แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 288 ความท้าทายของโธรณี

ขณะที่ประวีร์กำลังช่วยสำรวจสิ่งที่อยู่บนไหล่ของวรกัญญาอยู่นั้น ชลธีก็กลับมาปรากฏที่หน้าประตู เขาปรากฏตัวอยู่ตรงมุมที่เห็นว่าประวีร์ก้มลงจูบวรกัญญาพอดี

“พวกคุณกำลังทำอะไรกัน” เมื่อชลธีเห็นภาพนั้น เขาโกรธมาก รีบพุ่งเข้าไปกระชากประวีร์ออก

ชลธีชกเข้าใส่ประวีร์ทันที ประวีร์ก็โต้ตอบอย่างรวดเร็วเช่นกัน แล้วทั้งสองคนก็เริ่มชกต่อย

วรกัญญามองดูชลธีที่เหมือนคนบ้า เธอร้องตะโกนหลายครั้งเพื่อให้พวกเขาหยุดต่อสู้ แต่ชลธีกับประวีร์เหมือนกับว่ากำลังฝึกซ้อมกันอยู่ ไม่ฟังวรกัญญาเลย

วรกัญญาที่โกรธจัดหยิบเอากระบองพลาสติกขึ้นมา พุ่งเข้าขวางชลธีและประวีร์ เพื่อให้ทั้งคู่หยุดการต่อสู้

“พวกคุณทำอะไร ต่อสู้กันประตูก็ไม่ปิด ดูสิมีกี่คนมองอยู่ที่หน้าประตู” เวลานี้วรกัญญาเพิ่งพบว่าที่หน้าประตูมีคนมากมายมุงดูอยู่ แถมมีแสงแฟลชกะพริบด้วย

ขณะนี้เธอวิ่งไปที่ประตูแล้วปิดมันลง เดี๋ยวต้องมีพาดหัวข่าวแน่

“พวกคุณทำอะไรกัน” ชลธียังคงพัวพันกับประโยคนี้

“เราจะทำอะไรกันคุณยุ่งอะไรด้วย ชลธี คุณบุกเข้ามาทำร้ายคนโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย คุณคิดว่าคุณมีเหตุผลแล้วเหรอ” วรกัญญามองชายสองคนที่นั่งอยู่บนพื้น เธอมือหนึ่งเท้าเอว อีกมือหนึ่งถือกระบองพลาสติก เหมือนครูที่กำลังสั่งสอนนักเรียนซึ่งทำความผิด

ประวีร์กับชลธีไม่มีใครอยู่ในสภาพดี ต่างบาดเจ็บไปหมด ประวีร์ถูกต่อยจนปากแตก ชลธีหางตาช้ำ สองคนมองหน้ากัน แล้วก็มองวรกัญญา จากนั้นก็ก้มหน้าลงไป

ชลธีรู้แล้วว่าสองคนในห้องนี้ไม่ได้ทำอะไรกัน เป็นมุมมองของตนที่มีปัญหาเอง

“เอาล่ะ ผมยังมีธุระ ขอตัวก่อน” เมื่อชลธีพบว่าตัวเองผิดพลาดเอง จึงคิดจะออกไป เขานั้นได้ยินว่าวันนี้ประธานประวีร์พาหญิงสาวคนหนึ่งมา ผู้หญิงคนนั้นสวยมาก พูดแล้วก็ทำให้เขานึกถึงวรกัญญา ดังนั้นเขาจึงเปิดประตูเข้ามาดูเพื่อความแน่ใจ

“ไสหัวไป ไสหัวไปไกลๆ เลย!” นิสัยดุร้ายของวรกัญญาเปิดเผยออกมาอีกครั้ง ทำให้ชายสองคนตัวสั่น แต่ถึงเป็นแบบนั้นก็ยังค่อนข้างน่ารัก

ชลธีรีบเดินไป ประวีร์ก็ลุกขึ้นยืน เขาสัมผัสมุมปากตัวเองแล้วสูดปาก

“เจ็บเหรอ ฉันจะไปซื้อยาให้คุณ” วรกัญญาพูดแล้วกำลังจะออกไป

แต่ประวีร์กลับดึงเธอไว้ “ที่นี่มียา ปกติมันเป็นสถานที่ซ้อมมวย แน่นอนว่าต้องมียารักษาบาดแผล” ประวีร์ชี้ไปยังตู้ในห้อง

วรกัญญาค้นเอาขี้ผึ้งออกมา แล้วทาให้ประวีร์ เพื่อให้มุมปากของประวีร์ไม่บวมแดง

“ไปเถอะ เราไปทานข้าวกัน”

“ช่างเถอะ ผมเป็นแบบนี้มันดูไม่ดี ผมไม่ไปทานข้าวแล้ว” ประวีร์เป็นคนที่ใส่ใจกับภาพลักษณ์ของตัวเองมาก ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บ แน่นอนว่าไม่อยากไปปรากฏตัวในที่สาธารณะ

“เอางั้นก็ได้ ก็ถือว่าฉันติดหนี้คุณ ฉันไปส่งคุณกลับนะ” วรกัญญามองประวีร์ครู่หนึ่ง ที่จริงมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอะไร ทายาไปก็มองไม่ชัดแล้ว

“ไม่ต้องหรอก ผมมีรถ มุก คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวอีกสักพักผมก็กลับแล้ว” ประวีร์ให้วรกัญญากลับไปก่อน

ตอนที่วรกัญญาออกมาจากสโมสร มันยังไม่มืดมากนัก เพียงแต่ไฟถนนส่องสว่างต่อเนื่อง ผู้คนบนท้องถนนกำลังตั้งหน้าตั้งตากลับที่พักของตัวเอง

ในอากาศยังมีความร้อนแฝงอยู่ แม้จะเป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวอากาศฤดูร้อนมาให้ได้สัมผัส เมื่อออกมาจากห้องแอร์ ข้างนอกจึงยังรู้สึกร้อนมาก

วรกัญญาเดินไปถึงข้างรถตัวเอง เพิ่งเปิดประตูรถ ก็มีคนมายืนอยู่ข้างหลังตน

“วรกัญญา ฉันรอจนเจอเธอจนได้ซะที!” คนที่อยู่ข้างหลังพูดจาไม่สุภาพอย่างมาก แถมเธอยังให้มือดึงแขนของวรกัญญาด้วย

วรกัญญาหันไปเห็นว่าเป็นโธรณี ข้างหลังเธอยังมีธินิดาด้วย ทั้งคู่ดูเหมือนจะรอเธออยู่นานมากแล้ว

“พวกคุณสองคนมีธุระอะไร” วรกัญญาปิดประตูรถ หันไปถามทั้งสองคน เธอก็ไม่ได้เจอโธรณีนานมาก คิดไม่ถึงว่าเธอจะอยู่กับธินิดา

“แน่นอนว่ามีธุระ เธอทำร้ายตระกูลสุวรรณเลิศของเรามากเลยนะ แถมยังทำร้ายคุณพ่อของฉันจนตาย เธอคิดว่าตอนนี้พี่ชายของฉันไม่เอาเรื่องเธอ แล้วเธอจะรอดตัวเหรอ” โธรณีดึงวรกัญญาออกมาโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

วรกัญญาก็ไม่ได้ดิ้นรน เธออยากดูว่าโธรณีจะทำอย่างไรกับตน ครั้งหนึ่งเมธพรเพื่อนสนิททรยศตน ก็ยังมีจันวิภายืนอยู่ข้างหลังตนตลอด แต่โธรณีคนนี้ที่ดีต่อเธอมาก จนถือว่าเธอเป็นคนที่ตนสนิทด้วย แล้วทำไมเธอถึงเข้าใจตนผิดไปมากเช่นนี้

“โธ่เอ๊ย แสนดี พี่ชายคุณไม่เอาเรื่องเธอ คุณยังจะเอาเรื่องเธออีกเหรอ ระวังพี่ชายคุณกลับไปด่าคุณนะ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนสำคัญของเขาเลยนะ” ธินิดาใส่ไฟอยู่ข้างๆ

“พี่ชายฉัน? ที่ตอนนี้พี่ชายฉันไม่สร้างปัญหาให้เธอเพราะเชื่อใจเธอ แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจอะไรแล้ว มาทำร้ายครอบครัวของฉันฉันจะคิดบัญชีกับเธอ วรกัญญา เธอมันโหดเหี้ยมไม่มีความเป็นคน ตระกูลสุวรรณเลิศเราไปทำอะไรให้เธอ เธอถึงต้องทำกับคนในครอบครัวฉันแบบนี้ เธอบอกฉันมาให้ชัดเจนเดี๋ยวนี้เลยนะ!” โธรณีดึงวรกัญญาไม่ปล่อย ธินิดากระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ข้างๆ

“ฉันไม่มีอะไรต้องบอก ฉันคิดเสมอว่าเธอเป็นคนฉลาด คิดไม่ถึงเลยว่าเธอก็เป็นผู้หญิงที่ไม่มีสมองคนหนึ่ง” วรกัญญาเหลือบมองธินิดา ผู้หญิงคนนี้ชอนไชไปทุกช่องทางจริงๆ เรื่องของตระกูลสุวรรณเลิศเธอต้องแส่ตลอด

“เธอ! วรกัญญาเธอพูดอะไร กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้ เราเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ฉันจะเลิกคบเธอเดี๋ยวนี้เลย!” โธรณีถูกวรกัญญาขัดจนพูดไม่ออก เธอจึงเริ่มโวยวายไม่มีเหตุผลแล้ว

“ฉันก็ไม่อยากเป็นเพื่อนกับคนอย่างเธอเหมือนกัน ก็ดี เลิกคบก็เลิกคบ ต่อไปเราไม่ใช่เพื่อนกันอีกแล้ว เพราะงั้นฉันไม่มีอะไรต้องสุภาพกับเธออีก ปล่อย ฉันจะกลับ” วรกัญญามองมือของโธรณีที่กำลังดึงแขนตน

“ฉันไม่ปล่อย เธอจะทำอะไรได้ ถ้าเธอทำร้ายฉันฉันก็จะแจ้งตำรวจ ครั้งก่อนเธอฉลาดมากจนหลอกวรรณวิมลได้ไม่ใช่เหรอ วันนี้ฉันจะดูซิว่าเธอจะหลอกฉันยังไง” เมื่อโธรณีพูดจบก็จะนอนลงกับพื้น แต่กลับถูกวรกัญญาดึงขึ้นมา แล้วผลักไปใส่รถคันอื่น

“โธรณี เธออยากลงไปนอนน่ะมันง่ายมาก เธอก็นอนตรงนี้ซะเถอะ ตรงนี้มีกล้องวงจรปิด ฉันชอบสถานที่ที่มีกล้องวงจรปิดที่สุดเลย อยู่ที่นี่จะทำอะไรก็ต้องตรงไปตรงมา ยังไงก็มีสายตามากมายมองดูเธออยู่” วรกัญญาตบๆ หน้าของโธรณี

“วรกัญญา คุณอย่ามายุ่งวุ่นวายนะ แสนดีเป็นแก้วตาดวงใจของตระกูลสุวรรณเลิศ คุณทำร้ายเธอไม่ได้นะ รู้ไหม” ธินิดาเหมือนจะเกลี้ยกล่อมวรกัญญาอย่างชัดเจน แต่ที่จริงเธอปล่อยให้วรกัญญาทำร้ายโธรณี

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset