แวมไพร์หนุ่มกับแม่มดทั้งเจ็ด (Haverzhakan Village) – ตอนที่ 32: (NC 18+) สเตฟาเนีย

               “อ… อื้ม~”

               สเตฟาเนียส่งเสียงผ่านลำคอเบา ๆ ทันทีที่ริมฝีปากของทั้งคู่สัมผัสกัน อ้าปากเล็กน้อยเพื่อรับปลายลิ้นหนาของเลวอนให้เข้ามาอยู่ในโพรงปากตน สอดปลายลิ้นบางโต้ตอบกลับคืนไปเพื่อหยอกเย้าตวัดเกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้ง พลางปิดเปลือกตาลงแล้วเคลิบเคลิ้มไปกับรสชาติของจุมพิตอันแสนหวาน

               “จ๊วฟ มุ้ฟ… ฮื้อ~”

               แม่มดสาวสัมผัสได้ถึงกลิ่นน้ำหอมชวนผ่อนคลายจากอีกฝ่าย ในขณะที่สองปลายลิ้นต่างชอนไชไปทั่วส่วนโคน ส่วนปลาย และใต้ลิ้นจนเกิดเสียงดูดเคล้าคลอ ทางด้านพ่อมดหนุ่มเองก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นทับทิมอันหอมหวานจากเรือนร่างเธอเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างเบียดชิดริมฝีปากแนบแน่นลิ้มรสกามารมณ์มากยิ่งขึ้น จนน้ำลายสีใสเปียกชุ่มไปทั่วโพรงปากผสมปนเปกลายเป็นเนื้อเดียวกันไหลเยิ้มออกจากมุมปาก โดยที่แก้มของเธอแดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด

               “อุ… ฮื้มมม~”

               สเตฟาเนียน้ำตาคลอเบ้าพลางเกร็งเท้าเล็กน้อย เนื่องจากเลวอนนำปลายลิ้นชอนไชเข้ามาถึงส่วนโคน ระหว่างนี้เธอได้นำเอามือซ้ายขึ้นมาวางบนไหล่อีกฝ่าย แล้วเลื่อนมืออีกข้างสัมผัสเอวร่างแกร่ง โดยที่ทั้งสองหนุ่มสาววัยใสต่างขยับริมฝีปากขบดูดกันเร่งเร้าอารมณ์จนร่างกายเริ่มร้อนผ่าวมากขึ้น

               “อ-อื๊มมม… ฮ้าห์ แผล็บ~”

               บุรุษหนุ่มรูปงามกับยุวสตรีจ้าวเสน่ห์ค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกจากกัน จนน้ำลายสีใสชุ่มฉ่ำทั่วปลายลิ้นได้ยืดย้อยไหลเปรอะเปื้อนลงบนเสื้อผ้าของทั้งคู่ ยังคงแลบปลายลิ้นโลมเลียสลับกับถูวนพลางลืมตาจ้องประสานกันเล็กน้อย มองดูแล้วชวนให้ความรู้สึกเย้ายวนใจปนเสียวจี๊ดขึ้นมาทันใด

               เลวอนเลื่อนมือซ้ายที่กำลังสัมผัสใบหน้าของสเตฟาเนียไปยังหัวไหล่ ดันให้อีกฝ่ายเอนตัวนอนลงอย่างแผ่วเบา ก้าวขาขยับตัวขึ้นคร่อมร่างอันบอบบาง โดยที่เด็กสาวนัยน์ตาสีส้มพิงศีรษะหนุนหมอน ยืดสองขาเรียวบางอยู่ออกไปเพื่อให้ลำตัวอยู่ใต้หว่างขาของเขา ก่อนที่ฝ่ายชายจะโน้มใบหน้าเข้าไปประกบริมฝีปากอย่างดูดดื่มอีกครั้ง

               “อุ๊บ… ฮื้อออ~”

               สเตฟาเนียอ้าปากสู้รับปลายลิ้นหนาอุ่น ๆ ของบุรุษรูปงาม โลมเลียตอบโต้ส่งเสียงผ่านลำคอ แล้วนำสองแขนโอบคอบุรุษหนุ่มเอาไว้พลางขยับขาขวาตั้งชันขึ้นเล็กน้อย หลับตาคลอเคลียและดำดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความหอมหวานจนเริ่มหายใจหอบ ทั้งคู่ต่างออกแรงดูดกลืนน้ำลาย สลับกับใช้ริมฝีปากขบดุนลิ้นกันจนเกิดเสียงลามกโดยที่ไม่มีใครต่างยอมแพ้

               “อ-อื๊อ ม้วฟ…~”

               ทันทีที่เลวอนชอนไชลิ้นหนาเข้าไปจนถึงโคน แม่มดสาวก็ถึงกับคิ้วขมวดเกร็งสองปลายเท้าพอประมาณ คอยล้วงลึกตวัดวนรอบภายในโพรงปาก สลับดูดโลมเลียจนแทบจะกลืนกินทั้งตัวเสียให้ได้ ความรู้สึกคุกรุ่นกำลังหลอมละลายเขาและเธอรวมกันกลายเป็นหนึ่งเดียว ภายในหัวเริ่มว่างเปล่าเป็นสีขาวโพลน คิดอะไรไม่ออกนอกเสียจากอยากจะเริงรักให้มากกว่านี้

               และดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะเริ่มติดใจในรสชาติของจุมพิตชนิดที่ถอนตัวไม่ขึ้นเข้าเสียแล้ว

               ทั้งใบหน้าและเรือนร่างของคู่หนุ่มสาวต่างร้อนผ่าว แม้ว่าอุณหภูมิภายในห้องใต้ดินแห่งนี้จะเย็นยะเยือกก็ตาม อีกทั้งหัวใจเริ่มเต้นรัวคล้อยไปตามอารมณ์โดยดำเนินกิจกรรมรักอย่างค่อยเป็นค่อยไป ณ วินาทีนี้ทั้งเลวอนกับสเตฟาเนียแทบไม่ต่างอะไรกับคู่รัก ที่เข้าใจถึงความรู้สึกซึ่งกันและกันเลยสักนิด

               “ฟู่… ฮ้าห์~”

               เมื่อบรรเลงปลายลิ้นในโพรงปากจนสาสมแก่ใจ สองชายหญิงจึงค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกจากกัน เผยให้เห็นน้ำลายเหนียวหนืดยืดเยิ้มออกมาจากปลายลิ้นทั้งคู่ แก้มของสเตฟาเนียแดงก่ำจนถึงใบหูพร้อมทั้งน้ำตาคลอ สีหน้าที่แสดงออกมานั้นบ่งบอกถึงความพึงพอใจชัดเจน ก่อนที่เธอจะส่งเสียงหัวเราะในลำคอเล็กน้อย เลื่อนมือขวาที่โอบคอร่างสูงแกร่งลงมาแตะใต้ริมฝีปากของเลวอน แล้วเกริ่นแซวน้ำเสียงแผ่วเบาออกมา

               “รุ่นพี่จูบเก่งจังเลยนะคะ”

               “สเตฟก้าเองก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกันนี่นา”

               พ่อมดหนุ่มผู้ยลโฉมเกริ่นแซวกลับคืนไป แล้วเหลือบตามองดูเรือนร่างอันเย้ายวนของเด็กสาวซึ่งโค้งเว้านูนได้สัดส่วน แม้จะยังอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกระโปรงสั้นก็ตาม เขาหลับตาปี๋รวบรวมความกล้าเพียงครู่หนึ่ง ก่อนจะนำสองมือหนาเข้าขยุ้มหน้าอกอันอวบอิ่มขนาดคัพ D คู่นั้นอย่างรวดเร็วแต่คงไว้ซึ่งความนุ่มนวล จนเธอสั่นกระตุกส่งเสียงตกใจออกมาเล็กน้อย

               “อ๊ะ~ …หุหุหุ นึกว่าจะไม่กล้าจับแล้วเสียอีก… เชิญรุ่นพี่จับได้ตามสบายเลยค่ะ”

               สเตฟาเนียกล่าวเชื้อเชิญ เลวอนจึงผงกศีรษะตอบรับอย่างว่าง่าย แล้วค่อย ๆ ลูบไล้สองปทุมถันนวดบีบคลึงด้วยแรงพอเหมาะ ต่อให้มีเสื้อผ้ากับชุดชั้นในขวางกั้นแต่ก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลเต่งตึงขนาดพอดีมือ เกิดเสียงเสียดสีระหว่างเนื้อผ้ากับฝ่ามือหนาสากเคล้าคลอตามกันมา

               “อึ้ก… อื๊มมมม~”

               เด็กสาวเม้มริมฝีปากครางกระเส่าในลำคออย่างเป็นธรรมชาติ หาได้เสแสร้งทำน้ำเสียงเกินจริงเหมือนในหนังผู้ใหญ่ทั่วไป เมื่อสองมือหนาสากที่ไม่คุ้นเคยกำลังเล้าโลมสัญลักษณ์ความเป็นเพศแม่กระตุ้นความวาบหวิว โดยที่ปลายนิ้วทั้งสิบของบุรุษหนุ่มคอยบดขยุ้มเข้ากับหน้าอกเธอจนเริ่มปรากฏรอยยับบนชุดแต่งกายขึ้นมา

               เพื่อไม่ให้เป็นการน้อยหน้า สเตฟาเนียจึงละสองแขนซึ่งโอบกอดต้นคอของเลวอน นำมือบางคู่นั้นเข้าไปลูบไล้แผงอกอีกฝ่าย เริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตจนถึงเม็ดสุดท้ายแล้วคลี่ปลายผ้าออก เผยให้เห็นถึงร่างกายเปลือยเปล่าส่วนบนโดยมีสัดส่วนเหมือนวัยรุ่นชายทั่วไป แต่ก็พอมีกล้ามเนื้อมัดชวนให้สัมผัสอยู่บ้าง

               ทว่ามีสิ่งที่น่าผิดสังเกตบางอย่างปรากฏอยู่บนกลางอกค่อนซ้ายของพ่อมดหนุ่ม จนแม่มดสาวเผลอจับจ้องมองดูมันอย่างประหลาดใจ มันคือรอยแผลเป็นสีน้ำตาลคล้ำซึ่งเกิดจากการถูกคมเขี้ยวของวลาดฝังเข้าไปข้างในหัวใจ เธอนำมือขวาแตะสัมผัสตรงบริเวณดังกล่าวด้วยความใคร่รู้ ทำให้เลวอนออกอาการสะดุ้งตกใจเล็กน้อย

               สเตฟาเนียจึงละมือออกห่างพอประมาณพร้อมทั้งซักถามเขาอย่างเป็นห่วง

               “ขอโทษค่ะรุ่นพี่ เจ็บรึเปล่า?”

               “ไม่หรอก ก็แค่ตกใจนิดหน่อย” บุรุษวัยเยาว์ส่ายหน้าพร้อมเผยรอยยิ้มจาง “ที่ผ่านมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนแตะเนื้อต้องตัวผมโดยตรงเลยนอกจากแม่น่ะ”

               “ถึงขนาดมีรอยแผลฉกรรจ์แบบนี้ ที่ผ่านมาคงเจ็บปวดน่าดู… ไม่รู้ว่าฉันควรจะพูดปลอบใจคุณยังไงดี”

               สเตฟาเนียสบสายตามองด้วยสีหน้าสลด ทว่าเลวอนกลับไม่พูดจาใด ๆ พร้อมมอบรอยยิ้มละมุนให้แก่เธอแทนถ้อยคำขอบคุณสำหรับความเห็นอกเห็นใจ ก่อนจะโน้มใบหน้าประทับริมฝีปากกับปลายจมูกเข้าที่แก้มขวาของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู จนแม่มดสาวจ้าวเสน่ห์แก้มแดงระเรื่อไม่อาจสะกดรอยยิ้มเอาไว้ได้ แล้วเริ่มขยับมือบางคอยเล้าโลมแผงอกร่างแกร่งต่อไปเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลาย

               เลวอนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตแขนยาวของสเตฟาเนีย แล้วคลี่ออกทางด้านข้างเพื่อชมเชยเรือนร่างชวนเย้ายวนใจ แม้จะอยู่ใต้แสงไฟอ่อน ๆ ภายในห้องใต้ดินซึ่งมืดสลัว ทว่าผิวพรรณของเธอยังคงขาวผ่องใส มองเห็นหน้าท้องแบนราบและสะดืออันงดงาม โดยเฉพาะก้อนเนื้ออวบอิ่มสองเต้าใต้ชุดชั้นในลายลูกไม้สีดำ ที่แลดูยั่วยวนกระตุ้นกามารมณ์เขาได้เป็นอย่างดี

               ถัดมาเด็กหนุ่มลงมือปลดตะขอบราบริเวณด้านหน้าออก เผยให้เห็นหน้าอกกลมกลึงรูปทรงงดงามชวนดึงดูดพร้อมทั้งหัวนมชูชันสีน้ำตาลอ่อน มีความเต่งตึงไม่หย่อนคล้อยสมกับเป็นวัยรุ่นสาวทั่วไป ไม่รอช้าเขาจึงขยับสองมือหนาสากจับปทุมถันคู่นั้นแล้วนวดคลึงไปมา ขยุ้มปลายนิ้วทั้งสิบลงด้วยแรงพอเหมาะ การแนบสัมผัสโดยตรงเช่นนี้ส่งผลให้แม่มดสาวเผยกิริยาท่าทีเร่าร้อนสุดเซ็กซี่ พลางเปล่งเสียงร้องหวาน ๆ ออกมาอย่างแผ่วเบา

               “อะ อ๊าห์… อือ…~”

               พ่อมดหนุ่มไม่คิดที่จะซักถามแม่มดสาวด้วยประโยคที่ว่า “ขอจับหน่อยได้ไหม?” เลยสักคำ เพราะนั่นอาจทำให้เธอเกิดความรำคาญใจเสียมากกว่า ในเมื่อต่างฝ่ายสมยอมกันแล้ว ดังนั้นคำพูดที่ฟังดูงี่เง่าจึงต้องถูกเก็บลงใส่กรุไปโดยปริยาย

               เลวอนสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มเต่งตึงและเต็มไม้เต็มมือจากสองเต้าอวบ คอยบีบขยุ้มก้อนเนื้อโหนกนูนพอประมาณให้ทะลักล้นตามซอกนิ้วอย่างต่อเนื่อง จนไม่อาจหักห้ามใจตัวเองหรือละมือออกจากเรือนร่างอันเย้ายวนได้อีก ส่วนสเตฟาเนียเองก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นผ่านมืออันหนาสากของบุรุษรูปงามเช่นเดียวกัน

               “อุ๊ฟ!? ฮ้าห์… จ๊วฟ~”

               แม่มดสาวโฉมงามส่งเสียงครางผ่านลำคอ เมื่อบุรุษหนุ่มโน้มใบหน้าประทับริมฝีปากเข้าหากันแล้วสอดปลายลิ้นโลมเลียอีกครั้งอย่างโหยหา ในขณะนั้นเองเลวอนได้ใช้ปลายนิ้วชี้ทั้งสองแตะไปยังยอดอกชูชันสีน้ำตาลอ่อน ขยี้ถูไถวนไปมาเน้น ๆ จนทำให้สเตฟาเนียดิ้นพล่านแอ่นร่างเข้าหาเขาเล็กน้อยด้วยความเสียวซ่าน

               “งะ… อะ อื๊มมมห์~!?”

               น้ำเสียงของสเตฟาเนียเริ่มดังกังวานและอ่อนหวาน คอยปลุกเร้าอารมณ์ของเลวอนให้พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น ภายนอกดูเหมือนว่าร่างกายเธอกำลังแสดงกิริยาท่าทีขัดขืน ทว่าการสัมผัสลูบไล้อย่างอ่อนโยน และการจุมพิตอันเร่าร้อนโดยปราศจากความรุนแรงป่าเถื่อนนี้เอง จึงเป็นเหตุทำให้เธอยอมถูกล่วงละเมิดด้วยความเต็มใจ พลางนำสองมือบางกำเสื้อเชิ้ตของอีกฝ่ายเอาไว้แน่นคอยระบายอารมณ์กระสันเสียวออกมาแทน

               แม้ว่าความใคร่ของเลวอนและสเตฟาเนียจะเดินทางมาถึงจุดสูงสุด จนถึงขั้นอยากสอดใส่โหมบทรักอันเร่าร้อนเต็มทีแล้วก็ตาม แต่การเล้าโลมเพียงแค่นี้ยังไม่สาแก่ใจพอสำหรับสองหนุ่มสาว ทั้งคู่อยากเสพสมกามารมณ์ให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นกิจกรรมการสัมผัสเรือนร่างจึงยังไม่จบลงแต่เพียงเท่านี้

               เลวอนถอนริมฝีปากออกเพื่อให้สเตฟาเนียได้พักหายใจอย่างสะดวก มองเห็นสองปลายลิ้นเคลือบไปด้วยน้ำลายสีใสเปียกชุ่มชัดเจน ในระหว่างนี้เธอจึงถือโอกาสเอ่ยประโยคสั้น ๆ ด้วยรอยยิ้มบาง

               “ฟู่… ฮ้าห์…~ ฉันไม่ยอมถูกรุ่นพี่รังแกอยู่ฝ่ายเดียวหรอกนะคะ”

               แม่มดสาวนัยน์ตาสีส้มเลื่อนสองมือบางถอดเข็มขัดของพ่อมดหนุ่ม ปลดตะขอกางเกงสแล็คพร้อมรูดซิปลงให้สุด แล้วพบว่าตรงเป้ากางเกงบ็อกเซอร์สีเทานั้นปรากฏให้เห็นถึงรูปนูน คล้ายลำท่อนขนาดใหญ่ยาวประมาณหกนิ้วกำลังแข็งผงาดได้ที่ เธอเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยต่อขนาดแท่งเนื้อของเขา เพราะผิดไปจากที่ตนเคยจินตนาการเอาไว้ก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

               “คิดจะทำอะไรผมงั้นเหรอ?”

               บุรุษวัยเยาว์ยิ้มละมุนอย่างผู้มีชัย ก่อนจะโน้มใบหน้าประโคมจูบโลมเลียริมฝีปากสีชมพูของสเตฟาเนีย ใช้ปลายนิ้วคอยบีบคลึงยอดปทุมถัน ชูชันสลับถูขยี้วนไปมาด้วยแรงพอเหมาะ ยุวสตรีถึงกับหลับตาคิ้วขมวดแอ่นกายเข้าหา พร้อมทั้งสั่นกระตุกวาบหวิวเสียวซ่านตรงบริเวณหน้าอกจนน้ำตาคลอเบ้า เปล่งเสียงหวานครางในลำคอราวกับจะขาดใจตายเสียให้ได้

               “ม้วฟ… อะ อื๊มมมมห์~!?”

               ทว่าแม่มดสาวจ้าวเสน่ห์เองก็ไม่ยอมน้อยหน้า เธอนำมือขวาล้วงเข้าไปในร่มผ้าสัมผัสกับท่อนเอ็นปูดนูนอันร้อนผ่าว ลูบไล้ใต้ลำแท่งไปมาอย่างนุ่มนวลพลางใช้นิ้วโป้งบดคลึงส่วนปลายหัวสีชมพูเข้ม สลับกับขยี้ส่วนที่เป็นรูเล็ก ๆ อย่างซุกซนแล้วนำมืออีกข้างถูไถหัวนมร่างแกร่งเป็นการแก้เผ็ด ทำให้เลวอนตกเป็นฝ่ายเสียวจี๊ดจนเกร็งปลายเท้าหลุดเสียงครางตามมา

               “อุ๊ก!? ฮื่อ…~”

               ยิ่งเลวอนใช้ปลายนิ้วเค้นคลึงเต้าอันเต่งตึงของสเตฟาเนียมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งลงปลายนิ้วรังแกส่วนหัวความเป็นชายกับยอดอกของเขามากขึ้นเท่านั้น พลางดูดปลายลิ้นภายในโพรงปากซึ่งกันและกัน ตามด้วยดื่มด่ำน้ำลายสีใสชุ่มฉ่ำอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ส่งเสียงระบายความสุขล้นในลำคอโดยที่หัวใจกำลังสั่นตึกตักด้วยความตื่นเต้น

               ในเวลานี้ทั้งสองคนได้ตกลงสู่ห้วงแห่งราคะ ชนิดที่ไม่อาจถอนตัวหรือหักห้ามใจตนเองได้อีกต่อไปแล้ว

               เลวอนยังคงใช้มือซ้ายบีบขยุ้มถูไถยอดอกจนล้นทะลักซอกนิ้ว ก่อนจะละมืออีกข้างออกจากสัญลักษณ์ความเป็นเพศแม่ของสเตฟาเนีย ลงไปลูบไล้ตั้งแต่หน้าท้องอันแบนราบจนถึงขาอ่อน แล้วล้วงใต้กระโปรงสัมผัสกับพื้นที่ส่วนดังกล่าวโดยตรง ในขณะที่แม่มดสาวเกร็งช่วงล่างเล็กน้อยเพราะไม่คุ้นชิน เธอใช้เวลาทำใจเพียงครู่หนึ่งก่อนจะยินยอมแยกต้นขาออก ปล่อยให้เขาเล้าโลมจุดสงวนได้ตามใจชอบภายใต้กางเกงชั้นในที่ขวางกั้นอยู่

               “อะ… อ๊าห์~!?”

               เด็กสาวใบหน้าสะสวยเปล่งเสียงสั้น ๆ พลางแอ่นหน้าอกเกร็งทั่วร่างเล็กน้อย หลังจากที่บุรุษรูปงามใช้มือลูบไล้ส่วนที่เป็นกลีบไปมา ตามด้วยนิ้วโป้งถูวนปุ่มเสียวเหนือรูสวาท เวลานี้กางเกงชั้นในของเธอเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นสีใสเนื่องจากถูกกระตุ้นอารมณ์ใคร่ พร้อมที่จะถูกสอดใส่โดยไม่เกิดอาการแสบเคืองแล้ว

               ทางด้านเด็กหนุ่มผมสีขาวโพลนเองก็ไม่ต่างกัน รูเล็ก ๆ ตรงปลายแท่งโด่เริ่มมีหยาดน้ำเชื้อสีใสเล็ดลอดออกมาเปรอะเปื้อนปลายนิ้วโป้งของแม่มดสาวที่กำลังเค้นคลึงลูบไล้อย่างสนุกมือ ถ้าหากนำความเป็นชายสอดใส่เข้าไปข้างในจนสุดมิดโคนเสียตอนนี้ ก็อาจทำให้อีกฝ่ายตั้งครรภ์แม้จะยังไม่ได้สำเร็จความใคร่หรือหลั่งข้างในโดยตรงก็ตาม

               แน่นอนว่าทั้งเขาและเธอเองต่างเข้าใจถึงความเสี่ยงนี้โดยเรียนรู้ผ่านวิชาเพศศึกษามาก่อน แต่ด้วยแรงราคะซึ่งกำลังเข้าครอบงำจิตใจ และต่างฝ่ายต่างก็ลุ่มหลงโหยหากันจนแทบเรียกได้ว่าเป็นความรักอีกรูปแบบหนึ่ง ดังนั้นเจตจำนงหักห้ามใจจึงมิอาจสยบแรงสัญชาตญาณในการสืบพันธุ์ลงได้เลย

               สเตฟาเนียและเลวอนค่อย ๆ ถอนริมฝีปากออกจากกัน แลบปลายลิ้นซึ่งเปียกชุ่มเหนียวหนืดด้วยน้ำลายสีใสออกมาเล็กน้อย ก่อนจะสบสายตาจ้องมองกันอย่างลึกซึ้งและต่างเรียกขานชื่อกันอย่างแผ่วเบา หลังจากเสพสมกับรสจูบอันแสนหอมหวานมาเป็นเวลาเนิ่นนานพอสมควร

               “ฟู่… ฮ้าห์… รุ่นพี่คะ”

               “สเตฟก้า…”

               “ร่างกายฉันมันร้อนผ่าวจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว…”

               “ฮื่อ ผมเองก็เหมือนกัน…”

               เมื่อทั้งคู่คอยเล้าโลมเรือนร่างและกระตุ้นอารมณ์พลุ่งพล่านให้กันจนพึงพอใจ เด็กหนุ่มจึงถอดกางสแล็คกับบ็อกเซอร์สีเทาออกแล้วนำไปวางกองเอาไว้ตรงปลายเตียง ช่วงล่างเปลือยเปล่าแสดงให้เห็นถึงความเป็นชายซึ่งตั้งตระหง่านแข็งตัวเต็มที่ ในขณะที่เด็กสาวนำสองแขนอันเรียวบางโอบกอดคออีกฝ่ายพร้อมยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย เชื้อเชิญให้อีกฝ่ายช่วยเปลื้องอาภรณ์ของตนเพื่อที่จะได้ทำกิจกรรมเริงรักด้วยกัน

               สุภาพบุรุษหนุ่มตอบสนองความต้องการของยุวสตรี โดยปลดตะขอกระโปรงบริเวณเอวฝั่งซ้ายของเธอ พร้อมนำสองนิ้วโป้งสอดเข้าไปยังขอบกางเกงในลายลูกไม้โทนสีดำแล้วค่อย ๆ ถอดออกอย่างใจเย็น อีกฝ่ายตะแคงตัวเอียงไปทางด้านขวาพอประมาณเพื่อให้เขาลงมือได้อย่างสะดวก จากนั้นนำอาภรณ์ทั้งสองชิ้นวางไว้ตรงปลายเตียงคู่กับกางเกงสแล็ค เผยให้เห็นถึงความเป็นหญิงที่ทั้งนูนเรียบเนียนและงดงาม เปียกชุ่มไปด้วยน้ำหล่อลื่นสีใสอย่างชัดเจน

               “~~~~~~!”

               สเตฟาเนียหน้าแดงก่ำจนถึงใบหู พลางหลบสายตาเลวอนด้วยความเหนียมอาย เมื่อจุดสงวนของเธอถูกเปิดเผยแม้ว่าตัวเองจะเตรียมใจเอาไว้มาตั้งแต่แรกเริ่มแล้วก็ตาม จังหวะเดียวกันพ่อมดหนุ่มวัยกลัดมันได้ขยับมือหนาสาก ยกขาอันเรียวบางขาวเรียบเนียนคู่นั้นของอีกฝ่ายให้ตั้งชันขึ้น กางแยกออกจากกันแล้วทำการแทรกช่วงล่างตนเข้าไปแทนที่

               ถัดมาเลวอนวางมือขวาชันบนเตียงพยุงร่างตนเองเอาไว้ให้มั่น นำมืออีกข้างลูบไล้หว่างขาแล้วใช้ปลายนิ้วแหวกกลีบสีขาวอันโหนกนูนออก เผยเนื้อสีชมพูกับรูสวาทซึ่งเหนียวเหนอะหนะไปด้วยน้ำกามสีใส ด้วยความซุกซนและใคร่รู้จึงใช้ปลายนิ้วกลางลองสอดรุกล้ำเข้าไปภายในถูไถชักเข้าออกอย่างช้า ๆ สัมผัสความอบอุ่นอันเปียกชุ่มพร้อมทั้งแรงบีบรัด จนแม่มดสาวพลันหลับตาเม้มปาก ออกอาการบิดตัวเกร็งร่างพอประมาณด้วยความเสียวซ่านวาบหวิว

               ดูท่าทางพ่อมดหนุ่มจะสะกดกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ จนอยากปู้ยี่ปู้ยำข้างในตัวอีกฝ่ายเสียเหลือเกิน แม้จะไม่กล้าเอ่ยความต้องการที่แท้จริงออกไปให้สเตฟาเนียได้รับรู้ก็ตาม เขาพยายามบ่งบอกอีกฝ่ายด้วยภาษากาย โดยละมือซ้ายออกจากจุดสงวนขึ้นมาวางบนเตียงประคองร่างตนไว้ให้มั่น แล้วกดเอวลงไปเพื่อให้ลำท่อนแห่งความเป็นชายถูไถเข้ากับกลีบร่อง เสียดสีเข้ากับปุ่มเสียวและเนื้อสีชมพูที่ชโลมด้วยน้ำหล่อลื่นไปมาอย่างใจเย็น

               เมื่อลองนำแท่งเนื้อมาวางพาดบนหน้าท้องอันแบนราบของแม่มดสาวดู ด้วยขนาดของมันตั้งแต่ส่วนโคนจรดปลายคงน่าจะแตะถึงบริเวณสะดือพอดี เธอไม่อาจหยุดจินตนาการได้เลยว่าถ้าหากสอดใส่มันเข้ามาข้างในแบบสุดลำท่อนแล้ว จะทำให้ตนรู้สึกจุกมากแค่ไหนเวลาที่ส่วนหัวบดขยี้เข้ากับปากมดลูกอย่างจัง

               เด็กสาวเจ้าของเรือนผมสีส้มเหลือบสายตาลงต่ำ จับจ้องแก่นกายอันปูดนูนซึ่งกำลังถูไถประตูแห่งช่องรักอย่างเอ็นดู ทั้งที่ความจริงแล้วเธอเองอยากเอ่ยปากร้องขอ ให้ฝ่ายชายช่วยทิ่มแทงอาวุธเข้ามาข้างในร่างตนตอนนี้เลยเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องฝืนทนอดกลั้นเอาไว้เพราะไม่อยากให้ภาพลักษณ์ของตนเองดูแย่จนเกินไปในสายตาเขา

               ในท้ายที่สุดเลวอนจึงกลายเป็นฝ่ายสารภาพความต้องการออกไป หลังจากที่ทั้งสองนำจุดสงวนถูไถเบียดเสียดกันไปมาจนชุ่มชโลมน้ำเหนียว ๆ โดยเปล่งเสียงแหบพร่าดังนี้

               “ผ… ผมทนไม่ไหวแล้วล่ะ อยากจะเอามันใส่เข้าไปข้างในตัวสเตฟก้าเหลือเกิน”

               “ใส่เข้ามาเลยค่ะ แล้วก็ได้โปรด… ช่วยอ่อนโยนกับฉันด้วยนะคะ~”

               สเตฟาเนียผงกศีรษะพลางเลื่อนสองมือบางลงไปยังหว่างขา ใช้ปลายนิ้วเรียวงามแหวกกลีบดอกไม้กับบ่อสู่สวรรค์อันชุ่มฉ่ำออกกว้างเล็กน้อย นำมือขวาจับประคองใต้ลำท่อนให้ส่วนปลายสีแดงสดจ่อแนบกับช่องทางเข้า เพื่อให้เด็กหนุ่มผู้ยลโฉมทะลวงเข้ามาข้างในได้อย่างสะดวก แล้วปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นคนจัดการในส่วนที่เหลือเอง

               เลวอนตอบรับคำเชิญอีกฝ่ายผ่านทางภาษากาย เขากดสะโพกลงให้ส่วนหัวของความเป็นชายฝังเข้าไปภายในรูสวาท ซึ่งช่องคลอดก็พลันตอดรัดกลืนกินหัวเต่าโดยอัตโนมัติ จนบุรุษรูปงามคิ้วขมวดเล็กน้อยต่อความเสียวที่แผ่ซ่าน และโอบหุ้มรอบแก่นกายเข้ามาอย่างอบอุ่น

               “อุ๊… อะ อ๊าห์~”

               ยังไม่ทันได้สอดใส่เข้าไปถึงครึ่งลำ เด็กสาวก็เริ่มครางกระเส่าต่อความรู้สึกแปลก ๆ ซึ่งกำลังชอนไชเข้ามาในร่างพลางหายใจหอบ จนกระทั่งปลายท่อนเนื้อแตะสัมผัสเยื่อพรหมจรรย์ที่คอยขวางกั้น เขาตัดสินใจกดเอวแทงอาวุธฝังเข้าไปข้างในต่ออย่างไม่ลังเลโดยอาศัยน้ำเหนียวสีใสช่วยในการหล่อลื่น อันเป็นผลมาจากการเล้าโลมและสัมผัสต้องตัวกันเป็นเวลานาน

               ในท้ายที่สุดความบริสุทธิ์ของสเตฟาเนียก็ได้ฉีกขาดสะบั้นลง

               “อึ้ก…~!?”

               สเตฟาเนียระบายน้ำเสียงอัดอั้นทรมานทั้งน้ำตาคลอ ไม่ใช่เพราะเจ็บจากการถูกทำลายเยื่อพรหมจรรย์ แต่เนื่องจากเธอเผลอเกร็งกล้ามเนื้อบีบรัดโต้ตอบลำแท่งจนรู้สึกปวดขึ้นมาต่างหาก ถึงแม้จะพยายามผ่อนคลายสรีระทุกส่วนและลดความวิตกกังวลลงก็ตาม เลวอนจึงรีบหยุดชะงักการกระทำพร้อมทั้งซักถามอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วงทันที

               “ขอโทษนะ เจ็บมากรึเปล่า ถ้าไม่ไหวล่ะก็…”

               “ม… ไม่เป็นไรค่ะ เชิญรุ่นพี่สอดเข้ามาข้างในต่อได้เลย”

               แม่มดสาวพราวเสน่ห์ตอบกลับพลางเลื่อนสองมือบางขึ้นมาจับประคองไหล่พ่อมดหนุ่มรูปงาม เลวอนจึงโน้มใบหน้าประทับริมฝีปากเข้าหากัน สอดปลายลิ้นดูดโลมเลียในโพรงปากอันอบอุ่นอย่างอ่อนโยน เพื่อให้เธอผ่อนคลายความกดดันและลืมช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดทั้งหมดไปเสีย

               ความยืดหยุ่นภายในหุบเหวสวาทซึ่งทั้งอบอุ่นเปียกชุ่มและคอยบีบรัดความเป็นชายอยู่นั้น ทำให้เลวอนไม่อาจอดทนสะกดกลั้นได้อีกต่อไป เขาโยกสะโพกสอดลำท่อนเอ็นอุ่นอันหนาสากและใหญ่โตเข้าไปอย่างบรรจงต่อเนื่อง หลับตาเคลิบเคลิ้มคอยแหวกช่องรักให้กว้างจนกระทั่งฝังสุดมิดด้าม โดยที่ส่วนปลายสีแดงก่ำจูบเข้ากับปากมดลูกอย่างแนบแน่นและนุ่มนวล

               สเตฟาเนียละริมฝีปากเชิดใบหน้าดิ้นเร่ารีบแอ่นร่างขึ้นมาอย่างกระสันเสียว จนสองเต้าอันอวบอิ่มสัมผัสเข้ากับร่างสูงแกร่งแบบแนบชิด แก้มแดงก่ำพร้อมทั้งหายใจหอบอย่างเซ็กซี่ โดยที่สองมือเล็กบางเผลอขยุ้มไหล่ของเลอนแรงแบบไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากถูกอีกฝ่ายทะลวงแท่งเนื้อฝังเข้ามาข้างในลึกสุดสัมผัสกับประตูต้องห้ามเต็ม ๆ

               ส่วนเนื้ออ่อนภายในช่องรักได้บีบรัดโอบหุ้มลำท่อนตั้งแต่ส่วนปลายจรดโคน คอยให้ความอบอุ่นเปียกชโลมจนอีกฝ่ายเองก็ถึงกับเปล่งเสียงกระเส่าออกมาเช่นเดียวกัน ทั้งสองคนต่างสัมผัสความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้แก่กัน จนถึงขั้นอยากจะฝังมันเอาไว้ข้างในแบบนี้ให้ได้นานที่สุดเลยทีเดียว

               เลวอนและสเตฟาเนีย ได้สูญเสียความเป็นบริสุทธิ์โดยมอบครั้งแรกให้แก่กันแล้ว

               พ่อมดหนุ่มผมสีขาวโพลนก้มใบหน้ามองดูสิ่งที่ตัวเองก่อขึ้น ร่างกายส่วนล่างของเขาและของแม่มดสาวกำลังเชื่อมต่อกันอยู่ดูแล้วให้ความรู้สึกสยิวไปจนถึงขั้วหัวใจ แต่ก็ต้องถอดสีหน้ากังวลใจอีกครั้งเมื่อเห็นว่ารูสวาทเริ่มมีเลือดไหลอาบลงมาจนเปรอะเปื้อนบนผ้าปูที่นอน ไม่ทันที่เขาจะอ้าปากซักถามอย่างเป็นห่วง สเตฟาเนียก็ได้เผยรอยยิ้มละมุนพลางเลื่อนสองแขนโอบกอดคอเลวอน แล้วเกริ่นน้ำเสียงแผ่วเบาเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกสบายใจ

               “คราวนี้รู้แล้วรึยังคะว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่ง่ายกับผู้ชายไปทั่ว ถ้าหากไม่ใช่คนที่ตัวเองชอบหรือไว้ใจกันจริง ๆ ฉันจะไม่มีวันยอมทำด้วยเด็ดขาด… ไม่สิ ต้องเป็นรุ่นพี่เลวอนคนเดียวเท่านั้น”

               “สเตฟก้า…”

               แม้จะเป็นการสารภาพความรู้สึกด้วยคำพูดอ้อมค้อม แต่นั่นก็ทำให้เลวอนดีใจเป็นอย่างมาก ครั้นจะกล่าวคำขอบคุณออกไปก็คงดูไม่สมกับเป็นชายชาตรีสักเท่าไหร่นัก สิ่งที่เขาควรทำในตอนนี้คือการมอบประสบการณ์แห่งความสุขและความพึงพอใจแก่สเตฟาเนีย โดยนำสองมือหนาสากสัมผัสปทุมถันอันเต่งตึงเค้นคลึงอย่างบรรจงด้วยปลายนิ้วทั้งสิบ โน้มใบหน้าให้ริมฝีปากโลมเลียขบดูดกันจนเกิดเสียงลามก ตามด้วยขยับสะโพกเพื่อให้ท่อนร้อนถูไถเข้าออกภายในร่องกามไปมาอย่างช้า ๆ

               “อุ… อื้มมม จ๊วฟ~”

               แม่มดสาวครางกระเส่าในลำคอ สอดปลายลิ้นบางเข้าไปตวัดเกี่ยวพันลิ้นหนาสากของเด็กหนุ่มผู้ยลโฉมอย่างเร่าร้อน ลิ้มรสน้ำลายสีใสหวานฉ่ำจนผสมปนเปกันโดยที่ต่างฝ่ายต่างไม่รู้สึกรังเกียจ คอยหลับตาคล้อยตามกามารมณ์ซึ่งกำลังแผ่ซ่านไปทั่วทุกสรีระในขณะที่ทั้งคู่สัมผัสต้องกายกัน

               เลวอนเองก็หาได้น้อยหน้าใคร เขาชักลำท่อนเนื้อแข็งสอดเข้าออกภายในหุบเหวสวาทที่ทั้งคับและลื่นเหนียวจนเกือบสุด สลับกับแทงเข้าไปข้างในให้มิดด้ามอย่างระมัดระวัง แล้วทำเช่นนี้ซ้ำ ๆ ให้ปลายส่วนหัวสีแดงก่ำชนแนบเข้ากับประตูแห่งต้นกำเนิดชีวิตทุกครั้งที่โยกขยับเอว ส่งผลให้สเตฟาเนียแอ่นเรือนร่างเข้าหาเขาด้วยความเสียวซ่านวาบหวิว

               “อึ๊ก… งื้อออ~”

               ด้วยอากัปกิริยาดังกล่าวเลวอนจำต้องละฝีปากออกจากกัน แล้วซักถามเธออย่างเป็นห่วงด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบ

               “…จุกรึเปล่า?”

               “ถ… ถ้าไม่รุนแรงเกินไปก็ไม่มีปัญหาค่ะ”

               สเตฟาเนียตอบกลับทั้งที่ใบหน้าร้อนผ่าว เลวอนที่ต้องการอยากจะทำให้เด็กสาวรู้สึกดีมากกว่านี้ จึงใช้ปลายนิ้วชี้ถูไถสองยอดอกสีน้ำตาลอ่อนชูชันแล้วขยี้วนรัว ๆ เกิดปฏิกิริยาตอบสนองอย่างน่าอัศจรรย์ใจเมื่อช่องรักภายในเริ่มตอดรัดท่อนเอ็นอุ่นแน่นขึ้นจากแรงกระตุ้น ในขณะที่ร่างบางออกอาการเกร็งมือเกร็งเท้าด้วยความวาบหวิว คอยถูกเขาจู่โจมทั้งตรงส่วนบนและส่วนล่างโดยไม่ขาดสาย

               “ย้าห์~!”

               ด้วยเสียงกระเส่าอันอ่อนหวาน รูปร่างโค้งเว้าเย้ายวนใจ รวมถึงใบหน้าสะสวยที่แดงก่ำเพราะความใคร่ของแม่มดสาวนัยน์ตาสีส้ม ได้โหมไฟราคะให้พ่อมดหนุ่มเกิดอารมณ์พลุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม เขาเริ่มซุกใบหน้าเข้าที่ซอกคอฝั่งซ้ายของเธอแลบปลายลิ้นหนาสากเลียส่วนดั่งกล่าวจนชุ่มไปด้วยน้ำลาย โดยที่แท่งร้อนได้ครูดถูไถเข้าออกภายในช่องคลอดซึ่งคอยโอบรัดลึกขึ้น ให้ส่วนหัวเต่ากระทบกับปากมดลูก ราวกับต้องการจะแหวกทางฝังมันเข้าไปในโพรงแห่งชีวิตเสียให้ได้

               อย่างไรก็ดีการเคลื่อนไหวของเลวอนนั้นหาได้รุนแรง จนถึงขึ้นทำให้เธอเสียอรรถรสในการเสพสมรสกามารมณ์

               “อึ๊ก… ของรุ่นพี่มันกำลังแทงเข้ามาถึงข้างในลึกสุด อื๊มมม~!?”

               สเตฟาเนียเกริ่นออกมาเช่นนั้น แต่ดูเหมือนเธอจะชอบให้อีกฝ่ายปู้ยี่ปู้ยำตรงส่วนดังกล่าวเสียเหลือเกิน ยิ่งเลวอนขยี้ยอดปทุมถันสีน้ำตาลอ่อนเร็วขึ้นเพียงใด เนื้ออ่อนภายในช่องรักก็ยิ่งกระตุกกลืนความเป็นชายของเขาไม่ยอมปล่อย อีกทั้งร่างบางสั่นกระเพื่อมตามแรงขยับซึ่งกระชั้นชิดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยไร้วี่แววว่าจะหยุดลง

               “อื้ม…”

               เลวอนเริ่มอ้าปากขบไปยังซอกคอร่างอรชรฝั่งซ้ายเตรียมใช้คมเขี้ยวกัดใส่ พ่อมดหนุ่มรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไรลงไป แต่ดูท่าทางตนนั้นจะหยุดยั้งแรงสัญชาตญาณของผีดูดเลือดเอาไว้ไม่อยู่ สเตฟาเนียเห็นอีกฝ่ายแสดงอากัปกิริยาดังกล่าวด้วยสีหน้าทุกข์ระทมจึงเกริ่นซักถาม พร้อมทั้งเลื่อนมือซ้ายลูบสางเส้นผมอันนุ่มสลวยของเขาเพื่อปลอบโยนไปพลาง ๆ

               “รุ่นพี่อยากดูดเลือดฉันงั้นเหรอคะ?”

               “อ๊ะ! ป… เปล่านะ คือว่าร่างกายมันขยับไปเอง ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นใส่เธอเลย” พ่อมดหนุ่มรีบตอบปฏิเสธ

               “บางทีคงอาจเป็นเพราะสัญชาตญาณส่วนลึกที่อยู่ภายในตัวรุ่นพี่ ถ้าหากทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ จะดูดเลือดฉันไปสักนิดสักหน่อยก็ได้นะคะ เผื่อจะช่วยฟื้นฟูพลังเวทของคุณให้กลับคืนมา”

               “จะไม่เป็นไรจริง ๆ น่ะเหรอ?”

               เลวอนซักถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง สเตฟาเนียผงกศีรษะเล็กน้อยพร้อมแย้มสรวลจาง ๆ ด้วยเหตุนี้บุรุษวัยเยาว์จึงตัดสินใจอ้าปากแยกเขี้ยว ฝังคมลงยังซอกคอขาวของแม่มดสาวจ้าวเสน่ห์จนเลือดซิบไหลอาบลงมา

               “ง่ำ!”

               “อ๊าย~!?”

               สเตฟาเนียส่งเสียงกรีดร้องออกมา ความเจ็บปวดรวดร้าวนี้มันช่างทรมานยิ่งกว่าโดนแมลงสัตว์กัดต่อยเสียอีก เลวอนที่โดนสัญชาตญาณแวมไพร์เข้าครอบงำจิตใจไปส่วนหนึ่ง ได้ใช้ปลายลิ้นหนาสากโลมเลียเลือดสีแดงฉานของเธอ แล้วตามด้วยประทับริมฝีปากเข้ากับรอยกัดเพื่อดูดกลืนกินเพียงเล็กน้อย

               ในขณะเดียวกัน เขาได้ร่อนเอวให้ท่อนเนื้อร้อนเสียดสีเข้าออกภายในช่องคลอดอย่างหนักหน่วงนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนจะถอนดึงออกจนเกือบสุดแล้วสอดมันเข้าไปให้ลึก จูบแนบแน่นเข้ากับปากมดลูกจนเริ่มเปิดอ้ารับส่วนปลายหัว เพื่อให้อีกฝ่ายลืมความเจ็บปวดแล้วหันมาลิ้มรสความเสียวกระสันที่ถาโถมเข้ามาแทน

               “ย้าห์~!?”

               คราวนี้เสียงร้องของแม่มดสาวที่เปล่งออกมากลับกลายเป็นความวาบหวิว พลางขยุ้มเส้นผมสีขาวโพลนของบุรุษหนุ่มหน้าตาดีเอาไว้แน่น ภายในประตูสวรรค์เองก็ตอดรัดดูดกลืนแก่นกายหนาสากซึ่งทิ่มแทงเข้ามาโดยอัตโนมัติ ชนิดที่เข้ารูปทรงกันได้อย่างพอดีจนอีกฝ่ายถึงกับต้องหลับตาปี๋อย่างเสียวซ่าน เลวอนได้แลบปลายลิ้นโลมเลียรอยกัดบนซอกคอของสเตฟาเนีย ซึ่งน้ำลายของเขามีสรรพคุณทำให้บาดแผลค่อย ๆ จางหายไปอย่างน่าอัศจรรย์

               เพียงแค่หยาดเลือดอันน้อยนิด ก็มากพอที่จะทำให้พลังเวทของพ่อมดหนุ่มฟื้นคืนกลับมา ความเมื่อยล้าได้พลันมลายหายไปจนหมดสิ้น อีกทั้งร่างกายเริ่มร้อนรุ่มอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่นานนักเลวอนจึงพลันบรรเลงฉากเริงรักมอบความสุขแก่สเตฟาเนียโดยปราศจากความขุ่นมัวใจใด ๆ โดยขยับเรือนร่างให้ช่วงล่างกระชับแนบแน่น แล้วโยกสะโพกถูไถลำท่อนหนาสากเข้าออกในหุบเหวสวาทอย่างรวดเร็ว จนเธอต้องครางกระเส่าเปล่งเสียงร้องยั่วยวนโดยไม่อาจฝืนสะกดอดกลั้นได้อีกต่อไป

               “อุ๊ก… อะ อ๊าย~!?”

               ในช่วงที่เลวอนทำท่าจะถอนความเป็นชายออกจากรูสวาท ช่องคลอดภายในซึ่งเป็นผิวตะปุ่มตะป่ำก็ได้ออกแรงดูดให้แท่งโด่ฝังเข้ามาข้างในลึกสุดเพื่อกลืนกินจนหมดทุกส่วน ราวกับไม่ต้องการให้เขาดึงมันออกไปจากร่างอันบอบบาง ปลายนิ้วทั้งสิบคอยขยุ้มบีบสองเต้าอวบทะลักล้นง่ามมือ ขยี้คลึงยอดปทุมถันชูชันกลั่นแกล้งให้แม่มดสาวแสนซนน้ำตาคลอ เสียวซาบซ่านจนตัวอ่อนระทวยประดุจขี้ผึ้งลนไฟ

               “จ… ใจร้าย ฉันเสียวจะตายอยู่แล้ว ว้าย~!?”

               “ที่ผ่านมาเธอชอบแกล้งหยอกผมอยู่ตลอด ครั้งนี้ขอเอาคืนบ้างสิ~”

               บุรุษหนุ่มรูปงามแย้มสรวลราวกับผู้มีชัย ส่งเสียงกระซิบข้างใบหูฝั่งซ้ายของยุวสตรี ตามด้วยแลบปลายลิ้นชอนไชตรงบริเวณดังกล่าวจนเธอรู้สึกจั๊กจี้ บิดตัวดิ้นเร่าพลางใช้ปลายนิ้วมือขวาจิกยังแผ่นหลังของเขาระบายความเสียวกระสันที่ได้รับมา ไม่ว่าทั้งส่วนบน ส่วนกลาง หรือส่วนล่าง ต่างก็ถูกรังแกอย่างไม่ขาดสาย

               หลังจากใช้ปลายลิ้นลิ้มรสเรือนร่างของสเตฟาเนียจนสาแก่ใจแล้ว เลวอนจึงกระซิบข้างใบหูอีกครั้งด้วยน้ำเสียงละมุน ทั้งที่ช่วงล่างยังคงชักรูดความเป็นชายบดเข้าออกข้างในช่องรักอย่างต่อเนื่องและดุเด็ดเผ็ดร้อน

               “สีหน้าลามกของสเตฟก้าช่างน่ารักสุด ๆ ไปเลย เห็นแล้วอยากกลั่นแกล้งให้มากกว่านี้จัง”

               “~~~~~~คนบ้า!”

               สเตฟาเนียหน้าแดงแจ๋จนถึงใบหูด้วยความเขินอายสุดขีด เลวอนแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยว่า แม่มดสาวที่อยู่ตรงเบื้องหน้าตนผู้ซึ่งมีนิสัยเข้าถึงได้ยาก พูดจาโผงผาง และทำตัวเฉยชาราวกับตุ๊กตาไร้ความรู้สึกนั้น จะแสดงอากัปกิริยาสมกับเป็นเด็กสาวออกมาได้ชัดเจนถึงขนาดนี้ ทำให้ทั้งคู่ออกอาการใจสั่นสะท้านทันทีเมื่อต่างฝ่ายรู้นิสัยส่วนลึกของกันและกัน

               และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่สเตฟาเนียเผยท่าทีเช่นนั้นต่อหน้าเลวอน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกอะไร เพราะกำแพงที่คอยปิดกั้นอารมณ์ส่วนลึกนั้นได้พังทลายลงไปนับตั้งแต่ตอนที่เธอเริ่มให้ความสนใจเขาแล้ว

               บุรุษจอมดาบเวทละใบหน้าออกจากซอกคอ สบตามองแม่มดสาวแสนซนด้วยความโหยหา ในขณะที่อีกฝ่ายเลื่อนมือโอบคอร่างแกร่งพลางปิดเปลือกตาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ตามด้วยห่อปากหวังให้เขามอบจุมพิตแก่ตน เลวอนจึงตอบสนองความต้องการโดยเอียงใบหน้าประกบริมฝีปากเข้าหากันให้กระชับ แลกปลายลิ้นดื่มด่ำรสหวานภายในโพรงปากกันอย่างสุขสมหมาย

               “มุ้ฟ… อุ อื้มห์~”

               ท่อนเนื้อสากกระแทกเข้าออกภายในร่องสวาทซึ่งชโลมน้ำหล่อลื่นสีใสและเหนียวอุ่น ได้สอดใส่เข้ามาข้างในลึกสุดจนปลายหัวสีแดงสดจูบแนบกับประตูสวรรค์ต้องห้ามเน้น ๆ แทบจะผลุบทะลุเข้ามายังโพรงมดลูกอันอบอุ่น ส่งผลทำให้ท้องน้อยของสเตฟาเนียต้องกระเพื่อมสั่นไหว ทว่าความยืดหยุ่นของช่องคลอดที่ธรรมชาติได้ออกแบบมาเพื่อให้กำเนิดบุตร ก็สามารถรับทุกสิ่งทุกอย่างจากเลวอนได้ทั้งหมด โดยคอยโอบหุ้มกระชับแก่นกายเอาไว้ทุกครั้งที่จู่โจมเข้ามา

               ร่างกายของหนุ่มสาวต่างอาบชโลมไปด้วยหยาดเหงื่อ ร้อนรุ่มไปด้วยเพลิงแห่งราคะภายใต้สถานที่อันมืดสลัว แม้ว่าสภาพอากาศโดยรอบจะเย็นยะเยือกก็ตาม เมื่อดื่มด่ำความหวานฉ่ำจนพึงพอใจแล้วทั้งคู่จึงถอนริมฝีปากออกจากกัน ในขณะที่สเตฟาเนียยังคงชมเชยรูปลักษณ์ของบุรุษหนุ่มนัยน์ตาสีเหลืองอำพัน ส่วนเลวอนก็ได้ชื่นชมใบหน้ากับเรือนร่างอันงดงามของแม่มดสาวจ้าวเสน่ห์เช่นเดียวกัน แม้นว่าสองผมเปียสีขาวยาวสลวยข้างใบหน้าของเขาจะโน้มปรกลงข้างแก้มอีกฝ่ายก็ตาม

               ฉากเริงรักเริ่มใกล้เข้าสู่บทอวสาน เขาและเธอต่างสัมผัสได้ว่าตนนั้นกำลังจะสำเร็จความใคร่ในอีกไม่ช้า โดยที่อารมณ์เสียวกระสันค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณจากการเคลื่อนไหวบดสะโพกอย่างเร่าร้อน ไม่ต่างอะไรกับการมุ่งหน้าเดินทางสู่สรวงสวรรค์เลยสักนิด

               “อึ๊ก…!?”

               หุบเหวสวาทที่คอยบีบตัวรัดแก่นกายซึ่งกำลังรุกล้ำชอนไชเข้าออกภายในตัวสเตฟาเนีย เร่งกระตุ้นให้เลวอนเสียวซ่านจนน้ำกามเริ่มไหลเอ่อตั้งแต่บริเวณโคน เด็กหนุ่มทำหน้าคิ้วขมวดละสองมือหนาออกจากอกอวบ ลงไปสอดใต้ร่างบางแล้วกอดกระชับเอวแน่น เพื่อที่ตนจะได้ครูดถูไถแทงเข้าไปสุดมิดด้ามอย่างสะดวก ก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงแหบพร่าขึ้นมา

               “สเตฟก้า ผมใกล้จะเสร็จออกมาแล้วล่ะ”

               แม่มดสาวผู้น่ารักแสนซนได้ยินเช่นนั้น จึงฉวยโอกาสรีบยกสองขาเรียวบางขึ้นมาโอบรัดรอบสะโพกเขา พลางเกร็งช่องคลอดบีบรัดตั้งแต่ส่วนโคนจรดหัวเต่าสีแดงสด คอยตอบรับความเป็นชายที่บวมพองขึ้นเล็กน้อยซึ่งกำลังทิ่มแทงประตูต้องห้าม โดยขนาดของแท่งร้อนที่สัมผัสกับเนื้อร่องภายในอยู่นั้นช่างเหมาะเจาะกันพอดี ด้วยเหตุนี้โอกาสที่พ่อมดหนุ่มอยากจะถอนเอ็นอุ่นออกมาเพื่อหลั่งนอกจึงกลายเป็นศูนย์

               “ข… ข้างใน~”

               “เดี๋ยวสิ แบบนี้มัน… จะไม่แย่เอาหรอกเหรอ?”

               เลวอนเกริ่นทักท้วงสเตฟาเนียทั้งที่ตนยังคงโยกสะโพกคอยกดท่อนเนื้อแทงเข้าออกในรูสวาท เนื่องจากเขาแอบกังวลกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ถ้าหากตนทำเรื่องสำคัญตามอำเภอใจโดยไม่คิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน

               “ฉันน่ะไม่เป็นไรหรอกค่ะ… อีกอย่างผู้ชายทุกคนชอบ ‘เซ็กซ์-สด-หลั่ง-ใน’ กันไม่ใช่เหรอคะ~?” แม่มดสาวพราวเสน่ห์กล่าวน้ำเสียงกระซิบพลางยิ้มละมุน โดยเน้นถ้อยคำเพื่อให้อีกฝ่ายเกิดความตื่นเต้นวาบหวิว และดูเหมือนว่าเธอเองก็ใกล้จะได้เวลาถึงจุดสุดยอดแล้วด้วยเช่นเดียวกัน

               “ถ้าสเตฟก้าต้องการแบบนั้น เดี๋ยวผมจะปล่อยเข้าไปข้างในแล้วนะ”

               “อะ… เอาเลยค่ะ ได้โปรดช่วยราดน้ำเชื้อร้อน ๆ เหนียวขุ่นเข้ามาข้างในตัวฉันให้หมดเลย~”

               ด้วยถ้อยคำยั่วยวนกระตุ้นความใคร่ พร้อมทั้งสีหน้าซึ่งแสดงออกถึงความลุ่มหลงในกามารมณ์ของสเตฟาเนีย เลวอนจึงตัดสินใจอยากจะตีตราข้างในลึกสุดเพื่อปลดปล่อยความอัดอั้นทรมาน โยกสะโพกขึ้นลงอย่างหนักหน่วงเพื่อให้แท่งโด่เสียดสีภายในช่องรักซึ่งชุ่มชโลมน้ำเหนียวหล่อลื่น ส่วนปลายหัวได้บดขยี้ปากมดลูกอันอ่อนนุ่มจนเกิดเสียงเนื้อกระทบระหว่างบั้นท้ายเด็กสาวกับหน้าตักของบุรุษหนุ่มดังกึกก้องภายในห้องใต้ดิน เร่งเร้าให้ทั้งสองคนแตะถึงเส้นชัยแห่งความสุข

               พั่บพั่บพั่บพั่บ!

               “ว้าย~! อะ อ๊าห์… อื๊มมห์~!”

               สเตฟาเนียหลับตาส่งเสียงร้องกระเส่าหลังจากพยายามฝืนกลั้นความรู้สึกเอาไว้มาเนิ่นนาน สองเต้าอวบสั่นกระเพื่อมตามแรงโถมที่รุกคืบเข้ามาต่อเนื่อง ดิ้นพล่านเชิดใบหน้าเสียววูบวาบจนน้ำตาคลอเบ้า ระหว่างนั้นเธอได้เกร็งหุบเหวสวาทโอบรัดแก่นกายซึ่งกระหน่ำแทงไม่ยั้งให้เกิดแรงดูด พยายามรีดเร้นน้ำกามจากตัวเลวอนให้พุ่งเข้ามายังข้างในสุดด้วยแรงกระหาย พ่อมดหนุ่มพยายามแข็งใจอดกลั้นไว้หวังจะได้ลิ้มรสการเสียดสีอย่างยาวนานที่สุด ทั้งที่จะอยากจะกระฉูดมันออกมาเต็มทน

               “ก… กลั้นไม่ไหวแล้ว อึ้ก… อ๊าห์~!”

               ——พรวดดดด พรวดดด

               เลวอนอดทนกระแทกเข้าออกหลายสิบครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยความอัดอั้นทรมานที่มีอยู่ในตัวมอบให้เด็กสาวทั้งหมด โดยครูดท่อนเอ็นหนาสากฝังลงไปในช่องรักสุดลำโคนให้ส่วนปลายแหวกปากมดลูก แล้วพุ่งน้ำเชื้อสีขาวขุ่นสด ๆ อันร้อนระอุสุดเข้มข้น ทะลักราดใส่โพรงรักอย่างรวดเร็วหลายระลอกในปริมาณที่มากล้นทันที พร้อมทั้งหลับตากอดกระชับร่างบางเอาไว้แน่น

               “อ… อ๊าย ง้าห์~!!”

               ——ปรี๊ดด ปรี๊ดดด

               สเตฟาเนียตาเบิกโพลง แอ่นกายแนบชิดร่างแกร่งทันทีที่ของเหลวเหนียวข้นพุ่งเข้ามาอัดแน่นเต็มโพรงมดลูก สองแขนอันเรียวบางโอบรอบต้นคอเลวอนพลางกดขาคู่นั้นที่ไขว้หลังเขาอยู่เอาไว้ให้แน่น ราวกับไม่ต้องการให้อีกฝ่ายถอนดึงความเป็นชายออกมาตอนนี้ ในจังหวะเดียวกันกับตอนที่เธอปลดปล่อยน้ำรักสีใสออกมาจากรูเล็ก ๆ เหนียวหนืดเลอะทั่วไปหน้าท้องบุรุษหนุ่ม ส่วนช่องคลอดกระตุกตอดรัดถี่คอยรีดเร้นดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างมาจากอีกฝ่ายเพื่อเติมเต็มความปรารถนาตน

               “แฮ่ก… แฮ่ก…”

               พ่อมดหนุ่มผู้ยลโฉมกับแม่มดสาวจ้าวเสน่ห์ได้หลอมรวมความรู้สึกกันจนกลายเป็นหนึ่งเดียว ทั้งสองต่างหายใจหอบอย่างเหน็ดเหนื่อยพร้อมด้วยใบหน้าแดงก่ำ หลังจากแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความวาบหวิวเสียวกระสัน จนต่างฝ่ายต่างได้รับความพึงพอใจซึ่งกันและกัน

               เลวอนยังอยู่ในท่านอนกอดโดยฝังแก่นกายเอาไว้ภายในร่างอรชร คอยฉีดน้ำแห่งความรักให้หมดหยาดหยดสุดท้าย ก่อนจะโน้มใบหน้าจุมพิตแก้มของสเตฟาเนียอย่างเอ็นดู แล้วฟุบลงเข้าที่ซอกคอฝั่งซ้ายเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้า ประทับริมฝีปากเข้าบริเวณดังกล่าวไปพลาง จากนั้นจึงเกริ่นกระซิบข้างใบหูเธอ

               “ขอบคุณนะสเตฟก้า…”

               “ฉันสิที่ต้องขอบคุณ… แต่ถ้าหากรุ่นพี่รู้สึกแบบนั้นจริง ๆ ฉันเองก็ดีใจนะคะ”

               สเตฟาเนียเผยรอยยิ้มบาง พลางเลื่อนมือขวาลูบสางเส้นผมสีขาวโพลนของบุรุษรูปงามด้วยความรู้สึกแบบเดียวกัน สีหน้าของเธอแสดงให้เห็นถึงความสุขล้น เมื่อรู้ว่าเลวอนไม่ได้มองตนเป็นเพียงแค่เครื่องมือที่มีไว้สำหรับระบายความใคร่เท่านั้น แม้นต่อให้สุขสมดั่งใจหมายแล้ว แต่ก็ยังได้รับการปลอบโยนเอาใจใส่เสมือนดั่งเป็นคู่รักกันจริง ๆ

               หลังจากที่เลวอนนอนฟุบบนเรือนร่างของอีกฝ่ายประมาณสองถึงสามนาที เด็กสาวจึงคลายขาอันเรียวบางออกจากสะโพกเขา เพื่อให้พ่อมดหนุ่มโยกเอวถอนท่อนเอ็นออกจากช่องรักที่คลายตัวลงจนสุด แล้วก้มหน้ามองดูผลงานที่ทั้งคู่ได้ลงมือก่อเอาไว้ น้ำกามสีขาวขุ่นค่อย ๆ ไหลออกมาจากรูสวาทภายใต้กลีบร่องอันโหนกนูน พร้อมด้วยเลือดพรหมจรรย์ที่ปะปนหลอมรวมกันและเปรอะเปื้อนลงสู่เตียงนอน

               ถัดมาบุรุษวัยเยาว์ค่อย ๆ ละตัวออกจากร่างบางเพื่อให้เธอนอนพักหายใจอย่างสะดวก ระหว่างนั้นแม่มดสาวนัยน์ตาสีส้มได้พยุงเอนตัว ก้มลงมองดูในสิ่งที่เกิดขึ้นพลางนำมือขวาลูบบนท้องน้อยตน เนื่องจากสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นซึ่งฝังแน่นอยู่ภายในโพรงรักชนิดที่แทบไม่เหลือพื้นที่ว่างอยู่เลย แล้วกล่าวน้ำเสียงแผ่วเบาอย่างชอบใจ

               “ทะลักเข้ามาข้างในเยอะเชียว ท่าทางรุ่นพี่จะไม่เคยปล่อยมันออกมาสักครั้งเลยงั้นสินะคะ…”

               สเตฟาเนียเอื้อมมือหยิบปลาสเตอร์จากเสื้อหมวกฮู้ดที่วางอยู่ข้างเตียงขึ้นมา ฉีกแผ่นเปลือกนอกออกแล้วนำมันมาปิดผนึกตรงบริเวณกลีบดอกไม้สีขาวนูนอย่างมิดชิด เพื่อไม่ให้เธอสูญเสียน้ำเชื้อที่ได้รับมาจากเลวอน เด็กหนุ่มแปลกประหลาดใจเล็กน้อยต่อการกระทำของอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะนึกถึงจุดมุ่งหมายสำคัญของการมีเซ็กซ์ครั้งนี้และเข้าใจเหตุผลขึ้นมาได้

               แม่มดสาวพราวเสน่ห์สัมผัสได้ถึงพลังอันเอ่อล้นมหาศาลที่อยู่ภายในร่างกาย หลังจากที่พ่อมดหนุ่มหลั่งน้ำแห่งความรักเข้ามาทุกหยาดหยด ทั้งพลังเวทและพละกำลังของสเตฟาเนียในตอนนี้อยู่ในสภาพเกินร้อย พร้อมที่จะออกศึกโจมตีใส่ศัตรูอย่างหมดห่วงแล้ว ทางด้านเลวอนที่ได้ดูดโลมเลียเลือดของเธอเองก็อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่ต่างกัน เหลือเพียงแค่คิดหาวิธีที่จะออกไปจากห้องใต้ดินแห่งนี้ให้ได้เท่านั้น

               อย่างไรก็ดี แม้นจะเป็นการเริงรักด้วยเหตุจำเป็นเพียงเพราะต้องการเพิ่มพละกำลังเพื่อช่วยเหลือชีวิตพวกพ้อง แต่ผลจากการที่ทั้งสองคนต่างถลำลึกความรู้สึกรักใคร่และหลงใหล พร้อมด้วยอารมณ์ร่วมโดยเกิดจากความสมยอมเต็มใจ เลยทำให้เลวอนกับสเตฟาเนียรู้สึกดีเวลาที่ได้สบสายตามองกัน และอยากทำความรู้จักสนิทสนมกันให้มากกว่านี้

               ทว่าตอนนี้ทั้งคู่ยังมีหน้าที่ต้องสะสางให้สำเร็จเสียก่อน

 

               ********************

 

               เลวอนและสเตฟาเนียกลับมาสวมเสื้อผ้าตามปกติ โดยที่พ่อมดหนุ่มนอนหนุนตักแม่มดสาว ส่วนเธอคอยใช้มือลูบสางศีรษะปลอบโยนเขาอย่างเอ็นดู ทั้งสองคนตกลงกันเอาไว้ว่าจะใช้เวลาที่เหลืออยู่นั่งพักผ่อนสักประมาณ 20 นาที ก่อนจะเริ่มวางแผนหาทางตอบโต้ปีศาจร้าย Aka Manah เพื่อดำเนินภารกิจให้เสร็จสิ้น

               สเตฟาเนียพอจะเข้าใจความรู้สึกของออเดรย์ขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าเหตุใดทำไมจิ้งจอกสาวถึงชอบสัมผัสเส้นผมของบุรุษวัยเยาว์ผู้นี้ เพราะนอกจากจะมีสีขาวโพลนบริสุทธิ์ราวกับหิมะแล้ว มิหนำซ้ำยังนุ่มลื่นสลวยหอมกลิ่นแชมพูจาง ๆ อีกด้วย บ่งบอกได้ว่าเลวอนนั้นดูแลเอาใจใส่ตนเองมากเพียงใด ถือเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งนอกเหนือจากใบหน้าอันคมคาย รวมไปถึงความสุภาพถ่อมตน

               เพื่อไม่ให้บรรยากาศแลดูเงียบเหงาจนเกินไป สเตฟาเนียจึงเริ่มเกริ่นบทสนทนาโดยที่มือบางยังคงลูบสางเส้นผมของเลวอนอย่างทะนุถนอม เสมือนดั่งพี่สาวปลอบประโลมน้องชาย

               “จริงสิ ฉันมีข่าวดีจะมาแจ้งให้รุ่นพี่เลวอนทราบค่ะ”

               “อะไรเหรอ?”

               “วันนี้เป็นวันอันตรายนะคะ”

               เลวอนถึงกับเผยอากัปกิริยาตกใจทันที เพราะนั่นคือสิ่งที่เขาแอบวิตกกังวล และนึกเป็นห่วงแม่มดสาวแสนซนคนนี้มาโดยตลอดในระหว่างที่ทำกิจกรรมเริงรักด้วยกัน พร้อมทั้งเกริ่นขึ้นมาอย่างลนลาน

               “เอ๊ะ!? ถ้างั้นแบบนี้ก็หมายความว่า…!?”

               “ใช่ค่ะ ป่านนี้คงน่าจะปฏิสนธิไปเรียบร้อยแล้วล่ะ”

               สเตฟาเนียตอบกลับด้วยสีหน้าราบเรียบโดยปราศจากความกังวลใจใด ๆ แม้ว่าอีกฝ่ายจะละประโยคสุดท้ายเอาไว้ในฐานที่เข้าใจก็ตาม ทำให้พ่อมดหนุ่มรูปงามไม่อาจมองโลกในแง่ดีได้เลยว่าเธอกำลังพูดจาหยอกเล่นตนอยู่รึเปล่า เขาหลับตาลงพลางเมินใบหน้าเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวถ้อยคำสำนึกผิดออกมา

               “ย… แย่ล่ะสิ ขอโทษด้วยนะที่ผม… หลั่งในสเตฟก้าน่ะ”

               “ทำไมต้องขอโทษด้วยล่ะคะ ในเมื่อทางนี้เป็นฝ่ายยินยอมรับมันเข้ามาเอง รุ่นพี่อย่าได้วิตกไปเลยค่ะ ฉันน่ะไม่ใช่คนที่ชอบลงมือทำอะไรโดยไม่ได้เตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าหรอกนะคะ”

               แม่มดสาวล้วงมือหยิบหลอดน้ำยาขึ้นมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ตโดยที่ภายในบรรจุของเหลวสีชมพูเอาไว้ แล้วจึงแสดงให้เลวอนเห็น สิ่งนี้คือน้ำยาคุมกำเนิดนั่นเอง ก่อนจะเปิดจุกฝาไม้คอร์กออกแล้วยกขึ้นดื่มเข้าไปในปากเพียงรวดเดียว

               “สมกับเป็นแม่มดสาวนักปรุงยาสมองเพชรประจำโรงเรียนจริง ๆ” เลวอนกล่าวชมเชย เมื่อเห็นว่าสเตฟาเนียมีความรอบคอบอยู่พอสมควร จนถึงขนาดตระเตรียมความพร้อมเอาไว้ล่วงหน้าเช่นนี้

               “ก็แค่น้ำยาคุมกำเนิดทั่วไปนั่นแหละค่ะ เว้นแต่ว่าเชื้อสเปิร์มของรุ่นพี่แข็งแรงเกินกว่าตัวยาจะต้านเอาไว้อยู่ ถ้าหากฉันตั้งท้องขึ้นมาจริง ๆ รุ่นพี่ต้องรับผิดชอบนะคะ… ไม่งั้นเจอสับของรักขาดกระจุยแน่ ฉันน่ะเกลียดผู้ชายที่ได้ผู้หญิงแล้วทิ้งไปแบบเข้าไส้เลยล่ะ”

               “เหวอ…!?”

               สเตฟาเนียเลื่อนมือซ้ายไปยังเหนือเป้ากางเกงของเลวอน ในลักษณะแบมือพร้อมทำท่าจะสับสันลงไป อีกฝ่ายถึงกับออกอาการสะดุ้งตกใจเล็กน้อย อย่างไรก็ดีเขาได้กล่าวให้คำมั่นสัญญาเพื่อให้เธอเกิดความสบายใจดังนี้

               “เข้าใจแล้ว ผมจะไม่ทำตัวแบบนั้นเด็ดขาด ว่าแต่พอได้ยินที่สเตฟก้าพูดเรื่องนี้แล้วก็แอบนึกกังวลใจอยู่เหมือนกันแฮะ นี่ถ้าหากแม่รู้เรื่องนี้เข้ามีหวังโดนจับเชือดแหง ๆ”

               “ไม่ต้องห่วง ตัวยาสูตรนี้ใช้ได้ผลมาหลายชั่วอายุคนแล้ว โอกาสที่พลาดจึงเป็นศูนย์… อีกอย่างฉันแค่อยากจะแกล้งรุ่นพี่เลวอนให้กังวลใจเล่น ๆ ก็เท่านั้นเองค่ะ”

               “โธ่เอ๊ย… อะไรกันเนี่ย ผมเหนื่อยที่จะต้องโดนทุกคนรุมกลั่นแกล้งแล้วนะ”

               เลวอนพองแก้มพลางคิ้วขมวดเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าไม่พอใจแต่เป็นเพราะเขาต้องคอยรับมุกจากอีกฝ่ายอยู่ตลอด จนไม่มีโอกาสได้แก้เผ็ดเอาคืนนั่นเอง สเตฟาเนียส่งเสียงหัวเราะในลำคออย่างชอบใจเมื่อได้เห็นท่าทีน่ารักชวนให้หยิกแก้มของอีกฝ่าย ก่อนจะกล่าวน้ำเสียงละมุนโดยแฝงถึงความจริงจัง

               “ถึงจะพูดแกล้งไปแบบนั้นแต่ฉันคิดจริงจังมากเลยนะคะ ขอให้รุ่นพี่ใส่ใจเรื่องนี้เอาไว้ให้ดีด้วย”

               เด็กหนุ่มที่กำลังนอนหนุนตักร่างอรชรได้หันมาส่งรอยยิ้มจาง ๆ ยกมือขวายื่นนิ้วก้อยออกไปพร้อมให้คำมั่นต่อเด็กสาวด้วยน้ำเสียงอันอบอุ่นแผ่วเบา เพื่อยืนยันในความบริสุทธิ์ใจที่ตนเองมีให้ต่อเธอ

               “เข้าใจแล้ว ผมขอสัญญาเลย”

               สเตฟาเนียแก้มแดงระเรื่อ เธอนึกแปลกประหลาดใจเล็กน้อยต่อความใสซื่ออันไร้เดียงสาของเลวอน ก่อนจะแย้มสรวลด้วยความรู้สึกแบบเดียวกัน ยื่นมือขวาเกี่ยวก้อยรับคำมั่นสัญญาจากเขาพร้อมทั้งกล่าวน้ำเสียงสดใสออกมา

               “สัญญาแล้วนะคะ รุ่นพี่เลวอน”

               และแล้วด้ายแดงแห่งโชคชะตาที่ทั้งสองหนุ่มสาวสร้างขึ้นมา ก็ได้เชื่อมโยงเข้าหากันอย่างเหนียวแน่น

Options

not work with dark mode
Reset