แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 293 ผู้ชายสองคนที่ไม่สามารถพบกันได้

“คุณผู้หญิง คุณผู้หญิงดีขึ้นบ้างรึยังครับ? ” ตอนที่วรกัญญาฟื้นขึ้นมาครั้งนี้นั้น ถึงจะไม่ได้เจอไอ้บ้าอนุชิตนั่นแล้ว แต่ว่าสายตาของพ่อบ้านที่มองมาที่เธออย่างกระตือรือร้น นึกว่าเธอเป็นอะไรไป ที่จริงแล้วครั้งนี้วรกัญญาหลับไป หลังจากต้องวุ่นวายอยู่ทั้งคืน แล้วก็ล้มลงอีก เธอก็ผล็อยหลับไป

“ดีขึ้นแล้ว ฉันรู้สึกว่าหิวแล้ว มีอะไรให้กินหน่อยไหม? “วรกัญญานึกขึ้นได้ แล้วพ่อบ้านก็ช่วยพยุงเธอขึ้นมา

“มี มี แม่บ้านพึ่งส่งโจ๊กที่พึ่งต้มเสร็จมาให้ คุณกินหน่อยเถอะ”พ่อบ้านชี้ไปที่กระติกน้ำร้อนบนโต๊ะข้างเตียง

“อืม ถ้ายังงั้นขอชามหนึ่งแล้วกันค่ะ ฉันหิวจะเป็นลมแล้ว” เมื่อวานแค่กินข้าวเที่ยงเท่านั้น หลังจากนั้นก็ท้องเสียไม่หยุด ไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้หิวจนไส้กิ่วหมดแล้ว

“อืม ครับ ครับ เดี๋ยวผมไปตักให้เดี๋ยวนี้” พ่อบ้านเปิดกระติกน้ำร้อนออก แล้วก็ตักโจ๊กให้กับวรกัญญาจานหนึ่ง

พอได้กินโจ๊กลงท้องไปชามหนึ่ง วรกัญญาก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย เธอต้องการอีกชามหนึ่ง

“พ่อบ้านคะ เดี๋ยวคุณเอาโจ๊กไปให้ใบเตยที่อยู่ห้องข้างๆ หน่อยแล้วกันค่ะ เธอเองก็น่าจะหิวแล้วเหมือนกัน ฉันกินอีกชามหนึ่งก็พอแล้ว” วรกัญญารู้ว่าตอนนี้เธอกินได้แค่โจ๊กเท่านั้น แล้วเธอก็ไม่ได้ต้องการกินอะไรอีกแล้ว

“อืม ได้ครับ” หลังจากที่พ่อบ้านตักโจ๊กให้วรกัญญาอีกชามแล้วล่ะก็ ก็เอาโจ๊กที่เหลือไปให้กับเลขาใบเตย

พอพ่อบ้านออกไป วรกัญญาก็กินโจ๊กต่อไปด้วย พร้อมกับคิดปัญหาไปด้วย เมื่อวานใบเตยพึ่งจะบอกว่าอาหารไม่สดใหม่ แล้วผลก็คือตัวเธอเองท้องเสีย มันบังเอิญไปรึเปล่า? ผู้จัดการคนนั้นก็อยู่กับคุณโจนส์มาหลายปีแล้ว จะทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไงกัน ต้องให้คนไปสืบให้ได้

วรกัญญาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วก็โทรหาคนคนหนึ่ง ให้เขาตรวจสอบการกระทำช่วงนี้ของผู้จัดการร้านอาหาร

“ประธานวรกัญญา คุณอาการดีขึ้นบ้างรึยังครับ? พวกเรามาเยี่ยมคุณ” ผู้จัดการร้านอาหารพาคนกลุ่มหนึ่งมาเยี่ยมวรกัญญา

ทุกคนถือของและดอกไม้ในมือ ผู้จัดการมีสีหน้าเก้อเขิน มีคนท้องเสียจากร้านอาหารเมื่อก่อนหน้านี้ คราวนี้เป็นประธานสุวรรณกัญญาที่มีอาการท้องเสีย เขาไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

พวกพนักงานทักทายปราศรัยกันได้ไม่นานก็แยกย้ายกันกลับ เหลือแค่ผู้จัดการร้านอาหารเท่านั้นที่ยังอยู่ต่อ

“ประธานวรกัญญา ผมไม่รู้จริงๆ ว่ามันคือเรื่องอะไรกัน ผมก็ไปตรวจสอบอาหารพวกนั้นแล้ว ผมก็คิดว่ามันไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่า…..” ผู้จัดการก้มหน้าลง แล้วก็มองนิ้วมือของตัวเอง

“คุณอย่าคิดมากเลยค่ะ เดี๋ยวฉันจะให้คนไปตรวจสอบ ถ้าเกิดว่าไม่ใช่ปัญหาที่อาหาร ก็ถือว่าโอเค ถ้าเกิดว่ามันเป็นเพราะว่าอาหารไม่สดใหม่จริงๆ ฉันก็จะมาดูปัญหาเกี่ยวกับคุณ” ในเวลานี้วรกัญญาก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่ามันคือเรื่องอะไรกันแน่ ทั้งหมดมันต้องรอให้สืบได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันต่อ

“อืม อืม แต่ว่านี่มันจะสืบยังไงเหรอครับ อาหารก็ลงท้องไปแล้ว ต้องสืบยังไงถึงจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมได้? “ผู้จัดการเป็นกังวลอย่างมาก เรื่องเมื่อครั้งก่อน เขาก็จ่ายค่ารักษาให้กับคนคนนั้นไปแล้ว ครั้งนี้เงินของเขาจะไม่พอแล้ว นี่เป็นประธานของโจนส์กรุ๊ปนะ ตัวของเขาเองมีแต่จะถูกไล่ออกเท่านั้น

“ถ้าเกิดว่ามันไม่ได้เป็นที่คุณ สืบเจอแล้วฉันจะประกาศให้ทราบ แต่ว่าถ้าเกิดว่าเป็นเพราะคุณ คุณก็ดูแลจัดการไปตามสมควรแล้วกัน ฉันจะส่งต่อให้สถานีตำรวจจัดการ”แต่ไหนแต่ไรมาวรกัญญาจัดการเรื่องราวอย่างแยกความรักและความแค้นออกจากกันอย่างชัดเจน เธออยากรู้มากว่าใครเป็นคนทำ

“โอเค งั้นครั้งนี้ผมทุ่มสุดตัวเลย ประธานวรกัญญาคุณพักผ่อนเถอะครับ ผมจะรอดูผล”ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นกังวลมาก แต่ว่าผู้จัดการก็ไม่มีทางเลือกอื่น รอให้ผลลัพธ์ออกมาก่อน เขาพูดอะไร ก็น่าจะไม่มีใครเชื่อหรอก

“โอเค งั้นคุณอย่าพึ่งไปทำงานเลย พักผ่อนที่บ้านไปสักสองสามวันก่อนเถอะค่ะ ตอนนี้ถ้าเกิดว่าคุณยังไปทำงานอยู่ล่ะก็ คงจะไม่มีใครกล้าไปทานอาหารที่ร้านแล้ว ฉันจะให้หัวหน้าพ่อครัวดูแลงานของคุณก่อนแล้วกัน”วรกัญญาพูดกับผู้จัดการร้านอาหาร

“ถ้ายังงั้นก็ได้ งั้นผมกลับไปรอข่าวคราวก่อนก็ได้ครับ” ผู้จัดการร้านอาหารก็ไม่มีทางเลือกอื่น เรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขาทำได้แค่ขอข่าวคราว ช่วงนี้ตัวเองซวยมากเลย

หลังจากที่ส่งผู้จัดการร้านอาหารออกไปแล้ว วรกัญญาก็นอนลงบนเตียง คิดถึงเรื่องราวต่างๆ มีคนหนึ่งเดินมาข้างหน้าเธอ เธอก็ยังไม่รู้ตัวเลย

“คิดอะไรอยู่น่ะ? จริงจังขนาดนั้นเลย? ” ประวีร์ได้ยินจากในโรงพยาบาลว่ามีคนอาหารเป็นพิษเพิ่มอีกสองคน คนหนึ่งคือประธานวรกัญญาของโจนส์กรุ๊ป เขาก็วางงานในมือลงแล้วก็ตรงมาที่โรงพยาบาลทันที

“พี่ประวีร์ แหล่งข่าวพี่ดีจริงๆ เลยนะ” วรกัญญาไม่คิดว่าประวีร์จะรู้ข่าวที่เธอเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในเวลาอันสั้นแบบนี้

“โรงพยาบาลนี้เป็นของฉัน เธอคิดว่าไงล่ะ? ทำไมถึงไม่ระวังตัวเลย?”ประวีร์มองวรกัญญาอย่างเป็นห่วง เด็กคนนี้เนี่ย จริงๆ เลย เป็นเพราะสมรรถภาพทางกายไม่ดีหรือเปล่า?

“ฉันไม่ได้ไม่ระวังนะ เพราะว่าช่วงนี้ร้านอาหารเราค่อนข้างมีอะไรไม่ชอบมาพากล มีคนบอกว่าอาหารไม่ค่อยสดใหม่ ฉันพึ่งรู้ข่าวนั้น ฉันก็เลยเข้ามาโรงพยาบาลเลย”วรกัญญายังคงพูดอย่างมีอารมณ์ขัน

“งั้นก็ส่งผู้จัดการร้านอาหารไปสถานีตำรวจเลย ต้องเป็นฝีมือเขาอย่างแน่นอน ถ้าเกิดว่าร้านอาหารมีปัญหา คนที่รับผิดชอบก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้” ประวีร์มองดูยาที่วรกัญญาได้รับทางสายน้ำเกลืออยู่ รู้สึกว่ามันโอเค ก็เลยสบายใจ

“แต่ฉันคิดว่ามันก็ไม่แน่หรอกนะ เมื่อกี้ผู้จัดการร้านอาหารมาเยี่ยมฉันแล้ว เขาบอกว่าไม่ใช่ฝีมือของเขา , เพียงว่าฉันไม่มีหลักฐานใดๆ ที่จะช่วยให้เขากระจ่าง ก็คงต้องหาคนไปตรวจสอบแล้ว แล้วค่อยว่ากัน” วรกัญญารู้สึกว่าผู้จัดการคนนั้นไม่ใช่คนแบบนั้น แต่ว่าตอนนี้ไม่ได้มีหลักฐานอะไร บริษัทได้ก่อจลาจลแล้ว และมีความต้องการอย่างมากในการเปลี่ยนคนมาแทน

“ถึงยังไงเรื่องที่บริษัทของเธอ เธอก็จัดการไปตามความสมควรก็พอ ใช่สิ คราวนี้เธอก็อยู่โรงพยาบาลเพิ่มอีกสักสองสามวันเถอะ เดี๋ยวฉันจะหาคนมาช่วยเธอสืบ” ประวีร์มองวรกัญญาอย่างปวดใจ

“เรื่องบริษัทของเธอ ก็ควรจะให้เธอเป็นคนจัดการเอง แกจะไปช่วยเพื่อ? “ชลธีปรากฏตัวขึ้นด้วยรังสีอำมหิตที่หน้าประตูห้องผู้ป่วยของเธอ การปรากฏตัวของเขาทำให้วรกัญญาปวดหัว เขาควรจะไปดูแลการวางแผนไม่ใช่เหรอ? โรงพยาบาลนี้ก็ไม่ใช่บ้านเขา แล้วเขารู้ได้ยังไง

“เธอเป็นน้องสาวของฉัน ฉันช่วยเธอก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ควรทำแล้ว” เมื่อประวีร์กับชลธีเผชิญหน้ากัน พวกเขาต่างก็เป็นผู้ชายที่สูงใหญ่ พวกพยาบาลที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูก็กำลังบ้าผู้ชายกันใหญ่

“น้องสาวงั้นเหรอ? แกก็มีน้องสาวของตัวเองไม่ใช่เหรอ? เธอมีแค่น้องชายคนเดียวเท่านั้น มีพี่ชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ” ชลธีก็โจมตีอย่างประวีร์อย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่นิดเดียว

“ฉันจะนอนแล้ว พวกพี่ไปได้แล้ว เชิญไปก่อนเลย อย่ามากวนฉันอยู่ตรงนี้!”วรกัญญาเห็นว่าผู้ชายทั้งสองคนเจอกันก็ทะเลาะกันทันที เธอก็ปวดหัวแล้ว

“ให้แกไปนั่นแหละ!”ชลธีพูดกับประวีร์

“เหมือนกับว่าแกก็เหมือนกันนั่นแหละ!”ประวีร์ถลึงตาใส่ชลธี

“ไป ไปกันให้หมด!”วรกัญญาเห็นว่าพวกเขาเถียงกันไม่ว่าจะพูดอะไร เธอก็แค่อยากจะลุกจากเตียงแล้วก็ไล่ทั้งสองคนออกไป

“โอเคๆ อย่าลงมา เดี๋ยวพวกเราไปก็ได้” เมื่อเห็นว่าวรกัญญาที่กำลังให้น้ำเกลืออยู่กำลังจะดึงสาย ทุกคนก็ตกใจแล้วก็รีบเดินออกนอกประตูไปทันที

วรกัญญาได้ยินเสียงปิดประตู เธอมองดูทั้งสองคนที่ในที่สุดจะออกไปสักที เธอก็เริ่มคิดถึงเรื่องราวต่างๆ อีกครั้ง

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset