Advent of the Archmage – ตอนที่ 206-207: เกาะประหลาด, เจ้าจะถูกจองจำไว้ที่นี่!

Chapter 206  เกาะประหลาด

 

มันเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงแล้ว; ลิงค์ลอยอยู่ในอากาศโดยใช้เวทย์ลอย เขาค่อยๆร่วงลงมาอย่างช้าๆและตอนนี้ก็อยู่ที่ระดับความสูง 6,000 ฟุต เขากำลังเรียกสติของตัวเองในช่วงเวลานี้

 

แม้ว่าผลของรบกวนมานาจะยังไม่หายเป็นปลิดทิ้ง, แต่ความเร็วในการร่ายเวทย์ของเขาในตอนนี้ก็กลับสู่สภาพปกติของมันแล้ว ผลข้างเคียงเดียวที่เหลืออยู่ก็คือจุดอ่อนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะปรากฏขึ้นในเวทย์มนตร์ของเขาเพราะสถานะที่เขาติดอยู่ ซึ่งมันคงจะไม่เป็นอะไรถ้าใช้เวทย์มนตร์กับคนธรรมดา อย่างไรก็ตาม, มันคงจะเข้าขั้นหายนะถ้ามีจุดอ่อนแบบนี้ในระหว่างที่ต่อกรกับนานะ

 

ถ้าเขาไม่มีหินนักปราชญ์สีขาวในมือ, เขาก็คงจะมีโอกาสรอดน้อยมาก, ไม่ต้องพูดถึงการพลิกกระดานเลย

 

นานะถูกออกแบบมาให้คำนวณทุกรายละเอียดการต่อสู้จนถึงรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจง เธอถูกสร้างมาได้สมบูรณ์แบบมากจนแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้อย่างลิงค์ก็ยังรู้สึกกดดันและติดพัน

 

ประสบการณ์การต่อสู้สี่ร้อยปีนี่เป็นพลังที่ยากจะต่อกรจริงๆ แม้ว่าลิงค์จะไม่ได้รู้สึกพ่ายแพ้ก็ตาม เขาเชื่อว่าถ้าเขาได้รับประสบการณ์การต่อสู้ที่มากพอ, เขาเองก็จะมีความรู้ในการต่อสู้อันไร้ที่ติเหมือนนานะ

 

เสียงกระพือปีกดังจนสามารถได้ยินได้ ลิงค์มองไปที่ข้างหลังเขาแล้วเห็นนานะกับกริฟฟินอีกตัว เธอกำลังบินโฉบอยู่ที่ระยะห่างออกไป 600 ฟุต, จ้องมองมาที่เขาอย่างใจจดใจจ่อ ลิงค์มีสมาธิสูงมาก, แม้ว่าเขาจะยังอยู่นิ่งตลอดเวลา เขาแสดงท่าทีผ่อนคลายและเยือกเย็นในขณะที่เขาลอยลงไปอย่างช้าๆ

 

นานะเองก็รักษาระยะของเธอแล้วลดระดับความสูงของเธออย่างช้าๆ, ให้พอดีกับการเคลื่อนที่ของลิงค์

 

การต่อสู้กลางเวหาเมื่อสองครั้งก่อนหน้านี้ได้จบลงด้วยความล้มเหลวของเธอ ซึ่งนี่หมายความว่าความได้เปรียบที่เธอจะเอาชนะลิงค์ได้กลางอากาศนั้นไม่สูงเลย ดังนั้นเธอจะรอจนลิงค์ถึงพื้นก่อนแล้วค่อยทำการเคลื่อนไหว พื้นดินเป็นชัยภูมิของเธอ เธอสามารถฆ่าเป้าหมายของเธอได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว

 

“ล็อคเป้าหมาย ปัจจุบันเป้าหมายกำลังลงพื้นในระยะ…1,900…1,800…1,700…” น้ำเสียงอันสดใสดังมาจากนานะอย่างต่อเนื่องในขณะที่ดวงตาสดใสของเธอจดจ่ออยู่กับลิงค์ มันดูบริสุทธิ์และสดใสมาก, แม้ว่ามันอาจจะให้ความรู้สึกเหมือนกับผู้เก็บเกี่ยวที่จุติลงมาถ้าคนๆนั้นเป็นเป้าหมายก็ตาม

 

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง, ระยะความสูงของลิงค์ก็ลดลงไปอีก 3,000 ฟุต เกาะที่อยู่ข้างล่างเขามองเห็นได้ชัดขึ้น เขาสามารถมองเห็นพืชและสัตว์บนเกาะได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้, เขาก็รู้สึกประหลาดใจอยากมากเมื่อพบว่าจุดลงพื้นของเขานั้นอยู่ตรงเกราะสีดำพอดี

 

บังเอิญอะไรอย่างนี้ ลิงค์ยิ้ม เขามีมานาประมาณ 1,900 แต้มและน่าจะสามารถคงสภาพหัตถ์ไททันไว้ได้ประมาณ 20 วินาที ซึ่งนี่น่าจะเพียงพอแล้วที่จะจัดการกับนานะ

 

ในตอนนั้นเอง, เสียงลมอันแผ่วเบาก็ดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้นลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงความผันผวนของเวทย์มนตร์ที่คุ้นเคย แล้วพอเขาหันกลับไปดู, เขาก็เห็นเซลีนกับแวนซ์ที่กำลังกลับมาจากภารกิจของพวกเขา แวนซ์ถือคทาที่มีกระโหลกสีดำติดที่ปลายของมันอยู่ มันเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากตุลาการทมิฬ นี่เป็นข่าวดี ถ้าพวกเขาสามารถผ่านหนึ่งวันไปได้, นี่ก็จะเป็นกุญแจสู่ชัยชนะของพวกเขา อย่างไรก็ตาม, พวกเขาต้องเปลี่ยนแผนการในตอนนี้

 

“ลิงค์, เป็นยังไงบ้าง?” เซลีนกระซิบในขณะที่เธอจ้องมาที่ใบหน้าซีดเผือดของลิงค์ด้วยสีหน้ากังวล

 

“บาดเจ็บนิดหน่อยหน่ะ” ลิงค์ตอบ

 

นานะเองก็สังเกตุเห็นการมาถึงของพวกเขาแล้วปรับตำแหน่งของเธอในทันทีเพื่อรับรองความปลอดภัยของเธอ อีกด้านนึง, ลิงค์ก็ใช้โอกาสนี้เพื่อใช้ผลสมองปลอดโปร่งของผ้าคลุมผู้ควบคุมเปลวเพลิง ผลสมองปลอดโปร่งนั้นจะฟื้นมานา 2,000 แต้ม ซึ่งในการต่อสู้ที่ช่วงเวลาเสี้ยววินาทีสามารถกำหนดความเป็นความตายได้นั้น, การมีมานาเยอะๆย่อมมีประโยชน์กว่าอยู่แล้ว

 

หลังจากเปิดใช้ผลพิเศษนี้, คลื่นความร้อนอ่อนๆก็ห่อหุ้มผ้าคลุม มันเหมือนกับว่าจู่ๆอุณหภูมิร่างกายของลิงค์ก็เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง, ทำให้มันดูค่อนข้างน่ากลัว

 

นานะไม่เคยเห็นปรากฎการณ์แบบนี้มาก่อน เธอคิดว่าลิงค์กำลังจะปล่อยเวทย์มนตร์ที่แข็งแกร่ง ดังนั้นเธอจึงถอยหลังไป 300 ฟุตในทันที

 

ยังไงซะ, เธอก็เป็นแค่หุ่นเชิดเวทย์มนตร์ แม้ว่าประสบการณ์การต่อสู้ของเธอจะมีประโยชน์, แต่สติปัญญาของเธอก็ยังมีขีดจำกัด ลิงค์รู้สึกว่าโอกาสของเขากำลังสูงขึ้น

 

ด้วยการใช้ข้อได้เปรียบนี้, เซลีนก็มาถึงตัวลิงค์ได้ในที่สุด

 

จากนั้นแวนซ์ก็ร่ายเวทย์ลอยใส่ทุกคนเพื่อที่ลิงค์จะได้มีเวลาทุ่มสมาธิกับนานะ แล้วพวกเขาก็ลอยลงไปอย่างช้าๆ

 

“ลิงค์, แผนการณ์ตอนนี้เป็นยังไง?” แวนซ์จ้องไปที่นานะ, ที่ตอนนี้กำลังขี่กริฟฟินอยู่ ดวงไฟแห่งจิตวิญญาณในดวงตาของเธอนั้นกำลังพลุ่งพล่าน หุ่นเชิดตัวนี้ฉลาดเกินไป; พวกเขาสูญเสียแม้กระทั่งข้อได้เปรียบทางอากาศของพวกเขา

 

ลิงค์ได้ตัดสินใจแล้ว “พอพวกเราถึงพื้น, ผมจะปล่อยเวทย์เลเวล 9”

 

แม้ว่าเขาจะรู้สึกโล่งใจที่แวนซ์กับเซลีนกลับมาสนับสนุนเขาได้แล้ว, แต่มันก็ได้พิสูจน์มาแล้วว่าการรวมพลังของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จะจัดการกับนานะ แถมตอนนี้เขาก็ได้รับบาดเจ็บ, ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะยื้อการต่อสู้จนผลของตุลาการทมิฬจะกลับมาใช้ได้ในวันถัดไป

 

เวทย์เลเวล 9 เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น

 

เซลีนพูดขัด “บางทีพวกเราน่าจะฆ่ากริฟฟินของเธอได้นะ”

 

ลิงค์ยิ้มอย่างขมขื่ม “ฉันลองดูแล้ว “เธอปกป้องมันได้ดีมาก ไม่ว่าฉันจะทำอะไร, มันก็ไม่สำเร็จสักอย่าง นอกจากนี้, ตอนนี้ฉันก็ติดผลรบกวนมานาอยู่ด้วย ความแข็งแกร่งของเวทย์ระดับต่ำของฉันน่าจะลดลงไปอย่างน้อย 50% นะ”

 

พอได้ยินคำพูดพวกนี้, เซลีนก็ล้มเลิกความคิดของเธอ

 

แวนซ์ก็พูดไม่ออกเช่นกัน เขาเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับลิงค์ในตอนที่เขาอยู่ในสภาพพร้อมรบเต็มกำลัง มันพูดได้เลยว่าฉากการต่อสู้นั้นคล้ายกับพายุเวทย์ระดับต่ำที่โหมกระหน่ำใส่ศัตรูของเขาอย่างไร้ความปราณี พอคิดว่านานะสามารถป้องกันพายุเวทมนตร์อันน่าหวาดกลัวนี้ได้! เขาก็อาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากนักแม้ว่าเขาจะอยู่ในการต่อสู้นั้นด้วยก็ตาม

 

แวนซ์ยังรู้สึกเจ็บช้ำด้วยที่พวกเขาจะต้องมาเสียเวทย์เลเวล 9 กับหุ่นเชิดตัวนึง เขาพูดอย่างไม่เต็มใจ “พวกเราสามารถปล่อยให้เซลีนพาพวกเราหนีได้นี่”

 

ก่อนที่ลิงค์จะได้พูด, เซลีนก็ส่ายหัวของเธอแล้วตอบ “ความเร็วของฉันช้ากว่ากริฟฟินมากเลยนะถ้าฉันต้องแบกคนไปด้วยสองคน แถมมันต้องใช้ความอดทนของฉันด้วย”

 

แล้วแวนซ์ก็ผายมือออกมาอย่างจนปัญญา “ข้าเดาว่าพวกเราคงไม่มีทางเลือกแล้วสินะ”

 

พวกเขาทั้งสามนิ่งเงียบในขณะที่พวกเขาร่วงหล่นอย่างช้าๆ

 

ตั้งแต่ที่นานะได้กริฟฟินมาช่วย, พวกเขาก็สูญเสียข้อได้เปรียบทางอากาศไป แถมพวกเขายังเสียข้อได้เปรียบในการเปิดการโจมตีก่อนด้วยเพราะมีข้อจำกันในระยะการร่ายเวทย์ของพวกเขา นานะนั้นระวังตัวมากแล้วจะถอยทุกครั้งที่เธอรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เธอจะไม่ยอมให้พวกเขามีโอกาสปล่อยเวทย์มนตร์อะไรเลย

 

ดังนั้น, ทั้งสองฝ่ายจึงทำได้แค่รอจนกว่าจะถึงพื้นก่อนที่จะเริ่มการโจมตีที่รุนแรง

 

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว, และไม่นานนัก, พวกเขาก็อยู่เหนือพื้นดินแค่ 300 ฟุต ด้านล่างพวกเขาเป็นเกาะสีดำที่ดูแปลกประหลาด

 

ทันใดนั้นเอง, ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ จู่ๆมือของเขาก็รู้สึกหนัก พูดให้ชัดกว่านี้, มันคือนิ้วของเขาที่รู้สึกหนัก มันเหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังดึงมันอยู่ ลิงค์รู้สึกสับสน ซึ่งเขาก็ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าความรู้สึกถูกดึงนี้มาจากตราประทับบารอนบนนิ้วของเขา

 

สัญชาติญาณของลิงค์บอกให้เขาตรวจสอบตราประทับบารอนในทันที อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่เขาขยับ, เขาก็รู้สึกเสียวแปลบเบาๆจากแหวน ความรู้สึกนี้ก็มาจากแหวนป้องกันที่เขาส่วมเช่นกัน หากลิงค์ไม่ใช่คนรู้สึกไวเขาคงจะไม่ทันรู้ตัว ตอนนี้มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีกระแสไฟฟ้าเล็กๆกำลังวิ่งผ่านพวกมันอยู่

 

แต่ทำไมมันถึงเป็นกลางอากาศหล่ะ?

 

ขณะที่พวกเขาร่วงลงมาเรื่อยๆ, ลิงค์ก็รู้สึกว่าความรู้สึกถูกดึงจากตราประทับบารอนนั้นชัดเจนขึ้น แหวนวงนี้ไม่ได้ทำมาจากวัตถุดิบคุณภาพดี, มันก็แค่เหล็กถูกๆ

 

เดี๋ยวนะ…เหล็กหรอ?

 

แรงฉุดนนี้คล้ายกับแรงดึงดูดจากแม่เหล็กเลย หรือว่านี่จะเป็นสนามแม่เหล็กจริงๆ?

 

จากนั้นลิงค์ก็มองไปที่เกาะสีดำ เขาสังเกตุเห็นว่าในความเป็นจริงแล้วเกาะแห่งนี้เป็นแนวหินสีดำขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 900 ฟุต มีกรวดกระจัดกระจายบนพื้นผิวของเกาะซึ่งดูแปลกประหลาดมากๆ ลิงค์เห็นว่าหนึ่งในพวกมันดูเหมือนจะห้อยลงมาจากหน้าผาอย่างไม่มั่นคงโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอกเลย ซึ่งนี่เป็นการละเมิดกฎฟิสิก

 

ลิงค์นึกขึ้นได้อย่างกระทันหัน “หรือว่าที่นี่จะเป็นเกาะแม่เหล็ก?”

 

พวกเขาอยู่เหนือระดับพื้นแค่ 150 ฟุตแล้วแรงดึงดูดที่ดึงตราประทับบารอนนั้นก็รุนแรงขึ้นทุกนาที ลิงค์ต้องเก็บแหวนเอาไว้ในจี้ต่างมิติเพราะมันหนักเกินไปที่จะสวม จากนั้นเขาก็พยายามยกคทาคว้าดาวในมือของเขาขึ้นมา

 

ตัวคทานั้นส่วนใหญ่ทำมาจากทองคำและทอเรียมคุณภาพดีแทบทั้งหมด, ซึ่งทั้งสองนี้เป็นสารโลหะ ในตอนที่เขาขยับคทา, เขารู้สึกว่าอุณหภูมิพื้นผิวของคทาจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

ในตอนที่สารโลหะตัดผ่านเส้นแม่เหล็ก, แรงดันไฟฟ้าจะก่อให้เกิดความต่างศักย์ขึ้น ถ้าวงจรไฟฟ้าปิดถูกสร้าง, มันก็จะเกิดการสร้างกระแส และด้วยความที่คทามีรูปร่างไม่สม่ำเสมอ, มันจึงมีกระแสวนเกิดขึ้นที่โครงสร้างภายในของมัน, ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ฉันแค่ขยับพร้อมกับคทาเพียงเล็กน้อย, อุณหภูมิก็ต่างกันจนรู้สึกได้แล้ว สนามแม่เหล็กบนเกาะนี้รุนแรงขนาดไหนกันถึงมีอัตราการแปลงกระแสไฟฟ้าที่รุนแรงขนาดนี้?

 

นี่เป็นทฤษฎีการใช้สนามแม่เหล็กเพื่อผลิตไฟฟ้าบนโลก แม้ว่ารายละเอียดเฉพาะอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อยในฟิรุแมน, แต่ทฤษฎีหลักๆนั้นก็เหมือนกัน อันที่จริง, นี่เป็นทฤษฎีพื้นฐานที่สุดสำหรับเวทย์ธาตุสายฟ้าส่วนใหญ่

 

จากนั้นลิงค์ก็สะดุดเข้ากับความคิดนึง เขาจ้องไปที่นานะที่อยู่ห่างออกไป 600 ฟุตแล้วตระหนักได้ว่าตัวเธอนั้นทำมาจากสารโลหะทั้งตัว เกาะแห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่เธอจะได้พบกับความตายของเธอ!

 

ลิงค์รู้สึกตื่นเต้นแล้วพูดขึ้นมาในทันที “ทั้งสองคนรู้สึกรึเปล่า? ก็แห่งนี้มีความพิเศษอยู่”

 

เซลีนไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากปวดหัวเล็กน้อย ซึ่งนี่เป็นความผิดปกติทางร่างกายทั่วๆไปเมื่ออยู่ภายใต้สนามแม่เหล็กที่รุนแรง

 

แวนซ์, ในอีกด้านนึง, รู้สึกได้ดีกว่าเล็กน้อยแล้วอ้าปากค้าง “นี่มันน่าสนใจจริงๆ! เกาะแห่งนี้เป็นเหมืองสำหรับวัสดุแม่เหล็กที่แข็งแกร่งมากๆ!”

 

“บางทีพวกเราน่าจะมีโอกาสจัดการนานะได้ที่นี่นะ” ลิงค์หันไปหาเซลีนแล้วถาม “เธอมีดาบสำรองเก็บไว้บ้างไหม?”

 

“แน่นอน” เซลีนเอาดาบมือเดียวที่ทำจากทองออกมา

 

“ดาบเล่มนี้โอเคเลย พวกเราจะเริ่มการต่อสู้กับนานะที่นี่” ดวงตาของลิงค์เปล่งประกายขณะที่เขาประกาศ

 

เกาะแห่งนี้พิเศษมากๆ, แล้วนานะก็คงจะไม่มีประสบการณ์จัดการกับสนามแม่เหล็กอย่างแน่นอน การขาดประสบการณ์การต่อสู้ของนานะจะเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกเขา นอกจากนี้, ต่อให้เธอมีประสบการณ์การต่อสู้ที่เกี่ยวข้อง, มันก็เปล่าประโยชน์ เพราะความจริงที่ว่าร่างทั้งร่างของเธอประกอบไปด้วยสารโลหะนั้นก็หมายความว่าการเคลื่อนไหวของเธอจะถูกจำกัดที่นี่!

 

*************************************************

 

Chapter 207: เจ้าจะถูกจองจำไว้ที่นี่!

 

พรึ่บ…พรึ่บ…พรึ่บ…

 

ในตอนที่พวกเขาลงมาถึงพื้น เซลีน,ลิงค์แล้วก็แวนซ์ทุกคนได้ใช้เวทย์ป้องกันของตัวเอง พวกเขายืนในรูปแบบเดียวกับที่ใช้ในพระราชวังใต้ดิน-เซลีนอยู่ด้านหน้า ในขณะที่ลิงค์กับแวนซ์ยืนอยู่ด้านหลังของเธอคนละข้าง

 

นานะเองก็มาถึงพื้นแล้วเช่นกัน เธอจ้องไปที่เซลีนที่ยืนอยู่ด้านหน้าและประเมินความแข็งแกร่งของเธอ

 

“ล็อคเป้าหมาย” หุ่นเชิดเวทมนตร์พูดด้วยน้ำเสียงอันน่าขนลุก “ภัยคุกคามระดับ:2ดาว”

 

ทันทีหลังจากที่เธอพูดจบ ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นในอากาศ นานะได้ใช้ท่าที่อันตรายที่สุดของเธอ-พุ่งความเร็วแสง!

 

ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ ในตอนที่นานะใช้ท่านี้ เธอจะปรากฏตัวขึ้นมาเหมือนกับว่าเธอได้หายไปในอากาศต่อหน้าต่อตาพวกที่มีความรู้สึกช้า นี่เป็นการป้องกันคู่ต่อสู้ของเธอไม่ให้คาดเดาทิศทางที่เธอจะโจมตีได้ ซึ่งมันจะทำให้พวกเขารู้สึกสิ้นหวังและไร้การป้องกัน

 

แต่ว่าครั้งนี้มันมีปัญหาอยู่!

 

 

 

ในตอนที่ร่างของนานะดูเหมือนจะหายไป จู่ๆก็มีร่างปริศนาที่เปล่งแสงสีแดงปรากฏขึ้นอย่างกระทันหัน ไม่เพียงแค่นั้น ทั้งๆที่นานะควรจะพุ่งเข้ามาหาเซลีนด้วยความเร็วสูง แต่กลับถูกดีดกลับไปด้วยพลังงานปริศนา มันทำให้เธอเสียการควบคุมและทำให้เธอกระเด็นออกจากเป้าหมายของเธอในตอนที่เธออยู่ห่างจากเซลีนประมาณ 30 ฟุต

 

เพราะความเร็วสูงสุดที่ 2,000 ฟุตต่อวินาทีของเธอ เธอจึงพุ่งผ่านสนามแม่เหล็กที่แข็งแกร่งบนเกาะซึ่งนั่นทำให้กระแสไฟฟ้าแรงสูงพุ่งผ่านไปทั่วร่างกายที่เป็นเหล็กของเธอ

 

ความรุนแรงของกระแสไฟฟ้านั้นแรงพอๆกับถูกผ่าด้วยเวทย์สายฟ้า!

 

แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือร่างกายของเธอได้กลายเป็นแม่เหล็กจากกระแสไฟฟ้าซึ่งนั่นทำให้ร่างกายของเธอมีปฏิสัมพันธ์กับสนามแม่เหล็กของเกาะแรงยิ่งขึ้นไปอีก และนั่นก็คือสิ่งที่ทำให้เธอเสียสมดุล

 

“หืม…?” ดวงตาสับสนของเซลีนเบิกกว้างในตอนที่เห็นนานะประสบอุบัติเหตุ นี่เป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้น

 

ลิงค์กับแวนซ์ได้คาดการณ์เอาไว้แล้วว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ พวกเขาทั้งคู่ไม่ปล่อยให้เสียเวลาและเริ่มร่ายเวทย์โจมตีของตัวเอง!

 

“หัตถ์ไททัน!”

 

ในทันทีที่ร่างของนานะกระเด็นออกจากพวกเขา หัตถ์ไททันของลิงค์ก็ตามเธอไปอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเป็นหมัดแห่งฟิโรมอซแล้วทุบใส่ร่างกายของหุ่นเชิดเวทมนตร์อย่างรุนแรง

 

ตูม!

 

ร่างกายของนานะถูกกระแทกอีกครั้งก่อนที่เธอจะตกลงพื้น และแรงกระแทกก็ทำให้เธอลอยขึ้นไปอีกครั้งด้วยความเร็ว เธอยังคงถูกขัดขวางด้วยสนามแม่เหล็กของเกาะซึ่งนั่นทำให้ร่างกายของเธอเกิดกระแสไฟฟ้ามากขึ้น

 

แรงแม่เหล็กจะแปลงพลังงานจลน์เป็นพลังงานไฟฟ้า และเมื่อกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านร่างกายของนานะ มันก็จะถูกแปลงเป็นพลังงานความร้อนจำนวนมาก หรือพูดอีกนัยนึงก็คือ นั่นหมายความว่าถ้าพลังงานจลน์ยิ่งเยอะเท่าไร (จากความเร็วสูงของเธอ) มันก็จะยิ่งถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนมากขึ้นเท่านั้น!

 

ยิ่งอุณหภูมิในร่างกายของนานะสูงขึ้นเท่าไร ร่างของเธอก็จะยิ่งเป็นสีแดงมากขึ้นเท่านั้น

 

“อุณหภูมิร่างกายใกล้เกินขีดจำกัดแล้ว” เสียงดังมาจากร่างกายของนานะ “เริ่มการกระจายความร้อน! เริ่มการกระจายความร้อน!”

 

จากนั้นไม่นาน นานะก็ไม่กล้าที่จะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงอีกแม้ว่าเธอจะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตาม อาวุธที่ร้ายแรงที่สุดของเธอ, ความเร็ว ในตอนนี้มันได้ถูกยกเลิกด้วยฝีมือเกาะแม่เหล็กแห่งนี้

 

ในที่สุด แวนซ์ก็มีเวลามากพอที่จะร่ายเวทย์ 1.8 วินาทีต่อมา เขาชี้คทาไปที่หุ่นเชิดเวทย์มนตร์และตะโกน “สลายโลหะ!”

 

ลำแสงสีเทาพุ่งออกมาจากคทาและไล่ตามหุ่นเชิดเวทมนตร์ นานะตรวจจับภัยคุกคามอันรุนแรงจากลำแสงได้ในทันที  แล้วเธอก็หลบด้วยความเร็วสูงตามสัญชาติญาณ ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนในอากาศและเธอก็ดูเหมือนจะหายไปอีกครั้ง

 

แต่ในครั้งนี้ เธอได้ถูกบังคับให้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งในระยะห่างออกไปแค่ 7 ฟุต

 

แสงสีแดงที่อยู่บนร่างกายของนานะในตอนนี้ได้กลายเป็นสีขาวแล้ว ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าเหล็กที่สร้างร่างกายของเธอขึ้นมานั้นมีความร้อนสูงมากและใกล้จะละลายแล้ว

 

ซู่วว! ซู่วว!

 

ในที่สุดสลายโลหะก็ตามเธอทันและโดนเข้ากับหน้าอกของเธอ ควันหนาสีขาวพุ่งออกมาจากจุดนั้น และหลุมขนาดเท่ากำปั้นก็ปรากฏขึ้นตรงจุดที่ลำแสงสัมผัสกับร่างของเธอ

 

เพียงแค่นั้นนานะก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ และเสียงอันแจ่มใสของเครื่องจักรก็ดังขึ้นมาจากร่างกายของเธออีกครั้ง

 

“ตรวจพบความเสียหายร้ายแรงบริเวณร่างกาย” เสียงนั้นพูด “เริ่มกระบวนการซ่อมแซม”

 

“กระบวนการซ่อมแซมล้มเหลว” เสียงพูดต่อ “เริ่มการสำรองข้อมูลความทรงจำ…การสำรองเสร็จสิ้น เริ่มกระบวนการจำศีล ภารกิจปกป้องเจ้านายล้มเหลว..ล้มเหลว..ล้มเหลว…ล้มเหลว…”

 

จากนั้นร่างกายของนานะก็สั่นอย่างรุนแรงก่อนที่หัวและแขนของเธอจะหลุดออกจากส่วนของร่างกายของเธอและร่วงลงกับพื้น ร่างของเธอยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่มีร่องรอยของการมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว

 

“นี่เธอแพ้แล้วหรอ? ง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ?” เซลีนถาม โดยแทบไม่เชื่อสายตาว่าจะจัดการได้ง่ายดายขนาดนี้

 

ลิงค์พยักหน้าแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ

 

“เธอเข้าสู่สภาวะจำศีลแล้ว” เขาพูด “พวกเราชนะแล้ว”

 

ในอีกด้านนึงแวนซ์ไม่ได้พูดอะไร เขาจ้องไปที่หุ่นเชิดเวทมนตร์ที่ยืนนิ่งอยู่อย่างเงียบๆเป็นเวลาพักนึงก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมายาวๆ

 

“เจ้ารู้ไหม ว่าข้าสร้างเธอขึ้นมาให้เหมือนกับลูกสาวของข้า” ในที่สุดเขาก็พูด “และตอนนี้เธอก็มาตายด้วยน้ำมือของข้า”

 

ในตอนที่เขาพูด เขาก็ค่อยๆขยับเข้าไปใกล้นานะอย่างช้าๆและเข้าไปตรวจสอบเธออย่างใกล้ชิด

 

“คุณควรจะร่ายสลายโลหะใส่เธออีกครั้งนะ” ลิงค์เตือนแวนซ์ “เผื่อในกรณีที่เธอยังไม่ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์”

 

“นั่นไม่จำเป็นหรอก” แวนซ์ตอบ “การโจมตีสุดท้ายของข้าได้เล็งไปที่คอร์มานาของเธอ”

 

ลิซเฒ่านั้นดูเหมือนจะตกอยู่ในอารมณ์เศร้ามากๆ เขาไม่สนใจคำแนะนำของลิงค์เลยและขยับเข้าไปใกล้ร่างไร้ชีวิตของนานะแทน จากนั้นเขาก็ยื่นมือโครงกระดูกของเขาไปจับที่ใบหน้าของเธอเบาๆ

 

แกร๊ก!

 

อยู่ๆร่างกายของหุ่นเชิดเวทมนตร์ก็กระตุก และแขนของเธอก็พุ่งเข้ามาใส่กระโหลกของลิซ

 

แน่นอนว่าหัวกะโหลกของแวนซ์นั้นแข็งแกร่ง แต่ว่ามันก็น้อยกว่าเหล็กที่ใช้ทำร่างกายของนานะมาก ถ้าเกิดว่าแวนซ์ถูกกระแทกเต็มแรงจากแขนของนานะ หัวของเขาก็จะถูกเป่ากระจุย และไฟวิญญาณของเขาที่อยู่ในหัวก็จะดับไปในทันทีอย่างแน่นอน

 

แขนของนานะนั้นยังคงเร็วเกินกว่าที่แวนซ์จะตอบสนองได้อย่างเหมาะสม และเขาก็ทำได้แค่มองอย่างจนปัญญาและรอรับแรงกระแทกที่จะตามมา

 

ทันใดนั้นเอง แสงสลัวๆสีแดงก็ปรากฏขึ้นที่รอบๆตัวของแวนซ์-มันคือเอเดลไวซ์สีแดงของลิงค์

 

แขนของนานะนั้นช้าลงในทันทีด้วยสนามพลังของโล่ และมันก็หยุดอย่างสมบูรณ์ในระยะห่าง 4 ฟุตจากกะโหลกของแวนซ์ ครึ่งวินาทีต่อมา แขนก็ถูกสนามพลังปัดออก

 

หัวของนานะกระตุกขึ้นมา และตาใสๆของเธอก็จ้องไปที่ลิงค์ จากนั้นก็มีเสียงแหบแห้งดังขึ้นมาจากร่างกายของเธอ

 

“ภารกิจล้มเหลว” เสียงพูด พลังงานกำลังจะหมด….เป้าหมายภัยคุกคามระดับ: 5 ดาว… 5 ดาว….5….ดาว…”

 

จากนั้น เหมือนกับว่าพลังชีวิตของเธอได้หมดลง ร่างกายของนานะล้มลงกับพื้นอย่างสมบูรณ์ และส่วนอื่นๆก็ค่อยๆตามมา ในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะถูกทำลายแล้วจริงๆ

 

หลังจากนั้นพอแวนซ์รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็จับหัวกระโหลกของเขาด้วยนิ้วกระดูกของเขาและได้รู้ว่าไฟวิญญาณของเขายังอยู่ดี เขาคาดไม่ถึงเลยว่านานะจะยังสามารถโจมตีเขาแบบนั้นได้ มันเสี่ยงตายมากเลยเมื่อสักครู่นี้ เขาสามารถตายได้ง่ายๆเลยโดยที่ไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเขาโดนอะไร

 

โดยปกติแล้ว แวนซ์ไม่ได้รู้สึกแย่เลยที่จะตาย แต่หลังจากที่เขาได้ผ่านการต่อสู้อันรุนแรงและตื่นเต้นไปกับลิงค์และเซลีน เขาก็พบว่าเขายังอยากที่จะยังมีชีวิตอยู่

 

แสงอาทิตย์ยังคงส่องมาที่โลก เขารู้สึกตัว มันยังคงมีอีกหลายสิ่งที่คุ้มให้มีชีวิตอยู่เพื่อมัน อย่างเช่นความเชื่อมั่นในพรรคพวกและความจงรักภักดีในมิตรภาพ

 

การต่อสู้ในครั้งนี้ได้ทำให้มุมมองอันเก่าคร่ำครึของแวนซ์นั้นกลับตาลปัตรไปเลย

 

“ขอบคุณนะ เจ้าหนู” แวนซ์พูดกับลิงค์พร้อมกับโบกมือของเขา

 

“ด้วยความยินดีครับ คุณลุง” ลิงค์ตอบ

 

พวกเขาทั้งคู่มองหน้ากันแล้วรู้สึกได้ว่ามีความเชื่อใจแบบใหม่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ทันใดนั้น พวกเขาทั้งคู่ก็หัวเราะออกมาอย่างมีชีวิตชีวา เซลีนมองไปที่พวกเขาอย่างสงสัย เธอหันไปมองลิงค์กับลิซเฒ่า แต่เธอก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ามีอะไรที่น่าตลกขนาดนั้น

 

จากนั้น แวนซ์ก็ไปนั่งลงใกล้กับซากของนานะและเริ่มตรวจสอบหุ่นเชิดเวทมนตร์อย่างระมัดระวัง เขาต้องการจะรู้ว่าเธอวิวัฒนาการไปแค่ไหนและเกิดอะไรขึ้นในช่วง 400 ปีมานี้

 

ในอีกด้านนึงลิงค์ เริ่มที่จะศึกษาแม่เหล็กที่อยู่ในพื้นดิน เขาหยิบเศษหินสีดำขึ้นมาตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เขาพบว่ามันมีสีเขียวเข้ม และมีรอยหมุนแปลกๆอยู่บนผิวของมัน ในตอนที่เขาเอามันเข้ามาใกล้ๆจมูกและลองดมดู เขาก็ได้กลิ่นบางอย่างที่ฉุนๆและกลิ่นเหล็ก จากนั้น เขาก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา แล้วเขาก็รีบหันไปหาเซลีน

 

“เอาดาบของเธอผ่าครึ่งมันให้หน่อยสิ” เขาพูด “ฉันยากเห็นหน้าตัดของมัน”

 

เซลีนรีบดึงดาบของเธอออกมา และในตอนที่ดาบของเธออาบแสงอาทิตย์ เธอก็ตัดหินแม่เหล็กออกครึ่งนึงอย่างรวดเร็ว หน้าตัดของมันนั้นเรียบเหมือนกับเหล็กและแตกต่างจากพื้นผิวอันขรุขระของหินแม่เหล็กธรรมดาโดยสิ้นเชิง พอเห็นหน้าตัดของมัน รอยยิ้มกว้างก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของลิงค์ เขาตระหนักได้ว่าเขาพบโชคลาภชิ้นใหญ่เข้าแล้ว!

 

ลิงค์เคยอ่านเรื่องเกี่ยวกับเหล็กประเภทนี้จากตำราของวัตถุดิบเวทมนตร์ในตอนที่เขาอยู่ที่สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ เหล็กนี้มีชื่อว่า เหล็กหมุนวน แล้วมันก็ถูกอธิบายเอาไว้ว่ามันมีกลิ่นที่ฉุนและลายหมุนวน สนามแม่เหล็กของมันนั้นรุนแรงกว่าแม่เหล็กชนิดอื่นๆถึง 100 เท่า

 

หากนำเหล็กชนิดนี้มาบดให้เป็นผงและนำเข้าไปผสมกับสารละลายและนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ ผลที่จะได้ออกมาก็คือน้ำหมึกประกายแสง ซึ่งเป็นหมึกไฟฟ้าประเภทหนึ่ง หมึกชนิดพิเศษนี้แค่ขวดเล็กๆก็มีราคาประมาณ 10 เหรียญทองแล้ว ซึ่งขวดเล็กๆเพียงขวดนึงนั้นใช้เหล็กหมุนวนแค่1ออนซ์เท่านั้น

 

และที่เกาะแม่เหล็กแห่งนี้ก็มีเหล็กหมุนวนเป็นพันๆตัน ถ้าเกิดว่าเขาสามารถเปลี่ยนมันทั้งหมดเป็นหมึกประกายแสงได้หล่ะก็ ลิงค์รู้สึกได้เลยว่าเขาจะสามารถทำเงินได้มหาศาลอย่างแน่นอน!

 

แต่แน่นอนว่ามันคงจะไม่ง่ายขนาดนั้น ราคาของหมึกประกายแสงจะต้องตกฮวบแน่ๆถ้าเกิดว่ามันมีปริมาณมากในตลาด มันอาจจะลงมาเหลือ 1 เหรียญทองหรือ1  เหรียญเงินต่อขวดเลยก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังคงนำโชคลาภมาให้ลิงค์อยู่ดี

 

พอเขาคิดถึงมัน ลิงค์ก็ตื่นเต้นมากและอดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ เขากระโดดขึ้นไปบนอากาศและจับเซลีนเข้ามาในอ้อมแขนของเขาแล้วเต้นรำ

 

“55555 เซลีน!” เขาตะโกน “เกาะแห่งนี้จะทำเงินให้ฉันมากมายและมันก็มากพอที่จะเอาไปพัฒนาที่ดินของฉันได้!”

 

แม้ว่าเซลีนจะไม่รู้คุณค่าที่แท้จริงของเหล็กหมุนวน แต่เธอก็ยังคงมีความสุขมากๆที่ได้เห็นลิงค์มีความสุข

 

ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยเซลีน แต่เขาก็ยังคงจับเธอเอาไว้ใกล้ๆ ตอนนี้เขาได้พบข้อแก้ตัวอันสมบูรณ์แบบที่จะชอบเธอแล้ว เขาอยากจะยืดช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ให้นานที่สุด พอมาถึงจุดนี้ ลิงค์ก็รู้สึกว่าหน้าอกของเขาอาจระเบิดออกมาจากความสุขที่เขารู้สึกก็ได้ และร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยความรู้สึกซาบซ่านจนบาดแผลบนร่างกายของเขาไม่สร้างความรู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป

 

แก้มของเซลีนนั้นแดงจนเหมือนกับแอปเปิ้ล เธอปล่อยให้ลิงค์โอบแขนของเธอโดยที่ไม่บ่นอะไร อันที่จริงคือ เธอนั่นแหล่ะที่เป็นคนโอบแขนของลิงค์อยู่

 

แกร๊ก! กรึ่ก!

 

เสียงจากโครงกระดูกของแวนซ์ทำให้เซลีนกับลิงค์สะดุ้งและกลับเข้าสู่โลกความเป็นจริง จากนั้นพวกเขาก็แยกออกจากกันในทันทีในตอนที่พวกเขารู้สึกตัวว่าพวกเขาทั้งคู่อยู่ในจุดแปลกๆ ซึ่งนี่ทำให้แวนซ์ลูบหัวกระโหลกของเขาและหัวเราะออกมา

 

“โอ้ ไม่ต้องอายไป” เขาพูด “ไม่มีอะไรต้องอายหรอก”

 

เซลีนก้มหน้าไม่พูดอะไร ส่วนลิงค์พยายามทำให้ตัวเองใจเย็นลงและหุบรอยยิ้มกว้างๆของเขา

 

“คุณเจออะไรที่น่าสนใจในตัวหุ่นเชิดเวทมนตร์บ้างรึเปล่า?” เขาถามเพื่อเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาอย่างรวดเร็ว

 

แวนซ์พยักหน้าของเขา” ข้าว่าข้าพบเหตุผลที่ทำไมข้าถึงสูญเสียการควบคุมเธอแล้วแหล่ะ”เขาพูด

 

ลิงค์รู้สึกสนใจขึ้นมา “แล้วคุณสามารถแก้ไขมันได้ไหม?”เขาถาม

 

“นั่นค่อนข้างจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่นะ” แวนซ์ตอบ “ข้าไม่สามารถทำคนเดียวได้ เว้นเสียแต่ว่าเจ้าต้องการจะช่วยหล่ะนะ ข้าคิดว่าพวกเราสามารถชุบชีวิตเธอและเปลี่ยนให้เธอกลายเป็นเครื่องจักรต่อสู้อันน่ากลัวได้”

 

“แล้วถ้าเกิดว่าคุณสูญเสียการควบคุมเธออีกหล่ะ?” เซลีนถาม มันเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมากจนพวกเขาไม่สามารถเพิกเฉยได้ ยังไงซะ หุ่นเชิดเวทมนตร์ตัวนี้ก็เคยทำให้พวกเขามาถึงจุดที่คิดว่าชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายมาแล้ว แค่คิดถึงมันก็ทำให้พวกเขาตัวสั่นแล้ว

 

“นั่นแหล่ะคือส่วนที่ยาก” แวนซ์พูดในขณะที่เกาหัวของเขาพร้อมกับมองไปที่ลิงค์ “เจ้าคิดว่ายังไงหล่ะ?”

 

ลิงค์พิจารณาเรื่องนี้อยู่ประมาณครึ่งนาที

 

“ผมไม่ค่อยเข้าใจหลักการการทำงานของหุ่นเชิดเวทมนตร์เท่าไหร่” เขาพูด “ดังนั้นตอนนี้ผมมันไม่สามารถให้ความคิดเห็นที่มีประโยชน์กับคุณได้หรอก ผมว่าตอนนี้มาเอาตัวเธอกลับไปกับพวกเราก่อนดีกว่านะ”

 

แวนซ์พยักหน้าเห็นด้วย

 

“ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี” เขาพูด “ข้าไม่มีข้อโต้แย้งกับเรื่องนั้น หลังจากที่พวกเรากลับไป ข้าจะให้สมุดโน๊ตของข้ากับเจ้าซึ่งข้างในนั้นมีเขียนอธิบายเกี่ยวกับหุ่นเชิดเวทมนตร์อยู่ เจ้าสามารถศึกษามันได้นะ”

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset