แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ – ตอนที่ 705 สัตว์ประหลาดมีสมอง

แอ๊ด

ประตูเหล็กถูกผลักออกเล็กน้อย จากนั้นเงาร่างเล็กๆ เงาหนึ่งก็แทรกตัวเข้ามาจากด้านนอก

หากวัดกันเรื่องความสามารถในการอำพรางกาย หุ่นซอมบี้ตัวนี้สู้ซอมบี้ระดับสูงไม่ได้เลย แต่ก็เพราะว่ามันเป็นซอมบี้ระดับล่าง ดังนั้นขอเพียงมันไม่เป็นฝ่ายเผยตัว มันก็จะไม่เป็นที่สะดุดตาของพวกเดียวกันที่อยู่ไกลๆ เหล่านั้น

หลิงม่อก้มมองมู่เฉินที่นอนสลบอยู่บนพื้น หลังจากแผ่หนวดสัมผัสออกมาเพื่อสร้างตายข่ายป้องกันคลุมไว้บนศีรษะเสร็จ สายตาของเขาก็แน่วแน่ขึ้นมาทันที

เขาต้องตามหาสัตว์ประหลาดตัวนั้นให้เจอภายในเวลาที่สั้นที่สุด…

เมื่อก่อนการใช้พลังจิตสำรวจเพื่อตรวจจับคลื่นดวงจิตที่อยู่รอบๆ ผ่านหุ่นซอมบี้เป็นเรื่องยากมากสำหรับหลิงม่อ แต่ตอนนี้เมื่อพลังจิตแกร่งขึ้น พอได้ลองใช้วิธีนี้อีกครั้ง กลับกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที

ทว่าองศาและขอบเขตในการสำรวจจำกัดกว่าการสำรวจด้วยตัวเองอย่างเห็นได้ชัด แต่โชคดีที่ในห้างฯ แห่งนี้เป็นสภาพแวดล้อมแบบปิด และจุดที่เขาต้องการสำรวจก็มีแค่เพดานเท่านั้น

หุ่นซอมบี้เดินเลียบไปตามแนวผนังช้าๆ ขณะเดียวกัน หนวดสัมผัสทางจิตเส้นที่หลิงม่อใช้เชื่อมสายสัมพันธ์กับมันได้แตกแขนงออกไปหนึ่งเส้น แล้วยื่นขึ้นไปบนเพดาน

ในเวลาอย่างนี้เขาไม่จำเป็นต้องใช้หนวดสัมผัสจำนวนมาก เพราะด้วยความเร็วในการเคลื่อนไหวของหุ่นซอมบี้ ใช้แค่เส้นเดียวก็เพียงพอแล้ว

หุ่นซอมบี้ตัวเล็กค่อยๆ เข้าใกล้โซนที่มีซอมบี้รวมตัวกันอยู่ มันชะลอฝีเท้าลงเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกต

ถึงแม้หลิงม่อจะร้อนใจ แต่นั่นไม่เป็นปัญหาต่อการเพ่งสมาธิของเขา เพราะหนวดสัมผัสทางจิตยังคงตรวจค้นทั่วทุกระเบียดนิ้วไม่มีพลาด

ดวงแสงแห่งจิตที่อยู่รอบๆ มีมากเกินไป และทุกดวงก็มีคลื่นที่รุนแรง บวกกับหุ่นซอมบี้ตัวเล็กที่เริ่มได้รับผลกระทบมากขึ้นเรื่อยๆ การตรวจค้นของหลิงม่อจึงเริ่มเป็นเรื่องยากขึ้น

“ฉันไม่เชื่อว่าฉันจะหาแกไม่เจอ…”

หลิงม่อขมวดคิ้ว พลันเร่งการถ่ายเทพลังงานทางจิตให้เร็วขึ้น

ทันใดนั้น คลื่นดวงจิตที่รุนแรงมากกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในขอบเขตการตรวจจับด้วยพลังจิตของหลิงม่อ!

หุ่นซอมบี้หยุดเดินทันที

เนื่องจากอีกฝ่ายมีพลังสูง แม้จะเป็นแค่พลังจิตสำรวจ ก็อาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นได้

หลังจับคลื่นดวงจิตกลุ่มนี้ได้ หลิงม่อไม่ได้เร่งรีบค้นหาตำแหน่งของดวงแสงแห่งจิตทันที แต่เขารออยู่ 2 วินาที แล้วจึงค่อยควบคุมหนวดสัมผัสให้เคลื่อนไหวไปตามแนวเพดานช้าๆ

หนวดสัมผัสเคลื่อนไหวไปอย่างเชื่องช้า ขัดแย้งกับจิตใจของหลิงม่อที่กำลังร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด

แต่ยิ่งในเวลาอย่างนี้ ยิ่งไม่ควรรีบร้อน…

“ฮู่ว…”

หลิงม่อสูดหายใจเบาๆ เพื่อสงบความรู้สึกกังวลในใจ

สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษสายพลังจิต ความแกร่งของพลังจิตและท่าทีในขณะต่อสู้นั้นสำคัญพอๆ กัน หากไม่รอบคอบ ไม่มีสมาธิ ก็ไม่อาจแสดงฝีมือที่แท้จริงออกมาได้

จุดนี้ความจริงผู้มีความสามารถพิเศษด้านศักยภาพร่างกายก็เป็นเหมือนกัน หากไม่มีความมุ่งมั่นในการต่อสู้อย่างแรงกล้า พวกเขาก็ไม่อาจแสดงพลังออกมาได้เช่นกัน

เมื่อหลิงม่อปรับจังหวะลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติ ใน “สายตา” ของเขาก็หลงมีเพียงดวงแสงแห่งจิตที่มากมายจนนับไม่ถ้วน

และคลื่นดวงจิตอันรุนแรงที่เขาจับได้เมื่อกี้ ก็มาจากดวงแสงแห่งจิตที่อยู่บนเพดานนั่น…

เจอแล้ว!

ในจุดที่อยู่ห่างจากหัวของหุ่นซอมบี้ไม่ถึง 20 เมตร ดวงแสงแห่งจิตดวงหนึ่งกำลัง “ล่องลอย” อยู่ตรงนั้น…

“สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งกว่าซอมบี้นก…เป็นซอมบี้ หรือสัตว์กลายกันพันธุ์กัน?

ดวงแสงแห่งจิตสีแดงเลือด เป็นของสิ่งมีชีวิตที่กลายพันธุ์แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย แต่เห็นเพียงเท่านี้ หลิงม่อยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าตัวจริงของมันรูปร่างเป็นอย่างไร และไม่อาจแยกแยะได้ว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์ใด

“ลองทดสอบดูหน่อยดีไหม?”

หลิงม่อคิดในใจ ขณะเดียวกันเขาได้ควบคุมหุนซอมบี้ตัวเล็กให้หันไปมองทางที่พวกเย่เลี่ยนอยู่

เมื่อมองผ่านชั้นวางของที่เรียงรายกันอยู่ เขามองเห็นแค่เหล่าซอมบี้จำนวนมากที่กำลังเข่นฆ่ากันเอง

ในตอนนั้นเอง หุ่นซอมบี้เห็น ณ มุมหนึ่งของห้างฯ มีแสงสะท้อนวาบวับของอาวุธมีคมประกายขึ้น ตามมาด้วยเลือดที่พุ่งกระฉูดกลางอากาศ

“ซย่าน่า…”

คมมีดโค้งงอรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่เห็น คือเคียวดาบในมือของซย่าน่านั่นเอง

หลิงม่อไม่ได้สับเปลี่ยนมุมมองสายตา เพราะตอนนี้เขาจำเป็นต้องเพ่งสมาธิขั้นสูง

“มีซอมบี้รวมตัวกันอยู่ในนี้อย่างน้อย 200 – 300 ตัว แล้วยังมีซอมบี้กำลังเบียดเสียดกันเข้ามาเพิ่ม…แต่ว่า พวกมันกลับไม่เข้ามาใกล้ตรงนี้เลย…”

หลิงม่อครุ่นคิดอย่างละเอียด สุดท้ายก็หันหน้ามองเข้าไปในทางเดิน

“เอาอย่างนี้แหละ…”

หลังตัดสินใจได้ เขาก็ดึงมู่เฉินขึ้นมา แล้วประคองเขาเดินไปทางประตูเหล็กซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง

ด้านนอกประตูเหล็ก มีเฮยซือยืนรออยู่ก่อนแล้ว

แต่ดูเหมือนว่ามันคงจะอดทนจนถึงขีดจำกัดแล้ว ดังนั้นหลังจากที่ร่างกายกระตุกสั่นอยู่ชั่วขณะแล้วลืมตาขึ้น สีหน้าก็กลับมาบูดบึ้งเป็นอวี๋ซือหรานเหมือนเดิม

“เจ้าเฮยซือ…” ดวงหน้าเล็กคล้ายตุ๊กตานั่น ไม่ว่าจะกัดฟันกรอดๆ อย่างไรก็ดูไม่น่ากลัวซักนิด

หลิงม่อโยนมู่เฉินออกไป แล้วพูดตัดบทเธอว่า “เธอกับเสี่ยวป๋ายเฝ้าข้างนอกไว้ให้ดี หากมีสิ่งมีชีวิตเข้าใกล้ ก็อย่ารีบลงมือจัดการ เน้นซ่อนตัวไว้ก่อน ดูมู่เฉินไว้ด้วย ถ้าฟื้นก็ตีให้สลบ”

ด้านหนึ่ง พวกเธอสามารถเตือนภัยเขาได้ ในอีกด้าน ก็เพื่อที่พวกเธอจะช่วยเหลือเขาได้ตลอดเวลา…

“นายก็ปลุกให้เขาตื่นแล้วพาไปด้วยก็ได้นี่?” อวี๋ซือหรานกลับโฉบหลบออกไปด้านข้าง ทำให้มู่เฉินล้มพับลงไปนอนกับพื้นดัง “พลั่ก” แต่เขาก็ยังไม่ตื่นอยู่ดี…

“เฮ้ย…” หลิงม่อหน้าบึ้ง

โชคดีที่เขาเป็นผู้มีความสามารถพิเศษด้านศักยภาพร่างกาย ล้มแค่นี้คงไม่เป็นไร แถมยังไม่ฟื้นด้วย…

แต่เขากำลังรีบนะ!

อวี๋ซือหรานเองก็เม้มปากทำหน้าบึ้ง แค่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงสัตว์กลายพันธุ์ยังไม่พอ ตอนนี้แม้แต่มนุษย์เขาก็ยังกล้าโยนมาให้เธอรับผิดชอบอีก…

“เขาไม่ใช่ผู้มีพลังจิตนะ อีกเดี๋ยวถ้าเกิดเขาลอบแทงฉันจากข้างหลังอีกจะทำยังไง? ตอนนี้เขากลายเป็นคนหักหลังพวกเดียวกันเหมือนเธอไปแล้ว” ไม่รอให้อวี๋ซือหรานโต้เถียง หลิงม่อปิดประตูดัง “ปัง” ทันที

หลังปิดประตู เขาเดินเข้าไปในทางเดิน แล้วเหลือบมองไปทางห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกล

“เลี้ยงเหยื่องั้นหรอ…”

หลิงม่อเพ่งสมาธิ ขณะเดียวกันหุ่นซอมบี้ก็โน้มตัวอยู่ด้านล่างตำแหน่งของดวงแสงแห่งจิตดวงนั้น

มาถึงขั้นนี้ ไม่ว่าจะเป็นซอมบี้หรือสัตว์กลายพันธุ์ต่างก็มีสติปัญญาที่ค่อนข้างสูงแล้ว พวกมันจะไม่เผยพลังของตัวเองให้เห็นในทันที

หลังคำนวณองศาเสร็จ หุ่นซอมบี้ตัวเล็กก็กระโดดขึ้นเงียบๆ และใช้นิ้วมือเจาะเข้าไปในเพดานบนศีรษะทันที

เนื่องจากหลิงม่อได้คำนวณระดับความแรงไว้ด้วย ดังนั้นถึงแม้นิ้วมือจะแทงเข้าไปในผิวเหล็กของเพดาน แต่กลับไม่ส่งเสียงดังมากนัก

ซอมบี้ที่อยู่ไกลออกไปทางนั้น ไม่มีตัวไหนหันมาสนใจเลย

“ชิบหาย เล็งไม่โดน!”

หลิงม่อคำนวณระยะห่างจริงผิด ก็ช่วยไม่ได้ ใครจะไปรู้ล่ะว่าเจ้าสิ่งนั้นจะอยู่ข้างในเพดาน…

ทว่าการเคลื่อนไหวนี้เหมือนจะทำให้มันรู้ตัวแล้ว คลื่นจากดวงแสงแห่งจิตดวงนั้นไหวกระเพื่อมชั่วขณะ

“วิ่ง!”

พอเห็นมันขยับเขยื้อน หลิงม่อรีบควบคุมหุ่นซอมบี้ให้หมุนตัวออกวิ่งไปทางห้องบันได้ด้วยความเร็วสูงทันที

ขณะเดียวกัน มือข้างหนึ่งของหุ่นซอมบี้แบออก เผยให้เห็นก้อนเหนียวหนืดก้อนหนึ่ง

ก้อนเหนียวหนืดนี้ไม่น่าสนใจมากพอสำหรับซอมบี้ที่คลุ้มคลั่งไปแล้วเหล่านั้น แต่หลิงม่อเดาว่ามันน่าจะทำให้หุ่นซอมบี้มีความสำคัญมากขึ้นในสายตาเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้…

ถ้าหากการโจมตีเมื่อกี้เข้าเป้า เขาคงไม่ต้องใช้ลูกไม้สำรองนี้

ตามคาด เจ้าซอมบี้ระดับต่ำที่น่าประหลาดตัวนี้ได้ดึงดูดความสนใจจากเจ้าสัตว์ประหลาดสำเร็จ ดวงแสงแห่งจิตของมันเคลื่อนเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว

ตอนนี้หลิงม่อไม่มีเวลาหันไปสำรวจมันอีกแล้ว เขาเพ่งสมาธิทั้งหมดไปกับการควบคุมให้หุ่นซอมบี้วิ่ง

หุ่นซอมบี้เร่งความเร็วจนถึงขีดสุด กล้ามเนื้อของมันเริ่มมีแนวโน้มว่าจะฉีกขาด แต่ถึงอย่างนั้นสายลมแรงสายหนึ่งก็ยังพุ่งเฉียดหัวของมันไป!

หลิงม่อควบคุมหุ่นซอมบี้ให้ก้มหัวโดยอัตโนมัติ ในใจพลางนึกหวาดเสียว!

โชคดีที่หุ่นซอมบี้ตัวเตี้ย…

ที่นี่มีแสงสว่างไม่มาก และหลิงม่อก็ไม่กล้าหันหลังกลับไปมอง จึงไม่รู้ว่ารูปร่างของสัตว์ประหลาดที่กำลังไล่ตามเขาอยู่บนเพดานเป็นอย่างไรกันแน่

แต่แค่ได้ยินเสียง “ขึกๆ” ที่ไล่ตามมาอย่างไม่ยอมลดละ ก็ทำให้หนังศีรษะตึงชาแล้ว!

แต่โชคดีที่ซอมบี้พวกนั้นไม่ได้ตามมาด้วย

“นึกไว้ไม่มีผิด ในฐานะผู้เลี้ยงเหยื่อ การที่มันปล่อยกลิ่นเชื้อไวรัสคลุ้มคลั่งออกมาไม่ได้ทำให้มันถูกเปิดเผยตัวตน กลับเป็นการป้องกันตัวเอง แล้วรอเก็บเกี่ยวผลผลิตอย่างปลอดภัย…เจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้มีสมองจริงๆ…”

สวบ!

กระแสลมแรงพุ่งเข้ามาอีกครั้ง ครั้งนี้ถึงแม้หลิงม่อจะก้มหัวได้ทันเวลา แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างบนหัวที่หายไป

เขายกมือขึ้นลูบดู แล้วก็ต้องตกตะลึง

ผมหายไปหนึ่งกระจุก…

เส้นยาแดงผ่าแปดจริงๆ!

วินาทีนี้ หุ่นซอมบี้ระเบิดความสามารถทั้งหมดออกมา ประตูเหล็กอยู่อีกไม่ไกลแล้ว อีก 10 มตรเท่านั้น!

ทว่าตอนนี้ประตูเหล็กกำลังเปิดแง้มไว้ ถึงแม้หุ่นซอมบี้จะวิ่งแทรกตัวออกไป แต่สัตว์ประหลาดที่ไล่ตามหลังมาจะต้องพุ่งชนเต็มๆ แน่นอน เสียงดังขนาดนั้น ซอมบี้พวกนั้นต้องได้ยินแน่ๆ…

5 เมตร!

1 เมตร!

ในเสี้ยววินาทีหุ่นซอมบี้อยู่ห่างจากบานประตูเหล็กเพียง 1 เมตรนั้นเอง ทันใดนั้นบานประตูก็ถูกดึงเปิดออกอย่างน่าประหลาด!

หนวดสัมผัสที่แตกแขนงออกมาเส้นนั้น ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในเวลานี้ได้พอดี

ฉึก!

เสี้ยววินาทีที่หุ่นซอมบี้พุ่งตัวผ่านประตู ความรู้สึกเหมือนเนื้อฉีกพลันแผ่มาจากแผ่นหลังของมัน

บาดเจ็บแล้ว!

และสิ่งที่ทำให้หลิงม่อตะลึงคือ ทั้งที่เป็นบาดแผลที่ไม่ได้อันตรายถึงตาย แต่สัญชาตญาณต่อต้านของหุ่นซอมบี้กลับรุนแรงขึ้น จนเกือบจะหลุดจากการควบคุมของหลิงม่อ

“เชื้อไวรัสคลุ้มคลั่ง…” หลิงม่อใจกระตุกวาบ ที่แท้เจ้าสิ่งนี้ก็ไม่ได้แพร่กระจายได้แค่ในอากาศอย่างเดียว!

“ก็นึกว่าเป็นแค่เครื่องผลิต…”

หลิงม่ออดทนต่ออาการมึนหัวเบาๆ แล้วควบคุมหุ่นซอมบี้ให้วิ่งพุ่งมายังตำแหน่งที่ตัวเองอยู่

—————————————————————————–

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

เมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นและเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ผู้คนบนโลกก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จากคนธรรมดาต้องกลายเป็นซอมบี้กระหายเลือด! แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่รอดพ้นจากไวรัสร้ายกาจนี้ หนึ่งในนั้นคือหลิงม่อ หนุ่มเนิร์ดหน้าตาบ้านๆ แน่นอนว่าเขาต้องทุ่มเทพยายามสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอด แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างที่ต้องทำ คือช่วยแฟนสาวซอมบี้ ให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง สุดท้ายแล้วหลิงม่อหนุ่มธรรมดาคนนี้จะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ เรามาร่วมลุ้นไปด้วยกันเถอะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset