Advent of the Archmage – ตอนที่ 231: ฟังเสียงพลุนั่นสิ

กลูยี่สิบคนกำลังวิ่งขึ้นเนินเขา

 

โชคไม่ดีที่, พวกเขาไม่มีประสบการณ(ในการจัดการกับหัตถ์ไททัน ผนวกกับสติปัญญาอันน้อยนิดของพวกเขา, พวกเขาจึงวิ่งติดกัน, ทำให้เกิดการกระจุกกันขึ้นมาและทำให้พวกเขากลายเป็นเป้าหมายที่ง่ายดายของเวทย์นี้

 

“หมัดไททัน!”

 

หัตถ์ไททันที่เพิ่งจะกำจัดนักรบมังกรทมิฬเปลี่ยนเป็นหมัดในทันที, และด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น, หมัดก็พุ่งเข้าใส่พวกกลูอย่างไร้ความปราณี

 

ตูม! ตูม! ตูม!

 

เสียงปะทะกันดังจนได้ยินได้ กลูทุกคนมีเลเวล 6 ดังนั้นจึงไม่สามารถทนแรงกระแทกของเวทย์เลเวล 7 ได้ พวกเขาถูกพลังอันน่าหวาดกลัวนี้อัดกระเด็นในทันที

 

ฉากนี้เป็นภาพที่คล้ายกับภาพที่มองเห็นได้ในลานโบว์ลิ่ง ในตอนที่บอลชนพินที่ปลายทางของเลน, พินจะกระจายไปทุกทิศทางจากแรงกระแทก

 

ฟู่ววว ที่กลางอากาศ, หมัดไททันเปลี่ยนเป็นมืออีกครั้งและเริ่มคว้ากลูทุกคนกลางอากาศ ในตอนที่มันจับกลู มันจะปล่อยคลื่นความร้อนอุณหภูมิสูงออกมาเพื่อละลายสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายเหล่านี้

 

“อ้า! โอ้พระเจ้า! อ้ากก!” เสียงร้องดังไปทั่วพื้นหิมะ

 

ณ เวลานี้, ลิงค์ได้ใช้พลังเต็มที่ของเขาอย่างแท้จริง

 

ในสายตาของเขา, เวลาดูเหมือนจะเดินช้ากว่าเดิม กลูที่ถูกอัดกระเด็นลอยผ่านบรรยากาศอย่างช้าๆเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นลูกโป่งอัดแก๊ส, ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถเลือกคนที่อยากจะระเบิดทิ้งก่อนได้

 

ภายใต้ผลของสมาธิและความเร็วในการร่ายเวทย์ระดับนี้, ดวงตาของลิงค์เปล่งประกายและอ่านยากยิ่งกว่าเดิม ยิ่งมองเข้าไปใกล้ก็จะเผยให้เห็นแสงสีเงินจางๆที่อยู่รอบๆม่านตาของเขา นี่คือความเจิ้ดจ้าของจิตวิญญาณที่หนีจากโซ่พันธนาการของร่างกายหลังจากที่วิญญาณทำงานจนสุดความสามารถของมัน

 

จากมุมมองของคนอื่น, พวกเขาจะมองเห็นภาพติดตาหลังจากที่ภาพของมือยักษ์สีน้ำเงินอยู่ห่างออกไป 150 ฟุต ความเร็วที่มือเคลื่อนไหวนั้นเร็วเกินกว่าที่ตาเปล่าจะจับได้ มือนั้นยังดูอย่างกับภาพลวงตาอีกด้วย, และด้วยภาพลวงที่จับต้องได้นี้, มือก็กำจัดกลูด้วยความเร็วที่ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้

 

ภายในเวลาสามวินาที, หลังจากที่ภาพหายไปอย่างกระทันหันและกลับมาลอยนิ่งอยู่กลางอากาศ กลูที่กระเด็นกลางอากาศก็ไม่กลับมาที่พื้นอีกเลย พวกเขาทุกคนกลายเป็นเถ้าถ่านในระยะเวลาอันสั้นในขณะที่พวกเขาอยู่กลางอากาศ

 

ดูเหมือนว่าพวกแกจะภูมิใจในพลังชีวิตที่แข็งแกร่งของพวกแกมากสินะ? แล้วออร่าต่อสู้ที่ไร้ขีดจำกัดของพวกแกหล่ะ? ฉันสามารถเผาพวกแกเป็นเถ้าถ่านได้ด้วยอุณหภูมิที่สามารถละลายได้แม้กระทั่งเหล็ก!

 

หลังจากที่กำจัดกลูพวกนี้เสร็จ, หน่วยสอดแนมของมือแห่งความตายจะเป็นรายต่อไป

 

พวกนี้เป็นหัวหน้าหน่วยสอดแนมที่ทุกคนมีเลเวลอย่างน้อย 4 นี่ถือว่าเป็นกองทัพที่แข็งแกร่งมากๆในระดับมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม, ในการเผชิญหน้ากับนักเวทย์ที่น่าเกรงขามนั้น, พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกับเด็กแรกเกิด

 

“โอ้สตรีแห่งความมืด, มันต้องไม่ใช่อย่างนี้สิ!”

 

“เป็นไปไม่ได้! มนุษย์แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไงกัน!”

 

“หนีเถอะ! พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน!”

 

หัวหน้าของพวกเขาเมาล์ได้ตายไปแล้ว และพวกเขายังได้เห็นนักเวทย์คนนี้จัดการกับนักรบที่ได้รับพรจากสตรีแห่งความมืดกับตาตัวเอง พวกดาร์คเอลฟ์ทั่วๆไปสูญเสียความตั้งใจที่จะต่อสู้และหนีเพื่อเอาตัวรอด

 

ในอีกด้านนึง, นักรบโครงกระดูกที่มีแค่ความรู้พื้นฐานและไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าความกลัว พวกเขามุ่งหน้าขึ้นเนินเขาด้วยการเคลื่อนไหวที่เหมือนกับเครื่องจักร

 

หลังจากจัดการพวกกลูเสร็จ, ลิงค์ก็รู้สึกโล่งใจมากๆ เขาให้ความสำคัญกับการกำจัดกลูอย่างมาก ถ้าการต่อสู้ยืดเยื้อและเขาไม่สามารถฆ่าพวกเขาทุกคนได้ ผลของการต่อสู้ก็อาจจะแตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

 

อย่างไรก็ตาม, กลูพวกนี้ได้กลายเป็นเรื่องในอดีตไปแล้ว

 

หลังจากที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตระยำพวกนี้, ลิงค์ก็ออกจากสภาพการร่ายเวทย์อย่างเต็มที่ของเขาและยกเลิกเวทย์เลเวล 7 หัตถ์ไททัน

 

ที่ทำแบบนี้ไม่ได้เป็นเพราะขีดจำกัดด้านความแข็งแกร่งของเวทมนตร์, แต่เป็นเพราะการใช้มานาอย่างบ้าคลั่งของมัน ในระหว่างการต่อสู้เมื่อสักครู่นี้, อัตราการเสียมานาสูงสุดของลิงค์ได้พุ่งไปถึง 220 แต้มต่อวินาทีและ 55 แต้มต่อวินาทีในระดับปกติ ถ้าลิงค์ยังใช้เวทย์นี้ต่อไป, เขาจะอยู่ได้อีกแค่ประมาณสองนาทีเท่านั้น

 

แม้ว่าหัตถ์ไททันจะหายไปแล้ว, แต่ลิงค์ก็ยังร่ายเวทย์ต่อ เขาชี้คทาตรงไปที่ดาร์คเอลฟ์สอดแนมที่กำลังวิ่งหนีแล้วตะโกน “ระเบิดเพลิง!”

 

เสื้อคลุมผู้ควบคุมเพลิงได้เพิ่มความเร็วในการร่ายเวทย์ธาตุไฟ 50% ส่วนคทาเพลิงพิโรธแห่งสวรรคของเขาก็เพิ่มความเร็วในการรวบรวมธาตุอีก 200% ดังนั้นเมื่อผลของสองอุปกรณ์นี้มารวมกันก็จะทำให้ลิงค์มีความเร็วในการร่ายเวทย์อันน่ามหัศจรรย์แม้ว่าจะไม่มีโดมิงโก้คริสตัลก็ตาม

 

มันใช้เวลาแค่ 0.7 วินาทีในการก่อตัวขึ้นมาสำหรับเวทย์ระเบิดเพลิงเลเวล 4 จากนั้นลูกไฟ้ร้อนระอุที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่าสี่ฟุตที่เปล่งแสงจนแสบตาก็ปรากฎขึ้น

 

“ระเบิด!”

 

การที่เวทย์ระเบิดเพลิงมีพลังเพิ่มขึ้นมา 150% นั้นมีนัยสำคัญมาก ความแข็งแกร่งของเวทย์ระเบิดเพลิงในตอนนี้สามารถเปรียบเทียบได้กับอันที่เขาเคยปล่อยในแกลดสโตนในตอนที่อยู่ภายใต้ผลของน้ำยาเวทมนตร์พร่ำบ่น

 

ในทันทีทันใด, บอลเพลิงก็ลอยไปกลางกลุ่มดาร์คเอลฟ์สอดแนม

 

ตูม!

 

ระเบิดสะเทือนโลกดังสะท้อนไปทั่วทุ่งหิมะ เปลวเพลิงโหมกระหน่ำและคลื่นความร้อนที่มองเห็นได้กวาดไปทั่วพื้นที่ที่เกิดระเบิดขึ้น ชั้นหิมะหนาบนพื้นเองก็ลอยฟุ้งไปพร้อมกับแขนขาที่ขาดออกจากแรงกระแทกอันมหาศาล

 

เวทย์ระเบิดเพลิงยังคงเป็นเวทย์โจมตีอันน่าหวาดหวั่นแม้ว่ามันจะถูกพิจารณาเป็นเวทย์เล็กๆสำหรับนักเวทย์ระดับลิงค์

 

การควบคุมมานาของลิงค์นั้นพัฒนาขึ้นไปมากเมือเทียบกับตอนที่เขาอยู่ในแกลดสโตน เขาใช้มานาแค่ 260 แต้มจากปกติ 320 แต้มในตอนที่ร่ายเวทย์ระเบิดเพลิงที่มีสัดส่วนความรุนแรงเท่ากัน

 

การระเบิดครั้งเดียวนี้ได้ส่งดาร์คเอลฟ์สอดแนมอย่างน้อยครึ่งนึงไปสู่ความตาย

 

ลิงค์ตรวจสอบมานาที่เหลืออยู่ในร่างของเขา เขาประเมินว่าเขามีมานาเหลืออยู่ 5,100 แต้ม, ซึ่งเป็นจำนวนที่เพียงพอสำหรับการต่อสู้ ถ้าเขาร่ายแค่เวทย์ระเบิดเพลิง, เขาก็น่าจะยังร่ายได้อีก 20 ครั้ง

 

จากนั้นเขาก็มองไปทางป้อมโครงกระดูกที่อยู่ไกลๆแล้วคิด, ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแกจะยังรู้สึกปลอดภัยในป้อมหลังจากที่ฉันสร้างความวุ่นวายขนาดนี้

 

แล้วเขาก็มุ่งหน้าต่อไปแล้วปล่อยเวทย์ระเบิดเพลิงขณะที่กำลังเดินทาง

 

ตูม! ระเบิดสะเทือนโลกอีกลูกดังก้องไปทั่วพื้นที่เปิด ใครก็ตามที่อยู่ในรัศมีสิบไมล์น่าจะได้ยินเสียงรบกวนที่ดังขนาดนี้

 

ดาร์คเอลฟ์สอดแนมถูกกำจัดไปตามระเบียบ มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่รอดมาได้ แม้ว่าหลังจากนั้น, พวกที่รอดมาได้จะสูญเสียความตั้งใจที่จะต่อสู้ไปจนหมดและร้องไห้ฟูมฟายวิ่งหนีไปอย่างกับคนเสียสติก็ตาม,

 

แม้ว่านักรบโครงกระดูกจะเห็นฉากที่หน้ากลัวนี้, แต่พวกมันทุกตัวก็ยังคงวิ่งเข้าหาลิงค์ นี่รวมทั้งพวกที่คุ้มกันป้อมโครงกระดูกในตอนแรกด้วย

 

จากนั้นนี่ก็ได้สร้างพื้นที่ไร้การป้องกันขึ้นที่ชายแดนป้อม, ทำให้มีโอกาสบุกรุกเข้าไปในป้อมที่ไร้ช่องโหว่วเมื่อก่อนหน้านี้

 

ที่ลาดเขา, เฟลิน่ากระซิบกับพวกหน่วยสอดแนม “ฉันจะออกไปตอนนี้; ตามหลังฉันมาหล่ะ!”

 

ลิงค์ได้ทำสิ่งที่เขาทำได้ไปแล้ว เธอจะไม่เป็นตัวถ่วงเขา

 

แอนนี่แลกเปลี่ยนสายตากับหน่วยสอดแนมแล้วพยักหน้า “ไปกันเถอะ พวกเราจะเคลื่อนไหวด้วย”

 

จากนั้นหน่วยสอดแนมก็แอบออกมาจากที่ซ่อนของพวกเขาแล้วบุกเข้าไปในป้อม

 

ที่ฝั่งของการต่อสู้, ลิงค์กำลังหนีเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกพวกนักรบโครงกระดูกล้อม ในเวลาเดียวกันนั้น, เขาก็ยิงระเบิดเพลิงไปยังจุดที่นักรบโครงกระดูกกระจุกกันเป็นกลุ่ม

 

ตูม! ตูม!

 

ทุกสิบวินาทีหรือมากกว่านั้น, เวทย์ระเบิดเพลิงจะปรากฎขึ้นและกำจัดนักรบโครงกระดูกที่เปราะบางนับร้อยตัว

 

นี่ไม่ใช่ทั้งหมด

 

ลิงค์ไม่ได้เอาแต่โจมตีนักรบโครงกระดูกเท่านั้น, แต่เขายังย่นระยะระหว่างตัวเขากับป้อมโครงกระดูก ดูเหมือนว่าเขากำลังพุ่งตรงไปที่ฐาน

 

การบุกรุกอันชัดเจนนี้มองออกได้ยังง่ายดายและแม้กระทั่งคนรอบๆก็ยังได้ยิน

 

นักรบปีศาจบรูธตันเป็นหนึ่งในคนพวกนี้ เขาได้เห็นฉากการต่อสู้ทั้งหมดบนเนินที่ห่างไกล

 

เขาได้เห็นเมาล์ที่เพิ่งจะพนันกับเขาถูกเปลี่ยนเป็นกองขี้เถ้า แล้วเขาก็เห็นนักเวทย์คนนั้นฆ่ากลู 20 คน, และกลุ่มของคู่แข่งอันน่าหวั่นเกรงที่แม้แต่เขาก็คงจะมีปัญในการจัดการด้วยเวลาไม่ถึงห้าวินาที นักเวทย์คนนี้สังหารหมู่ดาร์คเอลฟ์และนักรบโครงกระดูกราวกับว่าพวกเขาเป็นปศุสัตว์

 

นี่มันเป็นสิ่งที่ยากจะเข้าใจได้จริงๆ

 

“ข้าควรเข้าไปยุ่งไหมนะ?” บรูธตันถามตัวเอง ไม่กี่วินาทีต่อมา, คำตอบปรากฎขึ้นในความคิดของเขา “ข้าไม่ยุ่งดีกว่า ข้าตายแน่ถ้าบุกเข้าไปตอนนี้”

 

อย่างไรก็ตาม, นั่นก็ไม่ใช่ทางเลือกเช่นกัน ถ้ายัยเด็กเหลือขอที่อยู่ในป้อมโครงกระดูกเห็นเขาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้หล่ะก็, เขาก็คงมีปัญหาอยู่ดี จากนั้นเขาก็คิดแผนการอย่างรวดเร็วแล้วตะโกนบอกกลูและหน่วยสอดแนมจากมือแห่งความตายที่อยู่ข้างๆเขา “นักเวทย์คนนี้ช่างหยิ่งทะนงเหลือเกิน, มันกล้าคิดโจมตีป้อมโครงกระดูกงั้นหรอ มุ่งหน้าไปฆ่ามันเถอะ!”

 

เขาแกว่งดาบในมือของเขาแล้วชี้มันไปทางลิงค์

 

กลูกับดาร์คเอลฟ์ที่อยู่ข้างหลังเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน พวกเขาเองก็ได้เห็นฉากการต่อสู้ทั้งหมดและได้รู้ถึงความแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ของนักเวทย์คนนี้แล้ว การบุกไปข้างหน้าจะไม่เป็นการฆ่าตัวตายหรอ?

 

อย่างไรก็ตาม, หัวหน้าพุ่งไปข้างหน้าแล้ว พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากทำตามแม้ว่าพวกเขาจะไม่เต็มใจก็ตาม หลังจากนั้น, พวกเขาทุกคนก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ดูเหมือนว่าวันนี้หัวหน้าของพวกเขาจะวิ่งช้าผิดปกติ พวกเขาสามารถไล่ตามเขาได้อย่างง่ายดาย นี่มันแปลกๆนะ อ๋อ, เขากำลังวิ่งให้ช้าๆเพื่อหลีกเลี่ยงการต่อสู้กับนักเวทย์นี่เอง…หน่วยสอดแนมคิด

 

ไม่มีใครเปิดโปงแผนการสกปรกของบรูธตันและตามหลังเขาไปทั้งอย่างนั้น, พวกเขามุ่งหน้าไปหานักเวทย์อย่างช้าๆแต่ก็มั่นคง

 

 

ป้อมโครงกระดูก

 

ในห้องโถงที่มืดมิดชั้นใต้ดิน, ร่างเงาของงูอันสง่างามดูเหมือนจะผูกรัดอยู่กับชายรูปร่างดีคนนึง ชายคนนั้นถูกถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่า, และแขนขาของเขาก็ถูกเชือกพันธนาการเอาไว้, ห้อยเป็นรูปดาวจากกำแพง

 

ร่างเงาเลื้อยไปตามร่างกายของชายคนนั้นในขณะที่น้ำเสียงอันชั่วร้ายแต่นุ่มนวลดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง “คาร์โนส, ฟังสิ มีใครบางคนกำลังจุดพลุอยู่หล่ะ มนุษย์น่าสมเพชพวกนั้นมาที่นี่เพื่อพาเจ้าออกไป”

 

คาร์โนสหายใจฟืดฟาดและเหนื่อยหอบ ดวงตาของเขาเป็นสีแดงเลือด, และออร่าสีดำจำนวนมหาศาลก็ดูเหมือนจะเข้าๆออกๆร่างกายของเขา, มันดูเหมือนกับมีงูสีดำตัวเล็กๆนับไม่ถ้วนกำลังเรื้อยไปทั่วตัวเขา

 

พอได้ยินเสียงอันน่ารังเกียจนี้, เขาก็ส่ายหัวเล็กน้อยเพื่อรักษาสติแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอู้อี้ “ข้าไม่ยอมหรอก! ข้าจะไม่มีวันกลายเป็นปีศาจ! ข้าจะไม่มีวัน…ไม่มีวัน…”

 

“งั้นหรอ 555! ช่างเป็นมนุษย์ที่โง่เง่าจริงๆ เจ้าคิดจริงๆหรอว่าเจ้าหนุ่มจุดพลุนั่นจะสามารถช่วยเจ้าได้? ไม่, ไม่หรอก, อีกไม่นานนี้วิญญาณของเขาก็จะกลายเป็นการแสดงพลุอันงดงามเช่นกัน”

 

ขณะที่เธอพูด, เธอก็เลื้อยลงมาจากร่างของคาร์โนสแล้วมุ่งหน้าไปยังทางออกของห้องโถง

 

ในตอนที่เธอออกมาจากห้องโถงแล้วเดินขึ้นไปชั้นหนึ่งของป้อมโครงกระดูก, เธอก็เพิ่มเสียงของเธอเล็กน้อยแล้วตะโกนเรียก “ที่รักของข้า, เจ้าหิวไหม?”

 

ซู่ววววว

 

เสียงซู่วดังก้องตอบกลับน้ำเสียงอันมีเสน่ห์ของเธอ จากนั้น, งูยักษ์เกล็ดสีดำที่มีความกว้างอย่างน้อยสามฟุตและยาว 80 ฟุตก็เลื้อยออกมาจากมุมมืดของห้องโถง ในตอนที่งูยักษ์มาถึงตัวคนๆนั้น, ก็มีประกายอันเจิดจ้าฉายออกมาจากเกล็ดของมัน ในตอนที่แสงนี้สลายไป, แส้สีดำที่มีหัวงูอยู่ที่ปลายของมันก็ปรากฎขึ้นในมือของคนๆนั้น

 

ขณะที่กำลังแกว่งแซ่, คนๆนั้นก็มุ่งหน้าตรงไปยังทางออกของป้อม จากนั้นเธอก็เห็นนักเวทย์ผ้าคลุมดำคนนึงกำลังรอการมาถึงของเธอ

 

นักเวทย์ผ้าคลุมดำยิ้มในตอนที่เห็นเธอแล้วพูด “นายหญิง, คนที่อยู่ข้างนอกคือนักล่าปีศาจครับ”

 

“หรอ, แน่ใจนะทาลอน?”

 

“แน่นอนครับ, ผมเห็นเขากับตาในตอนที่เขาต่อสู้กับทราวิสที่สถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟ ผมคุ้นเคยกับความผันผวนของเวทมนตร์ของเขาดี” คนที่กำลังพูดอยู่นั้นคือปีศาจโลหิตทาลอน, นักโทษหลบหนีจากหอคอยอสุรา

 

“เจ้ามั่นใจว่าจะชนะเขาไหม?” คนๆนั้นถาม

 

“ก่อนหน้านี้, ผมคงเอาชนะไม่ได้ แต่ตอนนี้, ผมได้รับพรจากสตรีแห่งความมืดมาแล้ว, ผนวกกับพลังของคทาเวทมนตร์อันทรงพลังนี้, ผมมั่นใจว่าจะชนะได้ครับ”

 

“ถ้างั้นก็ไปซะ ฉันจะให้การสนับสนุนจากป้อมปราการเอง” คนๆนั้นยิ้มให้ทาลอนด้วยท่าทีที่น่าดึงดูด

 

“รอฟังข่าวดีได้เลยครับ!”

 

พอพูดจบ, หมอกเลือดก็ห่อหุ้มร่างกายของทาลอน แล้วเขาก็ลอยออกไปจากป้อมด้วยความเร็วสูง

 

จากนั้นคนๆนั้นก็ย้ายไปยังดาดฟ้าของป้อมโครงกระดูกเพื่อมุมมองที่ดีขึ้น

 

พอไปถึงดาดฟ้า, เธอก็เห็นบอลเลือดอยู่ห่างจากที่ที่เธอจำได้ครั้งล่าสุดหนึ่งไมล์แล้ว มันเป็นการย่นระยะระหว่างตัวมันกับนักล่าปีศาจที่สูงมาก

 

จากนั้นเธอก็หัวเราะในใจ, แล้วพูด “โถ โถ มนุษย์เอ๋ย, พวกเจ้ามักจะประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปเสมอ ข้าจะรอแล้วดูว่าพวกเจ้าคนไหนจะแข็งแกร่งกว่ากัน, และเหมาะสมที่จะกลายเป็นคนรับใช้อันต่ำต้อยของข้ามากกว่ากัน”

 

เสียงของเธอยังคงมีเสน่ห์และชวนฝันเหมือนเช่นเคย

 

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset