แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย – ตอนที่ 601 ดึงมีดออกกับเคารพตัวเอง

จือหมิงลูกชายเจ้าของรีสอร์ทถูกเด็กวัยรุ่นหลายคนจับกดลงพื้น ตะกร้าใส่งูที่เขาพกติดตัวตลอดคว่ำลง อวี๋หมิงหลางพอไปถึงก็รีบตะโกนให้หยุด
 
 
“หยุดนะ!”
 
 
จือหมิงห่อตัวนอนขดอยู่ที่พื้น เสี่ยวเชี่ยนวิ่งเข้าไปถามเขา
 
 
“ไม่เป็นไรนะ?”
 
 
จือหมิงไม่ตอบ แต่ไหล่ของเขาสั่นเทา
 
 
“แกเป็นใครวะ?” เด็กวัยรุ่นเหล่านั้นมองอวี๋หมิงหลางอย่างหาเรื่อง ดูจากการแต่งตัวแล้วเหมือนพนักงานของโรงแรมที่อยู่ในเขตท่องเที่ยวนี้ มีคนหนึ่งสวมผ้ากันเปื้อนสีขาวที่เลอะคราบน้ำมัน
 
 
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ ประเด็นคือเป็นคนบ้านเดียวกันทั้งนั้น มีอะไรก็คุยกันดีๆสิ ทำไมต้องลงไม้ลงมือกันด้วย”
 
 
คำพูดของอวี๋หมิงหลางไม่ได้ทำให้คนพวกนี้หยุดใช้ความรุนแรง คนที่เป็นหัวโจกหัวเราะเสียงดัง ชี้ไปที่จือหมิงที่นอนอยู่พลางพูดเย้ยหยัน
 
 
“พวกแกอยู่ให้ห่างๆไอ้บ้านี่ไว้ ปู่มันเป็นบ้า มันเองก็เป็นบ้า! ไปเรียนมอปลายกลับมาทำอวดดีไม่ทักทายใคร ถุย!”
 
 
เด็กวัยรุ่นคนนั้นคิดจะถีบจือหมิง แต่ถูกอวี๋หมิงหลางห้ามไว้
 
 
“เฮ้พวก ขอเตือนไว้ก่อนอย่ามาใช้กำลังต่อหน้าฉัน ฉันไม่ปลื้มเท่าไร”
 
 
เด็กวัยรุ่นที่เป็นหัวโจกถูกอวี๋หมิงหลางล็อคแขนไว้ ถูกหักหน้าต่อหน้าคนมากมาย ในฐานะที่เป็นนักเลงประจำถิ่น นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนกล้าหักหน้า ดังนั้นหลังจากที่อวี๋หมิงหลางเข้ามาห้าม สิ่งแรกที่หัวโจกคนนี้ทำก็คือ—
 
 
“พวกเรา!ลุย!”
 
 
สิ้นเสียงตะโกนคนที่เหลือก็พุ่งเข้าไปรุมอวี๋หมิงหลาง
 
 
จากนั้นแต่ละคนกระเด็นกระดอนไปทิศทางไหนล้วนเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา อวี๋หมิงหลางเตะทีเดียวล้มลงไปกองกับพื้นสองคน
 
 
ส่วนอีกสองคนที่เหลือได้ถูกหมัดกับขาของเขาทำให้ล้มลง
 
 
“การใช้กำลังคือพวกสัตว์ ดังนั้นรับมือกับพวกนายที่มีพฤติกรรมไร้สติแบบนี้ก็คือการทำตัวแบบสัตว์สมัยยุคดึกดำบรรพ์ ฉันมีอาวุธแค่อย่างเดียว นั่นก็คือพละกำลัง!”
 
 
อวี๋หมิงหลางปัดมือ แล้วพูดกับหัวโจกที่ถูกเขาถีบล้มลงอย่างไม่แคร์
 
 
“ยังไม่ไสหัวไปอีก!”
 
 
สมัยก่อนที่พี่หลางทำตัวเป็นนักเลง ไอ้กร๊วกพวกนี้ยังเป็นเด็กตัวกะเปี๊ยกอยู่เลยด้วยซ้ำ คิดจะมาทำอวดเก่งต่อหน้าเขา ทำแค่นี้ยังเบาไป!
 
 
กลุ่มเด็กเกเรรีบหนีกันกระเจิง
 
 
เสี่ยวเชี่ยนนั่งยองๆตบบ่าที่สั่นเทาของจือหมิง
 
 
“ไม่เป็นไรแล้วนะ พวกนั้นไปแล้ว ไม่มีใครทำร้ายนายแล้ว”
 
 
จือหมิงก็อายุ18-19แล้ว ทำไมยังถูกรังแกได้ เสี่ยวเชี่ยนคิดมาตลอดว่าพฤติกรรมยกพวกรุมคนอื่นแบบนี้จะมีแค่ในวัยเท่าน้องชายเธอเท่านั้น
 
 
“พวกเขารังแกผมแบบนี้มาตลอด…” ใบหน้าของจือหมิงซุกอยู่กับพื้น เขาพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนร้องไห้
 
 
“ไม่เป็นไรแล้ว พวกนั้นไปหมดแล้ว ไม่มีใครมารังแกนายได้อีก” เสี่ยวเชี่ยนปลอบอย่างใจเย็น ด้วยสัญชาตญาณทางอาชีพของเธอสัมผัสได้ว่าเด็กที่ยังไม่โตเต็มที่คนนี้กำลังตกใจกลัวมาก
 
 
และความกลัวนี้เป็นไปได้ว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ปรากฏ คนพวกนั้นทำเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา ดูก็รู้ว่ารังแกจือหมิงบ่อย
 
 
“พวกเขาหัวเราะเยาะที่ผมสอบไม่ติด หัวเราะเยาะชื่อของผม แม้แต่ชุ่ยเอ๋อพวกเขาก็ไม่เว้น…ชุ่ยเอ๋อ!” อยู่ๆจือหมิงก็เงยหน้าขึ้นรีบไปพลิกตะกร้าขึ้นมาดูด้วยความลนลาน
 
 
งูเขียวที่อยู่ในนั้นดูอ่อนแรง ร่างกายขดงออย่างไม่เป็นธรรมชาติ หัวย้อยลงต่ำ จือหมิงประคองสัตว์เลี้ยงของตัวเองด้วยมืออันสั่นเทา แต่งูเขียวก็ไม่พันตัวที่แขนของเขาอย่างตอนปกติอีกแล้ว
 
 
อวี๋หมิงหลางแค่เห็นก็รู้ว่างูตัวนี้ไม่รอดแน่
 
 
80-90%ถูกคนทำกระดูกหัก สิ่งมีชีวิตจำพวกงูถ้ากระดูกหักล่ะก็ รอความตายอย่างเดียว
 
 
ไม่ว่าจะที่ไหนผู้อ่อนแอย่อมเป็นเหยื่อของผู้แข็งแกร่ง เรื่องจำพวกนี้ไม่ใช่แค่ตามหมู่บ้านในชนบท แม้แต่ในเมืองก็มีให้เห็นเยอะ เพียงแต่ในสถานที่ที่ความเจริญเข้าไม่ค่อยถึงแบบนี้ เรื่องแบบนี้จะค่อนข้างเป็นที่เปิดเผย
 
 
“ชุ่ยเอ๋อ!” จือหมิงร้องไห้ออกมาเสียงดัง เสี่ยวเชี่ยนเห็นแบบนั้นแล้วก็หน้าบึ้ง
 
 
“คนพวกนั้นทำเกินไปแล้ว!”
 
 
อวี๋หมิงหลางพยักหน้า “อันที่จริงพวกนั้นก็เป็นแค่เด็กที่เพิ่งโต ผู้ใหญ่ไม่ค่อยได้สั่งสอน โตมาถึงได้ทำอะไรโง่ๆ คนโง่ก็มักจะชอบแสดงออกด้วยการใช้กำลัง วงจรอุบาทว์วนเวียนกันอยู่อย่างนี้เลยเกิดเป็นแก๊งค์นักเลงตามหมู่บ้านในชนบทหรือแม้แต่ในเมือง เป็นขยะสังคม”
 
 
อวี๋หมิงหลางมีวิชาป้องกันตัวชั้นสูง แต่เขาไม่เคยใช้ความสามารถในทางที่ผิด เขาจะใช้มันปกป้องคนที่ตัวเองอยากปกป้องเท่านั้น ไม่ใช่ไว้ใช้รังแกคนไม่มีทางสู้
 
 
“ถ้าพี่ผมอยู่ก็คงดี พี่ผมไม่มีทางปล่อยให้คนพวกนั้นรังแกผมแน่…ผมทำอะไรก็ไม่ดีสักอย่าง” จือหมิงประคองงูเขียวที่ค่อยๆตายไป น้ำตาที่อยู่บนหน้ายังไม่แห้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความเคียดแค้นมองไปทางที่เด็กเกเรพวกนั้นวิ่งหนีไป
 
 
“ไปเถอะ กลับไปกับพวกเรา ร่างกายเธอมีแผลต้องไปทำแผลก่อน” เสี่ยวเชี่ยนพูดกับจือหมิง
 
 
แต่จือหมิงกลับมองไปทางคนพวกนั้นพลางพูดพึมพำ “ถ้าจือฮูอยู่เราไม่มีทางโดนรุมแน่นอน พี่จะปกป้องเรา พี่…”เขาเอามือกำไปที่พื้นแน่น ดวงตาแดงกล่ำ ท่าทางดูแปลกมาก
 
 
เสี่ยวเชี่ยนรู้สึกสถานการณ์ไม่ชอบมาพากล ขณะที่กำลังจะทำการพูดจูงใจเธอก็เห็นจือหมิงถืองูที่ตายแล้ววิ่งไปทิศทางตรงกันข้าม ความเร็วของเขานั้นไวเสียจนอวี๋หมิงหลางยังคิดว่าสุดยอด คล้ายกับสัตว์ป่า
 
 
“เด็กคนนี้คงไม่เป็นอะไรนะ?” เสี่ยวเชี่ยนถาม
 
 
“เดี๋ยวผมตามไปดูดีกว่า” อวี๋หมิงหลางเองก็รู้สึกไม่วางใจ ปฏิกิริยาของจือหมิงไม่ค่อยเหมือนคนปกติ
 
 
ขณะที่อวี๋หมิงหลางเตรียมจะวิ่งตามไปนั้นก็เห็นลุงเจ้าของรีสอร์ทเดินมา
 
 
“ลุงคะ จือหมิงมีเรื่องกับพวกเด็กเกเร เขาวิ่งไปทางนั้นแล้ว หนูกำลังจะให้คู่หมั้นวิ่งตามไปค่ะ” เสี่ยวเชี่ยนชี้ไปทางที่จือหมิงวิ่งไป
 
 
“เห้อ เดี๋ยวลุงไปตามเอง พวกเธอกลับไปเถอะ พวกเธอไม่รู้จักทางในภูเขาดี” ลุงเจ้าของพอได้ยินเสี่ยวเชี่ยนพูดแบบนั้นก็หน้านิ่ว ไม่ได้มีสีหน้าตกใจ คล้ายกับชินแล้วที่ลูกชายถูกแกล้ง
 
 
“ไม่ให้ผมไปช่วยจริงๆเหรอครับ?” อวี๋หมิงหลางถาม
 
 
ลุงเจ้าของส่ายหน้า มองอวี๋หมิงหลางด้วยสายตาระแวง แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจ
 
 
“เรื่องของครอบครัวเรา พวกเธอเป็นคนนอกอย่ามายุ่ง!”
 
 
ลุงที่ดูใจดีมาตลอดอยู่ๆก็พูดด้วยน้ำเสียงไร้มารยาท เสี่ยวเชี่ยนกับอวี๋หมิงหลางมองหน้ากันแล้วตัดสินใจปล่อยไป คนเป็นพ่อพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าพวกเขายังดื้อดึงจะไปช่วย อาจเป็นการเพิ่มความยุ่งยากให้อีกฝ่าย
 
 
ระหว่างทางกลับอวี๋หมิงหลางถามเสี่ยวเชี่ยน
 
 
“ในมุมมองทางจิตวิทยามองสภาพอารมณ์ที่ดูเกินจริงของลุงเมื่อกี้ยังไงเหรอ?”
 
 
“คนที่มีความเคารพในตัวเองสูงกับคนที่ชอบดูถูกตัวเอง”
 
 
“หมายความว่ายังไง?”
 
 
“ถ้าลองลากเส้นตรงแสดงถึงการมีความเคารพในตัวเอง ถ้าอย่างนั้นคนปกติก็จะอยู่ตรงกลาง คนที่ชอบดูถูกตัวเองจะอยู่ด้านล่างของคนปกติ ส่วนคนที่มีความเคารพในตัวเองสูงจะอยู่ด้านบน คนที่มีมากหรือต่ำเกินไปล้วนไม่ใช่สภาวะจิตใจที่ปกติ คนที่มีความเคารพในตัวเองสูงจะค่อนข้างเซ้นซิทีฟ ใครล้ำเส้นไม่ได้เลย ซึ่งก็คือพวกที่เห็นแก่หน้าตัวเอง คนรอบตัวพวกเราหลายคนเป็นแบบนี้ ว่าแค่หน่อยเดียวหัวใจก็เปราะบางเหมือนกระจก เป็นคนที่เคารพตัวเองสูงมาก ดูอย่างพวกเราพักที่นี่มาหนึ่งคืนแล้วนายได้ยินลุงเจ้าของด่าจือหมิงไปกี่ครั้งแล้วล่ะ? แทบจะทุกครั้งที่เอาแต่เน้นย้ำว่าจือหมิงสู้พี่ชายไม่ได้”

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

แผนรักสยบใจบอสสาวตัวร้าย

หลังจากตรอมใจตายจากการเสียลูกสาวสุดที่รักไป เสี่ยวเชี่ยน จิตแพทย์สาวชื่อดังก็ได้ย้อนเวลากลับมาเป็นตัวเองเมื่อตอนอายุสิบแปดปีอีกครั้ง คราวนี้เธอจะแก้ไขเรื่องในอดีตทุกอย่างที่เธอเคยผิดพลาดไป เธอจะคิดบัญชีทุกคนที่เคยทำร้ายเธอและคนที่เธอรัก ทั้งพ่อที่เอาใบเรียนต่อมหาวิทยาลัยของเธอไปซ่อนเพื่อบังคับให้เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายที่จะเอาเธอมาแต่งงานบังหน้าทั้งที่ตัวเองเป็นเกย์ ทั้งอาจารย์ที่รับเงินพ่อเพื่อปิดบังเรื่องผลสอบของเธอ ยังมี หนีเจี้ยนเหริน คนสารเลวที่ทุบตีเธอไม่เว้นวันในชาติที่แล้ว เธอจะเอาคืนทุกคนให้หมด ชาตินี้เธอตั้งใจไว้แล้วว่าจะมีชีวิตอยู่เพื่อการแก้แค้นเท่านั้น! แต่เหมือนโชคชะตาจะเล่นตลกทำให้เธอต้องมาพบกับเขา อวี๋หมิงหลาง ทหารที่รักเธออย่างสุดใจเมื่อชาติก่อน ทุกอย่างกำลังดำเนินไปตามแผนการของเธอแล้วแท้ๆ แต่พอตานี่โผล่มาทุกอย่างก็ยุ่งเหยิงผิดพลาดไปหมด นี่เธอต้องทำยังไงถึงจะสลัดอีตากอเอี๊ยะนี่ทิ้งไปได้กันเนี่ย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset