48 Hours a Day – ตอนที่ 43 โตเกียวดริฟท์ XII

ตอนที่ 43 โตเกียวดริฟท์ XII

 

เทศกาลวันคริสต์มาสใกล้เข้ามา ร้านค้าต่างๆจึงเตรียมการประดับประดาสําหรับเทศกาลนี้เอาไว้แล้ว

 

ดวงไฟหลากหลายสีสันสดใสถูกแขวนเรียงรายไว้กับธงประดับสีตามเทศกาลและต้นคริสต์มาสที่ตกแต่งอย่างประณีตด้วยกล่องของขวัญชิ้นเล็กๆอยู่ในร้านค้า

 

ทันใดนั้นต้นสนปลอมก็สั่นไหวอย่างรุนแรง เครื่องประดับตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่แขวนไว้หล่นออกจากกิ่งก้านของต้นสนและลอยละล่องกระจายไปทั่วทุกทิศทาง!

 

รถตู้สีเหลืองมัสตาร์ดพุ่งผ่านบันไดเลื่อนจางเฮงเปิดที่ปัดน้ําฝนเพื่อปัดการ์ดอวยพร 2 ใบที่ปลิวตกลงมาอยู่ บนกระจกหน้ารถของเขา!ท้ายรถ L300 วาดผ่านชั้นวางข องที่เต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์บํารุงผิวราคาแพงความรวดเร็วของแรงลมทําให้ขวดชิเซโด้สั่นไหวไปหมด

 

คนขับรถโตโยต้าวอกซี่นั้นมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างมาก เขาเลี้ยวในทุกแยกที่เจอหลังจากที่วนเป็นวงใหญ่ เขาก็ แอบขับรถกลับไปที่ถนนแต่ประตูกระจกของห้างสรรพ สินค้าก็พุ่งใส่เขาจากทางด้านขวาในทันที!รถตู้สีเหลืองพร้อ มกับของประดับตกแต่งในเทศกาลคริสมาสต์ห้อยพะรุงพะรังเต็มคันรถพุ่งออกมาจากทางเข้า!

 

อะไรกันเนี่ย! ปีนี้ซานต้ามาเร็วขึ้นเหรอ? และเขาเปลี่ยนจากรถเลื่อนมาเป็นรถยนต์ตั้งแต่เมื่อไหร่?

 

คนขับรถวอกซี่ที่ตื่นตกใจยังคงมองกระจกมองหลังอยู่ อย่างต่อเนื่องเขาไม่เห็นใครตามหลังเขามา แล้วผู้ชายคนนี้มาจากไหนกัน?แล้วจะเปิดตัวได้เท่อะไรขนาดนั้นเนี่ย!

 

ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างกันเพียง 6 – 7 เมตรเท่านั้นเอง นั่นทําให้คนขับรถวอกซี่ฉุนเฉียวมาก เขาเหยียบคันเร่งและพยายามสลัดรถคันหลังให้หลุดด้วยความเร็วระดับนี้

 

แต่เขาเองก็ต้องประหลาดใจ รถ L300 ที่เขาทิ้งห่างมาได้แล้วนั้นกลับขับตามมาจนทันรถวอกซี่!

 

ทั้งคู่เร่งความเร็วสุดขีด และเข้าไปใกล้กันมากขึ้นเรื่อยๆจางเฮงใช้กันชนหน้าไปเกี่ยวท้ายด้านซ้ายของวอกซี่จากนั้นรถโตโยต้าก็เริ่มสูญเสียการควบคุมและด้วยความตื่นตระหนกของคนขับรถคันนั้น เขาจึงจับพวงมาลัยเอาไว้แน่น และไม่ว่าเขาจะขับรถเร็วแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางสลัดรถตู้ที่ตามหลังอยู่ไปได้เลย

 

เมื่อพวกเขาเห็นว่ารถกําลังจะพลิกคว่ํา วอกซี่ก็เหมือนถูกบังคับให้ชะลอความเร็วลง และจากการเคลื่อนตัวของรถคันหน้าจึงทําให้รถ L300 ที่อยู่ข้างหลังก็ชะลอตัวลงเช่นกัน!จางเฮงเกือบจะชนรถตู้อีกคันใส่ด้านข้างตัวรถ แต่เขาก็ตัด สินใจที่จะใช้วิถีสุภาพชนเมื่อเขาจําได้ว่าอามิโกะก็อยู่ในรถ ด้วยเช่นกันท้ายที่สุดรถทั้ง 2 คันก็จอดอยู่ริมถนน

 

ด้วยความตระหนักว่าเขาคงหลบหนีรถตู้อีกคันด้วยความสามารถของเขาที่มีอยู่ในตอนนี้ไม่ได้ คนขับวอกซี่ก็เปิดประตูรถและโยนอามิโกะกําลังหมดสติอยู่ออกมา! จางเฮงมองรถโตโยต้าสีน้ําเงินเข้มหายเข้าไปกลีบเมฆแล้วจึงคลายคันธนู และลูกธนูที่เขากําไว้ออก

 

เขาไม่ได้ไล่ตามต่อเพราะอย่างแรกเลยคือ เขาจะทิ้งอามิโกะไว้ที่ข้างถนนไม่ได้ และอย่างที่สองคนลักพาตัวมีปืน ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกนั้นจะไม่ได้ใช้อาวุธมายิง แต่ใครจะรู้ว่าพวกนั้นจะทําอะไรถ้าพวกนั้นจนตรอก

 

ดังนั้นการปะทะกันสั้นๆ ระหว่าง 2 ฝ่ายจึงจบลงด้วยการที่ทั้งคู่ต่างถอยออกไป

 

ในแง่หนึ่งการที่คนลักพาตัวเหล่านั้นปรากฏตัวขึ้นทําให้จางเฮงโล่งใจในตอนแรกที่เขาเห็นไฟไหม้ท่วมร้าน เขาคิดว่าข้อสันนิษฐานของอามิโกะคือทาเคดะเท็ตสึยะถูกสังหารและฆาตกรได้เผาศพของเขาเพื่อเป็นการกําจัดหลักฐาน แต่จากเหตุการณของรถวอกซี่ที่เกิดขึ้นนั่นบอกเขาได้อีกอย่างหนึ่งคือเจ้าของร้านอาหารทะเลยังมีชีวิตอยู่

 

ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะไม่หลอกให้อามิโกะมาที่นี่และ ลักพาตัวเธอผู้หญิงคนนั้นมีชีวิตที่ธรรมดามากไม่แตกต่างจากนักศึกษามหาวิทยาลัยญี่ปุ่นทั่วๆไป พวกลูกน้องเหล่านั้นน่าจะพาเธอไปเพื่อเป็นการขู่ว่าจะเปิดโปงความลับของ ทาเคดะเท็ตสึยะ

 

แต่ใครคือคนที่อยู่ในรถวอกซี่คันนั้น? สาเหตุที่ทําให้เกิด ปัญหาและไฟไหม้พวกเขามีปืนอีกต่างหาก! ในประเทศที่มีกฎระเบียบอันเคร่งครัดเกี่ยวกับอาวุธแบบนี้ การที่มีอาวุธปืนใช้หมายความว่าพวกเขาต้องทํางานให้กับคนที่มีอิทธิพล

 

จางเฮงยิงโดนคนที่มีรอยสักเข้าที่น่องโดยตั้งใจที่จะได้ซักถามเขาแต่เพื่อนคนอื่นๆของพวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาโดย ที่ไม่ได้คาดคิดต้องขอบคุณพระเจ้าที่พวกนั้นไม่ได้จัดการอามิโกะ

 

จางเฮงพาเพื่อนของเขาไปที่รถตู้และทําการประเมินสภาพของเธออย่างรวดเร็วนอกเหนือจากรอยขีดข่วนที่ข้อ ศอกและน้องของเธอเล็กน้อยที่ร่างกายส่วนอื่นๆก็ไม่ได้ รับอันตรายใดๆ

 

ค่อยยังชั่ว

 

หลังจากนั้นไม่นานที่แห่งนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงหวอของรถดับเพลิงนักดับเพลิงที่มีความเชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงก็มาถึงอย่างรวดเร็วเลยทีเดียว ประเมินจากความรุนแร งของสถานการณ์แล้วพวกเขาก็ลงมือทันทีและใช้เวลาเพีย งไม่กี่นาที่ในการมาถึงที่เกิดเหตุ

 

จางเฮงถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกแล้วคลุมไว้บนตัวอามิโกะเธอเคยชวนเขาให้ไปกินชาบูที่อพาร์ทเมนต์เล็กๆที่เธอเช่าอยู่ 2-3 ครั้งแล้วดังนั้นเขาจึงรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ความคิดที่ดีนักที่จะส่งเธอกลับหอไปตอนนี้ ชัดเจน เลยว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาบางอย่างที่นี่ ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยหลอกเธอมาได้แล้วครั้งหนึ่ง พวกนั้นจะต้องหลอก เธอเป็นครั้งที่ 2 แน่

 

เป็นเรื่องจําเป็นที่เขาจะต้องคิดให้ดีก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ก่อนที่เขาจะตอบโต้กลับไป

 

คนบนวอกซี่อาจจะหนีไปได้ แต่จางเฮงรู้ว่ามีคนคนหนึ่งที่สามารถให้คําตอบแก่เขาได้

 

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้เป็นเพราะทาเคดะเท็ตสึยะหรือโยสุเกะทสีจิยะถึงเวลาแล้วที่ชายคนนั้นจะต้องเล่าเรื่องราวให้เขาฟัง

 

แต่ก่อนอื่นจางเฮงต้องหาตัวเขาให้เจอก่อน

 

แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินที่จะเดาได้ จางเฮงขับรถไปที่โรงแรมรัก(fuzoku)ที่โปรดของทาเคดะเท็ตสึยะที่คาราโอเกะอิซากายะแต่ท้ายที่สุดก็พบว่าเขาอยู่ที่ท่าเรือร้างที่เป็นสนามฝึกซ้อมของพวกเขา

 

ตอนนี้พระอาทิตย์ฉายออกมาแล้ว เจ้าของร้านขายอาหารทะเลสวมหมวกฟลอปป์ขนาดใหญ่ที่คลุมไปทั่วใบ หน้าของเขาเขาตกปลาอยู่กับกลุ่มนักตกปลาสูงอายุมือ สมัครเล่น

 

เมื่อเท็ตสึยะได้ยินเสียงของพื้นยางที่เบียดถนน เขาก็รู้ได้ ในทันทีว่าใครมาเมื่อเขาลุกขึ้นเขาเห็นอามิโกะนั่งอยู่ในที่นั่ง ข้างคนขับ และตกใจ!

 

“ทําไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?”

 

“คําถามนั้นมีไว้ให้ลุงตอบ” จางเฮงกระโดดลงจากรถตู้ “ผมเจอเธอที่ร้านของลุงมีผู้ชายหลายคนลักพาตัวเธอไปแต่ไม่ต้องห่วงเธอแค่เพิ่งหมดสติไปไม่ได้เป็นอะไรมาก”

 

“มีคนลักพาตัวเธอเหรอ?! พวกนั้นท่าทางเป็นยังไง?” ทาเคดะเท็ตสึยะดูวิตกกังวลเอามากๆ ซึ่งดูไม่คุ้นตาเอาเสียเลย

 

“พวกนั้นมี 3 คน มันสวมแว่นกันแดดและสวมมาสก์ปี ดบังหน้าเอาไว้แต่ว่าผมเองก็ไม่รู้ว่าทําไมพวกมันถึงไม่ได้ปกปิดรอยสักบนคอของตัวเองกัน”

 

“รอยสักดูเป็นยังไง?” ทาเคดะเท็ตสึยะดูเหมือนจะสนใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆนี้

 

จางเฮงคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “มันอยู่ไกลเกินไปผม ไม่แน่ใจเท่าไหร่แต่คิดว่ามันดูเป็นรูปตานะ”

 

รูม่านตาของทาเคดะเท็ตสึยะหดตัวลง เขาทรุดตัวลงไปกับพื้นราวกับว่าเขาถูกดูดพลังงานทั้งหมดออกไป และพูดพี่มพํากับตัวเองว่า “พวกเขามาแล้วเหรอ?”

 

“ใครมา?”

 

“มันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกแกเลย พวกนั้นมาเอาชีวิตฉันแค่นั้น!” ทาเคดะเท็ตสึยะฝืนยิ้มด้วยความขมขึ้น “ฉันคิดว่าการที่ฉันเปลี่ยนชื่อตัวเองและเก็บตัวอาจช่วยให้ฉันหนีรอด ไปได้ฉันไม่เคยคิดเลยว่าพวกนั้นจะยังยึดติดกับฉันอยู่แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวฉันจะไปเจอกับพวกนั้นเอง! พวกแกทั้งคู่จะ ได้ไม่ตกอยู่ในอันตรายอีก”

 

นี่ไม่ใช่สิ่งที่จางเฮงคาดการณ์เอาไว้เลย เจ้าของร้านขาย อาหารทะเลไม่ได้สนใจที่จะพูดถึงเรื่องในอดีตของเขา

 

ในขณะที่จางเฮงกําลังใช้สมองคิดหาวิธีที่จะทําให้เขา พูดถึงเรื่องนั้น ก็มีเสียงจากด้านหลังเปล่งออกมาว่า “เพราะงั้น นี่คือเหตุผลว่าทําไมพ่อถึงหย่ากับแม่เหรอ?”

 

ไม่มีใครรู้เลยว่าอามิโกะตื่นขึ้นและลงจากรถเมื่อไหร่แต่เห็นได้ชัดว่าเธอน่าจะได้ยินบทสนทนาระหว่างจางเฮงกับพ่อของเธอ

 

48 Hours a Day

48 Hours a Day

เติบโตมากับพ่อแม่ที่เป็นนักวัตถุนิยมพิสดาร คนที่ทิ้งเขาไว้กับตาเพื่อไปทำงานที่ต่างประเทศ จางเฮงเรียนรู้ที่จะปรับตัวและไม่ยึดติดกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิต แต่ไม่นานเขาก็ได้เรียนรู้ความจริงที่ประหลาดของโลกใบนี้ ในวันหนึ่งตอนเที่ยงคืนเวลาหยุดชะงักลงและเขาพบว่าตัวเองอยู่ในโลกที่เงียบงัน คืนนั้นเขาค้นพบว่าตนเองมีเวลาเพิ่มขึ้นมามากกว่าคนอื่นอีก 24 ชั่วโมง และมันคือจุดเริ่มต้นของการผจญภัย ความสามารถที่เพิ่งค้นพบนี้มีแต่จะยิ่งรายล้อมไปด้วยปริศนาเมื่อชายชราแปลกหน้ามาบอกว่าตนคือคนให้ของขวัญแก่จางเฮง ‘ของขวัญแห่งเวลา’ และเลือกเด็กหนุ่มเข้าให้เป็นส่วนหนึ่งของเกม ‘เปลี่ยนชีวิต’ ลึกลับในนามของเขา หารู้ไม่ว่าการที่จางเฮงตกลงรับข้อเสนอนั้นทำให้ชีวิตเขาเข้าไปพัวพันกับหลากหลายเรื่องราวและรับรู้ความลับของโลกใบนี้ – การตัดสินใจที่ไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset