Advent of the Archmage – ตอนที่ 296: ไม่ว่าอะไรก็หยุดไม่ได้

Chapter 296: ไม่ว่าอะไรก็หยุดไม่ได้

 

สุสานไฮเอลฟ์

 

ในเมื่อเฟลิน่าไม่ได้คัดค้านอะไรแล้ว ทุกอย่างก็ดูง่ายขึ้น กลุ่มของเขาตรงไปยังห้องที่เดอร์แรคอยู่ ระหว่างทางมอริแกนต้องการจะหยิบดาบและโล่ของไฮเอลฟ์ที่กองอยู่ทั่วพื้น แต่ว่ามีใครบางคนเร็วกว่าเขา ด้วยเสียงดังพรึ่บ อุปกรณ์ทั้งหมดก็หายไป

 

มอริแกนเงยหน้าขึ้นมองและเห็นเฟลิน่า

 

เธอก้มมองมอริแกนอย่างเย้ยหยัน “ข้าจะปล่อยให้ของพวกนี้ตกอยู่ในกำมือของโจรปล้นสุสานไม่ได้!”

 

“ท่านเกลียดโจรปล้นสุสานไม่ใช่หรอ? แล้วท่านเอามันไปทำไมหล่ะ?” มอริแกนถามอย่างสลด เขานั้นมาเพื่อฉกของไปบางส่วน แต่ไม่ได้วางแผนที่จะมาฉกทุกอย่างไป เขาขอแค่ชิ้นสองชิ้นก็พอใจแล้ว

 

เมื่อเห็นเขา เฟลิน่าก็พูดเย้ยอย่างเย็นชา “อย่าคิดเอาไปแม้แต่ชิ้นเดียวนะ! สำหรับข้า ข้าจะเอามันไปให้มาสเตอร์ลิงค์ พวกมันทั้งหมดได้รับการเสริมพลังแบบโบราณ ข้าจะเอามันไปให้เขาวิจัย”

 

ในที่สุดมอริแกนก็เข้าใจทุกอย่าง มังกรคนนี้ก็แค่ลำเอียง! แต่ว่าเขาไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ เขาไม่ได้มีความสามารถแบบลิงค์ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ทำใจ

 

ในตอนที่พวกเขามาถึงห้องใต้ดิน เฟลิน่าก็ยังคงจับตามองมอริแกนอยู่ เธอไม่ปล่อยให้เขาเอาอะไรไปเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ลิงค์แสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นอะไร ถ้าเฟลิน่าอยากจะเป็นคนที่ใจร้าย เขาก็ไม่มีปัญหา

 

แต่ก็แน่นอนว่า มอริแกนนั้นเป็นคนนำทาง ดังนั้นเขาก็ควรจะได้รับส่วนแบ่ง และถึงยังไง มอริแกนก็จะขายของพวกนี้อยู่ดีดังนั้นลิงค์จึงสามารถให้เงินกับเขาเพื่อเป็นการชดเชยได้

 

 

ในตอนนี้ ลิงค์ได้ถูกชั้นหนังสือทั้งสองฝั่งของห้องดึงดูดความสนใจไปหทดแล้ว เขาเดินไปตรวจสอบพวกมันอย่างระมัดระวัง เพื่อยืนยันว่าไม่มีกับดักเวทมนตร์ที่อันตรายแล้ว จากนั้นเขาก็เริ่มเปิดอ่านหนังสือโบราณ

 

หนังสือทุกเล่มนั้นถูกเขียนด้วยภาษาไฮเอลฟ์โบราณ ลิงค์ไม่สามารถอ่านมันได้ แต่ก็ต้องขอบคุณระบบเกมที่ได้แปลมาให้เขาเสร็จสรรพ ในตอนที่เขามอง ภาษาธรรมดาจะปรากฏขึ้นบนทัศนวิสัยของเขาดังนั้นเขาจึงสามารถเข้าใจมันได้ทั้งหมด

 

มีหนังสือเวทมนตร์ทั้งหมดประมาณ 2,000 เล่ม ลิงค์มองไปที่พวกมันทั้งหมดทีละเล่มและพบว่ามีหลายเล่มที่ได้รับความเสียหาย มีแค่ 10% เท่านั้นที่ยังอยู่ในสภาพดี โดยไม่นับหนังสือรวมบทกลอนและเรื่องอื่นๆ ในนั้นมีหนังสือเวทมนตร์ที่มีค่าจริงๆแค่ 20 เล่มเท่านั้น และพวกมันส่วนใหญ่ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน

 

ในที่สุด เขาก็พบกล่องที่ทำด้วยแร่เอเธอเนียมที่มีผนึกเวทมนตร์นิรันดร์ฝังไว้อยู่บนชั้นหนังสือที่ เขาคิดว่ามีของดีๆอยู่ข้างในนี้

 

หลังจากลองเปิดดู เขาก็พบหนังสือเวทมนตร์ปกแข็ง มันดูหนักและชื่อของมันก็ตรงมากๆ-การสร้างเครื่องราง

 

ลิงค์รู้สึกดีใจมากๆ เขาเอามันออกมาเปิดดู และได้พบชุดเวทมนตร์การสร้างเครื่องรางฉบับแบบสมบูรณ์ มันมีตั้งแต่แบบเริ่มต้นไปจนถึงเวทย์ระดับสูง

 

หนังสือเล่มนี้มีค่ามาก ไม่แปลกใจเลยที่มันจะถูกเก็บเอาไว้ในกล่องแร่เอเธอเนียมที่สวยงามแบบนี้! เขาคิด

 

ในตอนที่เขากำลังจะเก็บกล่องเข้าไป เขาก็สังเกตเห็นว่ามีหนังสือเวทมนตร์อีกเล่มอยู่ที่ก้นกล่อง เล่มนี้บางกว่า และชื่อของมันก็ถูกเขียนด้วยลายมือ ซึ่งมันถูกแปลว่า ไร้พ่าย และผู้แต่งก็คือตัวเดอร์แรคเอง

 

ลิงค์เปิดดู และเขาก็เริ่มไล่ดูผ่าน แต่ว่าหลังจากที่ผ่านไป 1 นาที เขาก็เริ่มอ่านมันละเอียดยิ่งขึ้น จากนั้นเขาก็ยืนนิ่งและไม่ขยับไปไหน หนังสือเล่มนี้นั้นมีระดับสูงมากและมันก็คือการสำรวจทะเลแห่งความว่างเปล่า มันกล่าวถึงการดำรงอยู่ของเอกพจน์เป็นหลัก

 

 

แล้วอะไรคือเอกพจน์หล่ะ?

 

อ้างอิงจากในหนังสือ เอกพจน์ก็คือจุดๆหนึ่งของทะเลแห่งความว่างเปล่าซึ่งเป็นจุดที่กฎของธรรมชาติได้มารวมตัวกัน  ที่นั่นมีเอกพจน์จำนวนนับไม่ถ้วนและแต่ละเอกพจน์ก็มีพลังอันมหาศาลเก็บเอาไว้อยู่

 

เดอร์แรคไม่ได้เขียนแค่คำจำกัดความที่เกี่ยวกับเอกพจน์ในหนังสือเท่านั้น แต่เขายังพูดถึงรายละเอียดของมีดชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “จุดแตกหัก” ด้วย ซึ่งในหนังสือได้เขียนเอาไว้ว่า

 

“เอกพจน์นั้นมีตัวตนอยู่ แต่ว่าพวกมันไม่สามารถถูกควบคุมหรือรู้สึกถึงได้ ยังไงก็ตาม ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ในโลกนี้”

 

“ด้วยวิธีการบางอย่าง ผลิตภัณฑ์การเล่นแร่แปรธาตุที่ก่อขึ้นเป็นภาพโลหะชนิดพิเศษนั้นสามารถจับเอกพจน์ได้ แต่ก็แน่นอนว่า ทะเลแห่งความว่างเปล่านั้นกว้างขวางไม่มีที่สิ้นสุดและมีเอกพจน์อยู่เพียงน้อยนิด โอกาสที่จะจับมันได้ซักอันจึงมีน้อยมากๆ จนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ถึงกระนั้น ข้าก็ได้รับพรจากพระเจ้าและโชคดีที่จับมันมาได้อันนึง และหล่อมันขึ้นมาเป็นมีดภาพโลหะ”

 

“ข้าเรียกมีดเล่มนี้ว่า ‘จุดแตกหัก’ ซึ่งหมายความว่า ‘การประหาร’ ”

 

“ภาพโลหะนั้นแข็งเกินกว่าที่จะทำให้เป็นรูปร่างได้ ดังนั้น ข้าจึงบังคับให้มันมีรูปร่างสวยงามตามความต้องการของเผ่าข้าไม่ได้และสร้างมันขึ้นมาแบบเรียบมากๆ มีดนี้มีสีเงินของเหล็กและไม่มีลวดลายอะไรทั้งนั้น ถ้าเกิดว่าเจ้าเจอมันอยู่บนถนน ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงจะคิดว่ามันคือมีดเหล็กธรรมดา…. แต่อันที่จริงแล้ว มีดจุดแตกหักนั้นเป็นมีดที่คมที่สุดในโลก มันสามารถตัดทุกอย่างที่อยู่ในโลกฟิรุแมนได้ หมายเหตุ ข้าหมายถึงทุกอย่างจริงๆนะ!”

 

 

พออ่านมาถึงจุดนี้ หัวใจของลิงค์ก็สั่นระรัว เขาหยิบกล่องขึ้นมาและเห็นสิ่งเล็กๆที่อยู่ที่ก้นกล่อง มันคือมีดหยาบๆ ที่มีความยาวไม่ถึง 20 เซนติเมตร และมีสีเงินของเหล็ก นอนอยู่ก้นกล่องอย่างเงียบๆ

 

มีคำภาษาไฮเอลฟ์เขียนเอาไว้ที่ตัวมีดสี่คำ มันอ่านว่า “มีดจุดแตกหัก ผู้ไม่มีวันถูกหยุด”

 

ลิงค์หยิบมันด้วยความระมัดระวังและลองเอามันขูดเข้ากับกล่องเอเธอเนียม ด้วยเสียงเบาๆ มีเศษเหล็กกระเด็นออกจากกล่อง ทั้งกระบวนการนั้นง่ายเหมือนกับหั่นเต้าหู้

 

ลิงค์มองไปที่ดาบจ้าวพายุที่เขามักจะพกไปไหนมาไหนด้วยเสมอ และวิญญาณดาบก็ได้ตะโกนในจิตใจของเขาทันที “ถ้าเกิดว่าเจ้าลองมันกับข้าหล่ะก็ ข้าจะทำให้เจ้าตายไปพร้อมกับข้าเลย!”

 

มันสามารถตัดทุกอย่างได้จริงๆสินะ? ลิงค์คิดด้วยความตกใจ ตอนแรกเขามองมีดด้วยความสงสัยและคิดว่าเดอร์แรคพูดเกินจริง เมื่อเห็นการตอบสนองของวิญญาณดาบเจ้าพายุแล้ว เขาก็เชื่อมั่นอย่างเต็มที่

 

มันมีเอกพจน์อยู่ในนี้ มันน่ากลัว น่ากลัวมากๆ ดาบจ้าวพายุอธิบาย อย่าว่าแต่สิ่งของในโลกฟิรุแมนเลย ข้าคิดว่ามันสามารถตัดได้แม้กระทั่งอาวุธระดับพระเจ้าออกจากทะเลแห่งความว่างเปล่า

 

เมื่อได้ยินถึงสิ่งนี้ ลิงค์ก็ถึงกับตกใจ เขาศึกษามีดอย่างระมัดระวัง เขายังรู้สึกไม่เชื่ออยู่ เขาเอาแท่งอาร์คาไนท์ออกมา ซึ่งมันมีความหนายิ่งกว่าเอเธอเนียมและบางทีมันอาจจะเป็นโลหะที่แข็งที่สุดแล้ว

 

ด้วยการหั่นเบาๆ อาร์คาไนท์ก็แตกออกเป็นสองซีก ด้วยการหั่นอีกครั้ง ชั้นของโลหะก็ม้วนงอออกมาในขณะที่มีดจุดแตกหักนั้นยังคงไม่เป็นอะไรเลย

 

ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันสามารถตัดของแข็งทุกอย่างได้ แล้วถ้าเป็นวัตถุเสมือนหล่ะ?

 

ลิงค์โยนลูกแก้วมิติ-เวลาออกมาและรักษามันเอาไว้ให้มีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร จากนั้นเขาก็หยิบมีดมาแทงมันเบาๆ ในตอนที่มีดแตะลูกแก้วมิติ-เวลา มันมีการต่อต้านเล็กน้อย ลิงค์จึงออกแรงมากขึ้นและแทงมันทะลุลูกแก้ว

 

มันเป็นรอยขีดเล็กๆ และลูกแก้วก็ถูกแบ่งครึ่งโดยไม่มีเสียง มันเกิดขึ้นเร็วมากจนลิงค์แทบไม่สามารถประมวลผลได้

 

มันสามารถตัดได้แม้กระทั่งวัตถุเสมือนเลยหรอ? ถ้างั้นที่เดอร์แรคบอกว่าทุกอย่างนี่ คือเขาหมายความว่าทุกอย่างจริงๆสินะ? ลิงค์รู้แล้วว่าเขาได้เจอสมบัติที่มีค่ามากที่สุดในโลก!

 

สมบัติชิ้นนี้ไม่เคยปรากฏขึ้นในเกม ลิงค์ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันมีตัวตนอยู่

 

โดยที่ไม่พูดอะไร ลิงค์ก็เก็บมีดกลับเข้าไปในกล่องเอเธอเนียม รวมทั้งหนังสือด้วย จากนั้นเขาก็เตรียมเก็บมันเข้าไปในจี้ต่างมิติของเขา

 

และในตอนนั้นเองเขาก็รู้สึกได้ว่ามันล้มเหลว กล่องเอเธอเนียมไม่ยอมเข้าไปในจี้ต่างมิติ…เขาคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะมีด ดังนั้นเขาจึงเอามันออกมาและผูกมันเอาไว้ที่ขาของเขา จากนั้นเขาก็เก็บกล่องเอเธอเนียมเข้าไป

 

ในที่สุด เขาก็เริ่มตรวจสอบหนังสือเล่มอื่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ครั้งนี้ เขาเร็วกว่าเดิม 10 นาทีต่อมา เขาก็เก็บหนังสือที่มีประโยชน์ทั้งหมด

 

ในที่สุดตอนนี้เขาก็ใจเย็นลงแล้ว มันเป็นสมบัติจริงๆ แต่ว่ามันก็ไม่ได้ไร้พ่ายเพราะมันเป็นแค่มีด มันสามารถตัดได้ทุกอย่างก็จริง แต่มันก็ต้องไปถึงสิ่งนั้นให้ก่อน แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นมันก็ยังช่วยให้ฉันคิดวิธีการที่น่ากลัวได้อยู่ดี!

 

พอคิดได้อย่างนี้ ลิงค์ก็รู้สึกว่าเขาควรสร้างเวทย์ที่เข้ากับพลังของมีดนี้!

 

ฉันจะเริ่มคิดในตอนที่ฉันมีเวลา! ลิงค์ตื่นเต้นมาก

 

ในระหว่างนี้ เฟลิน่าก็ได้เก็บอุปกรณ์เวทมนตร์ทั้งหมดที่อยู่ในห้องแล้ว มอริแกนไม่ได้ช่วยอะไรเลยเขาทำได้แค่ยืนอยู่ข้างๆ

 

ลิงค์พยายามจะซ่อนความตื่นเต้นของเขา แต่เขาทำไม่ได้ ในที่สุดเขาก็พูดกับเฟลิน่าอย่างกระตือรือร้น “ลองเดาดูสิว่าฉันเจออะไร? ฉันเจอหนังสือเวทมนตร์และอุปกรณ์เวทมนตร์บางอย่างหล่ะ ขอเวลาฉันสร้างเครื่องรางขึ้นมาใหม่สักพักนะ และเมื่อถึงเวลานั้น ฉันจะสามารถลดราคาของอุปกรณ์เวทมนตร์ทั้งหมดลงไปได้ถึง 1 ใน 5 ของที่เป็นอยู่ตอนนี้เลย…และไม่ต้องห่วงนะ เฟลิน่า ฉันจะแบ่งปันเวทย์สร้างเครื่องรางให้กับเผ่ามังกรด้วย”

 

จริงๆแล้ว ความดีใจของเขานั้นมาจากมีดจุดแตกหัก แต่ว่าลิงค์รู้ว่าถ้าเขาเปิดเผยเรื่องสมบัตินี้ มันก็จะเกิดการทะเลาะครั้งใหญ่ขึ้น ดังนั้นเขาจึงเก็บเงียบเอาไว้

 

เฟลิน่าไม่รู้ถึงเรื่องนั้น เมื่อเห็นว่าลิงค์ดีใจจนแทบบ้า เธอก็ดีใจไปด้วย

 

ในใจของเธอ ลิงค์นั้นแตกต่างจากมอริแกน ลิงค์ไม่ต้องการเงิน ดังนั้นถ้าเขาพูดว่าเขาจะเอามันกลับไปวิจัย เขาก็จะทำแบบนั้นจริงๆ ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการดูหมิ่นศาสนา แต่ว่าเขาก็จะสามารถฟื้นฟูความรู้จากอดีตได้ ซึ่งมันดีกว่าพวกโจรที่ปล้นสุสานเพื่อเงินเป็น 100 เท่าเลย

 

เธอยิ้ม มีตีนกาขึ้นที่ดวงตาของเธอ “ข้ามั่นใจว่าองค์ราชินีจะต้องดีใจมากแน่ๆเมื่อท่านได้รู้ข่าวนี้ ไม่ต้องห่วงลิงค์ องค์ราชินีจะไม่ให้เจ้าทำงานฟรีๆแน่”

 

มีแค่มอริแกนเท่านั้นที่ถอนหายใจอย่างสลด เขาไม่ได้อะไรเลยในครั้งนี้  แต่โดยที่ไม่คาดคิด ลิงค์ก็หยิบคัมภีร์ออกมา เขาเขียนคำภีร์ต่อหน้ามอริแกน และเมื่อเขาเขียนเสร็จ เขาก็เอามันให้มอริแกนดู หลังจากที่เขาดูเนื้อหาของมัน ลิงค์ก็ผนึกมันด้วยผนึกเวทมนตร์ของเขาและยื่นมันให้กับมอริแกน

 

 

“คุณมอริแกน คุณเป็นคนสำคัญมากที่ช่วยให้ผมได้มาพบกับสมบัติที่ดีมากๆในครั้งนี้ เอาม้วนคัมภีร์นี้กลับไปที่ดินแดนของผมและยื่นมันให้กับผู้อำนวยการ ลูซี่ เธอจะให้เงินกับคุณ 8,000 เหรียญทองเป็นค่าตอบแทน ถ้าเกิดว่าคุณเจอสถานที่ที่มีสมบัติอีก คุณสามารถมาหาผมได้เสมอนะ”

 

มอริแกนนั้นตื่นเต้นตั้งแต่ตอนที่เขาได้อ่านจดหมายนี้แล้ว เขารู้ว่าลิงค์ไม่ได้โกหกเพราะเขาได้เห็นมันด้วยตาของตัวเองแล้ว “มอริแกนเพื่อนของฉัน ได้ช่วยเหลือฉันเอาไว้มาก ฉันให้เงินรางวัลกับคุณมอริแกนเป็นเงิน 8,000 เหรียญทองในฐานะลอร์ด ซึ่งเรื่องนี้จะต้องไม่มีความล่าช้า”

 

ในฐานะนักเวทย์เลเวล 4 เงินพวกนี้คือโชคลาภของเขา เพราะความสามารถของเขา มอริแกนจึงสามารถทำเงินได้แค่ 6,000 เหรียญทองต่อปีด้วยการปล้นสุสานเท่านั้น แต่ตอนนี้ ลิงค์ได้ให้เงินเขาถึง 8,000 เหรียญทอง ซึ่งมันมากกว่าที่เขาคาดเอาไว้ซะอีก

 

เขานั้นไม่ใช่คนยุ่งยาก ดังนั้นเขาจึงยิ้มให้ในทันทีที่ได้รับจดหมาย “มาสเตอร์ลิงค์ ท่านช่างมีเมตตาจริงๆ ได้โปรดวางใจได้เลยครับ ข้า, มอริแกน, ได้เดินทางไปทั่วแผ่นดินใหญ่เพื่อไฝ่หาการผจญภัย ถ้าเกิดว่าข้าเจอโบราณสถานอีกในอนาคต ข้าจะแจ้งให้ท่านทราบอย่างแน่นอน”

 

นี่มันสมบูรณ์แบบ

 

หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มหาประตูลับ

 

จริงๆแล้วมันไม่ได้ยากเลย ครึ่งชั่วโมงต่อมา ลิงค์ก็เจอสัญลักษณ์เวทมนตร์ที่ซ่อนอยู่บนกำแพงข้างๆกับบัลลังค์ หลังจากที่เปิดใช้งานมัน ทางเดินยาวก็ปรากฏขึ้น ทั้งกลุ่มเดินไปอย่างระมัดระวัง หลังจากเดินไปได้ประมาณ 650 ฟุต แสงก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้า หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที พวกเขาก็ออกมาจากถ้ำได้

 

 

พวกเขายังคงอยู่ในเทือกเขาโคโรราโด้ แต่ว่ามันไม่มีป่าอยู่ด้านหน้าพวกเขาอีกแล้ว กลับกันมันคือยอดหน้าผาสูงกว่า 1,000 ฟุต วิวตรงนี้กว้างมาก พวกเขาสามารถเห็นทุกอย่างได้ในระยะหลายไมล์

 

 

มันไม่มีทางที่จะลงจากหน้าผาได้ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่นักเวทย์กับมังกรแดงเฟลิน่าจะทำไม่ได้

 

“งั้นข้าขอตัวก่อนนะ” มอริแกนอดใจรอที่จะกลับไปแลกเงินที่ดินแดนของลิงค์ไม่ไหวแล้ว เขาร่ายเวทย์ลอยใส่ตัวเองและกระโดดลงจากหน้าผาไป

 

ในขณะที่มองไปที่หลังของเขา เฟลิน่าก็เอ่ยปากออกมา “ฮึ ไอโจรปล้นสุสาน!”

 

ลิงค์ยิ้มและส่ายหัวของเขา “มอริแกนเป็นคนฉลาดและมีความสามารถมาก เขาเป็นนักธรรมชาติวิทยานะ”

 

“ช่างเถอะ” เฟลิน่ายักไหล่ เธอได้เห็นทักษะการติดตามและความใส่ใจของมอริแกนแล้ว และเธอก็เคยพบกับนักธรรมชาติวิทยามาก่อน เธอจึงไม่สามารถปฏิเสธคำพูดของลิงค์ได้

 

“ไปกันเถอะ”ลิงค์พูด

 

เฟลิน่าพยักหน้า เธอแปลงร่างเป็นมังกรและพาลิงค์กับนานะไปทางหุบเขามังกร

 

หลังจากบินไปได้นานกว่า 1 ชั่วโมง ลิงค์ก็เห็นหมอกสีขาว เฟลิน่าบินเข้าไปในนั้นโดยไม่ลังเลและบินอยู่กว่า 10 นาทีก่อนที่หมอกจะหายไป เขาเห็นภาพชัดขึ้นในทันที และภาพของหุบเขาอันใหญ่โตก็ได้ปรากฏขึ้น

 

เขาไม่สามารถดูได้ว่าหุบเขาแห่งนี้ไปจบที่ตรงไหน คำว่า “ใหญ่โต”นั้นยังไม่พอที่จะเอามาอธิบาย มีมังกรจำนวนมากบินอยู่บนท้องฟ้า และมีป่ากว้างสุดลูกหูลูกตาที่ด้านล่างของพวกเขา ที่ด้านหน้าพวกเขานั้นคือภูเขารูปแหวน มันสูงมากๆ สูงกว่า2ไมล์ และมีหิมะปกคลุมอยู่ที่ยอดของมัน

 

 

หุบเขามังกรนั้นใหญ่กว่าที่ลิงค์เคยเห็นมาก่อนในเกมหลายเท่าตัว!

 

“ที่อยู่ข้างหน้านั่นคือภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของหุบเขามังกร” เฟลิน่าอธิบายด้วยความภูมิใจ “เจ้าเห็นกลุ่มสิ่งปลูกสร้างตรงนั้นไหม? นั่นคือวิหารมังกร พวกเราจะไปที่นั่นกัน”

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset