Advent of the Archmage – ตอนที่ 153: นายคิดจะไปไหนกัน?

แม้ว่าเขาพร้อมที่จะลงมือแล้ว แต่ ลิงค์ ก็ยังคงเลือกเวลาที่เหมาะสมอย่างระมัดระวัง

 

เขามีรอยยิ้มจางๆในขณะที่นั่งอยู่บนโต๊ะอย่างใจเย็น มันดูไม่เหมือนกับคนที่เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้เสี่ยงตายเลย หลังจากที่บาดแผลของ ไคลน์ ถูกรักษาอย่างเหมาะสมจากคนใช้ ลิงค์ ก็ยื่นมือของเขาออกมาเคาะลงไปที่โต๊ะเบาๆ จากนั้นเขาก็หันไปทางดาร์กเอลฟ์

 

“สุภาพบุรุษทุกท่าน” ลิงค์ พูด อย่างช้าๆและชัดเจน “ขอฉันทราบชื่อของคนที่พวกนายจะแก้แค้นแทนหน่อยได้ไหม? เฟลิเดีย? ไอโนส? หรือว่านักดาบ อลิน่า?”

 

เห็นได้ชัดว่าดาร์กเอลฟ์ทั้งสามมีปฏิกิริยากับชื่อสุดท้าย นักรบ โนริซ่า ก้าวออกมาข้างหน้าในทันทีพร้อมกับดาบที่เปล่งแสงสีน้ำเงินเข้ม และออร่าต่อสู้หนามสีครามก็ถูกใช้อยู่เช่นกัน

 

“ฟังให้ดีๆนะ ไอสารชั่ว” เขาพูด “พวกเรามาแก้แค้นให้กับนายหญิง อลิน่า!”

 

“อ้า งั้นพวกนายก็คือหน่วยพิเศษของเจ้าชาย นอริแกน นั่นเอง” ลิงค์ ตอบ “ช่างมันละกัน เตรียมตัวตายได้แล้ว!”

 

ในตอนนั้นเอง ลิงค์ ก็ได้เปิดการโจมตี! นกหวีดทั้ง 3 ปรากฏขึ้นเล็งไปที่ดาร์กเอลฟ์ทั้งสามในทันที ลิงค์ ได้แอบสร้างโครงสร้างเวทมนตร์ของเวทย์นกหวีดอย่างเงียบๆในระหว่างที่เขาคุยกับดาร์กเอลฟ์เพื่อถ่วงเวลา เขาไม่เพียงแค่ร่ายนกหวีด 1 อันภายในเวลาอันสั้นเท่านั้น แต่เขายังร่ายหนึ่งอันต่อดาร์คเอลฟ์หนึ่งคนด้วย!

 

ในตอนนั้นคทาของเขายังคงวางอยู่บนโต๊ะเฉยๆ-แน่นอน ใครบอกกันหล่ะว่านักเวทย์จะต้องถือคทาอยู่ในมือเพื่อที่จะร่ายเวทย์? ลิงค์ สามารถควบคุมมันได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ใช้มานาของเขาโดยไม่ต้องแตะมันโดยตรงเลยด้วยซ้ำ

 

นกหวีดทั้งสามพุ่งผ่านอากาศด้วยเสียงแหลมสูง ความเร็วของพวกมันนั้นไม่สามารถประเมิณได้ มันเร็วมากจนมันอยู่ห่างจากพวกดาร์กเอลฟ์ทั้งสามแค่ไม่ถึงฟุตภายในเวลาเสี้ยววินาที

 

ลิงค์ ได้ร่ายนกหวีดเวอร์ชั่นปรับปรุงที่เขากับ เอเลียร์ด ได้คิดค้นมันขึ้นมาร่วมกัน พลังของนกหวีดในเวอร์ชั่นใหม่นั้นมีพลังมากกว่าในรูปแบบปกติถึง 3 เท่า

 

ดาร์กเอลฟ์ทั้งสามไม่ได้คาดการณ์ไว้ว่าจะโดนโจมตีอย่างเฉียบพลัน พวกเขาทั้งหมดนั้นไร้การป้องกันและไม่มีเวลาแม้แต่จะโต้กลับ ทั้งหมดที่พวกเขาสามารถทำได้ก็คือการกางโล่ป้องกัน

 

แม้ว่าออร่าหนามสีครามของ โนริซ่า จะสามารถปัดป้องการโจมตีได้บางส่วน แต่มันก็ใช้ได้ดีกับการต่อสู้ระยะประชิดเท่านั้นและไม่ใช่กับการโจมตีระยะไกลอย่างเช่นเวทย์ของ ลิงค์ ดังนั้นเขาจึงยกดาบขึ้นมาป้องกันนกหวีดที่กำลังพุ่งเข้ามาตามสัญชาติญาณ

 

อีกด้านหนึ่ง นักเวทย์ พาร์สัน เขาได้ร่ายเวทย์โล่เลเวล 4 รอบตัวเขาในทันทีเพื่อป้องกันตัวเอง

 

มีเพียงนักฆ่า เฮเดล เท่านั้นที่คิดว่าเขาจะฉลาดพอที่จะหลบการโจมตีของ ลิงค์ ได้ เขาเคลื่อนที่พริบตาไปด้านข้าง โดยหวังว่าจะหลบไปจากนกหวีดของ ลิงค์ ได้

 

ปัง! ปัง! ปัง!

 

นกหวีดทั้งสามระเบิดออกแทบจะพร้อมกันและมันก็ตามมาด้วยเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ว่าแต่, ใครกันหล่ะที่เป็นคนร้อง? นั่นไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจากดาร์กเอลฟ์เพียงคนเดียวที่มั่นใจในความสามารถของตัวเองว่าเขาจะสามารถหลบการโจมตีของ ลิงค์ ได้- เฮเดล

 

ใช่แล้ว เฮเดล เป็นนักฆ่าเลเวล 5 และเขาก็รวดเร็วมากๆ แต่เขาก็ยังเร็วไม่พอเมื่อเทียบกับความเร็วในการตอบสนองของ ลิงค์

 

ในตอนแรก ลิงค์ นั้นได้เล็งเป้าหมายของนกหวีดแต่ละอันไปที่ดาร์กเอลฟ์แต่ละคนในตอนที่เขาร่ายเวทย์ และพวกเขาทั้งสามก็รู้สึกถึงจิตสังหารของ ลิงค์ พวกเขาจึงเริ่มที่จะทำการป้องกันตัวเอง แต่ในตอนที่พวกดาร์กเอลฟ์เริ่มทำการป้องกันตัวนั่นเองที่ ลิงค์ ได้เปลี่ยนเป้าหมายของนกหวีดทั้งสามในตอนสุดท้าย-เขาเล็งพวกมันทั้งหมดไปที่คนที่มีการป้องกันอ่อนแอที่สุด เฮเดล

 

ลิงค์ จำได้ว่ากลยุทธ์สงครามที่เป็นที่รู้จักกันดีในชีวิตก่อนของเขาบอกไว้ว่า คุณจะต้องทำสิ่งที่ตรงข้ามกับสิ่งที่ศัตรูคิดไว้เสมอเพื่อที่จะชนะสงครามหรือการต่อสู้ เขาได้ใช้หลักการนั้นเมื่อสักครู่เพื่อที่จะโจมตีดาร์กเอลฟ์โดยที่ไม่ทันตั้งตัว

 

ลิงค์ อาจจะไม่ชำนาญพอที่จะทำแบบนี้กับเวทย์อื่นในตอนนี้ แต่เขานั้นได้ใช้เวทย์นกหวีดมาเป็นเวลานานจนเขาเข้าใจมันอย่างลึกซึ้งแล้ว

 

ลิงค์ ไม่ได้สั่งให้นกหวีดทั้ง 3 ไล่ตาม เฮเดล ไป แต่เขากลับสั่งมันไปยังทิศทางที่เขาคาดว่า เฮเดล จะพุ่งไปแทนและเขาก็ระเบิดมันที่นั่น!

 

เป็นเวลาชั่วขณะนึงที่ทั้งห้องโถงสว่างไปด้วยเปลวเพลิงจากการระเบิดและเศษเหล็กทั้งหลายก็กระจายไปรอบตัวของ เฮเดล, เฮเดล นั้นได้สวมชุดเกราะหนังป้องกันเวทมนตร์แบบบางซึ่งมันปกป้องเขาจากแรงระเบิดส่วนใหญ่ได้ แต่มันก็ไม่ได้ปกป้องเขาจากเศษเหล็กนับไม่ถ้วนที่เกิดจากการระเบิดเลย

 

เศษเหล็กนับพันเจาะทะลุผ่านเกราะของ เฮเดล และผิวหนังของเขา ตอนนี้ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยแผลเหวอะหวะในขณะที่หน้าของเขาก็เต็มไปด้วยเลือดจากบาดแผล ไม่เพียงแค่มีเลือดไหลออกจากตัวเขาในทุกส่วนเท่านั้น แต่ดวงตาทั้งสองข้างของเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปกับรู 2 รูที่มีเลือดไหลออกมาไม่หยุด

 

อย่างที่คิดไว้ นักฆ่าเลเวล 5 มีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดที่แข็งแกร่ง แม้ว่าบาดแผลของเขาจะร้ายแรงมาก แต่ เฮเดล ก็ยังสามารถยื้อชีวิตและรอดพ้นความตายมาได้ เขายังคงยืนได้อยู่แม้ว่าในตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของเขาจะบอดไปแล้ว ลิงค์ น่าจะไม่ต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากเขาแล้วนับจากนี้ และเขาก็หายใจได้สะดวกขึ้นเล็กน้อยเพราะศัตรูที่อันตรายได้ถูกจัดการไปแล้ว 1 ใน 3คน

 

ในตอนนั้นเองนักเวทย์ พาร์สัน และนักรบ โนริซ่า ก็เริ่มโต้กลับ

 

แม้ว่าพวกเขาจะอึ้งไปซักพักจากการโจมตีที่ไม่คาดฝันของ ลิงค์ แต่พวกเขาก็ไม่มีเวลาที่จะช่วยเหลือ เฮเดล หลังจากที่พวกเขารู้สึกตัวว่าโดน ลิงค์ หลอกแล้ว พวกเขาก็เปลี่ยนเข้าสู่โหมดจู่โจมและพุ่งเข้ามาหา ลิงค์ ในทันที

 

โนริซ่า ใช้สกิลต่อสู่เพื่อพุ่งเข้ามาหา ลิงค์ เขาไม่ได้มีโล่อยู่กับตัว แต่ว่าเขาสวมเกราะโซ่แบบเบาไว้และมีการป้องกันจากออร่าหนามสีคราม ในตอนนั้น เขาเหมือนกับรถศึกสงครามที่ทะลวงผ่านทุกอย่างที่อยู่ในเส้นทางของเขา-โต๊ะ, เก้าอี้และแผ่นไม้บนพื้นทุกอย่างกลายเป็นชิ้นๆในเส้นทางที่เขาผ่าน

 

เขาอยู่ห่างกับ ลิงค์ เพียงแค่ประมาณ 70 ฟุต-ด้วยความเร็วขนาดนี้ แม้ว่าจะมีเครื่องเรือนของห้องโถงอยู่ในทางของเขา แต่ โนริซ่า ก็สามารถไปถึงตัว ลิงค์ ได้ในเวลาไม่ถึงวินาที

 

ในขณะเดียวกัน พาร์สัน ก็ได้ถอยไปอยู่ข้างหลังนักรบ โนริซ่า จากนั้นเขาก็เริ่มสร้างโครงสร้างเวทมนตร์ ด้วยความช่วยเหลือจาก โนริซ่า เขาน่าจะมีเวลามากพอที่จะร่ายเวทย์อันทรงพลังได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะใช้เวทย์เลเวล 3 หอกน้ำแข็ง!

 

เขานั้นคุ้นเคยกับเวทย์นี้มากที่สุด ดังนั้นเขาจึงสามารถร่ายมันได้อย่างรวดเร็วภายในเวลา 0.4 วินาที แถมเขายังปรับปรุงมันด้วยเวทย์ระดับสูงสุดด้วย ดังนั้นพลังของมันจึงเพิ่มขึ้นเป็นเลเวล 4 ทำให้มันกลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่ไม่สามารถคาดเดาได้

 

ในการเผชิญหน้ากับการโต้กลับของดาร์กเอลฟ์ทั้งสอง ลิงค์ ได้ทำ 2 อย่าง

 

อย่างแรกคือ เขาเปิดใช้งานเอเดลไวซ์ด้วยแหวนเวทมนตร์ของเขา เวทย์ป้องกันเลเวล 4 นี้ไม่ใช่ส่วนสำคัญ แต่ ลิงค์ ได้เปิดใช้งานมันไว้ก่อนเผื่อในกรณีฉุกเฉิน แม้ว่ามันอาจจะไม่สามารถป้องกันการโจมตีของดาร์กเอลฟ์ได้ทั้งหมด แต่สนามพลังก็น่าจะทำให้มันช้าลงและลดพลังการทำลายของมันลงได้ถ้าเกิดว่ามันผ่านโล่มาได้ ซึ่งนั่นจะทำให้เขามีเวลาในการตอบโต้เพิ่มขึ้น

 

อย่างที่สอง เขาได้เปิดใช้งานเวทย์เลเวล 5 ที่เขาสลักเอาไว้ในอักขระวิญญาณ-หัตถ์วัลแคน!

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ ลิงค์ ใช้อักขระวิญญาณในการต่อสู้จริง มันรู้สึกมหัศจรรย์มาก ในตอนที่เขาคิดที่จะร่ายเวทย์ มันก็โผล่เข้ามาในจิตใจของเขาทำให้เขาตกใจอยู่พักนึงและโครงสร้างเวทมนตร์อันซับซ้อนของหัตถ์เปลวเพลิงที่ได้ถูกดัดแปลงโดยเวทย์ระดับสูงสุดก็ปรากฏขึ้นที่ปลายคทาของเขาในทันที

 

โดมิงโก้คริสตัลเลเวล 5 ที่อยู่ที่ปลายคทาของ ลิงค์ นั้นเต็มไปด้วยธาตุไฟข้างใน หลังจากที่โครงสร้างเวทมนตร์ของหัตถ์วัลแคนปรากฏขึ้นข้างๆมันธาตุไฟที่อยู่ภายในคริสตัลก็ได้ไหลเข้าไปในโครงสร้างเวทมนตร์อย่างรวดเร็ว และภายในชั่วพริบตา เวทมนตร์เลเวล 5 อันน่าสะพรึงกลัวก็เสร็จสมบูรณ์ มันใช้เวลาของ ลิงค์ ไปไม่ถึง 0.1 วินาที-ซึ่งน้อยยิ่งกว่าการกระพริบตาเสียอีก!

 

ในตอนนั้น โนริซ่า อยู่ห่างจาก ลิงค์ 30 ฟุต ในตอนที่เขาเห็นมือยักษ์ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา มันเปล่งแสงสีขาวจางๆและขนาดของมันก็ใหญ่มากๆ นิ้วแต่ละนิ้วของมันนั้นใหญ่กว่าต้นขาของเขาซะอีกและมันก็ถูกล้อมรอบไปด้วยแหวนเปลวเพลิงสีแดง

 

พอมือยักษ์ปรากฏขึ้น มันก็พุ่งเข้าใส่ โนริซ่า ด้วยพละกำลังอันน่าสะพรึงกลัวและมันก็ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นด้วยความเร็วที่ผิดกับรูปร่างของมัน แม้ว่ามันจะยังไม่ถึงตัวเขา แต่ โนริซ่า ก็สามารถรับรู้ได้ถึงคลื่นความร้อนที่แผ่ออกมาจากมือและนั่นก็ทำให้ขาของเขาสั่นไปด้วยความกลัว

 

นี่มันเวทย์บ้าอะไรกันเนี่ย? ตอนนี้ โนริซ่า หน้าซีดเป็นไก่ต้มและมีเพียงความคิดเดียวในหัวของเขา-เผ่น!

 

แต่ไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถหนีจากหัตถ์วัลแคนได้ ด้วยความที่เกือบทั้งหมดของมันสร้างขึ้นมาจากธาตุไฟ ซึ่งธาตุไฟนั้นไม่มีน้ำหนัก ดังนั้นมันจึงไม่มีแรงเฉื่อย เพราะฉะนั้นมันจึงสามารถเร่งความเร็วดั่งพายุได้ภายในชั่วพริบตา และมันก็ยังสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างรวดเร็วตามที่ ลิงค์ ต้องการโดยไม่ติดขัดอีกด้วย หัตถ์วัลแคนนั้นอาจจะมีขนาดที่ใหญ่โตมโหฬาร แต่มันก็ยังว่องไวและรวดเร็วจนน่าตกใจ

 

ภายในเวลาไม่นาน นักรบ โนริซ่า ก็ถูกจับอยู่ภายในกำมือของหัตถ์เปลวเพลิงยักษ์!

 

หัตถ์วัลแคนนั้นใหญ่โตจนถึงขนาดที่ว่าตัวของนักรบนั้นดูเหมือนกับหนูตัวเล็กๆไปเลย ตอนนี้เขาถูกเปลวเพลิงกลืนกินอย่างสมบูรณ์และไม่มีใครสามารถเห็นร่องรอยของเขาได้จากภายนอก

 

ในตอนนั้น ทุกอย่างที่ โนริซ่า สามารถเห็นได้มีเพียงแค่ทะเลสีแดงของเปลวเพลิงที่อยู่รอบๆตัวเขาเท่านั้น เขาพบว่าเขาไม่สามารถขยับตัวได้เพราะแรงกดอันมหาศาลของหัตถ์เปลวเพลิง และสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือความเร็วที่มันค่อยๆบีบเขาแรงขึ้นเรื่อยๆ

 

“ไอบ้านั่นมันคิดจะย่างฉันจนตาย!” จากนั้น โนริซ่า ก็ได้รวบรวมกำลังและพลังงานทั้งหมดเพื่อทำให้ออร่าหนามสีครามระเบิดออกและในทันใดนั้นออร่ารอบๆตัวเขาก็เข้มข้นขึ้นกว่าความเข้มปกติถึง3เท่า

 

ปัง!

 

ผลก็คือ โนริซ่า ไม่ได้รับบาดเจ็บเลยซักนิดเดียว ด้วยการระเบิดออร่าต่อสู้ของเขา เขาได้อัดและทำให้ธาตุไฟที่อยู่ในหัตถ์วัลแคนเลเวล 5 แตกกระจาย!

 

แต่ก็ไม่ใช่ว่า โนริซ่า จะไม่เสียอะไรเลย ชุดของเขาถูกเผาจนกลายเป็นผ้าขี้ริ้ว และเกราะโซ่ต่อต้านเวทมนตร์ของเขาก็ส่องประกายสีแดงและเกือบที่จะถูกทำลาย ผมของเขาถูกเปลวเพลิงกลืนกินไปจนหมดและทั่วทั้งร่างของเขาก็กลายเป็นสีดำด้วยเขม่า

 

ในตอนนี้ มันไม่ใช่แค่เขาไม่สามารถพุ่งต่อไปได้อีกแล้วเท่านั้น แต่เขายังใช้พลังงานทั้งหมดในการคุมสติเอาไว้ภายใต้อุณหภูมิอันร้อนแรงอีกด้วย ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน เขาก็ต้องใช้เวลาซักพักในการฟื้นฟูสติก่อนทำการโจมตีอีกครั้ง

 

ณ จุดนี้ ในที่สุดนักเวทย์ พาร์สัน ก็ร่ายเวทย์หอกน้ำแข็งสำเร็จ หอกน้ำแข็งหมุนในตอนที่มันถูกยิงออกจากปลายคทาของเขาและพุ่งไปหา ลิงค์

 

หอกน้ำแข็งนั้นยาวประมาณ 7 ฟุตและหนาเหมือนกับไข่ไก่ มันหมุนอย่างรวดเร็วในตอนที่มันพุ่งไปหา ลิงค์ ด้วยความเร็วอันน่าสะพรึงกลัว ถ้า ลิงค์ โดนโจมตีด้วยหอกนี้ แม้กระทั่งโล่เอเดลไวซ์เลเวล 4 ก็คงไม่สามารถปกป้องเขาจากแรงกระแทกได้ทั้งหมด และนั่นก็จะเป็นการเปิดโอกาสให้ดาร์กเอลฟ์โจมตีเพิ่มเติมด้วยการโจมตีอื่นอีก

 

แต่ ลิงค์ ยังคงมีวิธีการจัดการในแบบของเขาอยู่

 

อีกครั้งหนึ่งที่เขาใช้งานอักขระวิญญาณและก็ชะงักไปพักนึง จากนั้นโครงสร้างของเวทย์หัตถ์วัลแคนก็ปรากฏขึ้นที่ปลายคทาของเขา จากนั้นธาตุไฟที่ถูกทำให้กระจัดกระจายด้วยฝีมือของ โนริซ่า เมื่อซักครู่นี้ก็ได้ถูกรวบรวมและเกิดเป็นหัตถ์เพลิงยักษ์อันใหม่ขึ้น

 

หอกน้ำแข็งนั้นเพิ่งมาได้เพียงแค่ครึ่งทางของมันเท่านั้นในตอนที่หัตถ์วัลแคนอันใหม่ก่อร่างขึ้นสำเร็จ และพวกมันทั้งสองก็ปะทะกันเกิดขึ้นเป็นระเบิดจากการปะทะกันของธาตุ

 

ในตอนแรกนั้นหัตถ์วัลแคนเปล่งแสงสีจางๆ แต่พอมันปะทะกับหอกน้ำแข็ง มันก็ได้ปล่อยระเบิดแสงสว่างจ้าออกมา จากนั้นหอกน้ำแข็งก็ละลายกลายเป็นไอในทันที

 

คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้อีกหล่ะเมื่อเวทย์น้ำแข็งเลเวล 3 ปะทะกับเวทย์ไฟเลเวล 5?

 

ในตอนที่หอกน้ำแข็งละลาย นิ้วของหัตถ์วัลแคนก็ขดเหมือนกับลิ้นของวัวและกลืนกินนักรบ โนริซ่า เข้าไปในมือในทันที

 

จากนั้น ลิงค์ ก็เร่งอุณหภูมิของหัตถ์วัลแคนขึ้นในทันทีอย่างไม่ลังเล โดยเฉพาะส่วนฝ่ามือ จากนั้นหัตถ์เปลวเพลิงก็ส่องแสงสว่างอย่างมากจนแทบจะทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงตาบอด

 

ซึ่งนั่นก็หมายความว่าอุณหภูมิของหัตถ์วัลแคนนั้นได้พุ่งสูงไปจนถึงจุดหลอมเหลว!

 

ในครั้งนี้ ไม่มีวิธีไหนที่ โนริซ่า จะหนีออกจากเงื้อมมือของหัตถ์วัลแคนได้อีกแล้ว เวทมนตร์นั้นปรากฏขึ้นอีกครั้งอย่างรวดเร็ว-ภายในเวลา 0.2 วินาที-ซึ่งเขายังไม่ทันได้ฟื้นตัวจากการโจมตีก่อนหน้านี้เลย

 

จากนั้นเสียงร้องโหยหวนก็ดังออกมาจากภายในของหัตถ์วัลแคน มันเป็นเสียงกรีดร้องที่น่ากลัว แต่เพียงแค่แปปเดียวเท่านั้นมันก็หยุดลง

 

ไม่ต้องบอกเลยว่ามันคือเสียงของ โนริซ่า ที่ถูกเผาจนตาย

 

ในตอนนี้ จากดาร์กเอลฟ์ 3 คน คนนึงตาย อีกคนไม่สามารถขยับได้ มีเพียงแค่นักเวทย์คนเดียวเท่านั้นที่ยังคงยืนอยู่  ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน 3 วินาที-มันคือเวลาที่คนทั่วไปหายใจเข้าและหายใจออก!

 

1 วินาทีผ่านไป หัตถ์วัลแคนได้แบมือออกมาอีกครั้ง ซึ่งมีร่างที่ไหม้เกรียมที่ดูเหมือนกับก้อนถ่านใหญ่ๆกลิ้งออกมา ในตอนที่ศพกระแทกกับพื้น มันก็แตกจนกลายเป็นชิ้นเล็กๆ-นักรบเลเวล 5 อันทรงพลังได้กลายเป็นเพียงแค่กลุ่มก้อนของถ่านและขี้เถ้าแล้ว

 

วาร์ตัน ถึงกับกลืนน้ำลายในตอนที่เห็นภาพอันน่ากลัวเบื้องหน้าของเขานี้ ตอนนี้เขารู้ตัวแล้วว่าน้องชายของเขาเมตตาต่อเขาแล้วในตอนที่เขาโจมตี ลิงค์ เมื่อตอนกลางวัน

 

ในขณะเดียวกัน ไคลน์ ก็ทำตาโตอย่างกับไข่ห่านในตอนที่เขาจ้องมองน้องคนเล็กของเขาที่ไม่ได้ขยับออกจากโต๊ะกินข้าวเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งนั่นทำให้อาหารมื้อเย็นไม่ถูกรบกวนเลยสักนิด เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าน้องชายของเขาแข็งแกร่งขนาดไหนในตอนนี้

 

ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ไคลน์ เพิ่งจะแพ้นักฆ่าอย่างหมดรูปในเวลาเพียงไม่กี่วินาที และนักฆ่าก็ดูเหมือนจะไม่ได้ใช้แรงมากมายเลยด้วยซ้ำ ส่วน นอริซ่า นั้นเขาเป็นคนสนิทของตระกูล นอริแกน ที่มีออร่าหนามสีคราม แต่แล้ว ลิงค์ ก็สามารถจัดการเขาได้โดยไม่ต้องแตะตัวเขาเลยแม้แต่นิดเดียว-ไม่ต้องพูดถึงความจริงที่เขายังไม่ได้ลุกจากเก้าอี้เลยนะ!

 

นี่มันพลังอะไรกัน? ทำไม ลิงค์ ถึงแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ภายในเวลาสั้นๆ? มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในใจของ ไคลน์ และเขาก็ไม่สามารถหาวิธีที่จะอธิบายมันได้

 

ไม่เพียงแค่เขาจะตะลึงในพลังของนักเวทย์ชาวมนุษย์เท่านั้น แต่เขายังกลัวจนตัวสั่นอีกด้วย หัตถ์วัลแคนได้ทำลายจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของ พาร์สัน ไปจนหมด มันเป็นเวทย์ที่น่าจะอยู่ในระดับอย่างน้อยก็เลเวล 5 แต่นักเวทย์ชาวมนุษย์นั่นกลับร่ายมันได้ในทันทีอีก! นี่มันเกินไปกว่าที่ พาร์สัน จะจินตนาการเอาไว้ และเขาก็ไม่เคยเจอกับการโจมตีที่น่ากลัวแบบนี้มาก่อน!

 

เขาจะสามารถจัดการกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?

 

“ถอย!” พาร์สัน ตะโกนใส่นักฆ่า เฮเดล จากนั้นเขาก็พุ่งออกไปข้างนอกห้องโถงใหญ่ของปราสาทแบบไม่รอใคร เขาไม่ได้กลัวความตาย แต่เขาต้องมีชีวิตรอด เพื่อที่เขาจะได้นำข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ไปรายงานต่อที่ป่าทมิฬ

 

แม้ว่า เฮเดล จะตาบอดอย่างสมบูรณ์และร่างกายก็ถูกเจาะไปทั่ว แต่เขาก็รู้ว่า โนริซ่า ถูกฆ่าจากเสียงที่เขาได้ยิน และเขายังรับรู้ด้วยว่า พาร์สัน กำลังหนี ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะหนีเช่นกัน เขาเดินอย่างโซเซพยายามที่จะวิ่งออกไปจากห้องโถง แต่เขาก็ไปได้เพียงไม่กี่ก้าวก่อนที่เขาจะล้มหน้าฟาดลงไปกับพื้น

 

เขาพยายามที่จะลุกขึ้นแต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอย่างนั้น นกหวีดอีกอันก็ได้ระเบิดใส่ต้นขาของเขา ทำลายกระดูกของเขาในทันที ความเจ็บปวดอันรุนแรงแล่นผ่านไปทั่วร่างกายของเขา สิ่งที่ เฮเดล ทำได้มีเพียงแค่กอดขาของเขาและร้องด้วยความเจ็บปวด เขาไม่ใช่จ้าวแห่งความมืดอย่างที่เขาเคยเป็นอีกต่อไปแล้ว

 

ในเวลาเดียวกันนั้น พาร์สัน ก็ได้ไปถึงข้างนอกห้องโถง เขาได้ออกจากระยะการมองเห็นของ ลิงค์ แล้ว แม้กระทั่งความมั่นใจของเขาก็ป่นปี้และเขาคิดได้แค่ว่าจะหนีให้ห่างจากนักเวทย์ชาวมนุษย์คนนี้ให้ไกลที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

 

เขาไปที่หัวมุมที่อยู่ไกลที่สุดและเริ่มร่ายเวทย์บิน- เหยี่ยวขี้เถ้าเลเวล 3 เขาจะไม่อยู่ที่นี่และต้องประสบชะตากรรมเดียวกับ โนริซ่า และ เฮเดล เขาจะหนีจากนักเวทย์ชาวมนุษย์อันน่ากลัวโดยบินขึ้นไปบนฟ้า!

 

2 วินาทีต่อมา เมื่อเวทย์เสร็จสมบูรณ์ กลุ่มควันสีเทาก็ก่อร่างขึ้นเป็นนกยักษ์ พาร์สัน รีบขึ้นไปขี่มันและเหยี่ยวก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว ในที่สุด พาร์สัน ก็รู้สึกโล่งใจเพราะเขาคิดว่าเขาออกจากระยะของนักเวทย์ชาวมนุษย์แล้ว แต่หลังจากที่เขาถอนหายใจไปได้ไม่ถึงวินาทีเขาก็เห็นนักเวทย์เดินออกมาจากห้องโถงใหญ่

 

ในตอนนี้เหยี่ยวขี้เถ้ายังบินไปได้สูงไม่ถึง 30 ฟุตเลย

 

“นายคิดจะไปไหนกัน?” ลิงค์ ตะโกน

 

เขาชี้คทาขึ้นฟ้า หลังจากนั้นหัตถ์วัลแคนก็ปรากฏขึ้นในทิศทางนั้นในทันที ภายในชั่วพริบตาหัตถ์เปลวเพลิงก็ได้จับเหยี่ยวขี้เถ้าไว้ในกำมือและดึงมันกับนักเวทย์ลงมาสู่พื้น

 

นายคิดว่าฉันจะปล่อยให้นายบินหนีออกไปจากเงื้อมของฉันงั้นเหรอ พาร์สัน? ไม่มีวันซะหรอก!

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset