โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 416

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.416 – โอกาส

 

ด้วยเหตุนี้ ทางฝั่งเผ่ากริมจึงตัดสินใจหยุดฝีเท้า ตัดสินใจตั้งค่ายปักหลัก

 

โดยที่ไม่ทราบเลย ว่าพวกตนได้บุกเข้ามาถึงอาณาเขตของสถานชุมชนหลงฉวนที่ 3 และตกอยู่ในวิสัยทัศน์ของผู้คนแล้ว

 

ส่วนเล่ยหยิง แม้กำลังรักษาตัว แต่เมื่อตระหนักถึงความเร็วในการตราทัพของเผ่ากริม ก็จำต้องออกมาปักหลักในแนวหน้า

 

ฉินเฟิงก้มมองลงบนแผนที่ เฝ้าดูเผ่ากริมหยุดพักและเริ่มตั้งรกราก รวมกลุ่มกันผ่าท้องสัตว์ร้ายที่ล่ามาได้ และสวาปามอวัยวะภายในอย่างเมามัน

 

“จังหวะนี้แหละ!”

 

ฉินเฟิงเมื่อเห็นฉากนี้ ก็ตระหนักได้ทันที ว่านี่คือโอกาสทอง!

 

“พลปืน เตรียมกระสุนปืนใหญ่ระดับสูงสุดไว้ให้พร้อม แล้วมาด้วยกันกับผม”

 

สมาชิกกองทหารรับจ้างเฟิงหลี ทั้งหมดเริ่มตื่นตัวทันที

 

กว่าสิบมือปืน และห้าผู้ใช้อบิลิตี้ติดตามฉินเฟิง ท่ามกลางความมืดมิด และภายใต้อบิลิตี้มืดของฉินเฟิง กระทั่งผู้ใช้พลังในเมือง ก็ยังไม่อาจตระหนักถึงการเคลื่อนไหวของพวกเขา

 

ไม่นาน ทั้งหมดก็มาถึงเนินลาดชัน ตรงจุดนี้ห่างจากค่ายชั่วคราวของเผ่ากริม ระยะทางน่าจะสักราวๆ 5,000 เมตร

 

สำหรับฉินเฟิง นี่คือระยะห่างสูงสุดที่ตนสามารถใช้โอบกอดทมิฬในการปกคลุมกระสุนปืนใหญ่ได้

 

“ตั้งป้อมปืนใหญ่เร็วเข้า” ฉินเฟิงห่อเสียงด้วยกำลังภายใน ส่งคำสั่งออกไปอย่างรวดเร็ว

 

มือปืนและผู้ใช้อบิลิตี้ตั้งป้อมของตนเอง มีทั้งสิ้น 15 ป้อม

 

อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่าจำนวนเท่านี้ ยังไม่เพียงพอ

 

ฉินเฟิงสั่งไป๋หลี เธอวาดมือออก เรียกป้อมปืนใหญ่เพิ่มขึ้นมาอีก รวมทั้งสิ้นเป็น 20 ป้อม

 

และกระสุนที่ใช้ในแต่ละป้อม มีมูลค่านัดละ 10,000 ล้าน

 

แน่นอน ฉินเฟิงมิได้ซื้อกระสุนเหล่านี้ แต่มันคือกระสุนที่ได้มาฟรีๆจากในช่วงกวาดล้างตระกูลซง ซึ่งฉินเฟิงพกติดตัวมาด้วย

 

และตั้งแต่ที่เริ่มวางแผนโจมตีเผ่ากริม ฉินเฟิงก็พกป้อมปืนใหญ่เก็บไว้ในพื้นที่มิติตลอดเวลา

 

“อีกสักพัก หลังจากยิงกระสุนปืนใหญ่แล้ว ขอให้พวกคุณเข้าช่องว่างมิติ รีบกลับไปสมทบกับคนอื่นๆในสถานชุมชนที่ 3 ทันที”

 

“ส่วนป้อมปืนใหญ่ของพวกคุณ ผมจะเอากลับไปให้เอง ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาแยกชิ้นส่วน ยิงเสร็จก็จากไปได้เลย”

 

“เตรียมตัวให้พร้อม แล้วรอสัญญาณจากผม”

 

ฝูงชนพยักหน้าอย่างเงียบๆ

 

ฉินเฟิงปรับองศาป้อมปืนทั้งห้าที่เหลือด้วยตัวเอง จากนั้น พลังสมาธิก็พลันระเบิดขึ้น

 

“ยิงได้!”

 

ผู้ใช้พลังเบื้องหลังป้อมปืนใหญ่ ทั้งหมดกระแทกมือลงบนสวิตช์แทบจะในเวลาเดียวกัน

 

หวือ หวือ หวือ หวือ หวือ!

 

ฉากเบื้องหน้า ช่างเป็นทัศนียภาพที่งดงามอย่างหาที่ใดเปรียบ พลังสมาธิของฉินเฟิงห่อหุ้มห่ากระสุนปืนใหญ่ทันที ทั้งยังเสริมรูนมืดเข้าไป เพื่อบดบังมันจากสายตาของผู้คน

 

 

ในจุดที่ห่างออกไปจากสถานชุมชนที่ 3

 

“ดูเหมือนว่าวันนี้พวกเผ่าพันธุ์พื้นเมือง คงไม่คิดลอบบุกโจมตีอีกแล้ว”

 

“พวกเราเพิ่งกำราบหน่วยลอบโจมตีของพวกมันไป ฉะนั้นวันนี้ไม่น่ามาแล้วกระมัง … ”

 

“ช้าก่อน พวกเจ้าลองตั้งใจฟังดีๆ ได้ยินเสียงหึ่งๆอะไรไหม?”

 

“นี่มัน … ”

 

ฝูงกริมผงะตกใจ

 

เสียงนี้พวกมันจะไม่คุ้นเคยได้อย่างไร –นี่คือเสียงแหวกอากาศที่เกิดจากกระสุนปืนใหญ่แล่นผ่าน!

 

แม้คุณจะกลบซ่อนเสียงกระสุนได้ แต่ถ้าเป็นเสียงลมเล็กๆน้อยๆ ที่เกิดจากมัน ยากนักที่จะกลบซ่อน หากเป็นคนที่เคยได้ยิน ย่อมตระหนักถึงมันได้ในทันที

 

ต่อมา ท่ามกลางความมืดมิด เหล่ากริมก็เริ่มเห็นถึงแสงเงาจางๆที่กำลังวูบไหวตัดผ่านอากาศ

 

อย่างไรก็ตาม แม้พวกมันจะเป็นถึงผู้ใช้พลังเลเวล C แต่กลับไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

 

–ภายใต้โอบกอดทมิฬ ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใด ก็มิอาจมองเห็นสิ่งที่อยู่เบื้องหลังมันแบบเฉพาะเจาะจงได้!

 

จะมีก็แค่เสียง ที่ไม่สามารถปกปิดได้

 

ยังไงก็ตาม เสียงจะปรากฏขึ้นในระยะใกล้เท่านั้น รู้สึกตัวอีกที กระสุนก็อยู่ในระยะ 100 เมตรแล้ว!

 

ต่อผม เหล่ากริมก็ได้พบพานกับฉากอันน่าสะพรึง

 

บรึ้มมมมมมมมม!

 

ในพิสัยกว่า 1 กิโลเมตร ปรากฏคลื่นอัดจากพลังงานกวาดกระจายเป็นวงกว้าง 

 

โดยมีตำแหน่งใจกลางเป็นจุดที่ฝูงกริมกำลังรวมตัวกันแทะเล็มอาหารอยู่

 

อ้างอิงตามระดับคลื่นกระแทก และเสียงจากแรงระเบิด คาดว่าอย่างน้อยคงเกิดจากกระสุนปืนใหญ่มากกว่า 20 ลูก!

 

“เป็นใครกัน ที่ลงมือให้โหดเหี้ยมแบบนี้!”

 

“บ้าจริง เผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาคงไม่ถูกเขาเก็บไปหมดคนเดียวเลยหรอกนะ”

 

“ไอ้หมอนี่ … ให้ตายเหอะ รีบไปกันเร็วเข้า!”

 

เหล่าผู้ใช้พลังในสถานชุมชน ในหัวใจต่างตะโกนเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘ถล่มมารดามันเถอะ’

 

ไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าหมอนั่นมันเป็นใคร แต่ขอยอมรับเลยว่ามันคว้าโอกาสทองอันยอดเยี่ยมได้เป็นอย่างดี!

 

ไม่ใช่ว่าพวกผู้ใช้พลังเหล่านี้จะไม่รู้ถึงเรื่องที่อานุภาพของกระสุนปืนใหญ่สามารกำราบฝูงเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาได้ แต่พวกเขากลับไม่กล้าที่จะลงมือทำ

 

เพราะเล่ยหยิงเพิ่งกลับมาพร้อมความพ่ายแพ้ ได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่

 

ดังนั้นลึกๆในจิตใต้สำนึก เลยไม่มีใครต้องการเผชิญหน้ากับเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญานี้ และหวังให้เรื่องดังกล่าว ทั้งหมดเป็นภาระของผู้ใช้พลังเลเวล B

 

แต่จู่ๆกลับมีคนหนึ่งชิงลงมือ!

 

และมันไม่ใช่แค่การถล่มโจมตีเล็กๆ ตรงกันข้าม คาดว่าการเปิดฉากโจมตีในครั้งนี้ เพียงครั้งเดียว อาจสามารถทำลายฝูงกริมกลุ่มใหญ่ ลากลงสู่ความตาย!

 

ขณะเดียวกัน ทางฝั่งฉินเฟิง เขาให้ไป๋หลีใช้อุปกรณ์รูนมิติหลายชิ้น ทำการเปิดช่องว่างมิติ

 

ผู้ใช้พลังทั้ง 15 คนต่างรู้สึกตื่นเต้น ก่อนกลับยังมิวายเหลียวมองไปยังตำแหน่งที่พวกตนยิงไป

 

ภายในวันเดียว พวกเขาสามารถทำผลงานอันยอดเยี่ยม ประสบความสำเร็จครั้งใหญ่ได้อย่างกะทันหัน!

 

แน่นอน ผู้ที่สร้างอานุภาพทำลายได้มากที่สุดในการสาดกระสุนปืนใหญ่ครั้งนี้ คือฉินเฟิง!

 

เพราะท้ายที่สุดแล้ว เป็นฉินเฟิงคนเดียวที่ควบคุมปืนใหญ่กว่าห้าป้อม สามารถก่อแรงระเบิดทำลายมหาศาล สำแดงผลลัพธ์อันน่าทึ่ง

 

สมาชิกทุกคนกลับไปแล้ว แต่ภารกิจของฉินเฟิง แน่นอนว่ายังไม่สิ้นสุดลง

 

เพราะเขาต้องบุกตรงเข้าไปยังค่ายของกริม เพื่อตรวจสอบผลลัพธ์ของตนเองในครั้งนี้

 

ไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่ต้องนำแก่นพลังงานกลับมา

 

“ไปกันเถอะ”

 

ไป๋หลีเฝ้ามองสมาชิกทุกคนจนจากไป คว้ามือฉินเฟิง

 

วินาทีต่อมา ประกายแสงสีเงินกระพริบไหว ฉินเฟิงปรากฏขึ้นอีกครั้งในระยะห่างออกมาหลายพันเมตร!

 

วู้มมม!

 

แสงและเงาวูบผ่านเข้ามาในสายตาของเขาและเธอ ตามมาติดๆด้วยคลื่นความร้อนจากแรงระเบิดทำลาย

 

สภาพแวดล้อมโดยรอบ เอ่อล้นไปด้วยคลื่นพลังงานอันบ้าคลั่ง

 

ผลปรากฏว่า ภายใต้อานุภาพของกระสุนปืนใหญ่ ประชากรเผ่ากริมในปัจจุบัน กลิ่นอายของพวกมันเหือดหายไป สัมผัสได้เพียงครึ่งเท่านั้น

 

หรือกล่าวอีกนัยนึงก็คือ กองทัพเผ่ากริมที่ยังรอดชีวิตในปัจจุบัน เหลือแค่ครึ่งเดียว!

 

แค่ 3,000 ตน!

 

ยิ่งไปกว่านั้น พวกที่ยังเหลือรอด ต่างได้รับบาดเจ็บกันถ้วนหน้า

 

“ฆ่า!”

 

ฉินเฟิงชักมีดษัตริย์คราม พร้อมระเบิดอบิลิตี้ที่รุนแรงและเหมาะสมที่สุดกับสถานการณ์ออกมา

 

“แมกมาโลกันต์!”

 

ในรัศมี 100 เมตร เพลิงหนืดอันน่าหวาดหวั่นผุดขึ้นมาจากผืนดิน

 

เหล่ากริมที่ถูกแรงระเบิดจนปีกด้านชา มิอาจโบยบินได้ชั่วคราว ต่างพากันตื่นตระหนกเมื่อพบว่าพื้นที่แต่เดิมควรแข็ง กลายเป็นเหลว แปรสภาพเป็นลาวาร้อน!

 

เกิดเสียงกรีดร้องระงม

 

“อ๊าาาาาา”

 

“ไม่ ข้ายังไม่อยากตาย!”

 

“ช่วยด้วย!”

 

แต่น่าเสียดาย คนอื่นยังเอาตัวเองไม่รอด จะไปมีเวลามาช่วยเหลือกันได้อย่างไร?

 

ขณะเดียวกัน กริมหลายตนที่ปีกกลับมาใช้งานได้ ก็เริ่มบินหนีขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที

 

“สายฝนแห่งความตาย!”

 

เมฆทะมึนก่อตัวขึ้นบนชั้นฟ้า ต่อมา ฝนสีดำเริ่มโปรยปราย ยามเมื่อกระทบลงบนร่างเผ่ากริม พลันสำแดงฤทธิ์กัดกร่อน ละลายเนื้อหนังเป็นหลุมบ่อทันที

 

ทุกกระบวนท่าของฉินเฟิงราวกับการถือกำเนิดของหายนะ!

 

“หนี รีบหนีกันเร็ว!”

 

กองทัพกริมแตกกระเจิงโดยสมบูรณ์

 

เวลานี้ พวกมันไม่ต้องการค่ายอีกต่อไปแล้ว กระเจิดกระเจิงไปทุกทิศทาง

 

ฉินเฟิงไล่ติดตามอย่างบ้าคลั่ง

 

อย่างไรก็ตาม อาศัยกำลังของเขาเพียงคนเดียว ย่อมมีจำกัด สามารถสังหารได้แค่บางตนที่ใกล้ตายเท่านั้น

 

ถึงกระนั้น ภายในพื้นที่มิติของฉินเฟิง ปัจจุบันสามารถรวบรวมแก่นพลังงานได้มากกว่า 3,500 ชิ้น!

 

ภายในค่ายชั่วคราวของเผ่ากริม กริมตนใดที่โดนสังหาร ทั้งหมดล้วนถูกพรากสินสงครามไปโดยฉินเฟิง

 

ในระหว่างนั้น เจ้าตัวพบว่าเขาสามารถรวบรวมเอาอุปกรณ์รูนมิติมาได้บางส่วน ตอนแรกรู้สึกแปลกใจ แต่เมื่อคิดดูดีๆ อุปกรณ์พวกนี้คงไม่พ้นเป็นของเล่ยหยิงและพรรคพวก

 

ในจังหวะนั้นเอง บนท้องฟ้า เริ่มปรากฏถึงแรงเสียดสีของอากาศ

 

สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไป

 

“ไอ้พวกไร้สมองจอมละโมบ!”

 

สามารถได้ยินอย่างชัดเจน ว่านี่คือเสียงของกระสุนปืนใหญ่ ที่กำลังแหวกอากาศตรงเข้ามากลางค่ายกริม!

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset