Advent of the Archmage – ตอนที่ 289: หนังสือแห่งเพลิงทั้งสาม

เมืองผี

ภารกิจสำเร็จ: การต่อสู้ครั้งสุดท้าย

ผู้เล่นได้รับหนังสือเวทมนตร์ผู้สังหารปีศาจ

 

ข้อมูลนี้โผล่ขึ้นมาในทัศนวิสัยของลิงค์ ในสายตาของเขา, หนังสือเวทมนตร์นี้มีปกสีแดงเข้ม มันลอยผ่านสายตาของเขาแล้วแล่นลงไปยังจุดที่อยู่มุมขวาของอินเตอร์เฟสเกมส์

 

มีหนังสือเวทมนตร์เก็บเอาไว้ในพื้นที่นี้อยู่แล้วสองแล่ม หนึ่งในพวกมันคือแก่นแท้แห่งเพลิง, ส่วนอีกเล่มก็คือไฟและการชำระล้าง พวกมันเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับธาตุไฟทั้งหมด

 

ระบบเกมส์มอบรางวัลให้ดีจริงๆ ฉันต้องศึกษาพวกมันให้ดีหลังจากที่กลับไปยังที่รกร้างเฟิร์ด, ลิงค์คิด

 

ในขณะเดียวกัน, โจเซฟก็กำลังแบกเวเวอร์เอาไว้บนหลังแล้วโยนร่างอันน่าสยดสยองของเขาด้วยเสียงดังตุ้บ

 

เวเวอร์มีวิญญาณอมตะดังนั้นเขาจึงยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม, เขาก็ปิดปากเงียบตลอดเวลา ไม่มีสัญญาณชีวิตในดวงตาของเขาและเขาก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมาเลย มันดูเหมือนกับว่าไม่มีพลังชีวิตไหลอยู่ในร่างของเขา

 

“ข้าอยากฉีกมันให้เป็นชิ้นๆจะแย่อยู่แล้ว!” โจเซฟกัดฟันพูด มีศพหลายพันคนอยู่ในเมืองผี มันเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นของเนื้อสดๆและซากศพ ซึ่งโศกนาฎกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยฝีมือของคนๆเดียว และนั่นก็คือนักเวทย์ผู้ล่วงหล่นที่อยู่เบื้องหน้าของพวกเขาในตอนนี้!

 

จากนั้นเวเวอร์ก็เยาะเย้ย “อัศวินศักดิ์สิทธิ์, นายมันก็แค่ไอกากที่ติดสอยห้อยตามมาด้วย ถ้าไม่ได้ลิงค์, นายคิดจริงๆหรอว่าฉันจะแพ้?”

 

จากนั้นเขาก็จ้องลิงค์แล้วตะโกน “ถ้าไม่ใช่เพราะยาโง่ๆของนาย, นายจะเอาชนะฉันได้ยังไง? ไม่มีทางซะหรอก! นี่มันเป็นการต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย! พวกนายภาวนาให้ฉันหนีไปไม่ได้จะดีกว่านะ เพราะไม่อย่างนั้น, ฉันจะแสดงให้พวกนายได้เห็นความสิ้นหวังที่แท้จริงๆ!”

 

ผัวะ! โจเซฟเดินมาเตะอัดหน้าเวเวอร์ก่อนที่จะตะโกนออกมา “ไอเวรระยำเอ้ย! ดูผู้บริสุทธิ์ทุกคนที่ถูกแกฆ่าไปสิ แกคิดว่านี่คือเกมส์รึยังไง? นี่แกยังเอาแต่พูดเรื่องแพ้ชนะอยู่อีกหรอ? แกคิดจริงๆหรอว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำจะช่วยให้แกหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ได้? ไร้เดียงสาจริงๆ! ข้าขอบอกให้รู้เอาไว้เลยนะ ในตอนที่แกเลือกเดินทางนี้, แกก็ทำผิดมหันต์แล้ว!”

 

จากนั้นโรมิลสันก็จ้องไปที่เวเวอร์ด้วยความหวาดกลัวเล็กน้อยแล้วพูดออกมา “ไอหมอนี่มันบ้าจริงๆ พวกเราอาจจะต้องหาวิธีทำลายวิญญาณของมันนะ”

 

จากนั้นมิลด้าก็ส่ายหัวแล้วพูด “ใจเย็นโรมิลสัน อย่าให้ความกลัวครอบงำจิตใจของเจ้าสิ พวกเราไม่จำเป็นต้องวิจัยเวทมนตร์แห่งความมืดเพื่อทำลายวิญญาณของนักเวทย์ชั่วร้ายแค่คนเดียวหรอกนะ ชะตากรรมของมันได้ถูกกักขังตลอดไปแล้ว!” ในตอนนี้, ใบหน้าของมิลด้าซีดมากๆจนแทบจะหมดสติแล้ว ร่างกายของเธอก็อ่อนแอมากๆเช่นกัน ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือของโรมิลสัน, เธอคงไม่สามารถยืนได้ด้วยซ้ำ

 

เธอควบคุมวิญญาณต้นไม้สีทองสามตัวในระหว่างการต่อสู้และอยู่แนวหน้าของการต่อสู้ตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เพราะความช่วยเหลืออันมีค่าของเธอและเวทย์ป้องกันของโรมิลสัน, ลิงค์ก็คงจะไม่สามารถจดจ่ออยู่กับการต่อสู้กับเวเวอร์ได้

 

สรุปแล้วก็คือ, ความสำเร็จของภารกิจนี้นั้นส่วนใหญ่ก็เป็นเพราะไฮเอลฟ์สองคนนี้เช่นกัน

 

ครั้งนี้, ลิงค์เองก็จ่ายไปเยอะเพื่อความสำเร็จนี้ เขาดื่มยาพรของราชินีมังกรแดงเข้าไป และในตอนนี้, ผลของยาก็หมดไปแล้ว, และตามสัญญา, เขาถูกสาปด้วยสถานะปฏิเสธธาตุ

 

เขาพยายามสร้างเวทย์ลูกแก้ว อย่างไรก็ตาม, ดูเหมือนว่าธาตุไฟจะไม่ยอมตอบสนองการเรียกของเขา, ทำให้เวทย์นี้ล้มเหลว ดูเหมือนว่าธาตุจะปฏิเสธเขาราวกับว่าเขาเป็นเชื้อโรค

 

หนึ่งปีเต็มสำหรับสถานะอันแสนยากลำบาก, ที่ทำให้เวทย์ธาตุทั้งหมดไร้ผล นี่ค่อนข้างจะนานนะ ดูเหมือนว่าฉันต้องทำการค้นคว้าเวทมนตร์ประเภทอื่นเพื่อชดเชยพลังหลักที่เสียไปแล้วหล่ะ ลิงค์ถอนหายใจ

 

พลังของเขาจะลดลงไปประมาณ 90% ในบรรดาเวทมนตร์อันแข็งแกร่งที่อยู่ในคลังแสงของเขา, เขามีแค่เวทย์มิติสองบทเท่านั้นที่สามารถใช้ได้

 

“ที่นี่ไม่ปลอดภัย มีอันเดธอยู่ทั่วทุกที่ แถมซัคคิวบัสตัวนั้นก็อาจจะยังอยู่ใกล้ๆด้วย รีบกลับกันเถอะ” ลิงค์พูด

 

ทุกคนพยักหน้า นอกจากนานะและโรมิลสัน, ทุกคนต่างก็เหนื่อยล้าอย่างเต็มที่ ความคิดเดียวที่อยู่ในหัวของพวกเขาก็คือการกลับไปยังที่ปลอดภัยที่ไหนซักที่นึงแล้วอาบน้ำให้สบายตัวจากนั้นก็นอนหลับให้เต็มอิ่ม

 

“แล้วจะเอายังไงกับเมืองผีหล่ะ?” โรมิลสันถาม

 

“เผามัน”

 

สิบนาทีต่อมา, ทั่วทั้งเมืองผีก็ถูกปกคลุมด้วยทะเลเพลิง จากนั้นลิงค์และพรรคพวกก็มุ่งหน้ากลับไปที่เรือเหาะ

 

หลังจากที่พวกเขาเดินทางไปได้ประมาณสามไมล์, พวกเขาก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์หมุนเหนือหัวพวกเขา ดูเหมือนว่าเรือเหาะจะพบตัวพวกเขาแล้วและมาต้อนรับพวกเขากลับไปยังสวรรค์ที่ปลอดภัย

 

ในตอนที่กำลังขึ้นเรือ, ทุกคนยังเงียบอยู่ พวกเขาเพิ่งจะได้เห็นนรกบนดินของแท้มาและต้องการเวลาอยู่คนเดียวสักพักเพื่อฟื้นสภาพจิตใจของตัวเอง

 

พวกยับบ้าเองก็พยายามลดเสียงของพวกเขาให้ได้มากที่สุด พวกเขามองลิงค์กับคนที่เหลือด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพ

 

จากนั้นนักบวชทั้งสองก็เริ่มรักษาบาดแผลและฟื้นฟูเรี่ยวแรงที่เสียไปของพวกเขา

 

ซึ่งลิงค์เองก็ถือโอกาสนี้เอารูปสลักของนักบวชราฟาเอลออกมา “ขอบคุณนะครับ, มันช่วยได้มากเลย”

 

นักบวชส่ายหัวของพวกเขาแล้วพูดออกมา “ท่านได้ทำเพื่อโลกฟิรุแมนมามาก นี่มันก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆครับ”

 

ลิงค์แค่ยิ้มออกมาเขาไม่อยากพูดเรื่องนี้ต่ออีก “ผมขอตัวไปพักซักหน่อยนะ”

 

จากนั้นนักบวชก็ให้พื้นที่ส่วนตัวกับเขา

 

ไม่มีใครพูดอะไรเลยตลอดการเดินทางนี้ ประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา, เรือเหาะก็ได้กลับมาที่เทือกเขามอดไหม้ในที่รกร้างเฟิร์ด

 

ภารกิจลอบสังหารสำเร็จแล้ว ดังนั้น, จึงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องเก็บเรื่องเรือเหาะเอาไว้ให้เป็นความลับอีก เรือเหาะหยุดจอดที่ใจกลางเทือกเขามอดไหม้อย่างโจ่งแจ้งและดึงดูดสายตาของผู้คนมากมาย

 

ในบรรดาผู้คนที่มามึงดู มาสเตอร์เกรนซี่และมาสเตอร์เฟอร์ดินันด์ก็อยู่ในนั้นด้วย พวกเขาจ้องมองเรือเหาะด้วยสีหน้ากังวล ในตอนที่พวกเขาเห็นลิงค์และคนที่เหลือกลับมาได้โดยไร้รอยขีดขวด, ใบหน้าของพวกเขาก็เปี่ยมไปด้วยความสุข อย่างไรก็ตาม, ในตอนที่พวกเขาเห็นโจเซฟออกมาจากเรือเหาะพร้อมกับเวเวอร์ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา, สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจังในทันที

 

มันถึงเวลาจัดการกับเนโครแมนเซอร์คนนี้แล้ว

 

หลังจากทักทายเหล่าจอมเวทย์, พวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่หอคอยเวทมนตร์ แน่นอนว่าเผ่ายับบ้าเองก็ได้รับการบริการและการดูแลที่ดี ในฐานะลอร์ดของดินแดน, ลิงค์ได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนก่อนที่จะกลับไปพักที่ห้องของเขา

 

พอมาถึงห้อง, ลิงค์ก็ตระหนักได้ว่าเซลีนกำลังนอนรอเขาอยู่

 

“กลับมาแล้วหรอ” เซลีนถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วรีบเดินมาหา เธอมีสีหน้าโล่งอกและมีความสุขในขณะที่เธอพูด “นี่, ฉันเตรียมน้ำอุ่นๆให้นายอาบด้วยหล่ะ”

 

ลิงค์รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ห่างหายไปนานจากหัวใจของเขาและเข้าไปอาบน้ำด้วยการกวักมือเรียกของเซลีน

 

มันเป็นค่ำคืนอันแสนวิเศษ มันเริ่มด้วยเวลาอาบน้ำส่วนตัวของลิงค์ที่กลายเป็นกิจกรรมคู่รัก, และในที่สุดก็จบลงที่เตียงของลิงค์

 

ลิงค์ไม่สนใจอะไรทั้งนั้นในวันนี้ เขาใช้เวลาอันมีค่ากับเซลีนและพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้

 

เช้าวันต่อมา, ลิงค์รู้สึกสดชื่นมากในขณะที่เขาลืมตาตื่น, มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว

 

เขานอนอยู่บนเตียงในขณะที่ลูบไล้ร่างกายอันอ่อนนุ่มของเซลีน จากนั้นเขาก็มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นแสงอาทิตย์สีทองสาดส่องมายังทุ่งเขียวขจีของที่รกร้างเฟิร์ด หุ่นเชิดเวทมนตร์ขุดดินยังคงทำงานอย่างขยันขันแข็งในขณะที่พลเมืองต่างก็ทำงานเพาะปลูกหรือไม่ก็ทำงานก่อสร้าง และทางเดินอันกว้างขวางในเขตเมืองที่พลุกพล่านนั้นก็เต็มไปด้วยพ่อค้าจากทั่วทุกมุมโลก

 

ที่รกร้างเฟิร์ดกำลังคึกคัก

 

พอเห็นภาพนี้, เมฆแห่งความมืดก้อนสุดท้ายและความชอกช้ำที่อยู่ในหัวใจของลิงค์ก็ได้สลายไป

 

ด้วยความที่เซลีนยังไม่ตื่น, ลิงค์จึงค่อยๆเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ หลังจากอาบน้ำเสร็จ, เขาก็เพลิดเพลินกับอาหารเช้าแสนอร่อยแล้วตรงไปที่ห้องทำงานของเขา พลังธาตุของเขาถูกปิดผนึกไปชั่วคราว อย่างไรก็ตาม, สงครามทางตอนเหนือนั้นกำลังใกล้เข้ามาแล้ว; เขาต้องรีบหาวิธีฟื้นฟูพลังของเขา

 

เขาสั่งให้ระบบเกมส์อัญเชิญหนังสือเวทมนตร์ออกมา

 

ทันใดนั้นเอง, หนังสือเวทมนตร์ที่เขาได้รับมาจากภารกิจก็ปรากฎขึ้นในทัศนวิสัยของเขา หนังสือทุกเล่มนั้นเป็นสีแดงเข้ม ลิงค์ไม่ได้สนใจหนังสือพวกนี้มากนักในระหว่างที่เขากำลังทำภารกิจ อย่างไรก็ตาม, พอมาตรวจสอบดูดีๆในตอนนี้, เขาก็ตระหนักได้ว่าหนังสือแต่ละเล่มนั้นมีความเก่าแก่แล้วยังมีสัญลักษณ์รูนอันโดดเด่นเขียนอยู่ด้วย

 

โดยที่หนังสือเล่มแรกแก่นแท้แห่งเพลิงมีสัญลักษณ์รูปดวงตาที่มีไฟล้อมรอบอยู่ ส่วนเล่มที่สองไฟและการชำระล้างมีสัญลักษณ์รูปมือไฟ และเล่มที่สามผู้สังหารปีศาจมีสัญลักษณ์เป็นรูปดาบที่มีมังกรเพลิงพันอยู่

 

ตอนแรกลิงค์ตั้งใจจะอ่านหนังสือพวกนี้โดยตรงจากหน้าอินเตอร์เฟส อย่างไรก็ตาม, หลังจากที่คิดอยู่พักนึง, ห้องสมุดในหอคอยเวทมนตร์ของฉันยังไม่ค่อยมีอะไรเลย หนังสือที่ฉันมีในตอนนี้ต่างก็เป็นหนังสือทั่วๆไปที่สามารถหาซื้อได้จากท้องตลอด ฉันจำเป็นต้องมีหนังสือที่เป็นคอลเล็คชันส่วนตัวของฉันด้วย ใช่แล้ว, ฉันจะคัดลอกหนังสือพวกนี้

 

จากนั้นเขาก็เอากระดาษกับปากกาออกมาแล้วเริ่มเขียนโดยใช้เวทคัดลอกเพื่อคัดลอกข้อมูลลงบนกระดาษ ในตอนที่เขาเริ่มเล่มแรกนั้น, เขาคัดลอกไปและอ่านหนังสือไปด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดว่า, มันเป็นงานง่ายๆสำหรับเขา

 

เขานั่งเหยียดขาบนโต๊ะอย่างสบายๆ กระดาษลอยอยู่เบื้องหน้าเขาในขณะที่ปากกากำลังเขียนด้วยความเร็วสูง, และปล่อยเสียง แกรก, แกรก ออกมา

 

อย่างไรก็ตาม, สภาพผ่อนคลายนี้ก็อยู่ได้แค่ประมาณห้านาทีเท่านั้น ห้านาที่ต่อมา, ลิงค์ก็หมกมุ่นอยู่กับหนังสือเล่มนี้อย่างสมบูรณ์ เขาเริ่มด้วยหนังสือเล่มแรก, แก่นแท้แห่งเพลิง ซึ่งมุมมองและเนื้อหาของหนังสือเล่มนี้นั้นมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเปิดโลกทัศน์มากๆ ตามชื่อที่มันเขียนเอาไว้, มันได้อธิบายถึงแก่นแท้ของเวทมนตร์ธาตุไฟอย่างแท้จริง!

 

“หืม, หนังสือเล่มนี้ไม่ได้บอกอะไรเกี่ยวกับธาตุไฟเลยนะ ทั้งหมดมันคือสูตรกับทฤษฎี…อือหือ!  นี่มันคือหลักการควบคุมเวทมนตร์ธาตุไฟนี่หน่า!”

 

ในตอนที่สูตรเวทมนตร์แรกอันซับซ้อนปรากฎขึ้น, ลิงค์ก็ตกตะลึง

 

ในตอนที่คนๆนึงใช้เวลามากพอในเวทมนตร์สาขาใดสาขาหนึ่ง, พวกเขาจะเข้าใจหลักการควบคุมเวทมนตร์นั้นในที่สุด ลิงค์ได้ทำการวิจัยเวทมนตร์มิติ, และหลังจากที่ผ่านไปหนึ่งปีครึ่ง, เขาก็เริ่มเข้าใจหลักการควบคุมพวกมันอย่างคร่าวๆ

 

หนังสือเวทมนตร์เล่มนี้, แก่นแท้แห่งเพลิง, เองก็เริ่มสรุปจากปรากฎการณ์ลุกไหม้ที่พื้นฐานมากๆ  มันเริ่มด้วยพื้นฐานง่ายๆก่อนที่จะพัฒนาไปอย่างมีเหตุผล, แล้วมันก็ถลำลึกเข้าไปในแก่นแท้ของเวทมนตร์ธาตุไฟมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ในจุดประสงค์ที่หนึ่ง-ห้า, มันก็ไปถึงระดับที่แทบจะทำความเข้าใจไม่ได้แล้ว ลิงค์ตระหนักได้ว่าเขาต้องใช้มันสมองทั้งหมดในการทำความเข้าใจเนื้อหา

 

“หนังสือเล่มนี้อาจจะสามารถช่วยฉันฝ่าฟันสภาพปฏิเสธธาตุนี้ไปได้ก็ได้นะ, ฉันต้องอ่านมันให้ละเอียดแล้วหล่ะ!” หลังจากนั้นลิงค์ก็นั่งตัวตรง เขาพิจารณาแล้วว่าหนังสือเล่มนี้คู่ควรกับความสนใจทั้งหมดของเขา

 

เขาเริ่มอ่านหนังสือเล่มนี้อย่างจริงจัง หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง, ลิงค์ก็ลืมเวลาไปอย่างสมบูรณ์และเขาก็เริ่มหมกมุ่นอยู่กับความรู้อันน่าอัศจรรย์ที่หนังสือเล่มนี้มอบให้อย่างคลั่งไคล้

 

สภาพนี้เป็นไปอีกสองสามวัน

 

อย่างไรก็ตาม, เขาก็ต้องใส่ใจความรู้สึกของเซลีนด้วย เขาไม่ได้โหมอ่านอย่างบ้าคลั่งเหมือนเมื่อก่อนและสัญญากับตัวเองว่าจะพักผ่อนอย่างน้อยแปดชั่วโมงต่อวัน, รวมทั้งใช้เวลาส่วนตัวกับเซลีนด้วย

 

วันเวลาที่สดใสและมีความสุขนี้ดำเนินไปตลอดห้าวันเต็ม

 

ในเย็นวันหนึ่ง, ลิงค์เพิ่งจะเริ่มอ่านหนังสือเวทมนตร์ในตอนที่เขาได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลังของเขา จากนั้นแสงสลัวๆในห้องทำงานก็สว่างขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นเซลีน, ที่เข้ามาเพิ่มความสว่างให้กับห้องของเขา

 

จากนั้นเซลีนก็พูด “ฉันรู้ว่านายจะหมกมุ่นอยู่กับการวิจัยของนายอีกครั้ง แต่ว่ามีคนมาหายนายหล่ะ”

 

“ใครหรอ?” ลิงค์รู้สึกสับสนเล็กน้อยและมีความกลัวแฝงอยู่ด้วย เขากลัวว่าจะเป็นข่าวร้ายจากทางเหนือ

 

“คนที่สวยจนน่าตกใจคนนึง” เซลีนแกล้ง

 

“คนสวยหรอ?” ลิงค์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาจะสบายใจตราบใดที่มันไม่ใช่ข่าวจากทางเหนือ อย่างไรก็ตาม, เขาเห็นคนสวยมาหลายคนแล้วในฟิรุแมน ไม่ว่าจะเป็นเซลีน, เอร์เรร่า, มิลด้า, เอเลนอร์, แอนนี่, และลูซี่ ซึ่งพวกเธอนั้นต่างก็ถูกพิจารณาว่าสวยทั้งหมด อย่างไรก็ตาม, นอกจากเซลีนแล้ว, พวกเธอทุกคนก็เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น มันเป็นเวลาหนึ่งทุ่มแล้ว; ทำไมพวกเธอถึงมาหาเขาในเวลานี้หล่ะ?

 

จากนั้นเซลีนก็ถอนหายใจ “ดูเหมือนว่านายจะลืมเธอไปแล้วสินะ ถ้าเธอมาเห็นนายในสภาพนี้, เธอต้องเสียใจแน่ๆ”

 

ลิงค์เกาหัวก่อนที่จะจ้องไปที่หนังสือเวทมนตร์ที่อยู่เบื้องหน้าเขา เขาได้อ่านหนังสือเล่มนี้, แก่นแท้แห่งเพลิง, มาเป็นเวลานานแล้ว อย่างไรก็ตาม, มันน่าเบื่อมากๆ, แล้วเขาก็อ่านเนื้อหาไปได้แค่สามส่วนเท่านั้น ซึ่งมันคงจะไม่พอที่จะอ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบภายในเวลาหนึ่งเดือน นอกจากนี้, มันยังเป็นแค่เล่มแรก; เขายังมีอีกสองเล่มที่ต้องอ่าน

 

แต่ไม่ว่ายังไง, เขาก็จะทุ่มเทแรงกายทั้งหมดกับการวิจัยนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆนั้นเขาไม่สนใจ

 

เซลีนรู้ว่าลิงค์เป็นคนยังไงแล้วเชิญคนๆนั้นเข้ามาโดยไม่ขอคำอนุญาติจากเขา “เฟลิน่า, เข้ามาสิ”

 

พอได้ยินชื่อนี้, ลิงค์ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

 

เฟลิน่า, นักรบมังกรแดง พวกเขาเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันในป่าทมิฬ เขาจำได้ว่าเธอสัญญากับเขาว่าจะพาไปหมู่บ้านมังกรในเวลาหนึ่งเดือน แต่เมื่อคิดกลับไป, ตอนนี้มันก็เกินหนึ่งเดือนแล้ว

 

เฟลิน่าเข้ามาในห้อง เธอมาในรูปร่างของผู้หญิงเผ่ามนุษย์ แน่นอนว่า, เธอยังสูง 6.2 ฟุต มีร่องรอยของความเซื่องซึมอยู่บนหน้าของเธอด้วย

 

พอเห็นลิงค์, เธอก็พูดออกมา “ข้าขอโทษที่มาช้า พอดีมีปัญหาบางอย่างในหมู่บ้านมังกรหน่ะ มาสเตอร์ลิงค์, ถ้าท่านว่าง, ข้าอยากให้ท่านไปที่หมู่บ้านมังกรกับข้าเดี๋ยวนี้เลย”

 

ลิงค์ขมวดคิ้วในขณะที่พูด “เกิดอะไรขึ้น?”

 

“ข้าก็ไม่รู้ ข้ารู้แค่ว่าสมดุลในโลกฟิรุแมนถูกทำลายแล้ว ราชินีเชื่อว่าท่านมีความสามารถและคุณสมบัติพอที่จะแจ้งเรื่องนี้ได้ เธอเป็นคนที่ส่งข้ามารับท่าน”

 

นี่ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงจังมากเลยนะ ลิงค์คิดอยู่พักนึงก่อนที่จะเก็บหนังสือสามเล่มที่เขาคัดลอกออกมาแล้วพูดขึ้น “ก็ได้, ฉันขอไปเตรียมตัวก่อน, แล้วพวกเราจะออกเดินทางกัน!”

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset