Advent of the Archmage – ตอนที่ 130: การเผชิญหน้าในความมืด

ในขณะที่พวก ลิงค์ ได้เดินทางไปที่งานเทศกาลนักเวทย์ที่เมืองฮอทสปริง ก็มีรถม้าสีดำอีกคันนึงกำลังมุ่งหน้าไปตามเส้นทางแห่งราชาเพื่อที่จะเข้าร่วมเทศกาลที่โดดเด่นนี้เช่นกัน ถ้าเกิดว่ามีใครซักคนมองส่องเข้าไปในรถม้า พวกเขาคงจะต้องตกใจกลัวดาร์กเอลฟ์2คนที่กำลังนั่งอยู่ข้างในอย่างสบายแน่ๆ

 

หนึ่งในนั้นคือ เฟลิเดีย ขณะที่อีกคนก็คือเพื่อนเก่าของเขาที่อาศัยอยู่ที่ผาลมหอน ถ้า ลิงค์ ได้เห็นดาร์กเอลฟ์คนนี้ เขาจะต้องจำได้เพราะแผลที่ดวงตาข้างซ้ายของเขาอย่างแน่นอน

 

ชื่อของเขาก็คือ ไอโนส ดาร์กเอลฟ์นักฆ่าอัจฉริยะ เขาอายุมากกว่า เฟลิเดีย เพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้นแต่เขานั้นได้รับพลังของนักฆ่าเลเวล 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเขาอาจจะก้าวข้ามผ่านไปถึงเลเวล 5ได้ภายในเวลาอีกไม่ถึงครึ่งปีด้วย

 

“เฟลิ(ชื่อเล่นของเฟลิเดีย)การเคลื่อนไหวของพวกเราที่ป่าเกอแวนท์นั่นก็อันตรายมากแล้วนะ-แล้วการมางานเทศกาลที่มีคนมากมายที่เมืองฮอทสปริงหลังจากที่เพิ่งสร้างเรื่องไปนี่ก็เหมือนกับฆ่าตัวตายเลยนะ!” ไอโนส มีสีหน้าที่เป็นกังวล อันที่จริงคือเขาเกือบจะไม่เอาด้วยแล้วในตอนที่เขาได้ยินแผนของ เฟลิเดีย

 

เฟลิเดีย นั้นแต่งกายในชุดไปรเวทไม่ใช่ผ้าคลุมสีดำที่เขาใส่ตามปกติ เขาได้ผูกผมที่หยักศกเป็นธรรมชาติของเขาให้กลายเป็นทรงหางม้าซึ่งนั่นได้แสดงให้เห็นถึงใบหน้าอันดูมีสเน่ห์อย่างชั่วร้ายของเขาที่ถูกซ่อนเอาไว้ตลอด

 

ถ้าเกิดว่าไม่สนใจดวงตาสีแดงเข้มและผิวที่มีสีซีดของเขา เฟลิเดีย นั้นจะต้องหล่อมากๆอย่างแน่นอนในมาตรฐานของมนุษย์

 

เฟลิเดีย ได้โปะแป้งรองพื้นบางๆลงบนผิวของเขาอย่างระมัดระวัง เมื่อแป้งรองพื้นโดนเข้ากับผิวของเขา ผิวสีซีดๆของเขาก็กลายเป็นผิวที่เปล่งปลั่งสีอมชมพู เขาได้ทามันไปทั่วตัวโดยไม่ปล่อยให้มีส่วนที่ถูกหลงลืมเลยแม้แต่ส่วนเดียว ที่คอ,ใต้เส้นผมและแม้แต่ส่วนของหลังหู

 

จากนั้นเขาก็ส่งมันต่อให้กับ ไอโนส ก่อนที่จะร่ายเวทย์กระจกน้ำเพื่อเช็คว่ามีส่วนไหนที่ถูกมองข้ามไปหรือเปล่า

 

“งานเทศกาลนักเวทย์ของอาณาจักรนอร์ตันเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ที่ดึงดูดผู้คนมากมาย ไม่มีใครที่จะก่อความวุ่นวายหรือรู้สึกตัวถึงพวกเราหรอก ยิ่งไปกว่านั้นนักเวทย์ไม่สามารถหาวัตถุดิบเวทมนตร์ทั้งหมดที่เขาต้องการได้ในที่ๆเดียว-แล้วฉันจะยอมพลาดโอกาสนี้ได้ยังไง?” หลังจากที่เขามั่นใจว่าเขาใส่รองพื้นครบทุกส่วนแล้ว เฟลิเดีย ก็เอาต่างหูคริสตัลทรงกลม 2 อันออกมาและใส่มันเข้าไปในหู หลังจากเขากระพริบตา ดวงตาของเขาก็ได้เปลี่ยนกลายเป็นสีดำ

 

หลังจากผ่านการแต่งหน้าอย่างละเอียด เฟลิเดีย ก็ได้แปลงกายเป็นชายหนุ่มที่มีดวงตาสีดำและมีผมหยักศกสีน้ำตาล ไอโนส ก็แปลงกายเสร็จอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่เขากลับเลือกตาสีน้ำตาลและผมสีทองแทน

 

“ฉันขอบอกไว้ก่อนเลยนะ ถ้าตัวจริงของพวกเราถูกเปิดเผย ฉันจะเป็นคนแรกที่จะออกไปจากเมืองฮอทสปริง ไม่ต้องมาหวังว่าฉันจะช่วยนายเลยนะ” ไอโนส ยังคงไม่พอใจกับแผนนี้

 

เฟลิเดีย มองไปที่เขาด้วยแววตาที่ออดอ้อนและพูด “นี่นายจะทิ้งฉันจริงๆเหรอ?”

 

“ออกไปซะ!” ไอโนส โบกมือปัดด้วยความขยะแขยง

 

เฟลิเดีย หัวเราะก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อันที่จริง พวกเราไม่ได้มาที่นี่เพียงแค่ซื้อวัตถุดิบเวทมนตร์เพียงอย่างเดียวหรอกนะ แต่พวกเรามีภารกิจสำคัญที่ต้องทำให้สำเร็จด้วย”

 

สีหน้าของ ไอโนส ก็ได้เปลี่ยนเป็นจริงจังเช่นกัน “ทำไมนายถึงไม่บอกให้มันเร็วกว่านี้ห้ะ?”

 

“ฉันเพิ่งได้รับข่าวมา นี่เป็นภารกิจที่รับโดยตรงจากท่านราชินี มีข่าวว่าไฮเอลฟ์หนุ่มที่มีความสำคัญมากๆจะมาเข้าร่วมงานเทศกาลนี้ด้วย ภาจกิจของพวกเราคือการฆ่าเขาซะ อลิน่า ก็จะเข้าร่วมกับพวกเราด้วยในครั้งนี้”

 

ตาของ ไอโนส เบิกกว้างเมื่อได้ยินเสียงของ อลิน่า “ไฮเอลฟ์หนุ่มคนนี้สำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

อลิน่า

อายุ29ปี

นักดาบเลเวล5

อาวุธ: ดาบแห่งดวงดาวที่แหลกสลาย

นามแฝง: นักฆ่าแห่งกลุ่มดาว

(หมายเหตุ:เธอคือนักดาบสาวอัจฉริยะของอาณาจักรพาแลคในรอบศตวรรษ!)

 

ไอโนส, เฟลิเดีย และเธอคือสามทหารเสือของกลุ่มพันธมิตรซิลเวอร์มูน ในหมู่พวกเขาทั้งสามคนนั้น อลิน่า แข็งแกร่งที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย

 

เธอมีภูมิหลังที่โดดเด่น พ่อของเธอเป็นพระสังฆราชของตระกูลนอริแกน หนึ่งในสามตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของพันธมิตรซิลเวอร์มูน และยังมีความสำเร็จจากการที่ฆ่ามังกรดำเลือดบริสุทธ์ได้ด้วยตัวเอง ทักษะของเธอผนวกกับความสวยอันไร้ที่ติของเธอและท่าทีที่เย็นชาทำให้เธอได้รับชื่อ “เทพธิดาแห่งความฝัน”

 

ไอโนส นั้นค่อนข้างหลงใหลในตัว อลิน่า ยังไงก็ตาม ด้วยความแตกต่างที่มากเกินไปในสถานะของทั้งสอง เขาจึงได้แต่เก็บความคิดนั้นไว้ในส่วนลึกของจิตใจของเขา

 

เมื่อมาคิดว่าทางอาณาจักรถึงกับต้องส่ง อลิน่า มาในภารกิจนี้-ดูเหมือนว่าภารกิจนี้จะมีความสำคัญมากจริงๆ

 

เฟลิเดีย ยิ้ม “ชื่อของเขาคือ ฟิลลิป อายุ 15 ปี เป็นลูกคนสุดท้องและลูกหัวแก้วหัวแหวนที่สุดของราชินีเอลฟ์ นายคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเขาต้องมาพบกับความโชคร้ายที่เมืองฮอทสปริงกันหล่ะ?” เฟลิเดีย ดูหล่อเป็นพิเศษเมื่อเขาปลอมตัวเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะในตอนที่เขายิ้ม

 

ไอโนส ตาสว่างขึ้นมา “ราชินีจะต้องเสียใจมากแน่ๆ ถ้าเจ้าชายของไฮเอลฟ์ตายที่เมืองฮอทสปริง มันก็เป็นไปไม่ได้ที่อาณาจักรนอร์ตันจะมีคำอธิบายที่ฟังขึ้น แม้ว่าราชินีของไฮเอลฟ์จะปล่อยให้เหตุการณ์นี้ผ่านไป แต่มันก็จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และไฮเอลฟ์ที่กำลังแย่อยู่แล้วแย่ลงไปอีก ซึ่งนั่นอาจทำให้ไม่เกิดการรวมพันธมิตรกันระหว่างสองเผ่าพันธุ์นี้ ยังไงก็ตาม มันจะต้องลงมืออย่างระมัดระวังมาก มันจะทำให้พวกเราตกอยู่ในปัญหาได้อย่างง่ายดาย”

 

“ไม่เลย” เฟลิเดีย หัวเราะ “พวกเราจะไม่เป็นคนลงมือ พวกเราเพียงแค่คอยชักใยอยู่เบื้องหลังและดูพวกมนุษย์ตีกันเองและเกิดความขัดแย้งภายในก็พอ ถ้าเกิด ฟิลลิป ยังรอดมาได้หลังจากความวุ่นวาย พวกเราก็แค่ลงมือปลิดชีพเท่านั้น”

 

 

แม้ว่าแผนการของพวกดาร์กเอลฟ์จะเป็นไปอย่างเงียบเชียบ แต่มันก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาของอาณาจักรนอร์ดิกที่เจ้าความคิดและมีทหารคอยเฝ้าระวังได้

 

ที่พื้นที่ทางการทหารด้านใต้สุดของเมืองฮอทสปริง

 

 

ลานกว้างได้ถูกกีดขวางด้วยกำแพงสูงและประตูที่แข็งแรง อาคารที่อยู่ด้านในลานกว้างนั้นถูกสร้างขึ้นด้วยแร่ที่แข็งแรงที่มีชื่อว่าบลูสโตน และยังมีป้อมเฝ้าระวังถูกตั้งขึ้นในจุดสำคัญทุกๆจุดด้วยและยังมียามคอยเดินเฝ้าระวังลานกว้างเป็นกะอีก ทั้งหมดนั้นมันดูเหมือนกับป้อมปราการของทหารg]p

 

มีห้องโถงรัฐสภาอยู่ที่ชั้นสอง

 

 

มีชายวัยกลางคน 10 คนที่สวมชุดเกราะหนังสีเขียวแกมน้ำเงินอันงดงามและมีมีดอยู่ที่เอวของพวกเขากำลังนั่งเป็นวงกลมอยู่ที่โต๊ะยาว พวกเขามีตราสัญลักษณ์สิงโตที่น่าเกรงขามปักอยู่ที่ชุดเครื่องแบบของพวกเขา

 

พวกเขาดูจริงจังด้วยสีหน้าที่สงบ ออร่าต่อสู้ที่ออกมาจากตัวของพวกเขาก็ดูเข้มข้นและลึกลับ-พวกเขาทุกคนนั้นแข็งแกร่ง

 

มีเอกสารมากมายวางอยู่บนโต๊ะ มีคนดึงพวกมันออกมาบางส่วนและพูด “การไล่ล่าดาร์กเอลฟ์เมื่อเร็วๆนี้ประสบความสำเร็จ พวกเราได้จัดการดาร์กเอลฟ์ทั้งหมดภายในอาณาจักรแล้ว แต่ว่าเพิ่งมีร่องรอยเวทมนตร์ของดาร์กเอลฟ์ที่ป่าเกอแวนท์เมื่อเร็วๆนี้”

 

จากนั้นเขาก็ส่งเอกสารไปให้กับชายที่นั่งอยู่ด้านหน้าของโต๊ะยาว ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหัวหน้า หัวหน้านั้นดูเหมือนจะถูกปกคลุมด้วยออร่าสีเทาจางๆ สวมหน้ากากปกปิดใบหน้าของเขา ขณะที่ชุดเกราะของเขานั้นเป็นสีเขียวแกมน้ำเงิน รูปแบบของชุดและออร่าต่อสู่ที่เขาปล่อยออกมาก็แตกต่างจากคนอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด เขายังสวมผ้าคลุมสีทองเพื่อทำให้เขาดูแตกต่างจากคนอื่นๆด้วย

 

“ท่านดยุค เหตุการณ์เมื่อเร็วๆนี้ที่ป่าเกอแวนท์ได้ถูกบันทึกไว้อย่างละเอียดในเอกสารนี้แล้วครับ ได้โปรดตรวจสอบด้วย”

 

คนที่ถูกเรียกว่าดยุคได้หยิบเอกสารขึ้นมาและเริ่มทำการอ่าน หลังจากผ่านไป 5 นาที เขาก็วางเอกสารลงอย่างช้าๆและถามคำถาม “ฉันสนใจในตัวของนักเวทย์หนุ่มที่ชื่อ ลิงค์ จังเลย พอมาคิดว่าเขาสามารถจัดการกับเนโครแมนเซอร์ที่ซ่อนตัวอยู่ในหอคอยเวทมนตร์ของเขาได้ ฉันสงสัยเลยว่าเขาทำแบบนั้นได้ยังไง”

 

ชายที่ยื่นเอกสารให้กับเขาก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าจะคาดเอาไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นและเขาก็ยื่นเอกสารอชุดใหม่ให้ในทันที

 

“พวกเราได้ทำการสืบสวนอย่างละเอียดเกี่ยวกับภูมิหลังของชายหนุ่มแล้วครับ ท่านสามารถดูมันได้ในเอกสารนี้”

 

ดยุครับเอกสารและอ่านมันด้วยความสนใจ มันประกอบไปด้วยข้อมูลที่มากกว่าก่อนหน้านี้และใช้เวลาของเขาไป 10 นาทีเต็มก่อนที่เขาจะอ่านเสร็จ

 

“ลูกชายคนสุดท้องของ ฮามิลตัน ปรากฏตัวครั้งแรกที่สถาบันเวทมนตร์ระดับต้นเฟลมมิ่ง จัดการ ลอร์ด ด้วยเวทย์ระเบิดเพลิงและ…ถูกยกย่องจากสตรีแห่งแสงในฐานะผู้ถูกเลือก?”ดยุคมองไปที่เอกสารด้วยความสงสัย

 

“อารีฟ นี่เป็นเรื่องจริงงั้นเหรอ?” เขามองไปหาชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆเขา คนผู้นี้คือเสนาธิการที่ดยุคเชื่อถือที่สุด

 

อารีฟ ยักไหล่ของเขา “ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไม่เชื่อเรื่องนี้ครับ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ถูกเลือก แต่มันก็ชัดเจนว่าเขาเป็นนักเวทย์ที่มีพรสวรรค์ ถ้าสตรีแห่งแสงชื่นชอบเขาขนาดนั้นหล่ะก็ เขาก็น่าจะไม่ใช่ศัตรูของเรา”

 

สตรีแห่งแสงนั้นหมายถึง เอร์เรร่า ในสำนักทหารหกเหลี่ยม นี่เป็นเพราะทักษะที่โดดเด่นของเธอในด้านเวทมนตร์ธาตุแสง

 

“ถ้างั้น” ดยุคยิ้มและเคาะนิ้วของเขาลงกับโต๊ะ เขาคิดแปปนึงก่อนที่จะพูด “พวกดาร์กเอลฟ์จะต้องวางแผนอะไรเอาไว้แน่ถ้าร่องรอยของเวทมนตร์ของพวกมันถูกพบที่ป่าเกอเวนท์ ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันสำคัญมากๆ การเคลื่อนไหวของพวกมันถี่ขึ้นมากในช่วงนี้ ถ้าการคาดเดาของฉันไม่ผิดพลาด มันน่าจะเกี่ยวข้องกับเจ้าชาย ฟิลลิป พวกเราจะต้องดูแลเขาอย่างใกล้ชิดและทำให้เขาปลอดภัย”

 

เจ้าชาย ฟิลลิป นั้นมีความสำคัญมากเกินไปในช่วงเวลาสงคราม และมีดาร์กเอลฟ์ซ่อนตัวอยู่ในเงาเช่นนี้ พวกเขาจะต้องเพิ่มการป้องกันอย่างมาก; แค่สำนักทหารหกเหลี่ยมอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ

 

ดยุคคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะบอกเสนาธิการของเขา “ฉันมีบางเรื่องต้องไปคุยกับ โอลาฟ(ผู้บัญชาการของผู้พิทักษ์ป่าหลวง) อารีฟ นายจัดการต่อด้วย”

 

สำนักทหารหกเหลี่ยมนั้นสร้างขึ้นมาจากกลุ่มนักฆ่า พวกเขาเชี่ยวชาญในด้านการลอบสังหาร แต่ไม่เก่งในด้านการต่อสู้ซึ่งๆหน้า ถ้าพวกเขาต้องการยืนยันความปลอดภัยของเจ้าชาย ฟิลลิป จริงๆ พวกเขาอาจจะต้องการความช่วยเหลือจากนักรบที่แข็งแกร่ง ซึ่งผู้พิทักษ์ป่าหลวงนั้นเหมาะสมกับหน้าที่นี้เป็นอย่างดี

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset