Advent of the Archmage – ตอนที่ 162: ความมั่นใจของแอนโทนี่

ลิงค์ ได้รับแหล่งรายได้ที่มั่นคงและจะทำการส่งออกอุปกรณ์เวทมนตร์ของเขาในอนาคต ซึ่งนั่นหมายความว่าเงินทุนตั้งต้นสำหรับที่ดินของเขาได้รับการแก้ไขแล้ว ตอนนี้เขาอารมณ์ดีมากๆ  ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ณ หนามแห่งสวรรค์ อาจารย์ใหญ่ แอนโทนี่ กำลังประสบปัญหาหนัก

ในห้องโถงสภาที่อยู่ชั้นสามของหอคอยเวทมนตร์ อุปกรณ์ของดาร์กเอลฟ์ถูกวางเรียงอยู่บนโต๊ะกลม ที่อีกด้านหนึ่งของโต๊ะนั้นมี แอนโทนี่ กับ เอร์เรร่า นั่งอยู่

“ดาบเวทย์มนตร์ทองคำคุณภาพดี, มีดต่อต้านเวทมนตร์และคทาวังวนศูนย์รวม พวกมันทั้งหมดล้วนเป็นของมีค่าทั้งนั้นเลยนี่” แอนโทนี่ ตรวจสอบอุปกรณ์ของดาร์กเอลฟ์แต่ละชิ้นๆอย่างระมัดระวัง จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วแน่น

“อาจารย์, ท่านเจออะไรบ้าง?” เอร์เรร่า ถาม

แอนโทนี่ พยักหน้าและส่งดาบทองลอยไปทาง เอร์เรร่า เขาหยุดมันอย่างระมัดระวังเพื่อให้ด้ามจับอยู่ตรงหน้าเธอ

“ดูดีๆสิ เธอเห็นดอกไอริสที่ถูกสลักไว้ที่ด้ามไหม?”

เอร์เรร่า หยิบดาบด้วยมือของเธอและหยีตามอง แน่นอนว่า เธอเห็นสัญลักษณ์ดอกไอริสที่ประณีตและซ่อนไว้อย่างแนบเนียน และรอบๆกลีบดอกไม้แต่ละกลีบนั้นยังถูกสลักไว้ด้วยรูนเวทมนตร์ที่ซับซ้อนอีกด้วย

“รูนเวทมนตร์บนกลีบนั้นซับซ้อนมากๆ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสลักสัญลักษณ์นี้ มันเป็นของตระกูลนอริแกน หนึ่งในสามตระกูลใหญ่แห่งซิลเวอร์มูน มีดและคทานั้นต่างก็ถูกสลักด้วยสัญลักษณ์แบบเดียวกัน อาวุธพวกนี้ถูกสร้างขึ้นมาเป็นอย่างดี บางทีมันอาจจะผลิตขึ้นมาเพื่อสมาชิกหลักของตระกูลนอริแกน”
จากนั้น แอนโทนี่ ก็โบกมือของเขาและดาบทองก็ลอยกลับมาหาเขา เขาถือใบมีดของดาบด้วยนิ้วสองนิ้วของเขา และจับด้ามของมันด้วยมืออีกข้างและเขาก็ขยับอย่างรวดเร็ว อยู่ๆมือของเขาก็เปล่งแสงจ้าขึ้นมาและดาบก็หักออกกลายเป็นสองส่วนในทันที  มันเหมือนกับว่าเขากำลังหักก้อนขนมปัง

ส่วนที่แตกออกของดาบยังคงราบเรียบเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยของการทำลายอย่างรุนแรงและเจตนาเลย

แอนโทนี่ แขวนแว่นสำหรับอ่านหนังสือไว้ที่หน้าอกของเขาและเขาก็หยีตา มองส่วนที่แตกอย่างระมัดระวัง หลังจากผ่านไปครึ่งนาที เขาก็พยักหน้าและทำแบบเดียวกับมีดและคทา จากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา “มีร่องรอยการไหลเวียนของพลังงานพิเศษหลงเหลืออยู่ที่อาวุธ บ่อยครั้งมันสามารถบอกความแข็งแกร่งของผู้ที่ใช้มันได้ผ่านการตรวจสอบอาวุธของพวกเขา ข้าสามารถบอกได้เลยว่าผู้ถือครองอาวุธนี้นั้นทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีเลเวล 5”

“เลเวล5? พวกเขาทั้งสามคนเนี่ยนะ? ลิงค์ เอาชนะพวกเขาได้ยังไงกัน?” เอร์เรร่า ตกตะลึง ลิงค์ บอกเธอเพียงแค่ว่าพวกมันทั้งสามเป็นดาร์กเอลฟ์ที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง ยังไงก็ตาม เธอคิดไม่ถึงว่าพวกมันจะแข็งแกร่งขนาดนี้!

เธอเคยต่อสู้เคียงข้างกับ ลิงค์ มาก่อนและรู้ความแข็งแกร่งของเขาโดยตรง โดยเฉพาะความเร็วในการร่ายเวทย์อันบ้าคลั่ง เขาเคยทำลายกองทัพของนักรบอันเดดที่สามารถจัดการนักเวทย์ที่เชี่ยวชาญได้อย่างง่ายดาย ยังไงก็ตาม นักรบอันเดดพวกนั้นมีความแข็งแกร่งเพียงแค่เลเวล 1 ถึง 2 เท่านั้น แต่ในครั้งนี้ เขาได้เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญเลเวล 5 สามคนที่เป็นคนละอาชีพกัน ถ้าเธออยู่ในสถานการณ์แบบนั้น เธอคงจะโชคดีมากที่รอดมาได้ ดังนั้น ลิงค์ กลับมายังสถาบันเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง?

แอนโทนี่ ยิ้มและพูดต่อ “เธอประเมิณพลังของเขาต่ำไป ดูดาบนี่สิ ที่ผิวชั้นนอกของดาบมีร่องรอยของโลหะละลายอยู่ นี่มันต้องใช้เวทมนตร์ธาตุไฟที่มีพลังอย่างน้อยเลเวล 5 ถึงจะทำแบบนี้ได้นะ”

“อาจารย์ ท่านกำลังจะบอกว่า ลิงค์ เชี่ยวชาญเวทมนตร์เลเวล 5 แล้วหรอ?” เอร์เรร่า ตะลึงอีกครั้ง ลิงค์ เพิ่งจะไปถึงเลเวล 4 เมื่อเดือนที่แล้ว พอมาลองคิดดูแล้วเขาใช้เวลาเรียนรู้เวทมนตร์เลเวล 5 เพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น

แอนโทนี่ เงียบและวางอาวุธลง เขาย้ายความสนใจไปยังกำไลต่างมิติและค้นพบสัญลักษณ์ดอกไอริสบนมันอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เปิดดูในกำไลและพบตำราเวทมนตร์อยู่ข้างใน

ตำรานั้นมีชื่อว่าเทคนิคการรวมร่างของธาตุมืด จากนั้นเขาก็ยิ้ม “เจ้าหนุ่มคนนี้เอาของมีค่าทั้งหมดไปและจงใจเหลือตำราเวทมนตร์แห่งความมืดเอาไว้ข้างในเพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าเขาบริสุทธ์ ช่างเจ้าเล่ห์จริงๆ”
จากนั้น แอนโทนี่ ก็รวบรวมธาตุไฟในอากาศและเผาตำราเวทมนตร์ด้วยไฟ มันถูกเผากลายเป็นขี้เถ้าในทันที

จากนั้นเขาก็พูดกับ เอร์เรร่า “ลิงค์ ได้กลายเป็นนักเวทย์เลเวล 5 แล้วอย่างแน่นอน อย่างน้อยเขาก็เชี่ยวชาญเวทมนตร์เลเวล 5 และมีความสามารถที่จะรับมือกับผู้เชี่ยวชาญเลเวล 5, 3 คนที่มาจากตระกูลนอริแกนได้ ซึ่งนี่ตีความได้อย่างเดียวว่า ลิงค์ มีความเข้าใจในเวทมนตร์อย่างลึกซึ้ง”
จิตใจของ แอนโทนี่ ได้ไปอยู่ที่สนามรบทางตอนเหนือในตอนที่เขาพูดเรื่องนี้

นักเวทย์มากกว่าครึ่งน่าจะไปถึงแนวรบแล้ว เหตุการณ์ที่ถนนหยกนั้นดูเหมือนว่าจะไปทำให้ราชาโกรธและเร่งการโจมตีป่ามืดให้เร็วขึ้น นักเวทย์ของสถาบันเองก็ได้เข้าร่วมในการโจมตีนี้เช่นกัน
ในการต่อสู้เมื่อเร็วๆนี้ นักเวทย์เลเวล 2, 3 คนจากอาณาจักรได้ปะทะกับนักเวทย์ดาร์กเอลฟ์เลเวล 3, 1คน รายงานบอกว่านักเวทย์ดาร์กเอลฟ์หนีไปได้ด้วยบาดแผลสาหัสแม้ว่าจำนวนจะน้อยกว่า แต่ก็ฆ่านักเวทย์ไปหนึ่งคนและอีกคนก็บาดเจ็บหนัก นักเวทย์ที่บาดเจ็บดูเหมือนว่าจะอยู่ในอาการโคม่า และไม่สามารถต่อสู้ได้จนกว่าจะถึงเดือนหน้า

นี่มันน่าอับอายมากเกินไป

เมื่อเปรียบเทียบกัน ลิงค์ นั้นมีค่ากว่ามาก

แอนโทนี่ ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากอุทานออกมา “อาณาจักรสงบสุขเกินไป วัยรุ่นหนุ่มสาวนั้นไม่มีพลังในการต่อสู้ที่มากพอ เป้าหมายของสถาบันคือผลิตนักเวทย์ที่ทั้งฉลาดและทรงพลัง แต่ว่า ความจริงก็คือมีแค่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สนใจในความทรงพลัง ผู้คนส่วนมากนั้นไม่รู้ว่าจะประยุกต์ใช้ความรู้ที่พวกเขาได้ร่ำเรียนมายังไง ช่องว่างระหว่างพวกเราและดาร์กเอลฟ์กำลังค่อยๆกว้างขึ้น”

จากนั้น เอร์เรร่า ก็เตือนเขา “อาจารย์ ลิงค์ ยังได้พูดถึงเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับปีศาจที่ชื่อ ทราวิส ด้วยค่ะ ไม่ใช่ว่าเขาถูกเนรเทศไปเมื่อนานมาแล้วหรอคะ?”

สิ่งนั้นทำให้ แอนโทนี่ หลุดออกจากห้วงความคิดของเขา เขาพยักหน้า “อันที่จริงคือเขาไม่ได้ถูกเนรเทศไปหรอก เขาแข็งแกร่งเกินไปและ ไบรอัน ไม่มีพลังที่จะขับไล่เขากลับไปสู่ความมืดมิด เขาสามารถเลือกได้เพียงแค่ผนึกเขาเอาไว้เท่านั้น และที่ๆผนึกไว้ก็ไม่ใช่ที่อื่นนอกจากสถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟแห่งนี้”

ในฐานะอาจารย์ใหญ่ เขาได้รับรู้ข้อมูลที่สถาบันปิดไว้เป็นความลับมารุ่นสู่รุ่น และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ ทราวิส ก็เป็นหนึ่งในนั้น

นี่ทำให้ เอร์เรร่า ตกใจ เธอพูด “ลิงค์ บอกว่าดาร์กเอลฟ์กำลังวางแผนที่จะทำลายผนึกและทำลายล้างสถาบัน นี่เป็นส่วนสำคัญของแผนกบฏจันทราทมิฬของพวกมัน ท่านอาจารย์ สถานการณ์นี้มันร้ายแรงมากเลยงั้นเหรอ?”

 

น่าแปลกมาก ที่ไม่มีร่องรอยของความกังวลอยู่บนหน้าของ แอนโทนี่ เลย เขาส่ายหน้า “นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก แม้ว่าข้าจะไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของผนึก แต่สถานที่แห่งนั้นมันได้หายไปแล้วตามกาลเวลา ถ้าเกิดว่าข้าไม่รู้ ก็ไม่มีทางที่พวกดาร์กเอลฟ์จะรู้ได้”
“แล้วถ้าเกิดว่าพวกมันรู้หล่ะ?” เอร์เรร่า ยังคงกังวล

แอนโทนี่ ยิ้มและส่ายหัวอีกครั้ง “ต่อให้พวกมันรู้ตำแหน่งที่แแน่นอน พวกมันก็ไม่สามารถทำลายผนึกได้หรอก พลังของผนึกแข็งแกร่งมาก สถาบันมีหอคอยเวทย์มนตร์ทั้งหมด 36 แห่ง และทุกๆแห่งก็เป็นส่วนหนึ่งของผนึก เว้นเสียแต่ว่าพวกดาร์คเอลฟ์จะมีความสามารถในการทำลายหอคอยเวทย์มนตร์เหล่านี้ได้ครึ่งนึง, ผนึกก็จะยังมีผลเหมือนเดิมอย่างแน่นอน”

นั่นหมายความว่าดาร์กเอลฟ์ต้องทำลายหอคอยเวทมนตร์ทั้งหมด 18 แห่ง ซึ่งหอคอยเวทมนตร์ทุกแห่งนั้นจะมีนักเวทย์ที่มีระดับอย่างน้อยเลเวล 4 อยู่ข้างใน และจำนวนนักเวทย์อย่างเป็นทางการที่อยู่ในสถาบันก็มีมากกว่า 200 คน

ยิ่งไปกว่านั้น อาจารย์ใหญ่รุ่นก่อน แอนโทนี่ ก็ได้เสริมพลังการป้องกันของสถาบันมารุ่นสู่รุ่น ยกตัวอย่างเช่น เวทย์ป้องกันเลเวล 7 อันยิ่งใหญ่ที่สามารถเปิดใช้งานได้ในทันที

การป้องกันนั้นแทบไม่สามารถทำลายได้ แม้ว่านักเวทย์ดาร์กเอลฟ์ทั้งหมดจะมาจากสมาพันธ์ซิลเวอร์มูน แต่สถาบันก็ยังคงสามารถยืดหยัดอยู่ได้

นี่คือที่มาของความมั่นใจของ แอนโทนี่

“แผนกบฏจันทร์ทมิฬนี้ต้องยอมรับว่าเป็นแผนของดาร์กเอลฟ์จริงๆ แต่มันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับมัน สิ่งที่เราควรมุ่งเน้นก็คือสงครามในทางเหนือ กษัตริย์นั้นทรงมีความกระตือรือร้นที่จะเอาชนะให้ได้เพราะต้องการชดเชยผลกระทบเชิงลบที่มาจากการสังหารหมู่ที่ถนนหยก ทหารกลุ่มแรกได้ถูกส่งออกไปแล้ว ยังไงก็ตามแผนการนี้ถูกวางแผนและดำเนินการอย่างรีบเร่ง ข้ากังวลว่าจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น”
ในฐานะที่เป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรนอร์ตัน แอนโทนี่ ได้รับข้อมูลของสถานการณ์ในตอนเหนือเป็นคนแรกๆ มันมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายผสมกันจากข้อความที่เขาได้มา ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่เคยรู้สึกสบายใจอย่างแท้จริง

เขาได้เก็บความไม่สบายใจเหล่านี้ไว้กับเขาเป็นเวลาหลายวัน ตอนนี้ลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของเขาก็อยู่ที่นี่ เขาได้ใช้โอกาสนี้ในการปลดปล่อยความไม่สบายใจของเขาและเปลี่ยนหัวข้อการพูดคุยเป็นสงครามทางเหนือ  เขาไม่ค่อยกังวลเกี่ยวกับแผนการกบฏจันทราทมิฬที่ เอร์เรร่า เป็นคนนำมาบอก

ในอีกด้านหนึ่ง เอร์เรร่า นั้นมีความเห็นในแง่บวกเกี่ยวกับสถานการณ์ทางตอนเหนือ “อาจารย์ สถานการณ์มันไม่ได้แย่มากขนาดนั้น การโจมตีของพวกเราในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำหรับดาร์กเอลฟ์ พวกมันจะต้องไม่ทันเตรียมตัวแน่”
“ข้าก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น” แอนโทนี่ ถอนหายใจ

จากนั้น แอนโทนี่ ก็ใส่ชิ้นส่วนของอาวุธลงไปในกำไลต่างมิติและยื่นมันให้กับ เอร์เรร่า “ลิงค์ ทำได้ดีในครั้งนี้ ข้าได้ใส่ของรางวัลลงไปในกำไลเรียบร้อยแล้ว บอกเขาว่าแม้ว่าการพัฒนาที่ดินของเขานั้นก็สำคัญ แต่ก็อย่าลืมที่จะพัฒนาในการค้นคว้าเวทมนตร์ของเขาด้วย ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าจะเป็นคนไปขอพระราชาให้ยึดที่ดินคืนด้วยตัวเอง!”
“ค่ะ อาจารย์” เอร์เรร่า หยิบกำไลและมองเข้าไปข้างในอย่างสงสัย เธอถึงกับพูดไม่ออกในทันที
เธอไม่รู้ว่าอาจารย์ของเธอใส่ของรางวัลลงไปในกำไลตอนไหน มันเต็มไปด้วยแร่ทองคำคุณภาพดีซึ่งสามารถหลอมเป็นเหรียญทองได้นับหมื่น นอกเหนือจากเงินแล้ว เขายังใส่แร่มิธริลกองใหญ่ที่สามารถสกัดกลายเป็นมิธริลบริสุทธ์ได้ถึง 7 ปอนด์ ของพวกนี้ทั้งหมดนั้นมีค่าอย่างน้อย 30,000 เหรียญทอง
“อาจารย์ดูเหมือนว่าจะมีความมั่นใจในตัวลิงค์มาก เขานั้นใจดีมากๆในครั้งนี้”เอร์เรร่ารู้สึกดีใจอย่างมากกับลิงค์ ลิงค์น่าจะมีเงินมากพอที่จะนำไปพัฒนาที่ดินแล้วหลังจากนี้
เอร์เรร่านั้นวางแผนที่จะออกไปก่อนที่เธอจะหยุดความคิดนั้นแล้วพูดว่า”ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ฉันจะต้องบอกคุณ เลดี้ฟอทูน่าเอลินเพิ่งเจอกับลิงค์เมื่อกี้”
“โอ้ แล้วผลเป็นยังไง?”แอนโทนี่ค่อนข้างสนใจ เขาได้ยินมาหลายอย่างเกี่ยวกับพรสวรรค์ในเวทย์พยากรณ์ของเธอ ยังไงก็ตาม เขานั้นไม่ได้เป็นแฟนของเวทมนตร์แบบนั้น เขาคิดมาตลอดว่ามันค่อนข้างผิดหลักธรรมชาติและเชื่อถือไม่ได้
“ดูเหมือนว่าเธอจะเห็นบางอย่างที่เป็นไปไม่ได้ ท่าทีของเธอต่อลิงค์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง”เอร์เรร่านั้นความรู้สึกไวมากๆ เธอไม่ถูกหลอกง่ายๆด้วยคำพูดของเอลิน
แอนโทนี่หัวเราะอย่างดังและแสดงความคิดเห็นแบบง่ายๆ”ดูเหมือนว่าเด็กหนุ่มจะได้พรรคพวกตัวจิ๋วคนใหม่นะ”

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Recommended Series

Comment

Options

not work with dark mode
Reset