Advent of the Archmage – ตอนที่ 310: ราชินีจะเข้าสู่ด้านมืดหรือเปล่านะ?

วิหารมังกรนั้นมีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก-มันยิ่งใหญ่ ทุกอย่างดูใหญ่ไปหมด อย่างเช่นทางเดินที่มังกรแดงอาวุโส, เพทตาลองกำลังนำทางให้ลิงค์อยู่นั้น มันมีความกว้าง 300 ฟุต มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังเดินอยู่ใจกลางจตุรัสของเมืองที่ว่างเปล่าเลย

 

หลังจากเดินกับผู้อาวุโสเพทตาลองอยู่พักนึง ลิงค์กับเอลินก็รู้สึกตัวว่าพวกเขากำลังเดินไปทางด้านหลังของวิหารศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน และพวกเขาก็รู้สึกไม่ดี

 

ครั้งล่าสุดที่พวกเขาเห็นราชินีก็คือจัตุรัสกว้างที่อยู่ด้านหลังวิหารศักดิ์สิทธิ์ และตอนนี้ เธอก็กำลังจะพบกับแขกที่นั่น ซึ่งนี่หมายความว่าราชินีมังกรแดงนั้นอ่อนแอมากๆและไม่สามารถขยับตัวได้

 

สถานการณ์นั้นเลวร้ายมาก

 

หลังจากเดินไปได้ 5-6 นาที ทางเดินก็สิ้นสุด ซุ้มประตูสูง 150 ฟุตปรากฏขึ้น มีนักรบสูง 30 ฟุตยืนอยู่ที่ทั้งสองฝั่งของทางเข้า

 

พวกเขาถือดาบเล่มยักษ์และแต่งตัวด้วยชุดเกราะสีแดงเข้ม มีเพียงแค่ดวงตาสีเงินเท่านั้นที่เผยให้เห็น ออร่าของพวกเขาดูลึกลับและคลุมเคลือ ในตอนที่พวกเชามองลงมา มันจะรู้สึกได้ถึงความกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้

 

ลิงค์จำลักษณะของนักรบเหล่านี้ได้  พวกเขามีชื่อว่าการ์ดมังกรแห่งวันสิ้นโลก ในตอนนี้พวกเขามีเลเวล 8 แต่หลังจากนี้ ในตอนที่ความหนาแน่นของมานาเพิ่มขึ้น  พวกเขาทุกคนจะก้าวเข้าสู่ระดับตำนานและมีพลังต่อสู้อันน่าหวาดกลัว

 

ก่อนหน้านี้ ในตอนที่การ์ดมังกรแห่งวันสิ้นโลกปรากฏตัวขึ้นที่สนามรบนั้นพวกเขาเหมือนกับรถศึกแห่งวันสิ้นโลก ใครก็ตามที่พยายามขวางทางพวกเขาจะต้องตาย มีเพียงแค่ เขาทมิฬ, ปีศาจระดับสูงที่มีลักษณะทางกายภาพใกล้เคียงกันเท่านั้น ที่สามารถหยุดพวกเขาได้

 

และที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขามีกันอย่างน้อย 100 คนในวิหารมังกรแห่งนี้ เห็นได้ชัดว่า ชนเผ่ามังกรนั้นเป็นชนเผ่าในตำนานอย่างแท้จริง

 

พอถูกนักรบเหล่านี้จ้องมอง เอลินก็ตัวสั่นเหมือนกับลูกนกตัวเล็กๆ เธอรีบเดิน และตามลิงค์ไปโดยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง

 

ที่ทางเข้า เพททาลองหยุดเดิน “ช่วงนี้องค์ราชินีรู้สึกไม่ค่อยสบายเท่าไหร่” เขาพูดเบาๆ “เพื่อไม่ให้สุขภาพของพระองค์แย่ลงไปกว่านี้ ในตอนที่เจ้ารายงานความจริงให้องค์ราชินีฟังก็คอยระวังสิ่งที่เจ้าจะพูดด้วยหล่ะ เข้าใจใช่ไหม?”

 

ลิงค์กับเอลินแลกเปลี่ยนสายตากัน ราชินีมังกรแดงนั้นมีพลังระดับตำนาน แต่ตอนนี้เธออยู่ในสภาพที่ความรู้สึกของเธออาจจะมีผลต่อร่างกายได้ สถานการณ์นั้นย่ำแย่ขนาดไหนกันเนี่ย?

 

สายตาของเพทตาลองนั้นเฉียบคมมาก ลิงค์ทำได้แค่พยักหน้าเท่านั้น “พวกเราจะพยายามระมัดระวังเรื่องความรู้สึกขององค์ราชินีอย่างเต็มที่ครับ”

 

“ถ้างั้นก็ดี ตามข้ามา” มังกรอาวุโสนำทางพวกเขาต่อ

 

ทั้งกลุ่มเดินผ่านซุ้มประตูเข้าไปและเห็นจตุรัสที่มีความกว้างกว่า 1,000 ฟุต ที่ตรงกลางนั้นมีราชินีมังกรนอนเหยียดอยู่อย่างเงียบๆ

 

ฉากนี้แทบจะเหมือนกับในภพวิญญาณเลย ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวก็คือลูกบอลสีดำที่เป็นตราช่างแห่งสมดุลนั้นหายไป บางทีพวกมังกรอาจจะปิดบังมันเอาไว้

 

ที่ข้างๆราชินีนั้นมีมังกรอยู่ประมาณ 30 คน พวกเขาทุกคนสูงกว่า 60 ฟุต และคนที่อ่อนแอที่สุดก็มีเลเวลถึง 8 แล้ว พวกเขาทุกคนต่างก็ส่งคลื่นพลังสีแดงเข้าไปในตัวของราชินี

 

หัวของราชินีนั้นตกลงมาที่พื้นอย่างรุนแรง ดวงตาสีทองเปิดออกแค่ครึ่งเดียว เมื่อเธอเห็นกลุ่มของลิงค์ เสียงอันอ่อนโยนก็ดังขึ้นไปทั่วทุกแห่ง “ขอโทษด้วย, สหายของข้า ข้ามีปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นข้าจึงต้อนรับพวกเจ้าได้ด้วยท่าทีแบบนี้เพียงเท่านั้น”

 

ปากของเธอไม่ได้ขยับในตอนที่พูด, เธอกำลังพูดด้วยเวทมนตร์ ถึงแม้ว่าเธอจะอ่อนแอลงไปมาก แต่ความสง่างามของเธอก็ยังคงทำให้หายใจแทบไม่ออก

 

เอลินไม่กล้าหายใจดัง เธอเดินขึ้นมา, ทำความเคารพอย่างจริงจัง และพูดอย่างแผ่วเบา “เอลิน นักเวทย์แห่งเผ่ายับบ้า ขอถวายบังคมพะยะค่ะ”

 

การสังเกตุการณ์จากระยะไกลในภพวิญญาณนั้นก็ส่วนนึง แต่การได้พบราชินีมังกรแดงตัวจริงมันแตกต่างออกไป สำหรับเอลิน ราชินีนั้นเหมือนกับภูเขาในขณะที่เธอเป็นแค่กระต่ายตัวเล็กๆ

 

เธอรู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาล และเสียงของเธอก็เบาลงมากในตอนที่พูด เอลินนั้นได้กลายเป็นกุลสตรีแห่งเผ่ายับบ้าไปแล้ว เธอไม่ใช่คนเกรี้ยวกราดและขี้หัวร้อนเหมือนอย่างตอนที่อยู่โรงแรมมังกรราตรี

 

ในอีกด้านนึง ลิงค์นั้นเคยเห็นราชินีมังกรแดงมาหลายครั้งแล้วในชีวิตเก่าของเขา ดังนั้นสีหน้าของเขาจึงยังเป็นปกติ เขาทำความเคารพและถวายบังคมให้กับเธอตามธรรมเนียม “องค์ราชินี”

 

ราชินีมังกรแดงจ้องมาที่ลิงค์และพูดต่อ “ข้าได้ยินมาว่า พวกเจ้าไปสืบสวนดยุคโอชีริสมาเมื่อเร็วๆนี้ ได้ผลลัพธ์อะไรมาบ้างหล่ะ?”

 

“แน่นอนขอรับ” ลิงค์ตอบ จากนั้นเขาก็เห็นเพทตาลองจ้องมาที่เขาเป็นการเตือน ซึ่งมันได้สื่อกับเขาว่าให้ระมัดระวังเทคนิคการพูดของเขาด้วย นี่มันน่าหงุดหงิดมาก เขาต้องบอกความจริง และทางเดียวก็คือการบอกจุดประสงค์ไปตรงๆ มันจะไปมีวิธีไหนอีกหล่ะ?

 

เขาตัดสินใจที่จะไม่สนใจการเตือนของเพทตาลอง  ลิงค์ก้าวไปข้างหน้าและเอาจดหมายจากโต๊ะของโอชีริสออกมา เขาใช้มือแห่งนักเวทย์เปิดมันออกกลางอากาศ เมื่อเทียบกับร่างกายของราชินี ม้วนจดหมายนั้นเล็กมากๆ ส่วนตัวอักษรก็เล็กยิ่งกว่า ยังไงก็ตาม ลิงค์รู้ว่าราชินีสามารถอ่านมันได้

 

ราชินีมีสมาธิกับจดหมาย เธอค่อยๆอ่านมัน เธอไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรเลย ในระหว่างนี้ ลิงค์เองก็อ่านจดหมายไปด้วย และมังกรอาวุโสที่อยู่ข้างๆก็เช่นกัน มังกรนั้นมีสายตาที่ดีมากๆ พวกเขาสามารถมองระยะไกลได้ถึง 100 กว่าฟุต

 

เนื้อหาในจดหมายนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นสิ่งที่อิเซนดิลันเขียนให้โอซีริสหลังจากที่เขาถูกขับไล่ออกจากหุบเขามังกร ซึ่งเนื้อหาก็ง่ายมาก เขาเร่งเร้าให้โอชีริสทำร้ายราชินี และเพื่อเป็นการตอบแทน เขาจะให้หัวใจแห่งดรามอสกับโอชีริส

 

“ดรามอส” เป็นคำศัพท์ของภาษามังกร มันมีความหมายว่า “ตำนาน” หรือ “ศักดิ์สิทธิ์” ในภาษาที่ใช้กันทั่วไป มันคือหัวใจแห่งตำนาน มันสามารถช่วยให้โอชีริสก้าวเข้าสู่ระดับตำนานได้

 

ในบรรดาจดหมายพวกนี้ยังมีจดหมายของโอชีริสที่ยังเขียนไม่เสร็จด้วย มันเห็นได้ชัดจากจดหมายว่าเขาทำภารกิจที่อิเซนดิลันให้มาสำเร็จแล้วและต้องการของตอบแทน

 

ทั่วทั้งจัตุรัสตกอยู่ในความเงียบหลังจากที่พวกเขาอ่านจดหมายเสร็จ ลิงค์เองก็ไม่พูดอะไรเช่นกัน เขาวางกระดาษลงกับพื้น ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ข้อความก็ปรากฏขึ้นในทัศนวิสัยของเขา มันเกี่ยวกับภารกิจ

 

ภารกิจเปิดโปงเสร็จสิ้น สำเร็จชุดภารกิจ

ผู้เล่นได้รับเครื่องลางคลื่นเวทมนตร์ (เสริมพลัง)

 

มีแสงสว่างเกิดขึ้นในทัศนวิสัยของลิงค์ และอัญมณีสีม่วง 6 แฉกก็ปรากฏขึ้น มันส่องแสงและไปหยุดอยู่ตรงที่มุมขวาล่างของทัศนวิสัยของเขา พร้อมกับมีคำอธิบายเขียนอยู่ด้านล่าง

 

ลิงค์ไม่มีเวลามาสนใจของรางวัลชิ้นนี้ เขากำลังรอการตอบสนองของราชินีมังกรแดงอยู่

 

ในตอนนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของราชินีแปลกไป ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนอกจากดวงตาสีทองอันใหญ่โตของเธอ หยาดน้ำตาใสๆก่อรูปขึ้นและไหลลงมา

 

ในตอนที่น้ำตาหยดลงมาที่พื้น มันก็แตกออกไปทุกทิศทางและมันก็เริ่มแข็งตัวกลายเป็นไข่มุก พวกมันไหลออกไปทุกทิศทาง; และมีชิ้นนึงไหลมาที่เท้าของลิงค์

 

เขาหันซ้ายหันขวา และเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจ เขาก็แอบเก็บ “ไขมุก” ที่มีขนาดเท่ากับกำปั้นเด็กขึ้นมา เขามองไปที่มันและค่าสถานะของมันก็ปรากฏขึ้นที่ทัศนวิสัยของเขา

 

น้ำตามังกรแดง

คุณภาพ: อีพิค

ผล: น้ำตามังกรสามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างของสิ่งมีชีวิตได้ มันจะทำให้พวกเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมานามากขึ้น น้ำตาของราชินีนั้นมีผลมากที่สุดและเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “เมล็ดพันธุ์แห่งตำนาน”

(หมายเหตุ: ไม่มีใครสามารถพบเจอของชิ้นนี้ได้โดยบังเอิญ)

 

การทรยศของอิเซนดิลันกับโอชีริสนั้นสร้างความเจ็บปวดให้กับหัวใจของราชินีอย่างแท้จริง แต่ลิงค์ไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องรักๆใคร่ๆพวกนี้ เขาแค่รู้สึกดีใจอย่างเงียบๆที่ได้รับหยาดน้ำตาชิ้นนี้  แต่ก็แน่นอนว่า, เขาไม่สามารถเปิดเผยมันได้ ไม่อย่างนั้น เขาคงจะถูกมังกรทุกตัวรังเกียจ

 

หลังจากที่ผ่านไปพักใหญ่ๆ ราชินีก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง เสียงของเธอไม่ได้ใจเย็นเหมือนกับก่อนหน้านี้และมันก็ดูมีความสะอื้นเล็กน้อย “นี่ช่างเป็นข่าวร้ายจริงๆ มนุษย์ ขอบคุณที่ทำให้ข้าได้รู้ความจริงนะ ข้า-”

 

ก่อนที่เธอจะพูดจบ ก็มีมังกรหนุ่มพุ่งเข้ามาผ่านซุ้มประตู เขารีบวิ่งเข้ามาที่นี่พร้อมกับหายใจหอบ

 

ผู้อาวุโสเพทตาลองตำหนิเขาในทันที “โอโระ ทำไมเจ้าถึงทำตัวแบบนี้? มารยาทของเจ้าหายไปไหน?”

 

มังกรหนุ่มที่ถูกถามคำถามกำลังพยายามหายใจ เขาดูหวาดกลัว “มีเรื่องที่เลวร้ายมากๆเกิดขึ้นแล้วครับ ดยุคโอชีริสกับดยุคดาโวซัสตายแล้ว  พะ…พวกเขาทั้งคู่ตายแล้วครับ!”

 

“อะไรนะ?!” มังกรทุกคนพูดขึ้นมาพร้อมกัน

 

ลิงค์กับเอลินมองหน้ากัน นี่มันน่าเหลือเชื่อ และพวกเขาทั้งคู่ต่างก็คิดไม่ถึงว่าเรื่องมันจะไปไกลถึงระดับนี้ ไม่ใช่ว่ามังกรเป็นที่รู้จักกันในเรื่องพลังชีวิตอันมหาศาลงั้นเหรอ? แล้วทำไมดยุคทั้งสองที่มีพลังถึงเลเวล 9 ถึงตายได้ล่ะ?

 

พวกมังกรทุกคนที่อยู่ในจตุรัสต่างก็ตกใจ

 

โอชีริสกับดาโวซัสนั้นเป็นเสาหลักของเผ่ามังกร พวกเขาเป็นอัจฉริยะและมีความสามารถที่จะก้าวไปสู่ระดับตำนานได้

 

การทรยศของโอชีริสนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว แต่ตอนนี้ดาโวซัสกลับมาตายไปด้วยเนี่ยนะ? แถมเขายังตายพร้อมกับโอชีริสอีกต่างหาก นี่มันหายนะชัดๆ!

 

นั่นหมายความว่าดยุคทั้ง3ของมังกรแดงนั้นได้ตายไป2คน และอีกคนก็ทรยศ พละกำลังของมังกรแดงนั้นลดลงไปอย่างน้อยถึง30%เลยทีเดียว!

 

ราชินีมังกรแดงก็สูญเสียความเยือกเย็นไปในที่สุด น้ำเสียงของเธอสั่นในตอนที่พูด “อธิบายมาให้ละเอียดซิ เกิดอะไรขึ้นกัน?”

 

เมื่อเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ เพทตาลองก็ส่งสายตาให้มังกรหนุ่มเป็นการบอกว่าให้สนใจความรู้สึกของราชินีด้วย ยังไงก็ตาม มังกรหนุ่มนั้นก็ตื่นตระหนกมากเช่นกัน เขาไม่ได้สนใจคำเตือนของเพทตาลองเลยด้วยซ้ำ

 

“ในตอนที่พวกเราเจอพวกเขา พวกเขาอยู่ที่ชายแดนของหุบเขามังกรครับ” เขาพูดอย่างลุกลี้ลุกลน “คอของดยุคโอซีริสถูกดยุคดาโวซัสหัก แต่เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บหนักเหมือนกัน อวัยวะภายในของเขาถูกระเบิดเลยหมดเลย…มันคือการต่อสู้ถึงชีวิตครับ”

 

เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ราชินีก็เริ่มขยับ เธอดันตัวเองขึ้นมาด้วยกรงเล็บหน้าของเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “ทำไมพวกเขาถึงทำอย่างนั้นหล่ะ? ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นได้? ทำไมพวกเขาถึงทรยศข้า?”

 

“องค์ราชินี นี่เป็นความผิดของอิเซนดิลัน ได้โปรดใส่ใจสุขภาพของท่านด้วย!” เพทตาลองให้คำแนะนำอย่างเป็นกังวล

 

ราชินีไม่ได้สนใจเขาเลย “ข้าปฏิบัติกับอิเซนดิลันและโอชีริสอย่างจริงใจ” เธอพึมพำ “โอชีริส ข้าเตรียมตัวที่จะเลือกท่านแล้วนะ ทำไมท่านถึงทำอย่างนี้หล่ะ? ทำไมกัน?”

 

“องค์ราชินี องค์ราชินี?” เพทตาลองพยายามจะปลอบราชินี

 

เธอชักหัวของเธอกลับ และราชินีมังกรแดงก็แผดเสียงคำรามออกมาครั้งใหญ่ มันเต็มไปด้วยความเศร้าและความโกรธ ภายใต้ผลของความเศร้าและความสิ้นหวังอย่างสมบูรณ์นี้ อารมณ์ของเธอรุนแรงมากจนแม้แต่คนนอกอย่างลิงค์กับเอลินก็ยังสามารถรู้สึกถึงมันได้อย่างชัดเจน

 

ในระหว่างที่คำราม ปีกของราชินีก็กางออกอย่างกระทันหัน มันกระพืออย่างหนักหน่วง และด้วยสายลมอันรุนแรง เธอก็บินเฉียงขึ้นไป

 

แต่ว่าบนฟ้าขึ้นไป 100 กว่าฟุตนั้น มีตาข่ายแสงสีดำปรากฏขึ้นบนจัตุรัส มันรัดราชินีเหมือนกับใยแมงมุม ดึงให้เธอลงมา เธอพยายามดื้นรนแต่มันก็เปล่าประโยชน์

 

ด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น เธอก็ตกลงมาที่พื้นอย่างน่าสงสาร จากนั้นเธอก็นอนโดยไม่ขยับอีกเลย ดวงตาของเธอนั้นว่างเปล่าราวกับว่าเธอได้ตายไปแล้ว

 

และที่น่ากลัวกว่านั้นก็คือ เส้นพลังแห่งความมืดได้เลื้อยผ่านลำตัวสีแดงเข้มของเธอ มันกัดกินร่างกายของเธอด้วยความเร็วที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

 

เพทตาลองตื่นตกใจ “พวกเจ้ารออะไรอยู่หล่ะ?” เขาตะโกน “ช่วยราชินีขจัดพลังแห่งความมืดสิ! ไอพวกบ้าเอ้ย เร็วเข้า!”

 

เขาพุ่งไปข้างหน้าและส่งพลังที่มีทั้งหมดไปให้ราชินีมังกรแดง มังกรคนอื่นก็ทำแบบเดียวกัน แต่มันก็ทำได้แค่ลดความเร็วในการกัดกร่อนลงเท่านั้น

 

ดูเหมือนว่าราชินีจะตัดใจยอมแพ้ไปแล้ว สติและพลังในตำนานของเธอหายไป ในตอนนี้เธอเหมือนกับมังกรทั่วไปเลย

 

ดูเหมือนว่าการถูกกลืนกินของราชินีนั้นจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้ว

Advent of the Archmage

Advent of the Archmage

Type: Author: , ,
เรื่องย่อ ลิงค์เป็นอาร์จเมจที่เก่งที่สุดในทุกๆเซิร์ฟเวอร์ เขาเพิ่งจะโค้นล้มบอสที่แข็งแกร่งที่สุด,เจ้าแห่งความลึก โนโซม่า ด้วยปาร์ตี้ของเขา อย่างไรก็ตาม,แทนที่เขาจะกลับไปที่เมื่อง เขากลับถูกส่งตัวไปที่พื้นที่ลับด้วยพิกเซลCG มันให้ความรู้สึกเหมือนกับสูญญากาศ และภายในนั้นก็ได้มีเสียงที่ยิ่งใหญ่และมากด้วยอำนาจที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้าแห่งแสงสว่างดังขึ้น “ลิงค์ เจ้าเต็มใจที่จะเป็นผู้ช่วยชีวิตที่จะดึงโลกแห่งฟิรูแมนออกจากความปั่นป่วนไหม?” ภารกิจที่ยิ่งใหญ่นี้มันอะไรกัน! ถ้ามันเป็นโลกจริง ลิงค์ คงจะปฏิเสธไปในทันที อย่างไรก็ตามเขาก็มีความแน่วแน่ที่จะเป็นฮีโร่ในเกมส์ “จัดไปเลย!” ลิงค์ ตอบอย่างมั่นใจ “ถ้างั้นก็ขอให้เจ้าโชคดี” และนั่นจะเป็นการเริ่มต้นการเดินทางที่เต็มไปด้วย เวทย์มนตร์,มิตรภาพ,การทรยศ,ความรัก และความสิ้นหวังของ ลิงค์ ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปของฟิรุแมน Link was the top Archmage in the entire server. He had just defeated the strongest boss, the Lord of The Deep, Nozama with his party. However, instead of going back to town, he was transported to a secret location with pixelated CG. It sort of felt like a vacuum, and within it came a glorious and commanding voice that calls himself the God of Light. “Link, would you be willing to be the saviour who will pull the World of Firuman out from the churning abyss?” What a huge mission! If it was in the real world, Link would have rejected it immediately. However, he was bent on being the hero in game. “Bring it on!” Link answered confidently. “Then, best of luck.” And so began Link’s journey of magic, friendship, betrayal, love and despair in the ever changing World of Firuman.

Comment

Options

not work with dark mode
Reset