Advent of the Archmage – ตอนที่ 274: ฉันป้องกันได้!

ด้วยเสียงดังพรึ่บ ลิงค์ได้กลับมาที่ภพกายภาพ

 

มันคือพื้นที่รกร้างที่เต็มไปด้วยก้อนหิน หุ่นเชิดเวทมนตร์ขุดดินยังไม่ได้มาถึงพื้นที่นี้ ดังนั้นจึงไม่มีคนอยู่แถวนี้ แผ่นดินโล่งๆคือสิ่งที่สามารถเห็นได้ในบริเวณนี้ ในระยะไกลๆจะมีเนินเขาอยู่บ้างประปราย

 

ที่นี่มันโล่งเกินไป ไม่เหมาะสำหรับการต่อสู้ และมันก็ไม่มีที่ให้หลบด้วย ต่อให้เขาใช้เวทย์หายตัว เขาก็จะถูกพบได้อย่างง่ายดาย

 

โดยไม่มีความลังเล ลิงค์พยายามที่จะใช้เวทย์ข้ามมิติอีกครั้ง

 

และเขาก็ล้มเหลวอีกครั้ง

 

ลิงค์ถอนหายใจ “สมแล้วที่เป็นพลังของเทพเจ้า สถานที่นี้ได้ถูกปิดผนึกจากทุกภพ” ในเมื่อเขาไม่สามารถหนีได้ ลิงค์ก็เริ่มเตรียมตัวที่จะต่อสู้

 

ขั้นแรก เขาเปิดใช้เอเดลไวซ์สีแดงเลเวล 5 ให้กับอัลโลวา พลังของเวทย์ป้องกันนี้ล้าหลังแล้วและไม่สามารถช่วยอัลโลวาป้องกันการโจมตีทั้งหมดได้ ยังไงก็ตาม มันก็สามารถใช้เป็นตัวดูดซับความเสียหายและทำให้มั่นใจว่าร่างกายของอัลโลวาจะไม่ถูกทำลาย

 

เธอนั้นเป็นอมตะ ตราบใดที่ร่างกายของเธอไม่ถูกทำลาย เธอก็จะสามารถเอาชีวิตรอดได้

 

จากนั้นลิงค์ก็ร่ายเวทย์รวดเร็วดั่งชีต้าห์ใส่ตัวเอง สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความเร็วและพละกำลังให้กับเขา ในเวลาเดียวกันเขาก็พูดขึ้น “อัลโลวา เธอเดินได้มั้ย?”

 

 

ในตอนที่พวกเขาอยู่ในป่า ขาของอัลโลวาได้ถูกปีศาจหักทิ้ง ซึ่งในตอนนี้มันได้ฟื้นตัวขึ้นมากแล้ว  แม้ว่ามันจะยังดูบิดเบี้ยวอยู่เล็กน้อยก็ตาม

 

อัลโลวาเอาขาที่หักของเธอแตะลงพื้นและตัวสั่น ขาของเธอบิดในทันที แต่เธอไม่ได้ส่งเสียง เธอกัดฟันเอาไว้ และยืนด้วยขาทั้งสองอย่างเด็ดเดี่ยว “ยังไงซะข้าก็ไม่ตาย ข้าสามารถเดินได้ดังนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องของข้า มีสมาธิกับพวกมันเถอะ!”

 

ด้วยสภาพนั้นเธอก็เดินกระเผลกและเข้าไปในส่วนลึกของพื้นที่รกร้างเฟิร์ด เธอนั้นไม่ได้ช้าจนเกินไป แต่มันดูแปลกมากในแต่ละก้าว อัลโลวานั้นกำลังทนกับความเจ็บปวดแสนสาหัส เธออ้าปากพะงาบๆ วิ่งและร้องด้วยความเจ็บปวด

 

ลิงค์ดูภาพทั้งหมดนี้และประทับใจมาก ช่างเป็นผู้หญิงที่มีเหตุผลมากจริงๆ

 

ใช่แล้ว หลักเหตุผลนั้นแทบที่จะควบคุมอารมณ์ของมนุษย์ได้ทั้งหมด เธอเป็นคนประเภทเดียวกับลิงค์

 

ระหว่างนี้ ลิงค์ก็เริ่มเตรียมตัวเช่นกัน เขาเอาหินนักปราชญ์สีขาวออกมา เขาสามารถใช้หินนี้ได้อีกแค่ครั้งเดียว แต่ว่าเขาเตรียมที่จะใช้มันโดยไม่มีความลังเลเลยเพราะว่าอัลโลวานั้นมีความสำคัญในการต่อสู้กับอุปกรณ์ระดับเทพเจ้า  ซึ่งสิ่งนี้มันเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของคนจำนวนมาก

 

เธอจะตายไม่ได้ นอกจากนี้ เธอจะต้องไม่ตกไปอยู่ในกำมือของดาร์กเอลฟ์หรือเวเวอร์ ลิงค์จะต้องทุ่มสุดตัวเพื่อช่วยเธอ!

 

หลังจากเอาหินนักปราชญ์สีขาวออกมา ลิงค์ก็ดื่มน้ำยามานาระดับสูง เพื่อเติมมานาที่เขาใช้ไปก่อนหน้านี้ ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็เปิดใช้ผลสมองปลอดโปร่งของเสื้อคลุมผู้ควบคุมเปลวเพลิง

 

มานาสูงสุดของเขาคือ 8,500 แต้ม ผลของสมองปลอดโปร่งสามารถฟื้นฟูมานาได้ 2,000 แต้มภายในเวลา 5 นาที ดังนั้นนี่ทำให้เขามีมานาที่ใช้ได้ทั้งหมด 10,500 แต้ม นี่มันเยอะมาก แต่มันก็น่าจะใช้ได้แค่หนึ่งนาทีครึ่ง สำหรับเวทมนตร์เลเวล9

 

ซึ่งนี่หมายความว่าเขาจะต้องเอาชนะให้ได้ภายในเวลา 1 นาทีครึ่ง!

 

ในตอนนั้นเอง ก็มีออร่ามานาปรากฏขึ้นมาในระยะไกลๆ  จากนั้นก็มีคนมากมายปรากฏขึ้นจากพื้นที่ที่ว่างเปล่า  นั่นคือพวกเวเวอร์ที่ตามลิงค์มายังภพกายภาพ

 

พวกเขามีทั้งหมด 6 คน เวเวอร์อยู่ใกล้ลิงค์มากที่สุด โดยห่างออกไปประมาณ 400 ข้างหลังเวเวอร์ไปอีก 30 ฟุตคือไอมอนส์ และอัศวินอันเดธอีก 4 คนก็อยู่ห่างออกไปอีก15ฟุต

 

หลังจากที่ออกมา  เวเวอร์ก็มองไปที่ลิงค์และหัวเราะดังสนั่น “ลิงค์ นายไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้สินะ ถูกมั้ย? ไม่ว่านายจะแข็งแกร่งแค่ไหน นายก็เป็นแค่คนธรรมดา แต่ว่าฉันน่ะเหรอ? ฉันมีพลังของเทพยังไงหล่ะ!”

 

ลิงค์ไม่สนใจเขา เขาสูดหายใจเข้าลึกๆและรวบรวมสมาธิ เข้าสู่สถานะร่ายเวทย์ การรับรู้ของเขา ทำให้เวลาช้าลง ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็เริ่มค่อยๆถอยไปทางพื้นที่รกร้างเฟิร์ดอย่างช้าๆ

 

อัลโลวาเพิ่งวิ่งไปได้แค่ 30 ฟุต พอเห็นว่าเธอเจ็บปวดขนาดไหน ลิงค์ก็ถาม “เธอเป็นนักเวทย์ไม่ใช่หรอ? ทำไมเธอไม่ใช้เวทมนตร์หล่ะ?”

 

ต่อให้เธอขาหัก เธอก็น่าจะยังคงใช้เวทย์เพื่อเพิ่มความเร็วได้

 

“ข้าทำไม่ได้ ร่ายกายอมตะของข้าได้ทำลายสมดุลของโลก กฎของโลกนี้ปฏิเสธข้า พลังเวทย์ของข้าได้หายไปจนหมดเลย”

 

“ก็ฟังดูมีเหตุผลนะ..” ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลิงค์ถึงไม่เห็นอัลโลว่าใช้เวทย์เลย หลังจากที่เข้าสู่สถานะร่ายเวทย์ ลิงค์ก็ไม่ได้กังวลเรื่องความอ่อนโยนอีกแล้ว  ด้วยการใช้ประโยชน์จากศัตรูที่ยังมาไม่ถึงระยะการร่ายเวทย์ของพวกเขา ลิงค์ก็มีความคิดผุดขึ้นมาแล้วร่ายเวทย์ระดับต่ำ 2 บทอย่างรวดเร็ว- เบาดั่งขนนกและสนามพลังเวกเตอร์

 

สนามพลังเวกเตอร์ผลักให้อัลโลวาไปข้างหน้า และด้วยความช่วยเหลือของเบาดั่งขนนก เธอจึงไปได้เร็วกว่าเดิมถึง 10 เท่า ด้วยการลอยผสมกับการกระแทกเธอได้พุ่งไปประมาณ 30 ฟุตในทันที

 

ด้วยเหตุนี้ ลิงค์ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงอีกแล้ว

 

ในตอนนั้นเอง เวเวอร์ก็ได้พุ่งเข้ามา เขานั้นอยู่ห่างจากลิงค์แค่ 300 ฟุต อัศวินอันเดธ 4 คนตามเขามา คอยปกป้องเขาอยู่รอบๆ ยังไงก็ตาม การกระทำของไอมอนส์นั้นน่าสนใจกว่า จิ้งจอกเฒ่าผู้นี้อยู่ห่างจากลิงต์ 330 ฟุต เขาไม่ได้พุ่งเข้ามาใกล้แล้วก็ไม่ได้ถอย

 

เวเวอร์นั้นมั่นใจในพลังของตัวเองเป็นอย่างมาก เขาหัวเราะเสียงดัง “ลิงค์ ลองลิ้มรสพลังของเจ้านายของฉันดูซะเนตรแห่งความตาย!”

 

เนตรแห่งความตาย

เวทย์เลเวล7

ผล:สร้างดวงตาเวทมนตร์ขนาดยักษ์ ทุกอย่างที่อยู่ภายในการจ้องมองของมันจะตกลงสู่ความตาย!

 

ออร่าสีแดงเลือดพุ่งออกมาจากคทาของเวเวอร์ มันรวมตัวกันเป็นดวงตาสีแดงขนาดยักษ์ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 16 ฟุต มันสมจริงมากๆ และเมื่อมันปรากฏขึ้น มันก็จ้องไปที่ลิงค์

 

พรึ่บ! มีเสียงดังขึ้นเบาๆ แล้วลำแสงสีแดงก็พุ่งออกมาจากเนตรแห่งความตายแล้วตรงไปที่ลิงค์

 

“มิติบิดเบือน!” นี่คือวิธีที่ดีที่สุดในการตอบโต้กับเวทย์ประเภทลำแสง

 

พริบตาต่อมา ลำแสงแห่งความตายก็ได้เลี้ยวผ่านเลนส์มิติและพุ่งผ่านร่างกายของลิงค์ไป ลิงค์นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บเลย และเขาก็เริ่มที่จะตอบโต้!

 

โดยที่ไม่ลังเล เขาได้ใช้งานหินนักปราชญ์สีขาว มันเปล่งแสงรุนแรงสีขาวออกมา ออร่าอันมหาศาลได้พุ่งออกไปในทุกทิศทาง  มันเหมือนกับว่าธาตุทั่วทั้งที่รกร้างเฟิร์ดนั้นกำลังก่อการจราจลเลย

 

ธาตุมารวมตัวกันอย่างรวดเร็วและความรุนแรงนั้นทำให้เกิดรอยแยกอากาศรอบตัวลิงค์ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า นี่คือความปั่นป่วนของธาตุ!

 

สีหน้าของไอมอนส์เปลี่ยนไปในทันที เขาถอยในทันทีและตะโกน “เวเวอร์ นั่นคือเวทย์เลเวล 9 ! อย่าป้องกันมันนะ!”

 

“ฉันจะทำ!” แทนที่จะถอย เวเวอร์กลับพุ่งไปข้างหน้าพร้อมกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ฉันมีวิญญาณอมตะ! ฉันมีร่างกายที่ไม่สามารถฆ่าตายได้มันเป็นเวทย์เลเวล 9 แล้วยังไงหล่ะ? มันก็ยังเป็นแค่พลังของมนุษย์อยู่ดี แต่ว่าฉันมีพลังของเทพ!”

 

ในตอนที่เขาพูด ลำแสงสีแดงเลือดมากมายก็ได้พุ่งออกมาจากเวเวอร์ พวกมันรวมตัวกันเป็นโล่คริสตัลสีแดงรอบตัวเขา รูนแห่งความมืดแปลกๆมากมายได้ลอยเข้าไปหามันอย่างรวดเร็ว

 

“กำแพงคริสตัลสีแดงฉาน!”

 

กำแพงคริสตัลสีแดงฉาน

เวทย์ไร้เลเวล

ผล: เวทย์นี้จะดูดพลังชีวิตจากรอบๆเพื่อเติมเต็มพลังงานของตัวเอง ตราบใดที่มีทรัพยากรณ์เพียงพอ มันก็จะสามารถอยู่ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด

(หมายเหตุ: ทุกอย่างสามารถเป็นเหยื่อบูชายัญของมันได้ มีเพียงมันเท่านั้นที่อยู่รอด!)

 

ในจังหวะที่กำแพงคริสตัลสีแดงฉานเสร็จสิ้น หัตถ์ไททันเลเวล 9 ที่เสริมพลังของลิงค์ก็มาถึง

 

ที่เลเวล 9 นิ้วของหัตถ์ไททันนั้นมีความกว้างมากกว่า 10 ฟุต และฝ่ามือของมันก็มีความยาวกว่า 150 ฟุต ในตอนที่มันปรากฏขึ้น มันกำมือเป็นหมัดและต่อยลงไปที่กำแพงคริสตัลสีแดงฉาน

 

ตู้ม! หัตถ์ไททันและกำแพงคริสตัลสีแดงฉานปะทะกันด้วยเสียงอันน่าหวาดกลัว เศษหินและฝุ่นลอยขึ้นมาฟุ้งไปหมด และผู้คนสามารถเห็นคลื่นกระแทกบนอากาศได้ด้วยตาเปล่า

 

ไอมอนส์ที่ถอยออกมาไกลกว่า 150 ฟุตนั้นโดนคลื่นกระแทกอัดเข้าไป เขามีเวทย์ป้องกันตัว แต่ว่าเขาก็เกือบรักษาสมดุลเอาไว้ไม่อยู่ และไม่มีเวลาร่ายเวทย์ตอบโต้เลย

 

1 วินาทีต่อมา ฝุ่นก็หายไป แสดงให้เห็นผลของการปะทะ

 

กำแพงคริสตัลสีแดงฉานยังอยู่ที่นั่น แต่ว่าสีมันจางลงไปมาก ข้างในนั้น อัศวินอันเดธทั้ง 4 คนได้ตายไปทั้งหมด พวกเขาดูแปลกประหลาด ร่างกายของพวกเขาแห้งราวกับไม้เน่า ออร่าวิญญาณก็หายไปอย่างสมบูรณ์เช่นกัน มันเห็นได้ชัดว่ากำแพงคริสตัลสีแดงฉานนั้นได้ดูดพลังชีวิตของพวกเขาออกไปจนหมด

 

ยังไงก็ตาม พวกเขาทั้ง 4 ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรับพลังของเวทย์เลเวล 9 ร่างกายของเวเวอร์เองก็ลีบลงเช่นกัน ตอนนี้เขาดูเหมือนกับโครงกระดูกเลย

 

หัตถ์ไททันเลเวล 9 ได้พ่ายแพ้ให้กับพลังอันมหาศาลของกำแพงคริสตัลสีแดงฉาน

 

“5555! ฉันป้องกันเวทย์เลเวล 9 ได้!” ภายในโล่จางๆ เวเวอร์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

ครั้งหนึ่ง เวทย์เลเวล 9 นั้นเป็นเหมือนกับยอดเขาสูงที่ดูเป็นไปไม่ได้ ในตอนที่เขาได้ยินมาจากอาจารย์ของเขาว่า เด็กหนุ่มจากทางเหนือได้ใช้เวทย์เลเวล 9 ในการฆ่าปีศาจตัวใหญ่ เขานั้นตกใจมาก เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันจะมีพลังขนาดไหน

 

แต่ตอนนี้ เขาป้องกันการโจมตีเลเวล 9 ได้สำเร็จ มันเหมือนกับเป็นความฝัน ถ้าเกิดว่าข่าวนี้แพร่ออกไป ชื่อของเขาก็จะกลายเป็นฝันร้ายแห่งฟิรุแมน!

 

“5555 ตาแก่ เห็นรึเปล่า? ฉันป้องกันได้! ฉันป้องกันมันได้!” เวเวอร์ยังคงไม่พอใจ ดังนั้นเขาจึงหันไปตะโกนใส่ไอมอนส์อย่างบ้าคลั่ง

 

ไอมอนส์เองก็ตกใจเช่นกัน เขาไม่คิดว่าเวเวอร์จะเก่งขึ้นขนาดนี้หลังจากที่แปรพักตร์ไปอยู่ฝั่งเทพปีศาจ เวทย์เลเวล 9 นั้นคือจุดสูงสุดของพลัง แต่เวเวอร์ก็สามารถป้องกันมันได้ เขาน่ากลัวจริงๆ

 

ไม่ใช่แค่พลังของเขาที่น่ากลัว วิธีการของเขาก็น่ากลัวเช่นกัน ไอมอนส์เชื่อว่าถ้าเขาอยู่ใกล้กว่านี้อีกซักหน่อย เวเวอร์ก็คงดูดเอาพลังชีวิตของเขาไปด้วยโดยไม่ลังเลเพื่อป้องกันการโจมตีของลิงค์

 

เมื่อเขาเห็นเวเวอร์เป็นแบบนี้ เขาก็พึมพำออกมา “ไอเสียสติ!”

 

หลังจากที่ป้องกันการโจมตีถึงตายของลิงค์ได้ เวเวอร์ก็ไม่มีความกังวลอีกต่อไปแล้ว เขาหันไปหาลิงค์ “ลิงค์ วันนี้จะเป็นวันตายของแก ฉันจะเอาวิญญาณของแกออกมาและเอามันไปขังไว้ในกำแพงแสดงศิลปะที่ห้องของฉัน ฉันจะจับเซลีนมาและทรมานเธอต่อหน้าแก ฮ่า ฉันจะทรมานเธอจนตาย!”

 

 

ในอีกด้านหนึ่ง ลิงค์เองก็ตกใจเช่นกัน ยังไงก็ตาม ต่อให้เวทย์เลเวล 9 ของเขาถูกป้องกันได้ มันก็ไม่ใช่ว่าเขาจะยอมรับไม่ได้เพราะว่าเขาได้ทำสิ่งที่เขาต้องการไปแล้ว

 

โดยไม่ปล่อยให้เสียเวลา เขายกคทาเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์ขึ้นมาและใช้ผลคลื่นเพลิงแล้วใช้เวทย์หัตถ์ไททันระดับสุดยอดของเลเวล 7

 

เหมือนกับเวทย์ก่อนหน้านี้ หัตถ์ไททันได้ปะทะเข้ากับกำแพงคริสตัลสีแดงฉาน

 

มีเสียงร้าวดังขึ้น และกำแพงคริสตัลสีแดงฉานของเวเวอร์ก็แตกในทันที หัตถ์ไททันยังคงพุ่งต่อและปะทะเข้ากับเวเวอร์

 

“ฉันมีดาบยมทูต ฉันจะป้องกันมันอีกครั้ง!” เวเวอร์หัวเราะและเอาคทามาอยู่ด้านหน้าของเขา ดาบสีดำขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นมา มันมีวงแหวนสีดำอยู่ข้างหลังมัน ซึ่งเต็มไปด้วยรูนมากมาย

 

ดาบสีดำแทงไปทางหัตถ์ไททันในขณะที่แสงนั้นได้ปกป้องเวเวอร์ มันเป็นการโจมตีและป้องกันในเวลาเดียวกัน

 

ตู้ม! หัตถ์ไททันที่เสริมพลังได้สลายไป หลังจากเวทย์หายไป ธาตุไฟที่พุ่งออกมาก็ถูกวงแหวนสีดำป้องกันไว้ ทำให้เวเวอร์ไม่ได้รับความเสียหายเลย

 

ดาบยมทูตเองก็หายไปเช่นกัน  เวเวอร์นั้นดูตัวลีบกว่าเดิมอีก เขานั้นเหมือนกับโครงกระดูกแห้งๆเลย หลังจากที่ป้องกันการโจมตีของลิงค์ เขาก็ตะโกนออกมา “ไอมอนส์ คุณจะโจมตีเมื่อไหร่เนี่ย?!”

 

หลังจากป้องกันเวทย์อันรุนแรงทั้งสอง เวเวอร์ก็เหลือพลังอยู่แค่เพียง 1 ใน 5 และแทบจะยืนไม่ไหวแล้ว

 

ในที่สุดไอมอนส์ก็เลิกถอย เวเวอร์ได้หยุดการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดไปแล้ว และตอนนี้ก็ถึงตาเขาแล้ว “ลิงค์ การรุมเป็นเรื่องที่น่าอับอายจริงๆ แต่ว่ามันจำเป็น ขอโทษแล้วกันนะ”

 

 

เขายกคทาของเขาขึ้นมาและร่ายเวทย์บิน เขาพุ่งมาข้างหน้าทันทีและเตรียมที่จะเข้าสู่ระยะการร่ายเวทย์ ยังไงก็ตาม ทั้งไอมอนส์และเวเวอร์ต่างก็ไม่รู้สึกตัวเลยว่าที่เนินเขาในระยะห่างออกไป 3 ไมล์นั้น มีคนอีก 2 คนได้ปรากฏตัวขึ้น

 

ลิงค์สัมผัสถึงพวกเธอได้ แล้วเขาก็ดีใจมากๆ โดยไม่ลังเล เขาถอยในทันที ตอนนี้ สิ่งที่เขาต้องทำก็คือล่อพวกเขา

 

 

บนเนินเขา

 

“แย่แล้ว เจ้านายกำลังตกอยู่ในอันตราย” นานะพูด ด้วยเสียงระเบิดอากาศ เธอก็หายไป

 

เซลีนถอนหายใจ “เป็นเด็กสาวที่ห่ามจริงๆ แต่ไม่ว่าเธอจะเร็วแค่ไหน เธอก็ไม่เร็วไปกว่ากระสุนของฉันหรอก” เธอหยิบปืนของเธอออกมา และหาก้อนหินที่จะนอนลงและตั้งเป้าเล็ง

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset