกว่า ”

 

ป่าวประกาศยกเลิกการฝึกวิชาแบบสุดจะฉุกละหุก

พอผมมึนตึ้บร้อง “เอ๊ะ? เอ๊ะ?” อยู่ คุณลูด์มิร่าเค้าก็ทำการจัดเตรียมชาส่วนของสองคนเสร็จเรียบร้อยไปแล้วภายในเวลาเพียงชั่วอึดใจ

……….อะ อ้าว? ส่วนของสองคน?

 

“ นังลูด์มิร่านี่หล่อน! ไหงถึงคิดจะฮุบเวลากับครอสเอาไว้คนเดียวราวกับเป็นเรื่องปกติสมควรเฉยเลยเล่าเฮ้ย!? โอร่า ไปเอามาให้พวกฉันด้วยเลยเชียวนะชาน่ะชาา! ”

“ แล้วก็ทำไมถึงมาหยิบขนมไปเยอะกว่าใครอื่นเค้าได้หน้าตาเฉยเลยเนี่ยหืมม? ตามปกติแล้วต้องแบ่งสาม……ไม่สิ ฉันที่ทุ่มเทตัวเองเพื่อช่วยเหลือในการฝึกวิชามาตล๊อ~ดตลอดคนนี้น่ะสมควรจะได้เยอะมากที่สุดต่างหากน้าา ”

“ พวกแกนี่มันช่างปากมากน่ารำคาญเสียจริง เวทมนตร์ที่ฉันเป็นผู้ส่งต่อให้ ได้มีบทบาทอันสำคัญอย่างยิ่งทั้งในการประลองก่อนหน้านี้และการแข่งปราบปรามในคราวนี้เลยเชียวนะ ฉะนั้นจึงแน่นอนว่าฉันย่อมต้องมีสิทธิได้รับครั้งแรกจากครอสด้วยปริมาณที่มากที่สุด และภายในรูปแบบพิเศษด้วยยังไงล่ะ ”

“ อ๊าาา? ”

“ หาา~? ”

“ เอ๊ะ เอ๊ะ!? เดี๋ยวสิครับทุกคน!? ”

 

เห็นว่าขนมได้รับความนิยมแบบนี้แล้วก็ดีใจหรอกนะ แต่เหมือนจะนิยมเกินไปแล้วรึเปล่าเนี่ย!?

 

“ ไม่เป็นไรหรอกนะครับ!? ขนมนี่ไว้เดี๋ยวผมจะซื้อมาให้อีก! ”

 

แล้วจากนั้นผม ก็ทุ่มความพยายามอย่างต่อเนื่องไปกับการพูดโน้มน้าวพวกคุณลีโอเน่ที่ไม่รู้ทำไมถึงชอบจ้องเขม่นกันอย่างดุเดือดอยู่เรื่อย……..จนในที่สุดก็สามารถหาทางทำให้พวกเค้ารับเครื่องหมายแห่งความขอบคุณไปอย่างสงบสุขได้แบบหวุดหวิด

 

 

……..หลังจากนั้น

คุณเทโลเมียร์เค้าก็ทำ “อ้า~ม” ให้บ้างล่ะ โดนคุณลีโอเน่จับขยี้หัวอย่างถี่ๆเลยบ้างล่ะ การนวดของคุณลูด์มิร่ามันนานแล้วก็ประณีตมากยิ่งกว่าปกติบ้างล่ะ——-ว่าก่อนหน้าให้ขนมใจมันเต้นแรงแล้ว หลังจากที่ให้ขนมไปแล้วกลับเจอแต่เหตุการณ์ที่ทำให้ใจเต้นถี่แรงยิ่งกว่าเดิมแบบรัวๆเลยซะอย่างนั้น ในความหมายนึงแล้วก็ถือว่าหนักหน่วงสุดๆไปเลยหรอกนะ……

แต่ถ้าการตอบแทนเล็กๆน้อยๆนี่ทำให้พวกคุณลูด์มิร่ายิ้มอย่างยินดีได้ แบบนั้นผมก็สุขใจแล้ว……เนี่ย สุดท้ายผมก็เข้านอนด้วยความรู้สึกอันแสนเปี่ยมสุขแบบนี้

ถ้าซักวันนึงแข็งแกร่งมากขึ้นในระดับที่สามารถตอบแทนบุญคุณของพวกเค้าเหล่านี้ได้อย่างแท้จริงก็คงดีสินะ…….หลับตาลงโดยเก็บงำฝันที่ช่างห่างไกลแสนไกลเช่นนั้นไว้อยู่ในอ้อมอกไปพลาง

 

 

 

ชื่อประจำตัว : ครอส อาราเกาท์   เผ่าพันธุ์ : ฮิวแมน  อายุ : 14

คลาส : ไร้อาชีพ

เลเวล : 0

กำลัง : 0   ป้องกัน : 0   ป้องกันเวท : 0  ความว่องไว : 0  

(พลังเวทโจมตี : 0   พลังเวทพิเศษ : 0   พลังเวทแปรรูป : 0   ความฉลาด : 0)

 

ประวัติการเติบโตของสกิลในระยะนี้  

<<เสริมกำลัง Lv9 (+70)>>   ——->   <<เสริมกำลัง II Lv1 (+88)>>  

<<เสริมป้องกัน Lv10 (+86)>>  ——->  <<เสริมป้องกัน II Lv1 (+94)>>

<<เสริมความว่องไว II Lv2  (+100)>>  ——->  <<เสริมความว่องไว II Lv4  (+116)>>

<<เสริมพลังเวทโจมตี II Lv1  (+92)>>  ——->  <<เสริมพลังเวทโจมตี II Lv4  (+116)>>

<<ฟันแหวก Lv9>>   ——->   <<บัฟกำลังดาบระดับกลาง Lv1>>

<<บัฟสมรรถภาพร่างกาย (กลาง) Lv1>>  ——->  <<บัฟสมรรถภาพร่างกาย (กลาง) Lv4>>

<<หลบหลีกฉุกเฉิน II Lv1>>   ——->   <<หลบหลีกฉุกเฉิน II Lv2>>

<<เคลือบแข็งร่างกาย (เล็ก) Lv8>>  ——->  <<เคลือบแข็งร่างกาย (เล็ก) Lv9>>

<<ทริปเปิลวินด์แลนซ์ Lv2>>   ——->   <<ทริปเปิลวินด์แลนซ์ Lv5>>

<<ทะยานหุ้มวายุ Lv1>>   ——->   <<ทะยานหุ้มวายุ Lv3>>

<<ครอสเคาน์เตอร์ Lv8>>   ——->   <<ครอสเคาน์เตอร์ระดับกลาง Lv1>>

<<ควบคุมพลังเวทนอกร่าง Lv6>>  ——->  <<ควบคุมพลังเวทนอกร่าง Lv7>>

<<ตรวจจับพลังเวทนอกร่าง Lv6>>  ——->  <<ตรวจจับพลังเวทนอกร่าง Lv7>>

<<ควบคุมพลังเวทในร่าง Lv5>>  ——->  <<ควบคุมพลังเวทในร่าง Lv6>>

<<ตรวจจับพลังเวทในร่าง Lv5>>  ——->  <<ตรวจจับพลังเวทในร่าง Lv6>>

 

สกิลที่ถือครอง

<<เสริมพลังเวทพิเศษ Lv5  (+45)>>

<<เสริมป้องกันเวท Lv2  (+15)>>

<<การ์ดเอาท์ Lv5>>

<<อีจิสช็อต Lv1>>

 

 

ภายหลังจากที่ครอสเข้านอน

พวกลีโอเน่ที่โดนของฝากจากศิษย์รักเล่นงานจนสูญเสียหลักเหตุผลไปในแบบที่แม้แต่พวกตนเองก็ยังไม่อาจเข้าใจนั้น พลับได้สติกลับคืนมาดังเดิม ก่อนจะต้องดวงตาเบิกกว้างเพราะการเติบโตแบบรวดเร็วของครอสอีกครั้ง

 

“ ได้รางวัลในการแข่งปราบปรามเรอะ…….เจ้าครอส เติบโตแบบก้าวกระโดดอีกแล้วนะเนี่ย ”

“ อืม ถึงแม้จะเป็นผลลัพธ์จากการฝึกวิชาของฉัน ผสานร่วมด้วยกับความมุ่งมั่นพยายามอย่างไม่ลดละของครอสก็เถอะ แต่แบบนี้มันจะรวดเร็วมากเกินไปหน่อยแล้ว ”

“ ตรงสกิลระดับกลางนี่โตช้าลงนิดหน่อยตามที่คาดไว้เลยอยู่หรอก แต่ถ้าเทียบกับคนปกติแล้วก็ถือว่าโตขึ้นแบบพรวดๆเลยล่ะน้าา ………ทั้งที่ <<ซินเดอเรลล่าเกรย์>> ยังเป็น Lv1 อยู่เลยแท้ๆ ”

 

สกิลนั้นหากอัพแรงก์ขึ้นมาเป็นระดับกลาง ระดับสูงแล้ว การจะยกระดับความชำนาญมันก็จะยิ่งยากลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ

ครอสเองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นจากกรณีดังกล่าว การเติบโตของสกิลระดับกลางที่ปรากฎขึ้นมาเริ่มที่จะช้าขึ้นเล็กน้อยก็จริง แต่นั่นมันก็เมื่อเอาไปเปรียบเทียบกับการเติบโตของสกิลระดับต่ำเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงในฐานะของ <<ไร้อาชีพ>> อันเป็นอาชีพที่สุดกากสุดกระจอกที่สุดเลย แม้กระทั่งความเร็วการเติบโตสกิลของเหล่าอาชีพทั่วไปนั้นก็ไม่อาจเทียบชั้นติดเลยซักนิด Lv ของครอสมันพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆด้วยความเร็วระดับนั้นเลยเชียวล่ะ

ยูนีคสกิลซึ่งมีอำนาจในการเร้าการเติบโตของสกิล พลังประหลาดที่ไม่เคยมีใครหน้าไหนพบเห็นเจอะเจอมาก่อน—- <<ซินเดอเรลล่าเกรย์>> (ความโหยหาของผู้ไม่มี)

เจอะเข้ากับอำนาจอันแสนมากล้นที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้นั่นแล้ว แม้แต่ทั้งสามคนที่เป็นถึงนักผจญภัยระดับ S ที่แกร่งสุดในโลกก็ยังถึงกับต้องตาเหลือก

——–แต่เอ้อ ถ้าครอสจะช่วยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆแบบนี้ก็ยิ่งเข้าทางพวกตนเลย

หากจะช่วยให้ศิษย์รักอย่างครอสที่แค่ตอนนี้ก็น่ารักมากมายอยู่แล้ว เติบโตขึ้นมาเป็นสามีในอนาคตที่เหมาะสมคู่ควรกับพวกตนได้แล้วละก็ จะอะไรก็ไม่ใช่ปัญหาทั้งนั้น

และเหตุผลอีกอย่างที่ทำให้ต้องแกร่งขึ้นให้ได้โดยเร็วมากที่สุด

ก็คือความเป็นจริงที่เด็กหนุ่มคนนี้เข้าท้าประลองกับขุนนางท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั้งเมืองต่างจับตามอง และเอาชนะคว้าชัยมาได้ในฐานะกำลังรบหลักของปาร์ตี้นี่แหละ

เพราะวีรกรรมที่สามัญชน <<ไร้อาชีพ>> ไม่น่าจะสามารถทำได้นั่น มันจะต้องทำให้ครอสที่โดดเด่นขึ้นมาขวางหูขวางตา ถูกเฝ้าหมายหัวโดยบุคคลมากมายอย่างแน่นอนเลยยังไงล่ะ  

 

 

เมืองบัสเคิลเบียร์ในตอนนี้ กำลังมีหัวข้อสนทนานึงเป็นที่ฮือฮากันอยู่อย่างกว้างขวาง

นั่นก็คือเรื่องที่ว่า ปาร์ตี้เด็กกำพร้าที่ถูกขุนนางหาเรื่องนั้นได้ทำการฟาดพวกขุนนางกลับจนราบคาบเละเทะเลยนั่นเอง

ตามปกติแล้ว เรื่องที่เหมือนกับยกเมฆกุขึ้นมาเองแบบนี้ มันก็คงจะไม่ถูกเชื่อถือกันง่ายๆนักหรอก

แต่เพราะการทะเลาะวิวาทในครั้งนี้ได้ถูกยอมรับให้เป็นการท้าประลองแบบทางการ ก็เลยเป็นที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายตั้งแต่ก่อนจะทันได้เริ่ม ฉะนั้นจึงไม่มีเนื้อที่ให้ฉงนสงสัยในผลการแพ้ชนะนั่นเลยแม้แต่น้อยนิด

ผนวกกับที่เหล่าพรรคขุนนางซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นดั่งศัตรูของกองกำลังที่แคทลียา ริชมอนด์สังกัดอยู่ พลันเห็นว่า “นี่คือโอกาสดี” แล้วทำการปั่นกระแสความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปของเธออย่างยิ่งใหญ่ เรื่องมันก็เลยถูกแพร่กระจายไปสู่เหล่าประชาชนอย่างกว้างขวาง และถูกคุยเป็นที่สนุกปากกันอย่างยาวนานยิ่งเลยทีเดียว

 

 

“ ………เบื้องต้นนี้ คือรายละเอียดโดยรวมที่นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของท่านแคทลียาค่ะ ”

 

ณ ห้องของคฤหาสน์แห่งหนึ่ง ที่ถูกประดับประดาเอาไว้ด้วยเครื่องตกแต่งแสนหรูหรา

สตรีที่สวมใส่เครื่องแต่งกายซึ่งราวกับแฝงตัวอยู่ภายในเงามืดผู้หนึ่ง ได้ทำการกล่าวผลลัพธ์การสืบสวนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดูฟังเป็นทางการ

และผู้ที่รับฟังผลลัพธ์ดังกล่าวอยู่อย่างเงียบเชียบ ก็คือชายหนุ่มที่น่าจะมีอายุราวซัก 19 ปี

โฉมหน้าอันงามสง่าและบรรยากาศอันเฉียบแหลมที่สร้างความกดดันให้แก่ผู้คนโดยรอบ

จิตอันแรงกล้าที่ทำให้เขาขึ้นมาเป็นเจ้าของคฤหาสน์แสนหรูหราแห่งนี้ได้ตั้งแต่ยังหนุ่มนั้นได้แสดงตัวออกมาให้สามารถเห็นได้จากใบหน้า ความมั่นใจที่ต่อให้ว่าจะเกิดเหตุเช่นใดขึ้นแต่ก็จะไม่มีสั่นคลอนหวั่นไหวได้แล่นเปี่ยมล้นอยู่ทั่วกาย

แต่ตัวเขาในตอนนี้ที่ได้รับฟังคำรายงานจากผู้ติดตามหญิงเข้าไปแล้ว กลับกำลังบิดทำให้โครงหน้านั่นถึงกับเบี้ยวอย่างหมดสภาพเลยทีเดียว

 

“ ไอ้เจ้าความอัปยศของพรรคดิออสเกรฟเอ๊ย……..! ”

 

สำรอกคำพูดออกมาอย่างหงุดหงิด

แล้วจากนั้น ชายหนุ่มก็หันหน้ามองตรงไปยังผู้ติดตามหญิง  

 

“ นังเซ่อแคทลียานั่นฉันผู้นี้จะเป็นคนลงทัณฑ์มันด้วยมือตัวเองเลย พวกแกน่ะไปทำการสืบค้นข้อมูลของเหล่าเด็กกำพร้าที่โค่นแคทลียามาซะ โดยเฉพาะ ชายคนที่ดาเรียสพูดเอาไว้——เจ้าเด็ก <<ไร้อาชีพ>> ที่มีอิทธิพลต่อผลแพ้ชนะของการประลองครั้งนี้อย่างใหญ่หลวงนั่น ไปสืบมาเอาให้รู้อย่างละเอียดถี่ยิบเลย ”

 

อันดับ 4 ของพรรคดิออสเกรฟ——-กิมเล็ต วัลด์เรีย

พอชายหนุ่มผู้ถูกเรียกขานว่าเป็นขุนนางระดับสูงเร่งเสียงสั่งการผู้ติดตามหญิงอย่างเฉียบขาดแล้ว เขาก็เพ่งสายตาอันเปี่ยมล้นไว้ด้วยจิตมุ่งร้ายตรงไปสู่เด็กหนุ่ม <<ไร้อาชีพ>> ที่ตนยังไม่เคยได้พบหน้า  

 

<<จบเล่ม 2>>

 

 

จบกันไปอีกเล่ม ผมคนแปลเรื่องนี้เองครับ

เท่านี้ก็ถือว่าทันต้นฉบับแล้ว ฉะนั้นคาดว่าต้องรอกันไปซักพักใหญ่ๆเลยครับกว่าเล่มสามจะมา 

แต่ที่น่ายินดี คือเรื่องนี้ประกาศทำมังงะแล้ว! คาดว่าจะออกตอนแรกได้ราวๆเดือนเมษา – พฤษภาปีนี้ครับ ไฮป์มาก ตั้งตารอฉากน่ารักๆของครอสคุงในเวอร์ชั่นมังงะ ขอให้ได้คนวาดเทพๆด้วยนะเอ้อ!

ก็ ราวๆนั้น ขอบคุณที่ติดตามมาจนถึงตรงนี้ครับ 

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset