แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 420 ใครมีอำนาจมากกว่ากัน

สองคนแม่ลูกเห็นชุดที่ตนเองชอบถูกคนอื่นตัดหน้าซื้อไปแล้ว ก็ทำหน้าไม่ถูกเล็กน้อย จึงอยากจะเรียกศักดิ์ศรีคืนจากบุณยอรดูบ้าง

“ใครเห็นก่อนก็ไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ฉันซื้อแล้ว ถ้าคุณชอบ สั่งจองไว้ล่วงหน้าก็ได้” ความบ้าอำนาจจนติดเป็นนิสัยของ บุณยอร แทบไม่ได้เห็นสองแม่ลูกนั้นอยู่ในสายตาเลย

“ชุดพวกนี้ล้วนมีจำนวนจำกัด ยังมีอีกที่ไหนกันเล่า คุณอายุป่านนี้แล้ว ชุดนั้นก็ไม่เหมาะกับคุณหรอก เอาอย่างนี้มั้ย ฉันจ่ายเป็นสองเท่าเพื่อซื้อกระโปรงตัวนี้เป็นยังไง?” เมียน้อยของธีร์ธวัชมักจะรู้สึกว่าตนเองไม่ได้มีสถานะอะไร ดังนั้นจึงทุ่มซื้อของแบรนด์เนมเพื่อมาสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง

“สองเท่าเหรอ ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันเป็นคนมีปัญหาเรื่องเงิน? นี่แคชเชียร์ คุณช่วยจำสองคนนี้เอาไว้ให้ฉันด้วยนะคะ ต่อไปของในร้านนี้ ไม่ต้องขายให้พวกเขา!” บุณยอรโกรธมาก ที่มีคนกล้าใช้คำพูดแบบนี้พูดกับเธอ ช่างเกินไปแล้วจริงๆ

แต่พนักงานขายไม่ได้รู้จักบุณยอร เธอมองบุณยอรเหมือนเป็นตัวตลกอย่างนั้น ถึงขั้นบอกตนเองว่าอย่าขายของ ตนเองไม่ใช่คนปัญญาอ่อน พอเห็นเงินแล้วก็ไม่รู้จักโกยเงินเข้าเหรอ?

“คุณผู้หญิงคะ ที่นี่พวกเราไม่ได้มีกฎแบบนี้นะคะ คนที่มาล้วนเป็นลูกค้า พวกคุณเองก็ไม่ต้องทะเลาะกันแล้วนะคะ ยังมีสินค้าอื่นที่เป็นลิมิเตดเอดิชั่นอีก พวกคุณลองไปดูชุดอื่นก็ได้นะคะ” พนักงานขายเห็นคนรวยมาที่นี่เยอะแล้ว ดังนั้นจึงไม่เห็นบุณยอรอยู่ในสายตา

ทว่าคำพูดนี้ของเธอกลับเป็นการตบหน้าบุณยอรเข้าอย่างจัง เธอไม่เคยได้รับการดูถูกแบบนี้ที่เมืองสระมังกรมาก่อนเลย

“พวกคุณไม่ฟังคำพูดของเธอ เช่นนั้นคำพูดของฉันพวกคุณก็น่าจะฟังนะ ความต้องการของคุณผู้หญิงท่านนี้ก็คือความต้องการของฉันด้วย ดังนั้นทั้งสองคนนี้ก็ไม่ต้องขายของของให้พวกเขาแล้ว” ธาราวดีเดินเข้ามาทางประตู เธอได้ยินเสียงทะเลาะกันมาจากด้านในตั้งแต่อยู่ตรงประตูแล้ว

“คุณนาย มาแล้วเหรอคะ” ตอนที่บรรดาพนักงานในร้านเห็นธาราวดี ต่างก็ลุกขึ้นยืน โค้งคำนับให้ธาราวดีด้วยความเคารพอย่างมาก

“ยังดีที่ฉันมาพอดี ถ้าไม่อย่างนั้นคงทำให้เธอต้องถูกลบหลู่ดูหมิ่น พวกเธอก็ช่างมีตาหามีแววไม่จริงๆ เลย ท่านนี้คือนายหญิงของตระกูลอมรถิรจินดาแห่งเมืองสระมังกรพวกเธอทำแบบนี้กับเธอได้เหรอ เธอไปขอร้องคุณหญิงบุณยอรดูสิว่าคุณหญิงบุณยอรเธอจะว่ายังไง ถ้าเธอต้องการจะไล่เธอออก ฉันก็เอาเธอไว้ไม่ได้” ธาราวดีให้เกียรติบุณยอรอย่างมาก

สิริกรและเมียน้อยของธีร์ธวัชเห็นว่าตนเองไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายตกใจเลย ในทางกลับกันตนเองยังตกตะลึงในสิ่งที่เจ้าของร้านทำด้วย นี่ถ้าต่อไปไม่ได้ซื้อของให้ตนเองแล้วจริงๆ เธอจะไปโอ้อวดกับคนอื่นได้อย่างไร

พนักงานขายคนนั้นเองก็ตกใจจนแทบจะเป็นลมแล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าเงินเดือนในโจนส์กรุปส์นั้นสูงมาก คนมากมายอยากจะเข้ามาแทบตาย แต่วันนี้ตนกลับผิดใจกับลูกค้ารายใหญ่เข้าแล้ว เธอจะเสียงานนี้ไปไม่ได้

“คุณหญิงบุณยอร ฉันมีตาหามีแววไม่ ฉันจำท่านไม่ได้ ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีเมตตา อย่าถือสาฉันเลยนะคะ ขอร้องท่านล่ะค่ะ บ้านฉันจนมาก ฉันต้องการงานนี้มากค่ะ” พนักงานไปขอร้องอ้อนวอนบุณยอร

ความจริงแล้วบุณยอรเป็นที่ปากร้าย แต่เอาเข้าจริงแล้ว เธอก็เป็นคนที่ใจดีมาก เห็นพนักงานขายคนนั้นพูดอย่างน่าสงสารมาก บวกกับเมื่อครู่พนักงานขายคนนี้ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ก็แค่ตนเองร้องขอมากเกินไปเท่านั้นเอง คนเขาจะละเลยไม่สนใจขายของได้อย่างไรกันเล่า?

“ช่างเถอะ เมื่อครู่สิ่งที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย จะปล่อยปละละเลยไม่ขายของได้ยังไงกันใช่ไหม ไม่ต้องไล่เธอออกแล้ว ฉันก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย” บุณยอรให้เธอพนักงานขายที่คุกเข่าอยู่บนพื้นคนนั้นลุกขึ้นมา

“อร เธอก็ยังใจดีแบบนั้น ปากร้ายใจดี เอาละ คุณหญิงบุณยอรไม่ได้ถือสาเอาเรื่องอะไรแล้ว ฉันก็ไม่ถือสา แล้วพวกคุณสองคน ควรจะไปได้แล้ว” ธาราวดีมองสองคนนั้น เธอรู้จักทั้งสองคน คนหนึ่งคือแม่ของธีร์ธวัชอะไรนั่น อีกคนก็คือเมียน้อย เมียน้อยคนนี้ก็ช่างเก่งจริงๆ ทำให้วรรณวิมลบ้าๆ บอๆ เพี้ยนไปได้ วรรณวิมลในตอนนี้ก็นอนอยู่บนเตียงไม่พูดไม่จาไปแล้ว

“คุณนายโจนส์ คุณนายโจนส์คะ เมื่อกี้เป็นการเข้าใจผิด เข้าใจผิดหมดเลยค่ะ ฉันชอบเสื้อผ้าร้านคุณมาก ก็เลยทำแบบนี้ คำโบราณถึงพูดไว้ว่า ไม่ทะเลาะก็ไม่รู้จักกันไงคะ ต่อไปพวกเราต่างก็รู้จักกันแล้ว” สติปัญญาของเมียน้อยก็ฉลาดมากจริงๆ

แต่เมียน้อยอย่างเธอนี้ทำให้ทุกคนต่างพากันดูถูกเหยียบหยามแน่นอน แม้วรรณวิมลคนนั้นจะไม่มีใครชอบหน้าก็ตาม

“เรื่องรู้จักกันคงไม่ต้องแล้ว ต่อไปจะพูดจะจาอะไรก็ระวังปากหน่อย บางคนก็ล่วงเกินได้ บางคนล่วงเกินไม่ได้” ธาราวดีสั่งสอนเมียน้อยของธีร์ธวัช เมียน้อยก็ได้แต่ยิ้มอย่างกล้ำกลืนฝืนทน

สิริกรก็ลากเมียน้อยไป

“ไม่รู้จักตัวเองเลย คิดว่าตัวเองเป็นใคร ก็แค่เมียน้อยคนหนึ่ง!” ธาราวดีพูดกับบุณยอร เธอเองก็ดูถูกเหยียดหยามเมียน้อยมาก

“งานเลี้ยงรุ่นคืนนี้เธอต้องมาเร็วหน่อย พวกเราไม่ได้เจอกันสามสิบปีแล้ว กว่าจะจัดงานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้ได้ยากมาก ได้ยินหัวหน้าห้องบอกว่าน่าจะมากันครบเลย”

บุณยอรพูดกับธาราวดี ในชั้นเรียนของพวกเขามีนักเรียนทั้งหมดสี่สิบคน มีผู้หญิงผู้ชายอย่างละครึ่ง นี่ก็จากกันไปสามสิบปีแล้ว จะรวมตัวกันสักครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย ผ่านไปอีกสักระยะอาจจะมีคนใช้รูปภาพมาร่วมงานเลี้ยงรุ่นแทน

“ต้องไปสิ ต้องไปแน่นอน ครั้งนี้หลายคนต่างก็พาลูกไปด้วย วันนี้ฉันก็จะพามุกของฉันไปด้วย” ธาราวดีและบุณยอรต่างก็ชอบลูกสาว งานเลี้ยงรุ่นครั้งนี้พวกเธอต่างก็คิดจะพาลูกสาวตนเองไปด้วย ลูกชายนั้นแทบไม่ได้อยู่ในหัวเลย

ธีรนัยน์เห็นกล่องกระดาษที่วางอยู่อยู่บนเตียง เธอจ้องมองมาหนึ่งชั่วโมงแล้ว บุณยอรเองก็ไม่ได้เร่งรัดเธอ ในทางกลับกันก็ต้องมีการปรับตัวด้วย ตนเองส่งเสื้อผ้าเข้าไปให้แล้ว ธีรนัยน์รับไว้แล้ว นั่นหมายความว่าเธออยากใส่

“แม่ แม่เข้ามาหน่อยค่ะ” หลังจากผ่านไปพักใหญ่ ธีรนัยน์ก็ร้องเรียกบุณยอรอยู่ตรงประตู

“จ้ะ ” บุณยอรก็เดินเข้ามา กลับมองเห็นกล่องกระดาษนั้นไม่ได้เปิดออก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าลูกสาวตนเองยังผ่านอุปสรรคนั้นไม่ได้ บุณยอรนึกถึงคำพูดที่มุกดาพูดกับตนเอง อย่าบีบบังคับธีรนัยน์มากเกินไป เพราะเธอคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายมาตลอด การเปลี่ยนความคิดจำเป็นต้องใช้เวลา

“ลูกรัก ลูกไม่อยากใส่ก็ไม่เป็นไร รอให้ลูกคิดได้แล้วค่อยใส่ แม่เอาไปแขวนให้ลูกนะ” บุณยอรเปิดกล่องออก พลางหยิบชุดกระโปรงสีขาวออกมา เพื่อเตรียมเอาไปแขวนในตู้เสื้อผ้าของธีรนัยน์

“รอเดี๋ยวค่ะ!” ธีรนัยน์ดึงมือแม่ไว้ การต่อสู้ภายในใจเธอรุนแรงมาก นับตั้งแต่ที่ตนเองได้ยินคำพูดของลูซี่เธอก็รู้สึกว่าการที่ตนเองคอยปลอมตัวไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว ราวกับตัวเองรู้แก่ใจดีอยู่แล้วว่าตนเองเป็นผู้หญิง

แต่กระโปรงชุดนี้ใส่ออกไปต้องใช้ความกล้าหาญมากจริงๆ !

“ทำไมเหรอ ลูกรัก ลูกคิดได้แล้วเหรอ ลูกวางใจเถอะ แม่จะแต่งตัวให้ลูกอย่างสวยงามมาก ลูกไม่ต้องกลัวนะ” บุณยอรให้กำลังใจลูกสาวตนเองอีกครั้ง!

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset