แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 261 ผู้หญิงคนนี้รู้

“พี่สะใภ้รอง พี่ร้องไห้ทำไม? ทำไมถึงได้ร้องไห้เศร้าใจแบบนี้?” โธรณีเดินเข้าไป แม้เธอจะไม่ชอบวรรณวิมลเอามาก แต่ก็เป็นคนในครอบครัว จึงไถ่ถามเสียหน่อย

“ฉันน่ะเหรอ? คุณพ่อเป็นแบบนี้ ฉันจะไม่ร้องได้ยังไง? ” ถ้ามีคุณพ่ออยู่ ธีร์ธวัชก็จะไม่กำเริบเสิบสาน ไม่บีบบังคับตนเองอย่างเร่งรีบเช่นนี้ ถ้าคุณพ่อไม่พูดจาแล้ว ธีร์ธวัชจะต้องหาสร้างปัญหาให้ตนเองแน่นอน เมียน้อยคนนั้น หน้าตาก็สะสวย แถมยังอายุน้อยมาก และตอนนี้ยังคลอดลูกชายออกมาคนหนึ่ง ตนเองเทียบไม่ติดเลย

โธรณีเห็นว่าปกติวรรณวิมลไม่ใช่แบบนี้ คุณพ่อล้มป่วยลง เธอยังค่อนข้างห่วงใย ทำให้ความคิดที่โธรณีมีต่อเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“พี่สะใภ้รอง คุณพ่อไม่เป็นอะไรหรอกครับ พี่ไม่ต้องร้องไห้แล้ว คุณหมอบอกว่าต้องพักฟื้น พี่เอาแต่ร้องไห้อยู่ตรงนี้ อีกสักพักท่านฟื้นขึ้นมา เดี๋ยวก็โมโหอีกหรอก” ชลธีเห็นวรรณวิมลร้องไห้เศร้าใจเช่นนี้ เขารู้ว่าทำไมเธอจึงร้องไห้

“ชล คุณพ่อดีกับฉันมากแบบนี้ ฉันเห็นคุณพ่อเป็นแบบนี้แล้วทุกข์ใจเลยเกิน เลยทนไม่ไหว ฉันจะไม่ร้องไห้แล้ว อีกประเดี๋ยวคุณพ่อฟื้นขึ้นฉันจะยิ้มให้ท่าน” วรรณวิมลรีบกลั้นน้ำตาของตนเอาไว้

“พี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน? ฉันเพิ่งจะลงจากเครื่อง คนจากสำนักเลขาธิการก็โทรหาฉัน บอกว่าคุณพ่อเป็นลมไป” โธรณีอยากรู้เหลือเกินว่าทำไมคุณพ่อของตนเองถึงได้เป็นลมไป

“ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย อีกเดี๋ยวพี่จะเล่าให้เธอฟัง อย่าให้คุณพ่อได้ยิน” ชลธีเหลือบมองวรรณวิมล

“พี่สะใภ้รองกลับไปก่อน มีผมกับโธรณีอยู่เป็นเพื่อนท่านก็พอแล้ว พี่เองก็เหนื่อย กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะครับ” ชลธีกล่าวกับวรรณวิมล

ในเวลานี้วรรณวิมลก็ไม่อยากอยู่เฝ้าชุติภาสที่นี่ คุณหมอบอกแล้วว่าไม่อาจให้ชุติภาสโมโหได้อีก ตนเองอยู่ที่นี่ไปก็เปล่าประโยชน์ เธอเองก็อยากกลับไปพักผ่อน ดูว่าตอนนี้ธีร์ธวัชอยู่ที่บ้านจะเป็นอย่างไรบ้าง

วรรณวิมลกลับไปแล้ว ชลธีจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้โธรณีฟัง

“หา นั่นใครกัน ทำไมฉันถึงรู้สึกว่ามีคนร้ายคอยบงการอยู่เบื้องหลัง จะเป็นใครนะ?” โธรณีทำปากมุ่ยด้วยความโมโห

“ไม่รู้สิ ตอนนี้คุณพ่อเป็นแบบนี้ไม่มีทางบริหารบริษัทต่อไปได้แน่นอน พี่จะกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้” ในเวลานี้ชลธีก็ไม่สามารถเฝ้าอยู่ข้างกายวรกัญญาได้ เขาต้องกลับไปจัดการบริษัทฮอนดากรุ๊ป ตอนนี้วรกัญญากลับมาแล้ว เขาเองก็มีความเชื่อมั่น

“ประธานวรกัญญา ผมขอลาออก ที่บ้านของผมเกิดเรื่องขึ้น คุณพ่อของผมเข้าโรงพยาบาล ผมเลยต้องกลับไปอย่างไม่มีทางเลือก” ชลธีไปขอลาออกกับวรกัญญา

ถึงแม้วรกัญญาอยากให้ชลธีลาออกมาโดยตลอด แต่เมื่อเขาพูดความต้องการนี้ขึ้นมาจริงๆ เธอก็พลันทำใจไม่ลงอีก

“คุณคิดดีแล้วใช่ไหม? ถ้าคิดดีแล้ว ก็ไปแผนกการเงินรับค่าจ้างของคุณ” แม้วรกัญญาจะทำใจไม่ลงอย่างมาก แต่เรื่องของตระกูลสุวรรณเลิศ เขาต้องเป็นคนไปจัดการ

“ประธานชลธี ผมตรวจสอบมาแล้ว หลังจากวรกัญญาถึงประเทศฝรั่งเศสก็ไม่ได้ติดต่อกับใคร พอหลังจากคลอดลูก เธอทำงานอย่างบ้าคลั่ง จนแทบจะลืมวันลืมคืน เธอมีปัญหาความทุกข์ใจ และยังกลัวสีแดง” คนสืบข่าวจากฝรั่งเศสกลับมารายงานชลธี

“โอ้ มีแค่นี้เหรอ?” ชลธีถามคนส่งข่าว

“ยังมีอีกเรื่องครับ ไม่รู้ว่าจริงไหม ผมไม่กล้าพูดส่งเดช” คนส่งข่าวสองจิตสองใจกับข่าวซุบซิบ ไม่รู้ว่าควรบอกชลธีไหม

“พูด” ชลธีสั่งให้เขาพูด

“คุณหมอคนนั้นเคยบอกว่า ถ้าวรกัญญาไม่กลัวสีแดงอีก ก็จะเป็นสัญญาณว่าความทรงจำฟื้นกลับมา นี่คือสิ่งที่ทุกคนส่งต่อรุ่นต่อรุ่น น่าจะไม่มีความน่าเชื่อถือ” นี่เป็นเพียงสิ่งที่เจ้าหน้าที่ข่าวได้ยินจากปากของพยาบาล แต่คุณหมอคนนั้นไม่ได้ยืนยัน

ชลธีคิดว่านี่ต้องเป็นเรื่องล้อเล่น จะเป็นไปได้อย่างไร ไม่กลัวสีแดงแล้วจะฟื้นคืนความทรงจำ ไม่เคยได้ยินว่าการฟื้นคืนความทรงจำเป็นแบบนี้มาก่อน

คนส่งข่าวคุ้นเคยกับตนเองไม่น้อย วรกัญญาหลังจากณิชพนจากโลกนี้ไป ต้องเป็นเพราะความโศกเศร้าที่มากเกิน ทำให้สูญเสียความทรงจำ แต่คู่สามีภรรยาโจนส์มีความเกี่ยวข้องกับวรกัญญาอย่างไร นี่คือสิ่งที่สืบไม่เจอ คู่สามีภรรยาโจนส์บอกว่าวรกัญญาเป็นลูกสาวของตนเอง เพราะอะไร? และไม่เคยประกาศให้ทุกคนรับรู้ แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนรู้

ชลธีคิดถึงคนคนหนึ่ง คนนี้น่าจะรู้เรื่องราวของคุณนายโจนส์เป็นอย่างดี เธอไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากธาราวดี จะต้องเกลียดชังธาราวดีมาก ไปหาเธอตอนนี้ ให้เงินเธอสักหน่อย เธอจะต้องเล่าให้ตนเองฟังแน่นอน

ชลธีคิดว่าความคิดของตนเองค่อนข้างรอบคอบ แต่นลินประภากลับไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดเอาไว้

“ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น เรื่องพี่สาวของฉันพวกคุณไปถามเธอเองได้” นลินประภามองเงินสดบนโต๊ะ เธออยากได้เหลือเกิน แต่เธอกลับไม่สามารถเอามาได้

“ถ้าพวกเราสามารถรู้เรื่องนี้จากปากพี่สาวคุณ คุณคิดว่าพวกเราจำเป็นต้องมาหาคุณไหม? คุณคิดว่าพวกเรามีเงินมากเกินไปหรือไง?” คนส่งข่าวมองอพาร์ทเม้นท์นี้ของนลินประภา แม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ภายในนับว่าเก็บกวาดได้สะอาดเอี่ยม

“เล่ามาสักหน่อย วรกัญญาเกี่ยวข้องยังไงกับพี่สาวของคุณ ทำไมคู่สามีภรรยาโจนส์ถึงเก็บเธอมาเลี้ยง?” ผู้ชายสวมสูทดำ จุดไฟแช็กตรงหน้านลินประภา และแกว่งไปมาตรงหน้าเธอ

“ฉันไม่รู้ ไม่รู้จริงๆ คู่สามีภรรยาโจนส์นั่นเป็นใคร เรื่องอะไรทำไมต้องให้ฉันพูดด้วย?” แม้แต่เงินก็ไม่ให้!นลินประภาอยากบอกเหลือเกิน ตนเองไม่ได้เป็นเหมือนพี่สาว

“คุณคือน้าของมุกดา ตอนนี้ไม่มีวรกัญญาแล้ว คุณคือญาติของเธอ คุณยังจะไม่รู้อะไรอีก คุณไม่คิดว่ามันแปลกไปหน่อยเหรอ? จริงสิ ผมรู้ว่าคุณมีลูกสาวเรียนอยู่ต่างประเทศ ดูเหมือนจะเรียนการจัดการธุรกิจ มหาวิทยาลัยนั้นผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี” ชายในสูทสีดำดับไฟแช็กลง เขาล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋า เปิดดู ถือโอกาสวางบนโต๊ะ

นลินประภาชำเลืองดู นั่นเป็นคลิปวิดีโอหนึ่ง เด็กผู้หญิงด้านในคือลูกสาวของตนเอง กำลังเดทอยู่กับผู้ชาย

“พวกคุณไม่ต้องไปหาลูกสาวของฉัน ไม่ต้องไปหาเธอ ฉันจะพูด ฉันจะพูดแล้ว ฉันจะพูดทุกอย่าง” นลินประภาเห็นลูกสาวของตนเองถูกคนเหล่านี้พบเจอ เธอจึงไม่อาจสนใจอย่างอื่นได้

“ดี เล่าเรื่องที่คุณรู้มา แต่มีอย่างหนึ่ง หลังจากเล่าให้ฟังวันนี้ คุณไม่ต้องจำมันอีก ถ้ามีคนมาถามคุณ ให้ตอบไปว่าคุณไม่รู้อะไรสักอย่าง” คนชุดดำข่มขู่นลินประภา

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset