บทที่ 35: เชือกวัววิเศษ
ซูเย่รู้ว่าต้นไม้แห่งเวทมนตร์นี้เป็นที่มาของพลังของผู้วิเศษทุกคน เวทมนตร์ทั้งหมดที่ผู้วิเศษใช้ไปนั้นมาจากต้นไม้แห่งเวทมนตร์ แต่เขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่าง
“ ดูเหมือนว่าข้าต้องกลับไปดูเวทมนตร์พื้นฐาน มิฉะนั้นข้าจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไร ”
อาคาร, หลังคา, แสงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์, ต้นไม้แห่งเวทมนตร์, รากไม้…
ซูเย่มองไปที่กำแพง
มีรังเล็กอยู่บนผนัง ในรังมีวิญญาณสองปีกโปร่งใสหลับใหล
“ นั่นคือวิญญาณพรสวรรค์ ร่างกายของวัวเวทมนตร์ของข้า ” ซูเย่มีความสุข
ซูเย่มองไปที่หอคอยเวทมนตร์ มีความรู้สึกพึงพอใจอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในหัวใจของเขา และเขารู้สึกว่ามีเหตุผล
ในที่สุดเขาก็ได้รับรางวัลมากมายหลังจากรอดชีวิตจากการทดสอบที่ยากลำบากครั้งก่อน
ด้วย หอคอยเวทย์มนตร์ และเวทย์มนตร์ของเขา ตอนนี้เขามีความสามารถในการป้องกันตัวเองได้อย่างแท้จริง
ซูเย่เอื้อมมือออกไปและสัมผัสต้นไม้แห่งเวทมนตร์ เกิดความรู้สึกอัศจรรย์ขึ้นในใจ
ความรู้สึกนั้นไม่สามารถเทียบได้กับความสบายใจที่แสงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์มอบให้เขา แต่เขามีความรู้สึกถึงความสำเร็จอย่างมาก
ความภูมิใจที่เหลือเชื่อผุดขึ้นในใจของซูเย่ นี่คือจุดเริ่มต้นที่แท้จริง
เขาเป็นส่วนหนึ่งของโลกนี้ และโลกนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของเขาอย่างแน่นอน
“โลกแห่งทวยเทพ ข้ากำลังมาแล้ว ! ”
ซูเย่สูดหายใจเข้าลึก ๆ และสงบสติอารมณ์ลง เขาค่อยๆสังเกตหอคอยเวทมนตร์ราวกับว่าเขากำลังสำรวจสมบัติชิ้นหนึ่ง
ซูเย่ไม่ได้สังเกตเห็นอะไรใหม่ หอคอยเวทย์มนตร์ดูเรียบง่ายและหยาบ
“ นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น ข้าเชื่อว่า หอคอยเวทย์มนตร์ ของข้าจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ! ”
ซูเย่ออกจากหอคอยเวทย์มนตร์หลังจากที่เขาเข้าใจสถานการณ์ที่นั่นอย่างชัดเจน เขาเปิดตาของเขา
นีเดิร์นกล่าวว่า “ เจ้าเข้าสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว แต่เจ้าอยู่ใน หอคอยเวทย์มนตร์ นานเกินไป ชั้นเรียนการแพทย์เวทมนตร์ ได้เริ่มขึ้นแล้ว ”
” โอ้ ? แล้วข้าต้องกลับไปเรียนไหม ? ”
“ การแพทย์เวทมนตร์เป็นวิชาเสริม ไม่เป็นไรถ้าเจ้าไม่ไป ภาษาและเวทย์มนตร์เป็นแหล่งพลังที่แท้จริง ”นีเดิร์นแสดงความคิดเห็นโดยไม่ถนอมน้ำใจวิชาเรียนเลย
“ นั่นไม่ดีเลย…” ซูเย่กล่าว
“ นอกจากนี้ ข้าอาจจะต้องใช้เจ้าในช่วงสองสามวันข้างหน้านี้ ”นีเดิร์นมองที่ซูเย่ ราวกับว่าเขากำลังจ้องเหยื่อ
ซูเย่รู้สึกไม่ดี “ ท่านอาจารย์ ท่านหมายความว่าอย่างไร ? ‘ใช้‘ หมายถึงอะไร ? ข้าไม่คิดว่าอาจารย์ควรใช้คำดังกล่าว ”
นีเดิร์นไม่ตอบ เขากลับพูดว่า “ เจ้าเห็นอะไรในหอคอยเวทย์มนตร์ ? ”
ซูเย่รู้สึกผิดหวัง “ ทุ่งหมอก ข้ามองเห็นอะไรไม่ชัดเจน ”
นีเดิร์นตบไหล่ของซูเย่ อย่างเป็นมิตรและกล่าวว่า “ อย่าท้อแท้ ข้ามองเห็นไม่ชัดเช่นกัน ตราบใดที่เจ้าพยายามต่อไป เจ้าจะสามารถเห็นหอคอยเวทย์มนตร์ของเจ้าอย่างชัดเจนเหมือนกับที่ผู้เชี่ยวชาญมองเห็น อย่างไรก็ตาม เจ้ามีความรู้สึกจาง ๆ หรือไม่ว่า หอคอยเวทย์มนตร์ ของเจ้าเป็นรูปหลายเหลี่ยมหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า หอคอยเวทย์มนตร์ ของเจ้ามีกำแพงกี่หลัง ?”
ซูเย่ชะงัก นี่ควรเป็นเนื้อหาขั้นสูงจากวิชาพื้นฐานเวทย์มนตร์หรือการทำสมาธิ เขาไม่ต้องการที่จะให้คำตอบที่ประมาท เขาซักถาม “ ท่านอาจารย์ หอคอยเวทย์มนตร์ของท่านมีผนังกี่ด้าน ? ”
“ สิบหก ” นีเดิร์นตอบ
“ แล้วผู้อำนวยการเพลโตมีเท่าไหร่ ? ” ซูเย่ถามอีกครั้ง
“ ตำนานเล่าว่า หอคอยเวทย์มนตร์ ผนังของเขามี 36 ด้าน ว่ากันว่าอริสโตเติลมีพลังมากกว่าอาจารย์เพลโต หอคอยเวทย์มนตร์ของเขามีผนังประมาณ 50 ผนัง”
“ การมีผนังมากขึ้นในหอคอยเวทย์มนตร์ หมายความว่ามันมีพลังมากกว่าหรือ ? ” ซูเย่ถาม
นีเดิร์นพยักหน้าและกล่าวว่า “ โดยทั่วไปยิ่งมีผนังหอคอยเวทย์มนตร์ มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีพลังมากขึ้นเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ผนังที่มากขึ้นก็หมายความว่าจะก้าวหน้าได้ยากขึ้นเล็กน้อย แน่นอนว่ามันยังหมายความว่าบุคคลนั้นมีศักยภาพมากกว่า ”
“ เป็นเช่นนั้น ข้าจำไม่ได้แน่ชัดว่าหอคอยเวทมนตร์ของข้ามีผนังกี่ด้าน แต่มันควรจะเหมือนกับของท่านนะ ท่านอาจารย์ แต่จำนวนผนังในหอคอยเวทย์มนตร์ถูกกำหนดอย่างไร ? ” ซูเย่ถาม
นีเดิร์นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “ ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัด หรือเจ้าอาจพูดได้ว่ามันถูกกำหนดโดยปัจจัยหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น ความเข้มของแสงแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ ความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณของบุคคล ความสามารถในการทำสมาธิ พรสวรรค์ ความมุ่งมั่น ฯลฯ ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้อาจส่งผลต่อจำนวนผนัง ”
” ขอบคุณท่านอาจารย์. ตอนนี้ข้ามีความเข้าใจทั่วไปแล้ว ” ซูเย่กล่าว
“ นักเรียนทุกคนต้องมองหาอาจารย์เพื่อนำทางพวกเขาหลังจากที่พวกเขาก้าวเข้าสู่การเป็นผู้วิเศษฝึกหัด เจ้าพร้อมจะเลือกใคร ? ” นีเดิร์นถาม
“ ข้าขอเลือกผู้อำนวยการเพลโตได้ไหม ? ” ซูเย่ถาม
“ ไม่ ” นีเดิร์นพูดด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ อริสโตเติล ? ” ซูเย่ถาม
นีเดิร์นจ้องไปที่ซูเย่ สักครู่แล้วพูดว่า “ จากนี้ไปข้าจะเน้นการสอนเวทมนตร์ให้เจ้า ”
ซูเย่พูดด้วยความประหลาดใจ “ งั้นข้าเลือกท่านได้ไหม ? ดังนั้นข้าจะเลือกท่าน มันจะเป็นเกียรติสำหรับข้าทีเดียว ”
นีเดิร์นพูดอย่างใจเย็น “ ข้าบอกให้เจ้าเรียนการแสดงละครให้น้อยลง ! ”
“ แค่กแค่ก…” ซูเย่รีบออกจากพรมวิเศษ
“ วันนี้เราได้ผ่านคาถาฝึกหัดขั้นพื้นฐานทั้งหมดแล้วในชั้นเรียนแรกวันนี้ ทวนให้ข้าฟังซิ ” นีเดิร์นกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ซูเย่พูดอย่างเร่งรีบ “ ข้าจำได้ มีคาถาฝึกหัดพื้นฐานสิบประการ: พวกมันคือการตรวจจับธาตุ, การตรวจจับพิษ, รัศมีลอยตัว, ตำแหน่งที่แม่นยำ, ทักษะหินบิน, ลูกศรเพลิง, ทักษะกริชลม, ทักษะการสร้างน้ำ, ทักษะการสร้างน้ำแข็ง และเชือกวิเศษ ”
“ เจ้าควรมีความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับคาถาทั้งสิบนี้ ถ้าเจ้าต้องเลือกคาถาแรกของเจ้า เจ้าอยากเรียนคาถาแบบไหน ? ”
ซูเย่คิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวว่า “ ข้าได้ให้ความคิดบางอย่าง แน่นอนข้าจะเลือกคาถาโจมตี ในบรรดาคาถาโจมตี ทักษะหินบิน ธนูเพลิง และทักษะกริชลม มีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่ทักษะหินบิน โจมตีโดยใช้วัตถุทู่และจะไม่ได้ผลมากนักเว้นแต่ข้าจะตีบริเวณที่สำคัญเช่นด้านหลังศีรษะ ดังนั้นข้าจะกำจัดสิ่งนั้น ความเร็วของธนูเพลิง นั้นช้าเกินไปในระดับผู้ฝึกหัดและสามารถหลีกเลี่ยงได้ง่าย ดังนั้นมันจะไม่มีประโยชน์ไม่ว่ามันจะทรงพลังแค่ไหนก็ตาม ทักษะกริชลมนั้นเร็วมากและสามารถผ่าหลอดเลือดแดงของนักรบเหล็กดำได้หากข้าพบมุมที่ดี ข้าจะตัดสินใจเลือกมัน”
“ แล้วข้าจะสอนเชือกวิเศษให้เจ้า ” นีเดิร์นกล่าว
ซูเย่กระพริบตา ข้าไม่ได้เสียเวลากับคำพูดเหล่านั้นในตอนนี้เหรอ ?
นีเดิร์นถามอย่างอดทน “ เวลาร่ายทักษะกริชลมนานแค่ไหน ? ”
“ ตอนแรกมันใช้เวลาประมาณสี่วินาที แต่ถ้าฝึกฝนจนสุดความสามารถก็สามารถเข้าถึงสองวินาทีได้ ”
“ แล้วเชือกวิเศษล่ะ ? ” นีเดิร์นถาม
“ สามวินาทีในตอนเริ่มต้น และสามารถไปถึงสองวินาทีหลังจากนั้นไม่นาน ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณท่านอาจารย์ ข้าจะเลือก เชือกวิเศษ เวลาในการร่าย เชือกวิเศษ นั้นรวดเร็วและสามารถดักจับศัตรูได้ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการต่อสู้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้าจะสามารถใช้วัตถุรูปทรงเชือกใดๆ เพื่อร่ายคาถาได้ แต่ เชือกวิเศษ จะต้องมีคุณภาพที่ดีเยี่ยมเพื่อให้มันมีประสิทธิภาพในการต่อสู้จริง ข้าไม่สามารถหาของแบบนั้นได้ และไม่สามารถจ่ายได้ ” ซูเย่กล่าวด้วยความผิดหวัง
“ ข้ามี เชือกวิเศษ ที่ใช้มาหลายปีแล้ว เดิมทีมันเป็นเส้นเลือดของ วัววิเศษระดับเหล็กดำ ตอนนี้ มันมีคุณภาพเทียบเท่ากับสายเลือดของอสูรเวทมนตร์ระดับซิลเวอร์ หลังจากที่ถูกผสมด้วยพลังเวทย์มนตร์ของข้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักรบเหล็กดำจะไม่สามารถปลดปล่อยตัวเองจากมันได้ แม้แต่นักรบทองแดงยังต้องใช้เวลานานในการปลดปล่อยตัวเอง มันสามารถดักจับนักรบระดับเงินได้อย่างน้อยสี่ถึงห้าวินาที ”
นีเดิร์นเอื้อมมือขวาไปที่คาดเข็มขัดแล้วสะบัดแขนเบาๆ เขาดึงเชือกที่มีความหนาเท่ากับนิ้วหัวแม่มือของทารกออกมา มันยาวประมาณสองเมตร มีสีน้ำตาลอมเทาและมีลักษณะภายนอกที่เรียบและมันวาว มันได้พัฒนาคราบในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“ เข็มขัดบรรพบุรุษ ? ” ซูเย่ถามเบาๆ
นีเดิร์นกำลังจะถอดเชือกออกเมื่อซูเย่ คว้า เชือกวัววิเศษ อย่างรวดเร็ว เขายิ้ม “ ขอบคุณท่านอาจารย์ ”
“ ในขณะที่เจ้าก้าวไปสู่ระดับของ ผู้วิเศษฝึกหัด เร็วเกินไปและยังไม่ได้ผ่านหลักสูตรการศึกษาที่เป็นระบบ ข้าสามารถสอนเจ้าได้ตัวต่อตัวเท่านั้น เจ้าต้องใช้คาถาเพื่อร่ายคาถา และเพื่อใช้คาถา เจ้าต้องสร้างอาร์เรย์เวทมนตร์ เจ้ารู้หรือไม่ว่าจะแกะสลักอาร์เรย์เวทมนตร์ที่ไหน ? ”
“ บนใบของต้นไม้แห่งเวทมนตร์ ใบไม้แต่ละใบสามารถแกะสลักได้ด้วยอาร์เรย์เวทมนตร์เดียวเท่านั้น ”
“ อาร์เรย์เวทมนตร์ สำหรับผู้ฝึกหัดนั้นง่ายมาก จงดู “นีเดิร์นหยิบหนังสือคาถาออกมา จากนั้นใช้นิ้วลากวงกลมที่เกือบจะสมบูรณ์แบบ จากนั้นเขาก็ลากเส้นภายในวงกลม
