Advent of the Archmage – ตอนที่ 140: ฝ่าบาท, ท่านจะถอยแล้วหรอ?

สายลมอันอ่อนโยนได้แบกรับอากาศที่แผดจ้าจากระเบิดเพลิงเอาไว้ ลิงค์ ยืนขึ้นท่ามกลางเศษซากทั้งหมดขณะที่เขาจ้องไปทางที่ อลิน่า หนี เขาต้องการไล่ตามเธอ, แต่ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไปในเวลาไม่นาน

 

อลิน่า มีออร่าต่อสู้อย่างน้อยเลเวล 5; เธอรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาดและเมืองสปริงก็เป็นเหมือนเขาวงกตของซอกซอยอันคับแคบที่เธอสามารถเล็ดร็อดผ่านไปได้อย่างง่ายดายและทำให้เธอหนีไปได้ ต่อให้ ลิงค์ พยายามไล่ตามเธอไป, เขาก็อาจจะจบด้วยการถูกซุ่มโจมตีแทน

 

เขาไม่มั่นใจว่าเขาจะสามารถเผชิญหน้ากับการซุ่มโจมตีของนักดาบหญิงในตอนนี้ได้รึเปล่า

 

ยังไงซะการจับตัวเธอก็ไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด ตอนนี้เขาต้องให้ความสัมคัญกับความปลอดภัยของเจ้าชาย ฟิลิป มันอาจจะดูเหมือนว่าเขาชนะในตอนนี้, แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าจะไม่มีดาร์กเอลฟ์แฝงตัวเข้ามาและพยายามโจมตีเจ้าชายไฮเอลฟ์อีก

 

ด้วยความคิดนี้ในหัว, ลิงค์ กลับหลังหันแล้วตรงไปหาเจ้าชาย

 

เอเลนอร์ ตามเขาไปโดยไม่รู้ตัว ไม่มีเหตุผลอื่นนอกจากความจริงที่ว่าระเบิดเพลิงทั้งสองที่ ลิงค์ เพิ่งจะระเบิดออกมานั้นแข็งแกร่งสุดๆและพวกมันก็โค่นล้มความประทับใจแรกของเธอที่มีต่อนักเวทย์หนุ่มผมดำอย่างสมบูรณ์

 

ในตอนที่เธอพบเขาเมื่อวานนี้, ลิงค์, ในสายตาของเธอ, คือนักเวทย์หนุ่มมากพรสวรรค์, ที่มีการร่ายอันรวดเร็วและเชี่ยวชาญทักษะการเสริมพลัง เขาเป็นคนอบอุ่นและเป็นมิตร; ขณะที่ในเวลาเดียวกันนั้นก็เป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบ มีความน่าอึดอัดแฝงอยู่ในตัวเขา, แต่โดยรวมเราเขาก็เป็นเด็กหนุ่มที่เป็นกันเอง

 

แต่ในตอนนี้, เมื่อพวกเขาถูกโจมตีอย่างกระทันหัน, ลิงค์ ตอบสนองอย่างใจเย็นและรวดเร็วซึ่งได้ช่วยชีวิตของเธอเอาไว้ เขาถึงกับฆ่านักรบมืออาชีพเลเวล 3 ไปหกคนด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ, จากนั้น, เมื่อพวกเขาถูกล้อมด้วยฝ่ายตรงข้ามที่อันตรายกว่าเดิมสามคน, ลิงค์ ก็ยังสามารถรักษาความเยือกเย็นเอาไว้ได้และฆ่าสองในสามของพวกเขาไปและยังบังคับให้อีกคนหนีไปได้โดยไม่ขยับแม้แต่ก้าวเดียว

 

รูปแบบของพลังในการต่อสู้แบบนี้มันช่างน่ากลัวจริงๆ!

 

เอเลนอร์ นึกภาพตัวเองหากอยู่ในสถานการณ์เดียวกับ ลิงค์ และคิดว่าถ้าเธอเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เลวร้ายขนาดนี้, เธอก็อาจจะตายไปแล้วอย่างน้อยสองครั้ง

 

แม้ว่าเธอจะเชี่ยวชาญในเวทย์ลึกลับและในความเป็นจริงแล้วถือว่าเป็นจอมเวทย์ด้วยซ้ำ, แต่เวทย์มนตร์ทั้งหมดที่เธอเรียนรู้มาก็คงจะไม่พอที่จะทำให้เธอยืนหยัดได้ในการต่อสู้ที่รุนแรงแม้ว่าจะแค่ชั่วเสี้ยววินาทีก็ตาม

 

ในการต่อสู้กับดาร์คเอลฟ์นี้, อีกด้านของนักเวทย์หนุ่มได้เปิดเผยกับเธอ – นั่นคือด้านที่เย็นชา, เด็ดเดี่ยว, และอันตราย, และมันก็ทิ้งความลึกซึ้งมากขึ้นไปอีกและความประทับใจนี้คงจะอยู่ในใจของเธอนานกว่าความประทับใจของเธอในตอนที่พบ ลิงค์ ในครั้งแรก

 

เธอเดินตามเขาไปสองสามก้าวก่อนที่เธอจะบังคับให้ตัวเองถอยออกมาและส่ายหัวอย่างอ่อนโยน, ความน่าเหลือเชื่อของเด็กหนุ่มมีอิทธิพลต่อเธอ

 

เธอเองก็เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิญญาณ, ดังนั้นแน่นอนว่าเธอเข้าใจเหตุผลที่อยู่หลังอิทธิพลที่เธอรู้สึกนี้

 

ตอนนี้เขาได้ปลูกความประทับใจอันลึกซึ้งไว้ในหัวใจของฉันแล้ว เอเลนอร์ คิดหลังจากที่ถอนหายใจออกมายาวๆ ฉันกลัวว่าฉันจะไม่สามารถแข็งแกร่งต่อหน้าเขาได้หลังจากนี้

 

เธอรู้ว่าเธอไม่มีวันไปถึงทักษะด้านเวทย์มนตร์ระดับเดียวกับ ลิงค์ ได้, รวมทั้งพลังงานที่บ้าคลั่งและรุนแรงของเขา, หรือความมุ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยวของเขาด้วย วิธีเดียวที่เธอจะสามารถปลดปล่อยตัวเองจากอิทธิพลของ ลิงค์ ได้ก็คือเอาชนะเขาในการต่อสู้ด้วยกลยุทธ์ที่เหมือนกับที่ ลิงค์ เพิ่งจะใช้ไปเมื่อสักครู่นี้ แต่นั่นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย, ดังนั้น เอเลนอร์ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากยอมจำนนต่ออิทธิพลนี้ที่เธอไม่เคยได้รับประสบการณ์มาก่อน

 

เธอหันไปหาศพของนักฆ่าทั้งสองบนพื้นที่อยู่ใกล้ๆ พวกเขาถูกเผาจนเหลือแต่กระดูก, แต่เพราะชุดเกราะของพวกเขาทำมาจากวัสดุที่ดีมากๆ, ร่ายกายของพวกเขาจึงยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมที่พวกเขาตาย คนพวกนี้เกือบจะฆ่าเธอได้แล้ว, ดังนั้นเธอจึงต้องทำความเข้าใจถึงตัวตนและแรงจูงใจของพวกเขาให้กระจ่าง

 

ภายในเวลาไม่กี่วินาทีแรก เอเลนอร์ สังเกตุเห็นว่าศพมี่เลือดสีม่วง

 

“ดาร์คเอลฟ์!” เอเลนอร์ อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ

 

ข่าวการสังหารหมู่ในแกลดสโตนแพร่กระจายไปทั่วทวีปและ เอเลนอร์ ก็รู้ถึงมันเช่นกัน เธอไม่เคยคิดเลยว่าพวกมันจะกล้าหาญจนถึงขนาดแอบเข้ามาในเมืองหลวงและสร้างความวุ่นวายขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตอนนี้ความเป็นปฎิปักษ์กันระหว่างอาณาจักรนอร์ตันและพาริคนั้นคงมีแต่จะรุนแรงขึ้นและฝันรากลึกขึ้นนับจากจุดนี้เป็นต้นไป

 

ในเมื่อพวกแกทั้งคู่เป็นดาร์คเอลฟ์, ฉันก็จะใช้เวทย์มนตร์กับพวกแกโดยไม่ลังเล เอเลนอร์ คงจะหยุดถ้าพวกเขาเป็นนักเวทย์ชาวมนุษย์เพราะผลกระทบของเวทย์ของเธอคงจะทำให้วิญญาณตาย, แต่ตอนนี้เมื่อเธอพบว่าพวกเขาเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเผ่าพันธุ์มนุษย์, เธอก็จะดำเนินการต่ออย่างรวดเร็วโดยไม่กระวนกระวายอะไรเลย

 

เธอเลือกที่จะร่ายเวทย์ใส่ศพของนักเวทย์ เอเลนอร์ โบกคทาของเธออย่างอ่อนโยนและแสงสีม่วงที่ดูเหมือนกับมือวิญญาณสองข้างก็โผล่ออกมาจากปลายคทา มือเหล่านั้นทำการค้นศพและเข้าไปข้างใน, ซึ่งพวกมันได้ดึงลูกแก้วแสงสีขาวสดใสออกมา

 

ผู้ค้นวิญญาณ

เวทย์ลึกลับเลเวล 4

ผล: ดึงข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับชีวประวัติของคนที่ตายไปได้ไม่ถึงสามชั่วโมง

(หมายเหตุ: นี่คือเวทย์ต้องห้ามเพราะมันสร้างความเสียหายอย่างมากต่อวิญญาณของเป้าหมาย)

 

โดยไม่พิจารณาถึงความเสียหายที่เวทย์นี้อาจจะสร้างความเสียหายให้กับวิญญาณของ เฟลิเดีย ผู้โชคร้าย, เอเลนอร์ คว้าลูกแก้วแสงมาไว้ในมือซ้ายของเธอและบังคับมันจนกลายเป็นแหวนเวทย์มนตร์สีทองบนนิ้วของเธอ

 

หลังจากนั้น, เอเลนอร์ ก็รู้สึกได้ว่ามีดวงตาเฝ้ามองเธอจากด้านหลัง, ดังนั้นเธอจึงหันกลับไปและเห็นสายตาตื่นตกใจของ ลิงค์ ที่เห็นภาพการใช้เวทย์มนตร์ดำของเธอ, แม้ว่าเขาจะไม่ได้พยายามเข้ามาห้ามเธอก็ตาม

 

เอเลนอร์ ยิ้มให้ ลิงค์ อย่างงุ่มง่าม เธอรู้ด้วยเหตุผลบางอย่างว่าเขาจะไม่เขามาแทรกแซง พอเห็นว่า ลิงค์ ไม่มีการเคลื่อนไหวในไม่กี่วินาทีต่อมา, รอยยิ้มของเธอก็กว้างขึ้น, และเธอก็ถอยกลับไปอย่างช้าๆและมุ่งหน้าไปที่กองซากปรักหักพังและตึกที่ถูกทำลายไปจนเกือบหมด, ไม่นานนัก, เธอก็หายตัวเข้าไปในซอกซอยโดยไม่ทิ้งร่องรอยเอาไว้เลย

 

การ์ดประจำเมืองมาถึงในเวลาไม่นานนัก, และพวกเขาคงจะไม่ชอบนักเวทย์ลึกลับที่ใช้เวทย์มนตร์ดำ เธอไม่มีทางเลือกนอกจากชิ่งหนีไปก่อนที่พวกเขาจะจับตัวเธอ เธอรู้สึกโกรธดาร์คเอลฟ์พวกนี้ที่เกือบจะฆ่าเธอ, แม้ว่าเธอจะดีใจที่สองในพวกเขาถูกฆ่าไปแล้ว, แต่ยังมีนักดาบหญิงที่วิ่งหนีไปได้เหมือนกับคนขี้ขลาด เธอสาบานด้วยเกียรติของจอมเวทย์ว่าเธอจะใช้เวทย์มนตร์ของเธอตามล่าผู้หญิงคนนั้น

 

ขณะเดียวกัน, ลิงค์ ก็หันกลับมาและตรงไปหาเจ้าชาย ฟิลิป จากนั้น, สายตาของเจ้าชายหนุ่มก็พร่ามัวด้วยน้ำตาและเขาก็รู้สึกมึนงงและสับสนกับทุกๆอย่างที่เพิ่งจะเกิดขึ้น เมื่อเขาได้ยินเสียงเท้าใกล้เข้ามา, เขาก็เงยหน้าขึ้นและเห็น ลิงค์ เขามองเข้าไปในดวงตาของนักเวทย์ด้วยความเคารพและความสำนึกในบุญคุณ

 

“ท่านจอมเวทย์, ขอบคุณที่ช่วยข้าเอาไว้” เจ้าชายพูด, น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเคารพและยำเกรง, แม้ว่าเขาจะฟังดูเป็นทางการก็ตาม

 

เขาดีใจที่รอดมาได้, แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เขาได้รู้ถึงความโหดร้ายในโลกมนุษย์ ความหลงใหลในโลกนี้ของเขาเมื่อก่อนหน้านี้ได้แตกเป็นเสี่ยงๆแล้วในตอนนี้ ทั้งหมดที่เขาต้องการคือกลับไปที่บ้านเกิดของเขา, กลับไปหาความปลอดภัยและความเงียบสงบที่เขารู้จักตลอดชีวิตของเขา

 

เกาะรุ่งอรุณคือทั้งหมดที่อยู่ในความคิดของเขาในตอนนี้

 

“ฝ่าบาท” ลิงค์ พูดอย่างไม่คาดคิด “ท่านกลัวความจริงอันโหดร้ายของโลกนี้หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นหรอ?”

 

“ท่านว่ากระไรนะ?” เจ้าชายตอบกลับ, เขาไม่รู้ว่าจะตอบสนองต่อคำถามที่น่างุนงงนี้ยังไงดี

 

จากนั้น ลิงค์ ก็คุกเข่าต่อหน้า ฟิลิป และจ้องตรงไปที่ดวงตาสีม่วงของเจ้าชาย

 

“ฝ่าบาท” เขาเริ่มพูดอย่างจริงจังที่สุด “มีที่ราบขนาดใหญ่ทางตอนใต้ของทวีปที่สิงโตรับบทบาทเป็นราชาแห่งทุ่งหญ้า พวกมันใช้ชีวิตอยู่ด้วยความภาคภูมิใจ, และในความภาคภูมิใจนั้น, ก็มักจะมีแค่สิงโตตัวผู้ตัวเต็มวัยเพียงหนึ่งตัวเสมอ สิงโตจ่าฝูงมีความภาคภูมิใจที่แข็งแกร่งที่สุดและตั้งกฏกติกากับสิงโตตัวอื่นๆและสัตว์ป่าตัวอื่นๆในทุ่งหญ้า”

 

เจ้าชาย ฟิลิป ไม่รู้เลยว่า ลิงค์ กำลังจะสื่ออะไรกับเรื่องนี้, แต่เขารู้สึกตราตรึงใจกับคำพูดของเขาและฟังเขาอย่างตั้งใจ

 

จากนั้น, ลิงค์ ก็ยื่นมือของเขาออกมาและตบไหล่ที่บอบบางของเจ้าชายหนุ่มก่อนที่จะพูดต่อ

 

“แต่ท่านรู้ไหม, ฝ่าบาท” เขาพูด “สิงโตตัวผู้ทุกตัวจะถูกพ่อของพวกมันผลักดันความกระตือรือร้นและความยึดมั่นในความภาคภูมิใจของพวกมันออกมาก่อนที่พวกมันจะโตเต็มวัย? มันจะถูกบังคับให้อยู่คนเดียวในโลก, ที่พวกมันอาจจะถูกหมารังแก, หรือพวกมันอาจจะถูกบังคับให้กินเนื้อเน่าเสียเพื่อเอาตัวรอด, หรือไม่พวกมันก็อาจจะถูกช้างหรือแรดทำให้แตกตื่น ในความเป็นจริง, บางตัวถึงกับตายก่อนที่จะกลายเป็นสิงโตตัวเต็มวัยด้วยซ้ำ มีแค่ในตอนที่พวกมันผ่านการทดสอบทั้งหมดนี้เท่านั้นพวกมันถึงจะสามารถเรียกความภาคภูมิใจของพวกมันกลับมาได้และเอาชนะจ่าฝูงและทวงคืนตำแหน่งของพวกมันกลับมา ฝ่าบาท, ตอนนี้ท่านก็เหมือนกับสิงโตที่พึ่งจะทิ้งความยึดมั่นในความภาคภูมิใจของท่าน— ท่านกำลังจะวางแผนถอยแล้วหรอ?”

 

เจ้าชาย ฟิลิป รู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดพวกนี้ เขาจะหนีเร็วขนาดนี้เลยหรอ? ใช่, นั่นคือสิ่งที่เขาเพิ่งคิดเมื่อสักครู่นี้ – เขากำลังจะกลับไปหาชีวิตอันสงบสุขและว่างเปล่า เขาจะมุ่งหน้าไปที่เกาะแห่งรุ่งอรุณและเขาก็วางแผนจะใช้ชีวิตที่เหลือของเขาด้วยความปลอดภัยและความสบาย

 

แต่เกาะแห่งรุ่งอรุณเป็นแค่ส่วนเล็กๆของโลกเท่านั้น, และไฮเอลฟ์ก็เป็นแค่หนึ่งในเผ่าพันธ์มากมายที่อาศัยอยู่ในทวีปนี้ ถึงไฮเอลฟ์ทั่วไปจะเลือกใช้ชีวิตในโลกอันสงบสุขของเกาะรุ่งอรุณ, แต่เขาเป็นสมาชิกของราชวงศ์อเมทิส, และเจ้าชายของไฮเอลฟ์

 

เจ้าชายไม่คิดว่าจะได้ความชื่นชมและความเคารพของผู้คนถ้าเขาไม่เคารพความรับผิดชอบของเขาในการปกป้องพวกเขาและนำเกียรติยศมาสู่ราชวงศ์ – นี่คือหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าชายของอาณาจักร

 

และแล้ว, เจ้าชายก็ปาดน้ำตาของเขาขณะที่เขาจ้องไปที่นักเวทย์ที่ดูเหมือนจะมีอายุเท่ากันกับเขา

 

“ข้าขอขอบคุณที่ช่วยชีวิตของข้าเอาไว้” เจ้าชาย ฟิลิป พูดอย่างจริงจัง “ไฮเอลฟ์จะจดจำความกล้าหาญนี้ไว้ตลอดกาลและสรรเสริญการกระทำของท่าน! ขอข้าทราบชื่อของท่านได้ไหม?”

 

คำพูดพวกนี้ได้พิสูจน์ว่าเจ้าชาย ฟิลิป ไม่ใช่เด็กชายขี้กลัวที่เขาเป็นเมื่อสักครู่นี้อีกต่อไปแล้วและตอนนี้เขาพร้อมที่จะก้าวขึ้นมาทวงคืนอำนาจและเกียรติยศของเขาในฐานะเจ้าชายแห่งไฮเอลฟ์

 

“ข้าชื่อ ลิงค์ มอรานี่, ขอรับฝ่าบาท” ลิงค์ ตอบด้วยรอยยิ้ม “ข้าเป็นนักเวทย์จากสถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟ”

 

“ข้าชื่อ ฟิลิป ร็อดดิก” เจ้าชายพูด “ลูกชายลำดับสามของราชินีแห่งเกาะรุ่งอรุณ”

 

ลิงค์ ยื่นมือของเขาให้เจ้าชาย ฟิลิป, ซึ่งเจ้าชาย ฟิลิป ก็จับมันขณะที่ ลิงค์ ช่วยดึงให้เขายืนขึ้นอีกครั้ง

 

นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ถูกบันทึกเอาไว้ในหนังสือของทวีปฟิรุแมน มันเป็นช่วงเวลาแห่งการรวมรากฐานสำหรับความเป็นพันธมิตรอันทรงเกียรติระหว่างมนุษย์และไฮเอลฟ์ซึ่งเป็นพันธ์มิตรที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยอาณาจักรแห่งแสงปัดเป่าฝ่ายมืดในอนาคต

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset