แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 283 พบเจองูหลามในถ้ำเขา

หลังจากอยู่ในถ้ำทานอิ่มดื่มเต็มที่แล้ว ชลธีอาศัยกองเพลิงและหาที่นอนนอนลง เขาเองก็เหนื่อยมาทั้งวัน เวลานี้ในที่สุดก็ได้ผ่อนคลาย

วรกัญญาก็กำลังนอนอยู่บนเบาะหนาที่ชลธีจัดไว้ให้ มองไปข้างนอกอย่างสบายอารมณ์ ฟ้าที่ฝนตกเริ่มมืด เพิ่งหนึ่งทุ่มฟ้าก็มืดมัวแล้ว ทว่าฝนยังคงตก เพียงแต่ดูเหมือนว่าไม่ได้ตกหนักอย่างเมื่อครู่

“ชลธี วันนี้เราต้องค้างคืนที่นี่เหรอ” วรกัญญามองไปยังชลธีที่ไม่ร้อนไม่รนแม้แต่น้อย พร้อมกับเอ่ยถามเขา

“แน่นอนว่าไม่ เพียงแต่ตอนนี้ผมยังไม่มีวิธีที่จะไป ถ้าคุณมีวิธี ก็สามารถไปที่หมู่บ้านก่อนแล้วหาคนมาส่งร่มให้ผมก็ได้” ชลธีหลับตา แม้ว่าเขาจะกำลังพักร่างกาย แต่ในใจกลับชัดเจนมาก ผู้หญิงคนนี้ไม่เต็มใจอยู่กับตน แต่ไม่มีทางเลือก เพราะสวรรค์เป็นใจ

“คุณเป็นผู้ชายยังไม่มีวิธีออกไป แล้วคุณจะให้ฉันออกไปหาคนเอาร่มมาให้คุณเนี่ยนะ คุณคิดได้ไง” วรกัญญาได้ยินคำพูดของชลธีแล้วเธอก็โมโห แต่เมื่อคิดดูอีกที เขาคงพูดเพราะเกลียดตน ทั้งทั้งที่รู้ว่าเวลานี้มันไปไม่ได้ และก็เป็นคำถามของตนด้วยที่น่าขำเกินไป

“เอาเถอะ คิดว่าฉันไม่ได้พูดก็แล้วกัน” วรกัญญาเสียอารมณ์ แต่แล้วก็รู้สึกว่าตนผิดเอง จากนั้นความโกรธก็หายไป และรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างไร้เหตุผล วันนี้ต้องขอบคุณชลธีด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีเขา เวลานี้ตนคงยังหิวอยู่เลย!

ชลธีเห็นวรกัญญาไม่พูด เขาก็รู้สึกว่าคงผ่านช่วงเวลานี้ไปไม่ได้ เขาชอบฟังเสียงเธอ เขารู้สึกว่าการมีเธออยู่โลกใบนี้ช่างสวยงาม

“เดี๋ยวฝนก็หยุดแล้ว ผู้ใหญ่บ้านจะมาหาพวกเราเอง คุณวางใจเถอะ” ชลธีบอกกับวรกัญญา

“อืม งั้นก็ดี” หญิงชายอยู่ตามลำพังในถ้ำเขาถิ่นทุรกันดาร ถึงแม้ว่าเธอยังคงเป็นสามีภรรยากับชลธี แต่เธอมักจะรู้สึกว่าทั้งคู่เหมือนเป็นศัตรูกัน

“คุณมีอะไรให้ต้องกังวล คุณเป็นแม่คนแล้ว ผมยังหนุ่มมีความสามารถ ไม่มีทางทำอะไรคุณหรอก คุณไม่ต้องห่วง ถึงทำคุณก็ห้ามไม่ได้” ชลธีเห็นวรกัญญาพูดถึงแต่เรื่องว่าจะออกไปตลอดเวลาไม่หยุดหย่อน เขาก็เริ่มโมโห

“คุณ! คุณชลธีคุณมันน่ารำคาญมาก ไม่มีเรื่องอะไรคุณก็นอนไปสิ คุณไม่พูดก็ไม่มีใครหาว่าคุณเป็นใบ้หรอก” วรกัญญาได้ยินชลธีพูดแซะตัวเอง เธอจึงแอบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายรูปตัวเอง หน้าตาก็ยังสวยมากอยู่เถอะ มันเหลือทนอย่างที่เขาพูดขนาดนั้นเลยเหรอ

ชลธีหยุดพูดจริงๆ วรกัญญาพลิกไปพลิกมาบนเบาะ เธอรู้สึกวังเวงนิดหน่อย ในถ้ำกว้างใหญ่นี้ รู้สึกอยู่ตลอดว่าเป็นสถานที่ที่ไม่ชอบมาพากล

“คุณชลธี คุณชลธี คุณว่ามันเหม็นไหม” วรกัญญาได้กลิ่นอะไรเหม็นๆ กลิ่นมันเหม็นจนทำให้เธอนอนไม่หลับเลย

“ใช่ คุณไม่ต้องพูด” ชลธีได้กลิ่นมานานแล้วว่ามีกลิ่นเหม็นโชยมาทางนี้ ใจเขากำลังตึงเครียด เวลานี้วรกัญญาพูดขึ้นมา เขาจึงรีบห้ามเธอ

วรกัญญาได้ยินน้ำเสียงของชลธีแล้วเหมือนจะมีความหมายในเชิงรังเกียจตน น้ำเสียงนั้นฟังดูแปลกๆ เธอจึงรู้สึกโกรธเล็กน้อย

กองไฟกำลังค่อยๆ ดับลง ชลธีที่อาศัยมันอยู่ไม่กล้าขยับ เขาค้นพบแล้วว่ากลิ่นเหม็นนั้นมันคืออะไร ดังนั้นเขาจึงไม่ให้วรกัญญาส่งเสียง

ในที่สุดไฟก็มอดดับ กลิ่นนั้นคละคลุ้งยิ่งขึ้น ชลธีกระชับลูกศรในมือ แม้ไม่ใช่มืออาชีพ แต่ก็แข็งแรงแม่นยำ น่าจะพอจัดการได้

“คุณ…” เมื่อฟืนไฟมอดดับลงแล้ว วรกัญญาได้กลิ่นเหม็นมาก เธออยากเรียกชลธีอีกครั้ง แต่เวลานี้เธอได้ยินเสียงแปลกๆ ด้วย กองไฟเมื่อครู่ได้เปิดเผยตำแหน่งของทั้งสองคนไปแล้ว

กลิ่นเหม็นมาพร้อมกับกลิ่นคาว วรกัญญายังไม่มีเวลาทันจะเรียกชื่อชลธี เวลานี้พบว่าชลธีกำลังลุกขึ้นต่อสู้กับอะไรบางอย่างอยู่ วรกัญญาหยิบเอาโทรศัพท์มือถือออกมาคิดจะใช้ไฟฉายส่อง

“อย่าเปิดโทรศัพท์มือถือ” ชลธีตวาดอย่างเฉียบขาด

ในความมืดมีสองวัตถุสีเขียวโยกไปมาอยู่ในถ้ำ สายตาของชลธีในเวลานี้ปรับให้เข้ากับความมืดได้แล้ว ในมือของเขามีสิ่งของอีกหนึ่ง มันคือมีดพับสวิส

งูเหลือมยักษ์ตัวนั้นไม่ได้เจอคนมานานแล้ว มันอาศัยอยู่ที่นี่ ผู้คนในภูเขาต่างรู้ว่าที่นี่มีงู ดังนั้นจึงไม่มีใครเข้ามาในถ้ำนี้ วันนี้ชลธีกับวรกัญญาหลงเข้ามาในถ้ำแห่งนี้ แถมยังกินของที่มีกลิ่นหอม จึงเป็นการชักนำให้งูเหลือมออกมา

เมื่อครู่มีไฟ งูเหลือมรอไฟดับอยู่ไม่ไกลตลอดเวลา เมื่อไฟมอดดับลง มันจึงออกมาโจมตี

“ชล มีงูเหลือมเหรอ ฉันช่วยคุณเอง!” วรกัญญาค้นพบแล้วว่างูเหลือมยักษ์ตัวหนึ่งกับชลธีกำลังต่อสู้กัน

“ใช่ คุณอย่าเข้ามา คุณแค่ป้องกันตัวให้ดีก็พอ ผมคนเดียวจัดการได้” ชลธีปฏิเสธทันที

การจัดการกับงูเหลือมที่ตัวใหญ่มากขนาดนั้นเขาเองยังค่อนข้างลำบากเลย วรกัญญาตัวนิดเดียว เธอจะไปทำอะไรได้ แค่อย่าวุ่นวายสร้างปัญหาเพิ่มก็พอแล้ว

แต่วรกัญญากลับไม่ฟังเขา วรกัญญากำลังคลำหาที่พื้น แล้วก็คลำเจอลูกศรดอกหนึ่ง ใช้มือสัมผัสมันครู่หนึ่ง ลูกศรยังคมอยู่มาก เธอพลิกตัวตะเกียกตะกายขึ้น เข้าร่วมวงสงครามของคนกับงูยักษ์

“คุณวรกัญญา คุณอย่ามาเกะกะผม คุณทำให้ผมจัดการลำบากเข้าไปอีก” เมื่อชลธีเห็นวรกัญญาเข้ามา เขาไล่เธอไปทันที

“ไม่ได้ ฉันสามารถจัดการงูเหลือมได้” วรกัญญาไม่ใช่ว่าไม่กลัวงูเหลือม แต่เวลานี้เธอลืมความกลัวไปแล้ว ถ้างูเหลือมทำชลธีบาดเจ็บ ตนคนเดียวก็ไม่มีกำลังพอจะต่อสู้ได้ สองคนกับชลธี แน่นอนว่าต้องแข็งแกร่งขึ้นอีกหน่อย

ในที่มืด คนสองคนต่อสู้กับงูหนึ่งตัว

“คุณวรกัญญา คุณรัดหัวงูเหลือม ผมจะไปรัดหางมัน” ชลธีเห็นว่าวรกัญญาแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นจริงๆ เธอมีทักษะคล่องแคล่วว่องไว ชลธีจึงวางใจ วรกัญญาไม่มีปัญหาในการป้องกันตัว

เพียงแต่ทั้งสองคนต้องเน้นกลยุทธ์ในการต่อสู้กับงูเหลือม ถ้าผาดโผนเข้ามา กำลังของทั้งคู่ต่างตามไม่ทัน

“ได้” วรกัญญารู้ว่าหัวงูเหลือมดูร้ายกาจ แต่ตราบใดที่จี้จุดตายของมันได้ก็เพียงพอแล้ว หางต่างหากที่จัดการยาก มันจะพันรัดตัวคนจนตาย ดังนั้นการจะปราบหางให้ได้ จึงต้องมีความแข็งแกร่ง

งูเหลือมตัวนั้นเหมือนจะแสนรู้ เหมือนว่าเข้าใจคำพูดของชลธี มันจึงโจมตีทั้งสองคนอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมมาก

แล้ววรกัญญาก็สบโอกาส จู่ๆ ดวงตาสีเขียวของงูเหลือมก็โผล่มา ความรู้สึกที่ลูกศรแทงเข้าไปในตางู ทำให้มือของวรกัญญาอ่อนแรง

งูเหลือมเจ็บปวด มันเริ่มโจมตีวรกัญญาอย่างรุนแรง ใช้หางของมันตีพื้นไปทุกที่ เพื่อฟาดวรกัญญาให้ตายลงพื้น

วรกัญญาหลบซ้ายเบี่ยงขวา แวบหลบหลังงูเหลือมอย่างยากลำบาก และจัดการกับหัวของมันโดยกะทันหันอีกครั้ง

ชลธียังคงรัดหางของงูเหลือม กำลังใช้ลูกศรแทง เลือดงูเหลือมทะลักออกมาใส่ตัวทั้งสองคน

งูเหลือมที่เจ็บปวดมากยิ่งคลั่ง มันตวัดหางของตัวเองอย่างรุนแรง เพื่อสลัดชลธีออกจากหาง

ชลธีกลิ้งไปใกล้ตัววรกัญญา เขามองวรกัญญาครู่หนึ่ง และถามว่าเธอเป็นอะไรตรงไหนไหม

“ไม่เป็นอะไร ฉันยังรับมือได้ คุณเป็นยังไงบ้าง” เวลานี้วรกัญญาเองก็ใส่ใจชลธีด้วย

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset