เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย – ตอนที่ 57 เทศกาลวิวาท (1)

ผ่านมาได้สองเดือนแล้ว ตั้งแต่ที่ถูกเหล่าอาจารย์ซึ่งเป็นสุดแกร่งของโลกเก็บมาเลี้ยง และได้รับการฝึกฝนในฐานะลูกศิษย์ของพวกเค้าเหล่านั้น

ตัวผมที่ก้าวข้ามฟันฝ่าการประลองอันไร้เหตุผลกับขุนนางมาได้ด้วยดี ก็หวนคืนกลับมาสู่วันธรรมดาๆเหมือนดังเช่นเคย

ที่เปิดฉากขึ้นภายในลานนอกบ้านซึ่งกว้างขวางจนเชื่อไม่ลงว่าตั้งอยู่ภายในเมือง ก็คือศึกประลองฝีมือกับคุณลีโอเน่ที่แทบจะกลายเป็นดั่งกิจวัตรประจำวันไปแล้ว

 

“ <<บัฟสมรรถภาพร่างกาย>> ! <<บัฟกำลังดาบระดับกลาง>> ! ”

 

เพื่อจะกลายเป็นนักผจญภัยที่สามารถยืนหยัดปกป้องผู้คนได้มากมาย

และเพื่อจะกลายเป็นนักผจญภัยอย่างเช่นพวกอาจารย์ กับคุณเอลิเซียซึ่งก็คือผู้สืบสายเลือดของผู้กล้าให้ได้แล้ว

ก็ต้องตั้งมั่นทุ่มกำลังทั้งหมดลงไปกับการโจมตีทุกครั้งๆ

 

“ เออนั่นแหละเยี่ยมไปเลยครอส! ถ้างั้นก็ เดี๋ยวฉันจะเร่งอานุภาพของสกิล <<กดดัน>> และใส่แรงเพิ่มเข้าไปอีกหน่อยก็แล้วกันนะ! ”

 

ซู่วว!

 

“ ฮึก! ”

 

ในพริบตาที่คุณลีโอเน่ซึ่งเป็นนักผจญภัยระดับ S แห่งดราโกเนีย (เผ่าเทพมังกร) ปั้นรอยยิ้มอย่างดุร้ายขึ้นมา ร่างกายของผมก็ทวีความหนักอึ้งมากขึ้นกว่าเดิม

คุณลีโอเน่เค้าเร่งพลังของสกิลสายข่มขวัญที่จะทำอีกฝ่ายใจฝ่อให้สูงขึ้นมานั่นเอง

แต่ถึงกระนั้น วิถีดาบของผมก็ไม่ได้รวนคลาดเคลื่อนไปเลย

 

“ ย่าาาาาาาาาาาาาาาา! ”

 

สำหรับผมที่ตื่นเต้นคึกคะนองกับการประลองฝีมืออันแสนสนุกดั่งกับเป็นการร่ายรำแล้ว แม้กระทั่งความหนักหน่วงจาก <<กดดัน>> นั่นก็ยังจะชวนทำให้รู้สึกดียังไงชอบกล

การเคลื่อนไหวก็ไม่ได้หน่วงช้าลงเลย สามารถฟาดฟันคมดาบออกไปอย่างต่อเนื่องได้ดั่งใจเลยเชียวล่ะ

และก็ไม่ได้หมดอยู่แค่นั้น

 

“ ——จักกุมบังเหียนเหนืออำนาจอันท่วมท้น ให้กลายมาเป็นกระสุนปืนใหญ่แห่งเราแล้วปัดเป่ามารศัตรูให้หมดไป—— <<ทริปเปิลวินด์แลนซ์>> ! ”

 

ฟาดดาบประชันกับคุณลีโอเน่ไปพลางทำการประกอบสร้างเวทมนตร์ไปด้วย

แล้วจึงปลดปล่อยเวทลมระดับกลางที่แฝงเร้นไว้ด้วยอานุภาพสูงล้นให้แล่นตรงเข้าไปหาคุณลีโอเน่

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมม!

หอกสายลมที่พัวพันติดกันได้กระแทกเข้าไปกลางร่างกายของคุณลีโอเน่จังๆ

แต่ก็แน่นอนแหละ การโจมตีแค่นี้ทำอะไรคุณลีโอเน่ไม่ได้เลยซักนิดเดียว

 

“ โอ้ ตั้งแต่ที่ผ่านประลองกับไอ้พวกขุนนางมา ระดับความแม่นยำและอานุภาพของเวทมนตร์ก็ยกระดับเลเวลอัพขึ้นมาเยอะเลยนี่หว่า เป็นการโจมตีเวทมนตร์ที่เจ๋งใช้ได้เลยนะ ”

 

คำชื่นชมอย่างตรงไปตรงมาของคุณลีโอเน่ที่ถึงกับยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อตรวจสอบการเติบโตของผมนั่นช่างชวนให้รู้สึกดีใจมาก จนผมเผลอยิ้มแก้มปริขึ้นมา

และอาจารย์อีกคนก็ได้ปรากฎมายืนอยู่เคียงข้างผมที่ยิ้มหน้าบานอยู่แบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

 

“ อืม เริ่มจะชำนาญการทำศึกระยะประชิดพร้อมเอ่ยคำร่ายเวทมนตร์ไปด้วยแล้ว ความสำเร็จในการปฏิบัติจริงจะเป็นตัวเชื่อมโยงไปสู่การมีความมั่นใจและส่งผลให้ความชำนาญเพิ่มสูงได้มากยิ่งขึ้น นับว่าเรามาถูกทางแล้วล่ะ ”

 

ผู้ที่กล่าวเช่นนั้นและร่วมยินดีกับการเติบโตของผมดั่งกับเป็นเรื่องของตนเอง ก็คือนักผจญภัยระดับ S แห่งไฮเอลฟ์ คุณลูด์มิร่านั่นเอง ตามปกติแล้วคุณลูด์มิร่ามักจะง่วนกับการเตรียมมื้อกับข้าวและยาสูตรลับอยู่หลังฉากซะมากหรอก แต่ก็มีวันนี้แหละที่เค้าออกมาร่วมกำกับการประลองฝีมือไปด้วยกัน

 

“ ดีละ ในเมื่อครอสฝึกเอ่ยคำร่ายจนยกระดับความชำนาญได้ขึ้นมาแล้ว ฉันก็จะแสดงเทคนิคหนึ่งให้ดูเป็นตัวอย่างก็แล้วกัน ลีโอเน่ แกมาประมือกับฉันหน่อย ”

“ โอ๊ะ? อะไรกันเฮ้ยลูด์มิร่า จะเอาเรอะ? ”

 

คุณลูด์มิร่ากับคุณลีโอเน่ถอยเว้นระยะห่างออกจากกันนิดหน่อย แล้วจึงหันมาจ้องหน้าสบตากัน

แต่พอเห็นแบบนั้นแล้ว ผมก็เกิดข้อสงสัยนึงขึ้นมา

 

“ อ้าว? อยู่ใกล้แบบนั้นจะดีเหรอครับ? หยั่งกับเป็นตำแหน่งจุดยืนก่อนเริ่มการประลองระหว่างอาชีพระยะประชิดด้วยกันเลยนะนั่น ”

 

ต่อให้คุณลูด์มิร่าจะแข็งแกร่งมากขนาดไหน แต่อีกฝ่ายก็คือคุณลีโอเน่ที่เป็นนักผจญภัยระดับ S เหมือนกันนะ

ต่อให้ยังไงก็เถอะ แต่เริ่มการต่อสู้ในตำแหน่งระยะประชิดแบบนั้นมันจะไม่เสียเปรียบไปหน่อยเหรอ……?

 

“ ไม่มีปัญหา ก่อนหน้านี้ก็เคยพูดไปแล้ว เวทลมนั้นถึงแม้จะบกพร่องด้านอำนาจทำลายล้างแต่ก็มีข้อดีตรงที่ประยุกต์ใช้ได้หลายรูปแบบนี่ละนะ ยกตัวอย่างเช่นแบบนี้—— <<ทะยานหุ้มวายุ>> ”

 

พอคุณลูด์มิร่าฉีกยิ้มขึ้นมาอย่างมั่นใจปุ๊บ เค้าก็หยุดอธิบายไว้แบบพอหอมปากหอมคอแล้วเปิดใช้เวทมนตร์ขึ้นมาทันที

หนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้ผมเอาชนะได้ชัยมาในการประลองกับขุนนาง เวทลมสำหรับใช้เสริมอำนาจการเคลื่อนไหวนั่นเอง

ทว่า——อานุภาพและระดับความแม่นยำนั่น มันกลับต่างชั้นเป็นคนละมิติโดยสมบูรณ์กับอันที่ผมใช้ได้

——วู่ม!

 

“ ฮึก!? ”

 

วายุคลั่งพัดโหมกระหน่ำดั่งกับปัดเป่าทุกสรรพสิ่งให้ลอยปลิว

แล้วพอสังเกตอีกทีร่างของคุณลูด์มิร่าก็หายลับไป เค้าแล่นกระชั้นชิดเข้าไปจ่ออยู่ต่อหน้าคุณลีโอเน่ได้ในชั่วอึดใจเดียวเลย

นั่นก็คือการเร่งความเร็วแบบฉับพลันที่ดั่งกับเป็นอาชีพระยะประชิด หนำซ้ำเวทมนตร์ของคุณลูด์มิร่ายังไม่ได้จบสิ้นอยู่แค่นั้น

 

“ โอร่าา! ”

“ <<ทะยานหุ้มวายุ>> ”

 

บังเกิดสายลมโหมกระหน่ำซ้ำอีกรอบอยู่เบื้องหน้าสายตาของคุณลีโอเน่ที่ฟาดอาวุธเข้ามา

ในจังหวะเดียวกับที่ทัศนวิสัยของคุณลีโอเน่ถูกปกปิดโดยฝุ่นทราย ร่างกายของคุณลูด์มิร่าที่หลบการโจมตีได้เพราะการเคลื่อนไหวความเร็วสูงด้วยสายลมก็ลอยทะยานขึ้นไปยังท้องฟ้าสูงในชั่วพริบตา

และแล้วคุณลูด์มิร่าซึ่งเข้ามาอยู่ในตำแหน่งที่เป็นจุดบอดของคุณลีโอเน่ ก็ทำการพลิกกลับตัวด้วยความเร็วสูงโดยที่มีสายลมดันหนุนหลัง ใช้ประโยชน์จากแม้กระทั่งความเร็วของการร่วงลงมาเพื่อกระแทกกระทั้นอัดคทาที่ถืออยู่ในมือเข้าไปใส่คุณลีโอเน่ด้วยสปีดมหาศาล

 

(อย่าบอกนะว่า คุณลีโอเน่จะพลาดท่าถูกโจมตีงั้นเหรอ!?)

 

และ ในพริบตาให้หลังจากที่ผมเบิกตาโพลง

ตู้มมมมมมมมมมมมมมมม!

 

“ อุว๊าาาาาาาาาาาาาาา!? ”

 

คุณลีโอเน่ตั้งการ์ดป้องกันการโจมตีของคุณลูด์มิร่าเอาไว้ได้แบบฉิวเฉียด

 

 

ผมถูกคลื่นกระแทกอันแสนหนักหน่วงเป่าลอยปลิวกระเด็นไปพลาง อึ้งค้างพูดอะไรไม่ออก

 

(นะ นี่มันอะไรกันน่ะ……!? ถึงแม้จะได้ผลออกมาว่าโจมตีไม่เข้า แต่คุณลูด์มิร่าที่เป็นอาชีพเวทมนตร์กลับสู้ศึกระยะประชิดกับคุณลีโอเน่ที่เป็นอาชีพนักรบได้อย่างสูสีเฉยเลย!?)

 

ทั้งสองฝ่ายก็ไม่ได้ใช้สกิลออกมาเต็มที่ซะหน่อย ฉะนั้นก็คงไม่ได้สู้กันแบบจริงจังหรอก……แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงเป็นภาพที่ผิดแผกแหวกสามัญสำนึกเหลือเกิน คอนเซ็ปต์ของ <<คลาส>> พังป่นปี้หมดแล้ว……

 

“ ฮื่ม เอาเป็นว่าแสดงตัวอย่างประมาณนี้ก่อนก็แล้วกัน ”

 

ในระหว่างที่ผมกำลังตกตะลึงมึนตึ๊บอยู่กับความแหวกสามัญสำนึกของพวกอาจารย์ คุณลูด์มิร่าที่ทำการประลองฝีมือเสร็จสิ้นก็ลงมาอยู่เคียงข้างผมแล้วกล่าวราวกับเล็คเชอร์ให้ฟัง

 

“ อย่างที่ได้เห็นไป การเสริมอำนาจการเคลื่อนไหวด้วยเวทลมมันคือเทคนิคแสนทรงพลังที่จะเฉิดฉายในศึกระยะประชิดได้ด้วย การต่อสู้ที่ฉันแสดงให้ดูเมื่อครู่นี้อาจจะถือว่ายากหากยังไม่ได้อยู่ในระดับที่ใช้เวทได้โดยไม่ต้องเอ่ยคำร่ายก็จริงหรอก แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าจะถือเป็นตัวอย่างอ้างอิงแก่เธอที่ใช้สกิลของ <<คลาส>> ได้หลากหลายแบบเหมือนกัน มาฝึกฝนยกระดับสกิลเวทมนตร์ไปพร้อมกับสกิลระยะประชิด เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ทั่วทุกรูปแบบกันเถอะ ”

“ ……ฮึก ครับ! ”

 

ไม่บอกปัดปฎิเสธ <<ไร้อาชีพ>> ที่ถูกเลื่องลือว่าอ่อนแอสุดในปฐพี แต่ช่วยฝึกฝนยกระดับให้โดยใช้ประโยชน์จากเอกลักษณ์เด่น

ผมซาบซึ้งอีกครั้งกับการฝึกวิชาที่ตรงจุดแบบสุดขั้วของพวกอาจารย์ แล้วจึงทุ่มเทกายใจลงไปกับการฝึกฝนสุดตัวอีกคราในวันนี้

 

 

 

“ ฟู่ว ใช้สกิลมากเกินไปจนพลังเวทหมดเกลี้ยงเลย……คุณเทโลเมียร์ครับ ขอ <<ถ่ายโอนพลังเวท>> หน่อยครับ! ”

 

ผมที่สู้ประลองฝีมือไปได้ระดับนึง ถึงกับโซซัดโซเซไปพลางเดินตรงเข้าไปหาอาจารย์คนที่สาม

คุณเทโลเมียร์ ,โนไลฟ์คิง (เผ่าดูดเลือดระดับสูงสุด) ที่เป็นนักผจญภัยระดับ S เช่นเดียวกับพวกคุณลีโอเน่นั่นเอง

<<ถ่ายโอนพลังเวท>> ที่คุณเทโลเมียร์ซึ่งเป็น <<ดาร์คพรีสไฮเอนด์>> (ผู้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์สายมารขั้นวันสิ้นโลกา) มีอยู่ในครอบครองนั่นก็ตรงตามชื่อ เป็นสกิลที่จะส่งต่อพลังเวทไปให้กับผู้อื่นได้ล่ะ

ตามปกติแล้ว คนเราจะมีข้อจำกัดด้านปริมาณพลังเวท ทำให้จำนวนครั้งที่สามารถฝึกฝนสกิลได้ต่อวันมีจำกัดหรอกนะ แต่เพราะได้คุณเทโลเมียร์ที่มีพลังเวทไร้สิ้นสุดกับ <<ถ่ายโอนพลังเวท>> อยู่ในครอบครอง ข้อจำกัดนั้นก็เลยสลายหายวับไปกับตา ส่งผลให้ทำการฝึกปรือสกิลได้เต็มเหนี่ยวดังใจหวังเลยทีเดียว ที่ <<ไร้อาชีพ>> อย่างผมสามารถเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ได้ภายในระยะเวลาสั้นๆนี้ นอกจากจะเป็นเพราะได้รับการฝึกสอนอย่างตรงจุดจากพวกอาจารย์แล้ว ส่วนใหญ่เลยก็เป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากสกิลสุดโกงนี่ด้วยแหละ

เพราะแบบนั้นผมก็เลยเดินมาขอร้องให้คุณเทโลเมียร์ช่วยแบ่งปันพลังเวทดังเช่นเคยหรอกนะ——

 

“ ……นี่ครอสคุง ช่วยส่งสเตตัสเพลทมาให้ดูแค่เดี๊ย~วเดียวเท่านั้นได้มั้ยอ่าาา~ ”

“ เอ๊ะ? อ่าครับ ได้แน่นอนเลยครับ ”

 

จู่ๆคุณเทโลเมียร์ก็พูดใส่เข้ามาแบบนั้น เล่นทำเอางงไปเลย

แต่ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องปฎิเสธเลยหยิบเอาสเตตัสเพลทออกมา มีสกิลของผมที่เติบโตผ่านการประลองและการแข่งปราบปรามสไลม์ปุกปุยจากเมื่อวันก่อนถูกแสดงไว้อยู่ตรงนั้น

 

 

ชื่อประจำตัว : ครอส  อาราเกาท์  เผ่าพันธุ์ : ฮิวแมน  อายุ : 14 ปี

คลาส : ไร้อาชีพ

เลเวล : 0

กำลัง : 0  ป้องกัน : 0  ป้องกันเวท : 0  ความว่องไว : 0

(พลังเวทโจมตี : 0  พลังเวทพิเศษ : 0  พลังเวทแปรรูป : 0  ความฉลาด : 0)

 

<<เสริมกำลัง II Lv1 (+88)>>  <<เสริมป้องกัน II Lv1 (+94)>>

<<เสริมความว่องไว II Lv4  (+116)>> <<เสริมพลังเวทโจมตี II Lv4  (+116)>>

<<เสริมพลังเวทพิเศษ Lv5  (+45)>> <<เสริมป้องกันเวท Lv2  (+15)>>

<<บัฟกำลังดาบระดับกลาง Lv1>> <<บัฟสมรรถภาพร่างกาย (กลาง) Lv4>>

<<หลบหลีกฉุกเฉิน II Lv2>> <<เคลือบแข็งร่างกาย (เล็ก) Lv9>>

<<ทริปเปิลวินด์แลนซ์ Lv5>> <<ทะยานหุ้มวายุ Lv3>>

<<ควบคุมพลังเวทนอกร่าง Lv7>> <<ตรวจจับพลังเวทนอกร่าง Lv7>>

<<ควบคุมพลังเวทในร่าง Lv6>>  <<ตรวจจับพลังเวทในร่าง Lv6>>

<<ครอสเคาน์เตอร์ระดับกลาง Lv1>>  <<การ์ดเอาท์ Lv5>>

<<อีจิสช็อต Lv1>>

 

 

สกิลระดับต่ำจำนวนนึงได้เติบโตเกินเลเวล 10 จนแตกตัวกลายเป็นสกิลระดับกลางขึ้นมาใหม่

เป็นหน้าชี้แจงที่ดูไม่เหมือนกับว่าเมื่อสองเดือนก่อนหน้ายังมีสกิลเป็น 0 อยู่เลย ต่อให้จะดูซักกี่ครั้งแต่ก็ยังทำใจเชื่อไม่ลงเลยซักนิด เผลอตัวยิ้มแก้มบานขึ้นมาอีกจนได้

 

(จะทั้งเรื่องนี้หรือเรื่องไหนๆ ก็เป็นเพราะได้พวกอาจารย์ช่วยไว้แท้ๆเลย)

 

และ เป็นในจังหวะที่ผมซาบซึ้งบุญคุณของพวกอาจารย์ซ้ำอีกรอบ พร้อมกับส่องมองสเตตัสเพลทอยู่ด้วยกันกับคุณเทโลเมียร์นั่นเอง

 

“ ……แล้ว ”

 

ที่คุณเทโลเมียร์พึมพำอะไรซักอย่างออกมาเสียงค่อย

ทว่าในพริบตาถัดมานั่นเลย

 

“ โอ้ยทนไม่ไหวแล้ววววววววววว~~! ”

 

จู่ๆคุณเทโลเมียร์ก็แผดเสียงร้องดังลั่นจนผมถึงกับสะดุ้ง

 

“ สกิลที่ฉันสอนให้มีแค่ <<การ์ดเอาท์>> เท่านั้นเองง่าา แบบนี้มันไม่ยุติธรรมชัดๆแล้วน้าา~! ”

“ เดี๋ยว คุณเทโลเมียร์ครับ!? จู่ๆเป็นอะไรไปครับ!? ”

 

คุณเทโลเมียร์ที่เป็นนักผจญภัยระดับสุดแกร่งของโลกเค้าเหวี่ยงหมัดไปมาหยั่งกับเด็กๆ แล้วจึงแผดเสียงตะโกนกร้าวราวกับปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นตันใจอยู่เสมอให้หลุดรั่วออกมา

พอผมกำลังแตกตื่นลนลานกับท่าทางที่เกินเข้าใจนั่นอยู่ พวกคุณลีโอเน่ก็พลันสังเกตทราบถึงความโกลาหล

 

“ อ๋า? โวยวายอะไรของหล่อนน่ะเทโลเมียร์ คืนชีพจากตายบ่อยจัดจนในที่สุดก็เป็นบ้าไปจริงๆแล้วเรอะ? ”

“ ไม่ใช่น้าา~ เจ้านี่ต่างหากล่าา~! ”

 

ได้ยินคำพูดหยอกล้อของคุณลีโอเน่แล้ว คุณเทโลเมียร์ก็ยกเอาสเตตัสเพลทของผมชูขึ้นฟ้าแล้วตะโกนลั่น

 

“ ติดใจมาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วหรอก ตั้งแต่ที่รับครอสคุงมาเป็นศิษย์นี่ก็ผ่านไปได้ซักระยะนึงแล้วแท้ๆ แต่มีสกิลที่ฉันเป็นคนสอนให้แค่อย่างเดียวเนี่ยมันแปลกชัดๆแล้วไม่ใช่เหรออ~!? เหมือนกับว่าครอสคุงกำลังถูกย้อมให้กลายเป็นของทั้งสองคนเลยไม่สบอารมณ์อย่างแรง~ ถ้าไม่เริ่มให้ทำการฝึกวิชาของฉันบ้างมันก็จะไม่ยุติธรรมน้าา~ ”

“ อ๋า? แต่หล่อนก็ตามติดมาร่วมแจมร่วมเผือกในการฝึกวิชาทั้งของฉันกับของนังลูด์มิร่า แล้วก็มีโอกาสได้แตะเนื้อสัมผัสตัวกับครอสมากที่สุดเลยไม่ใช่เรอะเฮ้ย อดทนไปเหอะซักพักใหญ่ๆเลย ……ลำพังแค่นี้ก็โดนนังลูด์มิร่ามันฮุบเวลาฝึกไปเยอะแล้ว เรื่องอะไรจะยอมถูกแย่งเวลาที่ได้อยู่กับครอสไปอีกฟะ ”

“ จริงอย่างที่ลีโอเน่ว่านั่นล่ะ แกน่ะอยู่นิ่งๆอย่าจุ้นไปซักพักใหญ่ๆเสียเถอะ ……อุตส่าห์แย่งเวลาฝึกมาจากลีโอเน่ได้ ไม่มีทางยอมให้ถูกลดหายไปอย่างกะทันหันเด็ดขาด ”

 

คุณลีโอเน่กับคุณลูด์มิร่าส่งเสียงคัดค้านข้อเสนอของคุณเทโลเมียร์หัวชนฝา

แต่คุณเทโลเมียร์ก็หรี่ตาลงราวกับว่าคาดการณ์ถึงข้อโต้แย้งแบบนั้นเอาไว้แล้ว

 

“ ถึงจะพูดแบบนั้น~ แต่ถ้าครอสคุงเกิดบาดเจ็บหนักในตอนที่อยู่ตัวคนเดียวขึ้นมาอีกล่ะจะทำยังไงหืออ~? โพชั่นก็มีจำกัดด้วย จะขาดสกิลฟื้นฟูของผู้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์สายมารไปไม่ได้เลยน้าา~? ”

“ อุ้ก ”

“ …จริงอยู่ ในตอนที่ได้ยินว่าหลังจากสู้กับ ริสก์ 4 แล้วเดินฝ่าออกมาจากป่าในสภาพที่ยังบาดเจ็บหนักทั้งอย่างนั้นนี่ก็เล่นทำเอาใจเสียววาบไปเลยเหมือนกันหรอก…… ”

“ งั้นก็ตกลงกันได้แล้วน้าา~ ถ้าจะให้ความสำคัญกับชีวิตของครอสคุง ก็จำเป็นต้องสอนสกิลของผู้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์สายมารให้สถานเดียวเท่านั้นแล้วเน้ออ~ ”

 

และแล้ว คุณเทโลเมียร์ก็ยุติปิดฉากการโต้เถียงลงได้ในรวดเดียวด้วยเหตุนั้นเอง

 

 

 

“ ก็ตามนั้นแหละ ตั้งแต่วันนี้ไปเราจะทำการฝึกโดยที่มีฉันเป็นศูนย์กลางน้าา~ จะสอนให้ครอสคุงได้รับเวทฟื้นฟูล่าา~ ”

“ เวทฟื้นฟู……! ”

 

จู่ๆแนวทางการฝึกในภายหลังจากนี้ก็ถูกตัดสินเสร็จสรรพในระหว่างที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก เล่นทำเอาผมถึงกับสับสนมึนตึ๊บไปเลยหรอก แต่พอได้ยินว่าจะทำการเรียนให้ได้เวทฟื้นฟูแล้วตามันก็ส่องประกายออกมาเอง

นั่นก็คือพลังปาฏิหาริย์ที่สามารถใช้เยียวยาบาดแผลและช่วยเหลือชีวิต

สำหรับผมที่หลงใหลอยากเป็นนักผจญภัยที่ช่วยเหลือผู้คนได้แล้ว นับว่าเป็นสกิลที่อยากจะได้มาครองอย่างยิ่งเลยเชียว

แต่ในระหว่างที่ผมกำลังฮึกเหิมไฟลุกโชน คุณลีโอเน่กับคุณลูด์มิร่าก็ก้าวกระชั้นชิดเข้าไปใกล้คุณเทโลเมียร์เพราะทำไมก็ไม่รู้

 

“ เฮ้ยเทโลเมียร์ ที่หล่อนพูดมันก็มีเหตุผลจริงเลยเห็นพ้องกับการเรียนสกิลฟื้นฟูเหมือนกันหรอก แต่อย่าได้คิดจะแอบฉวยโอกาสจากการฝึกเพื่อทำอะไรพิลึกๆใส่ครอสเชียวนะเฟ้ย……! ”

“ แกเคยมีคดีที่พาครอสไปยังร้านอนาจารไม่เหมาะไม่ควรอยู่ด้วย ถ้าแสดงท่วงท่าน่าสงสัยขึ้นมาละก็จะเผาทิ้งมันตรงนั้นเลย ”

“ รู้แล้วแหละน่าา~ ฉันเองก็อายเป็นเหมือนกันนะ แล้วก็ไม่ได้จ้องคิดแต่จะทำเรื่องพวกนั้นอยู่เรื่อยซะหน่อยอ้าา~ เอ้าจ้ะครอสคุง ก่อนอื่นก็ลองสอดมือเข้าไปใน ตรงนี้ ของฉันดูดีมั้ย~ ”

“ เอ๊ะ!? เดี๋ยว คุณเทโลเมียร์ครับ!? ”

 

การกระทำของคุณเทโลเมียร์ที่ยิ้มร่าดังฮี่~~~ นั่นเล่นเอาผมตะลึงงันไปเลย

ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะคุณเทโลเมียร์เค้าฉุดมือผม แล้วลากให้มือล้วงเข้าไปยัง ภายใต้เสื้อของตนเอง ทั้งอย่างนั้นเลยยังไงล่ะ

 

 

แน่นอน ข้างใต้เสื้อนี่คือเปลือยเปล่า

ผิวกายอับอวบอิ่มของคุณเทโลเมียร์ที่มักจะถูกปกปิดอยู่โดยเสื้อที่สวมใส่สบายนั่นมันชนเข้ากับปลายนิ้ว ทำเอาหัวขาวโพลนไปหมด แล้วก็ไม่ได้มีแค่นั้น อุณหภูมิร่างกายกับอุณหภูมิความชื้นที่ร้อนรุ่มอยู่ภายในเสื้อมันยังจะห่อหุ้มรอบมือเกิดเป็นสัมผัสที่สุดจะลามกเกินบรรยาย ย้อมให้หน้าผมกลายเป็นสีแดงแจ๋ขึ้นมาได้ในทันตา

เอ๊ะ เดี๋ยวนะ นี่มันคือการฝึกวิชาเพื่อให้ได้เวทฟื้นฟูจริงเหรอ!? เป็นในระหว่างที่ผมกำลังแตกตื่นอยู่แบบนั้น

 

“ เอ้ย อีนังง่าววววววววววววววววววววววว!? ”

“ มิกย๊าาาาาาาาาาาาาาาาา!? ”

 

จู่ๆคุณเทโลเมียร์ที่กำลังฉุดมือผมให้ล้วงเข้าไปในเสื้อ ก็ถูกคุณลีโอเน่ต่อยลอยลิ่วปลิวกระเด็นไปเฉยเลย!?

 

“ นังสารเลวเทโลเมียร์! ไหงจู่ๆถึงทำอะไรเหมือน……ละ เล้าโลมแบบนั้นกันห้ะ!? แถมยังเล่นแบบจะๆต่อหน้าสายตาพวกเราด้วยอีกตะหากเรียกได้ว่าหล่อนใจกล้าดีนี่หว่า!? สมองเอ๋อไปแล้วเรอะเฮ้ย!? ”

“ หากเป็นฝ่ายแตะต้องตัวเขาก็ยังพอทำเนาแต่เล่นให้เขาเอามือแตะตัวเสียเองนี่คิดอะไรของแกอยู่กัน! ไม่รู้จักความพอประมาณเลยหรืออย่างไรกันหือนังร่านเอ๊ย! ”

 

คุณลีโอเน่กับคุณลูด์มิร่าที่หน้าแดงแจ๋ต่างก็แผดเสียงตะโกนกร้าว แล้วจึงวิ่งแล่นไปหมายจะโจมตีซ้ำเข้าใส่คุณเทโลเมียร์ แต่ก่อนที่จะทันได้โจมตี คุณเทโลเมียร์ก็ชิงลุกกลับขึ้นมาก่อน

 

“ เจ็บง่าา~ นิสัยไม่ดีเลยนะทั้งสองคนเนี่ย ทั้งที่นี่เป็นการฝึกที่ได้ผลชัดเจนเลยแท้ๆน้าา~ ”

 

คุณเทโลเมียร์ฟื้นสภาพบาดแผลบนร่างกายและเสื้อผ้าให้กลับมาดีเหมือนใหม่ภายในชั่วพริบตาไปพลางกล่าวต่อออกมา

 

“ ร่างกายของสิ่งมีชีวิตจะถูกเสริมอยู่ด้วยพลังเวทใช่มั้ยล่าา~ เวทฟื้นฟูคือสกิลที่จะกระตุ้นให้พลังเวทภายในร่างเหล่านั้นมันตื่นตัวทำงานขึ้นมา ดังนั้นจึงมีความจำเป็นยิ่งที่จะต้องเข้าใจโครงสร้างของร่างกายและการไหลเวียนของพลังเวทภายในร่างตนเองและผู้อื่นไงละน้าา~ ”

“ ถึงงั้นก็เหอะ แต่ที่หล่อนทำนั่นมัน……! ”

“ ก็ช่วยไม่ได้นี่~ เพื่อที่จะให้เกิดความเข้าใจในโครงสร้างร่างกายและการไหลเวียนของพลังเวทแล้ว ต้องทำการแตะต้องสัมผัสตัวกับผู้ใช้เวทฟื้นฟูอย่างถึงไหนถึงกันไปพลางปล่อยให้พลังเวทไหลเวียนเป็นวงจรนั่นแหละนะถึงจะได้ประสิทธิภาพดีที่หนึ่งเล้ยย~ นี่แหละคือวิธีการฝึกที่แม้แต่ทางโบสถ์ก็ยังแนะนำให้ใช้ กล่าวคือเป็นขั้นตอนการรักษาที่ถูกต้องแน่นอนเลยยังไงล่าา คนที่โกรธโวยวายบอกว่าลามกนั่นต่างหากนะที่ลามก~ ”

““ อุ ขุ่ก…… ””

 

คำชี้แจงของคุณเทโลเมียร์ เล่นทำเอาคุณลีโอเน่กับคุณลูด์มิร่าถึงกับเงียบกริบเถียงไม่ออก

พอได้เห็นแบบนั้นแล้วคุณเทโลเมียร์ก็แสยะยิ้ม

 

“ เอ้อ ถึงแม้ที่โบสถ์นี่เค้าจะบังคับให้ทำการฝึกกับเพศเดียวกันเท่านั้นหรอกนะ แต่ก็ไม่ได้โกหกซะหน่อยนี่เนอะ ……งั้นก็ครอสคุง ในระหว่างที่แตะต้องสัมผัสตัว เราก็มาเรียนรู้สัมผัสในตอนเปิดใช้งานเวทฟื้นฟูกันไปด้วยเลยดีกว่าเนอะ ”

“ เอ๊ะ เดี๋ยวสิ คุณเทโลเมียร์ครับ ตะกี้พึมพำอะไรเบาๆอยู่รึเปล่า……ให้ว่าแล้วมันน่าอายนิดหน่อยเหมือนกันฉะนั้นได้โปรดช่วยเพลาๆ——ว๊าาาาาาาาาาาาาา!? ”

 

ว่วบ!

ขอร้องอย่างสุดชีวิตไปก็ไม่เป็นผล มือของผมถูกฉุดให้ล้วงลึกเข้าไปข้างในเสื้อของคุณเทโลเมียร์เข้าอีกครั้ง

แถมคราวนี้ยังมีพลังเวทอันอบอุ่นของคุณเทโลเมียร์ไหลเวียนเข้ามาในร่างในจังหวะเดียวกันอีกด้วย ถูกกระแทกสัมผัสในตอนเปิดใช้เวทฟื้นฟูให้กันแบบตรงๆเลย

 

“ อุ คู้วว……! ”

 

ความรู้สึกนั่นมันชวนให้จั๊กจี้แล้วก็รู้สึกดียังไงพิกล ทำเอาผมเอี้ยวบิดตัวสุดชีวิตเพื่อพยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้มีเสียงแปลกๆเล็ดออกมา สัมผัสเรือนร่างของคุณเทโลเมียร์ที่แตะอยู่กับปลายนิ้วมันก็ผสานร่วมด้วย ส่งผลให้ทั่วร่างร้อนจี๋ไปหมด หัวใจเต้นถี่ระรัวจนแทบจะปริขาดอยู่แล้ว

 

“ อ๊ะ……อะ อาจจะท่าไม่ดีนิดหน่อยแล้วละมั้งเนี่ย~ พอเห็นครอสคุงบิดตัวดิ้นอยู่ในอ้อมแขนของฉันเข้าแล้วร่างกายมันก็ร้อนผ่าวคันยิกขึ้นมา……ถะ ถ้าลดมือลงไปต่ำกว่านี้อีกแค่หน่อยเดียวก็คงไม่เป็นไร……แฮ่กก แฮ่กก……❤ ”

 

คุณเทโลเมียร์!? จะ จะให้สอดมือลงไปถึงตรงนั้นนี่มันเกินเหตุไปแล้วนะครับ……!?

 

“ เฮ้ยยเทโลเมียร์! นี่หล่อนยัยเพิ้งที่ทำนั่นมันคือวิธีฝึกที่ถูกสอนกันในโบสถ์จริงๆน่ะเรอะ!? ”

“ ตะ ต่อให้จะอย่างไรแต่ก็จะยอมให้แกทำมากไปกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ……!? ”

 

คุณลีโอเน่กับคุณลูด์มิร่าพยายามจะแหวกเข้ามาขวางกลางระหว่างผมกับคุณเทโลเมียร์อีกครั้ง

แต่

 

“ ไม่เป็นไรจ้าไม่เป็นไร ฉันไม่ได้จะให้แตะไปจนถึงจุดน่าอายจริงๆหรอกน้าา แต่เวทฟื้นฟูในคราวนี้นอกจากจะเพื่อปกป้องชีวิตของครอสคุงแล้ว ยังถือเป็นสกิลสำคัญที่จะสร้างรากฐานการต่อสู้ในฐานะผู้ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์สายมารด้วยยังไงล่าา ดังนั้นก็เลยจะทำอะไรครึ่งๆกลางๆไม่ได้เด็ดขาดเลยน่ะน้าา~ ”

“ เอ้อมันก็จริงอยู่หรอกนะเฮ้ย……! ”

“ แต่คิดว่าเราจะยอมให้แกได้ดำเนินการฝึกสุดบัดสีเช่นนี้อยู่คนเดียวจริงๆน่ะหรือ!? ”

 

ดูเหมือนว่าการอ้างเหตุผล (?) รองรับการกระทำตัวเองของคุณเทโลเมียร์จะเล่นเอาทั้งคุณลีโอเน่และคุณลูด์มิร่าถึงกับผงะคิดแผนโต้กลับไม่ออก ถึงอย่างนั้นแล้วทั้งสองก็ยังคงแผดเสียงโต้แย้งต่อการฝึกวิชาอันเกินเหตุของคุณเทโลเมียร์อย่างต่อเนื่องหรอกนะ……จนท้ายสุด คุณเทโลเมียร์ที่เหมือนจะเซ็งกับสภาวะดังว่าก็โพล่งคำพูดอันน่าตกตะลึงออกมา

 

“ โอ้ย~ ถ้าจะบ่มกันระงมถึงขนาดนั้นน……งั้นพวกลีโอเน่จังจะให้ความร่วมมือด้วยก็ได้น้าา? ร่วมมือในการฝึกให้แตะต้องสัมผัสร่างกายนี้น่ะ~ ”

““ ห้ะ!? ””

“ เอ๊ะ ”

 

คำพูดชวนช็อกของคุณเทโลเมียร์ทำเอาคุณลีโอเน่กับคุณลูด์มิร่าอ้าปากค้าง แล้วก็เล่นเอามีเสียงแปลกๆหลุดรั่วออกมาจากปากของผมด้วย แล้วเท่านั้นแหละคุณเทโลเมียร์ก็ปั้นรอยยิ้ม “หึหึ” ขึ้นมาอย่างนิสัยไม่ดี

 

“ เอ้อ แต่เด็กน้อยใสซื่ออย่างลีโอเน่จังกับไฮเอลฟ์อย่างลูด์มิร่าจังนี่ก็คงไม่มีปัญญาจะทำอะไรแบบนั้นได้แน่นอนแหละเน้ออ~ ”

 

คำพูดยั่วยุนั่นแหละกลายเป็นชนวนสุดท้าย

——ปริ๊ด

ในฉับพลันที่รู้สึกเหมือนกับว่าได้ยินเสียงอะไรบางอย่างปริขาด พวกคุณลีโอเน่เค้าก็ระเบิดบึ้มองค์ลงกันเลยทีเดียว

 

“ อี นังนี่…หล่อนท้าหาเรื่องฉันงั้นสินะเฮ้ยเทโลเมี๊ยย! จัดไปเลยเว้ย จะฝากฝังให้ผู้หญิงห่ารากเฮงซวยอย่างหล่อนมารับช่วงคอยดูแลครอสได้ซะที่ไหนกัน! จะถวายตัวถวายผิวจัดให้แทนก็ได้! ”

“ นังร่านอย่างแกอยู่ไปก็รังแต่จะก่ออิทธิพลไม่ดีต่อการเติบโตของครอสก็เท่านั้น! เห็นทีฉันที่บริสุทธ์ผุดผ่องปราศจากไร้ซึ่งเศษเสี้ยวเจตนาแอบแฝงคนนี้จะต้องยอมอุทิศตนเป็นแท่นฝึกฝนสกิลให้เท่านั้นแล้ว! ”

“ ว๊าาาาาาาาาาาาาาา!? ทุกคนช่วยรอเดี๋ยวก่อนคร้าบบบบบบบบบบบบบ!? ”

 

เหล่าอาจารย์สุดแกร่งของโลกเค้าพยายามจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้หลวมกันด้วยสีหน้าแดงแจ๋

และเสียงร้องของผมที่อึ้งค้างอยู่กับภาพอันสุดจะน่าตะลึง ก็ได้สั่นสะท้านดังกังวานไปทั่วลานนอกบ้านอันกว้างใหญ่เลย  

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย

เหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ย
Status: Ongoing
อ่านนิยายเหล่าอาจารย์หญิงสุดแกร่งที่อยากจะให้ผมเทพเค้าตีกันเรื่องแนวทางการฝึกจนวอดวายหมดแล้วเนี่ยกาลครั้งนึงแต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเมื่อไหร่ ได้มีวีรสตรี 3 คนที่ถูกกล่าวขานล่ำลือกันว่าเป็นตัวตนผู้แข็งแกร่งทรงพลังมากที่สุดในโลกอยู่ครับ ความแข็งแกร่งของพวกเธอนั้นเรียกได้ว่าเป็นระดับเหนือมนุษย์เลยเชียว คนนึงสามารถต่อยขุนเขาให้แหลกกระจุยได้ด้วยหมัดเปล่า คนนึงสามารถเป่าร่างของพลทหารนับหมื่นนายให้ลอยปลิวหายไปได้ด้วยการโจมตีจากเวทมนตร์เพียงครั้งเดียว ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงพิลึกพิลั่นที่เอาเวทฟื้นฟูกับเวทสนับสนุนมาใช้ฆ่าคนได้ เลยกลายเป็นตัวตนที่ถูกหวาดกลัวไปตามระเบียบ แค่เพียงคนเดียวก็โหดพอจะทำให้ประเทศหนึ่งถึงการล่มสลายได้อย่างง่ายดายแล้ว ยิ่งถ้าเหล่าวีรสตรี 3 คนนั้นมาสุมหัวรวมตัวไปไหนมาไหนด้วยกันแล้วนี่คงอาจต้องเรียกว่าเป็นภัยพิบัติเดินได้ การหวนคืนชีพของเทพมาร หรือในบางพื้นที่ก็อาจจะระบุตัวตนของพวกเธอเป็นเทพผู้ชั่วร้ายกันเลยก็เป็นได้…..หากอาศัยใช้งานความแข็งแกร่งนั่นซะอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรก็คงบันดาลให้เป็นดั่งที่ใจพวกเธอต้องการได้เกือบทั้งหมดเลยกระมัง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีสิ่งที่แม้แต่สามคนนั้นเอง ก็ยังไม่อาจได้มาครอบครองอยู่ครับ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset