Advent of the Archmage – ตอนที่ 192: เทศกาลแห่งการฆ่าอันไร้ที่สิ้นสุดครั้งยิ่งใหญ่

ตลาดเมืองโอปอล

 

มีร้านจำนำในพื้นที่ที่มีชื่อแปลกๆอยู่ร้านหนึ่ง มันถูกเรียกว่า “จำนำปลาน้อย” ผู้ช่วยจะมีใบหน้าที่ดูหน้าเชื่อถือขณะที่เจ้าของร้านมักจะมีรอยยิ้มเชื้อเชิญอยู่เสมอ พวกเขาดูเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไป

 

อย่างไรก็ตาม, ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่เปลือกนอก ร้านแห่งนี้มีความลับซ่อนอยู่บนชั้นสอง ชั้นสองนั้นดูเหมือนกับห้องนอนของเจ้าของร้านกับผู้ช่วย อย่างไรก็ตาม, พอสังเกตุดูให้ดีจะเผยให้เห็นว่าชั้นสองนั้นดูเหมือนจะเล็กกว่าที่ควรจะเป็น มันไม่สามารถบอกได้อย่างเจาะจงว่าส่วนไหนที่แปลก, แม้ว่าจะมีบางอย่างที่ดูไม่ถูกต้องในตึกหลังนี้อย่างชัดเจนก็ตาม

 

ร้านจำนำนั้นไม่มีลูกค้าในวันนี้ ซึ่งนี่ก็เป็นภาพที่เห็นได้ตามปกติ เราคงจะไม่เห็นคนมาต่อแถวยาวที่ร้านจำนำหรอก อย่างไรก็ตาม, หากพวกเขาสามารถทำข้อตกลงกับลูกค้าได้, พวกเขาก็อาจจะได้รับเงินมากพอที่จะสนับสนุนพวกเขาไปนานหลายวัน ดังนั้น, จึงมีลูกค้าแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะเข้ามาที่ร้านเป็นครั้งคราวในเรื่องธุรกิจ

 

การเข้าไปที่ร้านจำนำแห่งนี้นั้นมักจะเป็นแบบตั๋วเที่ยวเดียว ผู้คนที่เข้ามาที่ทำข้อตกลงที่ร้านมักจะไม่ปรากฏตัวออกมาอีก มันไม่สามารถสืบหาร่องรอยของผู้คนที่เข้าไปในร้านได้เลย มันเป็นราวกับว่าพวกเขาระเหยไปในอากาศ

 

พวกเขาไปที่ไหนกันหล่ะ? ไม่มีใครสนใจหรอก ตลาดเต็มไปด้วยผู้คนที่มาจากเขตและพื้นที่ยากจนอื่นๆ ทุกคนห่วงแค่เรื่องความเป็นอยู่ของตัวเองเท่านั้น

 

ในตอนนั้นเอง, ก็มีคนสวมผ้าคลุมสีเทาเต็มตัวเดินเข้ามาในร้าน จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เงาครอบงำโลก!”

 

พอได้ยินคำพูดพวกนี้, เจ้าเข้าร้านก็ทักทายเขาอย่างเคารพแล้วพูด “ท่านครับ, เชิญทางนี้ได้เลยครับ”

 

บุคคลลึกลับพยักหน้าแล้วมุ่งหน้าไปที่ชั้นสอง พวกเขาเดินตามทางเดินไปเรื่อยๆจนถึงทางตัน จากนั้นบุคคลลึกลับก็กดกำแพงอย่างนุ่มนวลด้วยนิ้วที่ซีดเซียวและน่ากลัวของเขา และทันใดนั้นเอง, กำแพงเรียบๆก็กลายเป็นกำแพงที่เปล่งประกายด้วยรูนสดใส จากนั้นชายคนนั้นก็ผลักกำแพงด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดของเขา, ทำให้กำแพงเลื่อนไปด้านหลัง, เผยให้เห็นบันไดแคบๆที่นำลงไปที่ชั้นใต้ดิน ซึ่งมีเสียงเบาๆสามารถได้ยินได้จากข้างล่าง

 

นี่เป็นทางเข้าห้องโถงลับใต้ดิน ใครจะไปคิดกันว่าทางเข้าห้องใต้ดินจะถูกสร้างขึ้นที่ชั้นสองแทนที่จะเป็นชั้นหนึ่ง? ทางเดินนั้นถูกซ่อนเอาไว้ในระหว่างช่องหวางของกำแพงทั้งสองได้เป็นอย่างดี มันแคบมากๆ อย่างไรก็ตาม, บุคคลลึกลับคนนี้ก็ตัวผอมมากๆเช่นกัน, ดังนั้นเขาสามารถเดินผ่านบันไดได้อย่างสบายๆ

 

มีทางโค้งตลอดทางเดินบันได พอเดินผ่านทางโค้งก็จะมองเห็นแสงเทียนสลัวๆ, และเสียงจากข้างล่างก็จะชัดขึ้น มันยังสามารถได้ยินเสียงหายใจแปลกๆด้วย

 

จากนั้นบุคคลลึกลับก็เดินตรงไปที่ห้องโถงลับใต้ดิน

 

ห้องโถงนี้มีขนาดใหญ่มาก—มันมีความกว้างและความยาวอย่างน้อย 60 ฟุต มีโต๊ะอยู่กลางห้องพร้อมกับมีเทียนตั้งอยู่ ภายใต้แสงสลัวๆของแสงเทียง, มีเงาคนอยู่ห้าคนนั่งอยู่รอบโต๊ะ

 

ที่ให้ถูกก็คือ, มนุษย์สองคนและปีศาจอีกสามตน

 

ปีศาจสามตนนี้มีสัดส่วนคล้ายกับมนุษย์นอกเสียจากว่าพวกมันมีหน้าตาน่าเกลียด หนึ่งในพวกมันมีขวานขนาดใหญ่แทนมือของมันทั้งสองข้าง อีกตนก็เป็นกิ้งก่าในร่างมนุษย์, ในขณะที่อีกตนเป็นคางคกยักษ์ที่อยู่ในร่างมนุษย์เช่นกัน ในตอนที่สิ่งมีชีวิตตัวนี้หายใจ, จะสามารถได้ยินเสียงฟองแปลกๆขณะที่ถุงลมที่อยู่ข้างแก้มของมันขยายออก ถุงลมนี้ดูเหมือนจะเก็บของเหลวสีดำที่ดูน่ากลัวเอาไว้ด้วย

 

ในตอนที่บุคคลลึกลับปรากฏตัว, นักฆ่าที่สวมเกราะสีแดงฉานก็กระซิบบอกเขา “แอนดรู, นายมาสายนะ”

 

หนังที่ใช้ในการผลิตเกราะตัวนี้นั้นพิเศษมากๆ ขณะที่เขาขยับตัว, จะเห็นร่องรอยของหมอกเลือดแผ่ออกมาจากมัน ตัวตนของหมอกนี้ได้ปกปิดร่องรอยส่วนใหญ่ของนักฆ่าเอาไว้และทำให้ร่างกายของเขาเลือนลาง ถึงแม้ว่าจะอยู่ใกล้กันขนาดนี้, มันก็ยังเป็นเรื่องยากที่จะระบุตำแหน่งที่แน่นอนของเขา

 

“นายโทษฉันไม่ได้นะ, เบรน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นระหว่างทางหน่ะ”

 

บุคคลลึกลับคนนี้ก็คือแอนดรู, เนโครแมนเซอร์ที่เพิ่งจะพ่ายแพ้ให้กับลิงค์

 

“อุบัติเหตุหรอ? แล้วโล่เงาสองคนที่ฉันส่งไปปกป้องนายหล่ะ?” นักฆ่าที่ชื่อเบรนถามด้วยความไม่เชื่อ แอนดรูเป็นเนโครแมนเซอร์เลเวล 7 นอกจากนี้, เขายังมีนักรับถือโล่เลเวล 6 สองคนตามประกบด้วย ดังนั้นไม่น่าจะมีใครในอาณาจักรสิงโตที่สามารถต่อกรกับความแข็งแกร่งระดับนี้ได้ อุบัติเหตุแบบไหนที่เกิดขึ้นกันนะ?

 

แอนดรูนั่งลงแล้วถอนหายใจออกมา “มีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นในตอนที่พวกเรากำลังไล่จับเสือนภาตัวนั้น จู่ๆก็มีนักเวทย์ที่แข็งแกร่งจนน่ากลัวปรากฏตัวออกมา พวกเราสามคนจับร่องรอยของมันไม่ได้เลยด้วยซ้ำ นักรบโล่เงาสองคนตายไปแล้ว ส่วนฉันก็ต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อที่จะหนีออกมา”

 

“นักเวทย์หรอ? หนึ่งต่อสามเนี่ยนะ? นายรู้จักมันไหม?” เบรนไม่ได้โทษแอนดรู เขารู้ว่าคนเราไม่ได้ดูผลลัพธ์กันได้ง่ายๆ แม้ว่าแอนดรูจะทำแผนการของพวกเขายุ่งเหยิงในครั้งนี้, แต่เขาก็เผยให้เห็นถึงภัยคุกคามที่กำลังจะมาหาพวกเขา

 

แอนดรูผายมือออกมาอย่างจนปัญญาแล้วพูด “การต่อสู้มันเร็วเกินไป มันเป็นการลอบโจมตี, และฉันก็ไม่ได้เห็นเวทย์ของมันดีเท่าไหร่นัก แต่ว่า, มันใช้แค่เวทย์เดียวตลอดการต่อสู้ มันคือมือธาตุไฟขนาดยักษ์ มันดูเหมือนกับเวทย์เลเวล 6 หมัดแห่งฟิโรมอซเลย แม้ว่าในระหว่างการต่อสู้มันจะเปลี่ยนรูปร่างได้ก็ตาม…”

 

“หัตถ์เพลิงหรอ?” อีกคนที่อยู่ใต้ผ้าคลุมพูดออกมาอย่างกระทันหัน เสียงที่ออกมานั้นมีความนุ่มนวลเป็นพิเศษเหมือนกับหญิงสาว

 

“ใช่, ลีน่า มันคือหัตถ์เพลิง” แอนดรูยักไหล่ขณะที่เขาแสดงความคิดเห็น แม้ว่านักเวทย์คนนี้จะยังสาวอยู่, แต่เธอก็เป็นไฮเอลฟ์, เผ่าพันธุ์ที่มีพรสวรรค์ทางด้านเวทย์มนตร์ตามธรรมชาติ เธออายุแค่ 40 ปีแต่ก็ไปถึงเลเวล 6 แล้ว ซึ่งเขาปฏิบัติกับเธอด้วยความเคารพอย่างเต็มที่

 

พอได้ยินคำพูดของแอนดรู, ไฮเอลฟ์ที่ชื่อว่าลีน่าก็หันไปหาเบรนแล้วพูด “ดูเหมือนว่าคนจากทางเหนือจะมาถึงแล้วนะ”

 

เบรนตกใจ “คนจากทางเหนือหรอ? เธอหมายถึงผู้สังหารปีศาจ, ผู้บงการเพลิง, ลิงค์ งั้นหรอ?”

 

ลีน่าพยักหน้า

 

แอนดรูเข้าใจความพ่ายแพ้ของเขาในทันที “ไม่แปลกใจเลยที่เขาแข็งแกร่งขนาดนั้น”

 

คืนนั้นเขาหนีออกมาตั้งแต่เนิ่นๆและไม่ได้เห็นการต่อสู้ทั้งหมด หลังจากที่ได้ยินข่าวอันน่าหวาดกลัวของการปรากฏตัวของนักเวทย์เลเวล 9, เขาก็มุ่งหน้ามาทางใต้ด้วยความเร็วสูงสุด ดังนั้น, จึงเป็นธรรมดาที่เขาไม่รู้ถึงการเคลื่อนไหวที่เป็นเอกลักษณ์ของลิงค์

 

จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาคิดว่าเขาแก่และอ่อนแอแล้วจริงๆถึงโดนนักเวทย์ที่ไหนไม่รู้มาล้อเล่นกับเขาได้ง่ายๆ เขารู้สึกผิดหวังและเศร้าโศกตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่ได้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของคู่ต่อสู้ของเขา, เขาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก

 

เขายังแข็งแกร่งอยู่ เหตุผลเดียวที่เขาแพ้ก็เพราะคู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งกว่า!

 

เบรนไม่มีอะไรจะพูดเช่นกัน ในการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่เพิ่งจะขยี้ปีศาจเลเวล 8 มาได้นั้น, แอนดรูได้พิสูจน์ความแข็งแกร่งของเขาแล้วด้วยการหนีมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน การได้เจอกับคนแบบนี้ในระหว่างภารกิจนั้นถือว่าเป็นโชคร้ายของพวกเขาจริงๆ

 

และในเวลาเดียวกันนั้น, เขาก็พบกับปัญหาใหม่ เขามองไปที่ปีศาจที่อยู่หน้าเขาแล้วพูด “บาลลี่, นี่เป็นข่าวร้ายแล้วหล่ะ, นักเวทย์ที่เพิ่งฆ่าทาร์วิสอาจจะมาที่นี่เพราะองค์หญิงเซลีนก็ได้”

 

ปีศาจมือขวานนั้นเป็นหัวหน้าของปีศาจทั้งสามตน เขามีเลเวล 6 ซึ่งแข่งแกร่งที่สุดในบรรดาสามตนนี้ ถ้าเขาต้องสู้กับมนุษย์เลเวลเท่ากัน เขาก็อาจจะสามารถรับมือในคราวเดียวได้ถึงหาคนเนื่องจากพรสวรรค์ทางด้านการต่อสู้ในฐานะปีศาจของเขา

 

อย่างไรก็ตาม, เขาไม่มีความมั่นใจพอที่จะเผชิญหน้ากับนักเวทย์ที่สามารถเอาชนะทาร์วิสได้ เขาไม่มีความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “มีหลักฐานอะไรที่บอกว่ามันมาที่นี่เพราะองค์หญิง

 

เบรนเอาคำภีร์ออกมาแล้วโยนมันไปให้บาลลี่ “นี่เป็นข้อมูลของเขา, พวกเราได้รับมาจากมือแห่งความตาย ในเมืองแกลดสโตน, องค์หญิงเซลีนเคยช่วยชีวิตของมันเอาไว้ อันที่จริงเหตุที่แม่ทัพลอร์ดล้มเหลวในการพยายามฆ่ามันก็มีส่วนมาจากการแทรกแซงขององค์หญิงเช่นกัน จากความสัมพันธ์ที่พวกเขามีนี้และแรงจูงใจที่เป็นปริศนาของมันในการลงมาทางใต้, นายคิดว่ายังไงหล่ะ?”

 

บาลลี่ตกอยู่ในความเงียบ มันสามารถบ่งบอกความไม่สบายใจและความกลัวของเขาได้จากลมหายใจที่หนักหน่วงของเขา

 

จากนั้นปีศาจกิ้งก่าก็กระซิบ “หัวหน้าครับ, มันมาคนเดียว แต่พวกเรามีกันเป็นกลุ่มนะครับ”

 

จากนั้นปีศาจกิ้งก่าก็หันไปหาเบรนแล้วพูด “ครั้งนี้เจ้าเฝ้าดูอยู่เฉยๆไม่ได้แล้วหล่ะ เจ้าก็ต้องมาช่วยด้วย”

 

เบรนอยู่เงียบๆขณะที่ลีน่า, ที่นั่งอยู่ข้างเขาเริ่มส่ายหัว “พวกเราจะไม่แทรกแซงโดยตรง อย่างมากที่สุดที่พวกเราทำได้ก็คือช่วยพวกนายหนีถ้าจำเป็น นายควรจะรู้เอาไว้นะว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้แค่คนเดียวของพวกเรา ถ้าพวกเราจัดการกับเขา, พวกเราก็จะทำให้พันธมิตรนักเวทย์เป็นศัตรูด้วย, และเมืองโอปอลก็เป็นศูนย์ใหญ่ของมัน!”

 

เบรนยอมรับคำแถลงของลีน่าอย่างเงียบๆ

 

อย่างไรก็ตาม, แอนดรูแสดงความคิดเห็นออกมาอย่างกระทันหัน “ฉันคิดว่านี่คือโอกาสนะ!”

 

“โอกาสอะไร?”

 

“มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง?” ทุกคนในห้องมองเขา, เฝ้ารอคำตอบจากเขา

 

“พวกนายก็รู้นี่, ลิงค์มาที่นี่เพื่อองค์หญิงเซลีน เขามาที่นี่เพื่อช่วยเธออย่างแน่นอน แต่ว่า, องค์หญิงเป็นปีศาจนะแล้วก็เป็นเป้าหมายของพันธมิตรนักเวทย์ด้วย หากพวกเราสามารถสร้างความไม่ลงรอยระหว่างสองฝ่ายนี้ได้, ลิงค์ก็จะกลายเป็นศัตรูกับพันธมิตรนักเวทย์ พวกเราแค่รอโอกาสที่เหมาะสมในตอนที่ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วพวกเราก็อาจจะชนะทั้งสองฝ่ายเลยก็ได้นะ!”

 

แสงแห่งความหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของทุกคน อย่างไรก็ตาม, ลีน่าแค่เยาะเย้ยแล้วพูดอย่างเหยียดหยัน “แอนดรู, ถ้านายคิดว่าเขาโดนหลอกง่ายขนาดนั้น, ฉันคิดว่านายคงจะดูถูกพลังของเขาเกินไปหน่อยนะ”

 

แอนดรูยึดมั่นในมุมมองของเขา, แล้วเขาก็พูดปกป้องพวกมัน “ทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง ซึ่งนี่เป็นเรื่องจริงอย่างมากสำหรับเป้าหมายของเจ้านาย ถ้าพวกเราไม่เสี่ยงอะไรเลย, พวกเราก็ไม่มีทางได้ผลลัพธ์อะไรเลยนะ! เบรน, นายว่าไงหล่ะ”

 

ก่อนที่เบรนจะพูดออกมา, ปีศาจขวานก็ตอบกลับไปในทันที “สัญญาของอาจารย์ของข้ายังคงอยู่ ตราบเท่าที่เซลีนถูกพาตัวกลับไปได้อย่างปลอดภัย, เขาก็จะสนับสนุนเจ้านายของเจ้าด้วยพลังทั้งหมดของเขา”

 

นี่เป็นคำกล่าวที่เหมือนกับมีดอันคมกริบที่ตัดความลังเลในหัวใจของเบรนออกไปในทันที “ขอให้เงาครอบงำโลก แผนการนี้เป็นไปได้, แม้ว่าพวกเราจะจำเป็นต้องลงรายละเอียดให้ดีๆก็เถอะนะ”

 

จากนั้นใบหน้าของแอนดรูก็เผยรอยยิ้มพอใจและชั่วร้ายออกมา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถเอาชนะลิงค์ได้ด้วยตัวคนเดียว, แต่ด้วยความช่วยเหลือของผู้ที่แข็งแกร่งมากมายขนาดนี้และพันธมิตรนักเวทย์, มันก็อาจจะเป็นไปได้ และต่อให้ลิงค์จะเอาชนะทุกคนได้, แต่ชื่อเสียงของเขาก็คงจะลดลงไปมาก ซึ่งมันจะเป็นการทำลายเขาทั้งสองทาง

 

แม้ว่าลีน่าจะเห็นต่าง, แต่เธอก็รู้ว่าแผนการนี้ตายตัวแล้ว, มันไม่มีอะไรที่เธอจะพูดเพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของพวกเขาได้ จากนั้นเธอก็ดึงฮูดเลง, เผยให้เห็นผิวหนังที่ไร้ที่ติและใบหน้าไร้อารมณ์ของเธอ

 

เบรนไม่สนใจความระมัดระวังที่มากเกินไปของนักเวทย์สาวแล้วหัวเราะ “นี่จะเป็นเทศกาลแห่งการฆ่าอันไร้ที่สิ้นสุดครั้งยิ่งใหญ่!”

 

 

ทีมสอบสวนของพันธมิตรนักเวทย์นั้นได้มาถึงพื้นที่ด้านนอกตลาดโอปอลแล้ว พวกเขาเริ่มกระจายกันเป็นกลุ่มสี่คนยกเว้นกลุ่มนึงซึ่งมีแค่แฮนลอทธ์กับเวเวอร์เท่านั้น มีกลุ่มทั้งหมดแปดกลุ่ม

 

“แหล่งข่าวของเราได้ระบุที่ซ่อนของปีศาจหญิงมาแล้ว พวกเราจะปิดกั้นเส้นทางหนีทั้งหมดของเธอ จำเอาไว้นะ, พอเห็นเป้าหมาย, ให้ดำเนินการกำจัดเธอซะ ไม่ต้องลังเล!”

 

แฮนลอทธ์ชำเลืองตามองลูกศิษย์ของเขา, เวเวอร์ขณะที่เขาพูดคำพูดพวกนี้ แรงจูงใจของเขาที่พาเขามาทำภารกิจนี้ด้วยก็เพื่อตัดความคิดอันไม่บริสุทธิ์ที่แล่นอยู่ในหัวของนักเรียนผู้มีพรสวรรค์ของเขาในคราเดียว

 

มันเป็นความรับผิดชอบของเขาในการชี้ทางที่ถูกต้องให้กับลูกศิษย์ของเขา

 

เวเวอร์รู้สึกได้ถึงสายตากดดันที่มาจากอาจารย์ของเขา เขาไม่ได้หลบมันในครั้งนี้แล้วจ้องกลับไป, ดวงตาของเขาฉายออกมาด้วยความยึดมั่น

 

“ดีๆ” แฮนลอทธ์พอใจ “เริ่มการโจมตีได้!”

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset