แต่งรักมัดใจบอส – ตอนที่ 463 ทำชั่วร่วมกัน

“คุณน้าสิริกร ตอนนี้เหลือแค่พวกฉันสองคนแล้ว คุณจะเสียใจทีหลังตอนนี้ยังทันนะ” ในความมืด มีแสงจันทร์เล็กน้อย แสงจันทร์ทอดยาวเงาของทั้งสองคน

“ฉันเสียใจทีหลังอะไรล่ะ พวกเขาทำให้ลูกชายของฉันต้องตาย ฉันก็ต้องแก้แค้นให้ลูกชายของฉันอยู่แล้ว มองดูครอบครัวที่มีความสุขของพวกมัน ฉันก็อยากจะเข้าไปฟันคนเลย” สิริกรนึกภาพที่มีความกว่าตัวเองของนีรชาเธอก็กัดฟันด้วยความเกลียดชัง

“ก็ได้ พวกเราปรึกษากันวิธีเดียว ในเมื่อไม้แข็งพวกเราไม่ไหว ฉันเองก็ไม่มีลูกน้อยเยอะขนาดนั้น พวกเราก็มาไม้อ่อน ถึงจะไม่ได้ทำให้ครอบครัวของพวกเขาพังทลายไปในทันที แต่ก็สามารถทำให้พวกเขาเจ็บปวดช่วงเวลาหนึ่ง!” เมธพรที่พึ่งสูญเสียธีรเมทไปในตอนนี้เองก็บ้าคลั่งแล้ว

เมธพรนัดสิริกรออกมา ก็คืออยากจะคิดหาวิธีในการแก้แค้นมุกดาและคนทั้งบ้านของชลธี

“ใช่เลย ลูกชายคนที่สองของฉันที่แรกยังดีๆอยู่ แต่ลูกสะใภ้คนนั้น เป็นคนที่ขี้ขลาด บอกให้ลูกชายฉันว่าไม่ต้องแก้แค้นแล้ว ธวัชเขาก็เห็นด้วย แต่ว่าใจของฉันนี่สิ ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ทำไมนีรชาอยากได้ลมได้ลมอยากได้ฝนได้ฝน ส่วนฉันกลับต้องคอยอดทนอย่างต่ำต้อยด้วย?” ในใจของสิริกรอิจฉาและเกลียดนีรชามาโดยเสมอ

“นั่นแหละ มุกดาคนนั้นเองก็เหมือนกัน ตั้งแต่เล็กจนโตมีคนชอบมาโดยตลอด ฉันได้แต่ใช้ชีวิตอยู่ภายใต้เงาของมัน ถึงจะหาแฟนแล้ว ฉันก็ใช้ร่างกายในการแย่ง แต่ว่ามันก็ยังหาคนที่ดีกว่าเจอ ส่วนคนที่ฉันแย่งมาคนนั้น กลับยังไม่ลืมมันไปอีก คุณน้าสิริกร บอกฉันหน่อยว่าฉันมันไม่ดีตรงไหน?” เมธพรเองก็มีความโกรธต่อมุกดาเต็มท้องไปหมดเหมือนกัน

เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้แพ้ให้กับมุกดา

สิริกรดูเมธพร เด็กคนนี้ได้ทำหน้าจนเป็นเหมือนตอนนี้ ถึงแม้ว่าจะเหมือนกับมุกดาเล็กน้อย แต่จะให้เหมือนเลยนั้นไม่มีทาง ถ้าเธอเป็นผู้ชาย ก็จะเลือกมุกดาเหมือนกัน แต่ว่าสิริกรไม่มีทางเอาความคิดนี้บอกให้กับเมธพรรู้หรอก เพราะว่าพวกเธอเป็นความสัมพันธ์ในการร่วมมือ

เมธพรได้คิดแผนมาแล้วหนึ่ง ก็ได้ทำการต่อเติมเล็กน้อย ทั้งสองคนรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากแล้วก็แยกกันไป

ธีร์ธวัชและนาราได้ย้ายกลับไปคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศแล้วจริงๆ ด้วย เดิมทีนาราก็ไม่ชอบสิริกรที่มาจากบ้านนอก บวกกับนีรชานั้นรวย แล้วยังใจกว้างมาก ดังนั้นก็เลยรีบเกาะติดนีรชา นี่ก็ทำให้สิริกรยิ่งเกลียดนีรชาไปเข้าใหญ่

” “พี่อักลี่” ลูกชายของธีร์ธวัช พายุเห็นอักลี่กลับมาแล้วก็ได้ไล่ตามอักลี่ไป

“พายุ” อักลี่เห็นที่บ้านมีน้องชายเพิ่มขึ้นมาอีกคน เขาก็ชอบมาก เพราะในที่สุดก็มีคนเล่นกับตัวเองแล้ว

พายุถึงแม้ว่าอายุจะน้อย แต่ปากหวานมาก และเป็นเด็กที่เชื่อฟังมาก ดังนั้นนีรชาเองก็วางใจที่ปล่อยให้เด็กทั้งสองเล่นด้วยกัน

“พี่อักลี่ พี่จะเขียนหนังสือหรอ?” หลังจากที่พายุตามอักลี่ไปในห้องของอักชี่แล้วเห็นอักลี่เอาสมุดการบ้านของตัวเองออกมา เขาก็รู้สึกอิจฉาอักลี่เป็นอย่างมาก

“ใช่แล้ว พี่ไปเรียนแล้ว ก็เลยมีการบ้าน รอต่อไปนายโตขึ้นแล้วก็สามารถไปเรียนได้เลย” อักลี่อธิบายให้พายุฟังอย่างมีความอดทน

พายุเองก็เชื่อฟังมาก ตอนที่เขาเห็นอักลี่เขียนการบ้านอยู่ เขาก็ได้นั่งเงียบๆ อยู่ข้างๆ ความสูงน้อยๆ ของเขาสามารถมองเห็นอักลี่ที่กำลังเขียนหนังสืออยู่พอดี เขาดูมาเป็นชั่วโมงกว่า ดูอย่างมีความสุขเป็นอย่างมาก ขาก็ไม่รู้สึกชา เอวก็ไม่รู้สึกเมื่อยเลย

“พี่ พี่สอนผมเขียนหนังสือได้ไหม?” พายุที่อายุแค่ 3 ขวบอยู่ๆ ก็มีความสนใจในการเขียนหนังสือแล้ว

“ได้สิ” หลังจากที่อักลี่เขียนเสร็จแล้วก็ได้เอากระดาษออกมาใบหนึ่ง สอนพายุเขียน 1 2 3

“อักลี่ ลูกกับน้องกำลังทำอะไรอยู่หรอ?” ตอนที่มุกดากลับมา เห็นลูกชายกำลังเล่นเกมอะไรอยู่กับพายุ

“หม่ามี๋กลับมาแล้วหรอ?ผมกำลังสอนพายุเขียนหนังสืออยู่ หม่ามี๋ดูสิ ใช้ได้เลยนะเนี่ย” อักลี่ชมพายุอยู่ พายุเห็นมุกดาก็เรียกอาสะใภ้อย่างหวานๆ ทีหนึ่ง

“อื้ม พายุเด็กดี ถ้าอย่างนั้นก็เล่นอยู่ที่บ้านกับพี่นะ ออกไปข้างนอกไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ” มุกดาเห็นที่บ้านมีเด็กสองคนแล้ว ก็เลยระวังเป็นพิเศษ เมธพรเป็นคนที่มีแค้นต้องเอาคืน ตอนนี้ธีรเมท ตายแล้ว เธอต้องกลับมาแก้แค้นตระกูลสุวรรณเลิศแน่ๆ

“ครับ ผมรู้แล้วครับอาสะใภ้” พายุพูดไป ความสนใจของเขาอยู่บนการเขียนหนังสือทั้งหมด มุกดาเห็นทั้งสองคนเล่นกันได้อย่างมีความสุข ก็เลยกลับไปที่ห้องของตัวเองเลย

ช่วงนี้มุกดารู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยล้ามาก เห็นเตียงก็อยากจะนอน เธอเปลี่ยนเสื้อและล้างหน้าเสร็จ เห็นว่าเวลายังมีอยู่ ก็เลยไปนอนบนเตียง ไม่นานเธอก็หลับไป

“พวกผมเป็นคนส่งของครับ ทางนี้มีพัสดุของคุณชล” มีคนที่ขับมอเตอร์ไซต์มาจอดอยู่หน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศแล้วพูดกับคนข้างใน

“อ้อ ได้ เอาให้ฉันก็ได้แล้ว” คนข้างในพูดขึ้นมา แต่ว่าซองเอกสารนั้นหนาไปหน่อย ยัดเข้าทางช่องประตูไม่ได้ ดังนั้นคนที่เฝ้าประตูคนนั้นก็ได้เปิดประตูออก

ประตูเปิดออก คนที่ส่งของคนนั้นก็ได้สะบัดมือทีหนึ่ง คนเฝ้าประตูรู้สึกว่าหัวของตัวเองมึนมาก ได้ล้มไปอยู่บนตัวของคนส่งของทันที คนส่งของได้พยุงคนเฝ้าประตูไปในห้อง

คนส่งของเดินออกมา ได้เปลี่ยนเสื้อไปชุดหนึ่ง เธอได้ประประตูไว้เล็กน้อย ก็เดินเข้าไปแล้ว เวลานี้คนใช้ในตระกูลสุวรรณเลิศน่าจะกำลังทำกับข้าวหรือว่าเรื่องอย่างอื่น เธอคุ้นชินกับที่นี่เป็นอย่างมาก

เดินเข้าไปในห้องรับแขก เธอดูไปรอบๆ ไม่มีคนจริงๆ ด้วย ตอนที่เดินเข้าไปข้างในต่อ พายุก็ออกมาแล้ว อักลี่ก็ได้ตามออกมาด้วยบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ

คนนั้นก็หลบอยู่ข้างๆ ของที่เธอเอามาด้วยได้ซ้อนไว้ในที่ที่ลับมากๆ จากนั้นเธอก็ได้ไปที่อื่น วางของเหมือนเดิม

หลังจากวางเสร็จแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็ได้เดินออกมาจากห้อง พายุและอักลี่ที่เข้าห้องน้ำเสร็จก็จะกลับห้องแล้ว อักลี่หันกลับมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็เห็นมีแม่บ้านเดินออกมาจากห้องรับแขก

เวลานี้ไม่ใช่ว่าควรทำกับข้าวอยู่หรอ?อาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นแหละ อักลี่เองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ดึงพายุแล้วก็กลับไปที่ห้อง

ผู้หญิงทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว เธอก็ได้มาถึงหน้าประตู เห็นว่าเวลาพอดีแล้ว เธอก็ได้ให้คนเฝ้าประตูดมอะไรสักอย่าง ในเวลาแบบนี้จะให้คนเฝ้าประตูฟื้นขึ้นมาไม่ได้ ถ้าคนเฝ้าประตูฟื้นแล้ว ก็จะแจ้งความ เธอก็จะอดดูเรื่องสนุกๆ

เดินออกมาจากช่องประตูเล็กน้อง ผู้หญิงลูปที่หน้าอกของตัวเอง ราบรื่นเกินไปแล้ว คนในคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศเป็นหมูหมดเลยหรอ?ใกล้จะระเบิดแล้ว พวกเขายังไม่รู้เรื่องอะไรเลย แค่คิดก็มีความสุขจะตายแล้ว

ผู้หญิงคนนั้นก็คือเมธพร เธอได้ซื้อชนวนระเบิดไว้เยอะมาก ไปวางตามมุมรอบๆ ของคฤหาสน์ตระกูลสุวรรณเลิศ เดี๋ยวรอถึงเวลา ชนวนระเบิดก็จะระเบิด เธอก็จะได้เห็นหน้าตาที่ร้องโห่ร้องไห้ของมุกดาแล้ว ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า มีความสุขจริงๆ

เห็นว่าเวลาใกล้จะถึงแล้ว เมธพรก็ได้ขยับไปในที่ปลอดภัยอย่างอัตโนมัติ เธอก็ได้นับถอยหลังอยู่ในใจ!

แต่งรักมัดใจบอส

แต่งรักมัดใจบอส

ภายในหนึ่งเดือน แต่งงาน หย่า แต่งงาน มุกดาไม่รู้ว่าตนสุขหรือทุกข์กันแน่แต่งงานอีกรอบกลับไม่รู้ว่าสามีเธอเป็นใครแค่กลางคืนกับมานอนกับเธอตรงเวลา”ประธานชลธี ฉันจะลาออก” “ได้ เธอดูสัญญาให้ดี “จ่ายเงินละเมิดสัญญาสิบล้านมาซะ แล้วเธอจะไปไหนฉันก็ไม่ห้ามในการทำงานยังเจอประธานโรคจิต มุกดารู้สึกว่าชีวิตเธอช่างมืดมนไร้แสงสว่างยิ่งนักแต่ทว่าเรื่องไม่ได้เป็นอย่างที่ มุกดาคิด

Comment

Options

not work with dark mode
Reset