Advent of the Archmage – ตอนที่ 292: ภารกิจสุสานไฮเอลฟ์

เทือกเขาโคโรลาโด้

 

มอริแกนค้นพบค่ายชั่วคราวของมนุษย์สัตว์อย่างรวดเร็ว

 

“ดูสิ, พวกมันเคยอยู่ที่นี่เมื่อไม่นานนี้…ถ่านในกองไฟยังอุ่นอยู่เลย พวกมันน่าจะออกไปไม่ถึงครึ่งวันนะ” มอริแกนหยิบขี้เถ้าขึ้นมาแล้วจากนั้นก็หยิบกระดูกหักๆที่มีเนื้อติดอยู่

 

“ดูสิ, นี่คือต้นขาของแพะ มีเลือดติดอยู่ด้วย; มันไม่ได้ปรุงเลย พวกมนุษย์สัตว์ขยี้กระดูกนี้ด้วยฟันของพวกมัน…ข้าพนันได้เลยว่าไอพวกป่าเถื่อนนี่สามารถกัดแขนข้าขาดได้เลย!”

 

เฟลิน่าไม่สามารถทนความเวอร์ของเขาได้อีก “นักรบคนไหนก็ทำได้ทั้งนั้นแหล่ะ” เธอพูดด้วยความรำคาญ “ข้าอยากรู้ว่าตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหน”

 

“ไม่ต้องห่วง, ไม่ต้องห่วง” มอริแกนยังคงเดินรอบๆค่าย ในขณะที่เขาเดิน, เขาก็พูดขึ้น “การไล่ตามเป็นงานที่ละเอียดอ่อน พวกเราไม่ใช่แค่ต้องรู้ว่าพวกมันไปที่ไหนเท่านั้น, แต่พวกเรายังต้องรู้ด้วยว่าพวกมันมีกี่คนและแข็งแกร่งแค่ไหน”

 

ในขณะที่เขาพูด, เขาจะตรวจสอบที่พื้นเป็นบางครั้งเพื่อสังเกตุรอยเท้า ส่วนครั้งอื่นๆ, เขาจะเอาแว่นขยายส่องรอยกรงเล็บบนต้นไม้, หรือไม่ก็หยิบเส้นผมขึ้นมา เขาดูละเอียดมากๆ

 

เฟลิน่าไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากอดทนรอ ลิงค์เองก็มีเวลาว่างเหมือนกัน

 

สิบนาทีต่อมา, มอริแกนก็ตรวจสอบเสร็จ เขาลุกขึ้นแล้วพูดอย่างมั่นใจมากๆ, “มีมนุษย์สัตว์ 18 คนและนักรบมังกรหนึ่งคนอยู่ที่นี่”

 

เฟลิน่าตกใจ “นักรบมังกรหรอ? เจ้ามีหลักฐานสำหรับข้อสรุปนี้ไหม?”

 

ถ้ามีมังกรหนึ่งตัวอยู่กับมนุษย์สัตว์พวกนี้, ก็คงจะอธิบายได้แค่อย่างเดียว—นักรบมังกรคนนั้นเป็นผู้ติดตามของอิเซนดิลัน

 

“แน่นอนว่าต้องมีสิ ดูรอยเท้านี่นะ มันคล้ายกับของท่านเลยใช่ไหมหล่ะ? แต่ว่ามันใหญ่กว่า และดูกระดูกพวกนี้สิ พวกมันเป็นกระดูกกระต่ายและไม่มีรอยแทะอยู่เลย ในตอนที่คนๆนั้นกำลังกินอาหาร, เขายังเอาเบาไม้สะอาดมาห่อมันเพื่อป้องกันไขมันสัตว์ด้วย ซึ่งนี่หมายความว่านักรบมังกรคนนี้มีสถานะสูงเพราะเขากินหรูที่สุด

 

“แล้วก็ดูนี่นะ ฉี่นี้ก็พิเศษเหมือนกัน ข้าได้ลองชิมมันก่อนหน้านี้, มันรู้สึกเผ็ดเล็กน้อย และพอข้ากลืนมันลงไป, ท้องของข้าก็รู้สึกอุ่น ซึ่งนี่มันคล้ายกับฉี่มังกรที่ข้าเคยชิมมาก่อนเลย และดูนะ, รอยเท้าที่อยู่ข้างๆฉี่นี่บ่งบอกว่าเขากำลังยืนอยู่ดังนั้นนักรบมังกรต้องเป็นผู้ชายแน่ๆ เขาสูงประมาณ 6.8 นิ้วและหนักประมาณ 260 ปอนด์

 

มอริแกนอธิบายหลักฐานทั้งหมด มันน่าตกใจ, โดยเฉพาะอันสุดท้าย

 

“เข้าใจแล้ว” เฟลิน่าพูดอย่างเขินอาย “ข้าเชื่อเจ้า, แต่ว่าทำไมเจ้าถึงกินฉี่มั่วซั่วแบบนี้หล่ะ?”

 

โดยที่ไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิด มอริแกนก็ตอบคำถามอย่างจริงจัง “ท่านไม่เข้าใจหรอก ฉี่ของมังกรจริงๆแล้วมันเป็นยาชูกำลัง, มันเอาไว้ใช้เพื่อ…เอ่อ, ช่างมันเถอะ เอาเป็นว่า, ข้าเป็นมืออาชีพละกัน, ดังนั้นข้าอธิบายไม่ผิดหรอก”

 

เพื่อกู้สถานการณ์อันน่าอึดอัดนี้, ลิงค์จึงพูดออกมา “โอเคแล้วพวกมันไปทางไหนหล่ะ?”

 

“ตามข้ามา พวกมันไปทางนั้น, แถมยังเป็นทางเดียวกับสุสานไฮเอลฟ์ด้วย พูดตามตรง, ข้าสงสัยนะว่าพวกมันกำลังจะไปปล้นสุสาน”

 

พอได้ยินแบบนี้, เฟลิน่าก็อารมณ์เสีย “หุบปากซะ!” เธอตะโกน “นั่นมันเป็นไปไม่ได้หรอก! มังกรไม่ปล้นสุสาน!”

 

“ก็ได้, แต่พวกมันกำลังไปทางนั้นนะ” มอริแกนชำเลืองมองลิงค์

 

อย่างไรก็ตาม, ลิงค์รู้สึกดีใจ จริงๆแล้วเขาค่อนข้างสนใจสุสานไฮเอลฟ์ มันไม่ได้มีแค่ทรัพย์สมบัติมหาศาลเท่านั้น, แต่มันยังมีหนังสือเวทมนตร์อยู่ข้างในด้วย

 

ตอนที่อยู่ในเกมส์, สุสานไฮเอลฟ์นั้นเป็นหนึ่งในชุดเควสย่อย ชื่อเต็มของมันก็คือ “สุสานไฮเอลฟ์; ลีเบรสลิแนน” หลังจากฆ่าบอสตัวสุดท้ายในภารกิจนี้, วิญญาณอมตะของลีเบรสลิแนนจะดรอปหนังสือเสริมพลังที่มีชื่อว่าศาสตร์เครื่องราง

 

การสร้างศาตร์เครื่องรางนั้นได้หายไปในฟิรุแมน แม้กระทั่งไฮเอลฟ์เองก็รู้จักมันเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น มันไม่ได้น่าประทับใจในหมู่การเสริมพลังระดับสูง, แต่มันก็ไม่สามารถทดแทนได้ในสาขาการเสริมพลังทั่วๆไป

 

ซึ่งผลที่แข็งแกร่งที่สุดของมันก็คือเวทย์สลัก

 

ตราบใดที่นักเวทย์สร้างเครื่องรางเสริมพลังขึ้นมาชิ้นนึงและได้เตรียมวัตถุดิบที่จำเป็นเอาไว้, ผลของเวทย์สลักก็จะสามารถนำมาใช้สร้างเครื่องรางแบบเดียวกันได้ในระยะเวลาอันสั้น

 

ด้วยเทคนิคนี้, ลิงค์จะสามารถลดต้นทุนอุปกรณ์เสริมพลังพื้นฐานลงไปได้ 90% หรืออาจจะมากกว่านั้น อย่างน้อยที่สุด, เขาก็สามารถสร้างอุปกรณ์เวทมนตร์ให้การ์ดทุกคนในดินแดนของเขาได้…ดังนั้นไม่ว่ายังไง, เขาก็อยากจะไปเยี่ยมลีเบรสลินันจริงๆ

 

อย่างไรก็ตาม, มังกรนั้นเกลียดพวกปล้นสุสาน ถ้าลิงค์คัดค้านพวกเขา, เฟลิน่าก็อาจจะเห็นเขาเป็นศัตรู แต่ตอนนี้, สถานการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้ว

 

“พวกเราจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเราตามไป” เขาพูดกับเฟลิน่า “ไปกันเถอะ”

 

เฟลิน่าจ้องมอริแกนแล้วพยักหน้าเป็นการตกลง เธอเองก็อยากรู้ว่านักรบมังกรคนนั้นกำลังวางแผนทำอะไร

 

หลังจากนั้น, มอริแกนก็เดินตามร่องรอยที่อยู่บนพื้น ประมาณสองชั่วโมงต่อมา, เขาก็หยุดเดินอย่างกระทันหันแล้วซ่อนตัวอยู่ข้างหลังพุ่มไม้

 

“ระวังด้วย, ร่องรอยตรงนี้ใหม่มากๆ พวกมันอาจจะอยู่ใกล้ๆนี้” มอริแกนชี้ไปที่พื้นหญ้าที่ถูกเหยียบ ของเหลวที่ติดอยู่บนพื้นยังเปียกอยู่ ลิงค์กับคนที่เหลือเองก็ก้มตัวลงแล้วซ่อนตัว มอริแกนลดเสียงของเขาแล้วพูดต่อ “ดูตรงนั้นสิ เห็นรูปปั้นที่มีตะไคร่เยอะๆไหม?”

 

ลิงค์มองไปตามทางแล้วเห็นรูปปั้นหินตั้งอยู่ มันคือม้ามีเขา—ยูนิคอร์น นี่เป็นสัตว์ขี่เฉพาะของไฮเอลฟ์, และเอลฟ์ก็ชอบใช้ยูนิคอร์นเป็นสัตว์ขี่ประดับบารมี

 

“ตอนนี้พวกเราอยู่ใกล้กับลีเบรสลินันแล้วหล่ะ จากรอยเท้า, สามารถเห็นได้เลยว่าพวกมันไม่ได้หยุดแล้วเดินตรงเข้าไปข้างใน…ขอพูดด้วยความเคารพเลยนะท่านเฟลิน่า, ข้าคิดว่านี่เป็นหลักฐานที่เพียงพอแล้วที่จะบอกว่าพวกมันมาที่นี่เพื่อสุสานไฮเอลฟ์”

 

เฟลิน่าไม่สามารถโต้เถียงกับหลักฐานนี้ได้ เธอกัดฟันพูด “ถ้างั้นพวกเราจะรอพวกมันที่นี่ และพอพวกมันออกมา, พวกเราก็จะจัดการพวกมัน! ข้าต้องลงโทษไอเลวที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับเผ่ามังกรด้วยมือของข้าเอง!”

 

มอริแกนส่ายหัว “ข้าได้ศึกษาโครงสร้างภายในของสุสานไฮเอลฟ์มาแล้ว” เขาพูดอย่างเงียบๆ “สุสานของพวกเขานั้นมักจะมีสองทางออก ทางออกนึงสามารถมองเห็นได้, และอีกทางจะถูกซ่อนอยู่ ในตอนที่พวกเขารู้ตัวว่าส่วนกลางถูกบุกรุก, ทางออกที่มองเห็นได้จะถูกปิดผนึก…ดังนั้นถ้าอยากจะจับตัวพวกมัน, พวกเราก็ต้องตามพวกมันเข้าไปข้างในก่อนที่ทางออกที่มองเห็นได้จะถูกปิดผนึก”

 

พอได้ยินแบบนี้, ลิงค์ก็แทบจะส่งเสียงดีใจออกมา มอริแกนเข้าใจเขาจริงๆ

 

พอเห็นว่าเฟลิน่าไม่ตอบกลับ, ลิงค์ก็พูดขึ้น “บางทีพวกมันอาจจะมีเหตุจูงใจบางอย่างที่ไม่สามารถบอกได้ ฉันคิดว่าพวกเราต้องสืบสวนให้เต็มที่ไม่อย่างนั้นมันอาจจะเป็นภัยคุกคามใหญ่ในอนาคตก็ได้นะ”

 

ไม่มีเหตุจูงใจไหนที่ไม่สามารถบอกได้ ลิงค์เดาว่าพวกเขาก็แค่อยากจะได้หนังสือและอุปกรณ์ในสุสานไฮเอลฟ์

 

อิเซนดิลันนั้นแตกต่างจากเวเวอร์ เพราะเวเวอร์นั้นเป็นคนบ้าและต้องการทำลายทุกอย่าง และแผนการของเขาก็โหดร้ายมากๆเช่นกัน แต่ในอีกด้านหนึ่ง, เป้าหมายของอิเซนดิลันคือการกลายเป็นราชาปกครองโลก, ทุกคนจะต้องอยู่ภายใต้กฎแห่งความมืดของเขา ซึ่งนี่รวมทั้งราชินีมังกรแดงเกรเทลที่มักจะอยู่เหนือกว่าเขาเสมอด้วย

 

เพื่อเป้าหมายนี้, อิเซนดิลันจะต้องสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งขึ้นมา และเพื่อการนั้น, เขาจำเป็นต้องใช้ทรัพย์สมบัติจำนวนมหาศาล แล้วก็บังเอิญที่, สุสานไฮเอลฟ์นั้นมีสิ่งนี้อยู่พอดี

 

ลิงค์รู้เรื่องนี้, แต่เฟลิน่าไม่รู้ พอได้ฟังคำพูดของลิงค์, เธอก็รู้สึกกังวล เธอมองสุสานที่อยู่ข้างหน้าและลังเลเป็นเวลาพักใหญ่ๆ แล้วในที่สุดเธอก็ขบฟันแล้วพูดออกมา “ก็ได้, พวกเราจะเข้าไปข้างในด้วย, แต่ข้าไม่ได้ทำแบบนี้เพื่อทำให้เหล่าวิญญาณขุ่นเคืองนะ ข้าแค่ต้องการหยุดยั้งแผนการชั่วร้ายของอิเซนดิลัน!”

 

ลิงค์พยักหน้า “เฟลิน้า, ฉันจะพยายามช่วยเธออย่างเต็มที่นะ”

 

“ขอบคุณมากนะ” เฟลิน่ารู้สึกว่าลิงค์เป็นเพื่อนแท้ของเหล่ามังกร ในตอนที่พวกเขากลับไป, เธอจะบอกเรื่องนี้กับราชินี จากนั้นเธอก็หันไปหามอริแกน “พาพวกเราไปที่นั่นซะ”

 

มอริแกนไม่สามารถซ่อนความสุขในดวงตาของเขาได้ เขามาที่นี่เพื่อสุสานแห่งนี้ แล้วเขาจะปฏิเสธผู้แข็งแกร่งสองคนที่สามารถช่วยเขาได้ไปทำไมหล่ะ?

 

เขามองไปที่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่กำลังกินถั่วบนไหล่ของเขา “ไปช่วยข้าสำรวจเส้นทางหน่อยซิ”

 

กระรอกส่งเสียงร้องแล้วกระโดดลงจากไหล่ของเขา มันเริ่มวิ่งตรงไปทางสุสานไฮเอลฟ์ ลิงค์กับคนที่เหลือตามไป ในตอนที่พวกเขามาถึงทางเข้า, พวกเขาก็เห็นว่าประตูหินได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ที่พื้นเต็มไปด้วยเศษหิน

 

สัตว์เลี้ยงตัวจิ๋วของมอริแกนแอบเข้าไปข้างในอย่างรวดเร็วในขณะที่มอริแกนเดินวนรอบๆทางเข้า “ประตูพังทันทีเลย” เขาสรุป “ท่านคิดว่านักรบมังกรคนนี้แข็งแกร่งขนาดไหนกัน?”

 

เฟลิน่ามองประตูหินหนาที่พังแล้ว, จากนั้นก็ตรวจสอบรอยที่อยู่บนประตู เธอตกใจ “ถ้าข้าคิดไม่ผิด, นักรบคนนี้น่าจะเป็นโทเดลรอน เขาแก่กว่าข้า 50 ปี, และพลังของเขาก็ไปถึงจุดสูงสุดของเลเวล 7 แล้ว เขามีศิลปะการต่อสู้ที่แทบจะเอาชนะไม่ได้ เขาเป็นหนึ่งในนักรบมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดสามคนของอิเซนดิลัน”

 

“เข้าใจแล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก; พวกเรามีนานะ!” ลิงค์พูด

 

เฟลิน่ามองหุ่นเชิดเวทมนตร์แล้วรู้สึกมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย “หวังว่างั้นนะ”

 

ทั้งกลุ่มมุ่งหน้าเข้าไป

 

ไฮเอลฟ์ที่มีชื่อว่าเดอร์แรค ลีเบรสลินันคนนี้เป็นชนชั้นสูงที่มีสุสานหรูมากๆ เหมือนกับพระราชวังใต้ดิน, เส้นทางข้างในนั้นกว้างใหญ่ มีตะเกียงเวทมนตร์ติดอยู่ตามทางด้วย แม้ว่าจะผ่านมาหลายพันปีแล้ว, พวกมันก็ยังส่องแสงสลัวๆและให้ความสว่างกับสุสาน

 

หลังจากเดินไปได้ประมาณ 150 ฟุต, จู่ๆสัตว์เลี้ยงของมอริแกนก็กลับมา มันกระโดดขึ้นมาบนไหล่ของเขาแล้วส่งเสียงจี๊ดจี๊ด มอริแกนฟังอยู่พักนึงแล้วหันมา “ไอฟันทองบอกข้าว่ามีการต่อสู้อยู่ข้างหน้า มีศพอยู่มากมายแต่ไม่มีสิ่งมีชีวิตเลย”

 

พอได้ยินแบบนี้, เฟลิน่ากับลิงค์ก็แลกเปลี่ยนสายตากัน เฟลิน่าเปล่งแสงอ่อนๆออกมา, แล้วเกราะมังกรแดงของเธอก็ปรากฎขึ้น อาวุธกรงเล็บมังกรเองก็ปรากฎขึ้นที่มือของเธอเช่นกัน ลิงค์ร่ายเอเดลไวซ์ใส่ตัวเองในขณะที่บอกนานะ “ระวังรอบข้างให้ดีนะ”

 

มอริแกนเป็นนักเวทย์เลเวล 4, ดังนั้นเขาเองก็ร่ายเวทย์ป้องกันใส่ตัวเอง

 

“เดินหน้ากันต่อเถอะ”

 

พวกเขาเดินไปได้อีก 60 ฟุต และพอเลี้ยวตรงหัวมุม, พวกเขาก็เจอห้องขนาดใหญ่

 

ห้องนี้มีของตกแต่งที่หรูหรามากมาย, อย่างเช่นตะเกียงเวทมนตร์คริสตัลที่จัดเรียงอย่างสวยงาม, รูปปั้นอันละเอียดอ่อน, โต๊ะรับประทารอารหาร, และอื่นๆอีกมากมาย แต่ในตอนนี้, พวกมันก็พังเละเทะไปหมดแล้ว แถมยังมีศพมนุษย์สัตว์ 17 คนนอนอยู่บนพื้นและมัมมี่ในชุดเกราะหรูหราอีก 17 ตัว เลือดของมนุษย์สัตว์นั้นได้ละเลงห้องนี้เป็นสีแดงฉาน

 

“มันคือผู้คุ้มกันสุสานของเดอร์แรค…ลิงค์, มาดูนี่สิ เลือดตรงนี้แตกต่างจากตรงอื่น มันยังใหม่อยู่เลย มันน่าจะเป็นเลือดของมังกรนะ นักรบมังกรคนนั้นบาดเจ็บนี่!”

 

เฟลิน่าก็เห็นเหมือนกัน, แล้วเธอก็มั่นใจ “นี่คือเลือดมังกร การ์ดพวกนี้แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยหรอ?”

 

ทันทีที่เธอพูด, ก็มีเสียงดังแกร๊ก ในจังหวะต่อมา, ประตูเวทมนตร์หน้าก็ปรากฎขึ้นที่หน้าทางออกของห้อง

 

เหมือนกับที่มอริแกนคาดเอาไว้, ทางออกถูกปิดผนึก!

 

และนี่ยังไม่ใช่ทั้งหมด

 

มีเสียงคำรามดุร้ายดังมาจากส่วนลึกข้างในสุสาน, ทำให้สีหน้าของเฟลิน่าเปลี่ยนไปอย่างมาก “มันคือโทเดลรอนที่แปลงร่างเป็นมังกร มันต้องเจอกับศัตรูที่น่ากลัวแน่ๆ!”

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset