โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 – ตอนที่ 525 – กลัวอะไร?

Ep.525 – กลัวอะไร?  

 

 

 

 

 

“ไป๋หลี ตอนนี้แหละ ลงมือได้”  

 

 

 

 

 

“ไม่มีปัญหา ไว้ใจฉันได้เลย!”  

 

 

 

 

 

คราวนี้ไป๋หลีไม่ได้นำแส้มิติออกมา เพราะในถ้ำลึก ไม่มีโดรนคอยสอดส่องแล้ว  

 

 

 

 

 

อาวุธสำหรับเธอ อันที่จริงมันคือภาระ มีหน้าที่เพียงปกปิดพลังเท่านั้น   

 

 

 

 

 

วินาทีต่อมา แสงสีเงินสว่างไสวพลันสาดออกจากร่างของไป๋หลี  

 

 

 

 

 

ผมยาวสีเงินปลิวไสว ทั้งๆที่ไร้สายลมนำพา คู่ดวงตาเปล่งประกายสดใส  

 

 

 

 

 

ตามขอบรอยแยกมิติสีดำสนิทเบื้องหน้า เริ่มปรากฏอักษรรูนสีเงิน จากนั้น ก็ค่อยๆขยับหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง  

 

 

 

 

 

สภาพภูเขาที่ถูกกลืนหายไปเพราะรอยแยกมิติ เปิดเผยออกมา ทว่าไม่มีวี่แววจะพังทลาย แต่ฉินเฟิงก็ไม่ใส่ใจ เขามุ่งสมาธิเฝ้ามองรอยแยกมิติอย่างระแวดระวัง เพื่อป้องกันไม่ให้อบิลิตี้ของไป๋หลีเกิดปัญหา  

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อหวาดกลัวสิ่งใด สิ่งนั้นย่อมมาเยือน!  

 

 

 

 

 

ณ ใจกลางของรอยแยกมิติ ขณะที่อบิลิตี้ของไป๋หลีเริ่มหดขนาดของมันให้เล็กลง จนเหลือความกว้างเพียง 300 เมตร  

 

 

 

 

 

ในเวลานั้นเอง เสียงร้องคำรามเกรี้ยวกราด พลันดังสะท้อนออกมา  

 

 

 

 

 

และเสียงคำรามนี้ มาพร้อมกับกลิ่นอายอันแสนคุ้นเคย ศีรษะของสิ่งมีชีวิตหนึ่งค่อยๆผลุบออกมา  

 

 

 

 

 

ไม่คาดคิดเลย ว่ามันจะเป็นสัตว์ร้ายมังกรไฟอีกตัว!  

 

 

 

 

 

แต่กลิ่นอายที่สัตว์ร้ายมังกรไฟตัวนี้ปลดปล่อย ดันเป็นการดำรงอยู่ระดับจักรพรรดิ!  

 

 

 

 

 

จักพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล B2 !  

 

 

 

 

 

เมื่อเทียบกับฉินเฟิงแล้ว เลเวลของมันสูงกว่าเขา 10 ขั้น!  

 

 

 

 

 

เมื่อตัวตนอันน่าสะพรึงผลุบออกมา ฉินเฟิงตื่นตัว ตอบสนองทันที  

 

 

 

 

 

“ไป๋หลี หยุดก่อน รีบหลบเร็ว!” ฉินเฟิงตะโกน  

 

 

 

 

 

ทว่าไป๋หลีกลับไม่ทำตามคำสั่งเขา สีหน้าของเธอกลายเป็นหนักอึ้ง  

 

 

 

 

 

“ไม่ได้ ฉันหยุดมือตอนนี้ไม่ได้”  

 

 

 

 

 

หากยกเลิกอบิลิตี้อย่างกะทันหัน รอยแยกมิติแห่งนี้ ความเสถียรที่น้อยอยู่แล้วของมัน อาจลดต่ำลงยิ่งกว่าเดิม ถึงเวลานั้น ไม่เพียงแต่มันจะไม่หดเล็กลง แต่จะยิ่งทนทานแข็งแกร่งขึ้น ไม่แน่บางทีอาจขยายรอยปริร้าวออกไปถึงพันเมตรเลยก็เป็นได้  

 

 

 

 

 

ช่วงเวลานี้ หัวของมังกรไฟเริ่มยืดออกมา ขนาดของมันมีเส้นผ่านศูนย์กลางมากถึง 50 เมตร คุณสามารถลองจินตนาการดูได้ ว่าร่างกายที่ยังไม่โผล่มาของมัน ใหญ่โตขนาดไหน!  

 

 

 

 

 

เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์ร้ายทรงอำนาจเช่นนี้ ฉินเฟิงไม่ต่างจากไปจากมด–  

 

 

 

 

 

–ที่เล็กจ้อยและอ่อนแอ!  

 

 

 

 

 

“ให้ตายเถอะ ฉันจัดการเอง!”  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงรู้ว่าไป๋หลีไม่อาจถูกรบกวนได้ ดังนั้นแม้ต้องสู้อย่างหมดหวังก็ต้องทำ เขาสั่งการกองทัพแห่งความตายทั้งหมด บุกไปในคราวเดียว  

 

 

 

 

 

“กรรร!”  

 

 

 

 

 

สัตว์ร้ายมังกรไฟคำรามเกรี้ยวกราด มันอ้าปากและพ่นเปลวไฟออกมา  

 

 

 

 

 

เปลวไฟนี้ ไม่ต่างไปจากลาวาที่กำลังลุกไหม้ เพียงสัมผัส หุ่นเชิดแห่งความตายก็สลายหายไปทันที  

 

 

 

 

 

และคลื่นลาวายังยิงออกมาได้ไกลถึง 100 เมตร ตรงมาทางร่างของไป๋หลี  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงก้าวสะอึกไปข้างหน้า ยืนหยัดบดบังไป๋หลี รูนไฟพรั่งพรูจากมือเขา  

 

 

 

 

 

“โล่เปลวเพลิง!”  

 

 

 

 

 

ในพริบตา โล่เปลวเพลิงขนาดใหญ่สูงกว่าสามเมตร ผุดขึ้นเบื้องหน้าฉินเฟิง คลื่นลาวากระแทกเข้าใส่โล่ ก่อนแยกแตกเป็นสองทิศทาง ส่งคลื่นไอร้อนกระจายออกไป  

 

 

 

 

 

บรรยากาศร้อนลวกจากมัน แม้มิได้สัมผัสโดยตรง แต่ก็แผดเผาจนเส้นผมของฉินเฟิงหงิกงอ  

 

 

 

 

 

ต้องทราบนะว่า ระหว่างนี้ ฉินเฟิงได้ปลดปล่อยปราณกำลังภายในออกมาปกคลุมตัวอยู่ก่อนแล้ว ทว่าก็ยังไม่อาจป้องกันไอร้อนจากมันได้อย่างสมบูรณ์ ท่านสามารถจินตนาการดูได้ ว่าจักรพรรดิมังกรไฟตัวนี้ น่าหวาดกลัวขนาดไหน  

 

 

 

 

 

“เทคนิคมังกรไฟ!”  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงวาดมือ ลองทดสอบระเบิดเทคนิคมังกรไฟ ปลดปล่อยมันว่ายทวนกระแสลาวา ชั่วพริบตาเดียวก็สามารถเข้าถึงตำแหน่งของศัตรู   

 

 

 

 

 

ทว่าผลลัพธ์ที่ตามมา มังกรไฟกระแทกเข้าใส่เกล็ดของอีกฝ่าย แต่กลับไร้ปฏิกิริยา มิอาจสร้างความเสียหายใดๆได้เลย  

 

 

 

 

 

เกล็ดสีเพลิงอันร้อนแรงของมัน ยังคงราบเรียบ ไร้ซึ่งร่องรอยขีดข่วนใดๆ  

 

 

 

 

 

จักรพรรดิมังกรไฟโคลงศีรษะอันใหญ่โต เบนสายตามาจับจ้อง ‘แมลง’ อย่างฉินเฟิง  

 

 

 

 

 

แค่เฉพาะดวงตาของมัน ก็ใหญ่กว่าร่างกายของฉินเฟิงแล้ว ภายในสายตาของมัน คล้ายสะท้อนถึงความเวทนาออกมา  

 

 

 

 

 

นั่นเพราะ การปลดปล่อยอบิลิตี้ไฟต่อหน้ามัน มิเท่ากับเป็นการร่ายรำง้าวเขี้ยวมังกร อวดโอ้ต่อหน้าเจ้าของที่แท้จริงอย่างเทพกวนอูหรอกหรือ?  

 

 

 

 

 

“ไม่ได้ผล?”  

 

 

 

 

 

เมื่อครู่เป็นเพียงการทดสอบของฉินเฟิงเท่านั้น และข้อมูลที่ได้ก็คือ อบิลิตี้ไฟมิอาจใช้เล่นงานมันได้อย่างสิ้นเชิง  

 

 

 

 

 

จักรพรรดิสัตว์ร้ายตัวนี้ ความจริงแล้ว หากให้ไป๋หลีลงมือ ปิดมิติเฉพาะส่วนหัวของมันลง ตัดแยกออกจากอีกมิติหนึ่งก็จบแล้ว ทว่าตอนนี้ เธอมือไม่ว่าง ฉะนั้นมันคงเป็นไปไม่ได้  

 

 

 

 

 

ขณะขบคิดหนทางแก้ปัญหา ฉินเฟิงเหยียดมือออกอีกครั้ง คราวนี้เป็นรูนมืดอันน่าสะพรึง พรั่งพรูออกมา  

 

 

 

 

 

“ลำแสงแห่งความมืด!”  

 

 

 

 

 

อบิลิตี้ที่อัดแน่นไปด้วยรูนมืดนับไม่ถ้วนของฉินเฟิง พุ่งเข้าใส่ร่างของจักรพรรดิมังกรไฟ  

 

 

 

 

 

ในเวลาเดียวกัน ข้างๆดาวเคราะห์อบิลิตี้ของฉินเฟิง ตัวศิลานรกเริ่มหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง  

 

 

 

 

 

สำแดงอำนาจช่วยเพิ่มพูนความรุนแรงที่เกิดจากอบิลิตี้ธาตุมืดขึ้นเป็น 10 เท่า!  

 

 

 

 

 

ในเสี้ยวพริบตา รูนมืดทวีความแข็งแกร่งขึ้น อำนาจของมันทะยานไปอีกขั้น ซัดสาดลงบนร่างจักรพรรดิมังกรไฟ  

 

 

 

 

 

ร่างของจักรพรรดิมังกรไฟที่เคยเปล่งประกายเจิดจ้า เกล็ดสีแดงเพลิงอันน่าหลงใหล พลันหมองลงอย่างกะทันหัน  

 

 

 

 

 

และสิ่งนี้ยังเป็นตัวแทนแสดงให้เห็นว่า ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายกำลังลดทอนลง  

 

 

 

 

 

–คราวนี้ได้ผล!  

 

 

 

 

 

ช่างสมเกียรติของศิลานรก ที่เป็นสมบัติล้ำค่าระดับ S !  

 

 

 

 

 

แต่ในตอนนั้นเอง จักพรรดิมังกรไฟก็ตระหนักได้ถึงสถานการณ์ของตนเช่นกัน มันตกตะลึงในทีแรก หลังจากได้สติและพบว่าความแข็งแกร่งของตนกำลังอ่อนโทรมลง ครามโกรธก็ปะทุขึ้นทันใด  

 

 

 

 

 

เจ้ามนุษย์ที่มิต่างจากยุงตัวนี้ บังอาจกัดมันจนเจ็บ ฉะนั้นต้องตีให้ตายใช่หรือไม่?  

 

 

 

 

 

ขนาดตัวของทั้งสองแตกต่างกันเป็นอย่างมาก แล้วอีกฝ่ายกล้ามากัดตัวมันได้อย่างไร เช่นนั้น บทลงโทษมีเพียงอย่างเดียว นั่นคือประหาร!  

 

 

 

 

 

จักรพรรดิมังกรไฟระบายความโกรธเกรี้ยว  

 

 

 

 

 

ตูม!  

 

 

 

 

 

ร่างของจักรพรรดิมังกรไฟ ย่ำใกล้เข้ามาอีกขั้น และก้าวนี้ เปิดเผยกรงเล็บของมันออกมาให้เห็นโดยตรง  

 

 

 

 

 

ทั้งระยะห่าง ยังหดสั้นลงกว่า 80 เมตร ปัจจุบันมันอยู่ห่างจากฉินเฟิงกับไป๋หลีเพียง 50 เมตร เท่านั้น!  

 

 

 

 

 

ซึ่งระยะดังกล่าว เพียงจักรพรรดิมังกรไฟจาม ก็สามารถเป่าฉินเฟิงปลิวได้แล้ว  

 

 

 

 

 

“จงถอยกลับไปให้แก่ฉัน!”  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงร้องคำรามคลั่ง ความแข็งแกร่งทางกายภาพระเบิดออก  

 

 

 

 

 

“เทคนิคก้าวมังกร!”  

 

 

 

 

 

“มังกรตะปบ!”  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงดีดผึง ทะยานเข้าหาใบหน้าของจักรพรรดิมังกรไฟ จากนั้นง้างฝ่ามือและฟาดออกไป  

 

 

 

 

 

ฝ่ามือนี้ อัดแน่นไปด้วยพลังงานมากถึงสิบทะเลสาบกำลังภายใน  

 

 

 

 

 

หรือกล่าวอีกนัยนึงก็คือ อำนาจโจมตีของมัน รุนแรงเทียบเท่ากับการโจมตีขั้นสูงสุดของผู้ใช้พลังเลเวล B !  

 

 

 

 

 

ในพริบตา กรงเล็บมังกรขนาดใหญ่โตกว่า 30 เมตร พลันก่อร่างขึ้นในอากาศ ตบฉาดเข้าใส่หัวจักรพรรดิมังกรไฟอย่างไร้ปรานี  

 

 

 

 

 

เปรี้ยงงงง!  

 

 

 

 

 

พละกำลังมหาศาล กดดันจักรพรรดิมังกรไฟถอยร่นไปก้าวหนึ่งทันที  

 

 

 

 

 

แม้จะกล่าวว่าก้าวหนึ่ง แต่มันก็ช่วยให้ถอยห่างไปได้ 20 – 30 เมตรเท่านั้น  

 

 

 

 

 

“ไป๋หลี เมื่อไหร่จะเสร็จสักที!”  

 

 

 

 

 

ไป๋หลีก็ตระหนักได้เช่นกัน ว่าสถานการณ์เป็นเรื่องเร่งด่วนขนาดไหน ดังนั้นทุ่มเทอย่างหนัก เร่งส่งอักษรรูนมิติออกมา  

 

 

 

 

 

“ขอเวลาสามนาที ช่วยยื้อให้หน่อย!”  

 

 

 

 

 

สามนาที? สถานการณ์ในตอนนี้ จะสามารถยื้อไว้ได้อย่างไร?  

 

 

 

 

 

ฉินเฟิงมองไปยังจักรพรรดิสัตว์ร้ายเลเวล B เบื้องหน้าเขา แม้ในชีวิตก่อน ตนจะเคยไปเหยียบเลเวล A มาแล้ว แต่เขาก็ยังไม่กล้าพอที่จะต่อกรกับการดำรงอยู่เช่นนี้เพียงลำพัง   

 

 

 

 

 

แต่หลังจากเกิดใหม่ ทุกหนทางที่เขาก้าวเดิน ช่างราบรื่น เป็นไปอย่างสวัสดิภาพ สามารถขัดเจตจำนงสวรรค์ ท้าทายผู้คนในระดับที่มากกว่า จนกลายเป็นเรื่องปกติในทุกๆวัน ฉะนั้นในคราวนี้ก็ต้องเหมือนกับในทุกๆครั้ง เขาจะลองพยายามดู!  

 

 

 

 

 

ช่วงเวลานี้ ดวงตาของฉินเฟิง เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิท  

 

 

 

 

 

“งั้นมางัดกันซักตั้ง!”  

 

 

 

 

 

ความแข็งแกร่งทางกายภาพ , ความแข็งแกร่งกำลังภายใน และพลังสมาธิ ช่วงเวลานี้ ทั้งหมดถูกรีดเร้นออกมาถึงขีดสุด  

 

 

 

 

 

“จงสำแดงฤทธิ์เพื่อฉัน!”  

 

 

 

 

 

พลังสมาธิของฉินเฟิง เร่งเร้าอย่างรุนแรง ชักนำสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวจากภายในจักรวาลแห่งจิตสำนึกออกมา  

 

 

 

 

 

วินาทีต่อมา คล้ายปรากฏดาวเคราะห์สีดำบริสุทธิ์ขึ้นเบื้องหน้าฉินเฟิง  

 

 

 

 

 

แม้จะบอกว่ามันเป็นดาวเคราะห์ แต่ที่จริงแล้ว ในมุมมองของคนภายนอก มันเป็นเพียงหินก้อนเล็กๆเท่านั้น  

 

 

 

 

 

ทว่ายามเมื่อหินก้อนนี้หมุนวน รูนสีดำนับไม่ถ้วนจะถูกปลดปล่อยออกมาตลอดเวลา  

 

 

 

 

 

–เป็นศิลานรก!  

 

 

 

 

 

“ไปเลยยยย!” ฉินเฟิงวาดมือ ชี้นิ้วตรงไปยังจักรพรรดิสัตว์ร้าย!  

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】

โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】
Status: Ongoing
อ่านนิยายโคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】ภายในตัวอาคารที่ถูกเสริมแกร่งด้วยเหล็กกล้า พื้นโถงทางเดินราวกับกระจกใส ทั้งแพทย์และพยาบาลต่างเดินกันให้วุ่นไปตลอดเส้นทาง   ที่นี่คือสถาบันวิจัยเขตชานเมืองใหม่ของเมืองเฉิงหยาง   ณ หนึ่งในพื้นที่บริเวณของสถาบัน กลุ่มวัยรุ่นหนุ่มสาวที่ทั้งตื่นเต้นระคนวิตกกังวล กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ   “กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! หมายเลข 2318 ฉินเฟิง กรุณาไปเข้ารับการฉีดยากระตุ้นในแอเรียที่ 3 ด้วย!”   “ถึงตาของฉันแล้- โครม!”   วัยรุ่นชายผุดลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว จนเจ้าตัวเสียหลัก สะดุดขาตัวเองล้มคะมำลงกับพื้น   เพียงได้ยินเสียงกระแทก ทุกคนก็พอจะรับรู้ได้ว่าการล้มหน้าฟาดของอีกฝ่ายรุนแรงขนาดไหน   “อ๊า! ฉินเฟิง!” เห็นถึงฉากนี้ โจวฮ่าวก็กลายเป็นตื่นตระหนก เขาเร่งก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยเหลือสหายของตนอย่างร้อนรน   แล้วก็พบกับผลลัพธ์คาดไม่ถึง -ฉินเฟิงที่ล้มลงดันสลบไปซะอย่างงั้น!   “ชิบหายแล้ว ฉินเฟิง! นายคงไม่ได้หมดสติจริงๆหรอกใช่ไหม เล่นตลกอะไรในเวลาสำคัญแบบนี้เนี่ย? รีบตื่นขึ้นมาเร็วเข้า! ถึงเวลาฉีดยา ‘กระตุ้นพลัง’ ของนายแล้วนะ!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset