48 Hours a Day – ตอนที่ 31 โตเกียวดริฟท์ I

ตอนที่ 31 โตเกียวดริฟท์ I

 

 

 

จางเฮงกำลังเตรียมตัวให้พร้อมโดนเชือดเหมือนลูกแกะที่กำลังจะถูกสังเวย แต่บาร์เทนเดอร์ตอบกลับอย่างเมินเฉย “เพราะนายได้ลองดื่มผลงานชิ้นเอกของฉันไป ฉันจะให้บอกอะไรให้ก็แล้วกัน – ถ้านายต้องการใช้กล่องเพื่อเก็บเกมไอเทม ฉันแนะนำว่าให้ลืมมันไปซะ”

 

“ฮะ?!”

 

“ครั้งก่อนฉันไม่ได้บอกนายไปแล้วเหรอ? ว่ามีเพียงเกมไอเทมเท่านั้นที่สามารถเดินทางระหว่างเกมและโลกจริงได้อย่างอิสระ เพื่อความเป็นธรรมสำหรับทุกคน นายต้องห้ามนำสิ่งต่างๆจากเกมกลับสู่โลกจริงและนายไม่สามารถนำสิ่งต่างๆ จากโลกจริงมาสู่เกมได้ ดังนั้นสิ่งเดียวที่กล่องไม้ไซปรัสทำได้ก็คือบรรจุเกมไอเทมของนายที่นี่ในโลกแห่งความจริง นายจะต้องคิดหาวิธีเอาเองในอีกด้านหนึ่ง”

 

“กล่องไม้ไซปรัสที่นี่ไม่ใช่เกมไอเทมเหรอ?”

 

บาร์เทนเดอร์ส่ายหัว “มีของแค่บางอย่างเท่านั้นที่เราเรียกมันว่าเกมไอเทม ของแม้แต่ของเกรด F ที่ต่ำที่สุด แต่มีเกมไอเทมที่มีลักษณะการใช้งานได้เกือบเหมือนกล่องไม้ไซปรัสอยู่นะ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับโชคของนายเลย หรือนายจะรอจนถึงงานประมูลสิ้นปีก็ได้ ที่นั่นมีสินค้ารวมอยู่มากมาย! รับรองว่าได้ของกลับไปเต็มเป้แน่ๆ!”

 

 

 

แต่ตอนนี้คงไม่มีอะไรที่จางเฮงจะทำได้เพื่อให้ได้วัตถุที่เหมาะสมในการเก็บเกมไอเทม มันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนอะไรดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากตั้งใจฟังคำพูดของบาร์เทนเดอร์ โดยตั้งข้อสังเกตกับตัวเองว่าเกมไอเทมส่วนใหญ่มีมักส่งผลเมื่อมีการสัมผัสโดยตรง

 

สิ่งที่เขาต้องทำก็คือต้องคอยระมัดระวังและอาจสวมถุงมือหรืออะไรก็ได้เพื่อลดความเสี่ยง

 

ถ้าเขาอยู่ต่อไปเรื่อยๆ เขาอาจถูกบังคับให้ชิมเครื่องดื่มแปลกๆอื่นๆอีกดังนั้นจางเฮงจึงออกจากบาร์

 

 

 

 

เขาเลือกบูธที่ว่างอยู่และพบนาฬิกาปลุกขนาดเล็กใต้ที่นั่ง

 

แม้ว่าการมีเวลาเพิ่มขึ้นมาอีก 24 ชั่วโมงจะทำให้เขาต้องอยู่กับความยากลำบากยาวนานขึ้นบนเกาะ แต่เขาก็ต้องยอมรับว่ารางวัลที่ได้มานั้นก็สำคัญเช่นกัน

 

เวลาที่เขาใช้ในเกมนี้นานกว่าผู้เล่นคนอื่น 12 เท่า ซึ่งนั้นทำให้เขามีโอกาสที่ดีขึ้นในการสำรวจเกาะ เมื่อพิจารณาถึงผลกระทบอันน่าสยดสยองในเกมที่ผ่านมา เขาจะต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเองในส่วนที่เหลือ

 

เขาหวังเพียงว่ามันคงไม่ใช่สถานที่ซึ่งห่างไกลความเจริญและไม่มีผู้คนอีกในครั้งนี้

 

เขาตั้งเวลาบนนาฬิกาไว้ที่ 23:55 ก่อนเอนหลังพิงเบาะพนักเก้าอี้และพักสายตา

 

หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง เขาก็มีอาการวิงเวียนศีรษะและเขารู้สึกอ่อนแอ ราวกับว่าเขาโดนผีอำจนทำให้ร่างกายเป็นอัมพาตทั้งตัวไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะขยับนิ้วขึ้นมาเพียงนิ้วเดียว

 

จากนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในหูของเขาอีกครั้ง

 

[ยืนยันตัวตนของผู้เล่น … ]

 

[ยืนยันตัวตน สุ่มเควสผู้เล่นใหม่สำหรับผู้เล่นหมายเลข 07958 …]

 

[การสุ่มเสร็จสิ้น – เควสปัจจุบันคือโตเกียวดริฟท์ ]

 

“โตเกียว – มหานครระหว่างประเทศที่มีประชากร 37 ล้านคน สมควรได้รับชื่อเสียงในฐานะศูนย์กลางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ในช่วงกลางวันสถานที่แห่งนี้เป็นจุดบรรจบกันของนักการเงินและนักการเมือง แต่การเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ของเรื่องราวความบันเทิงที่แท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีฉากหลังเป็นยามค่ำคืนเท่านั้น … คุณจะเป็นแค่นักเรียนแลกเปลี่ยนจากประเทศจีนหรือจะกลายเป็นตำนานของที่แห่งนี้?”

 

[ภารกิจ: ชนะที่หนึ่งในการแข่งขันดริฟท์ใต้ดิน]

 

[โหมด: เล่นคนเดียว]

 

[อัตราการไหลของเวลา: 360] (หนึ่งชั่วโมงในโลกแห่งความจริงเทียบเท่ากับ 15 วันในเกมนี้ 60 วันหลังจากนี้ผู้เล่นจะถูกบังคับให้กลับไปยังโลกแห่งความเป็นจริง]

 

เตือนด้วยความหวังดี เกมจะเริ่มใน 5 วินาที ผู้เล่นโปรดเตรียมตัวให้พร้อม!

 

 

 

จางเฮงลืมตาของเขาชึ้นและพบว่าตัวเองยืนอยู่ตรงกลางทางแยก

 

 

 

บางทีคนมีคงได้ยินคำอธิษฐานของเขา สถานที่นี้ตรงข้ามกับเกมแรกบนเกาะร้างของเขาอย่างสิ้นเชิง! – เขาถูกล้อมรอบไปด้วยแสงไฟนีออนสีสันสดใสและป้ายโฆษณา ดูเหมือนจะมีผู้คนอยู่จำนวนมากเดินไปเดินมาผ่านเขาไป และพูดภาษาที่ไม่คุ้นเคยซึ่งเขาพอจะเคยได้ยินจากทีวีและเกมมาก่อนหน้านี้เท่านั้น .

 

มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากไหนสักแห่งเสียงเหมือนทำนองเพลง ‘เหตุผลที่ฉันคิดว่าฉันได้ตายไปแล้ว’ ของมิกะ นากาชิมะ มีเด็ก 2-3 คนกระโดดผ่านฝูงชนบนสเก็ตบอร์ด

 

หญิงสาวสวยที่ดูร้อนแรงสวมกระโปรงสั้นและพนักงานชายวัยกลางคนสวมชุดสูทที่ในมือถือกระเป๋าเอกสารขณะที่เขากำลังเรียกแท็กซี่ จางเฮงเห็นหน้าชาวตะวันตกเป็นจำนวนมาก นี่เป็นกลางคืนแต่มันกลับดูมีชีวิตชีวากว่าในตอนกลางวันเสียอีก!

 

จุ๊ จุ๊! นี่ต้องเป็นเมืองที่มีหม้อไฟใหญ่ที่สุดในโลกแน่เลย!

 

หลังจากจางเฮงมั่นใจว่าเขาจะไม่ประสบอันตรายในบริเวณใกล้เคียงของเขาแล้ว เขาก็ตรวจสอบประวัติส่วนตัวของเขา

 

ชื่อ: จาง เฮง

 

เพศ: ชาย

 

อายุ: 19

 

ID ผู้เล่น: 07958

 

จำนวนครั้งที่เล่นเกมไปแล้ว: 1

 

เกมพอยท์ปัจจุบัน: 24

 

สกิล: เปียโน เลเวล 1; ความถนัดทางภาษา: เลเวล 1 (ทั้งสองภาษาอยู่ในระดับทักษะการสื่อสารทั่วไป) สกิลยิงธนู: เลเวล 2;  สกิลเอาชีวิตรอดในป่า: เลเวล 2

 

ไอเทมที่ครอบครอง: ตีนกระต่ายนำโชค (E)

 

ผลประเมิน: ผู้เล่นมีโชคที่ดีกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย แต่นอกจากนั้นก็ไม่มีคุณสมบัติที่น่ายกย่อง มีสกิลเอาชีวิตรอดในป่าและสกิลยิงธนูอยู่ในระดับน้อยที่สุด ไม่คิดว่าจะอยู่เกิน 5 รอบแรก

 

แม้ว่าเฮงเคยฝึกปีนเขาและถ่ายภาพมาเกือบเดือนแล้ว แต่ก็ดูเหมือนว่าทักษะเหล่านี้ก็ยังไม่แม้แต่จะอยู่ในเลเวล 0 ได้เลย นั้นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงไม่โชว์อยู่ในส่วนของสกิล

 

และดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือมีหมวดหมู่ ‘ไอเทมที่ครอบครอง‘ เพิ่มเข้ามา และผลที่ได้จากตีนกระต่าย ผลการประเมินของเขาก็ดูเหมือยจะแตกต่างไปเล็กน้อยเช่นกัน อย่างน้อยเขาก็กำจัดข้อความนั้นที่บอกว่าเขาเป็นผู้เล่นทั่วๆไปได้ แต่ถึงกระนั้นเขายังไม่อาจจะพัฒนาให้มันดีขึ้นมากพอ

 

เมื่อเขาได้ตรวจสอบสถานะปัจจุบันของเขาแล้ว จางเฮงก็สังเกตสภาพแวดล้อมของเขาอีกครั้ง สถานที่แห่งนี้ช่างรุ่งเรือง ฝั่งตรงข้ามเขาทางขวาคือศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่มีหน้าจอ LED ขนาดยักษ์อยู่ด้านนอกเล่นโฆษณาหูฟังของ SONY อยู่ มีร้านค้าคึกคักและป้ายนีออนสว่างสไวกระจายกันอยู่ทั่วไปไกลยาวจนสุดลูกหูลูกตา จริงๆแล้วมันค่อนข้างแออัดนิดหน่อย

 

 

 

ที่นี่…ดูเหมือนชิบูย่ามาก!

 

จางเฮงเคยมากับแม่ของเขาในตอนที่เดินทางไปที่โตเกียวเพื่อเข้าร่วมการประชุมทางวิชาการตอนที่เขาอายุน้อยกว่านี้มากๆ แต่ความทรงจำของเขาในตอนนั้นช่างเลือนลางเล็กน้อยเพราะการประชุมนั้นใช้เวลานานและเขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอยู่แต่ในห้องพักของโรงแรม มีเพียงแค่วันสุดท้ายเท่านั้นที่แม่ของเขาพาเขาออกไปช้อปปิ้งที่ชิบูย่า เธอซื้อ PSP ให้เขาก่อนที่พวกเขาจะกลับ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาประทับใจที่แห่งนี้

 

การได้เล่นเกมในอารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองเป็นเรื่องที่ดี แต่สถานการณ์ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดนัก

 

จางเฮงไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นเลย แม้ว่าจะพอมีตัวอักษรจีนอยู่ในคำญี่ปุ่นซึ่งพอจะให้เขาเดาความหมายบนป้ายได้บ้าง  แต่แบบนี้เขาคงจะปฏิบัติภารกิจของเขาไม่ได้แน่ๆ พวกนั้นจะทิ้งเขาไว้แบบนี้เนี่ยนะ?

 

เขาได้สวมบทบาทเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนในเกม นั่นหมายความว่าอย่างน้อยที่สุดเขาก็จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่พักของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีการเอ่ยถึงชื่อมหาวิทยาลัยของเขาเลย และคงมีมหาวิทยาลัยเป็นโหลอยู๋ในโตเกียว –เชื้อชาติ สาธารณะและความเป็นส่วนตัว เขาคงไม่สามารถไปถามพวกเขาทีละคนได้แน่

 

ในช่วงเวลาแบบนี้จางเฮงคิดได้ว่าเขาคิดว่า เขาควรจะตรวจดูว่าตัวละครของเขามีสิ่งของอะไรติดตัวมาบ้าง

 

เขาเริ่มค้นหาของในกระเป๋าของเขา ทันใดนั้นเองก็มีหญิงสาวในกระโปรงสั้นวิ่งเข้ามาหาเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว หายใจหอบ พร้อมกับถือไอศครีมโคน 2 ลูกอยู่ในมือของเธอ! “จางเฮง! ขอบคุณพระเจ้า นายอยู่นี่เอง! ฉันกลัวจะตาย! ฉันนึกว่า ฉันจะเสียนายไปตั้งแต่วันแรกที่มาถึงที่นี่ซะแล้ว!”

 

หญิงสาวหายใจออกด้วยความโล่งอกเมื่อเธอเห็นเขา

 

สัญญาณไฟจราจรที่อยู่ตรงข้ามสว่างขึ้นเป็นสีเขียว

 

“อา แย่จัง เราไม่มีเวลาแล้ว! ไปกันเถอะ!” หญิงสาวพูดพร้อมกับดึงมือของเขาไป

48 Hours a Day

48 Hours a Day

เติบโตมากับพ่อแม่ที่เป็นนักวัตถุนิยมพิสดาร คนที่ทิ้งเขาไว้กับตาเพื่อไปทำงานที่ต่างประเทศ จางเฮงเรียนรู้ที่จะปรับตัวและไม่ยึดติดกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต แต่ไม่นานเขาก็ได้เรียนรู้ความจริงที่ประหลาดของโลกใบนี้ ในวันหนึ่งตอนเที่ยงคืนเวลาหยุดชะงักลงและเขาพบว่าตัวเองอยู่ในโลกที่เงียบงัน คืนนั้นเขาค้นพบว่าตนเองมีเวลาเพิ่มขึ้นมามากกว่าคนอื่นอีก 24 ชั่วโมง และมันคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัย ความสามารถที่เพิ่งค้นพบนี้มีแต่จะยิ่งรายล้อมไปด้วยปริศนาเมื่อชายชราแปลกหน้ามาบอกว่าตนคือคนให้ของขวัญแก่จางเฮง ‘ของขวัญแห่งเวลา’ และเลือกเด็กหนุ่มเข้าให้เป็นส่วนหนึ่งของเกม ‘เปลี่ยนชีวิต’ ลึกลับในนามของเขา หารู้ไม่ว่าการที่จางเฮงตกลงรับข้อเสนอนั้นทำให้ชีวิตเขาเข้าไปพัวพันกับหลากหลายเรื่องราวและรับรู้ความลับของโลกใบนี้ – การตัดสินใจที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset