แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ – ตอนที่ 915 รังกบดานที่ซ่อนอยู่ภายใน

เจ้าหมีที่นอนล้มอยู่บนพื้นพลันกระตุกสั่นอีกสองสามที หลี่ย่าหลินร้อง “เอ๋” เบิกตากว้างแล้วมองลงมาจากข้างบน

หลิงม่อควักไวรัสนางพญาออกมา พลางบอกว่า “ตรงนี้อย่างมากก็อยู่ใกล้ๆ กระดูกสันหลังส่วนก้นกบเท่านั้น อีกอย่างยังอยู่ห่างจากจุดนั้นตั้งหนึ่งฝ่ามือ ผมเห็นว่าจุดนี้เรียบที่สุดในร่างกายมัน ถึงได้เดาว่าร่างปรสิตซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ พี่เห็นไหม ทั้งที่จุดนี้ของมันไม่ได้มีกล้ามเนื้อปูดขึ้นมา แต่เสื้อผ้ามีรอยฉีกขาด…”

“ที่แท้ก็อย่างนี้เอง…แต่ในสถานการณ์คับขันอย่างนั้นก็ยังสังเกตเห็นรายละเอียดเล็กๆ อย่างนี้ได้ หลิงม่อสุดยอดจริงๆ” หลี่ย่าหลินโยกตัวไปข้างหน้าข้างหลัง พลางพูดยิ้มๆ

ทว่าในขณะที่พูดนั้นเธอได้ยื่นมือออกไป คว้าท่อเหล็กในมือหลิงม่อ จากนั้นก็ดีดตัวขึ้นไปข้างบนทันที…

“งี๊ดด งี๊ดดด…”

เมื่อกระเป๋าเลี้ยงตัวอ่อนสิบกว่าตัวพากันเบียดเสียดกันอยู่หน้าช่องแคบเล็กๆ ในลิฟต์ตัวนี้ก็ได้กลับคืนสู่ความเงียบสงัด เหลือไว้เพียงศพขนาดใหญ่ราวภูเขาเนื้อ…

“แกร๊กก”

หลี่ย่าหลินค่อยๆ ปิดทางออกนี้อย่างระมัดระวัง แล้วเงยหน้ามองไปข้างบน “ที่นี่แปลกมาก…”

“ที่นี่คือช่องลิฟต์” หลิงม่อเองก็เงยหน้ามองขึ้นไปตามสลิงเหล็ก แต่นอกจากความมืดมิด ที่นี่ดูเหมือนไม่มีอะไรอย่างอื่นอยู่เลย แน่นอนว่าไม่เห็นเงาร่างของซย่าน่าอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

“แล้วก็อีกอย่าง อันนี้น่าจะเรียกว่าบ่อตรวจนะ” หลิงม่อชี้ไปที่ทางออกข้างเท้า บอกว่า “ดูสภาพแล้วคนที่เป็นคนเปิดช่องนี้เป็นคนแรก น่าจะเป็นมนุษย์ที่ถูกขังอยู่ในลิฟต์ พวกเขาขึ้นลิฟต์มาที่ชั้นหนึ่ง แต่กลับพบว่าที่นี่ก็มีซอมบี้อยู่จำนวนมากเหมือนกัน ในสถานการณ์เร่งรีบจึงทำได้เพียงหาวิธีอื่น…แน่นอนว่านี่เป็นเพียงการคาดเดาของผม แต่ดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ น่าจะเป็นอย่างนี้ไม่ผิดแน่”

“ทำไมถึงไม่ใช่ซอมบี้ล่ะ?” หลี่ย่าหลินถามเสียงเบา

เห็นเธอทำหน้าฉงน หลิงม่อถอนหายใจ พลางมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง แล้วบอกว่า “ถ้าหากเป็นซอมบี้ มันต้องเปิดช่องนี้อย่างรุนแรงแน่นอน ไม่มีทางยังปิดได้เหมือนตอนนี้ อีกอย่าง อีกอย่าง เห็นได้ชัดว่าเคยมีการสังหารหมู่เกิดขึ้นในลิฟต์…ผมว่าหลังจากที่ผู้รอดชีวิตพวกนั้นเปิดที่นี่ พวกเขาคงถูกฆ่าก่อนที่จะหนีออกไปได้ทัน”

“จากนั้นที่นี่ก็ถูกพวกซอมบี้ยึดครองอย่างนั้นหรอ?” หลี่ย่าหลินเอียงคอถาม

“ตอนนี้ยังไม่รู้ แต่ซย่าน่าต้องเห็นอะไรแน่ๆ ถึงได้เข้ามา…ช่วยไม่ได้แล้ว พวกเราก็ขึ้นไปกันเถอะ” ก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหว หลิงม่อฉีกแขนเสื้อของหลี่ย่าหลินออกมาส่วนหนึ่ง จากนั้นก็มัดมันไว้ตรงโคนของสายสลิงเหล็กอย่างใจเย็น “เกิดซย่าน่าย้อนกลับมาก่อน จะได้รู้ว่าต้องรอพวกเราอยู่ที่นี่”

“อื่ม…” หลี่ย่าหลินพยักหน้า เธอแหงนหน้ามองขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง

สลิงเหล็กเย็นๆ ถูกขึงตึงเป็นเส้นตรง และเหยียดยาวขึ้นไปในความมืดที่ไม่สามารถมองเห็นได้

“หลิงม่อ” อยู่ๆ เธอก็พูดขึ้น “ฉันรู้สึกเหมือนอีกด้านหนึ่งมันเชื่อมอยู่กับอะไรบางอย่าง”

“ไปดูเดี๋ยวก็รู้เอง” หลิงม่อหัวใจกระตุกวูบ แต่ปากกลับพูดออกไปอย่างใจเย็น

ทั้งสองคนคว้าสลิงเหล็กไว้ จากนั้นก็ปีนตามกันขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ไต่ผ่านประตูลิฟต์ไปทีละชั้นๆ ความคิดประหลาดๆ อย่างหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในสมองของหลิงม่ออย่างควบคุมไม่ได้…ถ้าหากมีคนอยู่นอกประตูนี้ จะสามารถรับรู้ได้ถึงสายตาที่เขาทอดมองไปที่ประตูไหมนะ…

“จะว่าไปแล้ว ความรู้สึกเหมือนถูกจับตามองที่เรารู้สึกนั้น…”

ขณะกำลังครุ่นคิด อยู่ๆ หลี่ย่าหลินก็ร้องขึ้นด้วยความตะลึงเบาๆ เธอชี้นิ้วไปยังจุดที่อยู่เฉียงไปข้างบน “ตรงนั้นมีรู!”

ความสามารถในการมองเห็นเวลากลางคืนของเธอดีกว่าหุ่นซอมบี้ตัวนี้ของหลิงม่ออย่างเห็นได้ชัด หลังพูดจบ เธอก็กระโดดไปเกาะผนังช่องลิฟต์เบาๆ “ฉันจะไปดูหน่อย”

“ระวังตัวหน่อย…” หลิงม่อเองก็ไต่ขึ้นไปตามสลิงเหล็กอย่างรีบร้อนเช่นกัน ไม่นานก็ขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับหลี่ย่าหลิน

เมื่อมองจากเงาร่างของหลี่ย่าหลินไปด้านข้างเล็กน้อย หลิงม่อก็มองเห็นรูมืดๆ ตามคาด พื้นผิวของรูนั้นขรุขระ เหมือนถูกสิ่งมีชีวิตบางอย่างใช้มือขุดขึ้นมา ข้างในรูนั้นมีเงาดำที่มืดกว่าอยู่ไม่น้อย มองแวบแรกเหมือนสิ่งของจำพวกท่อต่างๆ

หลี่ย่าหลินชะโงกร่างกายท่อนบนเข้าไปในนั้น หลังจากที่สำรวจอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็ยื่นหน้าออกมาแล้วบอกว่า “ข้างในทะลุผ่านได้ด้วย…ฉันเห็นกระดูกท่อนหนึ่งด้วยล่ะ”

“ฉิบหาย…”

หลิงม่อกระดกคิ้ว พลางอุทานขึ้น

ในสภาพแวดล้อมอย่างนี้กลับมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่จริงๆ แถมยังเจาะ “อุโมงค์” ขึ้นมาในตัวตึกอีก…เรื่องนี้แค่คิด ก็ทำให้รู้สึกขนลุกขนพองแล้ว

และสิ่งที่ทำเรื่องอย่างนี้ได้ ก็คงจะมีแต่ซอมบี้ที่อยู่ในตึกแห่งนี้แล้วล่ะ ไม่แน่ว่า “หัวหน้า” อีกตัวที่ซอมบี้ฮวาฮวาพูถึง อาจซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักที่ในอุโมงค์นี้ก็ได้…

“แล้วผู้รอดชีวิตพวกนั้นล่ะ? เป้าหมายของพวกเขาจะอยู่ที่นี่ด้วยหรือเปล่านะ?”

นอกเหนือจากความตะลึง หลิงม่อก็เริ่มรู้สึกถึงอะไรบางอย่างรางๆ

ครั้งนี้ พวกเขาอาจฟลุคเจอแจ็คพอตโดยบังเอิญก็ได้ สิ่งมีค่าในบริษัทลอว์สันไม่ได้มีแค่อุปกรณ์ทดลองพวกนั้น แต่ยังรวมถึงความลับที่ซ่อนอยู่ในนี้ด้วย…ขอเพียงเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับซอมบี้ ล้วนสามารถทำให้หลิงม่อสนใจได้ทั้งนั้น

“แต่ซย่าน่าไม่ได้ปีนเข้าไปจากตรงนี้” หลี่ย่าหลินดมกลิ่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วบอก

“ถ้าอย่างนั้น ข้างบนก็ยังมีรูแบบนี้อยู่อีก?” หลิงม่อเงยหน้ามองขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง

ชั่วขณะหนึ่ง อยู่ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนที่นี่เป็นเหมือนรังมดขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง

บางทีซอมบี้ที่อยู่ข้างนอกพวกนั้น อาจเป็นแค่มดงานที่ทำหน้าที่ปกป้องที่นี่ก็เป็นได้…หรือบางที พวกมันอาจเป็นเพียงส่วนหนึ่งของมดงานทั้งหมด

“ไป พวกเราขึ้นไปดูกัน!” หลิงม่อปรับลมหายใจให้เป็นปกติ แล้วปีนขึ้นไปตามสลิงเหล็กอีกครั้ง

ถึงแม้แขนข้างหนึ่งจะใช้การไม่ได้แล้ว แต่สำหรับซอมบี้ ขอเพียงไม่ใช่บาดแผลถึงชีวิต มันก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

ทว่าถึงแม้อย่างนั้น เขาก็ยังรู้สึกว่าต้องออกแรงมากกว่าปกติเล็กน้อย

เหมือนกับที่เขาคาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ ในช่องลิฟต์แห่งนี้มีพลังสกัดกั้นบางอย่างอยู่ และการควบคุมหุ่นของหลิงม่อก็ลำบากขึ้นด้วยเหตุนี้

แต่โชคดีที่ขอเพียงตั้งสมาธิควบคุมซอมบี้ตัวนี้ตัวเดียวก็พอแล้ว ดังนั้นสำหรับหลิงม่อ ความลำบากในระดับนี้ยังถือว่าอยู่ในขอบเขตที่พอทนได้

“เวลาผ่านได้ผ่านไปอีกช่วงหนึ่งแล้ว แต่สถานการณ์ที่นี่กลับยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ…”

ในตอนนั้นเอง จู่ๆ สมองของหลิงม่อก็ได้รับสัญญาณทางจิตที่ถูกส่งมาจากเย่เลี่ยน

ร่างจริงของเขากับเย่เลี่ยนอยู่นอกบริษัทลอว์สันเหมือนกัน ดังนั้นจึงไม่ได้รับผลกระทบอะไรในการสื่อสารผ่านทางจิต แต่แวบแรกที่ได้รับสัญญาณนี้ หัวใจของหลิงม่อกลับเต้นแรงขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

มีสัญญาณ ก็แสดงว่า…เย่เลี่ยนเจออะไรบางอย่างแล้ว

หลิงม่อรีบสลับมุมมองสายตาทันที แล้วเขาก็มองเห็นบริษัทลอว์สันจากข้างนอกผ่านสายตาของเย่เลี่ยน

เงาร่างของใครคนหนึ่งกำลังหมอบอยู่ในพุ่มหญ้า เขากำลังมองออกมาข้างนอกจากในพุ่มหญ้าตรงนั้น โดยที่ในมือของเขาเหมือนจะถือของบางอย่างไว้ด้วย

และขณะที่หลิงม่อมองไปทางเขา คนคนนั้นก็ยกแขนข้างหนึ่งขึ้น และโบกแรงๆ กลางอากาศสองครั้งพอดี

“จะเริ่มแล้วงั้นหรอ?” หลิงม่อม่านตาหดเล็กลง พลันรีบมองไปรอบๆ

บนถนนหน้าบริษัทยังคงเบียดเสียดไปด้วยซอมบี้มากมาย และในจุดที่อยู่ห่างจากถนนออกไปไม่มากนัก ก็คืออาคารสองชั้นที่ร่างจริงเขาอยู่นั่นเอง…

“ท่าไม่ดีแล้ว” อยู่ๆ หลิงม่อก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ สีหน้าเขาแย่ลงทันใด

—————————————————————————–

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

เมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นและเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ผู้คนบนโลกก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จากคนธรรมดาต้องกลายเป็นซอมบี้กระหายเลือด! แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่รอดพ้นจากไวรัสร้ายกาจนี้ หนึ่งในนั้นคือหลิงม่อ หนุ่มเนิร์ดหน้าตาบ้านๆ แน่นอนว่าเขาต้องทุ่มเทพยายามสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอด แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างที่ต้องทำ คือช่วยแฟนสาวซอมบี้ ให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง สุดท้ายแล้วหลิงม่อหนุ่มธรรมดาคนนี้จะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ เรามาร่วมลุ้นไปด้วยกันเถอะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset