แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 179 หมั้นหมายหรือว่าแต่งงาน

ธินิดากับพ่อแม่เธอมาถึงคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศ ย่านิ่มดูกระตือรือร้นมากเสียจนไม่เป็นตัวเอง ทำอย่างกับพ่อแท้ๆตัวเองมา

ต้อนรับคนตระกูลยืนนานเข้ามาแล้ว ในบ้านก็มีของอร่อยวางเรียงอยู่เพียบ อาหารเต็มโต๊ะ เป็นอาหารที่ย่านิ่มทำเองทั้งนั้น

“ไอ๊หยา น้ำผึ้ง ดูสิว่าอาหารที่จัดเตรียมไว้ในวันนี้ยังถูกปากไหม? ถ้าไม่ถูกปากละก็ บอกพวกเราได้นะ ครั้งหน้าพวกเราจะได้แก้ไขให้ดีขึ้น” ย่านิ่มจับมือธินิดาไว้และพูดด้วยรอยยิ้ม

“ดีค่ะ ดีมากจริงๆ หนูชอบมากเลยค่ะ” ธินิดาแสดงออกได้อย่างเป็นกันเองและอ่อนโยน ตอนที่เธอพูดนั้นยังไม่ลืมที่จะมองไปที่ชลธี

นิตย์รวีร์ก็ดีใจมาก เขาแอบรักธินิดามาข้างเดียวตลอด ไม่คิดว่าสักวันตัวเองจะได้แต่งงานกับธินิดาจริงๆ

“คุณน่าคะ ย่าดีกับพวกเรามากเลย เตรียมของที่พวกเราชอบกินกันหมดเลยค่ะ” ธินิดาจับมือพ่อแม่ตัวเองให้นั่งลง ปรีณาพรรณกับยชญ์อุดมก็ทักทายทุกคนอย่างเกรงใจ

ชลธีพยุงมุกดานั่งลง ทุกคนก็เริ่มกินข้าวทันที

คนของบ้านรองไม่ได้พูดอะไร แค่กินเรื่อยๆไม่หยุด ยังไงนี่ก็เป็นเรื่องของบ้านใหญ่ พวกเขาก็ไม่มีอะไรให้น่ายินดี แค่มากินเท่านั้น

ชลธีกับมุกดาก็ทำแค่กินข้าวเรื่อยๆ ไม่ได้พูดคุยอะไรกับพวกเขา พวกเขาอยากอยู่เงียบๆ แต่กลับมีคนที่ไม่ชอบให้พวกเขาอยู่เงียบๆ

“ชล ทำไมนายไม่พูดอะไรเลยล่ะ?” ย่านิ่มมองดูชลธี แต่กลับมองค้อนมุกดา

สักแต่กินอย่างเดียวเลย กินแค่กุ้งยังให้สามีแกะเปลือกให้ ไม่มีมารยาทเลยจริงๆ ทำไมถึงไม่ดูแลสามีตัวเองเลยนะ

“เอาที่ทุกคนสบายใจเลยครับ ทุกคนพอใจก็ดีแล้วครับ” ชลธีไม่มีอะไรจะพูดแล้ว ทุกคนเหมือนคนครอบครัวเดียวกัน ทำเหมือนเขากับมุกดาเป็นคนนอกเลย

“ชล นายชอบกินอันนี้นี่” ธินิดาคีบซี่โครงหมูให้ชลธีหนึ่งชิ้น

“อ้อ ไม่ต้องหรอกขอบใจนะ ฉันไม่ชอบกินมันแล้วล่ะ” ชลธีขยับถ้วยตัวเองไปข้างๆ

ธินิดาชะงักมือไว้กลางอากาศ รู้สึกหน้าแตกมาก

“รับไว้เถอะ รับไว้เพื่อน้ำผึ้งหน่อย เร็วสิ” ย่านิ่มรับถ้วยของชลธีมา วางไว้ตรงหน้าธินิดา ให้ธินิดาวางซี่โครงหมูไว้ในถ้วย

ชลธีไม่ได้กินซี่โครงหมูชิ้นนั้น เขารู้ว่ามุกดาชอบกินอาหารทะเล ก็เลยเอาแต่แกะเปลือกกุ้งและปูให้มุกดา ธินิดาที่เห็นแล้วก็อิจฉาตาร้อน

“น้ำผึ้ง เธอกินนี่สิ อันนี้ก็อร่อยนะ” นัตย์รวีร์แกะกุ้งให้ธินิดา ธินิดายิ้มให้กับเขา และพูดขอบคุณ จากนั้นก็กินกุ้งที่เขาแกะให้

“น้ำผึ้ง เธอผอมไปแล้วนะ น่าจะกินเยอะๆหน่อย ชล นายก็ต้องดูแลน้ำผึ้งเขาดีๆนะ ต่อไปก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว จะต้องดูแลน้ำผึ้งดีๆด้วยล่ะ” ย่านิ่มพูดเองเออเองอยู่คนเดียว

ปรีณาพรรณกับยชญ์อุดมกำลังกินข้าว สิริกรก็ทักทายพวกเขาอย่างเป็นมิตร ทำเหมือนกับว่าทักทายครอบครัวเดียวกัน

“นี่ค่ะคุณยชญ์อุดม คุณหญิงสิริกร กินเยอะๆเลยนะคะ” สิริกรยื่นอาหารให้สองคนไม่หยุด

“วันนี้พวกเรามาคุยเรื่องงานแต่งของธินิดากับนัตย์รวีร์ พวกคุณมีความคิดยังไงก็บอกพวกเรามาได้” ปรีณาพรรณพูดกับคนในตระกูลสุวรรณเลิศ

“เรื่องนี้พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกัน น่าจะเป็นฝ่ายเรานะที่ไปทำเรื่องนี้ที่ตระกูลยืนนาน ชุติภาส ลูกคิดว่าควรจะทำยังไง?” ในเวลาที่สำคัญนั้น ย่านิ่มก็ต้องถามความเห็นชุติภาสก่อน

ชุติภาสก็งงมากกับเรื่องงานแต่งที่ฉุกละหุกแบบนี้ ก่อนหน้านี้ไม่มีใครบอกตัวเองก่อนเลย ตอนนี้ก็ต้องมาคุยเรื่องการแต่งงานของนัตย์รวีร์อย่างกะทันหันแบบนี้ เขาก็ไม่รู้ควรทำยังไงเหมือนกัน

“เรื่องนี้เมื่อก่อนก็เป็นหน้าที่ของนีรชา ฉันก็ไม่รู้อะไรมาก ในเมื่อเป็นเรื่องการแต่งงานของนิตย์ งั้นก็ให้แม่เขาตัดสินใจเองเถอะ” เรื่องนี้ชุติภาสไม่เคยจัดการจริงๆ เขาไม่รู้เลยว่าควรทำเรื่องนี้ยังไง

“งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน ฟ้า เธอก็ตัดสินใจเลยสิ” ย่านิ่มอยากให้สิริกรตัดสินมาตลอด บ้านหลังนี้ต้องการคนที่ตัดสินใจอะไรได้ แน่นอนคนคนนี้ต้องไม่ใช่นีรชา แต่ควรจะเป็นสิริกร

“คือว่า คือ งั้นฉันขอถามหน่อยว่าคุณยชญ์อุดมกับคุณหญิงสิริกรต้องการอะไรไหมคะ เพราะยังไงลูกสาวของพวกคุณก็แต่งเข้ามาที่นี่ พวกเราเป็นฝ่ายชาย ควรจะเคารพพวกคุณค่ะ” สิริกรทำเหมือนตัวเองเป็นนายหญิงบ้านนี้

“ฉันมีข้อเสนอแนะหนึ่งค่ะ ก็คือว่าฉันอยากหมั้นกับนิตย์ก่อน ถ้าแต่งงานละก็ คงจะเร็วเกินไป แต่งงานก็ให้เป็นเรื่องหลังจากหนึ่งปี ในหนึ่งปีนี้ฉันกับนิตย์จะได้ปลูกฝังความสัมพันธ์ ดูว่าเราใจตรงกันมากแค่ไหน” ธินิดาบอกความคิดของตัวเองออกไป

คนตระกูลสุวรรณเลิศได้ยินแล้วก็งงไปหมด ว่าไงนะ? หมั้น? ไหนว่าจะแต่งงานไง?

นัตย์รวีร์กับสิริกรต่างก็มองดูธินิดา ธินิดาถึงค่อยอธิบายความคิดของตัวเอง “อีกอย่างคือนิสัยของฉัน ทุกคนคงจะไม่รู้ว่าฉันเป็นคนยังไง ดังนั้นฉันอยากหมั้นกับนิตย์ก่อน ฉันมาดูแลคุณย่าที่นี่ได้ ถ้าคุณย่ารู้สึกว่าหลานสะใภ้คนนี้ดูแลดี นั่นก็หมายความว่าฉันได้รับการยอมรับจากตระกูลสุวรรณเลิศ ฉันค่อยแต่งงานเข้ามาอย่างยิ่งใหญ่”

ในตอนที่พูดนั้น ธินิดาก็แอบมองไปที่มุกดา ตอนมุกดาแต่งงานไม่มีการจัดงานแต่งแต่อย่างใด ถ้าเธอจะแต่งเข้าตระกูลสุวรรณเลิศ ก็ต้องเป็นงานแต่งที่อลังการ นี่ก็คือความแตกต่างของคน

“อืม ได้ๆ ฉันว่าข้อเสนอนี้ดี เป็นเด็กที่ถูกเลี้ยงมาดีจริงๆ เวลาพูดก็ดูมีทักษะมาก งั้นพวกเราก็ให้พวกเด็กๆหมั้นหมายกันก่อนแล้วกัน” ย่านิ่มรู้สึกพอใจกับข้อเสนอนี้มาก เธอก็อยากเห็นว่าธินิดาเป็นคนยังไง ถึงแม้จะรู้แค่ว่าครอบครัวธินิดามีเงินมาก แต่เด็กที่เกิดในครอบครัวเศรษฐีจะเป็นเด็กที่บ้าอำนาจ

ในตอนนี้เองย่านิ่มก็ฉลาดขึ้นมาทันที เธอก็อยากให้หลานชายคนโตของตระกูลยืนนานช่วย ถ้าเกิดนิสัยของธินิดาไม่ดี งั้นหลานตัวเองก็เสียเปรียบน่ะสิ ดังนั้นเธอเห็นด้วยกับความคิดของธินิดาอย่างมาก

ปรีณาพรรณกับยชญ์อุดมไม่ได้พูดอะไร ยชญ์อุดมเป็นคนซื่อตรง เรื่องอะไรก็ฟังภรรยาตัวเองหมด ปรีณาพรรณเห็นว่าเป้าหมายของลูกสาวตัวเองสำเร็จแล้ว เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีก ลูกสาวของเธอจะไม่แต่งงานกับนัตย์รวีร์หรอกนะ ผู้ชายคนนั้นไม่คู่ควรกับลูกสาวตัวเองด้วยซ้ำ

ขอแค่ได้เข้ามาในบ้านหลังนี้ งั้นก็จะได้เข้าใกล้ชลธีมากขึ้น จะได้ลงมือง่ายหน่อย

ชุติภาสก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก ในเมื่อหมั้นกับธินิดาได้เป็นเรื่องที่เขาใฝ่ฝันมานาน การหมั้นก็เหมือนเป็นการรับประกันอย่างหนึ่ง ยิ่งเป็นเรื่องที่ธินิดาจะเข้ามาอยู่ในบ้านนี้อีก เขาดีใจอย่างมาก ขอแค่ปลูกฝังความรู้สึกกันไปนานๆ ธินิดาก็น่าจะแต่งงานกับตัวเองโดยเร็วนะ

ทั้งครอบครัวกินกันอย่างคึกคัก ธินิดาก็ปากหวาน ยังไม่ได้แต่งงานเข้ามาก็เริ่มเรียกคุณย่ากับคุณพ่อคุณแม่แล้ว

ชุติภาสทำหน้าบึ้งตึง เขารู้สึกว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์การพูดในบ้านหลังนี้ แต่ว่ามีอะไรแปลกๆ เขาก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่ารู้สึกตัวเองเหมือนถูกทิ้งเลย

ภรรยาไปแล้ว ชลธีกับมุกดาก็ไม่อยากสนใจตัวเอง ส่วนคนอื่นก็เหมือนอยู่ฝ่ายเดียวกัน พอมีเรื่องอะไรก็ไม่บอกเขาก่อน ต้องการแค่เงินเขาอย่างเดียว เขาสับสนไปหมดแล้ว เขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่? ทำไมบ้านถึงได้วุ่นวายแบบนี้นะ?

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset