โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 127

Translator : Muntra  / Author

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.127 – กลับสู่เฉิงเป่ย

 

“ยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่ง!”

 

กล่าวได้ว่าการกลับไปของฉินเฟิงในครั้งนี้ เขาได้รับผลประโยชน์มหาศาล

 

มากกว่า 30 ผู้ใช้พลังติดตามฉินเฟิงกลับมา และในกลุ่มนี้มีถึง 4 คนที่เป็นเลเวล F

 

นอกจากนี้ยังมีคนธรรมดาอีกราวๆ 600 คนที่ตัดสินใจติดตามฉินเฟิงกลับไปยังสถานชุมชนเฟิงหลี

 

คนเหล่านี้ถูกกระตุ้นโดยคำกล่าวของฉินเฟิง อันที่จริงแล้ว เนื่องจากเมืองหานล่มสลาย คนยากจนส่วนใหญ่ที่รอดมาได้เลยกลายเป็นไร้ที่อยู่ และเกิดความคิดว่าจะย้ายไปยังสถานชุมชนแห่งใหม่อยู่เหมือนกัน แต่ทุ่งล่าน่ะอันตราย ดังนั้นเลยมีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถพาครอบครัวตัวเองออกไปยังสถานชุมชนอื่นได้

 

ตรงกันข้าม หากไปตามคำขอของฉินเฟิง พวกเขาย่อมถูกคุ้มครองระหว่างการเดินทางอย่างไม่ต้องสงสัง

 

ฉินเฟิงได้มอบแสงสว่างใหม่ให้แก่พวกเขา!!

 

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ทั้งหมดตระหนักดี ว่าฉินเฟิงทรงพลังเพียงใด

 

“มิสเตอร์ฉินเป็นผู้ใช้อบิลิตี้ ดังนั้นความสำเร็จในอนาคตของเขาย่อมไม่เลวร้ายอย่างแน่นอน!”

 

“มีผู้นำแบบนี้ ผู้นำที่สามารถปกป้องพวกเราได้ เขาดีกว่าชิเทียนไห่เป็นไหนๆ!”

 

“หลิวเซินซานก็ตามไปด้วย ฉะนั้นคนสวยอย่างหัวหน้าหลิวคงไปด้วยเหมือนกัน!”

 

“สถานชุมชนแห่งใหม่ จะต้องดีกว่าที่เก่าแน่นอน!”

 

ฝูงชนเกิดความคิดเช่นนี้ เลยตัดสินใจติดตามฉินเฟิงไป

 

เนื่องจากผู้ร่วมขบวนมีมากเกินไป ระหว่างทาง บางจุดในทุ่งล่าฉินเฟิงเลยจำเป็นต้องพาพวกเขาอ้อม และบางครั้งก็ให้ไป๋หลีรับหน้าที่ป้องกัน ปลดปล่อยกลิ่นอายออกมา สัตว์ร้ายที่มีจมูกไวต่อกลิ่นอายจึงไม่กล้าโจมตีขบวนรถยนต์ การเดินทางเลยเป็นไปอย่างราบรื่น!

 

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา ในที่สุดฉินเฟิงก็กลับมาถึงสถานชุมชนเฟิงหลี

 

เวลานี้สถานชุมชนเฟิงหลีกำลังเร่งก่อสร้าง เนื่องจากการรุกรานของสิ่งมีชีวิตต่างมิติ วัสดุก่อสร้างจึงเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่นมีการเติมเมือกของแมลงลงในปูนซีเมนต์ เพื่อเสริมความแน่นของปูน และแห้งได้เร็วขึ้น

 

วัสดุก่อสร้างต่างๆได้รับการปรับปรุงใหม่ มีบทบาทที่ใหญ่กว่าเดิม

 

 

อย่างอาคารสูงสิบชั้น มันสามารถสร้างได้เร็วสุดโดยใช้เวลาแค่ 1 เดือน นั่นหมายความว่าสำหรับสถานที่ชุมชน หากมีกำลังคนมากพอ มันอาจเป็นรูปเป็นร่างได้ภายในครึ่งปี!

 

เมื่อฉินเฟิงกลับมาถึง ซูซิงฝูก็ออกมาทักทายเขา

 

ไม่ได้เจอกันเพียงครึ่งเดือน ซูซิงฝูก็ยังเป็นเหมือนเดิม แต่ฉินเฟิงกลับกลายเป็นลึกล้ำไม่อาจคาดหยั่ง!

 

“ผู้ว่าการ คุณกลับมาแล้ว หายไปเที่ยวตั้งครึ่งเดือน คุณนี่แอบขี้เกียจเหมือนกันนะ!”

 

ตำแหน่งผู้ว่าการ โดยปกติแล้วจะออกให้ตามที่เมืองเฉิงหยางเห็นว่าเหมาะสม โดยปกติก็จะมี–

 

–สถานที่ชุมชนเหนือ , ใต้ , ออก และตก เป็นสถานชุมชนที่แข็งแกร่งที่สุดนอกเมืองเฉิงหยาง ผู้นำชุมชนเลยได้รับตำแหน่งนี้ ในความเป็นจริงแล้วก็ยังมีเขตอื่นๆที่อยู่ถัดออกไปเหมือนกัน แต่เนื่องจากมันอยู่ไกลจากเมืองเฉิงหยาง ดังนั้นผู้นำเมืองเลยไม่ได้รับตำแหน่งนี้ สรุปง่ายๆว่าเมืองอื่นๆจะมีสถานะคล้ายคลึงกับเมืองหานนั่นเอง

 

แต่สถานชุมชนของฉินเฟิงไม่ได้อยู่ไกลถึงขนาดนั้น และปัจจุบันก็มีเส้นทางสาธารณะแล้ว ที่นี่เลยกลายเป็นเขตใหม่

 

และผู้ว่าการเขตเฟิงหลี แน่นอนว่าต้องเป็นฉินเฟิง

 

“ขอโทษจริงๆ ผมสร้างปัญหาให้คุณซะแล้ว … แต่น่ากลัวว่าจากนี้ไป คุณคงยุ่งมากกว่าเดิม!” ฉินเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

หลังจากทักทายกันเล็กๆน้อยๆ ทั้งสองก็บอกเล่าถึงสถานการณ์ทางฝั่งตนที่เกิดขึ้น ฉินเฟิงมอบพลเมือง 600 คนให้แก่ซูซิงฝู ปล่อยให้เขาจัดการ ท่ามกลางคนใหม่ ฉินเฟิงฝากให้ดูแลหลิวเซินซานและครอบครัวเป็นพิเศษ

 

จากนั้น ฉินเฟิงก็นำคนใส่รถบัส 3 คัน มุ่งหน้าสู่สถานชุมชนทางตอนเหนือ

 

ข้างในรถ มีเด็กกำพร้าอยู่กว่า 100 คน , กลุ่มวัยรุ่นสาวจำนวนหนึ่ง และสมาชิกกลุ่มแรกๆที่ร่วมฝ่าวงล้อมไปด้วยกันอย่างแม่และลูกที่ยอมเอาเทปกาวปิดปากตามคำสั่งของฉินเฟิง

 

คนเหล่านี้ได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากฉินเฟิง

 

ณ ประตูทางเข้าเมือง เมื่อเห็นว่ามีรถศึกสามคันตรงเข้ามา มันก็ถูกทหารรักษาการณ์หยุดเอาไว้ทันที

 

“ลงมา! แล้วรับการตรวจสอบซะ!”

 

นี่คือหน้าที่ของกองทหาร เป็นกระบวนการในการปกป้องสถานชุมชนเฉิงเป่ย เพราะหากจู่ๆก็ปรากฏกลุ่มคนจำนวนมากเดินทางเข้าเมืองอย่างกระทันหัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะอนุญาตให้ผ่าน

 

เพราะใครจะรู้ บางทีบนตัวผู้มาเยือนอาจจะมีไวรัสหรือปรสิตปนเปื้อนอยู่ก็ได้ แบบนั้นมีแนวโน้วว่าจะเป็นอันตรายคุกคามต่อคนภายในเมือง

 

ฉินเฟิงผลักประตูลงจากรถ

 

แต่เขายังไม่ทันจะได้พูด ดวงตาของคนที่อยู่ตรงข้ามก็เปล่งประกายด้วยความประหลาดใจ!

 

“ฉิน … ไม่สิ ทำความเคารพท่านผู้ว่าการฉิน!”

 

เขาจดจำรูปลักษณ์ของฉินเฟิงได้ และโค้งคำนับลงทันที

 

ฉินเฟิงเองก็ผงะตกใจ ก่อนจะย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์บนเทือกเขาพ่อแม่ลูกเมื่อไม่นานมานี้ ที่เจิ้งหยางพูดเรื่องโฆษณาชวนเชื่ออะไรสักอย่างกับเขา ตรงจุดนี้เองที่น่าจะทำให้ทหารจดจำเขาได้

 

ยังไงก็ตาม โฆษณาที่ว่าก็คงจะเหมือนกับดาบสองคม เพราะแม้ในสายตาคนอื่นๆเขาจะกลายเป็นวีรบุรุษ และถูกเรียกว่าผู้ว่าการ แต่ท้ายที่สุดแล้ว หลังจากรอยแยกมิติปิดลง เวลามันก็ผ่านไปแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น ผู้คนเลยยังกังวลว่าอาจมีโรคระบาดหลงเหลืออยู่ และไม่ยินยอมให้คนนอกเข้าเมืองไปง่ายๆ

 

“สวัสดี คนพวกนี้คือเด็กกำพร้าที่ผมพากลับมาจากเมืองหาน ตั้งใจว่าจะไปส่งที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของเมืองน่ะ!”

 

“นี่ … ”ทหารรักษาการณ์ลังเล แต่สุดท้ายกัดฟันกล่าว “ถ้าอย่างนั้นเชิญผู้ว่าการฉินเข้าไปได้ ส่วนคนพวกนี้ ทางเราจะแจ้งหน่วยแพทย์ให้มาดำเนินการตรวจร่างกายในภายหลัง และฉีดยาปฏิชีวนะให้”

 

“ขอบคุณ”

 

“ไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอกผู้ว่าการฉิน นี่คือสิ่งที่พวกเราควรทำ” ทหารรักษาการณ์ส่งสัญญาณมือให้เปิดประตู

 

ฉินเฟิงกลับขึ้นรถ และขับเข้าไปในสถานชุมชน

 

ภายในสถานชุมชนเฉิงเป่ยแน่นอนว่าเจริญกว่าเมืองหาน และเนื่องจากมันอยู่ใกล้กับเมืองเฉิงหยางมากเกินไป ใกล้จนชนิดเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่รอบนอก ดังนั้นเลยได้รับอานิสงส์จากเมืองเฉิงหยาง พลอยมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เหมือนกัน

 

สิ่งปลูกสร้างสูงตระหง่าน , ผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาด้วยเครื่องแต่งกายสีสันเฉิดฉาย , ผู้ใช้พลังที่ไม่สามารถพบเจอได้บ่อยๆในเมืองหาน เดินให้ว่อนอยู่ทุกที่ มีแม้กระทั่งเด็กหลายคนที่กำลังไปโรงเรียนด้วยความสุข

 

ทั้งหมดขับผ่านย่านการค้า ปรากฏตึกสูงที่ภายนอกตึกติดตั้งไว้ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่สู่สายตา และมันกำลังฉายวิดีโออยู่

 

ในวิดีโอนี้ กำลังฉายภาพฉินเฟิงที่กุมมีดกษัตริย์ครามในมือของเขา โบกสะบัดห้ำหั่นกับซากศพเลเวล F และสามารถตัดหัวซากศพเพลิงลงได้ในที่สุด เนื่องจากมีโดรนถ่ายภาพจากบนท้องฟ้า ดังนั้นภาพที่ออกมาจึงสมบูรณ์แบบ มันยอดเยี่ยมอย่างหาที่ใดเปรียบ

 

ระหว่างออกอากาศ ข้อความที่ให้ความรู้สึกน่าทึ่งกินใจก็ปรากฏขึ้น

 

“วีรบุรุษ ไม่เคยใช้วันเวลาไปเปล่าๆบนท้องถนน!”

 

“วีรบุรุษ ยืนหยัดอยู่ท่ามกลางสนามรบตลอดกาล!”

 

“วีรบุรุษ คือคนที่กล้าหาญและทุ่มเทเพื่อผู้คน!”

 

“วีรบุรุษ จะอยู่เคียงข้างกับพวกคุณเสมอไป!”

 

นี่น่าจะเป็นวิดีโอโปรโมตที่เจิ้งหยางกล่าวไว้ในตอนต้น

 

แม้ในวิดีโอนี้ จะไม่ได้เรียกฉินเฟิงว่าเป็นวีรบุรุษออกมาตรงๆ แต่ไม่ต้องสงสัยเลย ว่าทุกคนที่ดูมันย่อมเข้าใจ ว่านี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างการปราบปรามกองทัพซากศพบนภูเขาแม่ และฉินเฟิงนั่นแหละคือวีรบุรุษ!

 

ไม่เพียงแค่นั้น แต่ผลลัพธ์ยังกลายเป็นว่าเขาได้ขึ้นเป็นผู้นำสถานชุมชนแห่งใหม่

 

หลังจากนั้น ภาพหน้าจอก็เปลี่ยนไป มันเป็นภาพของฉินเฟิงอีกครั้ง

 

ซึ่งไม่รู้ว่าถูกถ่ายเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ในวิดีโอ เป็นฉินเฟิงที่กำลังหันหลัง ยืนหยัดอยู่บนปลายยอดภูเขาสูง ขณะเดียวกันก็กุมมือของไป๋หลี เหม่อมองออกไปยังขอบฟ้าที่ตะวันกำลังลาลับ

 

ต่อมา ตัวหนังสือขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้น : สถานชุมชนเฟิงหลี กำลังเฝ้ารอให้คุณไปสัมผัส!

 

หลังจากดูจนจบ … สีหน้าของฉินเฟิงก็กลายเป็นดำคล้ำ!

 

โฆษณาฉากนี้จะต้องเป็นซูซิงฝูที่แอบถ่ายเอาไว้ในตอนนั้นแน่ๆ แถมยังใส่รูปของไป๋หลีลงไปอีก

 

ที่สำคัญอีกฝ่ายไม่ได้ขอเขาก่อน!

 

พอฉินเฟิงจินตนาการว่ามีคนจำนวนมากได้เห็นรูปลักษณ์ของไป๋หลี เขาก็เริ่มกลายเป็นอารมณ์เสีย

 

เพราะจิ้งจอกน้อยเป็นของเขาคนเดียว!

 

ในขณะที่สีหน้าของฉินเฟิงมืดครึ้ม คนอื่นๆที่อยู่ในรถ กลายตกตะลึงโดยสิ้นเชิง

 

แม้พวกเขาจะทราบว่าฉินเฟิงน่ะทรงพลัง แต่การที่สามารถปรากฏตัวขึ้นบนหน้าจอขนาดใหญ่ได้ มันให้ความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด

 

“นั่นมิสเตอร์ฉิน!”

 

“ลูกพี่ร้ายกาจจริงๆ ถึงขั้นมีภาพตัวเองฉายบนจอตึก!”

 

“ที่แท้มิสไป๋หลีก็เป็นดาราดังหรอกหรอ อยากถ่ายรูปกับเธอจังเลย!”

 

ช่วงเวลานั้น ฝูงชนเริ่มรู้สึกขึ้นมาอีกครั้ง ว่าฉินเฟิงเป็นคนที่ไม่สามารถคาดหยั่งได้จริงๆ!

 

ฉินเฟิงที่ตกอยู่ภายใต้สายตาและสถานการณ์นี้ ถึงกลับไร้คำจะกล่าว

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset