Advent of the Archmage – ตอนที่ 307: หลบหนี (2)

หมู่บ้านใบสนอยู่ใกล้แค่เอื้อม

 

“ไม่ต้องเข้าไปในหมู่บ้านนะ อ้อมไปข้างๆเถอะ” ลิงค์พูด เขาต้องรีบกลับไปที่หมู่บ้านห้วยไม้และเข้าไปในวิหารมังกรให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

“รับทราบค่ะ” นานะปรับทิศทางของเธอแล้วเข้าไปในป่าที่อยู่ข้างหมู่บ้าน

 

หลังจากนั้นซักพัก ลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงออร่าเวทมนตร์อันคุ้นเคยอยู่ตรงหน้าของเขา “เดี๋ยวก่อน น่าจะมีคนที่ฉันรู้จักอยู่แถวนี้นะ…นี่มันเอลินนี่! แถมเฟลิน่าก็มาด้วย! นานะ ไปทางนั้นซะ”

 

ทั้งสองกลุ่มอยู่ภายในป่าและห่างกันไม่ถึง 100 ฟุต พวกเขาเจอกันอย่างรวดเร็ว

 

นอกเหนือจาก 2 คนที่ลิงค์รู้จักแล้ว ยังมีอีกคนนึงที่นอนอยู่ที่พื้น คนๆนี้ตายไปแล้วพร้อมกับมีฟองสีดำอยู่ที่ปากของเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะตายด้วยพิษแบบเดียวกันกับนักรบมังกรที่ลิงค์เจอ

 

จากนั้นลิงค์ก็ได้กระโดดลงจากหลังของนานะและถามด้วยความโล่งใจ “เอลิน เฟลิน่า พวกเธอสองคนมาที่นี่ทำไม?”

 

ดูเหมือนว่าผู้หญิงทั้งสองคนก็ดีใจที่ได้เจอเขาเช่นกัน เอลินชี้ไปที่ศพที่อยู่ที่พื้นและพูด “พวกเราตามเธอมาจนถึงที่นี่ เธอฆ่ามังกรทั่วไปที่อยู่ในคณะละครสัตว์ แต่ว่า, หลังจากที่พวกเราจัดการเธอได้ เธอก็ฆ่าตัวตาย”

 

จากนั้นเฟลิน่าก็ถาม “เจ้าเจอตัวคนบงการรึยัง?”

 

ลิงค์พยักหน้าพร้อมกับพูด “ไม่ใช่แค่เจอเท่านั้นนะ ฉันยังเจอหลักฐานที่เป็นรูปธรรมอีกด้วย แต่ช่างก่อนเถอะ, พวกเราอยู่ที่นี่นานๆไม่ได้นะ ตอนนี้พวกมันรู้ตัวแล้วและก็กำลังมีคนไล่ตามฉันมาอยู่ พวกเราจะต้องรีบกลับไปเดี๋ยวนี้เลย”

 

เมื่อได้ยินคำพูดพวกนี้ ผู้หญิงทั้งสองคนก็แลกเปลี่ยนสายตากันและพยักหน้า

 

เฟลิน่าแปลงร่างเป็นมังกรในทันที เธอนั้นมีความยาวประมาณ 27 ฟุตและสูง 13 ฟุต ซึ่งนี่ถือว่าเป็นขนาดใหญ่พิเศษเมื่อเทียบกับมังกรทั่วไป จากนั้นเธอก็พูด “ปีนขึ้นมาสิ ข้าจะพาพวกเจ้ากลับเอง ข้ามั่นใจเลยว่าพวกผู้อาวุโสในวิหารมังกรคงไม่กล้าทำตัวอวดดีแน่หลังจากที่เจ้าแสดงหลักฐานให้พวกเขาดู”

 

ความเร็วในการเดินทางของมังกรนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูกได้เลย พวกเขายังอยู่ห่างจากวิหารมังกรประมาณ 30 ไมล์ ยังไงก็ตาม ด้วยความเร็วของเฟลิน่า เธอจะสามารถไปถึงที่หมายได้ในเวลาไม่ถึง 10 นาที

 

ลิงค์ปีนขึ้นหลังของเฟลิน่าในทันทีและพูด “เร็วเข้า เอลิน”

 

“โหว ตัวใหญ่ชะมัด” เอลินอุทานในตอนที่เธอปีนขึ้นมาบนร่างกายอันใหญ่โตของเฟลิน่าด้วยความช่วยเหลือของนานะ

 

ยังไงก็ตาม ในตอนที่เธอกำลังจะทำอย่างงั้น เธอก็ร้องออกมาก่อนที่จะเอามือกุมหัวด้วยความหวาดกลัว และยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

 

“เกิดอะไรขึ้น?” เฟลิน่าตกใจและหันกลับมาในทันที เธอคิดว่าหนามบนปีกอันใหญ่โตของเธอไปโดนเอลินเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

ดวงตาของเอลินเบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวในขณะที่ตัวสั่น จากนั้นเธอก็พึมพำออกมา “ข้ารู้สึกได้ถึงอันตราย อันตรายร้ายแรง! มีคนตัวใหญ่ ตัวใหญ่มากๆ และเขาก็มีปีกสีแดงเลือดอันใหญ่โตที่บดบังดวงอาทิตย์ กำลังบินมาทางพวกเรา โอ้พระเจ้า พวกเราเอาชนะเขาไม่ได้แน่!”

 

ในตอนที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เฟลิน่ายังสับสนอยู่ แต่อีกด้านหนึ่ง ลิงค์เองก็รู้สึกกลัวพร้อมกับพูดออกมา “เร็วเข้า! พวกเราจะต้องไปแล้ว! นานะ เธอไม่ต้องขึ้นมา คอยตามพวกเราจากพื้นดินซะ”

 

นานะจะมีความเร็วในตอนที่เธอเดินทางคนเดียวบนภาคพื้นดินสูงกว่าตอนที่เธอเกาะบนหลังของเฟลิน่า

 

เฟลิน่าบินขึ้นไปในทันทีก่อนที่จะถาม “ลิงค์ คนบงการที่ว่านี่เป็นใครกันหรอ?”

 

“เขาคือดยุคโอชีริส…”

 

ก่อนที่ลิงค์จะพูดจบประโยค เขาก็รู้สึกได้ว่าอยู่ๆร่างกายของเฟลิน่าก็กระตุกขึ้นมา จากนั้นเธอก็ตัวสั่น “ปะ..เป็นได้ยังไงกัน? ทำไมเขาถึงทำแบบนี้หล่ะ? นี่มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย”

 

มีดยุคระดับสูงอยู่ 3 คนในเผ่ามังกร ซึ่งพวกเขาทุกคนนั้นต่างก็ถูกพิจารณาว่าเป็นสามีของราชินีมังกรแดง ซึ่งทั้งสามคนนี้มีชื่อว่า อิเซนดิลัน, โอชีริสและดาโวซัส

 

แม้ว่าอิเซนดิลันจะทรยศชนเผ่ามังกรแดงไปแล้ว แต่ดยุคอีก 2 คนนั้นยังคงได้รับความไว้วางใจและมีชื่อเสียงที่ดีอยู่, โดยเฉพาะโอชีริส เขาเป็นที่โปรดปรานขององค์ราชินี-แล้วทำไมเขาถึงมาก่ออาชญากรรมที่ชั่วร้ายแบบนี้ได้หล่ะ?

 

“ถ้าแม้แต่เธอยังไม่รู้ แล้วฉันจะไปเข้าใจสถานการณ์ได้ยังไงหล่ะ? แต่ถึงยังไง, ฉันก็เจอจดหมายหลายฉบับเลย  บางทีแรงจูงใจที่แท้จริงของเขาอาจจะอยู่ในนั้นก็ได้นะ” ลิงค์พูด

 

ในตอนนั้นเอง ลิงค์ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างแปลกไป เขาหันหลังไปมองและเห็นแสงสีแดงอ่อนๆที่เส้นขอบฟ้า และเมื่อเวลาผ่านไป แสงสีแดงนั้นก็ค่อยๆเข้มขึ้นเรื่อยๆ

 

“เขาตามมาแล้ว!” ลิงค์รู้สึกตัวสั่นในตอนที่เขาถาม “เฟลิน่า โอชีริสแข็งแกร่งแค่ไหนหรอ?”

 

“เขามีเลเวล 9 และเขาเหลือแค่อีกก้าวเดียวก็ไปถึงระดับตำนานแล้ว” เฟลิน่าพูด ด้วยความที่เฟลิน่ากับโอชีริสเป็นเผ่ามังกร เธอจึงสามารถสัมผัสถึงพลังอันน่ากลัวที่กำลังไล่ตามเธอมาได้อย่างชัดเจน

 

เธอคิดอยู่พักนึงก่อนที่จะลงพื้นโดยไม่ลังเล จากนั้นเธอก็อธิบายในระหว่างที่เธอกำลังร่อนลง “เขาเร็วกว่าข้าถึง 3 เท่าและเขาก็อยู่ห่างจากพวกเราแค่ 3 ไมล์เท่านั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเราจะบินกลับไปยังวิหารมังกรโดยสวัสดิภาพ พวกเราต้องหาวิธีอื่น”

 

นี่คือเรื่องจริง ลิงค์พยักหน้าเป็นการเห็นด้วยในตอนที่เขาพูด “ฉันมีคัมภีร์ข้ามภพอยู่ มันสามารถพาพวกเราไปยังภพวิญญาณพร้อมกับร่างกายของพวกเราได้ พวกเราไปซ่อนที่นั่นเพื่อถ่วงเวลาดีมั้ย?”

 

เฟลิน่าได้ลงมาถึงพื้นแล้ว เธอส่ายหัวและพูด “ข้าเองก็ไม่แน่ใจนะ โอชีริสแข็งแกร่งมากๆ พลังของเขานั้นเกินกว่าที่จะจินตนาการได้”

 

เอลินพูด “ข้าเกรงว่าวิธีไม่น่าจะได้ผลนะ ข้าเห็นมังกรที่แข็งแกร่งหลายคนเข้าออกภพวิญญาณได้อย่างง่ายดายในตอนที่ข้าอยู่ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นถ้าเขากำลังจะก้าวเข้าสู่ระดับตำนานหล่ะก็ โอชีริสจะต้องมีพลังนั้นด้วยอย่างแน่นอน”

 

“งั้นก็เหลือแค่วิธีสุดท้ายสินะ ฉันยังคงเหลือมานาเยอะอยู่พอสมควร มันน่าจะพอสำหรับการใช้เวทย์ข้ามมิติได้ 6 ครั้ง…”

 

เฟลิน่าพูดขัดลิงค์ในทันที “ไม่ แบบนั้นมันไม่ปลอดภัยแน่ๆ แถมข้าก็ถูกเจอตัวแล้ว ดังนั้นเอาแบบนี้ดีกว่า พวกเราจะแยกกันไปคนละทาง ในขณะที่เขากำลังไล่ตามร่างกายอันใหญ่โตของข้า พวกเจ้าทั้งสองก็หาทางกลับไปยังวิหารมังกรซะ”

 

“แต่ว่าเธออาจจะตายก็ได้นะ!” เอลินตะโกน

 

“ข้าเป็นนักรบ! ชะตากรรมของข้าคือการตายในสนามรบ!” เฟลิน่าหัวเราะในตอนที่เธอพูด จากนั้นเธอก็ส่งลิงค์กับเอลินลงพื้นก่อนที่เธอจะบินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง

 

ซึ่งเธอไม่ได้บินขึ้นไปบนฟ้าเฉยๆ แต่เธอยังปล่อยพลังงานออกมาอย่างมหาศาลด้วย เธอปกคลุมตัวเองด้วยแสงสีแดงเพลิงในขณะที่เธอคำรามออกมาเสียงดังสนั่น

 

เสียงร้องนั้นสั่นสะเทือนไปทั่วหุบเขามังกร ทำให้พวกสัตว์ป่าพากันไปหาที่ซ่อนด้วยความหวาดกลัว

 

ลิงค์เข้าใจความตั้งใจของเฟลิน่าในทันที สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ถ้าเฟลิน่าทำสิ่งที่รุนแรงแบบนี้ มันจะต้องดึงความสนใจของมังกรที่อยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างแน่นอน ด้วยวิธีนี้ ต่อให้เฟลิน่าไม่สามารถดึงความสนใจของโอชีริสได้ โอซีริสก็จะเหลือเวลาในการไล่ตามพวกเขาน้อยลง

 

โอชีริสจะต้องจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนที่มังกรจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์จะมาถึง และยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาก็ใช้เวลาไม่นานในการมาถึงที่นี่ด้วย

 

เอลินร้องออกมาในทันทีพร้อมกับมีน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มของเธอ เธอตะโกน “ข้าเพิ่งจะเริ่มชอบเธอเอง แต่ตอนนี้เธอกำลังจะไปตายเนี่ยนะ!”

 

ลิงค์เองก็รู้สึกไม่ดีเอามากๆเช่นกัน เขาหายใจเข้าลึกๆเพื่อตั้งสมาธิก่อนที่จะพูด “ใจเย็นสิ พวกเราต้องรอดกลับไปให้ได้นะ นี่เป็นหนทางเดียวที่เราจะชดใช้ให้กับการเสียสละของเฟลิน่าได้!”

 

ในตอนที่เขาพูดจบ ลิงค์ก็ร่ายเวทย์ไร้ร่องรอยใส่พวกเขาทั้งสองก่อนที่จะหยิบจดหมายลับออกมาจากจี้ต่างมิติ จากนั้นเขาก็เอามันใส่เอาไว้ในผ้าคลุม จี้ต่างมิตินั้นไม่ใช่อุปกรณ์ที่เสถียร ถ้าเกิดว่าลิงค์ไปต่อสู้กับคนที่มีเลเวล 8 หรือ 9 จี้ต่างมิติอาจจะพังได้ เขานั้นไม่สามารถปล่อยให้จดหมายที่สำคัญพวกนี้หายไปได้

 

หลังจากจัดการทั้งหมด ลิงค์ก็หันไปพูดกับนานะ “พาพวกเราออกไปจากที่นี่ซะ”

 

นานะแบกลิงค์ขึ้นหลังอีกครั้งและอุ้มเอลินเอาไว้บนไหล่ของเธอ จากนั้นเธอก็พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุด แม้ว่าการแบกคนสองคนจะลดความเร็วของเธอลงไปอย่างมาก แต่เธอก็ยังคงเดินทางได้ด้วยความเร็ว 270 ฟุตต่อวินาที ซึ่งระยะทาง 30 ไมล์นั้นน่าจะใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 10 นาที

 

ไม่ถึงครึ่งนาทีหลังจากที่พวกเขาวิ่ง เงายักษ์ก็บินผ่านพวกเขาไป เพื่อปกปิดร่างกายอันใหญ่โตของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะบินต่ำ หลังจากนั้น ก็มีเสียงของโซนิคบูมดังขึ้น นั่นหมายความว่าเงายักษ์นั้นบินด้วยความเร็วที่ไวกว่าเสียง

 

ด้านหลังของเขา แสงสีแดงได้ยืดออกไปเป็นระยะ 600 ฟุต ร่างกายของเขาเองก็ถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงหนา 6 ฟุต จากระยะไกลๆ, เขานั้นดูเหมือนกับดาวหางเพลิงที่กำลังพุ่งผ่านท้องฟ้าเลย

 

“พลังนี้มันช่างน่ากลัวจริงๆ!” เอลินอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

 

โชคดีที่ ดูเหมือนว่าเขาจะถูกเฟลิน่าดึงความสนใจเอาไว้ได้และกำลังพุ่งไปหาเธอ เขาไม่ได้สังเกตุเห็นลิงค์ เอลิน แล้วก็นานะ, ที่กำลังแอบเดินทางอยู่บนพื้นเลย

 

ลิงค์ถอนหายใจพร้อมกับรู้สึกเสียใจ ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนี้ต่อไป เฟลิน่าจะต้องตายอย่างแน่นอน

 

ซึ่งมันก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจริง, ไม่ถึงครึ่งนาทีต่อมาหลังจากที่เงายักษ์บินผ่านไป ออร่าของเฟลิน่าก็หายไป

 

เอลินกระซิบ “เธอถูกฆ่าแล้วหรอ?”

 

ลิงค์ตกอยู่ในความเงียบ เฟลิน่านั้นเป็นนักรบเลเวล 7 ในขณะที่ดยุคเป็นนักรบเลเวล 9 พลังของพวกเขาไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันได้ ซึ่งลิงค์ก็หาเหตุผลที่เฟลิน่าจะรอดไม่เจอเลย

 

น้ำตาเริ่มไหลลงมาอาบหน้าของเอลิน

 

ลิงค์เองก็รู้สึกเสียใจมากเหมือนกัน ยังไงก็ตาม เขานั้นยังคงใจเย็นอยู่และคำนวนออกมาอย่างรวดเร็ว “ดยุคเดินทางด้วยความเร็ว 1,350 ฟุตต่อวินาที ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์นั้นจะต้องมีคนที่มีความเร็วพอๆกับเขาอยู่ด้วยอย่างแน่นอน ถ้าเกิดว่ามังกรจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์สังเกตุเห็นท่าทางผิดปกติของเฟลิน่าและส่งทีมสืบสวนออกมา….ผนวกกับพิจารณาถึงความจริงที่พวกเราอยู่ห่างออกไป 30 ไมล์…พวกเขาจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 นาทีในการมาถึงที่นี่ ด้วยการหลอกล่อของเฟลิน่า เวลาได้ผ่านไปครึ่งนาทีแล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าดยุคมีเวลาอีก 1 นาทีครึ่งในการจัดการ”

 

ลิงค์รู้สึกว่าพวกเขายังคงมีโอกาสอยู่ ในความเป็นจริง ดยุคนั่นแหล่ะคือฝ่ายที่ตกที่นั่งลำบาก

 

“นานะ หยุดอยู่ตรงนี้” ลิงค์สั่ง

 

นานะจะต้องขยับร่างกายอย่างมากในขณะที่เธอวิ่ง ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาถูกพบได้อย่างง่ายดายแม้ว่าพวกเขาจะใช้เวทย์ไร้ร่องรอยอยู่ก็ตาม แต่ถึงยังไง, พวกเขาแค่ต้องอยู่รอดให้ได้เป็นเวลา 1 นาทีครึ่งก่อนที่กำลังเสริมจะมาถึงก็พอแล้ว

 

นานะหยุดเคลื่อนที่ในทันที

 

จากนั้นลิงค์ก็กระโดดลงจากหลังของเธอและพึมพำออกมา “ใช้ 700 แต้มโอมนิเพิ่มค่ามานาสูงสุด”

 

มานาสูงสุดของเขาคือ 8,500 แต้ม และมานาที่มีอยู่ในตอนนี้ก็คือ 6,000 แต้ม เขามีค่าโอมนิอยู่ 860 แต้ม และหลังจากที่ใช้ไปแล้ว 700 แต้ม มานาสูงสุดของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็น 13,000 แต้ม

 

มานาสูงสุดนี้เท่ากับของนักเวทย์เลเวล 9 และที่สำคัญกว่านั้นด้วยความช่วยเหลือของปริมาณมานาอันมากมายนี้  ลิงค์จะสามารถเพิ่มระดับของเวทย์มิติได้เป็นอย่างมาก

 

ค่าโอมนิส่งผล และลิงค์ก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังอันมหาศาลที่ไหลเข้ามาในตัวเขา 3 วินาทีต่อมา ข้อความก็ปรากฏขึ้นที่ทัศนวิสัยของเขา

 

เพิ่มมานาสูงสุดเสร็จสิ้น

 

ลิงค์ใช้เวลาพักนึงในการรับคลื่นมานาอันมหาศาลเข้ามาในร่างกายของเขาก่อนที่จะเริ่มร่ายเวทย์มิติ

 

ลิงค์นั้นได้ร่ายเวทย์มิติขนาดใหญ่แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน เวทย์นี้มีความกว้างมากกว่า 300 ฟุตและสูงกว่า 150 ฟุต ทั่วทั้งมิติที่ลิงค์ควบคุมนั้นซับซ้อนขึ้นอย่างมาก มิตินี้ได้ถูกผนึกด้วยวังวนไม่รู้จบและเต็มไปด้วยกับดักมิติเวลาและมิติบิดเบี้ยว มันมีอาณาเขตที่จำกัดในพื้นที่แห่งนี้

 

ซึ่งลิงค์ได้ใช้เวลาไป 5 วินาทีในการทำขั้นตอนทั้งหมดนี้ และพอเตรียมการเสร็จเขาก็พาเอลินกับนานะไปที่ห้วงมิติลับที่อยู่ใต้ต้นไม้

 

10 วินาทีต่อมา ดยุดก็มาถึง

 

พรึบๆ! เขากระพือปีกและค่อยๆลดระดับลงมาก่อนที่จะถึงพื้น

 

มีคน 2 คนอยู่ข้างเขา คนแรกคือเฟลิน่าที่ร่างกายโชคไปด้วยเลือด แขนขาของเธอหักไม่เหลือชิ้นดี และเกราะของเธอก็แตกไม่เหลือซาก ยังไงก็ตาม ดูเหมือนว่าเธอจะยังมีลมหายใจอยู่ ซึ่งหลักฐานก็คือการที่หน้าอกของเธอยังขยับอยู่ ส่วนอีกคนก็คือคนที่สวมผ้าคลุมสีดำและมีใบหน้าที่ซีดเผือด เธอคือนักเวทย์มังกรโอริซ่า

 

“นายท่าน โปรดระวังด้วยนะคะ มิติบริเวณนี้ดูชอบมาพากลยังไงก็ไม่รู้” ดูเหมือนว่าโอริซ่าจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง

 

“หืมม” โอชีริส ลดหัวของเขาลงมาสังเกตบริเวณรอบๆ จากนั้นเขาก็พูดขึ้น “นี่มันก็แค่กลยุทธ์พื้นๆ โอริซ่า ข้าต้องการให้เจ้ารีบจัดการมันให้เสร็จโดยเร็ว”

 

ใบหน้าของโอริซ่าแดงขึ้นในทันทีที่เธอพูดขอโทษ “ท่านดยุค คือว่ามัน…”

 

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากช่วยนายของเธอ แต่ว่า, ในฐานะนักเวทมนตร์ธาตุแล้ว มันไม่มีทางที่เธอจะลบล้างเวทย์มิติได้เลย!

 

“ถ้างั้นก็ลืมมันไปซะ เดี๋ยวข้าจัดการ” โอซีริสไม่ได้ตกใจเลย แม้ว่าเขาจะไม่ได้วิจัยเวทย์มิติ แต่เขาก็รู้กฎสากล

 

เวทย์ทุกอย่างนั้นต้องใช้มานาในการขับเคลื่อน และที่สำคัญก็คือ ทุกอย่างนั้นจะพ่ายแพ้ให้กับพลังต่อสู้ และนั่นก็คือสิ่งที่เขาไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน

 

เขาก็แค่ต้องใช้พละกำลังทำลายกับดักและเทคนิคทั้งหมดที่อยู่ในมิตินี้ซะ

 

เขาสะบัดกรงเล็บของเขาเบาๆเพื่อโยนเฟลิน่าไปทางโอริซ่า จากนั้นเขาก็พูด “ข้าจะลองทำลายเจ้าสิ่งนี้ดู ถ้าข้าทำไม่สำเร็จภายในครึ่งนาที เจ้าฆ่าผู้หญิงคนนี้ได้เลย”

 

เขามีความภาคภูมิใจในพละกำลังของเขา ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่ได้รังเกียจที่จะใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการบรรลุเป้าหมายเช่นกัน

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset