โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 347

Provider : Muntra

 

 

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.347 – ยุบพันธมิตร ปฏิเสธข้อเสนอ

 

“ใช่ เป็นอย่างที่นายว่าจริงๆ” เฉินเซี่ยงพยักหน้ายอมรับ

 

แม้จะไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่เพราะปฏิบัตการในครั้งนี้ ทำให้พันธมิตรอิสระที่เพิ่งรวมตัวกันได้ไม่กี่เดือน ต้องพังทลายลง

 

“ฉินเฟิง หลังจากนี้นายมีแผนจะทำอะไรไหม? อย่างการก่อตั้งทีม … ” เกาลี่เอ่ยถามอย่างร้อนรน

 

ฉินเฟิงยิ้มจาง อันที่จริงเขารู้อยู่แล้ว ว่านี่แหละคือสิ่งที่เกาลี่ต้องการจะถามตั้งแต่ต้น

 

หรืออาจจะกล่าวว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนในห้องนี้อยากถามก็ได้

 

การได้มีหลังอิงต้นไม้ใหญ่ คอยให้ร่มเงาเป็นเรื่องที่ดี

 

และคนเหล่านี้ ก่อนหน้าก็เคยใช้หยานฟางเป็นต้นไม้ใหญ่มาก่อน

 

การมีคนคอยคุ้มกะลาหัวในทุ่งล่า กรณีที่เกิดเผชิญกับศัตรูสุดแกร่ง คุณยังสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้

 

ทั้งยังเพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายในเวลาเดียวกัน แท้จริงแล้วคนเหล่านี้ไม่ต้องการให้ไหล่ตนแบกรับความรับผิดชอบหนักเกินไป เลยยินยอมให้หยานฟางเป็นลูกพี่ แม้ปากจะบอกว่าพวกตนไม่ใช่ลูกน้องก็ตาม

 

แต่ว่านะ ในโลกแบบนี้ มันจะมีสิ่งดีๆแบบนั้นได้อย่างไร?

 

“ผมยังไม่มีความตั้งใจอย่างที่เสนอมาในตอนนี้ อีกอย่างสไตล์การต่อสู้ของผม มันง่ายต่อการผิดใจกับผู้อื่น ดังนั้นเหมาะที่จะลงมือคนเดียวมากกว่า”

 

“งั้นก็ไม่เป็นไร” เฉินเซี่ยงพยักหน้า ไม่คิดกล่าวอะไรอีก เขาคุ้นเคยกับฉินเฟิงมากกว่าคนอื่นๆ รู้จักนิสัยของฉินเฟิงดี โดยเฉพาะปฏิบัติการครั้งล่าสุด มีเพียงฉินเฟิงคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่ต้องแบ่งแก่นพลังงานราชันย์กับใคร

 

ตรงส่วนนี้ไม่เกี่ยวข้องใดๆกับเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ แต่มันเกี่ยวกับความแข็งแกร่ง อย่างในการต่อสู้ครั้งสุดท้าย จะมีสักกี่คนกันที่สามารถยืนหยัดได้เหมือนฉินเฟิง ต่อสู้ได้อย่างเขา

 

อีกเรื่องหนึ่ง เวลานี้ กลุ่มเล่ยถังนับว่าเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน 

 

และคนที่ก่อเรื่องราวใหญ่โตอย่างฉินเฟิง กลับยังรั้งอยู่ในปราการชาตง นี่ยังไงต้องมีปัญหาตามมาแน่ๆ ดังนั้นไม่อยู่ใต้อาณัติเขาก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยก็ไม่ต้องพะวงไปอีกทาง

 

หลังจากนั้น กลุ่มเฉินเซี่ยงกับฉินเฟิงก็สนทนากันอีกเล็กๆน้อยๆ ข้อเสนอก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าย่อมตกไป 

 

–สำหรับฉินเฟิง เขาไม่จำเป็นต้องมีคนคอยพันแข้งพันขา

 

ยิ่งไปกว่านั้น การสังหารเล่ยชาง ฉินเฟิงยังต้องการให้เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู!

 

ว่าในสนามรบต่อไป หากมีฉินเฟิงเข้าร่วมด้วย บางคนต้องชั่งใจแล้ว ว่าจะแย่งชิงผลประโยชน์จากเขาหรือไม่?

 

หลังจากการต่อสู้ในครั้งนี้ ฉินเฟิงก็ยังไม่คิดตีตั๋วกลับแต่อย่างใด หูเหลียงจึงพาเขากับไป๋หลีเข้าไปในทะเลทรายทะเลเหนืออีกครั้ง

 

ภายในทะเลทราย เต็มไปด้ววยสัตว์ร้ายมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว มักจะเป็นสายพันธุ์แมลง

 

ท่ามกลางกองทัพสัตว์ร้าย ฉินเฟิงราวกับมังกรกระโจนลงสู่ทะเล แหวกว่ายเก็บเกี่ยวสัตว์ร้ายอย่างอิสระเสรี

 

ทุกๆวัน เขามุ่งมั่นฆ่าสังหารอย่างต่อเนื่อง หมายยกระดับความแข็งแกร่งของตนเอง

 

และคอยเฟ้นหาราชันย์สัตว์ร้ายที่ถือกำเนิดขึ้นในทะเลเหนือ

 

 

ท่ามกลางทะเลทราย ต้นกระบองเพชรกลายพันธุ์ถูกโค่นลงอย่างไม่ทันตั้งตัว มันเป็นถึงเลเวล D เป็นพืชกลายพันธุ์ระดับราชันย์ แต่กลับถูกขุดรากถอนโคนโดยฉินเฟิง ทุกหนามแหลมของมันล้วนมีค่า เนื้อกระบองเพชรเองก็นุ่มและอร่อย เทียบได้เลยกับสมุนไพรวิญญาณ

 

ยังไม่พอ ภายในลำต้นของกระบองเพชรกลายพันธุ์ ยังมีแก่นอบิลิตี้ราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล D ธาตุน้ำรวมอยู่ด้วย

 

และทั้งหมดนี้ ล้วนตกเป็นของฉินเฟิง!

 

 

“ฟ่ออออ!” ราชันย์สัตว์ร้ายที่มีสีน้ำตาลทั้งตัวกรีดร้องน่าอนาถ งูทรายที่มักเป็นผู้ล่าเสมอมา สุดท้ายวันนี้ดันเจอตอที่มิอาจโค่นล้ม

 

“ตายซะ!”

 

มีดกษัตริย์ครามในมือฉินเฟิงสาดแสงสีฟ้า พลุไฟสงครามเส้นผ่านศูนย์กลาง 7 ชุ่นพุ่งใส่งูยักษ์

 

งูยักษ์ดิ้นรนขัดขืน ก่อนทั้งร่างของมันค่อยๆแน่นิ่ง สูญสิ้นกลิ่นอาย

 

ฉินเฟิงเริ่มเลอะหนัง และลากงูตัวนี้กลับไป

 

 

ภายในอุโมงค์ใต้ผืนทรายอันมืดมิด แม่แมลงสีดำตัวใหญ่ถูกทารุณ ส่งเสียงกรีดร้องน่าสยองขวัญ

 

 

ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด นักล่าในยามค่ำคืบคลานออกจากรัง แต่มันยังไม่ทันจะเอื้อมกรงเล็บออกจากรู ก็ดันประสบพบเจอกับหายนะ!

 

 

ครึ่งเดือนต่อมา ภายในพาร์ตเมนต์ของฉินเฟิง หานน่วนกำลังรายงานธุรกรรมล่าสุดกับเขา

 

“ … รายได้โดยรวมของเดือนนี้ เป็นเงินทั้งสิ้น 57.2 พันล้านเหรียญ” หานน่วนนับตัวเลขนี้ ย้ำๆกับมันเป็นนับร้อยครั้ง

 

เธอไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าภายในเดือนเดียว วัตถุดิบที่ถูกจัดการโดยมือเธอ จะมีมหาศาลขนาดนี้

 

ฉินเฟิงพยักหน้า และกล่าว “ไม่เลว นี่คือรางวัลของคุณ”

 

ฉินเฟิงหยิบเนื้อของแม่แมลงออกมา แม้ว่าเนื้อนี้จะอ่อนแอกว่าของราชันย์สัตว์ร้าย แต่แม่แมลงครอบครองพลังสมาธิอันทรงพลัง ถึงมันจะไม่มีอบิลิตี้ แต่พลังสมาธิที่แฝงอยู่ในเนื้อแมลงตัวนี้ ถือเป็นยาชั้นดีสำหรับหานน่วน

 

“ขอบคุณเจ้านาย!”

 

หานน่วนกล่าวด้วยความสุข

 

“อืม ไปทำงานเถอะ ผมเองก็จะออกไปข้างนอกเหมือนกัน”

 

ฉินเฟิงเดินทางไปพบกับลู่หวันเปา

 

แม้หานน่วนจะดูแลเกี่ยวกับวัตถุดิบธรรมดาที่ฉินเฟิงล่าสังหาร แต่ธุรกรรมระหว่างฉินเฟิงกับลู่หวันเปาก็ยังไม่หยุดลง

 

ในครึ่งเดือนมานี้ ฉินเฟิงสังหารราชันย์สัตว์ร้ายลงได้กว่า 4 ตัว มอบวัตถุดิบเหล่านั้นให้แก่กลุ่มหวันซ่ง ได้รับเงินมามากถึง 120 พันล้านเหรียญ

 

ด้วยเหตุนี้ เครดิตที่ฉินเฟิงมีต่อกลุ่มหวันซ่ง เลยอยู่ในระดับที่สูงมาก การจะได้รับการบริการระดับวีไอพีถือว่าไม่ใช่เรื่องเกินจริง

 

ฉินเฟิงทำธุรกรรมกับลู่หวันเปาในคราวนี้ ก็เพื่อขอให้ลู่หวันเปารวบรวมแก่นพลังงานราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล D ให้แก่เขา 

 

โดยราชันย์สัตว์ร้ายที่ฉินเฟิงสังหารลง ล้วนเป็นตัวที่ครอบครองแก่นอบิลิตี้ –แก่นอบิลิตี้มีราคาสูงว่าแก่นพลังงานในระดับเดียวกันถึง 3 เท่า และฉินเฟิงต้องการแลกเปลี่ยนกับพวกมันโดยตรง หากมีส่วนต่างนิดๆหน่อยๆก็ส่งเงินมา

 

ทั้งสองร่วมมือกันเป็นอย่างดี ต่างฝ่ายต่างพึงพอใจ

 

แม้ลู่หวันเปาจะไม่ทราบว่าฉินเฟิงต้องการแก่นพลังงานราชันย์สัตว์ร้ายไปทำอะไรตั้งมากมาย แต่ครึ่งเดือนที่ผ่านมา ตนสามารถทำกำไรได้มหาศาล ฉะนั้นช่างมันเถอะ

 

“จริงสิมิสเตอร์ฉิน เรื่องที่คุณขอให้ฉันขายขนจักรพรรดินกยูงเพลิงฟ้ามีคนสนใจแล้วนะ แต่เขาเสนอเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนแทน ไม่แน่ใจว่าคุณรับได้หรือเปล่า”

 

ลู่หวันเปากล่าว พลางนำอุปกรณ์สื่สารออกมา และปัดภาพส่งไปยังอุปกรณ์สื่อสารบนข้อมือของฉินเฟิง

 

ฉินเฟิงเพียงเหลือบมอง ก็อุทานอย่างคาดไม่ถึง “นี่มันเหล็กพระอาทิตย์?”

 

เจ้าสิ่งนี้ ก็เหมือนกับเหล็กดารา เพียงแต่มันครอบครองอบิลิตี้ไฟ ร้อนแรงอย่างหาที่ใดเปรียบ

 

ตราบใดละลายมัน แล้วนำไปหลอม เหล็กพระอาทิตย์สามารถใช้สร้างอาวุธเทวะได้ 

 

แต่กระนั้น ต้องไม่ลืมนะว่ามันคือสิ่งที่ไม่มีวันถูกทำลาย

 

อีกอย่าง หากคุณต้องการละลายเหล็กพระอาทิตย์เพื่อหลอมสร้างอาวุธเทวะ มันไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องใช้เงินมหาศาลเกินไป หลายคนไม่สามารถจ่ายได้

 

“ถูกเผง นี่คือเหล็กพระอาทิตย์ขนาด 2 กิโลกรัม มันไม่เล็กๆเลย แต่อีกฝ่ายต้องการใช้มันแลกกับขนนกยูงเพลิงฟ้าทั้งหมดของคุณ ซึ่งถ้าตีตามมูลค่าแล้ว … ”

 

ถือว่าไม่สมกัน เพราะหากต้องรวมในส่วนค่าใช้จ่ายที่ฉินเฟิงต้องใช้เพื่อสร้างอาวุธเทวะแล้ว ฉินเฟิงย่อมเป็นฝ่ายขาดทุน

 

อย่างไรก็ตาม ฉินเฟิงมีรูบิควิเศษอยู่ในครอบครอง

 

“ผมตกลงแลก” ฉินเฟิงกล่าว

 

“เข้าใจแล้ว ฉันจะติดต่ออีกฝ่ายไป ขอเวลาสักครึ่งชั่วโมง”

 

“ตกลง”

 

ฉินเฟิงกับไป๋หลีรออยู่ในห้อง VIP นั่งดูหนังที่ทางหวันซ่งจัดเตรียมเอาไว้ให้ ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายแต่อย่างใด

 

 

ในเวลาเดียวกัน ภายในสี่เมืองทะเลเหนือ ณ หมู่บ้านเล็กๆที่ดูเก่าแก่แห่งหนึ่ง สมาชิกตระกูลซงลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งหมดออกมายืนต้อนรับบรรพชนของพวกเขา

 

ผู้นำตระกูลซง , ผู้ใช้พลังเลเวล C –ซงจินควง

 

แม้บนหัวของซงจินควงจะเต็มไปด้วยผมสีเงิน ทว่า … ใบหน้าของเขากลับดูเยาว์วัยจนน่าประหลาดใจ 

 

อ่อนเยาว์เหลือเกิน ผิวหนังราวกับคนอายุแค่ 20 ปีเท่านั้น

 

นี่คือผลลัพธ์จากการสำเร็จเทคนิคโลหิตขั้นสูง สามารถกลับคืนสู่ช่วงวัยอันรุ่งโรจน์

 

แน่นอน เพราะเทคนิคนี้ ปริมาณเลือดที่ซงจินควงต้องดูดซับในแต่ละปี ย่อมมหาศาล

 

“ได้ตรวจสอบข่าวอย่างละเอียดรึยัง?” ซงจินควงเอ่ยแผ่วเบา

 

“ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วขอรับ!”อาวุโสสี่ซงหยูหมังก้าวเข้ามารายงาน

 

ภารกิจล่าในสันเขาถังซานหยุดลง เป็นธรรมดาที่ซงหยูหมังจะกลับมายังตระกูล และคอยดูแลจัดการสถานการณ์ทั่วไป

 

“ก่อนที่บลัดฮันเตอร์จะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาหวาดกลัวการแก้แค้นจากตระกูลซงของพวกเรา แต่ก่อนจะไม่มีข่าวของเขาอีกเลย บลัดฮันเตอร์ได้เทขายของทั้งหมดที่มีให้แก่ตลาดมืดแห่งหนึ่งในสามเฉิง และเจ้าของตลาดมืดแห่งนั้น …  

 

“—เรียกว่าฉินเฟิง!”

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset