Advent of the Archmage – ตอนที่ 180: ความเร็วในการร่ายเวทย์ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์

ฤดูหนาวอันหนาวเหน็บได้ผ่านพ้นไปแล้ว, และแสงอาทิตย์อันอบอุ่นก็ส่องมายังโลกแห่งฟิรุแมนอีกครั้ง เมื่อ ลิงค์ เปิดหน้าต่างในตอนเช้า, เขาก็ได้กลิ่นสดชื่นของพืนพันธุ์ที่ได้รับการหล่อเลี่ยงจากห่าฝนเมื่อคืนนี้

 

จากที่ไกลๆ, ลิงค์ เห็นป่าต้นหลิวที่อยู่ข้างกับลานแห่งแรงบันดาลใจของไบรอันท์ มันดูเหมือนกับถูกปกคลุมด้วยชั้นของกำมะหยี่สีเหลือง ในตอนที่สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่าน, กลีบดอกไม้จะลอยไปกับสายลมด้วยเหมือนกับเกล็ดหิมะ ภายใต้อ้อมกอดอันอบอุ่นของดวงอาทิตย์, ความชุ่มชื้นในพื้นดินที่เฉอะแฉะก็ค่อยๆเหือดแห้งไป, ผลักดันกลีบดอกไม้ในอากาศ ลมหมุนของกลีบดอกไม้ที่ลอยไปอย่างช้าๆและงดงามนี้ช่างเป็นภาพที่ซาบซึ้งจริงๆ

 

แล้ว ลิงค์ ก็ยังเห็นนักเวทย์ฝึกหัดคนอื่นๆอีกมากมายที่ตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อชมดอกไม้ หรือสำหรับคู่รัก, พวกเขาก็หนีมาพลอดรักกันในช่วงเช้าของฤดูใบไม้ผลิ บางส่วนที่เหลือก็เห็นได้จากที่ไกลๆซึ่งกำลังจดจ่ออยู่กับการวิจัยเวทย์มนตร์ของพวกเขาอยู่ และในบางครั้ง, ก็จะได้ยินเสียงหัวเราะอันอบอุ่นและมีชีวิตชีวา
สถาบันเวทย์มนตร์ระดับสูงอีสโควฟในตอนนี้ดูเหมือนกับภาพจากในเทพนิยายจริงๆ
ลิงค์ ยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวและมองออกไปจากหน้าต่างห้องของเขาเป็นเวลาพักนึงก่อนที่จะกลับมาที่โต๊ะของเขา

ขั้นแรกเขาเอาหินนักปราชญ์สีขาวออกมาและเริ่มชาร์จมันด้วยมานา มันใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีมานาของ ลิงค์ ก็หมดเกลี้ยง จากนั้นก็มีเสียงดังขึ้นเบาๆ, แล้ววัสดุของหินก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
ตอนแรกหินนั้นมีลักษณะทึบแสงและมีสีขาว อย่างไรก็ตาม, มันได้เปลี่ยนเป็นคริสตัลสดใสและบริสุทธิ์ที่มีจุดระยิบระยับมากมายเปล่งประกายอยู่ข้างใน มันให้ความรู้สึกเหมือนกับมองเข้าไปในท้องฟ้าที่มีดวงดาวนับไม่ถ้วน

 

จากนั้น ลิงค์ ก็ตรวจสอบสถานะของมัน

หินนักปราชญ์สีขาว (ชาร์จเต็ม)

สถานะ: 100/100

จำนวนครั้งที่ใช้ได้: 3/3

 

ลิงค์ ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็ชาร์จเต็มสักที
จากนั้นเขาก็ใช้เวลาพักผ่อนอยู่พักนึงก่อนที่จะหยิบปากกาขนนกขึ้นมาแล้วจุ่มลงไปในกระปุกหมึกที่อยู่ข้างๆ แล้วเขาก็เริ่มใช้เวลาของเขาไปกับการขยายเนื้อหาวิทยานิพนธ์

 

เมื่อคืนนี้ในความฝันของเขา, เข้าได้สะดุดเข้ากับแรงบันดาลใจบางอย่าง เขาต้องเขียนมันให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนที่ความทรงจำของเขาจะเลือนลาง
วิทยานิพนธ์นี้ได้ขยายไปจนถึงระดับที่สูงกว่าเมื่อก่อน หลังจากหกเดือนในความพยายามที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยของ ลิงค์, วิทยานิพนธ์นี้ก็ได้ไปถึงระดับที่น่าเหลือเชื่อ มันทำความเข้าใจได้ยากมากๆและถึงจุดที่คลุมเครือ

คำถามที่จุดประกายบทความนี้นั้นเป็นคำถามที่ง่ายมากๆ ทำไมหินถึงร่วงลงมา?

 

ทุกคนในทวีปนี้น่าจะสามารถเข้าใจปัญหาง่ายๆนี้ได้, และคำถามพื้นฐานนี้ก็เป็นรากฐานของวิทยานิพนธ์ทั้งหมดของลิงค์ อย่างไรก็ตาม, สภาพปัจจุบันของวิทยานิพนธ์นี้ก็ได้เก็บความคิดที่แทบจะเกินกว่าความสามารถทางปัญญาของมนุษย์ปกติไปแล้ว
ต่อให้ ลิงค์ เผยแพร่บทความของเขาให้โลกรู้, แต่ก็คงจะมีคนแค่หยิบมือที่สามารถเข้าใจมันได้

คุณไม่สามารถเข้าใจมันได้ด้วยซ้ำแม้ว่าเขาจะเอาให้คุณอ่านฟรีๆ ซึ่งนี่คือความหยิ่งทะนงของตัววิทยานิพนธ์นี้

สถานการณ์นี้คล้ายกับการให้คนธรรมดาบนโลกฟังกระบวนการหักล้างฟิสิกส์ระดับโลกในทฤษฎีของเขา ซึ่งการจำแนกสัญลักษณ์ทั้งหมดที่เห็นได้ก็ถือว่าโชคดีแล้ว, ไม่ต้องพูดถึงการเข้าใจบทความทั้งหมดเลย
นี่คือความจริงเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ของ ลิงค์
ในตอนที่ เอเลียร์ด มาเยี่ยมเมื่อไม่กี่วันก่อน, เขาชำเลืองมองการค้นพบล่าสุดของ ลิงค์ และยอมแพ้หลังจากที่เวลาผ่านไปครึ่งนาที จากนั้นเขาก็ดูมีสีหน้าเหน็ดเหนื่อย

เอร์เรร่า เองก็เคยให้ความสนใจกับวิทยานิพนธ์นี้ เธอมักจะขอสำเนาล่าสุดของมันและสนทนากับ ลิงค์ เกี่ยวกับรายละเอียดของวิทยานิพนธ์ อย่างไรก็ตาม, ตั้งแต่ที่เธอได้รับบทความล่าสุดเมื่อหนึ่งเดือนก่อนซึ่งเธอใช้เวลาตลอดสามวันก่อนที่เธอจะเฉียดเข้ากับพื้นผิวของเนื้อหา, เธอก็หยุดอ่านวิทยานิพนธ์นี้ทั้งหมด
เนื้อหามันยากเกินไป เธอรู้สึกเหมือนกับว่าหัวของเธอกำลังจะระเบิดในตอนที่อ่านมัน มันได้เปลี่ยนจากงานที่มีความสุขเป็นงานที่แสนทรมาน

ตอนนี้ลิงค์ทำได้แค่พึ่งตัวเองเท่านั้นเพราะไม่มีใครรอบตัวเขาที่สามารถแสดงความคิดเห็นที่จุดประกายความคิดสร้างสรรค์ได้อีกแล้ว เขารู้สึกเหมือนกับว่ากำลังเดินอยู่ในพื้นที่รกร้างอันดำมืด เขาจะพบอะไรและประสบความสำเร็จอะไร? เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
หลังจากผ่านไปครึ่งชัวโมง, ลิงค์ ก็ได้สูตรอันสวยงามมาสูตรนึง มันคือสูตรแสดงมิติสัมพันธ์ส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบ

เขาชื่นชมผลงานของเขา, แต่สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นความเจ็บปวดอย่างรวดเร็ว มันช่างสูญเปล่าอะไรอย่างนี้! สูตรมิติสัมพันธ์เชิงโค้งนี้สามารถใช้เป็นพื้นฐานทั้งหมดของเครื่องส่งข้อมูลระยะไกลได้ แต่ว่า, ระดับการบีบอัดเวทย์มนตร์ที่ต้องการมันสูงเกินไป มันเป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์เพียงคนเดียวจะไปถึงความแข็งแกร่งระดับนั้นได้ พวกมันต้องการอุปกรณ์มากมายที่ทำจากวัตถุดิบคุณภาพสูงมากๆ ฉันว่า 10,000 เหรียญทองคงจะสะกิดกำแพงค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ในการสร้างเครื่องส่งแบบนี้ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

 

เขาเอาความคิดของเขาขึ้นหิ้งได้แค่ชั่วคราวเท่านั้นเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่ความฝันนี้จะเป็นจริงในอนาคตอันใกล้นี้

จากนั้น ลิงค์ ก็ขยายเนื้อหาวิทยานิพนธ์ของเขาต่อและจมเข้าไปในกระบวนการอย่างรวดเร็ว เขามักจะขมวดคิ้วอยู่บ่อยๆและทำสีหน้าแปลกๆออกมามากมาย บางครั้ง, เขาจะวางปากกาขนนกของเขาลงเพื่อคิดเกี่ยวกับความลึกลับมากมายที่เขากำลังจะค้นพบ, โดยไม่สนใจเวลาที่ผ่านไปเลยสักนิด

หลังจากผ่านไปครู่นึง, ลิงค์ ก็คิดได้อีกสูตรนึง ปากกาขนนกของเขาหยุดลงอย่างกระทันหันขณะที่เขาจ้องไปที่ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเขาอย่างจริงจัง และประมาณสิบนาทีให้หลัง, เขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“พระเจ้าช่วย! ฉันกำลังคิดวิธีเพิ่มความเร็วในการร่ายหัตถ์ไททันอยู่เลย แต่นี่ฉันดันฝ่าอุปสรรคนี้ได้ด้วยวิทยานิพนธ์ของฉันหรอเนี่ย!”

 

ลิงค์ เชี่ยวชาญเวทย์เลเวล 6 หัตถ์ไททันมาเป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม, เขาก็ไม่เคยใช้มันในการต่อสู้เลย แม้กระทั่งตอนที่เผชิญหน้ากับปีศาจในป่าเกอร์เวนท์, เขาก็ใช้แค่เวทย์เลเวล 5, หัตถ์เพลิงเท่านั้น

ซึ่งเหตุผลเพียงอย่างเดียวก็คือความช้าในการร่ายเวทย์ มันจำเป็นต้องใช้เวลาถึงห้าวินาทีเต็มกว่าเวทย์นี้จะก่อร่างได้อย่างสมบูรณ์ และท่ามกลางการต่อสู้ระหว่างคู่ต่อสู้ระดับสูงนั้น, ความเร็วในการร่ายระดับนี้ก็เป็นแค่ความเร็วที่น่าขำขันเท่านั้น

 

หากไม่มีคนคอยปกป้องเขาในขณะที่ร่ายเวทย์, เวทย์เลเวล 6 นี้ก็แทบจะไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้จริงเลย นอกจากนี้, มันก็มักจะมีจุดอ่อนในตอนที่ต้องพึ่งคนอื่นในการปกป้องเรา และ ลิงค์ ก็เกลียดความรู้สึกในตอนที่ชีวิตของเขาต้องฝากเอาไว้กับศักยภาพของคนอื่นอย่างเต็มที่
ดังนั้น, เป้าหมายหลักของเขาก็คือการเพิ่มความเร็วในการร่ายหัตถ์ไททัน อย่างไรก็ตาม, เขาไม่สามารถเอาอักขระวิญญาณอันใหม่จากระบบเกมส์ได้ ซึ่งนี่ทำให้ขีดจำกัดในการเพิ่มความเร็วในการร่ายเวทย์ลดลงไปอย่างมาก หลังจากวิจัยไปได้แค่ครึ่งเดือน, เขาเร่งเวลาในการร่ายให้เร็วสุดได้แค่ 4 วินาทีเท่านั้น

ดังนั้นการพัฒนาที่เขาได้รับจากวิทยานิพนธ์นี้จึงมากพอที่จะทำให้เขาดีใจจนเนื้อเต้นได้
ฉันรู้จักทักษะเวทย์มนตร์ระดับสูงปืนกลและเวทย์อักขระวิญญาณที่สามารถปล่อยออกมาได้แทบจะทันที ถ้าฉันสามารถผสมพวกมันเข้าด้วยกันด้วยสนามกระจายพื้นที่หล่ะก็, ฉันก็จะสามารถลดเวลาในการร่ายได้ไม่ถึงหนึ่งวินาที!

ทฤษฎีที่สนับสนุนสูตรนี้นั้นง่ายมาก ขั้นแรกลิงค์จะปล่อยหัตถ์เพลิงที่เสริมพลังด้วยทักษะระดับสูงของเขา, ปืนกลออกมาก่อน ภายใต้ผลของอักขระวิญญาณ, เขาจะสามารถปล่อยเวทย์เลเวล 5 ออกมาได้แทบจะทันที จากนั้นเขาก็จะยกเลิกหัตถ์เพลิงในทันทีซึ่งมันก็จะทำให้เกิดผลสะท้อนทางเวทย์มนตร์ของปืนกล, และสร้างเวทย์หัตถ์เพลิงอันใหม่ขึ้นมา

สาเหตุและผลลัพธ์ต้นแบบนั้นจะเกิดการที่เวทย์หัตถ์เพลิงจะเรียกเวทย์หัตถ์เพลิงอีกอันนึงขึ้นมา อย่างไรก็ตาม, ความคิดของ ลิงค์ ก็คือการใช้ผลของสนามกระจายพื้นที่เพื่อเรียกหัตถ์ไททันออกมาแทน
ซึ่งนี่คงจะเป็นไปไม่ได้หากเวทย์นั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกันเลย อย่างไรก็ตาม, เวทย์หัตถ์เพลิงกับหัตถ์ไททันนั้นเป็นเวทย์ที่แทบจะเหมือนกัน ดังนั้นมันน่าจะได้ผล!

ลิงค์ ไม่ปล่อยให้เสียเวลาและเริ่มออกแบบเวทย์นี้ในทันที
เขาเป็นคนออกแบบหลักๆของปืนกล, เวทย์หัตถ์เพลิง, เวทย์หัตถ์ไททัน, ตลอดจนสนามกระจายพื้นที่ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจส่วนประกอบของพวกมันดีและเริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว

มันใช้เวลาแค่สองชั่วโมงเท่านั้นในการออกแบบของเขาให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ซึ่งตอนนี้, มันเป็นเวลาแค่บ่ายโมงเท่านั้น
เขาตรวจสอบแต้มมานาของเขาและตระหนักได้ว่ามันฟื้นขึ้นมาถึง 600 แต้มแล้ว ลิงค์คิดอยู่ครู่นึงและดื่มยาฟื้นฟูมานาระดับกลางเพื่อฟื้นมานา 500 แต้ม จากนั้นเขาก็รีบไปที่หนามแห่งสวรรค์อย่างตื่นเต้น เขาอยากทดสอบสมุติฐานของเขาจนทนไม่ไหวแล้ว

 

ถ้าเขาประสบความสำเร็จในการพยายามนี้, เขาก็จะได้รับการบันทึกเป็นผู้ใช้เวทย์เลเวล 6 ที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ฟิรุแมน แม้กระทั่งพวกนักเวทย์ที่สวมอุปกรณ์เพิ่มความเร็วในการร่ายเวทย์นับไม่ถ้วนตอนที่อยู่ในเกมส์ก็ยังไม่สามารถลดความเร็วเวทย์เลเวล 6 ให้น้อยกว่าสองวินาทีได้เลย แต่สมุติฐานของเขาอาจจะทำให้เขาปล่อยมันออกมาได้แทบจะทันที!

โลกแห่งนี้เต็มไปด้วยความเป็นไปได้จริงๆ! ลิงค์ ไม่สามารถรอที่จะเริ่มมันได้แล้ว

เขารีบไปที่หนามแห่งสวรรค์ ตอนนี้เขาเป็นคนดังในสถาบันและดึงดูดความสนใจของทุกๆคน

นักเวทย์มากมายที่เจอระหว่างทางจะทักทายเขาซึ่งเขาก็จะทักทายกลับไปด้วยความใจดี จากนั้นเขาก็เพิ่มความเร็ว, ทำให้นักเวทย์ที่เจอระหว่างทางแสดงสีหน้างุนงงออกมา
“ลิงค์ คิดจะทำอะไรอีกนะ?” มีใครบางคนถามขึ้น
“เขาเป็นคิดประเภทที่คิดแต่เรื่องเวทย์มนตร์ตลอดทั้งวัน มันค่อนข้างน่าเบื่อนะพูดตรงๆ” นักเวทย์ฝึกหัดสาวสวยคนนึงเบ้ปากไม่พอใจ
“ฉันจำได้นะว่าครั้งล่าสุดเธอบอกว่าเขาเป็นคนมีเสน่ห์ เกิดอะไรขึ้นหล่ะ? โดนปฏิเสธมารึไง?”

“ไม่ใช่เรื่องของเธอซะหน่อย!”
ลิงค์ ไม่สนใจคำพูดพวกนี้และมุ่งหน้าไปยังหอคอยเวทย์มนตร์ เขากำลังหอบแฮกและหายใจไม่ออกในตอนที่เขาไปถึงหนามแห่งสวรรค์ หลังจากได้เห็นเซลาสซี, เขาก็ถามในทันที “บ่อธาตุรองว่างไหมครับ?”

เซลาสซี พูดอย่างจนปัญญา “เพิ่งจะมีคนเข้าไปเมื่อกี้ เพราะฉะนั้นท่านต้องรอครึ่งชั่วโมงครับ”

“โถ่…” ลิงค์ ผิดหวัง นี่คือความไม่สะดวกของการไม่มีหอคอยเวทย์มนตร์เป็นของตัวเอง และนี่ก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกอยากมีหอคอยเวทย์มนตร์เป็นของตัวเอง
ลิงค์ ทำได้แค่รอเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม, หลังจากนั้น เซลาสซี ก็พูด “ผู้อาวุโสได้บอกผมว่าถ้าต้องการ, ท่านสามารถเข้าใช้บ่อธาตุหลักที่สงวนเอาไว้สำหรับผู้อาวุโสโดยเฉพาะได้ครับ และตอนนี้มันก็ว่างอยู่ด้วย”
ดวงตาของ ลิงค์ เปล่งประกายขณะที่เขาพูด “ผมเข้าได้จริงๆหรอ?”
บ่อธาตุหลักในหนามแห่งสวรรค์นั้นมีความแข็งแกร่งเลเวล 9 และถูกเรียกว่าบ่อสวรรค์ มันเป็นที่รู้จักกันทั่วทั้งอาณาจักรนอร์ตันและเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีแค่บ่อธาตุเดียวเท่านั้นที่สามารถเปรียบเทียบความแข็งแกร่งนี้ได้ก็คือหม้อละลายธาตุในเมืองนภาที่เป็นของสมาพันธ์นักเวทย์ทางตอนใต้ ซึ่งบ่อสวรรค์นี้มักจะสงวนเอาไว้ให้ผู้อาวุโสใช้ได้เพียงผู้เดียวเท่านั้น
“แน่นอนครับ มันเป็นคำแนะนำของผู้อาวุโส ผมจะพาท่านไปที่นั่น”

ลิงค์ รีบเดินตามไปอย่างเร่งรีบ

บ่อธาตุหลักอยู่ที่ชั้นห้า ซึ่ง ลิงค์ ตกตะลึงจนพูดไม่ออกกับภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจนี้
ชั้นห้านั้นเป็นบ่อสวรรค์แทบจะทั้งชั้น ห้องมีขนาด 500 ตารางฟุต, และธาตุที่อยู่ท่ามกลางบ่อก็ดูหนาแน่นเป็นพิเศษ เมื่อมองจากที่ไกลๆ, ดูเหมือนว่าจะไม่มีความผันผวนในธาตุเหล่านี้เลย, มันเหมือนกับการมองเข้าไปในกระจกที่มีสีสันแตกต่างกันมากมาย วัสดุที่ใช้เพื่อรักษาความเสถียรของโครงสร้างเวทย์มนตร์เองก็หายากมากเช่นกัน ภาพอันตระการตานี้แทบจะทำให้ ลิงค์ ตาบอด

ในพื้นที่ธาตุไฟ, ลิงค์ เห็นทอเรียมดาราเพลิง ในพื้นที่ธาตุน้ำ, เขาก็เห็นวารีเงินที่สะท้อนความสดใสของไพลินออกมาอย่างเต็มที่ ส่วนพื้นที่ธาตุดินนั้นแน่นอนว่ามีคริสตัลรอยแยก—ซึ่งพวกมันทั้งหมดนี้คือวัตถุดิบที่มีราคาแพงมากๆ

ลิงค์ ไม่สามารถประเมินค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการสร้างบ่อธาตุระดับนี้ได้เลยด้วยซ้ำ นี่คือเครื่องหมายที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของอาณาจักรและเป็นแหล่งยุทธศาสตร์ในการต่อสู้อย่างแน่นอน ลิงค์ มีความมั่นใจในการสร้างบ่อธาตุเลเวล 6 ตั้งแต่เริ่ม แต่, บ่อธาตุระดับบ่อสวรรค์นั้นคงเป็นอีกเรื่องนึงโดยสิ้นเชิง หากตัดสินใจความแข็งแกร่งในตอนนี้ของ ลิงค์, เขาคงทำได้แค่จ้องมองและเฝ้าดูมันด้วยความยำเกรงเท่านั้น
หยุดคิดถึงมันแล้วเริ่มการทดลองเถอะ ลิงค์ สูดหายใจเข้าลึกๆและก้าวเข้าไปในบ่อธาตุ

เซลาสซี ปิดประตูที่อยู่ด้านหลังของ ลิงค์ อย่างนุ่มนวลและได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนกลอนบทใหม่ในทันที
เขาเอาสมุดของเขาออกมาและเริ่มเขียนด้วยความรู้สึกท่วมท้น
เขามักจะแต่งตัวกระเซอะกระเซิง, ผมเผ้าของเขารุงรังเหมือนกับขอทานนอกเมือง แต่ถึงกระนั้น, แสงแห่งปัญญาอันสดใสก็ฉายอยู่ในดวงตาของเขา วันนี้, เข้าก้าวเข้าไปยังบ่อแห่งสวรรค์ เขาจะสร้างความมหัศจรรย์เยี่ยงใดกัน? มนุษย์ไม่อาจหวังที่จะเข้าใจหรือคาดการณ์การกระทำของเขาได้, แต่มีแค่ความยิ่งใหญ่เท่านั้นที่เขาจะนำมา

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset