Advent of the Archmage – ตอนที่ 185: ชัยชนะของของสถาบันอีสโควฟ

ที่ดาดฟ้าของหอคอยเวทมนตร์
ลิงค์ยืนพิงอยู่กับรั้วและแทบจะล้มลงไปกับพื้น ภาพกระบวนการฆ่าปีศาจเลเวล 8 นั้นอาจจะดูง่ายในสายตาของผู้รับชม แต่ว่าในความจริงแล้ว การโจมตีของลิงค์นั้นได้ใช้พลังงานของเขาไปอย่างมหาศาลจนไม่สามารถจินตนาการได้และนั่นก็ทำให้พลังงานของเขาหมดเกลี้ยง
ทราวิสนั้นได้ปล่อยพลังออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นลิงค์จึงต้องส่งมานาเข้าไปในหัตถ์ไททันโดยตรงอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะรักษาสภาพของมันเอาไว้เช่นกัน ในกรณีนี้อัตราการใช้มานาต่อวินาทีของเขานั้นสูงถึง 200 แต้มต่อวินาทีเลยทีเดียว!
ในการต่อสู้ที่ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที เพื่อที่จะฆ่าทาร์วิส ลิงค์ได้ใช้ค่าโอมนิไป 220 แต้มเพื่อเติมมานาสูงสุดของเขาเข้าไปเรื่อยๆ และเขาก็ดื่มน้ำยาฟื้นฟูมานาระดับกลางไป 2 ขวดด้วย และต่อให้ทำถึงขนาดนั้นในตอนที่ปีศาจได้ตายลงก็เป็นจังหวะก่อนที่ลิงค์จะใช้มานาของเขาหมดพอดี
ภารกิจ: สืบสวนแผนกบฏจันทราทมิฬ (ไม่สำเร็จ)

ผู้เล่นฆ่าปีศาจทราวิสได้สำเร็จ: จะได้รับรางวัลเป็นค่าโอมนิ 200 แต้ม
แจ้งเตือนสองอันนี้ได้โผล่ขึ้นมาบนหน้าอินเตอเฟสของเขา ตอนนี้ลิงค์มีค่าโอมนิอยู่ 200 แต้ม แต่แทนที่จะดีใจลิงค์กลับไม่อยากที่จะขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว เขาใช้มานาของเขามากเกินไป และเขาก็มั่นใจว่าน้ำยาฟื้นฟูมานาที่เขาดื่มเข้าไปนั้นกำลังเป็นพิษกับร่างกายของเขา ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ทำให้เขาไม่เหลือแรงแม้แต่จะกระดิกนิ้วเลยในตอนนี้ การประคองเวทย์มนตร์อันทรงพลังเลเวล 9 เองก็ใช้พลังวิญญาณของเขาสูงเช่นกัน และเขาก็รู้สึกว่าแค่การคงสติให้ตื่นอยู่ก็ถือว่าเต็มที่แล้ว
หลังจากนั้นพักนึง ลิงค์ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังใกล้เข้ามา และมันก็ตามมาด้วยเสียงที่เขาคุ้นเคยที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงและความวิตกกังวล

 

“ลิงค์” เอร์เรร่าพูด “เธอไม่เป็นอะไรนะ?”
ลิงค์ไม่มีแรงมากพอที่จะหันไปหาเธอได้ในตอนนี้ ทั้งหมดที่เขาทำได้มีแค่การพยายามขยับปากเพื่อที่จะยิ้มออกมาเท่านั้น แต่ก่อนที่เขาจะทำได้ เขาก็ถูกครอบงำด้วยอาการมึนงงและก็สลบไปในทันที แต่ก่อนที่เขาจะหมดสติไปอย่างสมบูรณ์นั้น เขาก็ได้ยินเสียงหวาดวิตกของเอร์เรร่าอีกครั้ง
“โอ้ ไม่นะ!” เอร์เรร่าพูด “เขาดื่มน้ำยาฟื้นฟูมานาไป 2 ขวด! พิษได้แพร่เข้าไปในกระแสเลือดของเขาแล้ว!”
เอร์เรร่าเคยช่วยเขาเอาไว้ในครั้งที่แล้วที่เขาดื่มยามานาเกินขนาด และตอนนี้เธอก็อยู่ที่สถาบันที่ๆเธอสามารถขอความช่วยเหลือจากคนอื่นได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นลิงค์จึงมั่นใจว่าเธอไม่น่าจะมีปัญหาในการช่วยเขาในครั้งนี้ และในที่สุดเขาก็สลบไปโดยที่รู้ว่าเขานั้นปลอดภัยแล้ว


เมื่อลิงค์ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เขาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียง เขามองไปรอบๆและตระหนักได้ว่าเขาอยู่ในห้องของตัวเองในหอคอยเวทมนตร์ของเอร์เรร่า  เขายังรู้สึกได้อีกว่าผ้าปูเตียงและผ้าห่มที่คลุมตัวเขาอยู่นั้นสะอาดสดชื่นเพราะพวกเขาเพิ่งเปลี่ยนมันใหม่ แถมพวกมันยังหอมมากๆอีกด้วย จากนั้นลิงค์ก็รู้สึกว่าเขาหายจากอาการอ่อนแรงและมึนหัวเรียบร้อยแล้ว
จากนั้นลิงค์ก็ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงและพบว่าเสื้อผ้าของเขาก็ถูกเปลี่ยนเช่นกัน แต่ว่า, จี้ต่างมิติกับแหวนเวทมนตร์ป้องกันยังคงอยู่ที่ตัวเขา และคทาของเขาก็วางอยู่บนโต๊ะที่อยู่ข้างเตียง ในจังหวะที่ลิงค์กำลังจะลุกออกจากเตียงนั้น ประตูก็ถูกเปิดออกพอดี และเอร์เรร่าก็เดินเข้ามา เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็นว่าลิงค์รู้สึกตัวแล้วและรีบพุ่งเข้ามาหาเขาในทันที
“เธอรู้สึกยังไงบ้าง?” เธอถามด้วยความเป็นห่วง

“ก็ไม่ได้แย่มากครับ” ลิงค์ตอบ จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมาเดินวนอยู่ในห้องอย่างช้าๆ “ผมรู้สึกมึนหัวนิดหน่อย ก็แค่นั้นแหละ”
พอเขาพูดแบบนั้นออกมา สีหน้าของเอร์เรร่าก็เปลี่ยนเป็นความโกรธในทันที
“ก็แน่หล่ะสิ เธอต้องรู้สึกมึนหัวอยู่แล้ว” เธอพูดตำหนิลิงค์อย่างอ่อนโยนแต่ก็หนักแน่น  “เธอดื่มยามานาเกินขนาดอีกแล้วนะ แถมครั้งนี้เธอไม่ได้ใช้เวทย์แช่แข็งท้องตัวเองเอาไว้  ดังนั้นพิษก็เลยแพร่เข้าสู่เส้นเลือดของเธอและกระจายไปทั่วร่างกาย ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะมาสเตอร์เกรนซีที่รักษาเธอด้วยสมุนไพรร้อยชนิดของเขาได้ทันเวลาหล่ะก็ เธอก็คงจะตายไปเรียบแล้ว!”
มาสเตอร์เกรนซีนั้นเป็น 1 ใน 6 ของสมาชิกสภาสูงของสถาบัน ซึ่งเขานั้นเป็นที่หนึ่งในด้านการเล่นแร่แปรธาตุของสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ  สมุนไพรร้อยชนิดนั้นเป็นสมุนไพรที่มีค่าที่สุดที่เขามีซึ่งมันเป็นยาแก้พิษระดับอีพิค มันเป็นไอเท็มที่มีค่าอย่างมากจนถึงขนาดที่ว่ามีเงินแค่ไหนก็ไม่อาจจะใช้ซื้อมันได้ และมาสเตอร์เกรนซีก็เก็บมันไว้อย่างดีเสียยิ่งกว่าผลงานชิ้นอื่นๆของเขา
“ผมต้องไปขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัวแล้วหล่ะ” ลิงค์พูดด้วยความรู้สึกขอบคุณอย่างมาก
“ไม่จำเป็นต้องรีบหรอก” เอร์เรร่าพูด “เธอค่อยไปขอบคุณหลังจากที่เธอฟื้นตัวเต็มที่แล้วก็ได้ และฉันก็หวังว่าครั้งนี้คงจะสอนให้เธอไม่ทำเรื่องเสี่ยงๆในครั้งหน้านะ…แต่ฉันกลัวว่าเรื่องนั้นคงไม่มีทางเกิดขึ้นเนี่ยสิ”
ดวงตาของเอร์เรร่าแดงยิ่งขึ้นเพราะความโกรธที่มากขึ้น เธอรู้ดีกว่าทุกคนว่าลิงค์ได้พาตัวเองไปยังจุดที่อันตรายขนาดไหนในค่ำคืนแห่งโชคชะตานั่น เธอยังคงตัวสั่นด้วยความกลัวในตอนที่เธอคิดถึงมันอยู่เลย  มีเพียงแค่เทพแห่งแสงเท่านั้นที่รู้ว่าชายหนุ่มที่ไม่รู้จักร้อนรนและไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองคนนี้ทำให้เธอเป็นห่วงขนาดไหน
ลิงค์รู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงจริงๆจากสีหน้าของเอร์เรร่าและรู้สึกขอบคุณเธอ แต่เขาก็ยังรู้สึกสมเพศตัวเองด้วยที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ จากนั้นเขาเดินไปที่หน้าต่างอย่างช้าๆและเปิดผ้าม่านเพื่อมองออกไปข้างนอก
อากาศวันนี้ดีมากๆ ท้องฟ้านั้นสว่างเหมือนกับอัญมณีสีฟ้า แสงตะวันส่องลงมาราวกับน้ำตกสีทอง ทำให้ทั้งสถาบันส่องประกายไปด้วยความอบอุ่นของมัน
จากตรงนี้ ลิงค์สามารถมองเห็นร่องรอยของการทำลายที่เกิดขึ้นจากฝีมือของทาร์วิสที่ยังหลงเหลืออยู่ในสถาบันได้ หอคอยเวทมนตร์หลายแห่งได้พังทลายกลายเป็นเศษซาก และคนงานจำนวนมากก็กำลังยุ่งอยู่กับการจัดการมัน นักเวทย์จำนวนมากก็ยืนอยู่ข้างๆพวกเขาคอยแนะนำและช่วยเหลือพวกเขาด้วยเวทมนตร์  เขาได้ยินเสียงพวกเขาพูดคุยสับเพเหระกันในบางครั้งในขณะที่พวกคนงานทุ่มเททำงานกันอย่างเต็มที่และเต็มไปด้วยเหงื่อ; แม้กระทั่งนักเวทย์บางคนก็เต็มไปด้วยฝุ่นและเศษดิน
ยิ่งไปกว่านั้น ลิงค์ยังเห็นว่าหลุมที่อยู่ที่ใจกลางลานแห่งแรงบันดาลใจของไบรอันก็ถูกอุดไปแล้วและนักเวทย์บางคนก็กำลังยุ่งอยู่กับการลบล้างร่องรอยของออร่าปีศาจที่ทราวิสทิ้งเอาไว้
ในตอนนี้ สถาบันเวทมนต์อีสโควฟดูเหมือนกับเสือแก่ที่ได้รับบาดเจ็บที่กำลังเลียแผลของตัวเองและรอเวลาให้มันฟื้นตัวอยู่
“อาจารย์” ลิงค์พูดหลังจากผ่านไปซักพัก “ผู้อาวุโส…”

ตอนนั้นมันเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ดังนั้นเมื่อคืนลิงค์จึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้อาวุโสนอกจากความจริงที่เขารู้สึกได้ถึงการหายไปอย่างฉับพลันของออร่าของแอนโทนี่ แต่ว่า, ลิงค์ก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าจอมเวทย์เลเวล 7 ที่แข็งแกร่งจะถูกฆ่าอย่างง่ายดายและรวดเร็วแบบนั้น
เอร์เรร่าเดินมาหาเขาที่หน้าต่างและยิ้มอย่างอ่อนโยน

“ผู้อาวุโสยังมีชีวิตอยู่” เธอพูด “เขาหนีไปได้ทันหวุดหวิด แต่ว่าเขาก็สูญเสียขาทั้งสองข้างไป”
“โอ้ ขอบคุณพระเจ้า!” ลิงค์อุทาน เขาดูผ่อนคลายขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สำหรับทหาร การสูญเสียอวัยวะไปนั้นเท่ากับโศกอนาถกรรมอย่างใหญ่หลวงที่จะทำให้พวกเขาดูแลตัวเองยากขึ้น แต่สำหรับนักเวทย์ มันแทบไม่ส่งผลกระทบเลย มันแค่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สะดวกสบายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“สถาบันสูญเสียหอคอยเวทมนตร์ไป 6 แห่งในคืนนั้น” เอร์เรร่าพูดต่อ “หนามแห่งสวรรค์เองก็เป็นหนึ่งในนั้น นักเวทย์อย่างเป็นทางการ 19 คนได้ตายไปในการต่อสู้ และนักเวทย์ฝึกหัดอีก 130 คนก็ถูกฆ่า และมีผู้คนอีกมากมายที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทั้งหมดมันก็จบลงแค่นั้นเพราะว่าปีศาจทราวิสได้ถูกกำจัดลงแล้ว!”
ในตอนที่เธอพูด เธอก็หันมาหาลิงค์พร้อมกับสายตาที่เปล่งประกายไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ
“ทั้งหมดต้องขอบคุณท่านนะ มาสเตอร์ลิงค์!” เธออุทานออกมา
“ผมก็แค่ทำตามหน้าที่ของผมเท่านั้น” ลิงค์ตอบอย่างเหนียมอายเพราะท่าทีสุภาพและสายตาอันสดใสที่จ้องมาที่เขา “อีกอย่างคุณเป็นอาจารย์ของผม คุณไม่ควรเรียกผมว่ามาสเตอร์นะ”
“เธอไม่ใช่ลูกศิษย์ของฉันอีกแล้วลิงค์” เธอตอบกลับ “เธอจบการศึกษาแล้ว เธอเป็นนักเวทย์ที่โดดเด่นที่สุดเท่าที่สถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟเคยผลิตออกมาเลย!”
ลิงค์ตกใจกับเอร์เรร่าที่ยกย่องเขาอย่างเว่อร์วัง แต่เธอก็ขัดเขาก่อนที่เขาจะได้พูดตอบ
“ตอนนี้มันก็เกือบจะเที่ยงแล้ว” เธอพูด “ไปใส่ผ้าคลุมนักเวทย์ของเธอและเตรียมตัวไปกินข้าวกลางวันกันเถอะ”

“ครับ อาจารย์” ลิงค์พูด เขาเพิ่งรู้สึกได้ว่าเขาหิวมาก เขาหันไปรอบๆและเห็นผ้าคลุมนักเวทย์สีแดงเข้มวางอยู่ที่โต๊ะ พอเขาเดินไปหามัน เขาก็ตกตะลึงในคุณภาพอันสูงส่งของมันในทันที
“นี่ของผมหรอครับ อาจารย์?” เขาถามอย่างไม่เชื่อตัวเอง
เขาสังเกตเห็นคุณภาพอันยอดเยี่ยมของวัตถุดิบที่ใช้ทำผ้าคลุมในทันทีที่มอง หลังจากตรวจสอบดูเพิ่มเติม เขาก็พบว่ามันทำมาจากผ้าไหมเพลิงทองและรูนปริศนามากมายที่ทำมาจากโลหะที่เป็นสื่อนำมานาที่อ่อนที่สุดในโลก, แร่เงินออยสเตอร์ เมื่อเขาตรวจสอบมันลึกขึ้นไปอีกเขาก็พบว่ามีโครงสร้างเวทมนตร์อยู่บนผ้าคลุมซึ่งมันคือเวทย์สนับสนุนเลเวล6 ที่มีชื่อว่าสมองปลอดโปร่ง
เมื่อเขามองไปที่ผ้าคลุม แจ้งเตือนก็เด้งขึ้นมาที่หน้าอินเตอเฟส
ผู้รวบรวมเปลวเพลิง

คุณภาพ: อีพิค

ผลลำดับที่หนึ่ง: เพิ่มความเร็วในการรวบรวมธาตุไฟขึ้น 50%

ผลลำดับที่สอง: เพิ่มการต้านทานเวทมนตร์ธาตุขึ้น100%

ผลลำดับที่สาม: เพิ่มผลของเวทย์สมองปลอดโปร่งที่จะทำให้เมื่อใช้งานจะฟื้นฟูมานาของผู้ร่าย 2,000 แต้มภายในเวลา 5 นาที จะต้องรอเป็นเวลา 48 ชั่วโมงในการที่จะใช้เวทย์นี้อีกครั้ง

(หมายเหตุ:นี่คือของขวัญพิเศษจากสถาบันเวทย์มนตร์อีสโควฟ!)
เห็นได้ชัดเลยว่านี่เป็นผ้าคลุมที่ล้ำค่ามากๆ! สำหรับนักเวทย์ที่มีความชื่นชอบในธาตุไฟอย่างลิงค์  ผ้าคลุมนี้มันทำให้เขาเป็นเสือติดปีกชัดๆ  ซึ่งมันจะทำให้เขาไร้เทียมทาน! เวทย์สมองปลอดโปร่งเองก็มีประโยชน์กับเขาเป็นอย่างมากเพราะว่ามันจะช่วยปิดจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาเรื่องการขาดแคลนมานาได้
“แน่นอนว่ามันเป็นของเธอ!” เอร์เรร่าตอบ “มันคือของขวัญที่มอบให้เธอสำหรับการที่เธอช่วยเหลือสถาบัน ผ้าไหมเพลิงทองนั้นเป็นของมาสเตอร์เฟอดินันท์และแร่เงินออยสเตอร์ก็มาจากผู้อาวุโส ในขณะที่มาสเตอร์วิสมัลเลอร์เป็นคนทำผ้าคลุมนี้ด้วยมือของเขาเอง และตอนนี้มันก็เป็นของนายแล้ว”
ลิงค์ไม่แสร้งทำตัวสุภาพอีกต่อไปและรีบถอดเสื้อของเขาออกและใส่ผ้าคลุมใหม่ในทันที มันรู้สึกหรูหรามากๆและคุณภาพกับสไตล์อันเริศหรูของมันก็ยิ่งเห็นได้ชัดขึ้นเมื่อเขาสวมมัน ด้วยความที่ผ้าคลุมนี้จะรวบรวมธาตุไฟในอากาศ, ตอนนี้ร่างกายของลิงค์จึงดูเหมือนเปล่งแสงอ่อนๆออกมา และด้วยความที่ธาตุไฟได้มารวมตัวกันที่หัวของลิงค์ มันจึงดูเหมือนกับว่าลิงค์กำลังสวมมงกุฏเพลิงอยู่เลย
จากนั้นลิงค์ก็ร่ายกระจกเวทมนตร์เพื่อดูว่าตัวเขาดูเป็นยังไง เขารู้สึกตะลึงเล็กน้อยกับลักษณะภายนอกอันสวยงามของผ้าคลุมแม้ว่ามันจะดูยิ่งใหญ่เกินไปสำหรับเขาก็ตาม แต่ว่าเขาก็เปลี่ยนใจเมื่อเขาคิดว่ามันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจียมเนื้อเจียมตัวอีกแล้วเพราะเขามาไกลมากแล้ว แถมผู้อาวุโส, พวกสมาชิกสภาสูงทั้งหกของสถาบัน และเอร์เรร่าเองก็สวมผ้าคลุมที่หรูหรา ดังนั้นมันคงไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าเกิดว่าเขาจะใส่บ้าง
“กษัตริย์ลีออนก็ส่งช่างทอผ้าพิเศษมาช่วยในการทำผ้าคลุมนี้เหมือนกันนะ” เอร์เรร่าพูด พร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายในตอนที่เธอหัวเราะ “พระองค์ทรงช่วยได้มากเลย”
ไม่เพียงแค่ผ้าคลุมนี้จะดูหรูหราเท่านั้น แต่เมื่อมันรวมเข้ากับพรสรรค์ของลิงค์แล้ว ยิ่งทำให้เขาดูสงบและเพียบพร้อมมากขึ้น ลิงค์ดูเหมือนกับราชาแห่งเพลิงเลยในตอนที่เขาสวมผ้าคลุมนี้!
หลังจากค่ำคืนแห่งโชคชะตา  ก็ไม่มีใครสงสัยเรื่องความเชี่ยวชาญที่ลิงค์มีในเวทย์ธาตุไฟเลย เขานั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญเวทย์ธาตุไฟที่เก่งที่สุดในทวีฟฟิรุแมนอย่างไม่ต้องสงสัย
“นี่ผมหมดสติไปกี่วันเนี่ย?” ลิงค์ถาม เขาพึ่งรู้สึกตัวว่าผ้าคลุมที่สุดยอดขนาดนี้จะต้องใช้เวลาในการเตรียมการ
“ไม่นานมากหรอก” เอร์เรร่าตอบเพื่อยืนยันเพื่อให้ลิงค์เข้าใจ “ก็แค่ประมาณ 3 วันเท่านั้น”
สถาบันน่าจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการเตรียมผ้าคลุมเวทมนตร์นี้ภายในเวลาแค่  3 วัน  ลิงค์รู้สึกเหมือนเขาได้เอาชนะใจสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟด้วยการปราบปีศาจทราวิส
หลังจากนั้น ลิงค์ก็ตามเอร์เรร่าออกจากห้องและไปที่ห้องโถงชั้น1  ซึ่งเป็นที่ๆลิงค์ได้พบกับภาพอันน่าตกใจ
แอนโทนี่ เกรนซี่ เฟอดินันท์ วิสมัลเลอร์และคนอื่นๆที่เหลือ ไม่รวมนักเวทย์ทั้งหมดในสถาบันที่มีเลเวลมากกว่า 5 หรือสูงกว่าได้มาอยู่ในห้องโถง มีคนทั้งหมด 37 คนกำลังรอลิงค์อยู่
พอเห็นลิงค์ แอนโทนี่ก็ลุกขึ้นยืน บาดแผลของเขาได้รับการรักษาจนเกือบจะหายดีแล้ว ซึ่งก็ต้องขอบคุณเวทย์รักษาศักดิ์สิทธ์ของนักบวชจริงๆ ตอนนี้เขาสวมขาเทียมเวทมนตร์ที่ทำให้เขาสามารถขยับได้ตามปกติเหมือนอย่างเคย
“ฮีโร่ของพวกเราอยู่ที่นี่แล้ว!” เขาตะโกนอย่างดีใจ
ตอนแรกทุกคนต่างก็นั่งกันอยู่ในห้องโถง แต่พวกเขาทุกคนก็ลุกขึ้นในทันทีเมื่อเห็นลิงค์ แอนโทนี่เป็นคนนำอีกครั้งในการทำการเคารพแบบนักเวทย์ ซึ่งปกติแล้วมันจะเอาไว้ให้นักเวทย์ที่มีเลเวลต่ำกว่าทำกับนักเวทย์ที่มีเลเวลสูงกว่า

 

ลิงค์รู้สึกตกใจเล็กน้อยจากการกระทำเช่นนี้เพราะในความเป็นจริงนั้นเขาเป็นแค่จอมเวทย์เลเวล 6 เท่านั้น เหตุผลเดียวที่เขาสามารถร่ายเวทย์หัตถ์ไททันเลเวล 9ได้นั้นเป็นเพราะความช่วยเหลือของหินนักปราชญ์สีขาว ในขณะที่ผู้อาวุโสเป็นจอมเวทย์เลเวล 7 ตัวจริง ดังนั้นลิงค์จึงไม่สมควรได้รับการทักทายแบบนี้เลย
ผู้อาวุโสยิ้มอย่างอ่อนโยนในทันทีที่รู้ว่าลิงค์รู้สึกไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด
“พวกเรารู้ว่ามันเป็นเพราะหินนักปราชญ์สีขาวได้ช่วยเธอไว้” เขาพูด “แต่ว่า มันจะไร้ประโยชน์ถ้าอยู่ในมือของคนอื่นที่ไม่ใช่เธอ ในหมู่พวกเราไม่มีใครสามารถควบคุมเวทย์เลเวล 9 และใช้มันจัดการปีศาจทราวิสเลเวล 8ได้หรอก แต่ว่าเธอทำได้ และเธอก็ช่วยพวกเราทุกคนเอาไว้ นั่นแหล่ะคือความจริง และนั่นแหละคือเหตุผลทั้งหมด”
จากนั้นเขาก็หันไปและบอกทุกคนที่อยู่ในห้อง

“เปิดทางให้มาสเตอร์ลิงค์!” เขาตะโกน “วันนี้ที่นั่งหัวโต๊ะเป็นของเขา!”
นักเวทย์ในห้องโถงทุกคนหลีกทางให้กับลิงค์ บนโต๊ะกินข้าว เขาเห็นอาหารที่น่าเอร็ดอร่อยอยู่มากมาย พวกเขานั้นต่างก็ได้ยินข่าวการฟื้นขึ้นมาของลิงค์และได้เตรียมการให้เขาเป็นพิเศษ
“ไม่ต้องกังวล ลิงค์” เอร์เรร่ากระซิบ “นี่คือวิธีการแสดงความขอบคุณเธอของทุกคน เธอได้รับความเคารพจากพวกเขานะ”
แน่นอนว่าลิงค์รู้อยู่แล้ว และเขาก็รู้เช่นกันว่ามันจะเป็นการไม่ให้เกียรติถ้าเกิดเขาไม่ยอมรับความใจดีของผู้อาวุโส
“ขอบคุณครับ” ลิงค์พูด เขาทำความเคารพกลับด้วยความเคารพ “ผมรู้สึกตกใจกับความใจกว้างที่ทุกคนมีให้กับผมในวันนี้”
จากนั้นเขาก็เดินไปที่นั่งของเขาที่อยู่หัวโต๊ะ
มันไม่มีทั้งความเย่อหยิ่งและความถ่อมตัวในสีหน้าของเขา เขาดูสงบราวกับฉากหลังของงานรื่นเริงของห้องโถง โดยรวมแล้วเขาดูเหมือนกับคนที่โตเกินวัยของเขา

ไม่มีนักเวทย์คนไหนในที่นี้ที่อายุต่ำกว่า 35 ปี ความจริงแล้วเอร์เรร่าที่เป็นคนที่อายุน้อยที่สุดหากไม่นับลิงค์ ก็มีอายุ 36 ปีแล้ว ในขณะที่คนอื่นๆนั้นส่วนมากมีผมขาวและไว้หนวดกันทั้งนั้น ซึ่งโดยปกติแล้วพวกเขาจะกังวลในการให้ความเคารพกับนักเวทย์ที่เด็กกว่าเพราะมันดูไร้สาระ

แต่พอคิดว่า-นี่คือคนที่สามารถควบคุมเวทย์ขั้นสูงเลเวล 9 และจัดการปีศาจอันแข็งแกร่งอย่างทราวิสได้ ลิงค์ก็ได้เป่าศักดิ์ศรีของพวกเขากระจุย!
การกระทำของลิงค์นั้นทำให้พวกเขาไว้วางใจ พอเขานั่งลง ทุกคนก็เริ่มทานอาหารและบรรยากาศก็ค่อยๆผ่อนคลายลงทีละน้อยๆ ผู้คนเริ่มคุยกันอย่างอิสระเกี่ยวกับเวทมนตร์และตัวลิงค์ บางคนก็คุยเกี่ยวกับผู้อาวุโส ภายในเวลาไม่กี่นาที บรรยากาศก็เริ่มผ่อนคลายลงและทุกคนต่างก็รู้สึกสนุกสนาน
หลังจากมื้ออาหาร โต๊ะก็ถูกเก็บและแอนทนี่ก็ตบมือขึ้นมาเพื่อเรียกความสนใจจากทุกคน;บรรยากาศเริ่มกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ลิงค์รู้สึกตกใจและไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อ แต่หลังจากนั้นมาสเตอร์เกรนซีก็เดินมาหาเขาและวางสมุดโน๊ตลงตรงหน้าเขา
“มาสเตอร์ลิงค์” เขาพูด “สมุดโน้ตเล่มนี้ประกอบไปด้วยความรู้ทั้งหมดที่ข้าได้ค้นพบมาตลอดชีวิตของข้า ข้าหวังว่าท่านจะได้รับแรงบันดาลใจจากมันนะ”
จากนั้น สมาชิกของสภาสูงทั้งหมด-เฟอดินันท์ วิสมัลเลอร์ ฮานซ์วิเซอร์ และแอนดัลทุกคนต่างยื่นสมุดโน้ตของตัวเองให้กับลิงค์  ทุกคนต่างก็คิดเหมือนกับเกรนซี่ว่าซักวันนึงมันจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับลิงค์
พอมาถึงจุดนี้ลิงค์ก็ลุกขึ้นยืน เขาไม่ได้ปฏิเสธของขวัญจากจอมเวทย์เหล่านี้ เขารู้ว่ามันเต็มไปด้วยความรู้ที่สำคัญที่ไม่สามารถหาที่ไหนได้ในโลกนี้ พวกมันจะช่วยเขาได้มากในการเพิ่มทักษะทางด้านเวทมนตร์ของเขา
ลิงค์ก้มหน้าเคารพทุกครั้งที่เขาได้รับสมุดโน้ต เขารู้ดีว่านี่เป็นเกียรติสูงสุดที่ได้รับในหมู่นักเรียนของสถาบัน ซึ่งนี่ก็หมายความว่าตอนนี้เขาได้เป็นนักเวทย์ดาวเด่นที่ได้รับการเคารพจากนักเวทย์ในสถาบันแล้ว
ในตอนนี้แม้ว่ามันจะไม่ค่อยชัดเจนว่าลิงค์เป็นนักเวทย์ที่เก่งที่สุดของสถาบัน แต่ความจริงที่ว่าเขาได้รับสมุดโน๊ตจากจอมเวทย์ทุกคนก็หมายความได้อย่างนั้นเช่นกัน มีเพียงแค่ 3 คนในประวัติศาสตร์อันยาวนานของสถาบันอีสโควฟเท่านั้นที่ได้รับเกียรตินี้ และทั้งสามคนนั้นต่างก็กลายเป็นผู้อาวุโสของสถาบันในเวลาต่อมา
โดยรวมแล้วลิงค์ได้รับสมุดโน้ตทั้งหมด 37 เล่มในวันนี้  เขาทำความเคารพให้อีกทีนึงก่อนที่จะเอาสมุดโน๊ตออกมาจากจี้ต่างมิติที่เขาวางเอาไว้บนโต๊ะ
“ผมได้บันทึกเวทย์สูงสุดทั้งหมดที่ผมได้สร้างขึ้นเอาไว้ในสมุดเล่มนี้” เขาพูด “และมันยังมีทฤษฏีและสมมุติฐานต่างๆที่ผมคิดไว้ตั้งแต่เริ่มเรียนเวทย์มนตร์ด้วย ผมอยากจะมอบมันให้สถาบันเพื่อให้ทุกคนสามารถอ่านและเรียนรู้จากมันได้ ผมหวังว่าซักวันนึงมันน่าจะให้แรงบันดาลใจกับพวกคุณในการค้นพบสิ่งใหม่ๆและพัฒนาทักษะทางเวทมนตร์ของพวกคุณสืบต่อไป”
“โฮ่วว!”
ทั้งห้องโถงต่างก็เต็มไปด้วยเสียงฮือฮาและเสียงตกใจของจอมเวทย์ จากนั้นพวกเขาก็ปรบมืออย่างอบอุ่น พวกเขาไม่ได้หวังที่จะได้อะไรจากเขาเลย  แต่ถึงอย่างนั้นลิงค์ก็ยังให้สิ่งที่ไม่สามารถประเมิณค่าได้กับพวกเขา ในตอนนี้ทุกคนต่างก็พบว่าลิงค์เป็นคนน่าชื่นชมและสมควรได้รับความเคารพนับถือ
เห็นได้ชัดเลยว่าลิงค์นั้นเป็นอัจฉริยะที่หาผู้ใดเปรียบไม่ได้ เวทมนตร์ของเขาเต็มไปด้วยการปรุงแต่งและความคิดสร้างสรรค์ทำให้มันแข็งแกร่งมากๆ สำหรับเรื่องนั้น สมุดโน้ตของเขาก็กลายเป็นสมบัติของสถาบันอย่างไม่ต้องสงสัยเลย มันจะเป็นส่วนที่ช่วยให้นักเวทย์ในสถาบันพัฒนาเลเวลของเขาไปอย่างมาก
ตัวลิงค์เองก็ไม่ได้สูญเสียอะไรในการให้ครั้งนี้ เวทย์ขั้นสูงสุดที่เขาพัฒนาขึ้นมานั้นล้วนแข็งแกร่งทั้งนั้น ถ้าเขาทำให้เวทย์พวกนี้เข้าถึงทุกคนในสถาบันได้ นั่นก็หมายความว่าจะมีนักเวทย์ที่แข็งแกร่งมากขึ้นในการทำสงครามกับกองทัพแห่งความมืดในอนาคต ซึ่งนั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

เอร์เรร่ามองไปที่ภาพที่อยู่เบื้องหน้าของเธออย่างเงียบๆ เธอรู้สึกใจหายอยู่ลึกๆ เพราะเธอได้เฝ้าดูลิงค์เติบโตมาตั้งแต่เป็นนักเวทย์ฝึกหัดตัวผอมแห้งจนได้เติบใหญ่กลายเป็นนักเวทย์ที่แข็งแกร่งและไร้เทียมทานที่วันนึงอาจจะกลายเป็นผู้อาวุโสคนต่อไปในเวลาอีกไม่เกินครึ่งปีนี้ มันไม่ได้ต่างอะไรจากปาฏิหาริย์เลย

แต่เอร์เรร่าก็รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ที่ถูกเทพแห่งแสงเลือก นี่มันเป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น ลิงค์จะต้องสร้างปาฏิหาริย์มากกว่านี้ในอนาคตแน่ๆ และเอร์เรร่าก็รอดูไม่ไหวแล้วว่าต่อไปจะเป็นยังไง

 

ปาฏิหาริย์ต่อไปที่เขาจะทำในที่รกร้างเฟิร์ดจะเป็นอะไรกันนะ? เอร์เรร่าสงสัย

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset