48 Hours a Day – ตอนที่ 22 ไข่มุกล้ำค่า

ตอนที่ 22 ไข่มุกล้ำค่า

 

 

“ก็ได้ ยังไงนายก็เพิ่งจ่ายเงินให้ฉันมา ฉันจะบอกอะไรที่มีประโยชน์ให้แล้วกัน” บาร์เทนเดอร์ถอดถุงมือของเธอออก “นายรู้ไหมว่าทำไมไอเทมในเกมถึงมีค่ามากขนาดนี้?”

 

“เอ่อ … เห็นเมื่อกี้เธอบอกว่ามันหายาก”

 

“จะหายากหรือไม่ยากนั้นไม่ใช่ตัววัดคุณค่า ที่มันเรียกว่า ‘เกมไอเทม’ ก็ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับธีมแต่มันก็ไม่ถูกทั้งหมด ในโลกแห่งความจริงมันคือสิ่งของที่มีเวทมนตร์ มันมีพลังเหนือธรรมชาติที่ยากจะคาดเดา และมันใช้งานได้ทั้งในเกมและในโลกจริง ถ้านายใช้มันอย่างชาญฉลาดมันก็จะเป็นประโยชน์ต่อตัวนายเอง แต่บางครั้งมันก็ทำให้นายปัญหาได้ ไม่มีใครรับประกันได้ว่าพลังนี้จะให้ผลในเชิงบวก นายจึงต้องระวังมันเป็นพิเศษเวลาที่สัมผัสกับเกมไอเทม ตอนนี้แค่ยังไม่รู้ว่าสิ่งนี้คืออะไรนั่นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอพูดถึงเรื่องนี้แล้วละก็มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นกับนายหลังจากหยิบมันขึ้นมาไหม?”

 

“ก็ไม่นะ” จางเฮงนึกย้อนไปถึงที่เขาได้รับตีนกระต่าย หลังจากนั้นชีวิตของเขาดำเนินต่อไปได้โดยปกติสุข

 

“ถ้างั้นมันคงไม่ได้เป็นประเภทที่ส่งผลกระทบเชิงลบ หรือมันอาจจะถูกใช้ภายใต้เงื่อนไขเฉพาะบางอย่างก็ได้” แล้วบาร์เทนเดอร์ก็พูดต่อด้วยเสียงที่เจือความสงสาร “ถ้าเกมไอเทมส่งผลเชิงลบออกมามันจะทำอะไรก็ได้เลย ส่วนกล่องไม้ที่ทำจากไม้ไซปรัสนั้นสามารถปิดกั้นพลังเหนือธรรมชาติของมันได้ – นี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเก็บไอเทมไว้ และถ้าต้องการเพิ่มนายซื้อจากฉันได้เลย โอ้ และถ้านายมีเกมไอเทมชิ้นไหนที่ไม่ต้องการแล้ว นายทิ้งมันไว้ที่นี่เพื่อให้ฉันขายมันได้เลย มักมีการประมูลครั้งใหญ่ทุกสิ้นปี จับตาดูกล่องจดหมายของนายไว้เพราะจะมีอีเมลส่งไปหานายก่อนเริ่มกิจกรรม ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็เจอกันครั้งหน้านะ”

 

 

 

บริการของบาร์เทนเดอร์นั้นแย่มาก ตอนแรกเธอตื่นเต้นหลังจากที่ได้รับ 5 เกมพอยท์ของเขา จากนั้นความกระตือรือร้นก็ลดลงและไม่สนใจที่จะอธิบายอะไรอีก

 

จางเฮงถามเธอว่ามีบริการอะไรอีกบ้างในเว็บไซต์เกม และเธอบอกว่าเธอจะส่งไฟล์ PDF ให้เขาผ่าน WeChat

 

ทันทีที่ออกจากห้องเหล็กนั่น จางเฮงก็ถูกจู่โจมด้วยเสียงเพลงอันดังกระหึ่มซึ่งเขาคงไม่คิดว่ามันดังระห่ำอีกต่อไป หลังจากใช้เวลาหนึ่งปีครึ่งบนเกาะนั้นการได้ยินเสียงดนตรีซิมโฟนีของสังคมเมืองทำให้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาหน่อยแต่ก็แอบมึนงงอยู่ภายใน

 

 

 

จางเฮงเดินลงบันไดเหล็กและกลืนหายไปท่ามกลางฝูงชนในทันใด

 

ถึงแม้ว่ามันจะเป็นตอนตี 1 แล้ว แต่รถที่จอดอยู่นอกบาร์ดูเหมือนจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น

 

จางเฮงไม่ได้กลับไปที่หอเพราะอย่างแรกเลยคือมันดึกแล้ว และสองคือมีข้อมูลมากมายถาโถมเข้ามาในหัวของเขาในช่วงสองชั่วโมงที่ผ่านมา เขาต้องการหาที่สงบๆเพื่อเรียบเรียงและย่อยข้อมูลเหล่านี้ นอกจากนั้นยังมีสิ่งอื่นที่เขาต้องการตรวจสอบให้แน่ใจ

 

จางเฮงเช็คอินเข้าห้องพักโรงแรมข้างถนนและขอปากกากับกระดาษจากพนักงานต้อนรับ เขาเหนื่อยอย่างเคยแต่เขากลับไม่รู้สึกอยากนอนเลยตอนนี้ เขาเปิดโคมไฟและเขียนรายละเอียดที่สำคัญทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้และเขียนทฤษฎีของเขาลงไปในทันที

 

ยามอรุณรุ่ง เขาอ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมาบนกองกระดาษที่เขาเขียนๆลบๆแล้วก็เขียนใหม่ ท้ายที่สุดเขาหยิบมันขึ้นมาและโยนมันลงไปในโถแล้วกดชักโครก

 

จากนั้นเขาก็เช็คเอาท์ออกจากห้อง ก่อนที่จะมุ่งตรงไปยังสนามฝึกยิงธนูฝั่งตรงข้ามถนนที่ซึ่งเขามาฝึกเป็นประจำ

 

จางเฮงก็เข้าไปทันทีที่เปิดทำการในเวลา 8.00 น. เขาหยิบคันธนูโค้งกลับ SF ที่เขาฝากไว้ที่นั่น และเลือกยิงธนูระยะ 30 เมตร

 

เขายกคันธนูขึ้นแล้วปล่อยลูกศร

 

วงที่ 6

 

จางเฮงไม่แปลกใจเลย เขาเคยใช้ธนูทำเองแบบดั้งเดิมและยังไม่ชินกับธนูสมัยใหม่นี้ นัดแรกเป็นเพียงการทดสอบ ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจที่ผลลัพธ์ไม่น่าพอใจเท่าไหร่ เขาปรับมุมยืนแล้วจึงปล่อยธนูอีกครั้ง

 

ครั้งที่สองดีขึ้นมาก

 

วงที่ 8

 

ตอนนั้นเองที่โค้ชของจางเฮงเดินเข้ามา เขาเพิ่งจะทักทายนักเรียนของเขาแต่เลือกที่จะไม่เข้าไปกวนเมื่อเขาเห็นว่าจางเฮงตั้งใจแค่ไหน เขายืนอยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆ พร้อมกับถ้วยเก็บความร้อนและเตรียมตัวที่จะแก้ไขท่าทางและการเคลื่อนไหวของจางเฮงให้ถูกต้อง

 

จากนั้นลูกศรถัดไปเจาะโดนวงที่ 9

 

ไม่เลวเลย นั่นเป็นลูกที่สวยมาก; ผู้สอนคิดกับตัวเอง ส่วนใหญ่เวลามีนักเรียนใหม่เข้ามาพวกเขามักจะมีปัญหาหลายอย่างตั้งแต่การจับคันธนูไม่มั่นคงพอไปจนถึงท่ายืนที่ไม่ถูกต้องและนั่นทำให้การยิงเบี่ยงเบนจากจุดศูนย์

 

จางเฮงเองก็เพิ่งเริ่มเล่นกีฬานี้ แต่ท่าของเขานั้นดูราวกับว่าเขาเคยทำมาจนชินแล้ว มันดูแข็งแกร่งดั่งภูผา

 

 

 

ถ้านั่นไม่ใช่ความสามารถพิเศษ? แล้วนั่นคืออะไร?

 

โค้ชของจางเฮงเป็นอดีตสมาชิกทีมยิงธนูของเมือง น่าเสียดายที่ความสามารถของเขามีจำกัดเพราะไม่ว่าเขาจะฝึกหนักแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถพัฒนามันได้เลย ไม่นานเขาก็พ่ายแพ้ต่อมือสมัครเล่นที่ฝึกฝนมาไม่ถึงครึ่งปี เขาผิดหวังในตัวเองจนลาออกจากทีมและถูกเจ้าของสนามยิงธนูเชิญให้มาเป็นโค้ชที่นี่

 

เมื่อเห็นว่ากีฬาที่ฝึกมาสองปีดีขึ้นขนาดไหน แล้วเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาแต่เขาแก่เกินไปเสียแล้ว – เขาไม่มีศักยภาพอะไรที่ต้องค้นพบได้อีก หากเขากลับไปแข่งเขาก็อาจจะไม่ได้อะไรกลับมาเลย

 

ดังนั้นเขาจึงเลือกมุ่งความสนใจไปที่การฝึกฝนเด็กๆในสนาม เขาอยากรู้ว่าเขาจะพัฒนาสายตาให้เฉียบแหลมพอจะมองหาคนที่มีพรสวรรค์และพัฒนาศักยภาพภายใต้การดูแลของเขา

 

ใครจะรู้ว่าวันหนึ่ง คนคนนั้นอาจจะสามารถแข่งขันในระดับชาติและเติมเต็มความฝันของเขาในนามของเขาได้?

 

ด้วยความคิดนั้นเขาเริ่มจับตามองนักเรียนที่มีศักยภาพ ขั้นแรกเขามองหาที่เด็กอายุ 8-14 ปีเพราะเป็นช่วงอายุที่ดีที่สุดสำหรับการเริ่มฝึก ยิ่งอายุเยอะก็จะยิ่งฝึกไม่ทันและนั้นเป็นสาเหตุที่เขาไม่ค่อยสนใจจางเฮงสักเท่าไหร่

 

3 ครั้งก่อนหน้านี้ ชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้แสดงทักษะพิเศษอะไรและไม่แตกต่างจากมือสมัครเล่นที่เล่นเพื่อเป็นเล่นกีฬาอดิเรก

 

แต่ความคืบหน้าของจางเฮงทำให้เขาค่อนข้างตกใจ

 

เขายังไม่เคยแม้แต่จะเริ่มการฝึกอบรม แต่เขาฝีมือดีอย่างน่าประหลาด เขาพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเพื่อนของเขาที่เริ่มฝึกพร้อมๆกัน

 

แต่ตัวโค้ชเองก็รู้สึกเสียดายแทนจางเฮงที่เขามาฝึกกีฬานี้ช้าเกินไปสำหรับการแข่งขัน แม้ว่าเขาจะมีความสามารถแต่ถ้าฝึกฝนไม่มากพอ มันก็คงจะเป็นสิ่งที่ยากมากสำหรับเขาที่จะก้าวหน้าในการแข่งขัน

 

ขณะที่โค้ชกำลังคิดถึงสิ่งเหล่านี้อยู่ในหัว จางเฮงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ เมื่อเขาจัดแจงอะไรเรียบร้อย เขาก็ปล่อยลูกศรออกมา 5 ลูกต่อเนื่องกัน

 

แต่ละลูกห่างกันน้อยกว่า 2 วินาที

 

จากลูกศร 5 ลูก ทั้ง 4 ลูกเจาะเข้าที่วงที่ 10 และลูกที่พลาดเล็กน้อยหล่นลงมาบนวงที่ 9

 

จางเฮงรู้ว่านี่เกี่ยวกับการประสานงานในร่างกายของเขา เขาคุ้นชินการทรงตัวบนเกาะร้างนั่น หนึ่งปีครึ่งที่ผ่านมานั้นทำให้ความแข็งแกร่งและปฏิกิริยาตอบสนองของเขาเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย อย่างไรก็ตามจากการยิงไม่กี่ครั้งนี้ทำให้เขาได้พบสิ่งที่เขาจำเป็นต้องรู้แล้ว

 

ทักษะที่เขาได้จากการฝึกบนเกาะนั้นถูกสั่งสมมาจนกล้ามเนื้อได้จดจำวิธีการใช้งานเอาไว้ และตอนนี้เขาแค่ต้องฝึกอีกสัก 2 สัปดาห์เพื่อกลับมาเป็นดั่งก่อนไปที่เกาะ

 

 

 

ด้วยธนูสมัยใหม่ที่มีพลังและมีความแม่นยำมากกว่า การยิงของเขาก็จะยิ่งแม่นยำกว่าและยิงระยะที่ไกลกว่าได้

 

ดูเหมือนว่าทักษะที่ได้จากเกม จะนำกลับมาใช้ในความเป็นจริงได้

 

 

 

แต่ก็ไม่น่าแปลกใจนัก เพราะว่าความสามารถเหล่านั้นไม่ได้ตกลงมาจากท้องฟ้า – เขาฝึกฝนอย่างหนักเพื่อที่จะได้มา

 

จางเฮงยังสังเกตเห็นว่าเกมนี้ไม่ได้ใช้คุณสมบัติ 4 อย่างเหมือนเกมทั่วไป เพราะร่างกายที่เขา‘ใช้’เล่นในเกมนั้นคือร่างกายเขาเอง เมื่อเขามีปัญหาเขาต้องใช้ความรู้และความสามารถของตัวเขาเพื่อแก้ไขมัน ดังนั้นสกิลที่แต่ละคนพัฒนาขึ้นจึงมีความสำคัญ เมื่อคิดอย่างนั้นแล้วเวลาที่เพิ่มขึ้นมา 24 ชั่วโมงนั้นก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนัก

 

นี่หมายความว่าเขาจะมีเวลาเล่นเกมมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ และพัฒนาตัวเองได้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือการพัฒนาตัวเองในเกมนั้นมีส่งผลต่อความเป็นจริง

 

จางเฮงโอดครวญกับตัวเอง โดยที่ไม่รู้ตัวว่าการยิงลูกศรทั้ง 5 ลูกเมื่อครู่ส่งผลต่อโค้ชของเขามากเพียงใด

 

ผู้ที่ยืนดูอยู่ข้างหลังเกือบปล่อยแก้วของเขาหลุดมือ

 

คนที่ยิงธนูเป็นงานอดิเรกมือใหม่ซ้อมหนักจนสามารถยิงได้ 49 คะแนนด้วยลูกศรเพียง 5 ลูก เมื่อพิจารณาว่าจางเฮงเพิ่งเริ่มเรียนได้ไม่นาน เพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้นและการยิงต่อกันอย่างรวดเร็วแบบนี้ – คงมีเพียงนักยิงธนูเป็นงานอดิเรกไม่กี่คนเท่านั้นที่ทำเช่นนั้นได้

 

นี่มันอัจฉริยะ! อัจฉริยะของแท้! ถ้าไม่เรียกว่าอัจฉริยะแล้วจะเรียกว่าอะไรได้อีก? โค้ชมองจางเฮงในมุมที่ต่างไปจากเดิมสิ้นเชิง เขามองดูจางเฮงราวกับว่าเขากำลังมองไปที่หยกล้ำค่า ยิ่งเขามองดูต่อไปเขาก็ยิ่งชอบในสิ่งที่เขาเห็น

 

นี่ฉันมองไม่เห็นสมบัติล้ำค่าขนาดนี้ได้อย่างไร?

48 Hours a Day

48 Hours a Day

เติบโตมากับพ่อแม่ที่เป็นนักวัตถุนิยมพิสดาร คนที่ทิ้งเขาไว้กับตาเพื่อไปทำงานที่ต่างประเทศ จางเฮงเรียนรู้ที่จะปรับตัวและไม่ยึดติดกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต แต่ไม่นานเขาก็ได้เรียนรู้ความจริงที่ประหลาดของโลกใบนี้ ในวันหนึ่งตอนเที่ยงคืนเวลาหยุดชะงักลงและเขาพบว่าตัวเองอยู่ในโลกที่เงียบงัน คืนนั้นเขาค้นพบว่าตนเองมีเวลาเพิ่มขึ้นมามากกว่าคนอื่นอีก 24 ชั่วโมง และมันคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัย ความสามารถที่เพิ่งค้นพบนี้มีแต่จะยิ่งรายล้อมไปด้วยปริศนาเมื่อชายชราแปลกหน้ามาบอกว่าตนคือคนให้ของขวัญแก่จางเฮง ‘ของขวัญแห่งเวลา’ และเลือกเด็กหนุ่มเข้าให้เป็นส่วนหนึ่งของเกม ‘เปลี่ยนชีวิต’ ลึกลับในนามของเขา หารู้ไม่ว่าการที่จางเฮงตกลงรับข้อเสนอนั้นทำให้ชีวิตเขาเข้าไปพัวพันกับหลากหลายเรื่องราวและรับรู้ความลับของโลกใบนี้ – การตัดสินใจที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset