โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 106

Translator : Muntra  / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.106 – ปัญญาอ่อนกันทั้งเมือง

 

เนื่องจากรอยแยกมิติอาจปรากฏขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นทุกเมืองจึงมีสถานที่หลบภัยอย่างชั้นใต้ดิน , ลานจอดรถแบบปิด และห้องใต้ดินขนาดใหญ่ ที่เพียงพอจะให้พลเมืองสามารถซ่อนตัวได้ชั่วคราว

 

แต่ในสถานการณ์ที่วุ่นวายเช่นนี้ หลิวซูกลับบังเกิดความลังเลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

ในเวลาเดียวกัน กลุ่มคนรอบๆก็เริ่มสังเกตเห็นหลิวซูแล้ว ทั้งหมดต่างพากันมาออรอบตัวเธอ

 

“นั่นคนจากหน่วยลาดตระเวน! หัวหน้าหลิวอยู่ที่นี่แล้ว!”

 

“เร็วเข้า รีบไปหาหัวหน้าหลิว เธอจะช่วยปกป้องพวกเรา!”

 

“หัวหน้าหลิว เมื่อไหร่หน่วยลาดตระเวนจะมากำจัดแมลงพวกนี้ซักที!”

 

ฝูงชนห้อมล้อมรอบหลิวซู

 

ในตอนนั้นเอง ตั๊กแตนใบมีดสามสี่ตัวก็คืบคลานเข้ามา ผู้คนเหล่านั้นพากันกรีดร้อง แตกฮือออกไป แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะมาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังหลิวซู มีกระทั่งบางคนที่ผลักหลิวซูเข้าหาเงื้อมมือของตั๊กแตนใบมีด

 

เห็นได้ชัดว่าตั๊กแตนใบมีดไม่ได้แข็งแกร่งเท่าใดนัก มันมีเลเวลอยู่แค่ G3 เท่านั้น หลิวซูโจมตีไม่กี่ครั้งก็จัดการพวกมันลงได้ และเนื่องจากเธอสามารถปกป้องฝูงชนได้ คนอื่นๆจึงทยอยกันติดตามเธอมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ

 

ไม่ใช่แค่ติดตามมาเฉยๆ แต่ผู้คนเหล่านี้ยังตั้งใจจะให้หลิวซูพาพวกเขาไปยังชั้นใต้ดินของซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย

 

เมื่อฉินเฟิงเห็นหลิวซูยอมทำตาม ในที่สุดเขาก็ตระหนักได้ ว่าในชีวิตก่อนเธอจบชีวิตลงเพราะอะไร

 

“หลิวซู คิดถึงหน้าพ่อแม่เธอไว้ พวกเขาเองก็เป็นคนธรรมดาเหมือนกัน ถ้าเธอยังมัวเสียเวลาอยู่ที่นี่ แล้วใครกันจะคอยดูแลพวกเขา?”

 

พอได้ฟัง ท่าทีลังเลของหลิวซูก็ยิ่งเด่นชัด ชัดเจนว่าคำพูดของฉินเฟิงตรงกับสิ่งที่เธอกำลังคิด

 

นั่นสิ ในเวลานี้เธอจะมั่นใจได้ยังไงว่าพ่อแม่ยังคงปลอดภัยดี?

 

อย่างไรก็ตาม คนเหล่านี้ย่อมไม่ต้องการให้หลิวซูจากไป

 

“แกเป็นใครกัน ทำไมแกถึงเห็นแก่ตัวแบบนี้? ทำไมถึงคิดจะพรากหัวหน้าหลิวไปจากพวกเรา!”

 

“ใช่ๆ สถานการณ์เลวร้ายมากเลยนะ ถ้าหัวหน้าหลิวไป ชีวิตของพวกเราก็ตกอยู่ในอันตรายน่ะสิ”

 

“ภายในร้านของหลิวเซินซาน ยังไงก็ต้องมีห้องใต้ดินอยู่แล้ว ฉะนั้นต้องไปส่งพวกเราก่อนสิ! แล้วเอาไว้พวกแมลงซาลงเมื่อไหร่ ค่อยกลับไปที่ห้องใต้ดินของหลิวเซินซานอีกครั้งก็ยังไม่สาย”

 

ฝูงชนเริ่มโวยวาย

 

ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็น เตะเปรี้ยง! เข้าใส่รถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง เกิดเสียงโครมครามครั้งใหญ่

 

“หุบปาก!”

 

ฉินเฟิงตวาดเสียงเย็นชา

 

แรงสั่นสะเทือนจากกำลังภายในทำเอาผู้คนรู้สึกวิงเวียน

 

“ใครก็ตามที่ยังอยากจะมีชีวิตรอดอยู่ต่อไป ห้ามปริปาก และวิ่งตามฉันมา ส่วนใครที่มันกล้าพ่นเรื่องไร้สาระอีก ก็แดกลูกปืนของฉันซะ เตือนแล้วนะ ถึงเวลานั้นอย่าหาว่าฉันใจร้ายก็แล้วกัน!”

 

ฉินเฟิงชักปืนพลังงานออกมา และกวาดปากกระบอกปืนไปทางผู้คน

 

ทั้งหมดต่างตะลึงงัน แต่หลังจากที่ได้เห็นตราสัญลักษร์ของผู้ใช้พลังเลเวล G บนอกของฉินเฟิงแล้ว ทั้งหมดก็เผยท่าที่ดูถูกออกมา

 

เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่เห็นฉินเฟิงอยู่ในสายตา

 

“แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? จะปกป้องพวกเราได้จริงๆน่ะหรือ อย่าอวดดีไปหน่อยเลย!”

 

“ใช่ ใช่ พวกเรากำลังพูดกับหัวหน้าหลิว ไม่ได้พูดกับแก!”

 

“หัวหน้าหลิว นี่ลูกน้องของคุณหรอ? ทำไมเขาถึงพยายามจะทิ้งพวกเรา? นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน … ”

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว สถานที่ชุมชนเมืองหานน่ะมีขนาดเล็กเกินไป บางคนหลิวซูเห็นมาตั้งแต่เด็กจนกระทั่งเติบใหญ่ ดังนั้นความรู้สึกในเวลานี้ หลิวซูจึงบังเกิดความคิดที่จะปกป้องพวกเขา อันที่จริง พวกเขาล้วนหวาดกลัวในหัวใจ หวาดกลัวว่าหลิวซูจะหนีไป ดังนั้นตอนนี้ทั้งหมดเลยห้อมล้อมหลิวซู เกาะแข้งเกาะขา หน่วงเหนี่ยวไม่ให้เธอจากไป

 

ฉินเฟิงก้มหน้าลง กล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา “หลิวซู เธอต้องการจะอยู่หรือมากับฉัน อุปกรณ์รูนที่ฉันฝากหลอมคืนยังอยู่กับลุงหลิว ดังนั้นยังไงฉันก็จะกลับไป ไม่อย่างนั้นมีหรือจะช่วยเธอที่อยู่ระหว่างทาง ถ้าตอนนี้! เธอคิดว่าสามารถปกป้องเจ้าพวกบ้านี่ได้! ก็อยู่ไป ส่วนฉันจะกลับไปรอจัดเตรียมงานศพเธอพร้อมกับลุงหลิวให้เอง!”

 

ในหัวใจของหลิวซูเต้นครึกโครม

 

ในความเป็นจริงแล้ว ตอนนี้หลิวซูทราบดีว่าฉินเฟิงน่ะแข็งแกร่งเพียงใด ต่อให้เขาจากไปเพียงลำพังก็ยังเอาชีวิตรอดได้ ตรงกันข้าม หากเธออยู่กับคนพวกนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะหนีพ้นถึงที่หลบภัยรึเปล่า ดังนั้นมีเพียงตัวเลือกเดียว คือติดตามฉินเฟิง ถึงจะมีโอกาสรอดชีวิต

 

เมื่อคิดถึงจุดนี้ หลิวซูก็เลิกลังเล ปากเอ่ยกล่าวอย่างรวดเร็ว “ฉินเฟิง ฉันจะทำตามคำสั่งของนาย –ส่วนพวกคุณ! ถ้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่ ก็ต้องตามพวกเรามา บ้านของฉันอยู่ไม่ไกล อีกสามสี่ถนนเท่านั้น ไม่ต้องหวาดกลัวไป!”

 

“นี่ … ”

 

ฝูงชนเริ่มกลายเป็นวิตกกังวล แต่ในตอนนั้นเอง พื้นดินพลันเกิดการสั่นสะเทือน ในเวลาเดียวกัน หอยทากขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นในมุมถนนอีกฝั่งหนึ่ง

 

หอยทากตัวนี้ มีความสูงกว่า 4 – 5 เมตร มันใหญ่โตเท่ากับตึกสองชั้น และเบื้องหน้าเปลือกหอยของมัน ก็มีหัวสองหัวโผล่ออกมา หนึ่งหัวยืดหด หนึ่งหัวหดได้อย่างรวดเร็วมาก ผู้คนที่ขวางหน้ามันล้วนถูกหัวฉกแล้วหดกลืนลงไปในห้องโดยตรง

 

แม้ว่าผู้คนในที่แห่งนี้ พวกเขาจะไม่เคยเข้าไปเรียนในสถาบันระดับสูง แต่ทั้งหมดต่างก็เคยได้รับการศึกษาหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ร้ายในสถาบันระดับกลางมาด้วยกันทั้งนั้น!

 

“กรี๊ด! นั่นมันหอยทากเหล็กดำ!”

 

“แถมยังมีสองหัว! มันคือสัตว์ร้ายระดับนายพล!”

 

พริบตาเดียว ผู้คนก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว

 

ทุกคนต่างทราบกันดี ว่านายพลสัตว์ร้ายเป็นสิ่งมีชีวิตที่จะต้องเอาชนะในรูปแบบ 10 รุม 1 แม้ว่าหลิวซูจะครอบครองพลังมากแค่ไหน ย่อมไม่สามารถต้านทานหอยทากเหล็กดำสองหัวได้อย่างแน่นอน

 

“วิ่ง! รีบหนีกันเร็วเข้า!”

 

ฝูงชนที่เกาะแกะหลิวซูแตกฮืออย่างบ้าคตลั่ง

 

ทว่าหอยทากสองหัวเร็วยิ่งกว่า

 

เท้าของมันคล้ายกับก่อตัวเป็นคลื่น คืบคลานเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว

 

และความเร็วดังกล่าว ไม่ใช่สิ่งที่สิ่งมีชีวิตสองขาจะหนีไปได้!

 

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้คนยังต้องคอยหลบหลีกยานพาหนะ แต่หอยทากสามารถกระแทกสิ่งกีดขวางใดๆที่อยู่เบื้องหน้าได้เลยโดยตรง

 

ชายคนที่ได้รับบาดเจ็บที่เท้าก่อนหน้านี้พยายามดิ้นรนหลบหนี แต่เขากระโดดกระเด้งได้เพียงสองครั้ง ก็ถูกโถมทับด้วยรถยนต์ที่หอยทากสองหัวชนกระเด็นมา

 

หัวของหอยทากยืดออกไปกว่าสามเมตร อ้าปากกว้างใหญ่และฉก! กลืนชายคนนั้นเข้าปาก หย่อนลงกระเพาะทันที

 

“อ๊าาาาาา!”

 

ชายคนนั้นทำได้แค่ส่งเสียงกรีดร้องน่าขนลุก และช่วงเวลาต่อมา เขาก็จากไป

 

“ไอ้ตัวสัตว์นรก!”

 

หลิวซูพอเห็นพลเมืองถูกฆ่าก็โกรธแค้น ฟาดตบมันด้วยมือเดียว

 

“ฝ่ามือวิญญาณเยือกแข็ง!”

 

ฝ่ามือนี้ท่วมท้นไปด้วยกำลังภายในที่ทรงพลัง ทว่าเมื่อฝ่ามือฟาดตบลงไป มันก็ลื่นไถลไปด้านข้างของหอยทากเหล็กดำสองหัวทันที

 

นั่นเพราะทั่วทั้งร่างของหอยทากน่ะมันเต็มไปด้วยเมือก ดังนั้นฝ่ามือของหลิวซูมีอานุภาพทำให้มันแค่รู้สึกคันเท่านั้น

 

ยังไม่พอ! แต่การกระทำของหลิวซู ในมุมมองของฉินเฟิง นั่นคือการส่งอาหารเข้าสู่ปากของศัตรู!

 

เห็นถึงความบ้าบิ่นของหลิวซู ฉินเฟิงถึงกับพูดไม่ออก

 

“คนในเมืองหานนี่ปัญญาอ่อนกันทุกคนเลยสินะ?”

 

ฉินเฟิงสบถอย่างเปิดเผย ก้าวสะอึกเข้าไปทันใด คว้าเสื้อของหลิวซู เหวี่ยงสะบัดเธอกลับไปด้านหลัง

 

ด้วยพลังมหาศาล ส่งผลให้หลิวซูลอยม้วนกลับไป ในเวลาเดียวกัน ปากขนาดใหญ่กว่าหนึ่งเมตรที่เต็มไปด้วยฟันแหลมก็ฉกเข้ามา และงับ! ในตำแหน่งเดิมทีหลิวซูเคยอยู่ หากไม่ใช่เพราะฉินเฟิง เธอคงถูกหัวหอยทากกินเข้าไปแล้ว

 

หอยทากสองหัวเมื่อเห็นอาหารถูกแย่งชิงไป มันก็ไม่สนใจใดๆอีก บิดตัวยืดหด และหันมาเล็งฉินเฟิงแทน

 

ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็น เขายกมือขึ้น และประทานมีดกษัตริย์ครามให้กับอีกฝ่าย

 

“ระบำดอกไม้ไฟ!”

 

พริบตานั้นพลันปรากฏเปลวเพลิงสาดแสงทรงพัดขึ้นเบื้องหน้าฉินเฟิง และมีดกษัตริย์ครามก็เปล่งประกายด้วยแสงสีเงิน ราวกับบุปผาท่ามกลางเปลวไฟ

 

พรวดดดด!

 

ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ในระหว่างที่หลิวซูกำลังหมุนคว้านกลางอากาศ หัวของหอยทากเหล็กดำก็ถูกสะบั้นร่วงตกลงเสียแล้ว

 

ตึง ตึง!!

 

สองหัวร่วงตกลงกับพื้น ของเหลวสีใส่พรั่งพรูออกมา นี่น่าจะเป็นเลือดของหอยทาก

 

มีดกษัตริย์ครามของฉินเฟิงกระพริบไหวอีกครั้ง ตัดตรงกะโหลกส่วนหัวของศัตรู ปรากฏก้อนผลึกโปร่งใสร่วงตกลงมา

 

–เป็นแก่นพลังงานของหอยทากเหล็กดำ!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset