Advent of the Archmage – ตอนที่ 193: คลื่นใต้น้ำอันมืดมิดภายใต้เมืองโอปอล

ในเมืองโอปอล

 

หลังจากที่เข้ามาในเมือง ลิงค์ก็หามุมมืดเพื่อเปลี่ยนลักษณะภายนอกของเขา เขาถอดผ้าคลุมผู้รวบรวมเปลวเพลิงและผ้าคลุมหมีน้ำแข็งออกและเปลี่ยนเป็นผ้าคลุมยาวสีเทาที่ดูธรรมดา  จากนั้นเขาก็ใช้น้ำยาแปรธาตุที่ไม่มีพิษย้อมผมของเขาให้เป็นสีน้ำตาล และผูกผ้าเรียบๆไว้ที่ผมของเขา และเมื่อผนวกกับหน้าตาที่ไม่โดดเด่นของเขา ในตอนนี้ลิงค์ก็ได้เปลี่ยนจากจอมเวทย์กลายเป็นคนเดินเท้าธรรมดาแล้ว

 

หลังจากปลอมตัวเสร็จสิ้น ลิงค์ก็เริ่มสอดแนมไปทั่วเมืองเพื่อหาข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ไม่ปกติที่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ เขาใช้เงินไป 100 เหรียญทองภายในเวลาครึ่งชั่วโมงในการทำเรื่องเหล่านี้ หลังจากนั้นความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับโลกใต้ดินของเมืองโอปอลก็ลึกขึ้น และเขาก็ยังได้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพของเซลีนในตอนนี้อีกด้วย

 

ลิงค์สันนิษฐานว่าตอนนี้เซลีนน่าจะซ่อนตัวอยู่สักที่นึงในพื้นที่ดาวน์ทาวอย่างแน่นอน และที่นี่ยังมีปีศาจถึง 3 ตัวและพวกมันก็ได้รับความช่วยเหลือจากสมาคม มันไม่ใช่ข่าวดีสำหรับเซลีนเลยเพราะพื้นที่ดาวน์ทาวนั้นเต็มไปด้วยอิทธิพลของสมาคม ในเวลาเดียวกันนั้นเอง พันธมิตรนักเวทย์ก็ได้ส่งคนมาประจำการที่นี่หลายคนเช่นกัน และเมื่อเซลีนปรากฏตัวออกมาเธอจะต้องถูกทั้งสมาคมและพันธมิตรนักเวทย์สะกดรอยตามในทันที

 

นี่คือข้อมูลที่เขาสามารถรวบรวมมาได้มากที่สุดในตอนนี้ ในสถานการณ์แบบนี้ แม้ว่าลิงค์จะสามารถหาเซลีนเจอได้จริงๆ เขาก็ยังคงไม่รู้ว่าควรเอาเธอไปซ่อนไว้ที่ไหน ทั้งกำแพงและถนนนั้นต่างก็เต็มไปด้วยสายตาสอดส่องของสปายที่รอที่จะจับเธอในกับดักของพวกเขา

 

จากนั้นลิงค์ก็ครุ่นคิดอย่างเงียบๆอยู่ประมาณ 10 นาทีหลังจากที่พิจารณาข้อมูลทั้งหมดที่เขาได้มา

 

จากนั้นเขาก็คิดแผนขึ้นมาได้

 

ลิงค์เริ่มดำเนินการตามแผนในทันที เขาเดินวนไปรอบๆพื้นที่ดาวน์ทาวอย่างไม่มีจุดหมายอยู่พักนึง  เขาเดินเข้าไปในถนนใหญ่และถนนเส้นเล็กๆและทุกครั้งเขาจะหยุดที่ทางแยก  เขาจะหยุดอยู่ตรงกลางและเขียนรูนพิเศษที่มุมลับของกำแพงโดยใช้ปากกาขนนกพิเศษที่เขาสร้างขึ้นมาและหมึกล่องหน

 

เม็ดสีของหมึกนั้นเป็นสิ่งประดิษฐ์พิเศษที่คิดค้นขึ้นโดยเจ้าแห่งนักเล่นแร่แปรธาตุเกรนซี่ มันสามารถเขียนรูนลับได้อย่างรวดเร็ว ลิงค์พบมันในสมุดโน้ตของมาสเตอร์เกรนซี่และคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ในซักวันหนึ่ง

 

รูปร่างของรูนที่ลิงค์เขียนนั้นค่อนข้างซับซ้อน แต่ลิงค์สามารถจดมันได้อย่างสมบูรณ์แบบภายในเวลา 3 วินาที พอเขียนเสร็จ หมึกล่องหนก็ซึมเข้าไปในกำแพงหินและไม่ทิ้งร่องรอยของรูนให้ตรวจพบได้จากภายนอกเลย

 

ทุกๆแยกใหญ่นั้น ลิงค์จะทิ้งรูนไว้ประมาณ 8-10 รูนบนกำแพงและใช้เวลาประมาณ หนึ่งนาทีในการทำอย่างนั้น สำหรับแยกเล็กๆนั้นเขาจะทิ้งไว้ประมาณ 2 รูนและใช้เวลาไม่ถึง 10 วินาทีที่นั่น  จากนั้นลิงค์ก็จะเดินไปที่ทางแยกต่อไปก่อนที่จะมีใครซักคนสงสัยว่ามีอะไรผิดปกติเกี่ยวกับตัวเขา

 

ทั้งพื้นที่ดาวน์ทาวของเมืองโอปอลนั้นมีลักษณะเป็นวงกลมที่กว้างประมาณครึ่งไมล์ และมีถนนหลักทั้งหมด 6 สาย มีเส้นแนวตั้ง 3 สายและแนวนอน3สาย นอกจากนั้นก็ยังมีทางเดินและซอยเล็กๆอีก 10 เส้นและทางแยกประมาน 100 จุด ลิงค์ได้ทิ้งรูนไว้ที่ทางแยกทุกแห่งโดยไม่เว้นแม้แต่แห่งเดียว

 

จากนั้นเมื่อผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ลิงค์ก็เดินผ่านพื้นที่ดาวน์ทาวไปประมาณครึ่งนึงและเขาก็ได้เดินผ่านร้านค้าที่มีชื่อว่าร้านจำนำปลาน้อยซึ่งเขาสามารถสัมผัสถึงออร่าความมืดที่เข้มข้นได้จากร้านนี้

 

แสดงว่านี่เป็นที่ๆไอเลวพวกนั้นซ่อนตัวอยู่สินะ หืม? ลิงค์พูดเยาะเย้ย บอกได้เลยว่า ไม่เลวทีเดียว

 

มันคงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับนักเวทย์ธรรมดาที่จะตรวจจับออร่าที่จางขนาดนี้ในพื้นที่ค้าขายอันคึกคักของเมืองได้ แต่สำหรับลิงค์ พลังของปีศาจนั้นชัดเจนเหมือนกับคบเพลิงที่อยู่ภายใต้ท้องฟ้าในคืนจันทร์แรมเลยทีเดียว เขาสามารถตรวจจับออร่าของปีศาจได้อย่างง่ายดายในระยะประมาณ 300 ฟุต

 

เหตุผลนึงที่บอกว่าทำไมเขาถึงสัมผัสถึงปีศาจได้ไวนั้นเพราะวิญญาณอันแข็งแกร่งของเขาที่ได้รับการเพิ่มพลังจากเทพแห่งแสง และอีกเหตุผลก็คือเขานั้นเคยต่อสู้กับปีศาจมาก่อน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับออร่าของปีศาจแห่งหุบเหวมากๆ

 

ลิงค์เดินวนรอบร้านจำนำและทิ้งรูนไว้มากกว่า 30 รูนรอบๆร้าน พอเขาเดินวนเสร็จและมาถึงที่ทางเข้าร้านอีกครั้ง เขาก็เห็นคนที่สวมผ้าคลุมสีดำหลวมๆเดินเข้าร้านไป

 

นายก็มาที่นี่งั้นเหรอแอนดรูว? ลิงค์คิด นายก็เร็วเหมือนใช่ย่อยเนี่ย!

 

เหตุที่ลิงค์มาถึงที่นี่ได้อย่างรวดเร็วนั้นก็เพราะเขามีเสือนภาที่สามารถเดินทางในระยะ 100 ไมล์ภายในเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งแอนดรูวนั้นมาช้ากว่าเขาเพียงแค่ 1 ชั่วโมง ซึ่งนั่นก็หมายความว่าความเร็วของเขานั้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (หมายเหตุ:เพราะว่าเวทย์บินนั้นมันเห็นได้ชัดเกินไปและมักจะพบกับอุบัติเหตุที่อันตราย  มันจึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการเดินทางและนักเวทย์ก็ไม่ค่อยใช้มัน  ในอีกด้านนึง เสือนภานั้นค่อนข้างปลอดภัยและสามารถไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว)

 

ลิงค์เดินออกจากร้านจำนำและเดินไปตามทางต่อเพื่อที่จะวางรูนลับที่เหลือ  เวลาผ่านไปอีกหนึ่งชั่วโมงในตอนที่เขาเกือบจะวาดรูนลับครบทุกแยกของพื้นที่ดาวน์ทาวเสร็จ ลิงค์ได้มาถึงใกล้กับประตูทางเข้าเมืองซึ่งเขาเห็นกลุ่มของนักเวทย์ที่ทางเข้า

 

นั่นคือทีมจับปีศาจของพันธมิตรนักเวทย์งั้นเหรอ? ลิงค์สงสัย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มปฏิบัติการแล้ว นี่พวกเขารู้ที่ซ่อนของปีศาจแล้วงั้นเหรอ? หรือว่าพวกเขาเจอเซลีนแล้ว?

 

ลิงค์นั้นประสบปัญหาอย่างมากกับความเป็นไปได้นี้   เขาเฝ้ามองกลุ่มนักเวทย์ที่แข็งแกร่งกว่า 30 คนอย่างใกล้ชิดและค่อยๆถอยกลับไปเพื่อแฝงตัวเข้าเข้ากับฝูงชน จากนั้นเขาก็เริ่มเคลื่อนที่ให้เร็วขึ้นและมุ่งตรงไปที่ธนาคารพ่อค้าที่อยู่ในพื้นที่ดาวน์ทาว

 

เขาสังเกตเห็นเมื่อก่อนหน้านี้ว่าธนาคารนั้นเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในดาวน์ทาว; ซึ่งเขาสามารถสังเกตการณ์ทั้งพื้นที่ได้จากดาดฟ้าของมัน

 

ลิงค์ไปที่ธนาคารอย่างรวดเร็ว และเขาก็ร่ายเวทย์หายตัวขั้นสูงใส่ตัวเอง จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในธนาคารเหมือนกับเดินเข้าไปในบ้านของตัวเองโดยไม่กังวลถึงการปกปิดตัวตนของเขาเลย  จากนั่นเขาก็มุ่งหน้าไปที่บันไดและในที่สุดเขาก็ไปถึงห้องใต้หลังคาภายในเวลาครึ่งนาที

 

ที่ห้องใต้หลังคานั้นมีคนอาศัยอยู่  ที่นั่นมีเตียงเล็กๆ โต๊ะเล็กๆ และของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวันมากมาย ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ ที่นั่นยังมีชายหนุ่มที่กำลังเขียนหนังสืออยู่ที่โต๊ะ ลิงค์ได้เดินไปที่ด้านหลังของชายหนุ่มและแอบมองสิ่งที่เขากำลังเขียนอยู่ ลิงค์พบว่าเขาเป็นนักเขียนนิยายที่กำลังทำงานอยู่ ลิงค์ได้ลองอ่านดู 2-3 บรรทัดและพบสิ่งที่น่าตกใจก็คือชายหนุ่มคนนี้ไม่ได้เขียนนิยายคลาสสิกธรรมดาๆ ความจริงคือ เขานั้นกำลังเขียนนิยายอีโรติค ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำอันต่ำช้าที่เป็นการแสดงการร่วมรักกันระหว่างผู้ชายและม้าตัวเมียของเขา

 

ทีมพันธมิตรนักเวทย์นั้นมาถึงพื้นที่อย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นหมายความว่าลิงค์จะเสียเวลาอีกไม่ได้แล้ว เขาชี้คทาไปที่หัวของชายหนุ่มละร่ายเวทย์ “นอนหลับ”

 

ชายหนุ่มล้มลงหัวกระแทกโต๊ะและนอนหลับในทันที ลิงค์รีบปิดประตูและทำให้แน่ใจว่ามันล็อคแล้ว จากนั้นเขาก็ยกเลิกเวทย์หายตัวและเดินไปที่หน้าต่างห้องใต้หลังคา จากนั้นเขาก็หันไปรอบๆและชี้คทาไปที่พื้นและร่ายเวทย์ “ทำความสะอาด”

 

รอยเปื้อนและฝุ่นที่อยู่บนพื้นหินได้ถูกทำความสะอาดในทันทีและเหลือไว้แต่เพียงความสะอาด พื้นที่ถูกขัดนั้นส่องประกายเหมือนใหม่  ลิงค์หยิบปากกาขนนกเวทย์มนตร์ของเขาออกมาและเริ่มที่จะเขียนรูนเวทย์มนตร์ลงไปที่พื้น ในครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้หมึกล่องหนเขียนผนึกเวทย์มนตร์แต่ใช้น้ำหมึกเงินแทน

 

รูนที่เกือบเสร็จสมบูรณ์ค่อยๆถูกเขียนขึ้นบนพื้นที่ละอันๆ หลังจากผ่านไปประมาณ 3 นาที ลิงค์ก็ได้วาดรูนเวทย์มนตร์ 246 จุดสำเร็จซึ่งนั่นทำให้ผนึกเวทย์มนตร์สมบูรณ์

 

หลังจากนั้น เขาก็เก็บคทาลงและนั่งขัดสมาธิลงหน้าผนึกเวทย์มนตร์

 

เขาชี้นิ้วของเขาไปที่รูนควบคุม มานาเริ่มไหลเข้าไปในผนึกและรูนในผนึกเวทย์มนตร์ก็ค่อยๆส่องแสงขึ้นมาทีละอันๆ เมื่อมานาถูกเติมเข้าไปในผนึกเวทย์มนตร์จนเต็ม มันก็ใสเหมือนกับน้ำ และรูปร่างของมันก็เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว หลังจากผ่านไป 5 วินาที ภาพของพื้นที่ดาวน์ทาวทั้งหมดก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนพื้นผิวของผนึกเวทย์มนตร์ที่อยู่ด้านหน้าของลิงค์

 

มีจุดที่ขยับอยู่ในแผนที่แบบเรียลไทม์นี้ ซึ่งแต่ละจุดนั้นมีสีที่แตกต่างกัน-บางอันก็เป็นสีแดง บางอันก็มีสีเขียวหรือไม่ก็สีน้ำเงินและที่นั่นก็ยังมีสีดำหม่นๆอีกด้วย ทั้งหมดนี้แสดงถึงความแข็งแกร่งของอาชีพต่างๆที่แตกต่างกัน: นักสู้ผู้เชี่ยวชาญที่ต่ำกว่าเลเวล 4, นักเวทย์, ปีศาจและนักรบ

 

เวทย์นี้มีชื่อว่าดวงตาสวรรค์ มันมาจากสมุดโน๊ตของแอนโทนี่

 

ดวงตาสวรรค์

เวทย์มนตร์ลับเลเวล 4

มานาที่ต้องใช้: 420 แต้ม

ผล: ผ่านการควบคุมทางรีโมทของผนึกเวทย์มนตร์และรูนตรวจจับ ผู้ใช้เวทย์จะสามารถเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในพื้นที่ที่รูนลับถูกทิ้งเอาไว้ได้ และผู้ใช้ก็ยังสามารถพูดคุยกับเป้าหมายที่อยู่ในพื้นที่ผ่านทางเทเลพาธีได้อีกด้วย

(หมายเหตุ: นี่เป็นเวทย์ที่ลึกลับมากๆ แต่ว่ามันต้องการผู้ใช้เวทย์ที่มีวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างมาก)

 

คงจะบอกได้ยากว่าจะมีใครที่มีวิญญาณที่เหมาะสมกับเวทย์นี้ไปมากกว่าลิงค์รึเปล่า  ในตอนนี้เขาได้ใช้เวทย์นี้เพื่อสังเกตุการณ์พื้นที่อันกว้างใหญ่ของเมือง ซึ่งมันเป็นอะไรบางอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถ้าเกิดว่าแอนโทนี่ได้รู้ถึงระดับของเวทย์นี้ที่ลิงค์ใช้ ดวงตาของเขาคงจะถลนออกมาจากเบ้าแน่ๆ เพราะว่ามันใช้ได้ไกลเกินกว่าจินตนาการของตัวผู้สร้างเองอย่างมาก!

 

ลิงค์ตรวจดูทั้งพื้นที่อย่างรวดเร็วและในที่สุดเขาก็พบกับออร่าสีดำที่อยู่กับที่ไม่ขยับอยู่ในห้องใต้หลังคาของบ้านคนธรรมดา ลิงค์จำออร่านี้ได้ทันทีว่ามันไม่ใช่ของใครอื่นนอกจากเจ้าหญิงปีศาจ เซลีน ฟลังดร์

 

ในที่สุดผมก็เจอเธอ, เซลีน รอยยิ้มเกิดขึ้นมาบนหน้าลิงค์ แต่ว่ามันก็หายไปอย่างรวดเร็วเนื่องจากว่าลิงค์สังเกตุเห็นว่ามีกลุ่มของนักเวทย์ที่เขาเห็นเมื่อก่อนหน้านี้ ไม่ได้ตรงไปที่แหล่งกบดานของปีศาจ แต่กลับกันในตอนนี้พวกเขาได้ล้อมบริเวณที่เซลีนซ่อนตัวอยู่เอาไว้ ดูจากสภาพของมันแล้ว พวกเขาน่าจะต้องกระจายกำลังออกไปอย่างเป็นระเบียบเพื่อที่จะปิดทุกเส้นทางหนีที่เป็นไปได้ว่าเซลีนอาจจะใช้

 

หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ นักเวทย์พวกนี้ได้เริ่มปฏิบัติการของเขาแล้วเพราะว่าพวกเขาเจอที่อยู่ที่แน่นอนของเซลีนแล้ว

 

ถ้าเกิดว่าเรื่องแบบนี้ยังเกิดขึ้นต่อไป ภายใน 10 นาทีทางหนีทุกทางของเซลีนก็จะถูกปิด และเธอก็จะไม่มีช่องทางให้หนี และถ้าเกิดว่ามันเกิดขึ้นหล่ะก็ ทางเดียวที่ลิงค์สามารถช่วยเซลีนได้ก็คือต้องโจมตีพวกพันธมิตรนักเวทย์ แต่ถ้าเกิดว่าเขาทำอย่างนั้นถึงแม้ว่าเขาจะสามารถช่วยเซลีนได้ แต่ปัญหาก็จะตามเขามา เขาอาจจะถูกไล่ออกจากดินแดนแห่งแสงได้เลย!

 

ไม่ เรื่องแบบนั้นไม่มีทางจะเกิดขึ้น เขายังคงมีเวลาอยู่ เขาสามารถช่วยเซลีนได้ในตอนนี้

 

ลิงค์หายใจเข้าลึกๆและเพ่งสายตาของเขาไปที่ออร่าสีดำที่แทนตัวของเซลีน เขาส่งมานาของเขาไปที่ออร่าสีดำและเริ่มพูดในใจของเขา

 

เซลีน นี่ผมเอง ลิงค์

 

ทันใดนั้นหลังจากที่ออร่าสีดำมีการผันผวนอย่างรุนแรง ไม่นานนัก เสียงอันไพเราะก็ดังขึ้นในจิตใจของลิงค์

 

นี่นายจริงๆงั้นเหรอ ลิงค์ เซลีนถาม นายอยู่ที่ไหน?

 

ไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว ลิงค์ ตอบ เธอกำลังอยู่ในอันตราย เธอจะต้องฟังและทำตามที่ผมพูด ออกจากห้องใต้หลังคาด้วยการกระโดดออกจากหน้าต่างที่อยู่ด้านหลังซะ นั่นแหล่ะ กระโดดออกเลย!

 

ดูจากแสงที่อยู่ในแผนที่ ลิงค์เห็นเซลีนทำตามที่เขาบอกเธอในทันทีโดยที่ไม่ลังเลเลย เขารู้สึกโล่งใจที่ตอนนี้เขารู้ว่าเซลีนเชื่อใจเขา ที่นี้มันก็จะมีโอกาสมากขึ้นที่เขาจะสามารถพาเธอออกจากเมืองโอปอลได้

 

ในตอนนี้ยังไม่มีสมาชิกคนไหนของพันธมิตรนักเวทย์ที่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของเซลีนเลย พวกเขายังคงเดินหน้าเข้าใกล้ที่อยู่เดิมของเธอและพยายามที่จะปิดกั้นทุกเส้นทางที่เป็นไปได้ที่เธอจะใช้ในการหนี

 

ยังไงก็ตาม ในพื้นที่บางแห่ง, สมาคมได้ตรวจพบความผิดปกติบางอย่าง 5 นาทีต่อมา เบรนก็ได้รับรายงานจากลูกน้องของเขา

 

ตรวจพบการเคลื่อนไหวขององค์หญิง

 

เบรนขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นข้อผิดพลาด ลิงค์ยังไม่ได้ปรากฏตัวออกมาเลย แล้วทำไมเจ้าหญิงถึงเคลื่อนไหวโดยที่ไม่มีเขาล่ะ?

 

“ลีน่า” เขาสั่งการนักเวทย์ไฮเอลฟ์ที่อยู่ข้างๆเขา “ตรวจการเคลื่อนไหวขององค์หญิงเซลีนในตอนนี้ที”

 

“ค่ะ” ลีน่าตอบอย่างเรียบเฉย

 

จากนั้นเธอก็เอาลูกแก้วคริสตัลใสที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้วออกมาและจับมันด้วยมือทั้งสองข้างของเธอ ในเวลาต่อมา บอลคริสตัลก็เปล่งแสงขึ้นและภายในของมันก็แสดงให้เห็นถึงภาพของพื้นที่ดาวน์ทาว

 

ภาพนั้นได้เปลี่ยนไปหลายครั้งจนมันหยุดลงเมื่อภาพของผู้หญิงผมบลอนด์ได้ปรากฏขึ้นมา

 

“นี่ไงองค์หญิง” ลีน่าพูดหลังจากที่มองไปที่หญิงสาว “เธอน่าจะกำลังปลอมตัวอยู่ แต่ว่าเธอไม่สามารถหลอกตาของฉันได้หรอก”

 

“นายจำพื้นที่ตรงนี้ได้รึเปล่า?” เบรนถามปีศาจบาลลี่ “เตรียมตัวปฏิบัติงานเดี๋ยวนี้ แล้วมุ่งหน้าไปที่สถานที่นี้ในทันที  อย่าปล่อยให้องค์หญิงตายด้วยฝีมือของกลุ่มของนักเวทย์หล่ะ แล้วก็จำเอาไว้ว่า ถ้าเกิดว่าลิงค์ยังไม่ออกมานายก็ต้องไม่ออกมาเหมือนกัน ยกเว้นแต่จะหมดหนทางแล้วจริงๆ”

 

บาลลี่ยืนขึ้นและโบกมือให้กับเบรนอย่างเร่งรีบ

 

“เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น” เขาพูด “ข้ารู้ว่าข้าต้องทำอะไร”

 

จากนั้นเขาก็หันหน้าไปหาลูกน้องทั้งสองของเขาและออกคำสั่ง”ไปกันเถอะ!”

 

“มาสเตอร์” เบรนพูดกับแอนดรูวเมื่อปีศาจทั้งสามได้ออกไป “ขอพูดตรงๆเลยนะ ข้าไม่เชื่อใจปีศาจพวกนั้นเลย พวกมันทำเป็นใจร้อนมาก แต่ว่านายไม่เห็นที่พวกมันแสดงเมื่อกี้นี้หรอ…”

 

แต่ว่าเบรนลืมไปแล้วว่าแอนดรูวนั้นเป็นคนฉลาดและระมัดระวังตัวขนาดไหน

 

“ข้าจะคอยมองการกระทำของพวกมัน” เขาพูดและเขาก็ยืนขึ้น “ข้าจะไม่ปล่อยให้ไอโง่พวกนี้มาทำให้สมาคมตกต่ำได้หรอก”

 

เบรนพยักหน้า เขาลืมไปได้ยังไงกันว่าพวกนักเวทย์นั้นเป็นคนฉลาด?

 

ณ ตอนนี้นี้ พื้นที่ดาวน์ทาวของเมืองโอปอล นั้นยังคงเงียบสงบ และทุกอย่างก็เป็นไปตามปกติ ถนนนั้นเต็มไปด้วยผู้คน และพ่อค้ากับลูกค้าก็กำลังยุ่งอยู่กับการซื้อและขาย ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่รู้สึกถึงคลื่นใต้น้ำอันมืดมิดที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใต้เมืองแห่งนี้เลย

 

พวกนักเวทย์นั้นกำลังยุ่งอยู่กับการวางแหเพื่อที่จะจับปลาตัวใหญ่ สมาคมก็เตรียมตัวที่จะลอบโจมตี นักล่านั้นได้แฝงตัวอยู่ในความมืดเตรียมพร้อมที่จะตะครุบเหยื่อของมันทุกเวลา เซลีนที่เป็นเหยื่อของเหตุการณ์นี้ก็กำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วแต่ก็แนบเนียนผ่านถนนของพื้นที่ดาวน์ทาวที่เต็มไปด้วยผู้คน

 

ณ ตอนนี้ มีนักเวทย์บางคนสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติและเริ่มที่จะเปลี่ยนเส้นทางไปหาเซลีน ทุกเส้นทางที่เซลีนสามารถใช้หนีได้ ถูกปิดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าความจริงเซลีนจะไม่อยู่แล้ว แต่พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะรู้ได้ เพราะว่าทุกอย่างที่เธอทำนั้นมีเพียงแค่เชื่อเสียงที่กำลังนำทางเธออยู่ในจิตใจของเธอ

 

เซลีนนั้นเชื่อลิงค์จากก้นบึ้งของจิตใจของเธอ

 

แต่ว่าใครกันนะที่จะเป็นผู้ชนะ?

 

ไม่มีใครรู้ได้ แม้แต่ลิงค์เองที่กำลังซ่อนตัวอยู่อย่างปลอดภัยในที่ซ่อนลับก็ยังเต็มไปด้วยเหงื่อ สิ่งที่เขาทำได้มีเพียงแค่หลอกล่อให้ขุมกำลังทั้งสองนั้นมาต่อสู้กันเองในเกมที่อันตรายนี้เท่านั้น

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset