Advent of the Archmage – ตอนที่ 287: พรของราชินีมังกรแดงหรอ? นั่นยังแรงไม่พอหรอก!

ยังมีผู้คนอีก 4,000 คนอาศัยอยู่ที่จตุรัส อย่างไรก็ตาม, เวเวอร์ไม่สามารถรอที่จะสังเวยพวกเขาให้กับเจ้านายของเขาเพื่อแลกกับพลังอันยิ่งใหญ่ได้แล้ว

 

แต่ไม่ว่ายังไง คนพวกนี้ก็เป็นแหล่งพลังชีวิตอันมหาศาลเช่นกัน, โดยเฉพาะในตอนที่พวกเขาตกอยู่ในความสิ้นหวัง พลังชีวิตของพวกเขาจะหนีออกมาจากร่าง, และพลังพวกนั้นก็เต็มไปศักยภาพอันไร้ที่สิ้นสุด

 

ซึ่งพลังงานนี้จะถูกนำมาสกัดและกลายเป็นพลังสำรองของเขาในการต่อกรกับศัตรู

 

ที่จตุรัส, อัศวินอันเดธได้ทำการสังหารหมู่อย่างบ้าคลั่ง เลือดและเนื้อสดๆกระจายไปทั่วทุกที่ในขณะที่มีเสียงร้องและคำสาปแช่งดังขึ้นมากมาย ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานนั้นปกคลุมไปทั่วเมืองผี

 

“ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย!”

 

“ปีศาจ! ปีศาจ!”

 

“เวเวอร์, ข้าขอสาปแช่งเจ้า ข้าขอแช่งให้เจ้าถูกเผาในนรกเป็นเวลา 10,000 ปี!”

 

ในตอนที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้, เวเวอร์ไม่ได้โกรธ, แต่เขากลับรู้สึกตื่นเต้นในขณะที่ยกมือขึ้นแล้วหัวเราะคิกคักออกมาแทน “มาสิ, ความสิ้นหวัง, ความโกรธ, ความหวาดกลัว, ปล่อยพวกมันออกมาให้หมด เสียงเหล่านี้ช่างงดงามเหมือนกับท่วงทำนองอันมีค่า ภาพนี้แหล่ะคือสวรรค์ที่ฉันแสวงหามาโดยตลอด อา, พลังชีวิตอันงดงาม, มาเถอะ มาหาฉันสิ…”

 

เวเวอร์หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

 

เมียสเมอร์แสดงความคิดเห็นในตอนที่เธอเห็นฉากนี้ “เวเวอร์, ข้าขอบอกเลยว่าเจ้าดูเหมือนกับโคตรวายร้ายจริงๆ ข้าว่าเจ้าน่าจะลองไปเยี่ยมนรกดูสักวันนึงนะ, ข้ารับรองเลยว่าเจ้าจะรู้สึกว่ามันเข้ากับเจ้ามากแน่ๆ”

 

“โคตรวายร้ายหรอ? ไม่หรอกหน่า, ฉันก็แค่วายร้ายที่น่ารังเกียจมากๆคนนึง 555!”

 

อย่างไรก็ตาม, ในขณะที่เขาพูด, จู่ๆเวเวอร์ก็เอามือกุมหัวและเริ่มร้องออกมา เขาร้องไห้ในขณะที่บ่น “ทั้งโลกเกลียดฉัน ทุกคนอยากฆ่าฉัน; ฉันไม่มีทางเลือก; ฉันไม่เหลือทางเลือกอะไรแล้ว! ถ้าพวกเขาเกลียดฉัน, ฉันก็ทำได้แค่ฆ่าพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะฆ่าฉันเท่านั้น…”

 

เมียสเมอร์จ้องมองเวเวอร์ผู้บ้าคลั่งและไม่สามารถเข้าใจการกระทำของเขาได้ จากนั้นเธอก็ปล่อยปีศาจในคราบมนุษย์ตัวนี้โดยไม่พูดอะไรอีก

 

เพื่อนคนนี้มีอารมณ์แปรปรวนมากๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป เธอค่อนข้างจะระวังเขา

 

ณ ตอนนี้, มีผู้คนเหลือรอดไม่ถึงครึ่งแล้ว เลือดสดๆที่ไหลรินออกมาจากบาดแผลของเหยื่อเริ่มมารวมกันบนพื้น, เกิดเป็นลำธารเลือดเล็กๆขึ้น อากาศในจตุรัสเองก็กลายเป็นสีแดงเข้ม, ปกคลุมเมืองผีไปด้วยหมอกเลือด และกลิ่นของเลือดนั้นก็รุนแรงมากจนหายใจแทบไม่ออก

 

หลังจากนั้นก็มีกลุ่มคนสีขาวปรากฎขึ้นที่ทางเข้า ลิงค์และกลุ่มนักฆ่าได้มาถึงที่นี่แล้ว

 

ฉากที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขานั้นคือนรกทะเลเลือด ในนรกนี้, พวกอันเดธยังคงมัวเมากับการพรากชีวิตผู้บริสุทธิ์ พวกเขาเป็นบ้ากันไปหมดแล้ว

 

พอเห็นฉากนี้, โจเซฟก็แผดเสียงออกมา “เวเวอร์, ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!”

 

ในขณะนั้นเอง, ก็มีเชลยของเมืองผีคนนึงวิ่งมาหาพวกเขาในขณะที่ตะโกนออกมา “ช่วยข้าด้วย, ได้โปรดช่วยข้าด้วย…”

 

ฉัวะ! หัวของเขาหลุดออกจากคออย่างกระทันหัน ข้างหลังเขา, มีอัศวินอันเดธคนนึงเดินมาพร้อมกับดาบเปื้อนเลือดในมือของเขา เขาเตะร่างไร้หัวนี้ในขณะที่หัวเราะคิกคักอย่างเย็นชา

 

“อ้ากก, ไปลงนรกซะ!” ดวงตาของโจเซฟเบิกกว้างด้วยความเกลียดชังในขณะที่พุ่งไปข้างหน้าและเหวี่ยงดาบของเขา เขาปล่อยออร่าต่อสู้ทั้งหมดใส่อัศวินอันเดธคนนั้น

 

จากนั้นอัศวินอันเดธก็เอาดาบในมือของเขาป้องกันมันอย่างใจเย็น, มีสีแดงเลือดห่อหุ้มดาบของเขาอยู่ด้วย

 

ตูม! การปะทะกันระหว่างพลังแห่งแสงสว่างและความมืดทำให้เกิดการระเบิดขึ้น ซึ่งมันส่งผลให้เลือดและเนื้อสดๆลอยไปทั่วพื้นที่ หลุมที่มีรัศมีประมาณ 30 ฟุตได้ถูกสร้างขึ้นจากการระเบิดนี้

 

พวกเขาทั้งสองมีพลังสูสีกัน

 

อันเดธคนนี้ไม่ใช่ทหารกากๆ เขาเป็นลูกน้องอันแสนภาคภูมิใจของเวเวอร์, อัศวินอันเดธเลเวล 8 ,ทาโรโกะ เขามองใบหน้าอันเดือดดาลของโจเซฟในขณะที่ยิ้มแล้วพูดออกมา “อัศวิน, ไม่ต้องรีบหรอก แกจะได้ไปอยู่กับมันในเร็วๆนี้”

 

โจเซฟตกตะลึง เขารู้สึกตัวแล้วว่าเขาดูถูกเวเวอร์มากเกินไป

 

ตัวเวเวอร์เองก็แข็งแกร่งมากๆแล้ว อย่างไรก็ตาม, อัศวินอันเดธที่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของเขาเองก็ไม่ได้เอาชนะได้ง่ายๆ ยกตัวอย่างเช่น, อัศวินอันเดธที่อยู่เบื้องหน้าของเขาคนนี้ที่ได้มอบแรงกดดันอันมหาศาลให้เขาในตอนที่ปะดาบกัน

 

เขาไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะอันเดธคนนี้ได้

 

จากนั้นโจเซฟก็ถอยกลับมาอยู่ข้างๆลิงค์หลังจากที่เขาใจเย็นลงแล้วพูดออกมา “มาสเตอร์ครับ, สถานการณ์เลวร้ายมาก”

 

ลิงค์พยักหน้าแล้วพูด “ผมประเมินดูแล้ว ศัตรูน่าจะมีทั้งหมด 26 คน เวเวอร์, ซัคคิวบัส, และอัศวินอันเดธ พวกมันทุกคนนั้นน่าจะมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยเลเวล 7 และมีแม้กระทั่งเลเวล 8 ด้วย 3 คน ดูท่านี่จะเป็นงานยากแล้วหล่ะ!”

 

แม้ว่าพวกอัศวินอันเดธจะไม่ได้มีวิญญาณและออร่าต่อสู้ที่แข็งแกร่งเหมือนกับที่นักรบเลเวล 7 ทั่วๆไปมี, แต่ความแข็งแกร่งของพวกมันก็อยู่ที่เลเวล 7 อย่างแท้จริง

 

พลังดิบนั้นก็มีความหมายบางอย่างเช่นกัน

 

แม้ว่าพวกมันจะขาดประสบการณ์ในการต่อสู้, แต่พวกมันก็สามารถพึ่งออร่าต่อสู้อันแข็งแกร่งของพวกมันในการฝ่าฟันอุปสรรคได้ แถมพวกมันยังเอาชนะพวกเขาด้วยจำนวนได้อีกด้วย, สรุปก็คือ, พวกเขากำลังต่อสู้กับกองทัพอันน่าหวาดกลัวอยู่

 

จากนั้นมิลด้าก็กระซิบ “แล้วแผนหล่ะ?”

 

ลิงค์มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว เขากระซิบ “โจเซฟ, อัศวินอันเดธคนนั้นไม่ใช่ปัญหาหรอก คนๆเดียวที่น่ากลัวก็คือเวเวอร์ ตอนนี้เริ่มเตรียมตัวได้แล้ว ผมต้องการให้คุณหยุดวิญญาณของเวเวอร์จากการหลบหนีให้ได้ในตอนที่เวลามาถึง!”

 

“ข้าเข้าใจแล้ว!”

 

จากนั้นโจเซฟก็หันไปหาอัศวินศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆแล้วพูด “พวกเราจะเริ่มตั้งค่ายกลจับกุมวิญญาณ!”

 

อัศวินศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้าคนทำตามคำสั่งในทันที พวกเขากระจายตัวกันและล้อมรอบโจเซฟเป็นวงกลม จากนั้นพวกเขาก็ปล่อยออร่าต่อสู้ออกมา ครั้งนี้, ออร่าต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้กระจายไปทุกทิศทาง, แต่มันกลับถูกโจเซฟที่ยืนอยู่ตรงกลางดูดซับไปทั้งหมดแทน

 

จากนั้นโจเซฟก็ยกดาบกางเขนศักดิ์สิทธิ์ในมือของเขาขึ้นในขณะที่แสงสีทองถูกยิงขึ้นไปบนฟ้า ในเวลาเดียวกันนั้นเอง, อัศวินศักดิ์สิทธิ์ทุกคนก็ถูกห่อหุ้มด้วยรัศมีอันแข็งแกร่ง ความมืดและความชั่วร้ายที่ทางเข้าของจตุรัสถูกขจัดไปในทันที, แล้วเปลี่ยนเป็นพื้นที่แห่งแสงสว่าง

 

โจเซฟก็กำลังเปล่งแสงเจิดจ้าอยู่เช่นกัน ร่างทั้งร่างของเขาถูกห่อหุ้มด้วยรูนศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเขาก็สวดภาวนา “ในนามของเทพแห่งแสง, ข้า, โจเซฟ ฮันนิบาล, ขอพิพากษาบาปของวิญญาณเหล่านี้!”

 

ณ ตอนนี้, อัศวินคนนี้ได้กลายเป็นผู้ส่งสารของเทพแห่งแสงแล้ว ในตอนที่วิญญาณของเวเวอร์ซึ่งถูกความมืดเข้าครอบงำปรากฎขึ้นมันจะถูกตัดสินด้วยค่ายกลจับกุมวิญญาณในทันที!

 

จากนั้นลิงค์ก็เดินไปข้างหน้าแล้วบอกกับนานะ “มาเริ่มกันเถอะ; กวาดล้างพวกอัศวินอันเดธซะ! เริ่มด้วยตัวที่อ่อนแอที่สุดเลย!”

 

“นานะเข้าใจแล้ว!”

 

ตูม! นานะหายไปจากตำแหน่งเดิมของเธอด้วยเสียงระเบิดและภายในสิบเสี้ยววินาที, อัศวินอันเดธคนนึงที่อยู่ห่างจากเธอ 60 ฟุตก็หัวขาด

 

ร่างของนานะโฉบไปมารอบๆศพของอัศวินอันเดธเป็นเวลาพักนึงก่อนที่เธอจะหายตัวไปอีกครั้งด้วยเสียงระเบิด เธอกำลังมุ่งหน้าไปหาเป้าหมายต่อไปของเธอ

 

จากนั้นมิลด้าก็ชี้คทาของเธอไปที่จตุรัสในขณะที่จี้หนามบนคอของเธอเริ่มบีบรัด คอของเธอเริ่มมีเลือดไหลออกมา, และคริสตัลมรกตที่ห้อยอยู่กับจี้ก็เริ่มถูกปกคลุมด้วยแสงสดใส จากนั้น, วิญญาณต้นไม้สีทองทั้งสามก็วิ่งเข้ามาในจตุรัสแล้วเริ่มโจมตีอัศวินอันเดธอย่างบ้าคลั่ง ในการเผชิญหน้ากับการโจมตีที่รุนแรงและเข้มข้นขนาดนี้, อัศวินอันเดธถูกรุกรานอย่างสมบูรณ์และไม่สามารถโจมตีนักเวทย์ที่อยู่ข้างหลังได้เลย

 

โรมิลสันเองก็เริ่มชาร์จเวทย์ป้องกันเลเวล 7 เอาไว้เผื่อในกรณีฉุกเฉิน

 

เขาจ้องมองมิลด้าด้วยสีหน้ากังวล เขารู้ว่าวิญญาณต้นไม้สีทองนั้นต้องใช้พลังชีวิตในการเคลื่อนไหว มิลด้าคงจะไม่สามารถทนได้นานซักเท่าไหร่

 

ในฝั่งของศัตรู, เวเวอร์ก็ไม่ได้นั่งอยู่เฉยๆเช่นกัน เขาถามเมียสเมอร์, “เธอช่วยจัดการกับหุ่นเชิดเวทมนตร์ตัวนั้นให้หน่อยได้ไหม?”

 

“ข้าสามารถขัดขวางเธอได้, แต่การฆ่าเธอคงจะเป็นไปไม่ได้” เธอพูด นานะได้แสดงความสามารถในการเรียนรู้อันโดดเด่นออกมาในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ แม้ว่านานะจะถูกเมียสเมอร์ยับยั้งได้ในตอนแรก, แต่เธอก็ถือไพ่เหนือกว่าในทันทีหลังจากที่ปะทะกันได้ไม่กี่รอบ ถ้าเมียสเมอร์ต้องต่อสู้กับสิ่งที่น่าหวาดกลัวขนาดนี้อีกสองรอบหล่ะก็, เธอคงจะพ่ายแพ้ในที่สุด

 

ในช่วงเวลาสั้นๆ, นานะก็ฆ่าอัศวินอันเดธไปสามคนแล้ว จากนั้นเวเวอร์ก็ตะโกน “ทาโระโกะ, กลับมานี่แล้วร่วมมือกับเมียสเมอร์จัดการหุ่นเชิดเวทมนตร์ซะ! พวกเราต้องทำลายเธอ!”

 

“น่าจะไม่มีปัญหาอะไรแล้วใช่ไหม?” เวเวอร์ถาม

 

“ก็น่าจะใช่นะ”

 

เธอเป็นปีศาจเลเวล 8 ที่มีจิตวิญญาณในระดับตำนาน ถ้าเธอจัดการกับหุ่นเชิดเวทมนตร์ไม่ได้แม้ว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากอัศวินอันเดธเลเวล 8 แล้วหล่ะก็, เธอคงจะกลายเป็นตัวตลกของสายเลือดอันมีเกียรติของเธอ!

 

จากนั้น, เมียสเมอร์ก็วิ่งไปพร้อมกับทาโรโกะ

 

เวเวอร์เองก็เริ่มการโจมตีของเขาเช่นกัน

 

ภัยคุกคามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสนามรบในตอนนี้ก็คือวิญญาณต้นไม้สีทองทั้งสาม เขาต้องกำจัดสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญพวกนี้เป็นอันดับแรก

 

ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับพืชก็คือการใช้เวทย์ธาตุไฟ เวเวอร์คิดอยู่พักนึงก่อนที่จะชี้คทาของเขาไปที่จตุรัสแล้วพูด “อสรพิษเพลิงทมิฬ!”

 

อสรพิษเพลิงทมิฬ

เวทย์เทพปีศาจ

ผล: ใช้พลังชีวิตเพื่ออัญเชิญอสรพิษยักษ์ออกมา อสรพิษตัวนี้สร้างขึ้นมาจากเพลิงทมิฬบริสุทธิ์ที่มีอำนาจกัดกร่อนขั้นรุนแรง

(หมายเหตุ: ยิ่งใช้พลังชีวิตมากเท่าไหร่, พลังทำลายของอสรพิษก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น!”

 

ตูม! ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น, เลือดสดๆในจตุรัสก็ดูเหมือนจะมีชีวิต มันมารวมตัวกันเป็นเสาเลือดที่มีความกว้างกว่าสามฟุต เสานี้ทะยานสูงขึ้นฟ้า, และในตอนที่มันไปถึงระยะ 60 ฟุต, เลือดก็สลายไปด้วยเสียงซู่วแล้วกลายเป็นเพลิงลุกไหม้, ที่มีรูปร่างเป็นอสรพิษเพลิงสีแดงเข้ม

 

“เผาพวกพืชให้กลายเป็นขี้เถ้าซะ!”

 

อสรพิษทมิฬหันร่างกายของมันในทันทีแล้วพุ่งเข้าใส่วิญญาณต้นไม้สีทองด้วยความเร็วสูง มันรวดเร็วมากๆและไม่สนใจการโจมตีของวิญญาณต้นไม้สีทองเลย พวกเถาวัลกลายเป็นขี้เถ้าในตอนที่สัมผัสกับร่างของมัน, ทำให้การโจมตีของพวกวิญญาณต้นไม้นั้นไร้ประโยชน์

 

อสรพิษยักษ์ตัวนี้มีพลังชีวิตอันน่าหวาดกลัว แค่ความแข็งแกร่งของไฟรอบๆตัวมันเพียงอย่างเดียวก็สูงกว่าเลเวล 8 แล้ว พวกวิญญาณต้นไม้สีทองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเลย

 

องค์หญิงไฮเอลฟ์มิลด้าดูเหมือนจะตัวซีดขึ้นทุกครั้งที่เถาวัลถูกอสรพิษตัวนี้ทำลาย แสงจากมรกตที่ห้อยอยู่เองก็ดูเหมือนจะหรี่ลงในตอนที่วิญญาณต้นไม้สีทองได้รับความเสียหาย

 

จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้!

 

ลิงค์เอารูปสลักของนักบุญราฟาเอลออกมาในทันที ยังมีพลังศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่ครึ่งนึง เขาอัญเชิญเลนส์มิติออกมาและรวบรวมพลังของรูปสลักเอาไว้ในจุดๆเดียว ด้วยความที่มีประสบการณ์มาก่อน, ลิงค์จึงจัดการได้เร็วมาก ประมาณหนึ่งวินาทีต่อมา, ลำแสงพลังงานศักดิ์สิทธิ์เข้มข้นที่มีความกว้างกว่าหนึ่งฟุตก็ถูกยิงออกมา

 

ลำแสงนี้พุ่งตรงไปหาเวเวอร์

 

“ฉันกำลังรอนายอยู่เลย!” เวเวอร์โบกคทาของเขาและใช้อสรพิษยักษ์มาป้องกันลำแสงนี้

 

ตูม! มันเป็นการปะทะกันอันน่าหวาดกลัวของพลังแห่งแสงสว่างและความมืด

 

และทันใดนั้นเอง, เพลิงทมิฬก็กระจายไปทั่วเมืองผีและลำแสงศักดิ์สิทธิ์ก็กระจายไปทุกทิศทาง การปะทะกันของเวทย์เลเวล 8 ทั้งสองนี้ได้สร้างคลื่นกระแทกขนาดยักษ์ขึ้นมา คนที่โชคดีรอดจากการระเบิดมาได้ต่างก็ถูกคลื่นกระแทกพัด ส่วนพวกที่อยู่ค่อนข้างไกลก็สูญเสียสมดุลของพวกเขาและล้มลง

 

ในช่วงเวลานี้, นักโทษทุกคนรู้ว่ามันคือโอกาสหนีของพวกเขา พวกเขาทุกคนวิ่งไปที่ทางเข้าเมืองผี, โดยหวังว่าจะหนีไปจากสถานที่อันน่าหวาดกลัวนี้ได้

 

มันคือความโกลาหล

 

เวเวอร์จ้องไปยังนักโทษที่กำลังจะหนีแล้วหัวเราะคิกคัก “คิดจะหนีหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก! ตายซะ!”

 

เขาโบกคทาในอากาศและอัญเชิญอสรพิษทมิฬตัวใหม่มายังสนามรบ จากนั้นอสรพิษยักษ์ตัวนี้ก็พุ่งไปหาเหล่านักโทษที่รอดมาได้, และกลืนกินพลังชีวิตของพวกเขาไปตลอดทาง

 

เวเวอร์มีวิธีเก็บเกี่ยวพลังชีวิตมากมาย ทุกชีวิตที่เคยย่างกายเข้ามาในเมืองผีและแม้กระทั่งพวกที่ยังรอดอยู่นั้นสามารถกลายเป็นเชื้อเพลิงให้เวทมนตร์ของเขาได้ทั้งหมด นี่คือหายนะ!

 

เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดที่ลิงค์รู้จักก็คือเวทย์ลูกแก้วมิติเวลา, ซึ่งมีความแข็งแกร่งแค่เลเวล 7 เท่านั้น และถึงแม้ว่าจะมีผลของคทาระดับอีพิคของเขา, แต่มันก็ยังห่างไกลจากความแข็งแกร่งเลเวล 8 อยู่ดี เขาต้องใช้เวทมนตร์ที่แข็งแกร่งกว่านี้และทรงพลังยิ่งกว่านี้ในการกำจัดแหล่งพลังชีวิตของเวเวอร์!

 

พอคิดได้แบบนี้, ลิงค์ก็ดื่มน้ำยาพรของราชินีมังกรแดงโดยไม่ลังเล

 

ในตอนที่ยาเข้าไปในท้องของเขา, ลิงค์ก็รู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของเขากำลังสั่นไหว เขารู้สึกราวกับว่าเขาได้ครอบครองอำนาจอันมหาศาลอย่างกระทันหัน, ธาตุทั้งหมดที่อยู่รอบๆจะฟังคำสั่งทุกอย่างของเขา พวกมันจะไม่มีพื้นที่ให้ต่อต้านเลย

 

นอกจากนี้เขายังรู้สึกตัวว่าเขาสามารถรวบรวมธาตุได้อย่างง่ายดายด้วยสมาธอันน่าเหลือเชื่อ ยานี้ไม่ได้ล้อเล่นจริงๆในตอนที่มันสัญญาว่ามันสามารถเพิ่มพลังของธาตุทั้งหมดได้ 500%

 

ตอนนี้ลิงค์มีเวลาสิบวินาทีในการทำลายเมืองผีให้ย่อยยับ

 

พายุธาตุอันน่าหวั่นเกรงล้อมรอบร่างกายของลิงค์ เขาจ้องไปที่อสรพิษเพลิงในสนามรบและเริ่มตอบโต้

 

ผลพิเศษของเพลิงพิโรธแห่งสวรรค์: คลื่นเพลิง!

 

เวทย์สะท้อน, หัตถ์ไททัน!

 

ความเร็วในการร่ายเวทย์นี้แทบจะทันที ภายใต้ผลของคทาระดับอีพิค, พลังของมันก็เพิ่มขึ้น 350% แล้ว แต่นี่ยังมีพรแห่งราชินีมังกรเพลิงเพิ่มมันอีก 500% หลังจากบัฟทั้งหมดนี้ เวทย์นี้ก็มีความแข็งแกร่งไปจนถึงเวทย์เลเวล 8!

 

และสิ่งที่น่าหวาดกลัวก็คือการที่ลิงค์ไม่ต้องเสียมานาในการเพิ่มพลังเหล่านี้เลย มันยังใช้มานาในอัตราของเวทย์เลเวล 6

 

“มันคือยาเทพจริงๆ!”

 

ลิงค์สั่งให้มือพุ่งไปคว้าคอของอสรพิษ จากนั้นหัตถ์ไททันก็บีบเป้าหมายแน่น!

 

ตูม! หัตถ์ไททันยังอยู่สภาพเดิมไร้รอยขีดข่วน ในอีกด้านนึง, อสรพิษยักษ์สลายไปแล้ว!

 

การเผชิญหน้าระหว่างเวทย์ทั้งสองนี้จบลงด้วยชัยชนะถล่มทลายของหัตถ์ไททัน

 

อย่างไรก็ตาม, นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด หัตถ์ไททันได้เลี้ยวกลางอากาศในทันทีแล้วเปลี่ยนเป็นหมัดพร้อมกับพุ่งตรงไปหาเวเวอร์

 

ไม่มีความตื่นตระหนกอยู่บนหน้าของเวเวอร์เลย อันที่จริง, เขาหัวเราะอย่างบ้าคลั่งในขณะที่พูดออกมา “น่าสนใจดีนี่! ไม่ธรรมดาเลย! แต่ว่ามันยังแรงไม่พอหรอก! ลองลิ้มรสพลังระดับพระเจ้าของฉันซะ!”

 

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset