Advent of the Archmage – ตอนที่ 243: สวยจนตะลึง

ในรถม้า พ่อค้าเริ่มแสดงความรู้ของเขาด้วยความภาคภูมิใจ

 

“เฮ้ นายไม่รู้เหรอ? ฉันเพิ่งขึ้นมาจากทางใต้เอง ที่นั่นมันวุ่นวายมากเลยล่ะ อาณาจักรเดลอนก้ากับอาณาจักรเซาท์มูนนั้นกำลังอยู่ในช่วงสงครามอย่างรุนแรง ในขณะที่อาณาจักรดอสก้านั้นเต็มไปด้วยสมาชิกของพวกสมาคม สถานที่ปลอดภัยที่เหลืออยู่มีเพียงแค่อาณาจักรลีโอและอาณาจักรกอล ใครจะไปคิดว่าโชคร้ายเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับอาณาจักรลีโอ!ช่างน่าเป็นห่วงจริงๆ!กลุ่มพ่อค้าของฉันต้องจ้างทหารรับจ้าง30คนและวางแผนการเดิทางกลับกับกลุ่มอื่นๆก่อนที่พวกเราจะกล้าออกมาจากที่นั่นได้”

 

“อย่าพูดเรื่องที่ฉันรู้อยู่แล้วสิ ฉันเพียงแค่อยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับเวเวอร์”พ่อค้าอีกคนพูด

 

ลิงค์เองก็ให้ความสนใจเกี่ยวกับข้อมูลนี้เป็นพิเศษ

 

จากนั้นพ่อค้าก็พูด”โอเค อย่าเร่งฉันสิ นี่เป็นสิ่งที่ฉันได้ยินมา มันมีข่าวลือว่าเวเวอร์ได้เช่าอพาทเมนท์อยู่ในเมืองและทำการวิจัยเวทมนตร์แห่งความมืดแบบลับๆ ยังไงก็ตาม ไม่นานนักเขาก็ถูกจับได้โดยอาจารย์ของเขา หลังจากนั้น พวกเขาก็เกิดการโต้เถียงกัน และนายก็รู้ว่าเวเวอร์ต่อสู้เก่งขนาดไหน อาจารย์ของเขาถูกฆ่า ณ ที่ตรงนั้นเลยพร้อมกับพวกนักเวทย์ที่อาจารย์เขาพามาด้วย เรื่องนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ดาวน์ทาวที่มีคนพลุกพล่านและได้มีผู้คนบริสุทธิ์มากมายโดนร่างแหไปด้วย ที่สำคัญคือ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากๆ ฉันได้ยินมาว่ากษัตริย์ลีโอได้เตรียมการที่จะลงโทษสมาพันธ์นักเวทย์อย่างรุนแรงเลยทีเดียว ”

 

จากนั้นพ่อค้าอีกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยและพูด”นักเวทย์จากสมาพันธ์พวกนั้นมันวางท่าและหยิ่งมากเกินไป ไม่ใช่ว่ามีปีศาจอยู่ในเมืองเมื่อไม่นานมานี้งั้นเหรอ?แล้วพวกนักเวทย์ทำอะไร?พวกเขาบอกเพียงแค่ว่าการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุนั้นเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้และชดเชยผู้เคราะห์ร้ายด้วยเหรียญทองที่สกปรกของพวกมัน มันช่างน่าโมโหเสียจริงๆ!”

 

“โอเค เลิกพูดกันก่อนเถอะ สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟอยู่ข้างหน้าแล้ว พวกนักเวทย์พวกนั้นสามารถดักฟังการคุยกันของพวกเราได้ อย่าปล่อยให้พวกนั้นได้ยินเรา”

 

“ถ้าถามฉันนะ ฉันรู้สึกว่านักเวทย์นั้นไม่ควรมีอยู่บนโลกนี้ พวกเขาทุกคนเป็นสัตว์ประหลาด!มีเพียงแต่พระเจ้าที่รู้ว่าพวกเขาแอบทำอะไร!พวกเขาอาจวางแผนที่จะทำลายโลกของพวกเราอยู่ก็ได้”พ่อค้าอีกคนพูดพึมพำขึ้นมาก่อนที่เขาจะเงียบไป

 

จากที่ได้ยินคำพูดพวกนี้ ลิงค์ได้ถอนหายใจ นี่คือภาพของนักเวทย์ในสายตาของคนธรรมดา พวกเขาเคารพนักเวทย์แต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาเองก็กลัวนักเวทย์เช่นกันและปฏิบัติต่อพวกเขาด้วยความสงสัยและความกังวล

 

โดยปกติแล้ว สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงอคติของคนโง่ ยังมีผู้คนที่ฉลาดอีกมากมายในโลกของฟิรุแมนที่รู้ถึงคุณค่าของนักเวทย์ ดังนั้นลิงค์จึงไม่ได้ประหลาดใจหรือว่ารังเกียจ เขาเพียงแค่ ช็อคกับความตกต่ำของเวเวอร์

 

ภายในเกม เวเวอร์นั้นเป็นนักเวทย์ที่ฉลาดที่สุดในทางใต้ ยังไงก็ตาม เขาค่อยๆสูญเสียความเปล่งประกายและสติปัญญาของเขาจนกระทั่งในที่สุดเขาก็กลายเป็นนักเวทย์ธรรมดา ๆ

 

แม้ว่าความเข้มข้นของมานาจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในเวอร์ชั่นหลังของเกม เขาก็ยังคงสามารถเป็นได้แค่เพียงจอมเวทย์เลเวล9 เขายังคงเป็นอย่างนี้ต่อไปแม้ว่าเพื่อนของเขาหลายคนจะขึ้นไปสู่ระดับตำนานแล้ว เขานั้นไม่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดนั้นได้

 

ลิงค์ได้พบกับเขาเพียงแค่ไม่กี่รอบ ความประทับใจที่เขามีต่อเวเวอร์ก็คือความซื่อสัตย์ ความสุภาพและความที่เป็นคนขยันมากๆ ในเกมช่วงหลัง เขากลายเป็นคนหัวแข็งและไม่เต็มใจที่จะยอมรับเวทมนตร์หรือความคิดรูปแบบใหม่

 

เขานั้นยังเป็นบุคคลที่สำคัญอย่างยิ่งในช่วงต้นเกมถึงกลางเกม ซึ่งเขานั้นเคารพและเชื่อฟังอาจารย์ของเขาอย่างมาก

 

ผู้เล่นบางคนถึงกับตั้งฉายาให้เขาว่า”อัจฉริยะผู้ไม่รู้จักโต”

 

ยังไงก็ตาม เมื่อมาคิดว่าเขาฆ่าอาจารย์ของเขาด้วยตัวเองแล้วยังฆ่าแม้กระทั่งเพื่อนนักเวทย์คนอื่นๆอีกนั้นมันช่างน่ากลัว จากข้อมูลที่เขาได้ยินมา เวเวอร์นั้นยังไม่สนใจแม้กระทั่งประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่อยู่ในเขตดาวน์ทาว เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

 

เมล็ดแห่งความสงสัยได้ผุดขึ้นในใจของลิงค์ นี่เสือได้หลุดออกมาจากกรงและพร้อมที่จะกลับเข้าไปในป่าแล้วงั้นเหรอ?

 

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเวเวอร์นั้นเป็นอัจฉริยะ ในตอนที่ลิงค์ลงใต้ไปช่วยเซลีนในตอนก่อนหน้านี้ เขานั้นได้เหลือบไปเห็นพลังของเวเวอร์นิดหน่อย เวเวอร์นั้นอาจจะเป็นนักเวทย์แค่เพียงคนเดียวจากสมาพันธ์ด้วยที่ทำให้เขารู้สึกได้ถึงแรงกดดัน

 

ถ้านักเวทย์อย่างนั้นได้สูญเสียโซ่ตรวนของเขาและปลดปล่อยความบ้าคลั่งออกสู่โลกล่ะก็ ระดับความเสียหายที่เขาเป็นคนก่อนั้นคงจะน่ากลัวมาก ข่าวนี้ทำให้ลิงค์รู้สึกไม่ดีมากๆ

 

ในตอนนั้นเอง เสียงของคนขับรถม้าก็ดังขึ้น”เฮ้ เจ้าหนุ่ม พวกเรามาถึงสถาบันแล้วนะ”

 

ลิงค์ถูกดึงออกจากความคิดของเขาและกระโดดลงมาจากรถม้าก่อนที่จะพูด”ขอบคุณ”

 

จากนั้นคนขับรถม้าก็ยิ้มให้อย่างอ่อนโยนและพูด”ไปเถอะ อย่าไปฟังสิ่งที่พวกไร้สาระ2คนนั่นพูดเลย พวกเราไม่มีเบาะแสเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในทางใต้ ยังไงก็ตาม นักเวทย์ของพวกเราที่มาจากสถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟนั้นก็ยังคงสุดยอด พวกเขาไม่มีทางทำอะไรที่ผิดศีลธรรมแบบนั้นหรอก ถ้าเกิดว่านายเข้าสถาบันได้ล่ะก็ ขยันเรียนด้วยล่ะ”

 

จากนั้นเขาก็โบกมือลาลิงค์ และหลังจากที่เขาฟาดแส้ รถม้าก็เริ่มออกเดินทางไปทางเมืองริเวอร์โควฟระหว่างที่เกิดเสียงกีบเท้ากระแทกกับพื้นไปด้วย

 

ลิงค์รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นในทันที

 

จากนั้นเขาก็หันหลังและเดินไปทางสถาบัน เมื่อเขามาถึงที่นี่แล้ว มันก็ไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องปกปิดตัวตนอีกแล้ว ด้วยความคิดนั้น ร่างกายของเขาก็ปกคลุมด้วยแสงสีแดงเพลิง ในตอนที่แสงนั้นจางลง เขาก็สวมผ้าคลุมผู้ควบคุมเปลวเพลิงเรียบร้อยแล้ว

 

ผู้คุมประตูวินเซนท์เห็นเขาแต่ไกลและเขาก็ทำความเคารพให้จากระยะไกล

 

จากนั้นลิงค์ก็พยักหน้าให้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในสถาบันเวทมนตร์อีสโควฟ

 

หลังจากที่ผ่านทางเข้ามาได้ ลิงค์ก็ได้หยุดเดินและชื่นชมกับวิวของสถาบัน

 

จากมุมนี้  เขานั้นเห็นซากปรักหักพังและร่องรอยการทำลายล้างที่เกิดจากปีศาจทราวิสได้ถูกทำความสะอาดแล้ว ในจุดที่หนามสวรรค์เคยตั้งอยู่ ได้มีหอคอยเวทมนตร์ใหม่ถูกสร้างขึ้น และหอคอยเวทมนตร์อื่นๆที่ถูกทำลายระหว่างโศกอนาถกรรมก็เช่นกัน ดูเหมือนว่าทั้งหมดนั้นจะถูกอัพเกรดและดูน่าสง่างามมากกว่าเดิมอีก

 

ความเร็วในการฟื้นตัวนั้นดูเร็วมาก กษัตริย์ลีออนในดีเป็นพิเศษจริงๆในครั้งนี้ ลิงค์คิดด้วยความดีใจ

 

สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟนั้นเป็นเหมือนกับแหล่งรวมเวทมนตร์ในอาณาจักรนอร์ตัน และมันเองก็เป็นสถานที่ที่ลิงค์นั้นได้รับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในด้านเวทมนตร์ของเขาอีกด้วย กษัตริย์ลีอนนนั้นได้ให้บางอย่างตอบแทนอีกด้วยในตอนที่ลิงค์ได้เสนอดินต้านทานเวทมนตร์ที่อยู่ในที่ดินของเขาให้  ดูเหมือนว่าสถาบันอีสโควฟเองก็ได้รับผลประโยชน์จากการตกลงนี้ด้วย

 

ลิงค์รู้สึกตื่นเต้นและได้รับแรงบัลดาลใจจากสถาบันที่ดูดีขึ้นละเดินไปข้างหน้าด้วยการก้าวอย่างภาคภูมิใจ

 

เขานั้นเป็นคนโด่งดังแล้วในสถาบันนี้ ในตอนที่เขาเดินเข้าไปยังจัตุรัส นักเวทย์ที่อยู่รอบๆก็ทำความเคารพเขาและค้างอยู่ในท่านั้นจนเขาเดินผ่านไป

 

หลังจากนั้นซักพัก ลิงค์ก็เห็นบุคคลที่คุ้นเคย หลังจากที่พิจารณาอย่างใกล้ชิด เขาก็นึกออกว่านั่นคือลูกศิษย์ของอาจารย์ใหญ่แอนโทนี่ นักกวี เซลาสซี ลิงค์นั้นกำลังจะไปหาอาจารย์ใหญ่อยู่พอดีเลยตะโกนเรียก”เฮ้ เซลาสซี รอผมด้วย”

 

เซลาสซีนั้นตกใจที่เห็นลิงค์ในตอนที่เขาหันหลังกลับไปมาและพูด”เป็นเกียรติมากที่ได้พบคุณ เป้าหมายการมาเยี่ยมครั้งนี้ของคุณคืออะไร?”

 

ภารกิจในทางเหนือของลิงค์นั้นเป็นความลับ มีเพียงไม่กี่คนในอาณาจักรเท่านั้นที่รู้ว่าเขากำลังทำอะไร เซลาสซีนั้นถูกบอกเพียงแค่ว่าเขากำลังอยู่ในการพัฒนาที่ดินของเขาอยู่นั่นจึงเป็นการอธิบายว่าทำไมเขาถึงถาม

 

“วันนี้ผลว่างและผมอยากจะเจออาจารย์ใหญ่น่ะ นี่ตอนนี้เขาอยู่ในสถาบันหรือเปล่า?”

 

“ฮ่า คุณมาหาถูกคนแล้ว ผมจะพาคุณไปเอง”เซลาสซีชวนให้ลิงค์ตามเขาไปอย่างอบอุ่น

 

เขานำถามไปในขณะที่ลิงค์ตามหลัง พวกเขาทั้ง2เดินผ่านหอคอยเวทมนตร์ของสถาบันไปและในที่สุดก็ไปหยุดที่ลานกว้างแห่งแรงบัลดาลใจของไบรอัน

 

ลานกว้างนั้นแตกต่างจากเดิมมาก ไม่มีนักเวทย์ฝึกหัดเดินไปมาอีกแล้ว และยังมีกระทั่งองครักษ์ของราชาประจำการอยู่ในพื้นที่นี้ จากระยะไกล เขาสามารถเห็นเต็นท์ที่มีสีสันมากมายคอยปกป้องผู้คนจากแสงแดดอันร้อนแรง และมีชายหนุ่มรูปหล่อและหญิงสาวที่สวยงามมากมายสวมเสืออันสวยงามนั่งอยู่ในเต็นท์ ภายใต้เต็นท์ที่ใหญ่ที่สุด ลิงค์เห็นกษัตริย์ลีออน อาจารย์ใหญ่แอนโทนี่ และเหล่าจอมเวทย์ที่รวมถึงเอร์เรร่าด้วย

 

และยังมีบุคคลอื่นที่นั่งอยู่ข้างกษัตริย์ลีออนอีก เขาคือหญิงสาวที่ดูแล้วอายุประมาณราวๆ20ปี เธอมีดวงตาสีม่วง และผมสีทอง-น้ำตาล หูที่ยื่นของเธอเหมาะสมกับใบหน้าอันสวยงามของเธอซึ่งทำให้เธอดูน่าตะลึงมาก

 

ถ้าเกิดว่าจะเอาความสวยของเธอไปเทียบกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ล่ะก็ ราชาลีออนที่ดูปกตินั้นเปรียบได้กับเป็นชาวนาที่ได้ทำงานอยู่ในไร่นามาทั้งชีวิตเลยทีเดียว ส่วนอาจารย์ใหญ่แอนโทนี่นั้นดูเหมือนกับตาแก่ที่มาจากบ้านนอกเลย ในขณะที่นักเวทย์หญิงที่อยู่รอบๆเธอนั้นถูกบดบังด้วยรัศมีความสวยงามของเธอหมดเลย ความแตกต่างนั้นสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

 

บุคคลเพียงคนเดียวที่ยังคงสามารถรักษาความเปล่งประกายจากความสวยนี้ไว้ได้มีเพียงแค่เอร์เรร่า

 

เซลาสซีตาเบิกกว้างเมื่อเขามองไปที่ภาพเหล่านี้และพูด”โอ้ คืนนี้มีพระจันทร์ถึง2ดวงเลยงั้นรือ อันหนึ่งมีความบริสุทธิ์และเก่าแก่ ส่วนอีกอันนั้นดูนุ่มนวลและอ่อนหวาน มันจะต้องเป็นพรจากพระเจ้าเป็นแน่ที่ทำให้ผมสามารถเป็นพยานให้กับภาพที่สวยงามเหล่านี้ได้ ”

 

ลิงค์ถึงกับพูดไม่ออกกับคำพูดของเซลาสซีและได้ตีไปที่ไหล่ของเขาเพื่อดึงเขากลับเข้าสู่ความจริง จากนั้นเขาก็กระซิบ”ผู้หญิงไฮเอลฟ์คนนั้นเป็นราชวงค์ไฮเอลฟ์ ไม่ใช่ว่าเจ้าชายฟิลลิปเพิ่งจะมาเยี่ยมเมื่อไม่นานนี้ไม่ใช่เหรอ?ทำไมพวกเขาถึงมาที่นี่อีก?”

 

ลิงค์นั้นจงใจเก็บข้อมูลบางส่วนไว้เป็นความลับ ความจริง เขาจำไฮเอลฟ์คนนี้ได้ เธอนั้นเป็น1ใน4คนที่สวยที่สุดในเกม เจ้าหญิงมิลด้า

 

ภายในเกม เธอนั้นเป็นเทพธิดาของเหล่าโอตาคุ และแฟนเพจของเธอก็มีผู้ติดตามมากกว่า50ล้านคน หลังจากที่ได้เห็นเธอในชีวิตจริง ลิงค์นั้นรู้สึกว่าเกมนั้นไม่ได้แสดงความสวยงามของเธอได้ถูกต้องเพราะว่าขีดจำกัดเรื่องการแสดงกราฟฟิค

 

เซลาสซีนั้นยังคงเพ้ออยู่เล็กน้อยในตอนที่เขาตอบ”ท่านคือเจ้าหญิงไฮเอลฟ์ มิลด้า พันธมิตรของพวกเรา ท่านได้นำทีมนักเวทย์ของท่านมาเพื่อช่วยพวกเราป้องกันจากกลุ่มพันธมิตรซิลเวอร์มูน ซึ่งการกระทำของคุณที่ได้ช่วยเจ้าชายฟิลลิปไว้นั้นได้ช่วยให้เรื่องนี้เป็นไปได้ด้วยดี”

 

ลิงค์นั้นตกใจอย่างมากที่ได้ยินข่าวเรื่องนี้ แต่มันก็ตามมาด้วยความดีใจอย่างรวดเร็ว เขาคิดว่า ประวัติศาสตร์ได้เปลี่ยนไปแล้ว ทีมนักเวทย์ไฮเอลฟ์ได้มาถึงที่นี่อย่างรวดเร็วในไทม์ไลน์นี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าฉลอง!

 

เขานั้นกำลังกังวลว่าพวกเขาอาจจะไม่สามารถจัดการกับอุปกรณ์ระดับเทพเจ้าได้ การปรากฏตัวของไฮเอลฟ์ที่มาช่วยพวกเขานั้นมาได้ถูกเวลาอย่างมาก

 

ในตอนนั้นเองกัปตันของทีมองครักษ์พระราชา โอลาฟก็ได้เห็นลิงค์และหันกลับไปทางเต็นท์ที่ซึ่งมีแขกคนสำคัญอยู่ในทันที

 

ภายในเต็นท์

 

ราชาลีออนนั้นทรงให้ความสำคัญกับความช่วยเหลือที่ไฮเอลฟ์ให้มาอย่างมาก พระองค์นั้นทรงเสด็จมาที่สถาบันเวทมนตร์อีสโควฟโดยพระองค์เองเพื่อต้อนรับการมาของทีมนักเวทย์ไฮเอลฟ์ พระองค์นั้นทรงพอพระทัยอย่างยิ่งและได้จัดงานฉลองเพื่อต้อนรับการมาของพวกเขา

 

 

 

มีผู้คนเต้นรำและร้องเพลงมากมายที่งานฉลองนี้ มันรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นเทศกาลเลย

 

 

มิลด้านั้นดูพอพระทัยอย่างมาก ดูจากรอยพระสรวลบนพระพักตร์ของพระองค์แล้ว พระองค์นั้นทรงเล่าเกี่ยวกับชีวิตของพระองค์ที่เกาะแห่งรุ่งอรุณให้กับราชาลีออน แอนโทนี่ และเอร์เรร่าให้ฟังบ่อยครั้ง บรรยากาศที่นั่นดูกลมกลืนกันมาก

 

 

ยังไงก็ตาม ที่หลังพระขนองของพระองค์นั้นมีนักเวทย์ไฮเอลฟ์อยู่มากมาย

 

 

นักเวทย์พวกนี้ดูหยิ่งและใจร้อนเมื่อมองจากหน้าของพวกเขา จากมุมมองของพวกเขา วัฒนธรรมการแสดงของชนเผ่ามนุษย์นั้นดูหยาบคายเกินไปในความชอบของพวกเขา มันเหมือนกับเป็นพิษต่อหูและดวงตาของพวกเขา!

 

 

พวกเขานั้นเพียงแค่พยายามทำตัวสุภาพ ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเขาคงจะหนีออกไปนานแล้ว

 

 

“ฝ่าบาท หม่อมฉันคิดว่ามันน่าจะถึงเวลาแล้ว ”มิลด้าพูดพร้อมกับแย้มพระสรวลอย่างอบอุ่น เธอนั้นได้อยู่ในที่นี่มาเป็นเวลสนานแล้ว มันเริ่มที่จะทนไม่ไหวแล้ว

 

 

ในอีกด้านนึง ราชาลีออนนั้นรู้สึกพอพระทัยอย่างมาก พระองค์นั้นไม่ได้รู้สึกทรงพระสำราญมานานแล้ว ยังไงก็ตามหลังจากที่ทรงเห็นสีพระพักตร์ของมิลด้าแล้ว พระองค์ก็ทรงตรัส”ได้เลย ข้าคงจะรบกวนเจ้ามากในเวลาเช่นนี้ โปรดบอกพวกเรามาได้เลยว่าเจ้าต้องการอะไร ทางอาณาจักรจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อที่จะสนองต่อความต้องการของเจ้าเอง”

 

 

“ขอบพระทัยอย่างมากในความใจกว้างของฝ่าบาท”มิลด้านั้นสุภาพมากๆ ต่อมาเธอได้พูดว่า”ไม่ทราบว่าพระองค์ทรงรู้หรือไม่ว่านักเวทย์ลิงค์จะกลับมาจากทางเหนือเมื่อใด?หม่อมฉันต้องไปขอบคุณเขาเป็นการส่วนตัวสำหรับเหตุการณ์เรื่องน้องชายของหม่อมฉัน”

 

 

 

ราชาลีออนทรงมีสีพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยความภูมิใจในตอนที่ทรงได้ยินชื่อของลิงค์ พระองค์ตรัสว่า”ไม่นานนักหรอก พวกเราได้ข่าวมาจากทางเหนือเมื่อกลางวันนี้ว่ามาสเตอร์ลิงค์ได้กลับมาจากป้อมยอดภูเขาน้ำแข็งแล้ว”

 

 

ในระหว่างที่พระองค์พูด พระองค์ก็เห็นโอลาฟเดินมาทางพระองค์

 

 

“ฝ่าบาท นักเวทย์ลิงค์มาถึงที่นี่แล้ว ทอดพระเนตรดูสิขอรับ เขามาถึงที่นี่แล้ว”โอลาฟชี้ไปทางลิงค์

 

 

ทุกคนในเต็นท์นั้นต่างหันตามไปในทิศทางนั้นทันที โดยเฉพาะนักเวทย์ไฮเอลฟ์  การเคลื่อนไหวของพวกเขานั้นแทบจะเป็นไปพร้อมกันหมด สายตาของพวกเขาต่างจ้องไปที่บุคคลที่สวมผ้าคลุมสีแดงเพลิงที่อยู่ไม่ไกลจากที่พวกเขานั่งอยู่เท่าไหร่

 

 

สำหรับอาณาจักร ลิงค์นั้นเพิ่งกลับมาจากภารกิจความลับสุดยอด เขานั้นกลับมาพร้อมกับข้อมูลอันมีค่าซึ่งจะสามารถช่วยพวกเขาในการสงครามได้ นั่นเป็นสิ่งที่พวกเขานั้นได้คาดหวังเอาไว้

 

 

สำหรับไฮเอลฟ์ นักเวทย์ลิงค์นั้นเป็นที่รู้จักไปถึงในเกาะแห่งรุ่งอรุณ เจ้าชายฟิลลิปได้ชื่นชมเขาเอาไว้มากในตอนที่พระองค์เสด็จกลับไปที่เกาะแห่งรุ่งอรุณ ถึงขั้นทรงเรียกเขาว่าอัจฉริยะแห่งอาณาจักรนอร์ตัน ยิ่งไปกว่านั้น เขานั้นเป็นนักเวทย์ที่ปราบปีศาจทราวิสด้วยเวทมนตร์เลเวล9 แม้กระทั่งศาสดาพยากรณ์ยังชื่นชมในตัวชายหนุ่มคนนี้

 

 

ไฮเอลฟ์นั้นภูมิใจในตัวเองและความสำเร็จทางด้านเวทมนตร์ของตัวเองมาก ในสายตาของพวกเขา เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมักจะต้อยต่ำกว่าพวกเขา แล้วพวกเขาจะไม่ตกใจได้ไงเมื่อบุคคลที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ได้ปรากฏตัวขึ้นมาในชนเผ่ามนุษย์?

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset