แฟนผมกลายเป็นซอมบี้ – ตอนที่ 932 อวัยวะพิเศษที่ผุดขึ้นมาเอง

“ไม่รู้ทำไม พอฟังแกพูดอย่างนี้แล้ว จู่ๆ ฉันก็โมโหขึ้นมาเลยล่ะ…” เวลานี้ร่างกายของผีเสื้อบิดเบี้ยวไปมา ราวกับมีกระดูกหักหลายที่อย่างไรอย่างนั้น และในระหว่างนี้เสียง “กร๊อบแกร๊บๆๆ” ก็ดังออกมาจากตัวเธออย่างต่อเนื่อง

ถังฮ่าวที่ยืนอยู่อีกฝั่งร้องออกมาอย่างตกตะลึง “คงไม่ใช่ว่าปรับโรงสร้างใหม่อีกครั้งหรอกนะ…”

“ขั้นตอนของดักแด้ลอกคราบ?” หลิงม่อใจเต้นทันที

ตามหลักแล้ว ตอนนี้ควรเป็นโอกาสในการโจมตีที่ดีที่สุด แต่สัญชาตญาณของหลิงม่อกลับห้ามเขาไม่ให้ลงมือ ผีเมื้อกล้าเลือกที่จะปรับโครงสร้างร่างกายใหม่ในเวลานี้ ก็แสดงว่ามีการเตรียมพร้อมแน่นอน ถ้าหากวู่วามลงมือ ไม่เพียงไม่ทำให้เขาบาดเจ็บ กลับกัน อาจทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกต่างหาก

“ใช่แล้ว!” หลิงม่อตระหนักได้อย่างรวดเร็ว “แรงกระตุ้นจากภายนอก! การปรับโครงสร้างของผีเสื้อก็เหมือนกับการแปลงร่างของถังฮ่าว ต่างต้องการแรงกระตุ้นจากภายนอกอย่างรุนแรง อันตรายถึงชีวิตที่อวี๋ซือหรานจู่โจมเขาเมื่อกี้ ทำให้เขามีโอกาสปรับโครงสร้างร่างกายในครั้งแรก ถ้าอย่างนั้นหากเราลงมือตอนนี้ จะกลายเป็นการช่วยเขาหรือเปล่านะ?

ขณะที่หลิงม่อกำลังเผยสีหน้าลังเล ผีเสื้อพลันกรีดร้องเสียงดังออกมาทันใด เขากางสองแขนออก แล้วกอดตัวเองแน่น สองเท้าเขย่งขึ้นสูง พร้อมกับแหงนหน้าขึ้น ราวกับกำลังกางปีกเพื่อโบยบิน ทว่าหลิงม่อกลับสังเกตเห็น ตรงหน้าอกที่ผีเสื้อใช้สองมือโอบกอด เหมือนกำลังมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้น…

“เหมือนมีอะไรบางอย่างโผล่ออกมาจริงๆ…” หลิงม่อรู้สึกเย็นวาบขึ้นมาจากปลายเท้า ถึงจะเป็นผู้มีพลังกลายพันธุ์ แต่พอมนุษย์คนหนึ่งกลายสภาพเป็นอย่างนี้ เขาจะยังถือว่าเป็นมนุษย์อยู่อีกงั้นหรอ?”

ถึงแม้เหล่าผู้มีความสามารถพิเศษจะมีพลังพิเศษที่แตกต่างกันไป แต่อย่างไรเนื้อแท้ของพวกเขาก็ยังถือว่าเป็นมนุษย์อยู่ดี อย่างมากก็แค่มีความสามารถในการต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดเพิ่มขึ้นมาประเภทหนึ่ง…แต่กรณีของถังฮ่าว กับผีเสื้อที่เข้าใกล้ซอมบี้กลายร่างไม่หยุดอย่างนี้ พวกเขาเหมือนกำลังค่อยๆ หลุดพ้นจากความเป็นมนุษย์ไปอย่างช้าๆ…

“ถึงแม้ซอมบี้กับมนุษย์จะมีต้นกำเนิดเดียวกัน…แต่วิธีการอย่างนี้ของเขา…ใช่แล้ว ถังฮ่าวก็บอกแล้ว พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับผลข้างเคียงที่ร้ายแรงยิ่งกว่าซอมบี้ คนที่กลายเป็นซอมบี้จากการติดเชื้อไวรัส ยังมีโอกาสฟื้นคืนสติปัญญาจากการวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง แต่คนพวกนี้กลับไม่สามารถทำอย่างนั้นได้…”

ถึงแม้หลิงม่อจะยังไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้ใช้วิธีอะไรกันแน่ แต่สิ่งที่มั่นใจได้ก็คือ วิธีการของพวกเขาจะต้องไม่เหมือนกับวิธีการกลายพันธุ์ทั้งหมดที่เขาเคยรู้มาก่อนอย่างแน่นอน…เขารู้สึกได้รางๆ ว่าไม่แน่ วิธีที่คนพวกนี้ทำให้ตัวเองแปลงร่างได้ จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับฟางอิ๋ง ซอมบี้ร่างแม่ตัวนั้นแน่ๆ…

พอเห็นผีเสื้อกำลังปรับโครงสร้างร่างกายอีกครั้ง หลิงม่อก็ไม่ลังเลอีก

ขอเพียงไม่โจมตีโดนร่างกายเขา ก็น่าจะได้แล้ว…ยังก็เถอะ ลองกันซักตั้ง!

ในขณะที่หลิงม่อกำลังจะลงมือ อวี๋ซือหรานที่ห้อยตัวอยู่กลางอากาศพลันทิ้งตัวลงพื้น และมองหลิงม่อด้วยสีหน้าแปลกๆ ซอมบี้โลลิฉายแววตาฉงน ปากเล็กๆ ที่เม้มแน่นนั้นแสดงออกถึงความลังเล

“ยังไงฉันก็เป็นซอมบี้นะ ทำไมสู้ได้แค่ครึ่งเดียวก็ถูกมนุษย์แย่งเหยื่อไปได้ล่ะ…” อวี๋ซือหรานพึมพำกับตัวเองอย่างจริงจัง จากนั้นก็ส่ายหัวสุดชีวิต “ไม่ได้ๆ ต้องเชื่อฟังนายมนุษย์ไส้กรอกสิ”

เส้นไหมสีเงินที่แผ่อยู่บนพื้นค่อยๆ หดกลับเข้าไปที่คอของเธอ พอสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของเฮยซือ อวี๋ซือหรานก็รีบยกมือขึ้นลูบมันทันที เหมือนเธอเอียงคอฟังเสียงกระซิบกระซาบอะไรบางอย่าง จากนั้นก็พยักหน้า “โอเค ฉันรู้แล้ว”

ไม่นานซอมบี้โลลิตัวนี้ก็ยกมือขึ้นป้องรอบปาก ทำเป็นรูปกระบอกเสียง จากนั้นก็สูดหายใจลึกๆ แล้วตะโกนเสียงดัง “นายมนุษย์ไส้กรอก ช่วยฆ่ามันแทนฉันด้วยล่ะ!”

ตะโกนเสร็จ อวี๋ซือหรานก็ลดมือลงอย่างพึงพอใจ แล้วหมุนกายเดินจากไป พลางพูดเสียงเบา “คิกคิก เป็นไงบ้าง?…ชิ เฮยซือพูดยาวเกินไป ฉันขี้เกียจตะโกนนี่! เอาอย่างนี้แหละ เขาไม่แพ้หรอกน่า”

“เอ๋? ทำไมล่ะ? เรื่องนั้นน่ะ…เพราะว่า…ฉันสู้หมอนั่นไม่ได้น่ะสิ…ดังนั้น…โอ๊ยๆๆ! ฉันไม่รู้ด้วยแล้ว! เอาเป็นว่าตามนี้แหละ!” พอพูดถึงประโยคท้ายๆ ศีรษะของอวี๋ซือหรานก็ก้มต่ำลงไป เสียงก็เบาจนแทบไม่ได้ยิน จากนั้นเธอก็บ่นกระปอดกระแปดอย่างโมโห ไม่รู้ว่ากำลังโมโหเฮยซือ หรือว่ากำลังโมโหตัวเองกันแน่…

สุดท้าย อวี๋ซือหรานก็หันหน้ามาถลึงตาแรงใส่หลิงม่อ จากนั้นก็พุ่งตัวไปข้างหน้า และหายตัวไปในพริบตา

หลิงม่อที่ยืนอยู่ที่เดิมสีหน้าค้างเติ่ง ขณะเดียวกันก็หวนนึกถึงสายตาที่ซอมบี้โลลิน้อยตัวนั้นทิ้งไว้ก่อนจากไปอย่างนึกปวดหัว… “คือสายตาที่เตือนว่าต้องชนะผีเสื้อให้ได้อย่างนั้นหรอ? ไม่คิดเลยนะว่ายัยโลลิโง่ตัวนี้จะแค้นฝังหุ่นขนาดนี้…แต่แสดงออกโจ่งแจ้งเกินไปหน่อยนะ”

“สวบ!”

เมื่อสายตาของหลิงม่อจดจ่อแน่วแน่ หนวดสัมผัสเส้นหนึ่งพลันพุ่งออกไปทันที

พลังงานทางจิตที่มองไม่เห็นหลอมรวมเป็นเส้นเลือดสีใสเส้นหนึ่ง มันพุ่งออกมาโดยมีหลิงม่อเป็นจุดเริ่มต้น และนำคลื่นดวงจิตอันรุนแรงจู่โจมไปยังผีเสื้อที่กำลังอยู่ในขั้นตอนลอกคราบ

แต่ในตอนนั้นเอง ผีเสื้อกลับลืมตาขึ้นกะทันหัน ม่านตาสีแดงข้างขวากลอกมองไปมาอยู่ในเบ้าตา และมองไปยังทิศที่หนวดสัมผัสพุ่งเข้ามา

“สัมผัสได้งั้นหรอ?” หลิงม่อม่านตาหดเล็กลง ถึงแม้เขาไม่สามารถมองเห็นอะไรผ่านหนวดสัมผัสได้ แต่อย่างไรหนวดสัมผัสก็เชื่อมต่อกับเขาอย่างแนบแน่น ในเสี้ยววินาทีที่ผีเสื้อ “จ้อง” หนวดสัมผัส หลิงม่อย่อมสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่กำลังถูกจ้องอยู่แล้ว

และสายตานั้น… “จะว่ายังไงดีล่ะ…ผีเสื้อในตอนก่อนหน้านี้ก็ดูบ้าคลั่งมากอยู่แล้ว แต่นั่นก็เป็นแค่ภายนอก และถึงแม้เขาจะแตกแยกเป็นคนสองคนที่ไม่เหมือนกัน แต่ท้ายที่สุดก็ยังใช้ร่างกายเดียวกันอยู่ดี ดังนั้นไม่ว่าจะมองยังไงมันก็แค่ดูผิดปกติ ไม่มีทางเกิดความรู้สึกอย่างนี้ได้แน่…”

แต่ผีเสื้อในตอนนี้ กลับดูเหมือนกลายเป็นคนสองคนไปโดยสมบูรณ์แบบแล้ว ตาขวาของเขา ต่างไปจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง!

“หึหึ…”

ทันใดนั้น ผีเสื้อก็หัวเราะ เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอของเขาให้ความรู้สึกเหมือนเสียงของร่างภาชนะ “เสี่ยวเยว่เอ๋อ” ก่อนหน้านี้ เหมือนมีสองคนกำลังเปล่งเสียงออกมาพร้อมกัน…ทว่าไม่นานขั้นตอนนี้ก็จะจบลงอย่างรวดเร็วแล้ว เพราะแขนของเขา…กำลังลดลง…

ไม่เพียงเท่านี้ เขาก้มหน้าลง และกลับมายืนในท่าปกติแล้วด้วย เมื่อเป็นอย่างนี้ รูปร่างหน้าตาของเขาจึงปรากฏอยู่ตรงหน้าหลิงม่ออย่างชัดเจน

ผีเสื้อตัวใหญ่บนใบหน้าตัวนั้น…ตอนนี้ได้ขยายใหญ่จนเต็มหน้าเขา ดวงตาเขาเหมือนลวดลายที่อยู่บนปีก จมูกเหมือนลำตัวของผีเสื้อ เขาคลี่ปากเผยรอยยิ้มบางๆ อยู่ตลอด ทำให้รอยสักผีเสื้อตัวนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายประหลาด โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้คนตะลึงก็คือ ผีเสื้อตัวนั้นได้เปลี่ยนสีไปแล้ว ครึ่งหนึ่งยังคงเป็นสีแดงโลหิต ในขณะที่อีกด้านกลายเป็นสีดำผสมคราม ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยผีเสื้อมากมาย และครึ่งหนึ่งในจำนวนนั้นก็ยังคงเป็นสีแดงโลหิตเหมือนเดิม

แดงกับดำกลายเป็นสีที่ตัดกันอย่างชัดเจน ซึ่งนั่นกลับทำให้คนที่เห็นเป็นครั้งแรก มองข้ามการเปลี่ยนแปลงบางอย่างบนร่างกายเขาไปอย่างไม่รู้ตัว…ร่างกายครึ่งท่อนที่เป็นสีแดงดูอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย และสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนที่สุดคือ…เขามีหน้าอกขึ้นมาหนึ่งข้าง!

ถึงแม้หากวัดด้วยสายตาคะแนนพลังต่อสู้ (ความอึ๋ม) จะไม่เต็มห้า แต่นั่นก็เป็นหน้าอกของจริงอย่างแน่นอน!

พอมีหน้าอกเพิ่มขึ้นมาหนึ่งข้าง และมองข้ามร่างกายครึ่งที่เป็นสีดำออกไป…กลายเป็นเด็กผู้หญิงไปแล้วจริงๆ ด้วย!

แววตาของเด็กผู้หญิงคนนี้ซุกซนมาก แต่หากมองดูดีๆ จะเห็นความโหดร้ายและเจ้าเล่ห์ซ่อนอยู่

ส่วนครึ่งที่เป็นสีดำ…

“อื่ม เป็นพวกคลั่งน้องสาวจนเป็นบ้าของแท้เลย” หลิงม่อให้คำนิยามเขาอย่างรวดเร็ว

น้องสาวที่เหมือนปีศาจร้าย กับเจ้าบ้าโรคจิตคลั่งน้องสาว… “ช่างเป็นการรวมตัวกันที่น่ากลัวจริงๆ!”

ส่วนเรื่องที่การเจริญเติบโตของน้องสาวยังต่ำอยู่นั้น… “เป็นเพราะยังปรับโครงสร้างไม่สมบูรณ์สินะ? ถ้าไม่อย่างนั้นหากดูแค่หน้า เธอควรจะมีหน้าอกที่ใหญ่กว่านี้หนึ่งไซส์แล้วสิ! ดูไม่สมดุลกันเลยจริงๆ! แม้แต่ซย่าน่าก็ยัง…เอิ่ม ไม่ใช่แค่คะแนนไม่เต็มห้า แต่มีแค่สามคะแนนกากๆ เท่านั้นสินะ…” หลังจากที่คำนวณด้วยสายตาหนึ่งรอบ หลิงม่อก็รีบสะบัดหัวไปมา “เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องนี้ซักหน่อย!”

“ฮิฮิ…เจอกันปุ๊บก็เสียมารยามกันอย่างนี้เลยหรอ ไหนบอกว่าจะเล่นสนุกกันไง? แต่ฉันต้องขอแก้ไขอะไรซักหน่อย…ไม่ใช่พวกฉันเล่นกับแก แต่เป็นแกที่ถูกพวกฉันเล่นต่างหาก” อยู่ๆ ผีเสื้อก็หัวเราะเสียงเบา พร้อมกับที่ร่างกายครึ่งที่เป็นสีแดงโฉบไหวอย่างรวดเร็ว

หลบพ้นแล้ว!

ทว่าหนวดสัมผัสนั้นควบคุมโดยพลังจิต ดังนั้นในเสี้ยววินาทีที่ผีเสื้อหลบ หลิงม่อก็ควบคุมหนวดสัมผัสเส้นนั้นให้ตวัดตามไปทันที

“ลองหลบดูอีกครั้งสิ?” หลิงม่อโบกมือออกไป แล้วหนวดสัมผัสเส้นอื่นๆ ก็พุ่งเข้าไปโจมตีผีเสื้ออย่างบ้าคลั่ง…

—————————————————

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

แฟนผมกลายเป็นซอมบี้

เมื่อเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่อุบัติขึ้นและเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ผู้คนบนโลกก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต จากคนธรรมดาต้องกลายเป็นซอมบี้กระหายเลือด! แต่ก็ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่รอดพ้นจากไวรัสร้ายกาจนี้ หนึ่งในนั้นคือหลิงม่อ หนุ่มเนิร์ดหน้าตาบ้านๆ แน่นอนว่าเขาต้องทุ่มเทพยายามสุดชีวิตเพื่อเอาตัวรอด แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขายังมีภารกิจสำคัญอีกอย่างที่ต้องทำ คือช่วยแฟนสาวซอมบี้ ให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง สุดท้ายแล้วหลิงม่อหนุ่มธรรมดาคนนี้จะทำภารกิจสำเร็จหรือไม่ เรามาร่วมลุ้นไปด้วยกันเถอะ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset