โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 360

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.360 – การทดลองที่น่าหวาดกลัว  

 

 

 

 

 

“โบร๊ววว!”  

 

 

 

 

 

แรกเริ่มเป็นเสียงหอนของหมาป่า ต่อมาเป็นเสียงคำรามของเสือ สรรพสัตว์ต่างๆเริ่มดังสะท้อนไปทั่วปราการชาตง  

 

 

 

 

 

ขณะเดียวกัน ภายนอกเมือง กว่า 11 คนที่สวมเครื่องแบบชุดรบสีดำ แผ่กลิ่นอายราวหมอกนาออกมา กำลังเฝ้ามองไปยังปราการที่อยู่ท่ามกลางทะเลทรายทะเลเหนือ  

 

 

 

 

 

“ทำการปิดล้อมมิติ! ส่งสัญญาณรบกวนการสื่อสาร!”  

 

 

 

 

 

พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว  

 

 

 

 

 

ปราการชาตงถูกปิดตายในทันที  

 

 

 

 

 

ในชาตง ผู้ใช้พลังระดับสูงรู้สึกสับสนกับสถานการณ์ที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน สมาธิทั้งหมดเบนไปกับมัน เลยไม่ทันสังเกตเห็นสถานการณ์ภายนอก  

 

 

 

 

 

ในเวลาเดียวกัน ฉินเฟิงก็กลับออกมาจากสุสานเทพสงครามพอดี  

 

 

 

 

 

ทว่าเพียงเท้าแตะถึงพื้น เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมสูงทะลุเข้ามาจากผนังห้องถัดไป  

 

 

 

 

 

คิ้วของฉินเฟิงยับย่นเข้าหากัน ภายในอพาร์ตเมนต์ระดับสูงแห่งนี้ ผู้พักอาศัยล้วนเป็นเลเวล D ทว่าหนึ่งห้องจะมีหนึ่งลิฟต์เป็นของตัวเอง ดังนั้นฉินเฟิงเลยไม่ทราบว่าห้องข้างๆเป็นใคร  

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม เพียงได้ยินเสียงที่เสียดแทงเข้ามา เห็นได้ชัดว่ามันผิดปกติ  

 

 

 

 

 

แต่ไม่นาน เสียงกรีดร้องก็หยุดลง  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงกระจายพลังสมาธิออกไปอย่างรวดเร็ว ‘มอง’ ถึงฉากที่เกิดขึ้นเบื้องหลังบานประตูถัดไป  

 

 

 

 

 

และต้องประหลาดใจอย่างไม่คาดคิด ที่เบื้องหลังประตู กลับมีสัตว์ร้ายขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น  

 

 

 

 

 

แต่เอ … จะเรียกว่าสัตว์ร้ายก็คงจะไม่ถูกต้องนัก นั่นเพราะมันมีใบหน้าที่เหมือนกับมนุษย์ –ใบหน้านี้เหมือนจะเป็นมือปืนเลเวล D ที่ฉินเฟิงเคยเจอมาก่อน  

 

 

 

 

 

ปัจจุบัน ร่างกายของมือปืนเลเวล D ยังคงเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง มันโป่งพอง ขยายขนาด ใหญ่ขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ราวกับเค้าโครงรูปลักษณ์เดิมถูกบังคับให้สลายหายไป   

 

 

 

 

 

ยังไม่พอ บางส่วนที่ขยายออก อย่างสองมือและสองเท้า ก็เริ่มเ**่ยวย่นลง   

 

 

 

 

 

ตลอดทั้งกายเขาถูกปกคลุมไปด้วยฝอยขน กะโหลกศีรษะขยายใหญ่ ข้างปากมีงาช้างงอกออกมา   

 

 

 

 

 

รูปลักษณ์โดยรวมช่างแปลกประหลาด และน่าหวาดกลัว  

 

 

 

 

 

เมื่อแปรสภาพมาถึงจุดนี้ สิ่งมีชีวิตประหลาดห้องข้างๆฉินเฟิงก็กวาดงาของมัน แทงเข้าใส่สาวใช้ของตนจนตาย และเริ่มแทะกินเนื้อหนังศพอย่างเมามัน  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงคว้ามีดกษัตริย์ครามออกมาจากอุปกรณ์รูนมิติ เล็งไปยังผนังห้องข้างๆ จี้เข้าไป และวาดเป็นวง  

 

 

 

 

 

พริบตาเดียว ผนังก็ถูกตัดเป็นประตูทรงกลม ฉินเฟิงง้างเท้ายัน ถีบแผ่นคอนกรีตผสมเหล็กกล้าออกไป  

 

 

 

 

 

โครม!  

 

 

 

 

 

แผ่นคอนกรีตปลิวทับใส่หัวสัตว์ร้าย  

 

 

 

 

 

ในเวลานี้ รูปลักษณ์ของสัตว์ร้ายได้ถูกเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ ภาพอันคุ้นเคยสะท้อนเข้ามาในแววตาของเขา  

 

 

 

 

 

“นี่มันแมลงแมมมอธ!”  

 

 

 

 

 

ใช่แล้ว ฉินเฟิงรู้สึกว่ามันเหมือนกันมากจริงๆ  

 

 

 

 

 

“อย่าบอกนะว่าเขาถูกยึดร่างโดยแมลงปรสิต?”  

 

 

 

 

 

ไม่รั้งรอให้ฉินเฟิงคาดเดาไปมากกว่านี้ สิ่งมีชีวิตอันน่าหวาดกลัวที่เหมือนกับแมลงแมมมอธ ดีดตัวพุ่งเข้าหาฉินเฟิง ไม่ใช่ว่ามันปฏิบัติต่อฉินเฟิงในฐานะศัตรู แต่เป็นอาหาร!  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงรู้ดี เกรงว่าเขาจะช่วยคนๆนี้กลับมาไม่ได้แล้ว ในเมื่อเป็นแบบนั้น สู่ฆ่าทิ้งให้หมดทุกข์ไปจะดีกว่า  

 

 

 

 

 

มีดกษัตริย์ครามโบกสะบัด  

 

 

 

 

 

ฉัวะ!  

 

 

 

 

 

เนื้อก้อนใหญ่ถูกเฉือนโดยฉินเฟิง  

 

 

 

 

 

แมลงแมมมอธกรีดร้องน่าสังเวช ทว่าท่าทีของมันกลับดูดุร้ายยิ่งขึ้น  

 

 

 

 

 

โครม!  

 

 

 

 

 

ผนังห้องฝั่งหนึ่งถูกชนจนพังครืนลงโดยแมลงแมมมอธ   

 

 

 

 

 

แมลงแมมมอธตัวนี้ ครอบครองประสิทธิภาพในการต่อสู้ที่น่าทึ่ง –ความแข็งแกร่งของมันเป็นถึงเลเวล D2 ระดับนายพล  

 

 

 

 

 

แมลงปรสิตที่เข้าไป …. สามารถเพิ่มกำลังรบได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ?  

 

 

 

 

 

เนื่องจากสถานที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้เคลื่อนไหวได้ค่อนข้างลำบาก แมลงแมมมอธขยับเพียงเล็กน้อยก็สามารถยกเท้าและทิ้งแรงลงเหยียบฉินเฟิง โต๊ะที่จัดวางไว้ด้วยอาคารค่ำสุดหรูหราถูกบดขยี้ไม่เหลือซาก  

 

 

 

 

 

และมันไม่มีที่ใดให้ฉินเฟิงหลบได้เลย  

 

 

 

 

 

แต่แน่นอน ฉินเฟิงไม่คิดหลบเลี่ยงอยู่แล้ว  

 

 

 

 

 

ทั้งคนทั้งร่างของเขาวูบไหว มีดกษัตริย์ครามพุ่งเป็นเส้นแสง ผ่านฝ่าเท้าที่กำลังเหยียบย่ำ แทงทะลุเข้ากลางลำตัวแมลงแมมมอธ  

 

 

 

 

 

พรวดดด!  

 

 

 

 

 

เลือดร้อนๆสีแดงสดทะลักออกมา ยามสัมผัสโดนตัว ฉินเฟิงรู้สึกราวกับแสบไหม้  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงโบกสะบัดคมมีดครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งแทงทั้งสับแมลงแมมมอธ  

 

 

 

 

 

ปุ ปุ ปุ …  

 

 

 

 

 

เนื้อหนังตามลำตัวของมันถูกแหวกออก เลือดเอ่อล้นออกมา ฉินเฟิงฟันลึกเข้าไปเรื่อยๆจนคล้ายกับว่าใบมีดจะกระแทกเข้ากับแกนกลางภายในตัวมัน ทันใดนั้นคลื่นความผันผวนก็ถูกส่งออกมาทันที  

 

 

 

 

 

ตูม!  

 

 

 

 

 

แรงระเบิดทำลายล้างทุกสิ่งอย่างรอบตัว รื้อถอนเฟอร์นิเจอร์หายไปจนหมดสิ้น ทั้งห้องของมือปืน ทั้งห้องฉินเฟิงพังพินาศไม่มีชิ้นดี  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงจมอยู่ใต้ซากปรักหักพังของตัวอาคาร  

 

 

 

 

 

ปัง!  

 

 

 

 

 

เศษอิฐเศษปูนกวาดกระจายอีกครั้ง ฉินเฟิงโผล่ออกมาในสภาพที่ทั้งร่างถูกห่อหุ้มไว้ด้วยปราณกำลังภายในของเขา  

 

 

 

 

 

ทว่าพอเงยหน้าขึ้น สีหน้าของฉินเฟิงก็พลันกลายเป็นซีดเซียว  

 

 

 

 

 

มองออกไปภายนอกหน้าต่าง แทบทั้งเมืองราวกับมีฝูงสัตว์ร้ายกำลังร่ายระบำ บ้างสู้ บ้างกรีดร้อง บ้างทำลายอาคารอย่างต่อเนื่อง บ้างก็คืบคลานออกมาจากซากปรักหักพัง  

 

 

 

 

 

แต่นับว่าโชคยังดี ที่มิใช่ทุกคนจะเป็นเช่นนั้น  

 

 

 

 

 

ร่างเงาของบุคคลหนึ่งสะท้อนเข้ามาจากเบื้องหลัง ฉินเฟิงหันขวับ ตั้งท่าเตรียมสู้ แต่พบว่าเป็นเฉินเซี่ยง  

 

 

 

 

 

เวลานี้เฉินเซี่ยงก็เห็นฉินเฟิงแล้วเช่นกัน เขาอดประหลาดใจไม่ได้  

 

 

 

 

 

“น้องฉิน มิสไป๋กับนายยังโอเคไหม?” เฉินเซี่ยงเหมือนว่ากำลังหนีอะไรบางอย่าง เขาคอยสร้างกำแพงดินตามรายทาง ที่บินผ่านมาตลอดเวลา  

 

 

 

 

 

“พี่เฉิน นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?” ฉินเฟิงถามเสียงหม่น  

 

 

 

 

 

เฉินเซี่ยงกลายเป็นไร้หนทาง “นายถามฉัน อยากจะบอกว่าฉันเองก็อยากถามนายเหมือนกัน!”  

 

 

 

 

 

“ผมเองก็ไม่รู้ แต่คิดว่านี่น่าจะเกิดจากฝีมือของแมลงปรสิต”  

 

 

 

 

 

“นั่นเป็นไปไม่ได้!” เฉินเซี่ยงเหมือนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กำแพงดินกลับถูกทำลายลงเสียก่อน  

 

 

 

 

 

ปัง!  

 

 

 

 

 

กำแพงดินล้มครืน ร่างใหญ่โตที่มีความสูงกว่า 3 เมตร ปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา  

 

 

 

 

 

ปรากฏร่างที่ครอบครองกล้ามเนื้อแข็งแกร่งเป็นมัดๆ ขนทั้งตัวเป็นสีดำ เห็นได้ชัดว่านี่คือรูปลักษณ์ของกอริลลา  

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม บนใบหน้าของมันมิได้มีขนปกคลุม ฉะนั้นสามารถระบุได้ในทันทีว่าบุคคลคนนี้คือใคร  

 

 

 

 

 

“เกาลี่!”  

 

 

 

 

 

ที่แท้สิ่งมีชีวิตประหลาดตัวนี้ก็คือสหายของเฉินเซี่ยง!  

 

 

 

 

 

‘แมลงปรสิต’เป็นอะไรที่เลวร้ายเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ผู้ใช้พลังเลเวล D ห้องข้างๆฉินเฟิงเองก็กลายพันธุ์เป็นแมลงสัตว์ร้ายตัวใหญ่ นั่นคือเหตุผลที่ฉินเฟิงคิดว่านี่คือฝีมือของปรสิต  

 

 

 

 

 

แต่ตอนนี้ พอได้มองสภาพของเกาลี่ เห็นได้ชัดว่ามิใช่เช่นนั้น  

 

 

 

 

 

ความแข็งแกร่งของเกาลี่พุ่งทะยานขึ้นหลายเท่า เฉินเซี่ยงจึงไม่สามารถรับมือกับเขาได้ในตอนนี้  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงชักมีดออกมา ก้าวไปข้างหน้า โจมตีใส่เกาลี่  

 

 

 

 

 

“ฉินเฟิง อย่าฆ่าเขา!”  

 

 

 

 

 

เฉินเซี่ยงร้องตะโกน เอ่ยเตือนออกไป  

 

 

 

 

 

มือที่กุมมีดของฉินเฟิงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะหดกลับคืน และใช้แขนอีกข้างซัดฝ่ามือออกไป กำลังภายในถูกเร่งเร้า เจิดจรัสไปด้วยประกายแสงสีทอง  

 

 

 

 

 

“มังกรตะปบ!”  

 

 

 

 

 

สภาพของเกาลี่กลายเป็นกอริลลา ดังนั้นไม่รู้วิธีใช้กำลังภายใน เมื่อต้องเผชิญกับกระบวนท่าวรยุทธของฉินเฟิง มือเปล่าของเกาลี่ก็ยากจะทานรับไหว  

 

 

 

 

 

กร๊อบ!  

 

 

 

 

 

แขนมัดกล้ามอันทรงพลังข้างหนึ่งของเกาลี่ กระดูกหักทันที  

 

 

 

 

 

“จัดไปอีกดอก!”  

 

 

 

 

 

กำลังภายในของฉินเฟิงปะทุโหม กระพริบไหวไปเบื้องหลังเกาลี่ ฟาดฝ่ามือลงแขนอีกข้างตรงสะบักไหล่ของคู่ต่อสู้  

 

 

 

 

 

ปัง!  

 

 

 

 

 

เกาลี่ถูกแรงปะทะผลักไปข้างหน้า ร่วงกลิ้งไถลไปกับพื้นดินกว่า 10 เมตรถึงจะหยุดลง  

 

 

 

 

 

เวลานี้กระดูกบนแขนทั้งสองข้างของเขาหัก หรืออาจเรียกได้ว่าแตกละเอียด  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงโฉบกายเข้าคว้าชัยชนะของเขา  

 

 

 

 

 

เป๊าะ เป๊าะ!  

 

 

 

 

 

ย่ำเท้าที่อัดแน่นไปด้วยกำลังภายในลงบนสองขาของเกาลี่  

 

 

 

 

 

“โฮฮฮฮฮ” เกาลี่ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด  

 

 

 

 

 

สองตาแดงฉานของเขาถลึงมองมายังฉินเฟิงไม่ยอมลดละ บ้าคลั่งจนฉุดไม่อยู่  

 

 

 

 

 

“เขาเสียสติไปแล้วหรือ?” เฉินเซี่ยงมองไปยังการแสดงออกของเกาลี่ ไม่ทราบว่าสมควรทำเช่นไรดี  

 

 

 

 

 

แต่ในเวลานั้นเอง จากในตึกใหญ่อีกหลังหนึ่ง สิ่งมีชีวิตประหลาด ครึ่งคนครึ่งสัตว์อีกนับไม่ถ้วนได้เริ่มคืบคลานออกมา  

 

 

 

 

 

มองไปยังกลุ่มสิ่งมีชีวิตประหลาดที่ปรากฏตัวขึ้น คราวนี้ฉินเฟิงกับเฉินเซี่ยงตกใจอย่างแท้จริง  

 

 

 

 

 

ดวงตาของพวกมันเป็นสีแดงฉาน   

 

 

 

 

 

แม้จะมองเห็นมนุษย์ในสายตา แต่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้คล้ายกับมีความรู้สึกว่าพวกมันกับคนตรงหน้ามิได้เป็นเผ่าพันธุ์เดียวกัน ดังนั้นทั้งหมดต้องถูกสังหาร!  

 

 

 

 

 

“ก๊าซซซซซ”  

 

 

 

 

 

มนุษย์หมาป่าเหยียดหลังตรงและพุ่งชาร์จเข้ามา  

 

 

 

 

 

ครั้งนี้ฉินเฟิงไม่ลังเลเลยที่จะใช้มีดตนตวัดออกไป  

 

 

 

 

 

ฉัวะ!  

 

 

 

 

 

มนษย์หมาป่าจบชีวิตลงทันที อย่างไรก็ตาม นี่มันเป็นแค่รูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่มีความแข็งแกร่งในเลเวล G เท่านั้น มิอาจต่อกรกับฉินเฟิงได้  

 

 

 

 

 

เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ฉินเฟิงก็กระจ่างในที่สุด  

 

 

 

 

 

“คนพวกนี้ ทั้งหมดได้กลายเป็นร่างทดลองมนุษย์กลายพันธุ์ไปแล้ว!” ฉินเฟิงกัดฟันกล่าว  

 

 

 

 

 

“ว่ายังไงนะ!” เฉินเซี่ยงไม่อยากจะเชื่อ เหลียวมองไปรอบๆ สภาพแวดล้อมพลิกผันกลายเป็นนรกภูมิ ในแววตาบังเกิดความสับสน “นี่มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน!!”   

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset