Advent of the Archmage – ตอนที่ 124: การท้าดวลจากนักเวทย์พเนจร(ส่วนที่2)

ข่าวของผู้ท้าชิงที่ไม่ระบุชื่อได้สร้างบรรยากาศที่หนักอึ้งในบริเวณรอบๆโต๊ะกินข้าว

 

แจ็คเกอร์ ดูวิตกกังวล เขากำลังระงับความต้องการของตัวเองที่จะวิ่งออกจากห้องกินข้าวไปเพื่อพบกับนักเวทย์แสนโอหังคนนี้ เห็นได้ชัดว่านักเวทย์คนนี้พยายามที่จะใช้ประโยชน์จาก ลิงค์ เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของเขา เขาจะไม่มีวันให้มันเกิดขึ้น!

 

ลูซี่ เองก็วางมีดที่อยู่ในมือของเธอลงและกระซิบบอกให้คนใช้ไปเอาดาบวายุของเธอมา เธอกอดกำไลข้อมือเวทมนตร์ที่ ลิงค์ หเพิ่งให้เธอมาอย่างอ่อนโยน

 

นักเวทย์งั้นเหรอ? ฉันสงสัยจังเลยว่าดาบของฉันกับเวทย์ของนายอะไรจะเร็วกว่ากัน? 

 

อีกด้านหนึ่ง เรไล ก็กำลังสูดหายใจด้วยความกลัว เธอกอดขาตัวเองแน่นและขยับไปหา ลิงค์ ดวงตาของเธอกวาดไปรอบๆห้องอาหาร บางทีเธอก็ถูกดึงดูดสายตาไปด้วยอาหารที่ดูน่าอร่อยที่อยู่บนโต๊ะ เธอพยายามอย่างมากที่จะไม่กินมัน

 

เมื่อรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องเริ่มตึงเครียด ลิงค์ ก็หัวเราะออกมา “อย่ากลัวไปเลย เรไล, แจ็คเกอร์ อย่าทำหน้าตาน่ากลัวอย่างนั้นสิ แล้วก็ ลูซี่ หยุดถือดาบแบบนั้นได้แล้ว มาเถอะ พวกเรามากินกันก่อนที่จะจัดการกับเรื่องนี้กันเถอะ”

 

มันเป็นเพียงแค่การท้าสู้จากนักเวทย์พเนจรเท่านั้น ลิงค์ เพิ่งจะสู้กับเนโครแมนเซอร์เลเวล 5 เมื่อเร็วๆนี้ นักเวทย์คนนี้น่าจะไม่แข็งแกร่งไปมากกว่า เฉด

 

ถ้าเขาแข็งแกร่งจริงๆหล่ะก็ เขาคงจะไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้ ลิงค์ ในการหาชื่อเสียง มันคงจะฉลาดกว่าถ้าเขาจะตรงไปที่สถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟ ที่ๆความสามารถของเขาจะได้รับการยอมรับและได้รับสิ่งตอบแทน

 

นอกจากนี้ เขาเพียงแค่ต้องการที่จะสนุกไปกับมื้ออาหารแรกกับเหล่าทหารรับจ้างหลังจากที่เขากลับมา เขาไม่ได้ต้องการให้บรรยากาศมันแย่ลงเพราะคนแปลกหน้า

 

มันคงจะไม่ดีสำหรับ แจ็คเกอร์ และ ลูซี่ ที่จะให้พวกเขารักษาท่าทางเตรียมพร้อมต่อสู้ในขณะที่ตัว ลิงค์ เองนั้นไม่ได้คิดอะไรกับสถานการณ์นี้เลย พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดมื้ออาหารของพวกเขาเอาไว้ก่อน

 

ไม่กี่นาทีต่อมา ก็มีชายหนุ่มตัวผอมเดินเข้ามาที่ประตู เขาดูอายุประมาณ 28 ปีและมีผิวที่ซีดเผือด ที่ปลายของผ้าคลุมนักเวทย์ของเขาเลอะไปด้วยโคลนและเขาถือคทาสีเขียวเข้มอยู่ในมือ ที่ปลายของคทานั้นมีคริสตัลสีเขียวอันใหญ่เท่ากับไข่นกพิราบ ลิงค์ บอกได้ในทันทีว่าคริสตัลนั้นคือหยกเวทมนตร์ระดับต่ำ ขณะที่ตัวคทานั้นทำมาจากไม้ลายหินอ่อนสีฟ้า วัตถุดิบทั้งสองนั้นปกติแล้วมักถูกใช้ในการสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ระดับ 3 หรือต่ำกว่า

 

 

ภาพอันงดงามและกลิ่นของอาหารนั้นทำให้จมูกของชายหนุ่มนั้นกระตุกอย่างช่วยไม่ได้ เขากลืนน้ำลายลงไปและนั่นก็ทำให้ลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้น ลิงค์ ใช้โอกาสเล็กน้อยนี้ในการตรวจสอบออร่าเวทมนตร์ของชายคนนี้

 

ตัวเขานั้นแทบจะสัมผัสไม่ได้ถึงความเข้มข้นของออร่าเวทย์มนตร์เลย ความเข้มข้นของออร่าเวทมนตร์นั้นเป็นตัววัดความแข็งแกร่งของนักเวทย์ จอมเวทย์ในตอนที่มานาของเขาหมดนั้นจะมีออร่าเวทมนตร์ใกล้เคียงกับคนแก่ธรรมดาๆ ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่ได้ถูกตัดสินว่าอ่อนแอซะทีเดียว และนี่ยังไม่ได้พูดถึงอุปกรณ์ที่สามารถปกปิดออร่าเวทมนตร์ได้เลย

 

ลิงค์ พยายามที่จะทำความเข้าใจในเนื้อสัมผัสของออร่าเวทมนตร์ บางสิ่งที่มีแต่นักเวทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นที่จะแยกแยะได้ มันเหมือนกับวิสัยทัศน์ด้านสุนทรียศาสตร์ที่ศิลปินมี

 

ตัวอย่างเช่น ภาพวาดที่อาจจะดูสวยงามในสายตาของคนธรรมดา แต่สำหรับศิลปินนั้นเขาจะสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากกว่านั้น เช่นสารที่ผู้วาดต้องการที่จะสื่อออกมา

 

นี่เป็นรูปแบบการเข้าใจโดยสัญชาติญาณโดยต้องผ่านการฝึกฝนเป็นระยะเวลายาวนานเพื่อที่จะเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

 

ตั้งแต่ที่ ลิงค์ ได้เข้ามาในโลกแห่งฟิรุเมน ลิงค์ ได้โฟกัสไปที่การเรียนรู้เวทมนตร์และได้ผ่านการต่อสู้มามากกว่านักเวทย์ธรรมดาที่อายุพอๆกับเขา นั่นจึงทำให้เขามีความรู้สึกไวต่อเวทมนตร์

 

หลังจากไม่กี่วินาที ลิงค์ ก็สรุปได้ ออร่าเวทมนตร์นั้นไม่ได้บริสุทธิ์มาก มันอยู่เพียงแค่ระดับนักเวทย์เลเวล 2 เท่านั้น และมันก็เต็มไปด้วยพลังงานของธาตุลมที่กระจัดกระจายไปทั่ว นี่น่าจะเป็นผลจากการที่ไม่ได้ฝึกเวทมนตร์ตามแบบแผน หากตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว เขาก็ไม่ได้ดูดีมากนัก

 

ในตอนที่เขาตัดสินออกมาแล้ว ระบบเกมก็ได้อำนวยความสะดวก วิเคราะห์และแสดงค่าสถานะของนักเวทย์คนนี้ให้ในสายตาของเขา

 

นักเวทย์พเนจร

เลเวล2

อุปกรณ์:คทาหยกเขียว(ปกติ)

 

ระบบภายในเกมนั้นไม่ได้ให้ข้อมูลมากนัก ในความเป็นจริง มันไม่ได้ให้ข้อมูลมากไปกว่าที่ ลิงค์ สังเกตเลย ยังไงก็ตาม ลิงค์ ก็ไม่ได้รู้สึกผิดหวัง เขาเข้าใจว่าระบบในเกมนั้นเพียงแค่สนับสนุนบทบาทการผจญภัยของเขาเท่านั้น เขาต้องสามารถวิเคราะห์ไปได้ไกลกว่าที่ระบบจะให้เขาได้เพื่อที่จะได้พลังที่แท้จริง พลังที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความช่วยเหลือจากภายนอก

 

หลังจากที่ดูข้อมูลของชายหนุ่มคนนี้ ลิงค์ ก็ติดอยู่กับความคิดที่ว่า เขาต้องการที่จะให้ชายคนนี้เป็นลูกศิษย์คนที่สองของเขา นักเวทย์คนนี้มาได้ถูกเวลาในตอนที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มทหารรับจ้าง

 

ในตอนนั้นเองนักเวทย์หนุ่มก็เริ่มพูด เขาขยับเข้ามาใกล้ๆ ลิงค์ เพื่อที่จะทำการทักทายระหว่างนักเวทย์ที่อายุเท่าๆกัน

 

“ชื่อของผมคือ คาร์ลิโด้ เป็นนักเวทย์เลเวล 2 ผมได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความสำเร็จอันสุดยอดของคุณและต้องการที่จะเห็นเวทมนตร์ของคุณด้วยตาของผมเอง”

 

ลิงค์ นั้นดูหนุ่มและยังสามารถที่จะรวบรวมออร่าเวทมนตร์ของเขาไว้ภายในร่างได้ดีมาก เขาจึงไม่ได้ปล่อยออร่าเวทมนตร์ออกมารุนแรงนัก คาร์ลิโด้ ไม่ได้อ่อนไหวต่อเวทมนตร์มากเท่า ลิงค์ และได้ถอนหายใจเมื่อตรวจสอบออร่าได้ในระดับปกติ ก่อนที่จะพบกับ ลิงค์ เขานั้นรู้สึกกังวลมาก

 

ลิงค์ ยังดูเป็นเด็กวัยรุ่นและดูปกติจากทุกๆมุม เมื่อเปรียบเทียบกัน นักรบสองคนที่อยู่ข้างๆเขายังดูมีแรงกดดันมากกว่า ลิงค์ อีก

 

คาร์ลิโด้ นั้นยังได้หาข้อมูลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของกลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโก้มาด้วย  เขารู้ว่านักรบที่บึกบึนคนนั้นคือ แจ็คเกอร์ นักรบเลเวล 4 ที่มีออร่าต่อสู้อันแข็งแกร่ง ส่วนผู้หญิงที่สวยงามอีกคนนั้นคือ ลูซี่ ผู้ที่จะปลูกฝังความกลัวไว้ในจิตใจของคู่ต่อสู้ด้วยดาบวายุของเธอ

 

ทั้งสองคนนั้นจ้องไปที่เขาอย่างไม่เป็นมิตร

 

แม้ว่าจะมีแรงกดดันที่รุนแรง คาร์ลิโด้ ก็ไม่เกรงกลัว เขารู้ว่า ลิงค์ นั้นจะให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของกลุ่มทหารรับจ้างในเมืองริเวอร์โควฟและจะไม่กล้าทำอะไรที่รุนแรง เขาจะปลอดภัย

 

ลิงค์ เคาะนิ้วของเขาลงที่โต๊ะเบาๆเพื่อที่จะผ่อนคลาย แจ็คเกอร์ ที่กำลังโกรธ ก่อนที่จะทักทาย คาร์ลิโด้ ด้วยวิธีเดียวกัน

 

“ฉันชื่อ ลิงค์ อย่างที่นายเห็น พวกเรากำลังรับประทานอาหารกันอยู่ นายดูเหนื่อยและหิวโซมากเลยนะ ถ้านายไม่คิดอะไร นายจะมาร่วมทานอาหารกับพวกเราไหม? พวกเราสามารถคุยกันเรื่องเวทมนตร์หลังจากนี้ได้นะ”

 

ก่อนที่ คาร์ลิโด้ จะตอบ ลิงค์ ก็ได้สั่งให้สมาชิกไปเอาชุดอาหารและมีดมาอีกชุดแล้ว

 

ลิงค์ นั้นมีรอยยิ้มต้อนรับและน้ำเสียงที่สุภาพ คาร์ลิโด้ ไม่สามารถปฏิเสธได้อย่างที่เขาต้องการ  เขาเป็นนักเวทย์พเนจรที่มีต้นกำเนิดที่ต่ำต้อยและสามารถเรียนเวทย์พื้นฐานได้ 3 อย่างด้วยโชคและความสามารถเล็กน้อย เวทย์เลเวล 1 ทั้งสองอันนั้นคือ ใบมีดวายุและไซโคลน ขณะที่อีกอันนึงนั้นเป็นเวทย์เลเวล 0 เวทย์แสงสว่าง

 

เขาดูแข็งแกร่งในสายตาคนปกติ และสามารถใช้เวทมนตร์ได้อย่างเหมาะสมกับการเป็นอยู่ของเขา ยังไงก็ตาม เขารู้อยู่แก่ใจว่าเขาเป็นนักเวทย์พเนจร

 

พื้นฐานเวทมนตร์ของเขานั้นอ่อนแอเพราะไม่ได้ฝึกฝนอย่างถูกวิธี ยังไงก็ตามเขาก็ไปทำภารกิจกับกลุ่มทหารรับจ้าง ถ้าวันไหนโชคดีเขาก็จะได้รับเงิน 4 ถึง 5 เหรียญทอง ยังไงก็ตาม เขาได้ยินมาว่านักเวทย์ฝึกหัดในสถาบันเวทมนตร์สามารถได้รับเงินเท่ากันเพียงแค่เขียนคัมภีร์เวทมนตร์นิดหน่อยและไม่ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงอันตราย

 

มันแตกต่างอย่างชิ้นเชิง

 

ถึงอย่างนั้น  คาร์ลิโด้ ก็ยังพยายามที่จะพัฒนาทักษะเวทมนตร์ของเขาต่อ เขาใช้เงินทั้งหมดของเขาในการวิจัยเวทมนตร์ เขาใช้เงินจำนวนมากในการเดินทางมายังเมืองริเวอร์โควฟจากทางใต้ ระหว่างทางเขายังได้ซื้อหนังสือพื้นฐานเวทมนตร์จากพ่อค้า; มันถูกเขียนโดยนักเวทย์เลเวล 3 หลายๆคนที่ได้ฝึกฝนในสถาบัน ในตอนที่เขามาถึงเมืองริเวอร์โควฟนั้น เขาก็แทบจะไม่เหลือเงินแล้ว

 

เขาไม่มีชื่อเสียงในเมืองริเวอร์โควฟและไม่ได้รับความเชื่อใจจากชาวเมือง ผู้คนมักจะมาหากลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโก้เมื่อพวกเขามีปัญหา ทำให้รายได้ของเขาในช่วง 2-3 วันมานี้น้อยมากๆ

 

เขาได้กินอาหารที่แทบไม่มีรสชาติมาตลอดตั้งแต่ที่มาถึงเมืองริเวอร์โควฟ ภาพของอาหารที่น่าอร่อยนั้นทำให้เขาแทบเป็นบ้า

 

แม้ว่าเขาจะรู้ว่าทักษะเวทมนตร์ของเขานั้นธรรมดามาก แต่เขาก็มั่นใจในเวทย์ใบมีดวายุและไซโคลนที่เขาได้ร่ายมันมานับครั้งไม่ถ้วนตอนที่ทำภารกิจ เมื่อได้ยินว่านักเวทย์ของกลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโก้กลับมา เขาจึงมาเยี่ยมเยือน

 

เขารู้ว่า ลิงค์ นั้นเรียนอยู่ที่สถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟและเขานั้นอ่อนแอกว่ามากในด้านของพื้นฐานเวทมนตร์ ยังไงก็ตาม เขามีความมันใจในทักษะของเขาเมื่อมันถึงเวลาต้องต่อสู้กันจริงๆ ตราบใดที่ ลิงค์ เสียสมาธิระหว่างต่อสู้ เขาก็จะถือไพ่เหนือกว่า

 

ถ้าข่าวการชนะของเขากระจายไปทั่วเมืองริเวอร์โควฟ ชื่อเสียงของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก และปัญหาด้านการเงินของเขาก็จะถูกแก้ในรวดเดียว เขาจึงตัดสินใจที่จะตรงมาที่ฐานของกลุ่มทหารรับจ้าง ยังไงก็ตาม สิ่งที่แย่ที่สุดที่จะเกิดกับเขาถ้าเขาแพ้ในการต่อสู้ก็คือการได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ยังไงก็ตาม เขาไม่ได้คาดคิดว่า ลิงค์ จะใจดีเสนอที่นั่งในโต๊ะกินข้าวให้กับเขา

 

พูดตามหลักเหตุผมก็คือ ลิงค์ ควรจะโจมตีเขาที่ฝ่าเข้ามาในกลุ่มของทหารรับจ้างโดยไม่มีการเตือนใดๆ นี่มันเปรียบได้กับการท้าสู้แบบเปิดเผย!ไม่ใช่ว่าเขาจะต้องโกรธและระเบิดเขาด้วยเวทมนตร์ในตอนที่เขาก้าวเข้ามาในห้องกินข้าวหรอกหรอ?

 

นี่มันแปลกมากๆ!

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset