แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 253 ทริปซูริก

เมื่อขึ้นเครื่องบินไปซูริก วรกัญญารู้สึกตื่นเต้นมาก เธออยากที่จะไปซูริกมาตลอด แต่กลับไม่มีโอกาสได้ไปดูเลย คราวนี้เลยถือโอกาสนี้ไปสัมผัสประสบการณ์สักหน่อย

“แม่ คนข้างๆ เราทำไมยังไม่มาอีกล่ะครับ?” อักลี่นั่งอยู่ริมหน้าต่าง เขามองดูผู้คนบนเครื่องบินด้วยความตื่นเต้น คิดว่าไปเที่ยวครั้งนี้จะต้องสนุกแน่นอน

“ไม่รู้สิ อาจจะมีเรื่องบางอย่างทำให้เสียเวลาล่ะมั้ง คงจะมาเร็วๆ นี้แหละจ้ะ” วรกัญญาอธิบายกับอักลี่

“งั้นอีกสักพักเขามาสาย เครื่องบินก็ออกแล้ว” มองดูคนบนเครื่องบินมาถึงหมดแล้ว เหลือแค่ที่นั่งข้างๆ ของพวกเขายังว่างอยู่

“ผู้โดยสารทุกท่านกรุณาคาดเข็มขัดนิรภัยด้วยค่ะ” แอร์โฮสเตสใช้น้ำเสียงที่ไพเราะบอกข้อควรระวังแก่ทุกคน

วรกัญญาคาดเข็มขัดให้อักลี่ ที่นั่งข้างๆ ยังคงว่างอยู่ แต่เครื่องบินลำนี้กำลังจะบินออกแล้ว ไม่รู้ว่าคนคนนี้ซื่อบื้อแค่ไหน แม้แต่เครื่องบินก็ยังมาไม่ทัน

แต่นั่นก็เป็นเรื่องของเขา วรกัญญาไม่อยากกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้อีก เธอเตรียมที่จะนอนบนเครื่องบินพร้อมกับอักลี่

สวมผ้าปิดตา แล้วสองแม่ลูกก็เข้านอน กว่าจะถึงซูริกยังอีกนาน พวกเขาตัดสินใจแล้วว่าจะพักผ่อนก่อน พอถึงซูริกจะได้เที่ยวเล่นให้เต็มที่

ข้างๆ มีคนมาเมื่อไหร่ สองแม่ลูกก็ไม่รู้ คนคนนั้นถ่ายรูปพวกเขาเมื่อไหร่ พวกเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

เครื่องบินบินเรียบอย่างมั่นคง สองแม่ลูกหายใจสม่ำเสมอ หลับสนิทมาก

อักลี่สะดุ้งตื่นขึ้นเพราะปวดฉี่ เขาอยากไปห้องน้ำ ตอนที่เห็นว่าข้างๆ มีคนเพิ่มมาอีกหนึ่งคนแล้ว เขาก็ดีใจขึ้นมา

“ลุงชลธี คุณเองหรอ? คุณเกือบจะมาไม่ทันเครื่องบินแล้วใช่มั้ย?” อักลี่จับชลธีแล้วพูดขึ้นมา แม้แต่ห้องน้ำเขาก็ลืมไปเลย

“ปล่าว ลุงมาตั้งนานแล้ว ก็แค่ไปที่อื่น” ชลธีกอดอักลี่ เด็กคนนี้สนิทกับเขามาก ชลธีก็ชอบเด็กคนนี้มาก

“อ้อ ดีแล้ว ดีแล้วครับ เราได้นั่งเครื่องบินเที่ยวเดียวกัน ลุงชลธี คุณจะไปไหนหรอครับ?” อักลี่คุยกับชลธีไม่หยุด

“ลุงก็ไปซูริกไง ลุงมีธุระต้องไปที่นั่น” เขาเป็นผู้ช่วย แน่นอนว่าประธานวรกัญญาไปที่ไหน เขาก็จะต้องตามไปที่นั่นด้วย

“อ้อ อู๊ย อู๊ย ไม่ไหวแล้ว ผมไม่ไหวแล้ว” อักลี่พูดอยู่สักพัก เขาถึงพึ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองกำลังจะไปห้องน้ำ กลั้นไม่ไหวแล้ว

“เป็นอะไร นายเป็นอะไรไป?” ชลธีมองอักลี่เขย่งเท้าอย่างรีบร้อน นึกว่าเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้น

“ผมจะฉี่แล้ว ผมจะฉี่แล้ว” อักลี่กุมเป้ากางเกงตัวเอง แล้ววิ่งไปทางห้องน้ำ

ชลธีได้ยินว่าเด็กจะฉี่แล้ว เขาเดินเข้าไปแล้วก็อุ้มอักลี่ ก้าวเท้ายาวๆ และเดินไปทางห้องน้ำ

วรกัญญาได้ยินเสียงคนพูดคุยกันอยู่ข้างๆ แต่ว่าเธอง่วงมาก เลยไม่ได้ตื่นขึ้นมา

แต่เมื่อเธอตื่นขึ้นมา กลับพบว่าอักลี่ไม่อยู่แล้ว แต่บนเครื่องบินมีความเป็นไปได้อย่างมากที่อักลี่จะไปห้องน้ำ

“คุณคะ คุณเห็นหรือเปล่าคะว่าลูกของฉันไปไหนแล้ว?” วรกัญญาเพื่อความแน่ใจ เธอกวักมือถามแอร์โฮสเตส

“สวัสดีค่ะ ฉันเห็นลูกของคุณไปห้องน้ำกับผู้ชายคนหนึ่งค่ะ” แอร์โฮสเตสอธิบายกับวรกัญญา

“อ้อ โอเคค่ะ ขอบคุณนะคะ” วรกัญญาได้ยินว่าผู้ชายคนหนึ่ง อักลี่ไปเข้าห้องน้ำกับใคร? ลูกคนนี้นิไม่กลัวคนแปลกหน้าเลยจริงๆ ใครก็ตามไปด้วยหมด

วรกัญญากำลังคิดอยู่ อักลี่ก็ดึงชลธีกลับมานั่งที่เดิม

“ชลธี คุณจะไปที่ไหน?” วรกัญญามองดูชลธีอย่างระมัดระวัง

“เครื่องบินลำนี้บินไปซูริก คุณว่าผมจะไปไหนล่ะ?” ชลธีเหลือบมองวรกัญญาแวบหนึ่ง

เขาไม่รู้ว่าคุณนายเจนนี่หมายความว่ายังไง แต่ว่าเขาก็ขอบคุณคุณนายเจนนี่อย่างมาก เพราะว่าคุณนายเจนนี่จงใจเปิดเผยความเคลื่อนไหวของวรกัญญาให้กับตัวเอง ดังนั้นตัวเองถึงได้มาอยู่ข้างกายของสองแม่ลูก

“คุณไปซูริกทำไม?” วรกัญญาถามคำถามกับชลธีต่อไป

“เพราะพวกคุณแม่ลูกไปกัน ผมก็ต้องไปแน่นอน เรื่องงานผมเป็นผู้ช่วยของคุณ คุณไปที่ไหนผมก็ต้องไปที่นั่น ส่วนเรื่องส่วนตัว ผมเป็นสามีคุณ คุณไปที่ไหนหรือว่าไม่ควรพาผมไปด้วยงั้นหรอ?” ชลธีทำท่าทางไม่แยแส

ตอนนี้ที่เขาอยากรู้มากที่สุดก็คือ ตกลงว่าอักลี่เป็นลูกใคร? คุณนายเจนนี่ไม่เคยพูดว่าวรกัญญาคบหากับใครตอนอยู่ฝรั่งเศส หากมีการคบหา คุณนายเจนนี่ไม่มีทางเปิดเผยความเคลื่อนไหวของวรกัญญาให้กับตัวเองแน่นอน

“คุณเป็นสามีฉัน แล้วยังไง ทำไมคุณถึงแยกกับฉัน คุณต้องทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อฉันแน่ๆ ฉันไม่อยากจะพูดอะไรกับคุณอีกแล้ว คุณก็น่าจะรู้ตัวนะ” วรกัญญามองชลธี ทั้งสองทะเลาะกันอย่างเงียบๆ บนเครื่องบิน

“ผมรู้ตัวสิ ผมก็ไม่ได้ขอให้คุณทำอะไรกับผมสักหน่อย ถึงแม้เราจะเป็นสามีภรรยากัน อีกอย่างเราก็ยังไม่ได้หย่ากัน แต่พอคุณกลับมา ก็จำผมไม่ได้แล้ว ผมก็ไม่ได้พูดอะไร ทำไมถึงพูดว่าผมไม่รู้สถานการณ์ล่ะ?” ชลธีพูดกับวรกัญญา

“ช่างเถอะ คุณชนะแล้ว ฉันเถียงไม่ชนะคุณหรอก ฉันนอนล่ะ” วรกัญญาเห็นคุยกับชลธีไปก็พูดไม่จบ ตัวเองเดิมทีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา เลยเลือกที่จะไม่ฟังอย่างง่ายดาย

เห็นวรกัญญาพื้นฐานก็ยอมต่อผู้ติดตามของตัวเอง ชลธีก็ไม่พูดอะไรอีก ถึงอย่างไรให้ตัวเองตามไปซูริกด้วยก็พอแล้ว อย่างอื่นต่างไม่สำคัญ

เครื่องบินลงจอดแล้ว วรกัญญาก็ตื่นขึ้นมา เวลาสิบกว่าชั่วโมงนี้ เธอปิดขังตัวเองเอาไว้ ไม่สนใจชลธีอะไรก็ดีหมด

“แม่ ที่นี่สวยมากเลยครับ ผมยังไม่เคยมาเลย!” อักลี่มองดูสนามบินที่สวยงาม แล้วก็แขกที่ไปๆ มาๆ ดวงตากลมโตไม่รู้ว่าจะมองอะไรดีเลย

“มา อักลี่ ลุงอุ้มนาย ที่นี่คนเยอะมาก เดี๋ยวเหยียบนายเข้า” ชลธีเห็นคนที่ลงเครื่องบินเยอะพอสมควร เขาเลยกังวลอักลี่ตัวเล็กๆ นิดหน่อย

“อืม ขอบคุณครับคุณลุง” อักลี่รีบปีนขึ้นไปในอ้อมกอดของชลธี

วรกัญญาลากกระเป๋าเดินทางของตัวเองและอักลี่ ชลธีใช้มือข้างหนึ่งอุ้มอักลี่ มืออีกข้างลากกระเป๋าเดินทางของตัวเอง ภาพแบบนั้นเหมือนเป็นครอบครัวสามคนจริงๆ

แต่ว่าพวกเขาเดิมทีก็เป็นครอบครัวสามคน เพียงแค่ภาพแบบนี้ทำให้วรกัญญารู้สึกไม่สบายใจ ชลธีคนนี้ทำไมต้องตามตัวเองมาถึงซูริกด้วย? เขาคิดจะทำอะไร?

ออกจากล็อบบี้สนามบิน มีคนรอวรกัญญาอยู่ที่นั่นเรียบร้อยแล้ว ขึ้นบนรถ คนขับถึงถามวรกัญญาว่าชอบโรงแรมสไตล์ไหน

“สวัสดีครับ ประธานวรกัญญา คุณชอบโรงแรมสไตล์ไหนหรอครับ?”

“สไตล์ไหนก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ใกล้ริมทะเลก็พอแล้ว อย่างอื่นยังไงก็ได้” วรกัญญาพูดกับคนขับรถ เธอชอบห้องที่อยู่ใกล้น้ำมากที่สุด

“ได้ครับ เราจะไปโรงแรมที่ใกล้น้ำเดี๋ยวนี้เลยครับ” คนขับรถถามความชอบของวรกัญญาแล้ว ถึงจะพาพวกเขาไปโรงแรมที่อยู่ในใจ

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset