Advent of the Archmage – ตอนที่ 277: เวเวอร์ต้องตาย!

เทือกเขามอดไหม้

 

การประชุมลับได้ถูกจัดขึ้นในโถงรัฐสภาที่อยู่ในหอคอยเวทมนตร์ที่เพิ่งสร้างใหม่

 

คนที่จะได้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้คือผู้อาวุโสของสถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟแอนโทนี่, จอมเวทสองคนในสภาหกมาสเตอร์เกรนซี่และมาสเตอร์เฟอร์ดินันด์, องค์หญิงไฮเอลฟ์มิลด้า, นักเวทย์ไฮเอลฟ์อนาคตดีโรมิลสัน, และคนสุดท้าย, เจ้าของหอคอยเวทมนตร์แห่งนี้, ลิงค์

 

มีทั้งหมดหกคนในที่นี้ สามคนในนั้นเป็นสมาชิกที่เป็นที่ยอมรับและเคารพในโลกนักเวทย์, ในขณะที่อีกสามคนเป็นนักเวทย์รุ่นใหม่ที่ดูมีอนาคตไกล

 

หอคอยเวทมนตร์แห่งนี้เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่อุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ข้างในจะใหม่เช่นกัน แสงอาทิตย์หน้าร้อนเบาลงมากๆหลังจากผ่านคริสตัลชั้นนอกของหอคอยเวทมนตร์, ซึ่งทำหน้าที่ในการหักเหแสงอาทิตย์ไปยังมุมที่เหมาะสมที่สุด มีวงเวทย์อุณหภูมิในห้องโถงเพื่อทำให้มั่นใจว่าภายในหอคอยเวทมนตร์จะมีสภาพอากาศที่สบายอยู่เสมอ แล้วก็มีวงเวทย์ลมที่ปล่อยลมเย็นให้ทุกคนในหอคอยอย่างต่อเนื่องด้วย

 

มันเป็นสภาพแวดล้อมที่สบายมากๆ, แม้ว่ามันดูเหมือนจะไม่ช่วยให้บรรยากาศในห้องโถงสบายขึ้นเลยก็ตาม

 

ทุกคนก้าวเข้ามาในห้องโถงด้วยหัวใจที่หนักหน่วง

 

แอนโทนี่นั่งเก้าอี้หลักของโต๊ะยาวแล้วฟังรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ในป่าเกอร์เวนท์ของลิงค์อย่างตั้งใจ ในตอนที่ลิงค์พูดจบ, เขาก็เคาะโต๊ะเบาๆในขณะที่ขมวดคิ้ว, สายตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ แล้วเขาก็พูดออกมา “ตอนนี้เวเวอร์แข็งแกร่งขนาดนั้นจริงๆหรอ? เขาถึงกับสามารถต้านทานเวทย์เลเวล 9 ได้ด้วยเนี่ยนะ?”

 

เกรนซี่, เฟอร์ดินันด์, และไฮเอลฟ์อีกสองคนก็หันไปมองลิงค์, เฝ้ารอคำตอบจากเขา

 

ลิงค์นึกถึงฉากการต่อสู้แล้วพยักหน้าก่อนที่จะพูดออกมา “เขาน่ากลัวมากจริงๆ แต่ว่า, เขาก็ยังมีจุดอ่อนอยู่”

 

พอพูดจบ, ลิงค์ก็ชี้คทาไปในอากาศ จากนั้นภาพโฮโลแกรมก็ปรากฎขึ้นแล้วแสดงภาพเบลอๆออกมา มันคือฉากการต่อสู้ในตอนที่ไอมอนส์, เวเวอร์แล้วก็เขากำลังปะทะกัน

 

ด้วยความที่ภาพนี้มาจากความทรงจำของลิงค์, มันจึงค่อนข้างบิดเบี้ยว, เพราะสมาธิของลิงค์อยู่กับการร่ายเวทย์และการต่อสู้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม, นี่ก็ไม่ได้ส่งผลกับรายละเอียดที่เขาตั้งใจจะแสดงเลย

 

“เห็นไหมครับ ตลอดการต่อสู้นี้, เวเวอร์ร่ายเวทย์ออกมาสี่เวทย์ ซึ่งเวทย์พวกนี้ดูไม่แตกต่างจากเวทมนตร์แห่งความมืดทั่วๆไปเลย แต่ว่า, หลังจากที่พิจารณาดูใกล้ๆ, ผมก็ตระหนักได้ว่ารูปร่างภายนอกของเวเวอร์ได้เปลี่ยนไปทุกครั้งที่เขาร่ายเวทย์ ยิ่งเข้าใช้พลังงานไปมากเท่าไหร่, เขาก็ยิ่งเหมือนศพมากเท่านั้น, โดยเฉพาะหลังจากการป้องกันเวทย์เลเวล 9 ของผม ร่างกายของเวเวอร์ก็ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง และยังมีรายละเอียดที่สำคัญอีกอย่างนึง”

 

จากนั้นลิงค์ก็แสดงอีกภาพนึงขึ้นมา ภาพนี้ชัดเจนกว่าภาพก่อนมาก สีหน้าของเวเวอร์และการตอบสนองของไอมอนส์สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากภาพนี้

 

ภาพนี้ยังมาจากความทรงจำของลิงค์ ความชัดเจนของภาพนี้บ่งบอกว่าแม้จะอยู่ในช่วงที่รุนแรงที่สุดของการต่อสู้, ลิงค์ก็ยังมีความเข้าใจในสภาพแวดล้อมรอบตัวเขาที่ละเอียดถี่ถ้วน ทุกคนในที่นี้แสดงสีหน้าตกใจและหวั่นเกรง, โดยเฉพาะโรมิลสัน, ที่สีหน้าดูเหมือนจะหวาดกลัวอย่างเต็มที่

 

ตอนแรก, เขาคิดว่าความแตกต่างเพียงอย่างเดียวระหว่างลิงค์กับตัวเขาก็คือประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม, ดูเหมือนว่าเขาจะคิดผิดอีกครั้ง ลิงค์สามารถขยี้เขาได้อย่างง่ายดายด้วยการควบคุมสนามรบได้อย่างเชี่ยวชาญของเขา

 

“นี่มันสัตว์ประหลาดชัดๆ!” เขาอดพึมพำออกมาไม่ได้

 

จากนั้นลิงค์ก็ชี้ไปที่ภาพในอากาศแล้วพูด “ผมได้ลองสร้างฉากจากการต่อสู้ขึ้นมาใหม่ ดูดีๆนะครับ, ก่อนที่ผมจะร่ายเวทย์เลเวล 9, เวเวอร์ยังดูเหมือนกับคนทั่วๆไป แต่ว่า, ในตอนที่เขาร่ายโล่คริสตัลโลหิต, พลังชีวิตของเขาก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ในตอนที่การปะทะกันของเวทมนตร์ทั้งสองนี้ไปถึงขีดสุด, โล่นี้ได้แตกไปครั้งนึง จากนั้น, เวเวอร์ก็ไม่ลังเลที่จะเสียสละอัศวินอันเดธสี่คนแล้วใช้พลังชีวิตของพวกเขาสร้างเวทป้องกันขึ้นมาใหม่”

 

ในเวลานี้, โรมิลสันขมวดคิ้วในขณะที่พูดออกมา “นี่เจ้าจะบอกว่าเวเวอร์ใช้พลังชีวิตเพื่อรักษาสภาพของเวทมนตร์เอาไว้งั้นหรอ?”

 

“ใช่ เวทย์ที่เขาใช้หลังจากนี้เองก็มีพื้นฐานมาจากกฎเดียวกัน เวทย์พวกนี้ไม่มีขีดจำกัดของพลังหรือโครงสร้างเวทมนตร์ที่แน่นอน ตราบใดที่มีพลังชีวิตเพียงพอ, มันก็จะกลายเป็นเวทย์ที่แข็งแกร่งได้ตามที่ต้องการ แต่ว่า, ในตอนที่จำนวนพลังชีวิตลดลง, เวทย์พวกนี้ก็จะไม่ต่างอะไรจากของเด็กเล่น!”

 

พอได้ยินคำพูดพวกนี้, ทุกคนก็แลกเปลี่ยนสายตากันเพราะพวกเขาได้ข้อสรุปแล้ว

 

จากนั้นมิลด้าก็พูดความคิดที่อยู่ในหัวของทุกคน “หรือจะให้พูดก็คือเวเวอร์กำลังใช้สกิลศักดิ์สิทธิ์ของเทพปีศาจอยู่สินะ!”

 

สกิลศักดิ์สิทธิ์ของเทพปีศาจนั้นเป็นสาขาของสกิลศักดิ์สิทธ์, เพราะมันมีต้นกำเนิดมาจากพระเจ้า พวกมันมีความสมบูรณ์แบบมากๆเช่นกันและสามารถทำสิ่งที่นักเวทย์ทั่วๆไปคิดว่าไม่มีทางทำได้ได้

 

ยกตัวอย่างเช่น, เวทย์คืนชีพ, เวทย์รักษาสมบูรณ์และเวทย์ทำนาย, เวทย์พวกนี้ต่างก็เป็นพลังที่นักเวทย์ทั่วๆไปไม่สามารถทำได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม, นักบวชสามารถทำเรื่องพวกนี้ได้อย่างง่ายดาย เหตุผลก็เพราะมันเป็นการใช้สกิลศักดิ์สิทธิ์

 

“ถ้างั้นมันก็ง่ายๆไม่ใช่หรอ? พวกเราก็แค่ต้องหยุดเวเวอร์จากการดูดซับพลังชีวิตในระหว่างการต่อสู้ให้ได้ก็พอนี่” โรมิลสันพูดอย่างสบายๆ

 

อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่คำพูดพวกนี้หลุดออกมาจากปากของเขา, ทุกคนก็จ้องเขาด้วยสายตาแปลกๆ

 

“มะ…มีปัญหาตรงไหนหรอ?” โรมิลสันรู้สึกว่ารูปแบบความคิดของเขาถูกต้อง

 

องค์หญิงมิลด้าตบหน้าผากของเธอและรู้สึกอับอายมากๆ จากนั้นเธอก็พูดตอกหน้า “เจ้าคิดว่ามันจะไม่เก็บพลังชีวิตเอาไว้รึไง? นอกจากนี้, มันมีอัศวินอันเดธ 30,000 คนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชานะ พลังชีวิตของพวกมันมีให้ดูดซับเพียบเลยหล่ะ แล้วเจ้าจะหยุดมันได้ยังไง?”

 

“นี่มัน…” ใบหน้าของโรมิลสันกลายเป็นสีแดงในทันที นี่เป็นปัญหาใหญ่จริงๆ

 

นี่เป็นแค่การแสดงเล็กๆก่อนที่จะเข้าสู่หัวข้อหลัก จากนั้นแอนโทนี่ก็ตบโต๊ะเบาๆก่อนที่จะพูดออกมา “ในเมื่อเวเวอร์มีพลังขนาดนี้, พวกเราก็ต้องกำจัดมันให้ได้ก่อนที่มันจะแข็งแกร่งยิ่งกว่านี้ ถ้าพวกเราปล่อยให้มันบ้าคลั่งต่อไป, จะไม่มีใครหยุดมันได้ ลิงค์, เจ้าคิดว่ายังไงหล่ะ?”

 

เด็กหนุ่มคนนี้ได้สร้างปาฏิหารย์มามากมาย ทุกคนจะมาหาเขาในตอนที่มีปัญหา

 

ลิงค์มีแผนอยู่ในหัวแล้ว เขาพูดออกมา “กองทัพอันเดธนั้นมีปัญหาอยู่อย่างนึง มันพึ่งพาเนโครแมนเซอร์มากเกินไป นี่เป็นองค์กรที่รวมศูนย์มากๆ ตราบใดที่พวกเราสามารถเอาชนะบุคคลที่เป็นศูนย์กลางได้, สิ่งอื่นๆก็จะพังไปตามธรรมชาติ ด้วยเหตุผลนี้, พวกเราก็ไม่ต้องจัดการกับอัศวินอันเดธ; พวกเราแค่ต้องสร้างกลุ่มเล็กๆขึ้นมากลุ่มนึงแล้วมุ่งหน้าไปหาเวเวอร์เท่านั้น”

 

อันที่จริง, ทุกคนในที่นี้ก็คิดแผนหนีขึ้นมาได้ อย่างไรก็ตาม, พวกเขาขาดความมุ่งมั่น พวกเขากลัวว่ากลุ่มเล็กๆนี้จะจบลงด้วยการทำผิดพลาด, และส่งผลให้ภารกิจล้มเหลว

 

ในอีกด้านนึง, ลิงค์นั้นดูเหมือนจะมองผ่านเมฆหมอกนี้ได้และชี้นำพวกเขาไปยังเส้นทางที่ถูกต้อง

 

“แต่เจ้าบอกว่ามันมีวิญญาณที่ไม่สามารถทำลายได้นี่” เกรนซี่พูด

 

ลิงค์พยักหน้าแล้วพูด “ใช่ครับ ดังนั้น, พวกเราจึงต้องการความช่วยเหลือของอัศวินศักดิ์สิทธิ์, เหมือนกับวิธีที่พวกเขาช่วยพวกเรากักขังวิญญาณของปีศาจเลือดทาลอนเมื่อ 200 ปีก่อน”

 

วิญญาณเป็นของดินแดนพระเจ้า มนุษย์ไม่มีความเข้าใจในพื้นที่นี้ ทั้งเทพปีศาจและเทพแห่งแสงมีความเข้าใจในพลังของดินแดนนี้อย่างลึกซึ้ง ดังนั้นคนในปกครองของพวกเขาจึงมีพลังที่จัดการกับวิญญาณได้

 

ปีศาจเลือดทาลอนเองก็ได้ติดต่อกับเทพปีศาจและได้รับวิญญาณที่ไม่สามารถทำลายได้มา อย่างไรก็ตาม, เมื่อ 200 ปีก่อนเขาก็ถูกจับได้ หลายๆคนลืมรายเอียดเกี่ยวกับความพินาศของเขาไปแล้ว, แต่ว่าลิงค์ยังจำมันได้อย่างชัดเจน

 

พอพูดจบ, รายละเอียดแผนการก็ผุดขึ้นมาในหัวของลิงค์ นอกจากนี้, นี่เป็นแผนที่มีความเป็นไปได้สูง

 

แอนโทนี่คิดอยู่พักนึงก่อนที่จะพูดออกมา “พระสันตะปาปากับหัวหน้าบาทหลวงประจำการอยู่ที่ป้อมทางเหนือ แต่ว่า, บาทหลวงของเมืองฮอทสปริงยังอยู่ที่เมือง ข้าจะไปติดต่อเขาให้”

 

จากนั้นมิลด้าก็พูดขึ้น “ในเมื่อพวกเราจะทำการลอบสังหาร, พวกเราก็ต้องพูดถึงสมาชิกที่เกี่ยวข้องด้วย ข้าเชื่อว่าศัตรูคงไม่ยอมมอบโอกาสให้เราทำภารกิจนี้สำเร็จได้หลายครั้งหรอก ถ้าพวกเราพลาดครั้งนี้, ครั้งต่อไปจะยากขึ้นมาก ดังนั้น, สมาชิกของภารกิจนี้จะต้องแข็งแกร่งมากๆ พวกเราต้องมีความมั่นใจในความสำเร็จของภารกิจนี้”

 

“รวมหุ่นเชิดเวทมนตร์ของผมกับตัวผมเขาไปได้เลย” ลิงค์พูด

 

กองทัพส่วนใหญ่ของอาณาจักรนอร์ตันนั้นอยู่ทางเหนือ นักเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ยังอยู่ทางใต้ก็คือลิงค์ นอกจากนี้, เขาคุ้นเคยกับรูปแบบการต่อสู้ของเวเวอร์ดี เขาไม่มีเหตุผลให้ออกห่างจากเรื่องนี้

 

ในส่วนของนานะนั้น, มันกลายเป็นนิสัยไปแล้วที่จะพาเธอไปทุกที่ในฐานะบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขา

 

จากนั้นมิลด้าก็พูดเสริม “นับข้าไปด้วยสิ ข้าฟื้นตัวเต็มที่แล้วหลังจากที่พักผ่อนมาหลายวันขนาดนี้”

 

โรมิลสันพูดต่ออย่างรวดเร็ว “ในเมื่อองค์หญิงไป, ข้าก็ไปด้วย”

 

แอนโทนี่, เกรนซี่, และเฟอร์ดินันด์ทำได้แค่ยิ้มอย่างขมขื่นในขณะที่เฝ้ามอง พวกเขาแก่เกินกว่าที่จะทำภารกิจแทรกซึมที่ต้องใช้ความละเอียดขนาดนี้ พวกเขามีแต่จะเป็นภาระถ้าเข้าร่วมด้วย

 

แอนโทนี่ครุ่นคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะพูดออกมา “ในเมื่อมันเป็นภารกินแทรกซึม, เจ้าก็จำเป็นต้องใช้ความเร็วและการปกปิดให้มากที่สุดเท่าที่เจ้าจะทำได้ ข้าจะเดินทางไปยับบ้า ในอีกสามวันถัดจากนี้, ข้าจะนำเรือรบกลับมาให้ลำนึง”

 

เรือรบนั้นเป็นยานพาหนะที่สะดวกสำหรับเดินทางไกล แล้วมันยังติดตั้งอาวุธเอาไว้มากมายด้วย เรือรบเป็นเหมือนกับป้อมปราการเคลื่อนที่ที่ลอยได้ มันมักจะเป็นสมบัติอันน่าภาคภูมิใจของเผ่ายับบ้าอยู่เสมอ

 

ความจริงที่ว่าแอนโทนี่สามารถสัญญาว่าจะหาเรือรบได้ภายในสามวันนั้นแสดงถึงเส้นสายอันกว้างขวางของเขา

 

ด้วยความเชื่อเหลือของเรือรบ, พวกเขาจะไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการแทรกซึมและการล่าถอยอีก

 

จากนั้นเฟอร์ดินันด์ก็พูดต่อ “ข้ารู้จักหัวหน้าสภานักเวทย์ในอาณาจักรเซาท์มูน พวกเราทั้งคู่เคยศึกษาในสถาบันเวทมนตร์เดียวกันในตอนที่พวกเรายังหนุ่ม ข้าจะไปเยี่ยมเขาแล้วขอความช่วยเหลือ การปรากฎตัวของกองทัพอันเดธก็เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงสำหรับอาณาจักรเซาท์มูน ข้าเชื่อว่าเขาจะช่วยพวกเราในการควบคุมอาณาจักรเดลอนก้า”

 

การลดความแข็งแกร่งของกองทัพอันเดธก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน

 

สุดท้าย, มันก็คือตาของเกรนซี่ เขาผายมือออกมาอย่างจนปัญญาในขณะที่พูด “ข้าไม่มีเส้นสายหรอก แต่ว่า, ข้าพอมีประสบการณ์ในการปรุงยาและมีชุดยาอยู่ที่สถาบัน พวกมันบางส่วนสามารถใช้รักษาบาดแผลได้ในขณะที่บางส่วนสามารถใช้เพิ่มพลังโจมตีหรือพลังป้องกันได้ ข้าจะไม่เก็บพวกมันเอาไว้ในชั้นอีกแล้ว ดังนั้นข้าจะกลับไปยังหอคอยเวทมนตร์แล้วเอาทั้งหมดนั้นมาให้เจ้า”

 

หลังจากที่เรื่องอัศวินศักดิ์สิทธิ์, เรือรบ, ยาและกลุ่มนักเวทย์สภาเข้าที่แล้ว, ภารกิจสังการก็จะเริ่มต้นขึ้น

 

แล้วลิงค์ก็พูดเสริม “ร่ายกายของเวเวอร์นั้นถูกหุ่นเชิดเวทมนตร์ของผม, นานะทำลายไปแล้ว, หลังจากที่มันกลับไปเดลอนก้า, มันจะทำการสะสมพลังอย่างบ้าคลั่ง แล้วมันก็คงจะคิดแผนป้องกันนานะอย่างแน่นอน ดังนั้นก่อนที่พวกเราจะออกไป, ผมจะจัดการปรับแต่งบางอย่างกับเธอ”

 

ทุกคนพยักหน้า หุ่นเชิดเวทมนตร์ของลิงค์แข็งแกร่งมากๆและสามารถตัดสินความสำเร็จของภารกิจนี้ได้ นี่เป็นมติเอกฉันท์

 

การสนทนาจบลงตรงนี้แล้วทุกคนก็ไปเตรียมสิ่งที่จำเป็น จากนั้นลิงค์ก็ไปหาแอนโทนี่แล้วพูด “ผมจับคนสำคัญของดาร์คเอลฟ์ได้สองคนในภารกิจนี้ หนึ่งในนั้นคือเจ้าชายทมิฬ วอลเตอร์, ในขณะที่อีกคนนึงก็คือผู้อาวุโสแห่งพันธมิตรซิลเวอร์มูน, ไอมอนส์ ผมเชื่อว่าการส่งพวกเขาไปทางเหนือจะเป็นความคิดที่ดีนะครับ พวกเราอาจจะสามารถยื้อเวลาศึกตัดสินได้”

 

ณ เวลานี้, ทั้งอาณาจักรกำลังค้นหาวิธีป้องกันอสรพิษทมิฬอยู่ ยิ่งพวกเขามีเวลาเตรียมตัวนานเท่าไหร่, โอกาสสำเร็จก็จะยิ่งสูงเท่านั้น

 

แอนโทนี่ประหลาดใจเล็กน้อยกับตัวประกันที่เหมาะสมสองคนนี้แล้วพูดออกมา “เจ้าพูดถูก, ข้าจะแจ้งคนของ MI3 ให้มาจัดการเรื่องนี้

 

“เยี่ยมไปเลยครับ”

 

จากนั้น, ลิงค์ก็ไปหาอัลโลวา

 

อัลโลวาได้เปลี่ยนเป็นชุดนอนแล้วในตอนนี้ เธอกำลังสวมเสื้อเชิ้ตและปล่อยผมลงมาประบ่าของเธอ ดวงตาสีแดงฉานที่เป็นเอกลักษณ์ของราชวงศ์ดาร์คเอลฟ์ของเธอเองก็มีเสน่ห์อันโดดเด่น ส่วนรูปร่างของเธอนั้นน่าดึงดูดยิ่งกว่า

 

พอเห็นลิงค์, เธอก็ยิ้มแล้วพูดออกมา “ข้าสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังบนใบหน้าของเจ้า เจ้ากำลังเตรียมตัวไปฆ่าคนหรอ? ให้ข้าเดานะ…เวเวอร์ใช่ไหม?”

 

“ไม่ใช่เรื่องที่เดายากซะหน่อย” ลิงค์ผายมือออกมาอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็กวาดตามองรอบๆห้องแล้วถาม “เซลีนอยู่ไหนหล่ะ?”

 

ในตอนที่เขาถามคำถามนี้, รอยยิ้มมีเลศนัยก็ปรากฎขึ้นบนใบหน้าของอัลโลวา แล้วเธอก็พูดออกมา “ข้าบอกเจ้าไม่ได้หรอก เธอบอกว่ามันคือเซอร์ไพรส์”

 

“เซอร์ไพรส์หรอ?” ลิงค์ไม่เข้าใจ อย่างไรก็ตาม, เขาเลือกที่จะไม่สนใจมันแล้วรอให้เซอร์ไพรส์นั้นเกิดขึ้นอย่างอดทน จากนั้นเขาก็พูดต่อ “เธอรู้จักทฤษฎีหุ่นเชิดเวทมนตร์ไหม?”

 

“ข้าเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับหุ่นเชิดเวทมนตร์หลังจากที่อาเซเลียถูกหุ่นเชิดจัดการ เจ้าสามารถพูดได้เลยว่าข้ามีประสบการณ์ค่อนข้างน้อยในเรื่องนี้”

 

“แค่นั้นก็พอแล้ว” ลิงค์ประหลาดใจเล็กน้อย เขาเองก็พึ่งจะศึกษาทฤษฎีหุ่นเชิดเวทมนตร์หลังจากที่เอาชนะอาเซเลียได้ ตอนนี้, เขาถูกพิจารณาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้แล้ว และเมื่ออ้างอิงจากสติปัญญาของอัลโลวา, ถ้าเธอบอกว่าเธอมีประสบการณ์กับมัน, มันก็อาจจะหมายความว่าเธอทำการวิจัยมาเพียงพอแล้ว

 

“ช่วยอะไรหน่อยได้ไหม: ฉันอยากให้เธอช่วยแก้ไขจุดอ่อนที่นานะมี”

 

นานะนั้นเกือบจะสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็ตาม, ความจริงที่ว่าร่างกายของเธอทำมาจากสสารโลหะนั้นก็เป็นจุดอ่อนที่สำคัญ

 

เวเวอร์เป็นคนฉลาด เขาจะสังเวยวิญญาณให้กับทาบินอสเพิ่มอย่างแน่นอนหลังจากที่กลับไปอาณาจักรเดลอนก้า แล้วหลังจากนั้นเขาก็จะขอสกิลศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถเอาชนะนานะได้ ซึ่งเวทย์แบบนั้นก็มักจะเป็นพวกเวทย์แม่เหล็กแถมมันก็เชี่ยวชาญได้ไม่ยากด้วย พอเวเวอร์เชี่ยวชาญเวทย์พวกนั้น, นานะก็จะเจอปัญหา ดังนั้น, ลิงค์ต้องกำจัดปัญหาที่กำลังมาถึงนี้

 

แน่นอนว่าอัลโลว่าไม่ได้ปฏิเสธคำขอนี้ เธอพยักหน้าแล้วพูด “จะให้ช่วยพัฒนานานะหรอ? ข้ารู้สึกเป็นเกียรติมากจริงๆ”

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset