Advent of the Archmage – ตอนที่ 159: แรงจูงใจทางการเงิน (ส่วนที่ 2)

หูของ วาร์เตอร์ ผึ่งขึ้นมาในทันทีที่เขาได้ยิน ไรไล พูดคำว่า “อาจารย์” รอยยิ้มเป็นมิตรปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาและเขาก็รีบตรงไปหาคนที่เด็กสาวเพิ่งเรียกว่าอาจารย์

“ท่านครับ” เขาพูดอย่างเคารพ “เป็นเกียรติจริงๆที่ได้พบท่าน”

วาร์เตอร์ จ้องไปที่ชายที่อยู่เบื้องหน้าเขาขณะที่เขาพูด สิ่งที่เขาเห็นก็คือผู้ชายผมดำคนนึงที่ดูหนุ่มมากๆและมีดวงตาสีดำ เขาดูเรียบๆและไม่โดดเด่นอะไร หากไม่มีผ้าคลุมนักเวทย์สีน้ำเงินหมึกที่เขากำลังสวมอยู่และคทาในมือของเขา วาร์เตอร์ มั่นใจว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะหายไปในถนนที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนอย่างแน่นอน ลักษณะที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ก็คือดวงตาของเขา
ดวงตาของเขาดำมืดเป็นพิเศษ, แต่พวกมันก็สดใสมากจนพวกมันดูเหมือนกับว่ากำลังเปล่งประกายอยู่ พอเห็นครั้งแรก, วาร์เตอร์ คิดว่าพวกมันฉายความใสซื่อแบบเด็กๆออกมา, แต่หลังจากที่ดูใกล้ๆ, เขาก็ตระหนักได้ว่าในความเป็นจริงพวกมันลึกซึ้งและดำมืดเหมือนกับท้องฟ้ายามค่ำคืน พวกมันลึกซึ้งมากจนไม่มีทางเข้าใจถึงก้นบึ้งของพวกมันได้ไม่ว่าจะจ้องไปที่พวกมันแค่ไหนก็ตาม

จากนั้น, วาร์เตอร์ ก็รู้สึกถึงความกดดันอันน่ากลัวบางอย่างที่แผ่ออกมาจากสายตาพวกนั้น เขาตกตะลึงกับพลังลึกลับที่เด็กหนุ่มคนนี้ปล่อยออกมาและถูกบังคับให้ก้มหน้าลงเพื่อหลีกเลี่ยงสายตาที่น่ากลัวพวกนี้
ฉันคิดว่าข่าวลือคงถูกต้องแล้วหล่ะ, เขาคิด นักเวทย์คนนี้มีจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สามารถสลายจิตวิญญาณที่อ่อนแอด้วยการชำเลืองตามองได้จริงๆ

ในฐานะพ่อค้า, วาร์เตอร์, ในช่วงวัยหนุ่มของเขา, ได้เป็นพ่อค้าเร่ร่อนที่ได้เดินทางไปทั่วทั้งอาณาจักร เขาได้พบเห็นสิ่งต่างๆมากมายในการเดินทางของเขา, ดังนั้นเขาจึงตระหนักได้ว่าการที่เขาดูถูก ลิงค์ เพียงเพราะเขายังเด็กนั้นมันผิดพลาดขนาดไหน
“คุณเป็นใคร?” ลิงค์ ถามด้วยความสับสนเล็กน้อยกับตัวตนของคนแปลกหน้าในหอคอยเวทย์มนตร์

“โอ้, ขอประทานโทษด้วยครับ กระผมชื่อ วาร์เตอร์” เขาพูด “กระผมเป็นเจ้าของบริษัทการค้าใบไม้เขียวครับ และกระผมมาที่นี่ก็เพื่อคุยเรื่องธุรกิจกับท่านครับ” ขณะที่เขาพูด, วาร์เตอร์ ก็เอาสร้อยคอมิธริลออกมาให้ ลิงค์ ดู เขาเดาได้จากปฏิกิริยาของ ลิงค์ ว่ามันเป็นผลงานของเขาจริงๆ

ลิงค์ มองเห็นจูงใจของ วาร์เตอร์ สำหรับการมาที่นี่ในทันที เขาต้องถูกดึงดูดมาด้วยทักษะการเสริมพลังของเขาและต้องการใช้พวกมันเรียกเหรียญทองเข้ากระเป๋าของเขาเพิ่มแน่ๆ
เพื่อสิ่งที่คุ้มค่า, ผู้ชายคนนี้ฉลาดจริงๆ ลิงค์ คิด แต่ถึงแม้ว่าเขาจะประทับใจกับเสน่ห์ของผู้ชายคนนี้, เขาก็ยังจำเป็นต้องพิสูจน์ความจริงใจของเขาที่มีต่อ ลิงค์ ก่อนที่เขาจะตกลงร่วมมือกับเขา นอกจากนี้, ลิงค์ ต้องรีบไปคุยธุระเร่งด่วนกับอาจารย์ของเขาเดี๋ยวนี้, ดังนั้นเขาจึงยังไม่มีเวลามาคุยเรื่องข้อเสนอของพ่อค้า

“ตามผมมา” ลิงค์ พูด

“อ่า…ครับท่าน” วาร์เตอร์ เห็นว่ามีความหวังดังนั้นเขาจึงทำตัวอ่อนน้อมยิ่งขึ้นแล้วเดินตามหลัง ลิงค์ เข้าไปในหอคอยเวทย์มนตร์อย่างติดๆ
ไรไล พูดคุยกับ ลิงค์ ตลอดทาง, เธอบอกเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถาบัน, จากนั้นก็ถามคำถามเกี่ยวกับเวทย์มนตร์ ลิงค์ ตอบกลับไปเป็นครั้งคราวด้วยรอยยิ้มที่อยู่บนหน้าของเขาเสมอ เขาฟังการเล่าเรื่องสิ่งที่เกิดขึ้นในสถาบันขณะที่เขาไม่อยู่ของ ไรไล อย่างตั้งใจ ส่วนคำถามของเธอนั้น, ลิงค์ สามารถตอบพวกมันได้ทั้งหมดด้วยคำตอบที่สั้นกระทัดรัดและชัดเจนขณะที่ ไรไล ฟังเขาด้วยสายตาที่สดใส, ใบหน้าของเธอแสดงความเคารพให้กับอาจารย์ของเธออย่างเต็มที่
พอพวกเขาไปถึงด้านในหอคอยเวทย์มนตร์, นักเวทย์ฝึกหัดทุกคนที่พวกเขาเดินผ่านก็จะโค้งให้ ลิงค์ ในทันทีไม่ว่าพวกเขาจะกำลังทำอะไรอยู่ในเวลานั้น บนใบหน้าของพวกเขา ลิงค์ เห็นความเคารพและความยำเกรงที่ไม่เคยมีมาก่อน ลิงค์ พบว่าการเปลี่ยนแปลงนี้น่าสงสัย, แต่เขาก็ไม่ได้ถามออกมา ดังนั้น ไรไล จึงเสนอที่จะตอบคำถามให้เอง
“ทุกๆคนได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในถนนหยกแล้วค่ะ, อาจารย์” เธอพูด “อาจารย์ช่วยชีวิตของเจ้าชายไฮเอลฟ์เอาไว้และยังเอาชนะดาร์คเอลฟ์ได้สามคนอีก! นักเวทย์ทุกคนในสถาบันประทับใจในตัวอาจารย์มากเลยค่ะ—แม้กระทั่งผู้อาวุโส แอนโทนี่ ก็ยังยกย่องสรรเสริญอาจารย์ด้วยตัวเอง!”

 

สองวันก่อน, กษัตริย์ได้ส่งทูตพิเศษมายังสถาบันเพื่อมอบรางวัลของ ลิงค์ และประกาศความดีความชอบของเขาที่มีต่ออาณาจักรให้แก่ส่วนรวม, ดังนั้นในตอนนี้เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่รู้โดยทั่วกันแล้ว แน่นอนว่านักเวทย์ในสถาบันสามารถเข้าใจความสำคัญในความสำเร็จของ ลิงค์ ได้มากกว่าคนธรรมดาเพราะพวกเขาเข้าใจเหตุการณ์มากกว่าและมีความรู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นในการต่อสู่ด้วยเวทย์มนตร์มากกว่า

ดาร์คเอลฟ์สามคนนั้น—คนนึงเป็นนักรบเลเวล 5, คนนึงเป็นนักเวทย์เลเวล 4, และอีกคนนึงเป็นนักฆ่าเลเวล 4— ซึ่งพวกเขารวมตัวกันเป็นสามทหารเสือแห่งซิลเวอร์มูนอันเลืองชื่อ พวกเขาเป็นหัวหน้าของคนรุ่นหนุ่มสาวของดาร์คเอลฟ์ในแบล็คฟอเรสและเป็นที่น่าหวาดกลัวไปทั่วสำหรับพลังอันน่าเกรงขามของพวกเขา ถึงอย่างนั้น, ลิงค์ ก็ฆ่าสองในพวกเขาได้ด้วยตัวคนเดียวและบังคับให้อีกคนที่เหลือหนีเอาตัวรอดได้อีก—คนๆนึงสามารถครอบครองพลังอันแกร่งกล้าขนาดนี้ได้ยังไงกัน?
นักเวทย์เป็นบุคคลที่เย่อหยิ่ง, โดยเฉพาะในหมู่คนที่อายุไร่เรี่ยกันของพวกเขา ไม่ต้องคำนึงถึงพรสวรรค์ของพวกเขา, พวกเขาก็มักจะแข่งขันกันเองอยู่เสมอ แต่ว่าในครั้งนี้, ความสำเร็จของ ลิงค์ มันพิเศษเกินไปจนพวกเขารู้ว่าไม่มีทางที่พวกเขาจะเอาตัวเองไปเปรียบเทียบได้ นักเวทย์ที่อายุเท่ากันกับ ลิงค์ ยังแข่งขันกันเพื่อดูว่าคำภีร์เวทย์มนตร์ของใครดีกว่าและใครสร้างพวกมันได้เยอะกว่ากันอยู่เลย,ซึ่ง ลิงค์ ได้ไปถึงจุดที่พรสวรรค์ของเขาได้บดบังสามทหารเสือแห่งซิลเวอร์มูนอันเลืองชื่อและเป็นที่รู้จักของกษัตริย์ ลีออน แล้ว!

 

ดังนั้นพวกเขาจะไม่เคารพบุคคลที่พิเศษขนาดนี้ได้ยังไง?
นักเวทย์ที่ไม่ได้อยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์ของ เอเรร์ร่า ค่อนข้างจะสงวนการแสดงความเคารพของพวกเขาที่มีต่อ ลิงค์ มากกว่า แต่ทุกๆคนที่อยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์รู้จักเขาดี; พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจกับความจริงที่ว่ามีบุคคลที่แข็งแกร่งระดับพระเจ้ามีตัวตนอยู่ในหอคอยเวทย์มนตร์ของพวกเขา, ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้สึกอายที่จะแสดงให้เขาเห็นถึงความเคารพอย่างสุดซึ้ง

นี่เป็นแค่ธรรมชาติของมนุษย์, แม้ว่า, ในสายตาของ วาร์เตอร์ ภาพนี้จะค่อนข้างน่าอัศจรรย์เกินไปหน่อยก็ตาม ตอนนี้เขารู้สึกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับอนาคตที่อาจจะเกิดขึ้นถ้าเขาได้ร่วมมือกับบุคคลที่โดดเด่นขนาดนี้

เขามีชื่อเสียงเสียงและมีหน้ามีตาในสังคมถึงระดับนี้แล้วหรอเนี่ย? วาร์เตอร์ วิเคราะห์ คำต้องการไร้สาระแบบไหนที่เขาจะเรียกร้องจากฉันนะ?

 

แม้ว่า ลิงค์ จะรู้สึกภูมิใจที่เขาได้รับความเคารพจากนักเวทย์ฝึกหัดในสถาบัน, แต่เขาก็ยังเงียบและเก็บตัวเหมือนปกติดังนั้นจึงไม่มีร่องรอยของความเย่อหยิ่งในท่าทีของเขาเลย เขาโค้งกลับไปให้เล็กน้อยกับคนที่โค้งให้เขาตลอดทางเลยด้วยซ้ำ

วาร์เตอร์ ถอนหายใจด้วยความโล่งอกในทันทีพอได้เห็นภาพนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนน้อมถ่อมตนนะ, เขาคิด เขาไม่น่าจะจัดการด้วยยากถ้าพวกเราได้ทำงานร่วมกัน

 

ด้วยความคิดพวกนั้นในหัวของเขา, วาร์เตอร์ ก็ตาม ลิงค์ ขึ้นไปที่ชั้นสองของหอคอยเวทย์มนตร์ พอพวกเขาไปถึงขั้นบนสุดของบันได ลิงค์ ก็หันกลับมาและพูดกับ วาร์เตอร์ ด้วยน้ำเสียงเชิงขอโทษ
“คุณ วาร์เตอร์” เขาพูด “ผมมีเรื่องเร่งด่วนที่ผมต้องรีบไปรายงานกับอาจารย์ของผม, ดังนั้นผมต้องทิ้งคุณไว้สักพักนึง คุณจะมีปัญหาอะไรไหมถ้าจะขอให้คุณไปรอผมในห้องโถง?”
“ไม่ครับ, ไม่มีปัญหาเลยครับ!” วาร์เตอร์ รีบส่ายหัวตอบกลับไปอย่างรีบเร่ง
“ไรไล, ช่วยดูแลคุณ วาร์เตอร์ ขณะที่ฉันไม่อยู่ทีนะ” ลิงค์ พูด
“ปล่อยให้ฉันจัดการเองค่ะ, อาจารย์” ไรไล ตอบกลับ จากนั้นเธอก็หันไปยิ้มให้กับ วาร์เตอร์ แล้วพูด “ทางนี้ค่ะ, คุณผู้ชาย คุณควรจะลองเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมในหอคอยเวทย์มนตร์นี้นะคะ, มันเรียกว่า ‘ฟองมีชิวิต’ และมันก็วิเศษมาก ฉันมั่นใจว่าคุณจะรักมันถ้าคุณได้ลองค่ะ!”
“อ่า…ครับ, ผมจะลอง ขอบคุณนะครับ” วาร์เตอร์ ตอบกลับไปอย่างไม่เต็มใจ เขาไม่กล้าปฏิเสธข้อเสนอนี้ แต่เขาก็ไม่มั่นใจว่าเด็กสาวคนนี้จะเดาถูกรึเปล่าว่าเขาจะชอบมันเมื่อฟังจากชื่อที่ตั้งให้กับเครื่องดื่มนี้แล้ว
ขณะเดียวกัน, ลิงค์ ก็กำลังขึ้นไปชั้นบนสุด เขาได้ยินเสียงของบ่อธาตุถูกใช้อยู่ขณะที่เขาเดินผ่านมัน ลิงค์ รู้ว่ามันต้องเป็น เอเลียร์ด ที่กำลังพยายามอย่างหนักเหมือนเช่นเคย

พอเขาไปถึงชั้นสี่, ลิงค์ ก็เอาคทาของเขาออกมาและเปิดใช้รูนบนประตูห้องของ เอเรร์ร่า เขาโชคดีในครั้งนี้เพราะประตูเปิดหลังจากที่ผ่านไปเพียงครู่เดียว มีเสียงดังมาจากห้องนั่งเล่นซึ่งทำให้ ลิงค์ สงสัยเพราะเขาคิดไม่ถึงว่า เอร์เรร่า จะมีแขก เขารีบเดินและรีบไปที่ห้องนั่งเล่น

 

ในตอนที่เขาหันไปทางกำแพงระหว่างประตูและห้องนั่งเล่นของ เอเรร์ร่า, ลิงค์ ก็ได้พบว่ามีคนสองคนอยู่ในนั้น—ถ้าจะพูดให้ชัดกว่านี้, ก็คือมีมนุษย์หนึ่งคนและคนแคะสาวหนึ่งคนอยู่ในนั้น จากเสื้อผ้าที่เธอสวม, คนแคระคนนี้ก็น่าจะเป็นนักเวทย์เหมือนกัน
ลิงค์ ทุ่มสมาธิทั้งหมดของเขาไปกับการสัมผัสพลังงานมานาของพวกเขาทั้งคู่ ในชั่ววินาที, เขาก็เห็นว่าอาจารย์ของเขา, เอเรร์ร่า ได้ไปถึงระยะแรกของเลเวล 6 แล้ว, ขณะที่คนแคระคนนั้นได้ไปถึงจุดสุดยอดของเลเวล 6 และจะฝ่าไปถึงเลเวล 7 ในเร็วๆนี้ ซึ่งนี่ก็หมายความว่าเธอแข็งแกร่งกว่า เอร์เรร่า!

ลิงค์ ตกใจกับการรับรู้นี้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ฟิรุแมน เต็มไปด้วยนักเวทย์เด็กมากพรสวรรค์ที่สามารถหาได้ทุกที่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เด็กสาวคนแคระคนนี้ไม่น่าจะมีอายุมากไปกว่า 18 หรือ 19 ปีเลยนะ! เธอครอบครองมานาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง?

 

คนสองคนในห้องหันมาหา ลิงค์ ในทันทีขณะที่พวกเขาได้ยินเสียงเท้าของเขา

“พูดถึงผีผีก็มาเลยนะ” เอเรร์ร่า พูดด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยนบนหน้าเธอโดยไม่มีความประหลาดใจอะไรเลย

อีกด้านนึง, คนแคระสาวก็แสดงท่าทีสงสัยออกมาอย่างเต็มที่ขณะที่เธอมอง ลิงค์ หัวจรดเท้า เธอสูงประมาณสามถึงสี่ฟุต, หรือสูงแค่ประมาณเด็กผู้หญิงชาวมนุษย์ที่มีอายุประมาณเก้าหรือแปดปี เธอมีใบหน้าที่ดูมีชาติตระกูลและสง่างามและผิวของเธอก็เรียบเนียนเหมือนกับพื้นผิวของแจกัน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดก็คือดวงตาสีน้ำเงินของเธอที่ดูสดใสและบริสุทธิ์มากจนพวกมันสามารถทำให้คนคิดที่จะควักพวกมันออกมาและเก็บรักษาพวกมันเอาไว้เหมือนกับเครื่องประดับคู่นึง

“นี่คือนักเรียนคนโปรดของเธอสินะ, ใช่มะ?” เด็กสาวคนแคระพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “เขาดูเรียบๆและธรรมดามากเลยนะ” น้ำเสียงของเธอสดใสและคล้ายกับเด็กชาวมนุษย์ในความใสซื่อของมัน, แต่มันก็ผสมไปด้วยความล้ำลึกแบบผู้ใหญ่เช่นกัน, ซึ่งทำให้มันฟังดูแปลกประหลาดและน่าจดจำ

เอร์เรร่า รู้ว่าเธอแค่กำลังล้อเล่น, ดังนั้นเธอจึงไม่ตอบสนองคำพูดของเธอและแนะนำ ลิงค์ ให้กับเธอ

“ลิงค์, นี่คือ เอลิน” เธอพูด “เลดี้ฟอร์ทูน่าแห่งเผ่ายับบ้า”

เผ่ายับบ้าเป็นชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับกลุ่มของมนุษย์ปกติที่ใช้เรียกคนแคระ, ซึ่งก็ต้องยอมรับว่ามันแฝงไปด้วยการเยาะเย้ยและการดูถูก เลดี้ ฟอร์ทูน่า ในอีกด้านนึง… ลิงค์ ขนลุกพอได้ยินการกล่าวถึงสองคำนี้ ตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องที่น่าสงสัยแล้วว่าทำไมเธอถึงปล่อยมานาที่แข็งแกร่งขนาดนี้ออกมาได้
เลดี้ฟอร์ทูน่าแห่งเผ่ายับบ้าเป็นนักเวทย์อัจฉริยะที่เกิดมาด้วยพลังแห่งโชคชะตาอันลึกลับ พรสวรรค์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอก็คือเวทย์มนตร์ลับแห่งการทำนาย, และเพราะเหตุนี้เองคนของยับบ้าจึงนับถือเธอมากๆ
ในชีวิตก่อนของเขา, ลิงค์ ได้พบกับเลดี้ ฟอร์ทูน่า แปดปีหลังจากที่เกิมปล่อยออกมา จากนั้น, เผ่ายับบ้าก็แทบจะถูกกำจัดออกไปบนพื้นโลกอย่างสมบูรณ์ด้วยฝีมือของดาร์คเอลฟ์และกองทัพแห่งความมืด เลดี้ฟอร์ทูน่าของพวกเขานั้นแตกต่างจากเด็กสาวใสซื่อที่อยู่เบื้องหน้าเขาโดยสิ้นเชิง เธอได้ผ่านการทรมานที่ไม่สามารถพูดออกมาได้จากทางฝั่งแห่งความมืดและเสียโฉมเละมากจนเธอต้องซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าคลุมหนา

 

“ความรุ่งโรจน์ของแสงสว่างได้ตายไปแล้ว ความมืดได้จุติลงมา ทั้งหมดที่ฉันเห็นในอนาคตคือโลกที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิดอย่างสมบูรณ์” คำพูดพวกนี้คือคำพูดที่ผู้เล่นจะได้ยินจาก เอลิน ขณะที่พวกเขาบังเอิญพบเธอในครั้งแรก, และเธอก็จะบอกพวกเขาด้วยน้ำเสียงที่น่าสยดสยอง
ลิงค์ เคยทำชุดภารกิจของ เอลิน ที่ปล่อยออกมาในเกมส์เสร็จสมบูรณ์แล้วซึ่งเกี่ยวข้องกับการค้นหาและรวบรวมวัตถุดิบเวทย์มนตร์ พอวัตถุดิบทั้งหมดถูกรวบรวมจนครบ เอลิน ก็จะเปิดเผยคำทำนายครั้งสุดท้ายในชีวิตของเธอ

ในนิมิตของเธอ, เจ้าแห่งความมืดโนโซม่าและกองทัพของเขาจะลงมาจุติที่อาณาจักรแห่งแสงและเผ่ามนุษย์จะเกือบล่มสลาย นักเวทย์ทั้งหมดหนึ่งหมื่นคนในกองทัพเวทย์มนตร์ของไฮเอลฟ์จะถูกฆ่าในการต่อสู้ ทั้งอาณาจักรแห่งแสงจะเข้าสู่ความพินาศ
หลังจากเห็นนิมิตสุดท้ายนี้, มันจะเป็นเหมือนกับว่ามานาของ เอลิน ได้ถึงขีดจำกัดแล้วและวิญญาณของเธอก็ได้มาถึงจุดแตกหักแล้ว จากนั้นเธอก็จะเสียสละส่วนที่เหลือของวิญญาณของเธอให้กับผู้เล่นและมันก็จะมอบพรนิรันดร์ให้แก่พวกเขาเพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของเทพแห่งแสงเอาไว้เสมอ
“ฉันยอมแพ้แล้ว, ยกโทษให้ฉันด้วย”

นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ เอลิน กระซิบก่อนที่จะทรุดลงไปตาย ผ้าคลุมสีดำของเธอหลุดออกและเผยให้เห็นถึงร่างที่ฉีกขาดจากการถูกทรมานซึ่งเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากที่เธออยู่มาได้นานขนาดนี้

นี่เป็นหนึ่งในสิบภารกิจในเกมส์ที่เจ็บปวดและบาดใจที่สุด ผู้เล่นหญิงนับไม่ถ้วนน้ำตาไหลออกมาสำหรับความตายอย่างอนาถของ เอลิน และสาบานด้วยไฟในหัวใจของพวกเธอว่าพวกเธอจะช่วยโลก
ตัว ลิงค์ เองก็รู้สึกสั่นคลอนอย่างลึกซึ้งกับเหตุการณ์นี้ เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าเขาสาบานกับตัวเองว่าเขาจะไม่พักจนกว่า โนโซม่า จะพ่ายแพ้!

แต่นี่คืออีกโลกนึงในอีกชีวิตนึง, เรื่องมันอาจจะแตกต่างกันก็ได้ ลิงค์ ส่ายหัวของเขาในทันทีเพื่อปลุกตัวเองจากการครุ่นคิดและโค้งให้ เอลิน อย่างเคารพ

“เป็นเกียรติที่ได้พบครับ, คุณนาย” ลิงค์ พูด

“ไม่, ไม่, ไม่!” เอลิน พูดแทรกอย่างขำขันขณะที่เธอส่ายหัว “อย่าเรียกฉันว่า ‘คุณนาย’ นะ ฉันอายุแค่ 25 เองยังเป็นสาวน้อยอยู่!” ยับบ้ามักจะมีชีวิตที่ยืนยาวจนถึง 150 ปีและพวกเขาจะถึงวัยผู้ใหญ่ก็ต่อเมื่ออายุ 30, ดังนั้นในกรณีของ เอลิน เธอจึงยังเป็นเด็กสาวไม่ใช่ผู้ใหญ่

ใบหน้าของ ลิงค์ เกือบจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มด้วยความอับอายขณะที่เขาสังเกตุเห็นความผิดที่เขาเพิ่งทำไป
เอร์เรร่า สังเกตุเห็นว่าสถานการณ์มันเริ่มอึดอัดขึ้น, ดังนั้นเธอจึงเข้ามาช่วย

“หยุดเถอะหน่า, เอลิน” เธอพูด “เธอมาที่นี่ก็เพื่อมาหาเขาไม่ใช่รึไง?”

“ก็ได้, วินนี่, ฉันจะหยุดแหย่นักเรียนคนโปรดของเธอ” เอลิน พูด (วินนี่เป็นชื่อที่เพื่อนสนิทของ เอร์เรร่า เรียกเธอ”
“วินนี่ เขียนจนหมายมาบอกฉันว่าเธอพบผู้ถูกเลือกของเทพแห่งแสงแล้ว” เอลิน พูด, ตอนนี้ท่าทีขี้เล่นของเธอได้หายไปหมดแล้วและถูกแทนที่ด้วยความจริงจัง “ฉันต้องยอมรับว่าฉันไม่เชื่อเธอเลย และนั่นคือเหตุผลที่ฉันมาที่นี่—เพื่อมาพบกับคนๆนั้นที่เอาชนะใจของ วินนี่ ได้ขนาดนี้”

 

จากนั้น, ลิงค์ ก็สงบสติตัวเองลง เขาเดินไปที่เก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆอย่างช้าๆแล้วนั่งลง

“แต่เทพแห่งแสงทำงานด้วยวิธีที่ลึกลับนะครับ” ลิงค์ พูดพลางยิ้มไปด้วย “คนธรรมดาอย่างพวกเราจะสามารถมองแผนการของท่านออกได้ยังไง? ผมขอโทษนะ, แต่ผมกลัวว่าผมจะไม่รู้วิธีที่จะพิสูจน์กับคุณว่าผมเป็นผู้ที่ถูกเลือกจริงๆ”

“ไม่ต้องห่วง” เอลิน พูด “ฉันมีวิธีของฉันเอง” ขณะที่เธอพูด, เอลิน ก็เอากองไพ่ที่ดูเหมือนของเก่าแก่ออกมา ไพ่ปล่อยออร่าเวทย์มนตร์ออกมาเล็กน้อย, ทำให้มันมีบรรยากาศอันลึกลับ

ขณะที่ ลิงค์ จ้องไปที่ไพ่การแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นบนหน้าอินเตอร์เฟส
ไพ่ทาโร่แห่งวิญญาณ

คุณภาพ: อีพิค

ผล: เครื่องมือแห่งดวงชะตาที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยพลังแห่งวิญญาณของเลดี้ฟอร์ทูน่า มีไพ่ทั้งหมด 66 ใบ, และเครื่องมือนี้ก็มีพลังทำนายอันแข็งแกร่ง
(หมายเหตุ: นี่เป็นไอเทมพิเศษสำหรับเลดี้ฟอร์ทูน่าเท่านั้น)

“ฉันต้องการเลือดของเธอหยดนึง” เอลิน พูดขณะที่เธอเอาไพ่ทาโร่มาเรียงบนโต๊ะทีละใบ

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset